로그인เสียงตะโกนเรียกจากด้านล่างของผู้เป็นแม่ดังขึ้น หญิงสาวใบหน้าสวยที่หลับใหลอยู่บนเตียงขนาดกลางค่อย ๆ ปรือตาขึ้นด้วยความรำคาญ
จากเสียงรบกวน มือขวายกขึ้นบังแสงแดงที่ส่องผ่านม่านเข้าแยงตา ก่อนจะขยับตัวลุกขึ้นนั่งพร้อมขยี้เส้นผมสีน้ำตาลไหม้อย่างงัวเวีย
เช้าอีกแล้วทำไมเวลานอนช่างสั้นแบบนี้นะ
“ยัยณินท์ทานข้าวได้แล้ว” เสียงผู้เป็นแม่ตะโกนดังจากข้างล่าง
“ค่า” จิรภาณินท์ตะโกนตอบ เธอขยับตัวลุกขึ้นจากเตียงพลางถอนหายใจออกมาพร้อมหยิบผ้าเช็ดตัวเดินเข้าไปที่ห้องน้ำ
เวลาผ่านไปไม่ถึงสิบห้านาที หญิงสาวเดินออกจากห้องน้ำ สองเท้าเดินตรงไปที่ตู้เสื้อผ้าก่อนจะเลือกหยิบชุดเดรสสีดำ ออกมาเพื่อสวมใส่ เป็นวันที่น่าเบื่อสำหรับเธออีกวัน ถึงแม้ว่าจะเป็นงานที่สุจริต ใช่ว่าเธออยากจะทำแต่เพราะได้เงินดี งานสมัยนี้หายากจะตายไป ยิ่งสำหรับเธอแล้วถึงแม้ว่าจบมาได้สองปีแต่เธอก็ยังเลือกที่จะทำงานแบบนี้ต่อ ทั้งที่งานนี้ไม่ได้เกี่ยวกับสาขาที่เธอเลือกเรียนจบมาแม้แต่น้อย เพราะเธอเคยสมัครงานไปแล้วแต่ไม่มีการเรียกตัวเธอเข้างานทำรอแล้วรออีก ให้ทางบริษัทเรียกตัวเธอแต่กลับไม่มีวี่แววถึงสามเดือน
.
.
.
เวลาผ่านไปไม่ถึงสิบห้านาที หญิงสาวเดินออกจากห้องน้ำ สองเท้าเดินตรงไปที่ตู้เสื้อผ้าก่อนจะเลือกหยิบชุดเดรสสีดำ ออกมาเพื่อสวมใส่ เป็นวันที่น่าเบื่อสำหรับเธออีกวัน ถึงแม้ว่าจะเป็นงานที่สุจริต ใช่ว่าเธออยากจะทำแต่เพราะได้เงินดี งานสมัยนี้หายากจะตายไป ยิ่งสำหรับเธอแล้วถึงแม้ว่าจบมาได้สองปีแต่เธอก็ยังเลือกที่จะทำงานแบบนี้ต่อ ทั้งที่งานนี้ไม่ได้เกี่ยวกับสาขาที่เธอเลือกเรียนจบมาแม้แต่น้อย เพราะเธอเคยสมัครงานไปแล้วแต่ไม่มีการเรียกตัวเธอเข้างานทำรอแล้วรออีก ให้ทางบริษัทเรียกตัวเธอแต่กลับไม่มีวี่แววถึงสามเดือน
พริตตี้ งานที่เธอทำอยู่ในตอนนี้ ถึงแม้ว่าจะเปลืองตัวไปสักหน่อย แต่ก็ยังดีกว่านั่งรอหางานที่ไม่มีวันจะได้สักที และวันนี้ก็เป็นวันที่ต้องไปงานมอเตอร์โชว์ ถ้าแม่ของเธอเห็นว่าเธอต้องแต่งตัวโป๊คงจะได้โดนบ่นอีกแน่
จิรภาณินท์หยิบเครื่องสำอางเติมแต่งบนใบหน้าบาง ๆ ก่อนจะหมุนตัวรอบกระจกเพื่อสำรวจความเรียบร้อยอีกครั้ง หญิงสาวหยิบกระเป๋าสะพายสีแดงเข้ากับชุดเดรสขึ้นมาพร้อมเดินออกจากห้องไป
เสียงฝีเท้าก้าวลงบันได ก่อนหยุดชะงักลงเมื่อเห็นผู้เป็นแม่มองด้วยสายตาขุ่นเคือง
“ณินท์แม่บอกกี่ครั้งแล้วใช่ไหม ว่าเลิกทำงานแบบนี้สักที”
หญิงสาวยิ้มรับก่อนจะวิ่งลงมากอดผู้เป็นแม่ด้วยรัก
“โธ่แม่ ไม่เห็นจะมีอะไรเลย ณินท์ไม่ได้ไปทำอะไรผิดกฎหมายสักหน่อยนี่คะ อีกอย่างณินท์ขับรถไปเอง แม่ไม่ต้องห่วงณินท์หรอกนะคะ” สายพิรุณคนเป็นแม่ดันลูกสาวออกมองหน้าด้วยความลำบากใจ
“ถ้าพ่ออยู่ คงไม่ให้เราทำแบบนี้หรอก ดูสิ ! ดูแต่งเนื้อแต่งตัว...”
“แม่คะ ณินท์เข้าใจค่ะ แต่ว่ามันเป็นงานที่ได้เงินดีนะคะ”
“เลิกทำงานแบบนี้ไม่ได้เหรอ”
สายพิรุณพูดด้วยน้ำเสียงที่เป็นห่วง อยากให้ลูกสาวคนเดียวเลิกทำงานที่ต้องเปลืองเนื้อเปลืองตัวแบบนี้
“ได้ไหม” คนเป็นแม่ถามย้ำอีกครั้งเพื่อรอฟังคำตอบ จิรภาณินท์ได้แต่ก้มหน้านิ่งเงียบไม่ยอมรับปาก สีหน้าเริ่มแสดงถึงความลำบากใจ ไม่รู้ว่าจะเริ่มพูดยังไงให้มารดาเข้าใจ งานที่ทำไม่ใช่งานขายร่างกายสักหน่อย
“ณินท์”
“แม่คะ ณินท์ว่าเราค่อยคุยเรื่องนี้ดีกว่านะคะ วันนี้ณินท์มีงานค่ะ” เมื่อพูดจบหญิงสาวก้าวเท้าออกจากบ้านไปทันที แต่หัวใจของเธอก็เต็มไปด้วยความรู้สึกผิดที่ต้องคอยปัดหลีกอยู่ตลอดเวลา บางทีถึงเวลาที่เธอต้องหางานใหม่ทำแล้วจริง ๆ ก็เป็นได้
รถยนต์คันหรูหยุดจอด ชายหนุ่มเปิดประตูลงขณะหันไปมองรอบสุสานทุกครั้งที่มาถึงเขาไม่เคยลืม ห้าปีที่ผ่านมาเป็นเวลาแสนจะยาวนาน ทุกวันที่เคยมีความสุข แต่เวลานี้...ว่างเปล่า ทั้งหัวใจและคนที่เขารัก
สายลมอ่อน ๆ พัดในยามเช้า แสงแดงส่องเข้าที่ใบหน้าด้านขวาของเขา สองเท้าก้าวเดินไปยังสนามหญ้า มือแกร่งถือช่อดอกไม้ในมือด้วยความทะนุถนอม เพียงแค่ไม่นานเขาก็มาถึงหน้าสุสานของพิศชามนต์
ชายหนุ่มย่อตัวนั่งลง ฝ่ามือเอื้อมไปลูบชื่อที่สลักหน้าสุสานไปมาอย่างเชื่องช้า ไม่ต้องจดจำเพราะเขาจะไม่มีวันลืม
“มนต์ ภัทรมาหานะ” เสียงสั่นเอ่ยเบา ๆ ใบหน้าคมเต็มไปด้วยคราบน้ำตา ไม่ว่านานแค่ไหน เขาจะรักพิศชามนต์เพียงคนเดียว
“มนต์ ภัทรคิดถึงมนต์นะ”
เวลานี้สมองเขากำลังนึกถึงเรื่องราวที่งดงามในอดีต เสียงหัวเราะที่คุ้นเคย รอยยิ้มที่ทำให้หัวใจอบอุ่นตั้งแต่ครั้งแรกที่พบ
พิศชามนต์กับเขาคบหาเมื่อเรียนอยู่มหาวิทยาลัย ถึงแม้ว่าจะไม่ใช่รักครั้งแรก แต่ก็มั่นใจว่าพิเธอเป็นผู้หญิงที่ดีพร้อมทั้งครอบครัว ฐานะและการศึกษา ห้าปีกว่าปีที่รู้จักคบหากัน นานพอที่จะตัดสิ้นใจใช้ชีวิตคู่ได้
เขาจึงได้ขอแต่งงานในวันเกิดของพิศชามนต์ น้ำเสียงหวานตอบรับ
ตกลงแต่งงานใช้ชีวิตร่วมกันยังคงดังก้องอยู่เสมอ แต่ทำไมสวรรค์ถึงต้องพรากเธอไปจากเขา
ณัฐภัทรลืมตาขึ้น สูดหายใจเข้าพลางยกมือขึ้นปาดน้ำตาบนใบหน้า
“ มนต์ ภัทรกลับก่อนนะ แล้วจะมาหาใหม่ ” ชายหนุ่มดันกายลุกขึ้น ใบหน้าคมที่เปรอะไปด้วยคราบน้ำตา ผู้หญิงคนเดียวที่เขาร้องไห้ให้และจะเป็นคนสุดท้ายที่เขารักหมดหัวใจ
Chapter 54 (Epilogue)หลายวันผ่านไป มาพร้อมกับข่าวการจากไปของพริมรตาเป็นที่น่าเศร้าและน่าตกใจไปพร้อมกัน เมื่อตอนเช้าที่ผ่านมานาถลดาแม่ของหญิงสาวได้โทร.มาหาเรื่องไปร่วมพิธีงานศพ เขาได้เพียงแต่ตะลึงพูดไม่ออก ไม่คิดว่าพริมรตาจะด่วนจากไปเร็วขนาดนี้ข่าวที่เขาได้รับเหมือนเป็นเงาสะท้อนยังไงชอบกล คล้ายกับพิศชามนต์ เขาไม่ได้ต้องการให้เอาชีวิตมาล้อเล่นขนาดนี้ชายหนุ่มได้แต่เอ่ยขอโทษหญิงสาวในใจด้วยความรู้สึกผิดจิรภาณินท์เดินออกมาจากห้องน้ำ มองใบหน้าคนเป็นสามีที่กำลังนั่งเศร้าเสียใจกับการจากไปของมุกวารี เธอเดินตรงเข้าไปหาสามีพร้อมนั่งลงข้างๆ“พี่ภัทรคะ คุณมุกไปสบายแล้วนะคะ” เธอพูดปลอบ“พี่เสียใจที่ทำร้ายเขา เพราะพี่...”ชายหนุ่มกล่าวโทษตัวเอง“พี่ภัทร...”“มุกวารีเป็นเพียงชื่อที่ถูกเปลี่ยนใหม่เท่านั้น จริง ๆ แล้ว มุกวารีก็คือพริมรตา...” ณัฐภัทรก้มหน้าลง เขาค่อยเล่าเรื่องราวทั้งหมดให้หญิงสาวผู้เป็นภรรยาฟังตั้งแต่ต้นจนจบ จิรภาณินท์นั่งฟังชายหนุ่มเล่าทั้งน้ำตา เธอไม่เคยรู้ว่าชายหนุ่มจะมีด้านที่เจ็บปวดมากถึงขนา
Chapter 53สวนในบ้านที่ถูกจัดตกแต่งใหม่แทบทั้งหมดความจริงนั้นก็ดูร่มรื่นอยู่แล้ว แต่กลับยิ่งดูสวยงานกว่าเดิมเข้าไปอีก ต้นไม่ใหญ่ส่องแสงไปหิงห้อยกะพริบหลายหลายสี เสียงดนตรีขับกลอม ในงานตอนกลางคืนแขกผู้ที่มาร่วมงานต่างทยอยกันเข้ามาไม่ขาดสาย เจ้าบ่าวและเจ้าสาวยืนต้อนรับแขกหน้างาน เสียงพูดคุยพบปะกันดังขึ้นไปทั่ว เพ็ญรตีเดินออกมายืนข้างลูกชายรับไหว้แขกที่มาในงาน“ยินดีด้วยนะคะคุณเพ็ญที่มีลูกสะใภ้สวยขนาดนี้”“ค่ะ ขอบคุณมากค่ะ เชิญด้วยในเลยดีกว่าค่ะ”เพ็ญรตีเอ่ยพร้อมยกมือชวนก่อนจะเดินเข้าไปในงานพร้อมแขกณัฐภัทรยืนกุมมือยิ้มส่งสายตาหวานมองหญิงสาวข้างตัวแทบจะกลืนกิน เสียงร้องแซวของแขกที่เดินผ่านข้างหน้าเล่นพาคนข้างตัวเขาก้มหน้าม้วนบิดอาย“ยินดีด้วยนะคะ”พริมรตากลบเกลือนความเจ็บปวดทุกอย่างภายใต้รอยยิ้มหวานบนใบหน้า ด่อนเดินเข้าไปเอื้อมมือไปจับมือเขาด้วยความอาลัยรักณัฐภัทรสะบัดมือของพริมรตาออกสายตาเย็นชามองมาที่หญิงสาวตรงหน้าอย่างไร้เยื่อใย หยดน้ำตาไหล่รินอาบที่แก้มสวย ดวงตากลมมองเขาด้วยความเจ็บปวด“ขอบคุณ&r
Chapter 52ภายในห้องสี่เหลี่ยมขนาดกลาง จิรภาณินท์เดินพร้อมกับถอนหายใจออกมาอย่างเหนื่อยล้า งานแต่งงานครั้งเดียวในชีวิตของเธอที่ดูเหนื่อยกว่าตอนเธอทำงานพริตตี้หลายเท่าตัว คงเป็นเพราะเธอเหนื่อยที่ต้องตื่นแต่เช้าและไม่ได้พักทั้งวันชายหนุ่มเดินตามเข้ามา สายตาคมมองหญิงสาวที่นั่งอยู่เก้าอี้หน้ากระจกพลางยิ้มหัวเราะออกมาก่อนจะเดินเข้าไปใกล้“รีบเปลี่ยนชุดดีกว่าครับเดี๋ยวแต่งตัวไม่ทันนะครับ”“ค่ะ แล้วพี่ภัทรไม่ไปเปลี่ยนชุดหรือคะ ตรงนี้ณินท์ทำเองได้ค่ะ จะเสียเวลาพี่ภัทรเปล่า ๆ” เธอตอบพร้อมลุกขึ้น“พี่ถอดให้นะครับ” ณัฐภัทรเอื้อมมือไปปลดเสื้อผ้าหญิงสาวออกโดยไม่รอคำตอบจากเจ้าตัวแม้แต่น้อย“อุ้ย !” หญิงสาวร้องอุทานด้วยความตกใจเมื่อมือของเขาเลื่อนชุดของเธอออก ปากร้อนโน้มลงมาพรมจูบไปตามไหล่ ลมหายใจอุ่นของเขาจรดที่ต้นคอของเธอนานสองนาน ก่อนเลื่อนลงมาที่แผ่นหลัง มือก็รวดเร็วปลดอาภรณ์ที่ปิดเรือนร่างส่วนบนออกจนหมด“พี่ภัทร !”“ชูว์” ชายหนุ่มพลิกหญิงสาวให้หันมาเผชิญหน้า นัยน์ตาคมจ้องมองใบหน้าสว
Chapter 51เพ็ญรตีเดินเที่ยวกับจิรภาณินท์จนลืมดูเวลาว่าล่วงเลยมาเกือบห้าชั่วโมงเย็น เธอต้องยอมรับว่าคุณกันเพลินจนถูกคอ ความรู้สึกเกลียดชังในด้านลบค่อย ๆ ลดลงไปแต่ก็ไม่ถึงกับหมดในทีเดียวกว่าจะกลับถึงบ้านก็เกือบทุ่ม เป็นครั้งแรกที่รู้สึกว่าเที่ยวถูกใจ มีลูกสะใภ้ไปด้วย...เพ็ญรตีเดินเข้ามาในบ้านพร้อมกับถือของเต็มไม้เต็มมือ น้อยหน่าเมื่อเห็นก็รีบวิ่งเข้ามารับของจากมือของผู้เป็นนาย“เอาไปวางไว้ที่ห้องของฉัน” เพ็ญรตีพูดด้วยน้ำเสียงนิ่งตามเดิมก่อนจะเดินเข้าไปในห้องรับแขก“กลับมาแล้วเหรอแม่เพ็ญ เห็นว่าไปเดินเที่ยวกับหนูณินท์มา” จินดารัตน์เอ่ยพร้อมกับยิ้มออกมา“ไม่ได้เดินเที่ยวซะหน่อยค่ะคุณแม่ ก็แค่หาเวลาให้ตาภัทรไปคุยกับหนูมุกเป็นการส่วนตัวก็เท่านั้นค่ะ” เพ็ญรตีแก้ตัว“แล้วไปกับหนูณินท์มาเป็นยังไงบ้างล่ะ” จินดารัตน์ถามเปลี่ยนเรื่องทันที เพราะไม่อยากต่อความยาว สาวความยืดเรื่องมุกวารี“ก็ดีค่ะ” เพ็ญรตีตอบ“เอาเถอะ แล้วกินข้าวมาหรือยัง” จินดารัตน์ถาม“กินแล้วค่ะ ทานก
Chapter 50เพ็ญรตีได้รับโทรศัพท์เมื่อครู่ว่ามุกวารีจะมาหาลูกชายเพื่อคุยกัน ปรับความเข้าใจกัน เธอจึงตอบตกลงรับปากและให้ลูกชายนัดพบมุกวารีตามที่ทางฝ่ายนั้นต้องการ ก่อนจะโทรไปบอกลูกชายว่ามุกวารีขอนัดพบ ทีแรกลูกชายของเธอปฏิเสธอย่างเร็วไว แต่เธอต้องพยายามหาเหตุผลอ้างจนในที่สุดณัฐภัทรต้องยอมใจอ่อนลง ถึงจะบอกอย่างนั้นเธอก็ต้องรีบกัน จิรภาณินท์เพื่อไม่ให้ไปด้วยอย่างแน่นอน เธอต้องยอมทนอยู่กับว่าที่ลูกสะใภ้ครึ่งวัน‘ภัทรไปพบหนูมุกเถอะนะ แม่เองก็อยากจะคุยกับหนูณินท์เป็นการส่วนตัวด้วย’ความเงียบครอบคลุมพื้นที่ในร้านอาหาร ที่ห้างสรรพสินค้าใจกลางเมือง ทั้งที่บรรยากาศไม่ได้เป็นอย่างั้นเลยสักนิด เพ็ญรตีนั่งนิ่งแทบไม่สบตามองจิรภาณินท์ที่อยู่ตรงหน้าของเธอ“จะกินอะไรก็สั่งสิ ฉันจ่ายให้” เพ็ญรตีพูดด้วยน้ำเสียงไม่เต็มใจ“แล้วคุณแม่ไม่กินหรือคะ” จิรภาณินท์ถามพร้อมกับยิ้มหวานสู้“ฉันกินไม่ลงหรอกย่ะ หล่อนอยากสั่งอะไรก็สั่งไปสิ”“ไม่เป็นไรค่ะ เดี๋ยวณินท์จะเสียมารยาทเปล่า”“งั้นถ้าไม่อยากกินก็ไม่ต้องกินเ
Chapter 49‘ยกเลิกงานแต่งซะ’ เพ็ญรตีพูดด้วยน้ำเสียงเข้ม‘หมายความว่ายังไงคะ ?’ จิรภาณินท์ถามด้วยความไม่เข้าใจ‘จะให้หมายความว่ายังไงอีก ฉันให้เธอยกเลิกงานแต่งงานนี้ซะ !’เพ็ญรตีตวาดเสียงดังจนหญิงสาวต้องผงะถอยออกห่าง‘ไม่ค่ะ ณินท์ทำไม่ได้’ เธอตอบด้วยน้ำเสียงสั่น‘ฮึ ! ฉันรู้อยู่แล้วว่าเธอต้องตอบแบบนี้ บอกมาว่าต้องการเงินเท่าไหร่ ?’ เพ็ญรตีถาม ด้วยน้ำเสียงขุ่นเคืองหยามเหยียด ‘เท่าไหร่ที่คิดว่าออกไปจากชีวิตลูกชายฉัน !’‘ไม่ค่ะ เงินซื้อหัวใจของพี่ภัทรไม่ได้ ณินท์รักพี่ภัทร...’‘ซื้อไม่ได้ ฮึ ! กลัวว่าที่ฉันให้น้อยไปกว่าการที่เกาะตาภัทรกินไปทั้งชาติสินะ !’ เพ็ญรตีตะคอกด้วยน้ำเสียงดูแคลนผู้หญิงตรงหน้า จะเล่นละครไปได้สักกี่น้ำ จะหลอกลูกชายเธอไปได้แค่ไหน... เธอไม่เชื่อว่าจิรภาณินท์จะบูชาความรักมากกว่าเงินทอง !‘ไม่ใช่นะคะ ณินท์ไม่ได้ต้องการ...’‘แล้วทำไมยังอยู่วุ่นวายกับลูกชายฉันล่ะ เงินสิบล้านที่คุณแม่ให้ไปมันยังไม่มากพอใช่ไหม ต