Home / รักโบราณ / มารดามือใหม่ของนางร้ายอันดับหนึ่ง / ตอนที่ ๘ เทพมังกรเห็นหัวไม่เห็นหาง

Share

ตอนที่ ๘ เทพมังกรเห็นหัวไม่เห็นหาง

last update Huling Na-update: 2025-01-15 13:45:24

"นายหญิงเจ้าคะ ท่านพ่อบ้านจวนเสิ่นมาขอพบเจ้าค่ะ" อาฉือเข้ามารายงานเมิ่งจิ่วซือในขณะที่หญิงสาวกำลังจับบุตรสาวแต่งตัวราวกับตุ๊กตา หวาหวาตัวน้อยที่ได้ยินเช่นนั้นดวงตาของนางก็เบิกกว้างราวกับดีใจ หว่านหว่านที่เห็นเข้าพอดีก็อดแปลกใจไม่ได้ เหตุใดเจ้าตัวเปี๊ยกต้องดีใจถึงเพียงนี้ด้วย หึ! ช่างน่าเอ็นดูนักราวกับฟังออกว่ามีคนมาหามารดา

"หวาหวารอแม่ก่อนนะลูก เดี๋ยวแม่จะรีบกลับมา" นางก้มลงหอมแก้มนุ่มทั้งสองข้าง เด็กน้อยทำท่าทีแกว่งมือโบกไปมาคล้ายจะบอกมารดาว่าไม่ต้องรีบ

"แอ้!"

"คุณหนูเหมือนฟังรู้ความเลยนะเจ้าคะ ฮิฮิ คุณหนูของอาเป่าเก่งที่สุดเลยเจ้าค่ะ" อาเป่าตัวน้อยที่มักจะเยินยอเจ้าเด็กตัวเปี๊ยกอยู่ทุกวัน หว่านหว่านเห็นเช่นนั้นก็คิดในใจว่าภายหน้าเจ้าตัวเปี๊ยกจะต้องกลายเป็นหัวโจกส่วนอาเป่าก็คือหนึ่งในลูกสมุนของนางอย่างแน่นอน

นางเดินออกจากห้องมายังห้องรับรองเพื่อพบกับท่านพ่อบ้านไห่ ชายชรามาพร้อมกับข้าวของมากมาย หญิงสาวได้แต่เลิกคิ้วสงสัย

"คารวะนายหญิง บ่าวมาเป็นตัวแทนนาย คุณชายใหญ่นำผ้ามามอบให้แก่นายหญิงกับคุณหนูน้อยขอรับ"

"มิใช่นายท่านผู้เฒ่าแต่เป็นคุณชายใหญ่ของพวกเจ้าอย่างนั้นหรือ?" ในที่สุดก็ยอมออกตัวมาแล้วสินะ แต่เดิมข้าวของรวมถึงบ้านหลังนี้นางก็คิดว่าคงจะเป็นเขาผู้นี้เสียมากกว่าหากแต่ทุกครั้งคนของเขาก็มักจะเรียกขานว่านายท่าน ทำให้คิดไปได้ว่าอาจจะเป็นนายท่านผู้เฒ่าเสิ่นแทนที่จะเป็นคุณชายใหญ่ผู้เป็นหลาน

"เอ่อ! ขอรับ"

"ท่านพ่อบ้านนำของเหล่านี้กลับไปเถิด ข้ารับน้ำใจจากคุณชายของพวกเจ้าไม่ไหว เพียงเท่านี้ก็นับว่ามากแล้ว อีกอย่างข้านับว่าไม่ได้ขาดสิ่งใดไม่จำเป็นต้องลำบากคุณชายใหญ่ให้ช่วยจัดหามาให้ แม้ว่าเราทั้งสองจะนับว่าเคยมีบุญคุณต่อกันหากแต่พวกท่านก็ได้ช่วยชีวิตเราสองแม่ลูกไว้แล้ว บุญคุณครั้งนี้ย่อมถือว่าลบล้างไม่จำเป็นต้องช่วยเหลือดูแลสิ่งใดอีก"

"แต่ว่า..." ไห่ลู่เอ่ยสิ่งใดไม่ออก ตลอดหลายเดือนมานี้คุณชายของเขาให้บ่าวเช่นเขานำข้าวของมามอบให้แก่นายหญิงเมิ่งไม่เคยขาด แต่ส่วนใหญ่มักจะเป็นของเล่นเด็กทำให้เมิ่งจิ่วซือไม่ได้ปฏิเสธ ก่อนจะรับไปอย่างไม่คิดมาก แต่หากข้าวของสิ่งใดที่คล้ายจะมอบให้นางด้วยหญิงสาวก็มักจะปฏิเสธและให้นำกลับไป ครั้งนี้ก็เช่นเดียวกัน

"กล่าวตามตรง เทพมังกรเห็นหัวไม่เห็นหางเช่นคุณชายใหญ่ความหวังดีเช่นนี้ข้ารับไว้ไม่ไหวจริง ๆ หากท่านพ่อบ้านไม่มีสิ่งใดแล้ว เช่นนั้นข้าต้องขอตัวก่อนเพราะต้องดูแลบุตรสาวที่ยังเล็ก"

ไห่ลู่รู้สึกหน้าชาแทนคุณชายของเขาที่ถูกหญิงสาวก่นด่าว่าทำตัวลึกลับแอบแฝงผลประโยชน์เช่นนี้ หากแต่ก็พอเข้าใจได้ นางตัวคนเดียวทั้งยังมีบุตรที่ยังเล็ก สามีหรือก็ยังไม่ได้หย่าขาดแม้จะมาอยู่ที่นี่หากแต่ก็เป็นสตรีมีครอบครัวแล้ว หญิงสาวที่ดีย่อมไม่ทอดสะพานให้ชายอื่น

ชายชราได้แต่ถอนหายใจ เขาเองก็ลำบากใจทุกครั้งที่ต้องนำข้าวของมาส่งมอบให้เมิ่งจิ่วซือบ่อย ๆ ทำเช่นนี้จะไม่ทำให้หญิงสาวเข้าใจผิดได้อย่างไร แม้แต่ตัวเขาเองยังคิดเลยว่าคุณชายใหญ่ของตนนั้นแอบคิดสิ่งใดกับอีกฝ่ายเป็นแน่

เฮ้อ! สวรรค์หนอสวรรค์ คุณชายที่ไม่มีวี่แววว่าจะสนใจสตรีใดทั้งยังไม่คิดถูกอกถูกใจสตรีใดสักคน บทจะต้องตาต้องใจกลับเป็นสตรีต้องห้ามเสียอย่างนั้น

หว่านหว่านที่เห็นสีหน้าลำบากใจของชายชราก็พอเข้าใจได้ คุณชายใหญ่นี่ก็อย่างไรกัน หน้าตาเป็นเช่นไรก็ไม่เคยเห็น นิสัยใจคออย่างไรก็ไม่เคยรู้ ทำเช่นนี้มีจุดประสงค์ใดกันแน่

"ท่านพ่อบ้านจวนเสิ่นมาอีกแล้วหรือเจ้าคะ" เกาเจิ้งเอ่ยกับนายหญิงของตน หญิงสาวพยักหน้าช้า ๆ แต่ไม่ได้เอ่ยสิ่งใดต่อเป็นเกาหมัวมัวที่มีสีหน้าไม่ดีนัก

"เหตุใดคุณชายเสิ่นจึงไม่รู้ความเช่นนี้นะ อย่างไรนายหญิงก็ยังได้ชื่อว่าเป็นพระชายาเป่ยติ้งหรงอ๋อง จะแกล้งทำเป็นเกี้ยวไปเกี้ยวมาราวกับสตรีในห้องหอเช่นนี้ได้อย่างไรกัน"

"ใจคนยากแท้หยั่งถึง ข้าจะรู้ได้อย่างไรว่าเขามีจุดประสงค์ใดกันแน่หรืออาจจะหวังได้ครอบครองของวิเศษตระกูลเมิ่งอีกคนงั้นหรือ?" หญิงสาวเอ่ยอย่างเหนื่อยใจ บางครั้งนางก็อยากจะมีสหายอยู่บ้าง หากอีกฝ่ายจริงใจมากกว่านี้นางก็ไม่ได้ปิดกั้นตัวเอง เพียงแต่ในเมื่ออีกฝ่ายแกล้งทำเป็นเทพมังกรเห็นหัวไม่เห็นหาง เช่นนั้นนางก็คงจะต้องวางเขาเอาไว้ในจุดที่ต้องระวังภัยแล้ว คงจะคบหากันไม่ได้ง่าย ๆ อีก

"นายหญิงเจ้าคะ"

"ว่าอย่างไร?"

"ท่านคิดจะกลับไปหรือไม่?" เกาหมัวมัวอยากจะเอ่ยถามหญิงสาวหลายครั้งเพียงแต่ไม่มีโอกาส

"กลับไปที่ใดงั้นหรือ? จวนเป่ยติ้งหรงอ๋องน่ะหรือ? แล้วท่านคิดเห็นเช่นไรเล่า"

"บ่าวมิกล้าออกความเห็นเจ้าค่ะ" เกาเจิ้งแม้จะเป็นแม่นมของเมิ่งจิ่วซือมาตั้งแต่หญิงสาวยังแบเบาะหากแต่นางนั้นรู้ว่าสิ่งใดควรไม่ควรย่อมไม่เคยก้าวก่ายการตัดสินใจของเจ้านาย เพียงแต่ครั้งนี้หญิงชราอยากรู้มากจริง ๆ ว่านายหญิงจะตัดสินใจเช่นไร

"ข้าเองก็ยังไม่ตัดสินใจว่าจะทำเช่นไรต่อไป แต่เดิมที่นั่นก็เป็นดงเสือดงจระเข้ไม่เหมาะที่จะเลี้ยงดูเด็กเล็ก ๆ ทั้งยังไม่เหมาะที่จะใช้ชีวิตในบั้นปลาย ในส่วนของเรื่องสามีภรรยาข้ากับท่านอ๋องก็หาได้มีจิตใจเดียวกันเสียเมื่อไหร่ ที่นั่นไม่มีสิ่งใดให้อาลัยอาวรณ์แม้แต่น้อย แล้วเช่นนี้ข้าจะต้องกลับไปเพื่อสิ่งใดกันมิสู้เลี้ยงดูหวาหวาของข้าให้เติบใหญ่ไปเช่นนี้มิดีกว่าหรือ?"

"แต่ว่า..." หญิงสาวเห็นว่าอีกฝ่ายมีถ้อยคำจะเอ่ยแต่ติดตรงที่หญิงชราเดิมทีไม่กล้าก้าวก่าย จึงได้เอ่ยอนุญาต

"ท่านกล่าวมาเถิด"

"แต่ฐานะของท่านหญิงน้อย ภายหน้าหากท่านอ๋องได้ครองราชย์ท่านหญิงน้อยย่อมมีศักดิ์ฐานะเป็นองค์หญิงใหญ่ทำเช่นนี้จะดีหรือเจ้าคะ?" หญิงสาวเลิกคิ้วก่อนจะเอ่ยตอบ

"เกาหมัวมัว ทุกอย่างมันจะถูกต้องตามทำนองคลองธรรมก็ต่อเมื่อข้าและหวาหวาเป็นที่ยอมรับของสามีและในฐานะบิดา แต่ความจริงก็คือสิ่งที่เจ้าได้เห็นมาโดยตลอดมิใช่หรือ คนที่ไม่มีหัวใจดวงเดียวกันจะอยู่ร่วมกันได้อย่างไร ข้าไม่อยากใช้ชีวิตอยู่ร่วมกับบุรุษไร้หัวใจผู้นั้นหากว่าเจ้ากลัวเช่นนั้นพรุ่งนี้ก็ให้คนส่งหนังสือหย่าของข้าไปมอบให้แก่เขาเสียก็สิ้นเรื่อง ข้าเองก็จะได้เป็นอิสระ เขาเองก็จะได้ไม่ต้องส่งคนมาทำลับ ๆ ล่อ ๆ เช่นนี้อีก!" หว่านหว่านเริ่มรู้สึกว่าตนเองนั้นหมดความอดทน ตลอดหลายเดือนที่ผ่านมานางพยายามเรียนรู้ทุกอย่างของตระกูลเมิ่ง โชคดีนักที่ความสามารถของร่างเดิมยังใช้งานได้เป็นอย่างดี

ในส่วนคนของนางนั้นหญิงสาวได้รับการติดต่อตั้งแต่เดือนก่อน นางสั่งให้คนของนางรวบรวมกองกำลังเพิ่มเติมหาพื้นที่ว่างขนาดใหญ่เพื่อฝึกฝน โดยไม่ต้องห่วงค่าใช้จ่ายทั้งสิ้น มีเงินทองที่ใช้สอยได้อย่างไม่มีวันหมดจะต้องหวาดกลัวสิ่งใด เดิมทีเพียงแค่รายได้จากการค้าของตระกูลเมิ่งก็นับว่าใช้อย่างไรก็ไม่มีวันหมดแล้ว

ในกาลก่อนเมิ่งจิ่วซือคนเดิมไม่ต้องการเป็นที่จับตามองจึงไม่เคยได้หยิบเอาเงินทองของวิเศษออกมาใช้ เพียงเพราะเงินทองจากการค้าก็มากมายอยู่แล้ว แต่ในตอนนี้นางต้องการเพิ่มจำนวนคนของนางให้มากขึ้นเพื่อเป็นกองกำลังให้กับบุตรสาวในภายหน้า ส่วนคนที่สั่งการให้สังหารนางและบุตรสาวอย่างไรก็ต้องให้คนของนางสืบไปถึงต้นตอให้ได้ ตราบใดที่นางยังอยู่และคนผู้นั้นยังอยู่เรื่องเช่นนี้ย่อมต้องเกิดขึ้นอีกครั้ง

"ท่านจะส่งมอบหนังสือหย่าร้างให้ท่านอ๋องหรือเจ้าคะ?" หญิงชราที่ได้รู้ถึงความคิดของเมิ่งจิ่วซือก็ถึงกับเอามือทาบอกด้วยความตกใจ

"ทำไมหรือ? ไม่ได้หรือ?" เมิ่งจิ่วซือเอ่ยออกมาด้วยใบหน้าใสซื่อ ก็ไม่รักกันหย่ากันไปก็ถูกต้องแล้วไม่ใช่หรือ? เส้นทางต่อจากนี้ก็นับว่าแยกจากกันแล้วมีเหตุผลใดที่จะต้องกอดหนังสือสมรสไว้กับตัวเองด้วยเล่า

"โธ่! ทูนหัวของบ่าว จะได้อย่างไรเจ้าคะ จะได้อย่างไร มีสตรีที่ใดบ้างส่งมอบหนังสือหย่าให้กับสามีกัน"

"ก็ข้าอย่างไรเล่า! หมัวมัวท่านจะตกใจไปไย สามีที่ไม่ใช่สามี ภรรยาที่ไม่ใช่ภรรยา หย่าร้างกันไปต่างฝ่ายต่างเริ่มต้นชีวิตใหม่นับว่าเป็นความคิดที่เข้าท่า ท่านไม่เห็นด้วยหรอกหรือ"

คำกล่าวนี้หญิงสาวหวังให้คนของเขาเอาไปบอกกล่าวกับเขาเพื่อที่นางจะได้ไม่ต้องส่งมอบหนังสือหย่าแต่อาจจะเป็นเขาที่จะรีบส่งหนังสือหย่าร้างมาให้นางอย่างรวดเร็ว สามีที่ไม่นับว่าเป็นสามีเช่นเขามีก็เหมือนไม่มีเช่นนั้นก็ไม่ต้องมี ส่วนภรรยาที่ไม่ใช่ภรรยาเช่นนางย่อมต้องแต่งงานใหม่กับคนที่นางถูกใจ มีสามีแต่ไม่เคยได้ใช้งานแล้วจะให้นางไปซื้อตัวชายงามมาไว้ที่เรือนหรืออย่างไร แปลกคน ทำไมนางจะต้องทนครองตัวให้บริสุทธิ์ผุดผ่องด้วยเล่า

"โธ่ คุณหนูกล่าวเช่นนี้ไม่น่าฟังเลยนะเจ้าคะ" ในยามที่ตกใจหญิงชรามักจะกลับมาเรียกขานเมิ่งจิ่วซือว่าคุณหนูเสมอ ทำเอาหญิงสาวถึงกับกลั้นขำเมื่อมองเห็นสีหน้าซีดเผือดของหญิงชรา ก่อนจะถอนหายใจออกมาแล้วกล่าววาจาหน้าตายที่ทำเอาเกาหมัวมัวได้ยินแล้วถึงกับลมจับ

"มีสามีที่ไม่เคยได้ใช้งาน ย่อมต้องหย่าเสียให้เข็ด! หมัวมัวอย่าได้กังวล สามีใหม่ของข้าย่อมต้องเลือกสรรที่ดีที่สุด หล่อเหลาที่สุด และดีกับข้าและรั่วหวามากที่สุด หากว่าหาไม่ได้ชายงามบนแผ่นดินนี้ย่อมมีไม่น้อยนะเจ้าคะ ฮิฮิ"

"ทะ ท่าน คุณหนูท่านกล่าวเช่นนี้ได้อย่างไรเจ้าคะ เฮ้อ! บ่าวจะเป็นลม"

"อาฉือ! เจ้ารีบเข้ามาดูเกาหมัวมัวเร็วเข้า นางไม่ค่อยสบายรีบพานางไปพักผ่อนเสีย"

"เจ้าค่ะนายหญิง" อาฉือพาหญิงชราออกไปแล้ว หว่านหว่านก็อดขบขันไม่ได้ เกิดใหม่ทั้งทีย่อมต้องมีชีวิตที่ดีกว่าเดิมไม่ใช่หรือ มิใช่ว่าเพราะชีวิตก่อนนางมัวแต่จมอยู่กับงานไม่สนใจตนเองหรอกหรือชีวิตจึงได้มีแต่ความแห้งเหี่ยว ไม่มีแม้กระทั่งเพื่อนสนิท ไม่มีแม้กระทั่งคนรัก ชีวิตนี้นอกจากดูแลบุตรสาวให้เติบโตมาอย่างดีย่อมต้องรู้จักไขว่คว้าหาความสุขให้กับตนเองด้วยเช่นกัน

Patuloy na basahin ang aklat na ito nang libre
I-scan ang code upang i-download ang App

Pinakabagong kabanata

  • มารดามือใหม่ของนางร้ายอันดับหนึ่ง   ตอนที่ ๙๘ การช่วยชีวิตที่เสี่ยงอันตราย

    ทางด้านหรูเจิ้งหยวนและซิ่วจื่อหลิงก็เดินมาถึงตำหนักบรรทมของเสวียนอู่ฮ่องเต้โดยที่มีคนของเขาที่ปลอมเป็นขันทีอยู่ที่ตำหนักรอต้อนรับอยู่ ทั้งคู่เพียงส่งสัญญาณด้วยสายตาก็เป็นที่รับรู้ได้ในทันที ก่อนที่อีกฝ่ายจะแสร้งทำเป็นให้คนมาคอยควบคุมโดยรอบตำหนักในทันที ซึ่งคนเหล่านั้นก็ล้วนเป็นคนของหรูเจิ้งหยวนทั้งหมด ก่อนที่ตนจะเป็นผู้นำทางชายหนุ่มเข้าไปยังด้านในเสวียนอู่ฮ่องเต้ทรงบรรทมอยู่บนเตียงโดยที่ไม่รู้สึกตัวแม้แต่น้อย เป็นซิ่วจื่อหลิงที่เดินเข้าไปหยุดอยู่ที่หน้าเตียงก่อนที่จะหยิบเข็มเงินของนางออกมาจากห่อผ้าพร้อมกับจิ้มลงไปบนหน้าของของเขาแล้วค่อย ๆ ดึงออกมาแล้วพบว่าเข็มเงินของนางได้เปลี่ยนเป็นสีดำในเวลาต่อมา"จะ เจ้าเป็นผู้ใด" เสียงแหบแห้งของเสวียนอู่ฮ่องเต้ที่ในตอนแรกนอนนิ่งเป็นผักอยู่นั้นดังขึ้นเบา ๆ"เสด็จพ่อ... " หรูเจิ้งหยวนก้าวเข้ามาใกล้ ๆ เตียง และเมื่อเสวียนอู่ฮ่องเต้ได้เห็นหน้าโอรสของเขาอีกครั้งก็ได้แต่หลั่งน้ำตาออกมา"หยวนเอ๋อ...""เสด็จพ่อนางเป็นคนรักของลูกเอง องค์หญิงใหญ่ซิ่วจื่อหลิงที่ลูกเคยเล่าให้ท่านฟัง" เสวียนอู่ฮ่องเต้หันไปมองหน้าซิ่วจื่อหล

  • มารดามือใหม่ของนางร้ายอันดับหนึ่ง   ตอนที่ ๙๗ สาวใช้อัปลักษณ์

    หลายวันต่อมาซิ่วจื่อหลิงลุกขึ้นก่อนจะเปลี่ยนเสื้อผ้าที่นางได้เตรียมมาด้วย นางตั้งใจเอาไว้ตั้งแต่แรกว่าจะปลอมตัวเป็นสาวใช้ของหรูเจิ้งหยวน เมื่อตอนที่ยังเล็กมารดามักชอบเล่านิทานประโลมโลกให้นางกับน้องชายฟัง เคยมีเรื่องราวของคุณหนูผู้ร่ำรวยคนหนึ่งต้องการตามหารักแท้จึงได้ปลอมตัวเป็นสาวใช้หน้าตาอัปลักษณ์เข้าไปอยู่ในจวนท่านแม่ทัพผู้หนึ่ง นางเองก็อยากจะลองเล่นสนุกเช่นนั้นดูบ้าง ครั้งนี้ก็นับว่าได้มีโอกาสแล้วหญิงสาวลงทุนทาตัวด้วยยางไม้ชนิดหนึ่งเพื่อให้สีผิวที่ขาวนวลกลายเป็นสีน้ำตาลคล้ำ ก่อนที่จะทาไปบนใบหน้าและติดเม็ดไฝสักสองสามเม็ดบนหน้าของนางให้ดูสมจริงมากขึ้น เสื้อผ้าก็เปลี่ยนเป็นเสื้อผ้าของสาวใช้ สำเนียงที่พูดก็เปลี่ยนให้เหน่อเล็กน้อย เมื่อแต่งตัวเสร็จจึงได้เดินออกมาจากห้องในขณะที่ชายหนุ่มเองก็นั่งรออยู่เมื่อเห็นซิ่วจื่อหลิงที่ก้าวเข้ามาในห้องอย่างชัดเจน หรูเจิ้งหยวนที่กำลังยกชาขึ้นดื่มก็ถึงกับสำลักและไอออกมาเสียงดังแค่ก ! แค่ก ! แค่ก !"นี่ข้างามมากถึงเพียงนั้นเชียวหรือเจ้าคะ ?" ซิ่วจื่อหลิงเอ่ย

  • มารดามือใหม่ของนางร้ายอันดับหนึ่ง   ตอนที่ ๙๖ ชีวิตที่สอง

    หลังจากที่พูดคุยกันแล้วซิ่วจื่อหลิงก็ลงมือรักษาชายหนุ่มในทันที ฝีมือการรักษาพิษแม้ว่านางจะไม่เก่งกาจเท่ากับมารดาหากแต่เมื่อเทียบกับหมอหลวงโดยทั่วไปย่อมเหนือชั้นกว่า อีกอย่างนางมีของวิเศษและการมาในครั้งนี้ก็พาเจ้าจิ้งจอกน้อยมาด้วย ซิ่วจื่อหลิงนำเจ้าจิ้งจอกน้อยออกมาจากช่องว่างในมิติของวิเศษก่อนจะให้มันดูดซับพลังไม่ดีจากร่างกายเขา ก่อนที่นางจะลงมือฝังเข็มนับร้อยเล่มบนร่างกายของชายหนุ่มพิษที่ชายหนุ่มได้รับนั้นเป็นพิษของทางชนเผ่าหน้าด่านที่ไม่ค่อยพบเห็นมากนัก ทำให้หมอทั่วไปมิอาจรักษาได้ หากแต่ไม่ใช่กับวิชาเข็มพิฆาตพิษที่เป็นวิชาตกทอดมาจากท่านตาทวดของนางอย่างแน่นอนในยามที่ฝีเข็มถูกทิ่มแทงลึกลงไปใต้ชั้นผิวหนังเพียงไม่กี่อึดใจก็มีเลือดสีดำซึมออกมาในทุกรูขุมขนที

  • มารดามือใหม่ของนางร้ายอันดับหนึ่ง   ตอนที่ ๙๕ ขาดการติดต่อ

    ย้อนกลับไปเมื่อหลายเดือนก่อน"อาเป่า ช่วงนี้ไม่มีข่าวคราวเกี่ยวกับคุณชายเสิ่นส่งกลับมาบ้างเลยหรือ ?" ซิ่วจื่อหลิงเอ่ยกับนางกำนัลคนสนิท"ไม่มีเลยเพคะ จะว่าไปก็แปลกยิ่งนักเหตุใดจึงได้เงียบไปเช่นนี้""นั่นสิ แล้วข่าวเกี่ยวกับวังหลวงแคว้นหนานเฉินเล่า ?""ดูเหมือนว่าช่วงนี้จะคุกรุ่นอยู่ไม่น้อยเลยเพคะ"

  • มารดามือใหม่ของนางร้ายอันดับหนึ่ง   ตอนที่ ๙๔ อำนาจที่ต้องแลกมาด้วยเลือด

    วังหลวงแคว้นหนานเฉินกำลังจะลุกเป็นไฟหลังจากที่คนของตระกูลหวังของหวังฮองเฮาถูกคนเล่นงานอยู่หลายครั้งจนกระทั่งอำนาจเริ่มเสื่อมถอย เสวียนอู่ฮ่องเต้เองก็ป่วยกระเสาะกระแสะมานานหลายเดือน ในยามที่หรูเจิ้งหยวนส่งคนของเขาไปตรวจร่างกายพระองค์ก็ดูเหมือนจะปกติ เพียงแต่อาการนั้นไม่ปกติยิ่งนัก หากเป็นเช่นนี้ต้องไม่เป็นการดีแน่ในขณะที่ในช่วงค่ำคืนหนึ่งที่ทุกอย่างดูเหมือนจะเงียบสงบอย่างผิดปกติ อยู่ ๆ ตำหนักบรรทมของเสวียนอู่ฮ่องเต้ก็ถูกล้อมด้วยคนของไท่จื่อหรูโจว แน่นอนว่าการก่อกบฏในครั้งนี้มีคนที่ร่วมมือกับเขาอยู่ไม่มาก ขุนนางเหล่านั้นอยู่ฝั่งเดียวกับตระกูลหวังทั้งยังสนับสนุนให้ไท่จื่อหรูโจวกระทำการช่วงชิงราชบัลลังก์จากเสวียนอู่ฮ่องเต้ โดยให้เหตุผลว่าฝ่าบาทมิอาจออกว่าราชกิจได้เนื่องจากทรงพระชวรหนัก จึงจำเป็นจะต้องให้ผู้ที่มีความรู้ความสามารถเช่นองค์รัชทายาทสืบทอดราชบัลลังก์แทนหลังจากที่พวกเขาบุกยึดวังหลวงได้เป็นที่เรียบร้อยแล้ว หวังฮองเฮาที่สวมอาภรณ์สีแดงงดงามก็เดินเข้ามาในห้องบรรทมของผู้เป็นสามี นางมองเสวียนอู่ฮ่องเต้ด้วยแววตาสมเพช เดิมทีนางนั้นหลงรักเขาหมดหัวใจ เพียงแต่อีกฝ่า

  • มารดามือใหม่ของนางร้ายอันดับหนึ่ง   ตอนที่ ๙๓ กลับคืนสู่ฐานะเดิม

    การแข่งขันเริ่มต้นขึ้นด้วยความดุเดือด ก่อนที่ซิ่วจื่อหลิงจะหันไปเห็นหลิวอี้หลันที่กำลังเดินเข้ามาในบริเวณสนามฝึกแห่งนี้ ได้ข่าวว่านางเพิ่งผ่านพิธีปักปิ่นไปได้ไม่นานก็รีบออกมาแสดงตัวเสียแล้วหลิวอี้หลันเดินมาพร้อมกับท่านหญิงซูฉี ทั้งคู่ดูสนิทสนมกันมากกว่าที่เคย อาจเพราะพระชายาเจิ้งอ๋องผู้เป็นมารดาของหลิวอี้หลันได้แต่งเข้าตำหนักเจิ้งอ๋องทำให้หลิวอี้หลันเองก็เปรียบเป็นคนในราชวงศ์กึ่งหนึ่ง เพราะเจิ้งอ๋องนั้นรับนางและน้องชายเป็นบุตรบุญธรรม แต่จะชูคอได้นานอีกสักเท่าใดก็ต้องคอยดูกันต่อไป ทั้งคู่เดินเข้ามาในกระโจมที่นางและน้องชายนั่งอยู่ก่อนทั้งสองจะยอบกายคารวะนางและน้องชายแล้วหันไปมองจินเยว่ที่นั่งข้าง ๆ"เหตุใดคุณหนูจินจึงมานั่งในกระโจมนี้ได้เล่า" เป็นท่า

Higit pang Kabanata
Galugarin at basahin ang magagandang nobela
Libreng basahin ang magagandang nobela sa GoodNovel app. I-download ang mga librong gusto mo at basahin kahit saan at anumang oras.
Libreng basahin ang mga aklat sa app
I-scan ang code para mabasa sa App
DMCA.com Protection Status