Home / โรแมนติก / มารยายั่วรัก / บทที่ 1 หาลูกสะใภ้

Share

บทที่ 1 หาลูกสะใภ้

Author: Mamaya Writer
last update Last Updated: 2025-10-15 14:21:25

แสงไฟสลัวภายในห้องนอนขนาดใหญ่ ร่างของชายหนุ่มนอนกระสับกระส่ายอยู่บนเตียง ใบหน้าคมเต็มไปด้วยเหงื่อที่ไหลซึมออกมา เปลือกตาบีบหนารัดแน่น มือเกร็งยกขึ้นเพื่อคว้าบางสิ่งที่กำลังเดินจากไป 

“มนต์ อย่าไปจากภัทร” 

ชายหนุ่มละเมอพร้อมยกมือขึ้นโดยที่ไม่รู้ตัว

“มนต์ กลับมา กลับมา !” 

เขาสะดุ้งตื่นขึ้นพร้อมเสียงลมหายใจหอบ สายตาคมมองไปรอบ ๆ ห้องที่คุ้นเคย ยกมือขึ้นลูบใบหน้าที่เปียกเต็มไปด้วยเหงื่ออย่างเหนื่อยล้า 

ฝันถึงอีกแล้ว ความเจ็บปวดยังคงซ้ำเหมือนเดิมไม่มีวันหาย อีกแค่วันเดียวทำไมสวรรค์ถึงกลั่นแกล้งแบบนี้ ทำไมต้องพรากพิศชามนต์ไปด้วย 

งานแต่งงานถูกจัดเตรียมมาเป็นอย่างดีร่วมสามเดือนขาดแต่เพียงเจ้าสาวในวันแต่งงาน จากงานแต่งกลับกลายเป็นงานอำลา ถ้าคืนนั้นไม่เกิดขึ้น ในเวลาแบบนี้เขาคงกอดพิศชามนต์อยู่ในอ้อมกอดทุกคืน ชายหนุ่มค่อยๆ ขยับตัวลุกขึ้นจากเตียง สองเท้าก้าวยาวเดินตรงไปที่ห้องน้ำ 

สายน้ำจากฝักบัวค่อยไหลสู่ร่างกายแกร่งผิวสองสี ยกมือลูบใบหน้า

ก่อนจะเอื้อมมือไปปิดฝักบัว กำปั้นแขนซ้ายยกขึ้นทุบกำแพงอย่างแรง หยดน้ำตาของลูกผู้ชายค่อย ๆ ไหลออกมา ห้าปีผ่านมาแล้ว แต่ก็ยังทำใจรับกับการจากไปของคนรักไม่ได้ การจากไปที่ไม่คิดว่าจะเกิดขึ้น...

ณัฐภัทรเดินลงมาจากบันไดด้วยสีหน้าที่หม่องคล้ำเช่นทุกวัน สองเท้าตรงไปที่โต๊ะอาหารแล้วนั่งลง เอื้อมมือไปหยิบหนังสือพิมพ์ที่วางอยู่เปิดอ่าน เพ็ญรตีมองใบหน้าคมลูกชายด้วยความเป็นห่วงและอดที่จะต่อว่าไม่ได้

“แม่บอกแล้วใช่ไหมว่าให้หาลูกสะใภ้ใหม่ได้แล้ว นี่มันก็ผ่านมาห้าปีแล้วนะ แม่หาให้ภัทรก็บอกว่าไม่ชอบ บอกให้หาเองภัทรก็บอกว่ายังไม่พร้อม” เพ็ญรตีเอ่ยขึ้น เพราะตลอดที่ผ่านมาห้าปีเธอพยายามทาบทามลูกคุณหนูของเพื่อนสนิทให้หลายต่อหลายครั้งแต่ไม่สำเร็จสักครั้ง

“ไม่ว่านานแค่ไหน ผมก็ไม่มีวันลืมมนต์ได้หรอกครับแม่” เขากล่าวตอบด้วยน้ำเสียงหนักแน่นและคิดถึงคนรักที่จากไป

“แล้วเมื่อไหร่จะมีเหลนให้ย่าสักที” 

ณัฐภัทรหันไปมองย่าและบิดาก้าวเข้ามาพร้อมนั่งลงบนโต๊ะอาหาร

“ผมยังทำใจไม่ได้ครับ” คำตอบที่ดูเหมือนคนหมดหวัง แต่คนเป็นย่าเมื่อฟังแล้วถึงกับโมโหขึ้นทันที

“ไม่ได้ ! ห้าปี มันนานเกินไปแล้ว จะให้ย่านอนตายตาหลับได้ยังไง” ณัฐภัทรยังคงนิ่งสงบ 

“คุณแม่คะใจเย็น ๆ ค่ะ”เพ็ญรตีพูดห้ามด้วยความห่วง 

“ใจเย็น ฉันเย็นมามากพอแล้ว ! ต่อไปนี้จะไม่มีอีก !” 

จินดารัตน์ผู้เป็นย่าพูดด้วยน้ำเสียงเกรี้ยวกราด หากเต็มไปด้วยความห่วงหลานชายไม่แพ้กัน

“คุณแม่คะ”เพ็ณรตีเรียก 

“ไม่ต้องเข้าข้างเลย แม่เพ็ญรตี” เงียบไร้เสียงตอบ 

“วันนี้ไปกับย่า มีนัดดูตัว” 

ณัฐภัทรถึงกับมองด้วยสีหน้าไม่พอใจ ไม่ว่าอีกสักร้อยครั้ง พันครั้งก็

ไม่มีผู้หญิงคนไหนสามารถแทนพิศชามนต์ได้ !

“ผมไม่ไป วันนี้เป็นวันครบรอบวันตายของมนต์ ผมคงไปกับคุณย่า

ไม่ได้หรอกครับ” เขากล่าวด้วยน้ำเสียงเรียบนิ่งปนเศร้า 

“หึ !”

“ถ้าเป็นวันนี้ยังไงก็เป็นคำตอบเดิม เพราะผมถือว่าคุณย่ารู้อยู่แล้ว” เขาตอบก่อนจะลุกเดินออกจากโต๊ะอาหารไป ทั้งที่อาหารเช้ายังคงเต็มจานอยู่เหมือนเดิม

ใบหน้าเหี่ยวย่นของจินดารัตน์เต็มไปด้วยความโกรธ มองหลานชายเดินออกไปจนลับสายตา ก่อนจะหันมามองหน้าลูกชายและลูกสะใภ้ด้วยความขุ่นเคือง

“ดูสิ...แม้แต่ฉันยัง...” จินดารัตน์พูดด้วยน้ำเสียงที่โมโห

“คุณแม่ครับ ก็เจ้าภัทร มันดื้อจะตายคุณแม่ก็รู้นี่ครับ แล้วนี่นัดเขาแล้วไม่ไปจะไม่น่ารังเกียจหรอครับแม่” ทศวรรษรู้ว่าหลังจากลูกชายเสียคนรักไปเมื่อห้าปีก่อน ก็ไม่คิดที่จะมองผู้หญิงคนไหนอีกเลย แม้กระทั่งนัดดูตัวกับฝ่ายหญิงเพื่อหาลูกสะใภ้เข้าบ้านแต่ก็ไม่ได้ผล ในทางกลับกัน ลูกชายเขายิ่งไม่ยอมฟังเข้าไปใหญ่ ทุกคนในครอบครัวก็ต่างเข้าใจว่าทำใจไม่ได้ แต่นี่นานเกินมากพอแล้ว 

“ฉันพูดเล่นเฉย ๆ ยังไงก็รู้ว่าเจ้าภัทรไม่ยอมไปอยู่แล้ว” จินดารัตน์ถอนหายใจออกมาแล้วพูดต่อไปว่า “แต่เราจะต้องหาวิธี !” 

ลูกชายและลูกสะใภ้หันมามองเป็นตาเดียวด้วยความสงสัย

“เราหรือคะคุณแม่” เพ็ญรตีถาม ไม่คิดว่าครั้งนี้แม่สามีจะเป็นคนเอ่ยปากหาคู่ให้ลูกชายเธอด้วยตัวเอง

“ก็ใช่นะสิ จะใครที่ไหน” จินดารัตน์ตอบ สายตาบ่งบอกถึงความตั้งใจเป็นที่สุด หากแต่ลูกชายและลูกสะใภ้กลับมองหน้ากันทำตาปริบ ๆ 

จะรอดไหมงานนี้ ! เพราะหลายครั้งที่ผ่านมาล้มเหลวไม่เป็นท่า

“งั้นผมไปงานมอเตอร์โชว์ก่อนนะครับ”

ทศวรรษพูดพร้อมลุกขึ้นจากโต๊ะอาหาร คนเป็นแม่ได้ยินแล้วเฉย ๆ แต่คนเป็นภรรยาได้ยินถึงกับควันออกหู

“คุณจะไปหาเด็กสาว ๆ ใช่ไหม !” เพ็ญรตีรีบพูดดักคอสามี

“เปล๊า ผมก็แค่ไปดูรถ ไอ้พริตตงพริตตี้ไม่เคยมองสักครั้ง” 

ทศวรรษตอบเสียงสูงพร้อมส่ายหน้าอย่างรวดเร็ว 

“ไม่มองแต่จ้องซะนาน คุณคิดว่าฉันไม่รู้หรือไง ! หา !” 

เพ็ญรตีเดินเข้าไปลากหูของคนเป็นสามีนั่งลงกับโต๊ะ 

“โอ๊ย ! เจ็บนะคุณ ” ทศวรรษร้องอวดโอย 

“กินข้าวซะ ไม่ต้องไปกินอาหารตา !” 

จินดารัตน์ส่ายหน้าหัวเราะ ทว่าถ้าไปงานมอเตอร์โชว์ล่ะก็ จะมีลูกคุณหญิง คุณนายสวยๆ ถ้าเกิด ... ได้มาเป็นหลานสะใภ้สักคน ก็คง ...

“ฉันจะไปงานมอเตอร์โชว์” เสียงของผู้เป็นแม่เอ่ยขึ้นด้วยความแน่วแน่ ทศวรรศและเพ็ญรตีหันมามองพร้อมกันด้วยความสงสัย

“คุณแม่จะไปทำไมคะ” เพ็ญรตีถามด้วยความสงสัยเพราะตั้งแต่เธอมาเป็นลูกสะใภ้เธอไม่เคยเห็นแม่สามีออกปากไปงานมอเตอร์โชว์สักครั้ง

“ฉันจะไปหาลูกสะใภ้ !” จินดารัตน์ตอบ 

“หาลูกสะใภ้ !” ทศวรรษและเพ็ญรตีอุทานพร้อมกัน มองใบหน้าของผู้เป็นแม่ยิ้มออกมาอย่างมีแผน

“ใช่แล้ว !”

“เออ... แล้วคุณแม่คงไม่เอาพริตตี้มาเป็นลูกสะใภ้หรอกนะคะ” เพ็ญรตีถามอย่างกล้ากลัว ๆ

“ใครจะไปเอา ฉันจะไปดูว่าคุณหญิงคุณนายมาบ้างไหมจะได้ทาบทามได้” จินดารรัตน์พูด มองหน้าลูกสะใภ้พลางนึกถึงคิดในใจเงียบ ๆ

“อ้อ เพ็ญก็นึกว่าคุณแม่ ...”

“แต่ฉันว่าจะเป็นพริตตี้ก็ดีนะ” จินดารัตน์เผลอพูดความคิดของเธอออกมาอย่างพอใจ แต่คนเป็นลูกสะใภ้กลับร้องห้ามทันที

“ไม่ได้นะคะคุณแม่ ผู้หญิงพวกนั้นไม่คู่ควรกับตาภัทรค่ะ” น้ำเสียงดูแคลนของเพ็ญรตี ทำให้จินดารัตน์มองหน้าด้วยความไม่พอใจ 

เธอต้องการที่ให้ลูกชายของเธอแต่งงานกับผู้หญิงที่ดีพร้อมเท่านั้น !

“ถึงจะเป็นผู้ดีตระกูลสูงหรือจน ฉันก็ยินดีรับเป็นหลานสะใภ้ หากทำให้เจ้าภัทรยอมแต่งงานด้วย !”

Continue to read this book for free
Scan code to download App

Latest chapter

  • มารยายั่วรัก   บทที่ 6 แผนการของคุณย่า (1)

    ประตูห้องปิดลง จิรภาณินท์เดินมานั่งที่เตียงอย่างหมดแรง ทั้งที่ควรจะกลับถึงบ้านเมื่อตอนเที่ยง แต่เพราะต้องไปยกเลิกงานพริตตี้ที่ทำอยู่ไปชั่วคราว พร้อมหาเหตุผลอ้างจนผู้จัดการยอมฟังจิรภาณินท์หยิบเช็คในกระเป๋าออกมา เงินมัดจำครึ่งแรกห้าล้านเข้าไปแล้ว เรื่องนี้คงจะให้แม่รู้ไม่ได้ ปิดไว้เป็นความลับดีที่สุด“พรุ่งนี้สินะที่ต้องไปทำงานใหม่” เธอพึมพำกับตัวเอง“พ่อคะ อย่าโกรธณินท์นะคะ ณินท์แค่อยากให้แม่มีความสุข” หญิงสาวพนมมือขึ้นมองออกไปนอกหน้าต่างด้วยความรู้สึกผิด “แค่สามเดือนเท่านั้น เป็นกำลังให้ใจณินท์นะคะ”จิรภาณินท์ เป็นเสมือนลูกหัวแก้วหัวแหวน ตั้งแต่เล็กเธอถูกเลี้ยงดูมาอย่างดี บิดาของเธอที่ทำงานเป็นผู้จัดการในบริษัทเอกชนแห่งหนึ่ง มารดาของเธอไม่เคยออกไปรับทำงานตั้งแต่มีเธอ ครอบครัวของเธอดูอบอุ่นและเป็นที่อิจฉาของคนหลาย ๆ คนถึงแม้จะอยู่กันในแค่บ้านหลังเล็ก ๆ แต่เมื่อเธออายุได้สิบแปดปี บิดาเธอล้มป่วยและเสียชีวิตด้วยโรคมะเร็งระยะสุดท้าย มีเพียงเงินก้อนใหญ่ที่พอจะเลี้ยงดูสองแม่ลูกได้ แต่นั่นก็ไม่พอเมื่อเงินก้อนนั้นค่อยหมดลง

  • มารยายั่วรัก   บทที่ 5 ค่าจ้างแสนแพง (2)

    “ณินท์ขอถามอะไรหน่อยได้ไหมคะ”จินดารัตน์พยักหน้า“ทำไมคุณถึงให้ณินท์ทำงานนี้คะ”“ทำไมคุณถึงให้ณินท์ทำงานนี้คะ”“ฉันก็แค่คิดว่าเธอน่าจะทำได้สำเร็จก็เท่านั้น อีกอย่างเธอมีวุฒิการศึกษาที่สูงพอควรจะเข้าไปทำงานได้ เธอคงจะไม่ว่าฉันหรอกนะ ที่สืบดูประวัติของเธอ”หญิงสาวคิ้วขมวดเข้าหากันด้วยความไม่เข้าใจ ทำงานหมายความว่ายังไงกัน !“ไม่ค่ะ ณินท์เข้าใจว่าคุณต้องรู้ก่อนว่าณินท์เคยทำงานอะไรมาบ้าง” หญิงสาวตอบ“เข้าเรื่องกัน ฉันจะให้เธอไปเป็นผู้ช่วยหลานชายในบริษัท ฉะนั้นคุณสมบัติเธอตรงกับข้อกำหนดของบริษัทพอดี ถ้าเกิดไม่ตรงคงไม่ให้ทำงานนี้เพราะเธอต้องเข้าใกล้หลานชายทั้งวัน”“แล้วคุณไม่กลัวฉัน ...” ไม่กล้าที่จะถาม อายเสียเปล่า“หลงรักหลานชายฉันน่ะหรอ” เสียงของจินดารัตน์พูดต่ออย่างรู้ทัน พลางยิ้มหัวเราะออกมาเพราะเรื่องนั้นไม่สำคัญ อยู่ที่ว่าหลานชายของเธอรู้สึกอย่างไร ถ้าหากจะรักกันจริงเธอก็ไม่คิดที่จะห้ามของเพียงลบอดีตที่ไม่มีวันกลับมาออกไปเท่านั้นก็

  • มารยายั่วรัก   บทที่ 4 เงินเดือนแสนแพง (1)

    สายลมพัดผ่านเข้าหน้าต่างในเวลาเย็นจิรภาณินท์นั่งมองการ์ดนามบัตรอยู่ในมือด้วยความลังเลใจ งานที่เธอควรจะตัดสินใจทำดีหรือไม่ หลังจากที่ฟังจากปากของผู้หญิงอายุคราวแม่ของเธอ ย้อยกลับไปเมื่อช่วงบ่ายที่ผ่านมา จินดารัตน์ชวนเธอออกไปทานอาหารมื้อกลางวัน ก่อนจะเปิดประเด็นคุยเรื่องงานที่เรียกเธอมาพบ แต่แบบนี้เขาเรียกว่างานได้หรือเปล่านะ‘คุณแม่คะ เพ็ญขอพูดอะไรหน่อยได้ไหมคะ’ เพ็ญรตีพูดด้วยท่าทางหยิ่งแสดงออกถึงความไม่ชอบเธอสักเท่าไหร่‘มีอะไรอีกล่ะแม่เพ็ญ’‘ก็แค่ จ้างให้มาเปลี่ยนใจเจ้าภัทร แต่หล่อนไม่มีสิทธ์หลงรักลูกชายฉัน’ เพ็ญรตีพูดเสียงแข็ง ไม่แม้แต่จะมองใบหน้าของจิรภาณินท์ที่ยังนิ่งเงียบไม่ตอบโต้สิ่งใดทั้งสิ้น‘จำนวนเงินจ้างและหน้าที่ ฉันจะบอกเธออีกทีถ้าเธอตกลง’ จิรภาณินท์ยังคงนั่งมองการ์ดที่อยู่ในมือ พลางทบทวนเงื่อนไขที่จินดารัตน์เสนอให้เธออีกครั้ง... ภายในห้องรับแขกมีแต่ความนิ่งเงียบ สายตาของเพ็ญรตีแสดงถึงความไม่พอใจออกมาจนชัดเจน เมื่อทราบถึงจำนวนเงินมากมายเกินตัวกว่าจะยอมรับได้ จินดารัตน์มองพร้อมส่ายหน้ากับลูกสะใภ้ตระกูลสูงเพียบพร้อมทุกอย่าง“เพ็ญรับไม่ได้ค่ะคุณแม่ มันมากเกินไป” เพ็ญรตีคัด

  • มารยายั่วรัก   บทที่ 3 ถูกชะตา (2)

    เสียงเพลงเปิดดังไปทั่วงาน จินดารัตน์นั่งอยู่ในงานกวาดสายตามองภายในงานอย่างไม่ค่อยชอบใจสักเท่าไหร่ มอเตอร์โชว์ที่ไม่ค่อยจะมีผู้หญิงมาดูรถยนต์ สิ่งที่เธอเห็นมีแต่เพียงผู้ชายทุกอายุ ไม่ว่าจะเป็นอายุยี่สิบต้นจนไปถึงอายุห้าสิบปลาย ๆ แต่สายตาที่มองรถนั้นแทบจะไม่มีเลย ทันทีที่แสงไฟบนเวทีใหญ่ดับลง สายตาทุกสายตาจับจ้องไปที่กลางเวทีด้วยความตื่นเต้น ไม่เว้นแม้กระทั่งลูกชายของเธอเช่นเดียวกัน ไฟกลางเวทีเปิดขึ้น ปรากฏร่างหญิงสาวใบหน้าสวย จมูกโด่งสวย รับริมฝีปากบางอิ่มสีชมพู ถูกแต่งแต้มด้วยเครื่องสำอางในชุดเกาะอกกางเกงขาสั้นสีดำพร้อมเสื้อคลุมหนัง ยืนคู่กับรถสีดำรุ่นล่าสุดประจำปีด้วยท่าทางที่ยั่วยวน“สวัสดีครับ นี่คือรุ่นล่าสุดนำเข้าจากประเทศเยอรมนี” พิธีกรหนุ่มพูดลากเสียงยาว เมื่อพูดจบก็มีเสียงปรบมือดังขึ้น แต่ทว่าทุกสายตาก็ยังคงจับจ้องไปที่พริตตี้สาวไม่วางตารวมทั้งจินดารัตน์ด้วยเช่นกัน “นี่แม่เพ็ญ พริตตี้ที่ยืนเกาะรถคนนั้นใครน่ะ” จินดารัตน์ถาม มองหญิงสาวเจ้าของใบหน้าสวยอย่างชื่นชม“ไม่รู้หรอกค่ะ แต่เพ็ญว่าคุณแม่อย่าไปใส่ใจเลยดีกว่าค่ะ” เพ็ญรตีมองด้วยความไม่ชอบใจสักเท่าไหร่ เธอไม่ชอบ พริตตี้มาตั้

  • มารยายั่วรัก   บทที่ 2 ถูกชะตา (1)

    เสียงตะโกนเรียกจากด้านล่างของผู้เป็นแม่ดังขึ้น หญิงสาวใบหน้าสวยที่หลับใหลอยู่บนเตียงขนาดกลางค่อย ๆ ปรือตาขึ้นด้วยความรำคาญจากเสียงรบกวน มือขวายกขึ้นบังแสงแดงที่ส่องผ่านม่านเข้าแยงตา ก่อนจะขยับตัวลุกขึ้นนั่งพร้อมขยี้เส้นผมสีน้ำตาลไหม้อย่างงัวเวียเช้าอีกแล้วทำไมเวลานอนช่างสั้นแบบนี้นะ“ยัยณินท์ทานข้าวได้แล้ว” เสียงผู้เป็นแม่ตะโกนดังจากข้างล่าง“ค่า” จิรภาณินท์ตะโกนตอบ เธอขยับตัวลุกขึ้นจากเตียงพลางถอนหายใจออกมาพร้อมหยิบผ้าเช็ดตัวเดินเข้าไปที่ห้องน้ำเวลาผ่านไปไม่ถึงสิบห้านาที หญิงสาวเดินออกจากห้องน้ำ สองเท้าเดินตรงไปที่ตู้เสื้อผ้าก่อนจะเลือกหยิบชุดเดรสสีดำ ออกมาเพื่อสวมใส่ เป็นวันที่น่าเบื่อสำหรับเธออีกวัน ถึงแม้ว่าจะเป็นงานที่สุจริต ใช่ว่าเธออยากจะทำแต่เพราะได้เงินดี งานสมัยนี้หายากจะตายไป ยิ่งสำหรับเธอแล้วถึงแม้ว่าจบมาได้สองปีแต่เธอก็ยังเลือกที่จะทำงานแบบนี้ต่อ ทั้งที่งานนี้ไม่ได้เกี่ยวกับสาขาที่เธอเลือกเรียนจบมาแม้แต่น้อย เพราะเธอเคยสมัครงานไปแล้วแต่ไม่มีการเรียกตัวเธอเข้างานทำรอแล้วรออีก ให้ทางบริษัทเรียกตัวเธอแต่กลับไม่มีวี่แววถึงสามเดือน...เวลาผ่านไปไม่ถึงสิบห้านาที หญิงสาวเด

  • มารยายั่วรัก   บทที่ 1 หาลูกสะใภ้

    แสงไฟสลัวภายในห้องนอนขนาดใหญ่ ร่างของชายหนุ่มนอนกระสับกระส่ายอยู่บนเตียง ใบหน้าคมเต็มไปด้วยเหงื่อที่ไหลซึมออกมา เปลือกตาบีบหนารัดแน่น มือเกร็งยกขึ้นเพื่อคว้าบางสิ่งที่กำลังเดินจากไป “มนต์ อย่าไปจากภัทร” ชายหนุ่มละเมอพร้อมยกมือขึ้นโดยที่ไม่รู้ตัว“มนต์ กลับมา กลับมา !” เขาสะดุ้งตื่นขึ้นพร้อมเสียงลมหายใจหอบ สายตาคมมองไปรอบ ๆ ห้องที่คุ้นเคย ยกมือขึ้นลูบใบหน้าที่เปียกเต็มไปด้วยเหงื่ออย่างเหนื่อยล้า ฝันถึงอีกแล้ว ความเจ็บปวดยังคงซ้ำเหมือนเดิมไม่มีวันหาย อีกแค่วันเดียวทำไมสวรรค์ถึงกลั่นแกล้งแบบนี้ ทำไมต้องพรากพิศชามนต์ไปด้วย งานแต่งงานถูกจัดเตรียมมาเป็นอย่างดีร่วมสามเดือนขาดแต่เพียงเจ้าสาวในวันแต่งงาน จากงานแต่งกลับกลายเป็นงานอำลา ถ้าคืนนั้นไม่เกิดขึ้น ในเวลาแบบนี้เขาคงกอดพิศชามนต์อยู่ในอ้อมกอดทุกคืน ชายหนุ่มค่อยๆ ขยับตัวลุกขึ้นจากเตียง สองเท้าก้าวยาวเดินตรงไปที่ห้องน้ำ สายน้ำจากฝักบัวค่อยไหลสู่ร่างกายแกร่งผิวสองสี ยกมือลูบใบหน้าก่อนจะเอื้อมมือไปปิดฝักบัว กำปั้นแขนซ้ายยกขึ้นทุบกำแพงอย่างแรง หยดน้ำตาของลูกผู้ชายค่อย ๆ ไหลออกมา ห้าปีผ่านมาแล้ว แต่ก็ยังทำใจรับกับการจากไปของคนรักไม่ได้ ก

More Chapters
Explore and read good novels for free
Free access to a vast number of good novels on GoodNovel app. Download the books you like and read anywhere & anytime.
Read books for free on the app
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status