Share

ตอนที่ 6 ผจญภัย

last update Last Updated: 2024-12-09 07:00:03

สำนักเซียนดาราสวรรค์

“จื่อเถิง มาหาอาจารย์หน่อยเถิด” เสียงของเฉาหมิงเรียกนางด้วยความเอ็นดู ก่อนจะลูบศีรษะของศิษย์ผู้นี้อย่างอ่อนโยน “อาจารย์เจ้าสำนักฝากข้าเอามาให้เจ้า”

จื่อเถิงมองดูหยกสีชมพูอ่อน สีหน้างงงวยเพราะไม่รู้ว่าหยกหน้าตาสวยงามคืออะไร

“อาจารย์เจ้าสำนักเป็นห่วงเจ้ามากจึงฝากข้านำมาให้” เขาถอนหายใจเพราะรู้ว่าอาจารย์ของตนเองใช้พลังเซียนที่สั่งสมมานานหลายสิบปีหลอมหยกชิ้นนี้ขึ้นมาให้ศิษย์หลานโดยเฉพาะ

ครั้นถามว่าเหตุใดจึงทำเช่นนั้นกลับได้คำตอบมาว่า “นางเดินทางออกนอกสำนักเป็นครั้งแรก ย่อมต้องห่วงเป็นธรรมดา”

ทว่า เฉาหมิงกลับสังเกตได้ว่ารอยยิ้มของนางนั้นเต็มไปด้วยความกังวล แต่ไม่อาจถามไถ่สิ่งใดได้อีกเพราะนางคงไม่มีทางบอกอย่างแน่นอน

“ขอบคุณเจ้าค่ะ” จื่อเถิงรับปากว่าจะปกป้องทุกคนและกลับมาสำนักดาราสวรรค์ก่อนเทศกาลโคมไฟแล้วรีบวิ่งไปหาศิษย์น้องอิงฮวาที่ยืนรออยู่ด้านหน้าสำนัก

คล้อยหลังจื่อเถิง เฉาหมิงเอ่ยปากบอกหยางซีอวิ๋นผู้เป็นศิษย์พี่ว่า “อาจารย์เจ้าสำนักสละพลังเซียนเพื่อปกป้องนาง ชะตาของนางคงไม่ธรรมดาเพราะฉะนั้นข้าฝากให้เจ้าดูแลนางด้วย”

“ขอรับ” หยางซีอวิ๋นพยักหน้า “ข้าจะดูแลนางให้ดีที่สุดขอรับ”

ครั้นได้ฝากฝังกับศิษย์อันดับหนึ่งของสำนักแล้ว เฉาหมิงก็พลอยโล่งใจไปบ้าง เรื่องราวใด ๆ หากไม่ร้ายแรงอย่างโดนจอมมารลอบโจมตี ลูกศิษย์ทั้งสามคนก็จะได้กลับสำนักเซียนมาหาเขาในเร็ววัน

เมืองหลินซื่อ

หยางซีอวิ๋นและศิษย์น้องทั้งสองเดินทางเข้ามาในเมืองหลวงเป็นครั้งแรกในรอบปี พลันได้เห็นว่าด้านล่างเขานั้นเปลี่ยนแปลงไปมากเท่าใด

“ศิษย์พี่ ดูนั่นสิ” อิงฮวาชี้ไปที่ร้านอาหารทางซ้ายมือเพราะจำได้ว่าเมื่อปีก่อนเฉาหมิงเคยพานางไปทานอาหารที่นั่น

“ข้ารู้ว่าเจ้าคิดอะไรอยู่อิงฮวา” จื่อเถิงยิ้มให้นางแล้วพยักหน้าก่อนจะเดินไปที่ร้านนั้นพร้อมเสียงท้องร้องโครกคราก

“ลงจากเขามาได้ไม่ทันถึงหนึ่งชั่วยาม พวกเจ้าใช้พลังไปมากถึงเพียงนั้นเชียวหรือ” หยางซีอวิ๋นหัวเราะร่วนเพราะก่อนที่จะลงมาพวกเขาทานอาหารไปชุดใหญ่จนอิ่มแปล้

“ทำอย่างไรได้เล่า ข้ากำลังโตย่อมต้องกินจุเป็นธรรมดา” อิงฮวาเอ่ยปากแล้วรีบไปสั่งของโปรดทันที

ขณะกำลังพูดคุยกันสนุกสนาน ทั้งสามคนก็ได้ยินเรื่องราวแปลกประหลาดจากคนในร้านที่พูดต่อกันมา

“พวกท่านหมายถึงสิ่งใดหรือ” หยางซีอวิ๋นเอ่ยปากถามหญิงผู้หนึ่ง

“เมืองหนานเกิดเรื่องใหญ่เข้าแล้ว ข้ากับครอบครัวเพิ่งอพยพหนีตายกันมาไม่นานนี้เอง” นางพูดพลางกอดบุตรชายของตนเองไว้แน่น “ข้าบอกใครตั้งหลายคนแต่ไม่มีใครเชื่อสักคน”

“เจ้าพูดเช่นนั้นจะมีใครเชื่อเล่า สัตว์อสูรก็เป็นเพียงเรื่องในตำนานทั้งนั้น” บุรุษชาวเมืองหลินซื่อเลิกคิ้วไม่เชื่อ

“ท่านป้าเล่าให้ข้าฟังอีกสักนิดเถิดว่าเกิดสิ่งใดขึ้นในเมืองหนาน” จื่อเถิงถามคนตรงหน้า นางสัมผัสได้ว่าเรื่องเล่านั้นคือความจริงทุกประการเพราะลักษณะของสัตว์อสูรหายากเช่นนั้นมีปรากฏอยู่ในตำราเซียน ชาวบ้านธรรมดาไม่มีทางรู้เรื่องนี้อย่างแน่นอน

ครั้นได้ยินเรื่องราวจนครบถ้วนแล้ว จื่อเถิงจึงตัดสินใจว่าจะมุ่งหน้าไปที่เมืองหนานหลังตะวันขึ้นฟ้า

“ศิษย์พี่ไม่กลัวหรือ” อิงฮวาจับชายแขนเสื้อจื่อเถิงพลางมองนางด้วยสายตากังวลเล็กน้อยเพราะกลัวว่าจะรับมือกับสัตว์ร้ายไม่ไหว

“หน้าที่ของเรามิใช่ว่าต้องช่วยเหลือผู้ที่อ่อนแอกว่าหรอกหรือ หากมัวแต่หวาดกลัวเช่นนี้ วิชาเซียนที่ร่ำเรียนมาหลายปีคงจะ

สูญเปล่า” จื่อเถิงอธิบายให้นางฟัง ความมุ่งมั่นฉายชัดในแววตา

“ข้ารู้ ข้าแค่ลังเลเล็กน้อย” นางเม้มปากขมวดคิ้วพยายามรวบรวมความกล้าขึ้นมา

“อีกอย่างเจ้าไม่รู้หรือว่ามากับผู้ใด” จื่อเถิงชี้ไปทางหยางซีอวิ๋น “ศิษย์พี่เก่งกาจ ไม่อาจมีผู้ใดเทียบเทียมได้ เจ้าอย่าได้กลัวไปเลย”

หยางซีอวิ๋นส่ายหน้าเพราะถูกยกยอเกินความเป็นจริง “พวกเจ้าต้องสัญญากับข้าหนึ่งอย่าง”

“...” ทั้งสองคนตั้งใจฟังสิ่งที่เขากำลังจะบอก

“ไม่ว่าจะเกิดสิ่งใดขึ้น หากข้าบอกให้หนี พวกเจ้าต้องรีบหนี เข้าใจหรือไม่” หยางซีอวิ๋นทำสีหน้าจริงจัง

“ข้า...” อิงฮวาและจื่อเถิงอำอึ้งเพราะรู้ความหมายนั้นดี

หากหยางซีอวิ๋นควบคุมสถานการณ์ได้ เขาไม่มีทางบอกให้พวกนางหนี และถ้าเขาเอ่ยปากขอคำมั่นสัญญาเช่นนั้น ความหมายหนึ่งเดียวก็คือเขาจะใช้ตัวเองเป็นเหยื่อล่อให้พวกนางมีเวลาหนี

“รับปากข้า” ศิษย์พี่รอฟังคำตอบ

“ข้าสัญญา” จื่อเถิงพยักหน้า “แต่ว่าศิษย์พี่ ข้า...”

“ไม่ว่าจะเกิดสิ่งใดขึ้นจงทำตามสัญญาที่รับปากข้าจื่อเถิง” หยางซีอวิ๋นไม่ยอมอ่อนข้อให้นาง

การเดินทางช่วยเหลือชาวบ้านครั้งนี้ เขามีหน้าที่ปกป้องนางด้วยชีวิต ไม่ว่าอย่างไรก็ต้องทำให้ดีที่สุดเพราะชะตาที่แท้จริงของนางมีความสำคัญอย่างยิ่ง

“ศิษย์พี่” จื่อเถิงเบ้ปาก ทำตาปริบ ๆ น้ำตารื้นส่งสัญญาณให้อิงฮวาเป็นอย่างดี

“ร้องไห้เช่นนี้ข้าก็ไม่ใจอ่อนหรอกนะ” หยางซีอวิ๋นเบือนหน้าหนี “น้ำตาของพวกเจ้าไม่ได้ผลหรอก”

หยางซีอวิ๋นทำทีไม่สนใจ ทั้ง ๆ ที่ก่อนหน้านี้เขาขอให้อาจารย์สอนวิชาหนึ่งให้เป็นพิเศษ นั่นก็คือวิชาที่ผูกมัดคำสัญญาไม่อาจลบเลือน

หากวันใดมีภัยคืบคลานเข้ามาและเขาไม่อาจต้านทานไว้ได้ วิชาเซียนจะสำแดงฤทธิ์บังคับให้พวกนางทำตามสัญญาอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้

หยางซีอวิ๋นจึงได้แต่ภาวนาว่าการเดินทางครั้งนี้จะราบรื่นจนกว่าพวกเขาจะกลับถึงสำนักก่อนเทศกาลโคมไฟ

ขณะที่อีกฟากหนึ่ง เมืองหนานกำลังลุกเป็นไฟ ยามนั้นเซียนหลายสำนักปรากฏตัวขึ้นที่นั่นเพื่อช่วยเหลือชาวเมือง หลายคนเพิ่งได้ประสบพบสัตว์อสูรในตำนานเป็นครั้งแรก

กระนั้นยังยืนหยัดสู้ไม่ถอยเพราะมีชีวิตของชาวเมืองเป็นเดิมพัน

ลูกน้องมือซ้ายของจอมมารนั่งมองสัตว์อสูรบุกทะลวงกระแทกร่างกายกำยำล่ำสันใส่ประตูวังหลวงอย่างรุนแรง ในขณะที่อีกฟากมีทหารอารักขาผู้เป็นเพียงมนุษย์เดินดินดันประตูนั้นไว้สุดความสามารถ

เฉินซือหยางแทบอยากจะเข้าร่วมวงใจจะขาดแต่จำเป็นต้องแอบหลบอยู่ในหอสังเกตการณ์เพื่อตรวจดูว่าผู้ใดคือคนที่เขากำลังตามหา

“ไม่ใช่ นั่นก็ไม่ใช่ ตรงนั้นก็ไม่ใช่” เขาเลิกคิ้วเบื่อหน่ายกับหน้าที่นี้เต็มทน “ฆ่าให้หมดเลยก็แล้วกัน ข้าชักจะหิวแล้วล่ะ”

“ยังไม่ได้” โจวเหวินหลงห้ามเอาไว้ก่อนเพราะกำลังรอว่าจะมีผู้ใดโผล่มาอีกหรือไม่ สายตากวาดมองผู้คนเบื้องล่างพลันได้เห็นชายหญิงคู่หนึ่งท่าทางไม่เกรงกลัวสัตว์ร้ายตรงหน้า

“อืม เจ้ามองพวกเขาอยู่ใช่หรือไม่” เฉินซือหยางเองก็คิดแบบเดียวกัน หลังจากตามหาเป้าหมายมานานสิบแปดปี เวลานี้พอจะแยกเซียนที่เป็นเทพจุติจากภพสวรรค์กับมนุษย์ธรรมดาได้โดยไม่ต้องใช้อาวุธเทพอีกแล้ว

เหลือก็เพียงแต่ยั่วโมโหให้อีกฝ่ายปลดผนึกพลังที่แท้จริงออกมาก็จะสามารถยืนยันได้ว่าเป็นเทพดาราหรือไม่

เฉินซือหยางยิ้มกว้างหันไปมองสหาย “ข้าลงไปเล่นข้างล่างได้แล้วใช่หรือไม่”

ครั้นได้รับอนุญาตแล้วปีศาจผู้หิวกระหายจึงเริ่มทำลายสรรพสิ่งรอบตัวในทันใด การกระทำโหดร้ายป่าเถื่อนของเขาดึงดูดความสนใจจากชายหญิงคู่นั้นเป็นอย่างยิ่ง

พลันดาบเซียนคู่กายของพวกเขาทั้งคู่ปรากฏขึ้น เข้าต่อกรกับเฉินซือหยางเพื่อหยุดยั้งความสูญเสีย

แน่นอนว่าปีศาจที่ต้องการกำราบเซียนอย่างเฉินซือหยางไม่มีทางออมมือ จึงทำทุกวิถีทางเพื่อกำจัดเซียนทั้งสองด้วยความเหี้ยมโหด

Continue to read this book for free
Scan code to download App

Related chapters

  • มารเร้นกายดับแสงดารา   ตอนที่ 7 มังกรดำ

    ช่วงเวลานั้นเกิดเสียงหวีดร้องและเสียงปะทะพลังของทั้งสองฝ่ายกระหึ่มดังไปทั่วบริเวณเซียนหนุ่มหันไปมองสหายด้วยสายตากังวล“ไม่เป็นอันใดหรอก เลี่ยงหวง” เซียนสาวบอกศิษย์ร่วมสำนักด้วยท่าทีใจเย็นเพราะมีประสบการณ์เรื่องต่อสู้มามาก “จำที่อาจารย์สอนเจ้าได้หรือไม่”เลี่ยงหวงพยักหน้าแล้วรวบรวมพลังเซียนวิชาหนึ่งของสำนักตนเอง พลันแสงสีขาวก่อตัวพองโตเป็นลูกกลม ๆ ขึ้นทีละนิด เขาขมวดคิ้วกลั้นหายใจอยู่ครู่หนึ่งแล้วพูดว่า “ศิษย์พี่ ข้าพร้อมแล้ว”เฉินซือหยางมัวแต่วอกแวกเพื่อกวนประสาทเซียนทั้งสองจึงไม่ทันระวังตัวโดนพลังเซียนขั้นสูงสาดใส่ร่างปีศาจเข้าเต็มเหนี่ยวกระเด็นทะลุบ้านเรือนไปหลายหลังเขายันตัวลุกขึ้นเอียงคอจัดกระดูกที่หักไปหลายท่อนกลับมาดังเดิมแล้วเช็ดเลือดที่มุมปากพลางปัดฝุ่นดินบนเสื้อผ้า แสยะยิ้มที่ไม่ได้เจอผู้ใดมีฤทธิ์เดชรุนแรงเท่าสองคนข้างหน้ามานานมากแล้ว“เฉินซือหยาง เจ้าอย่าลืมว่าพวกเขามิใช่เซียนธรรมดา”มังกรดำเอ่ยปากเตือนเพราะไม่อยากให้สหายเพลี่ยงพล้ำจนเสียการงาน

    Last Updated : 2024-12-16
  • มารเร้นกายดับแสงดารา   ตอนที่ 8 ตัวตนจื่อเถิง

    มังกรดำโผล่หน้าเหนือศีรษะของอิงฮวาอ้าปากรอเขมือบร่างบางที่มิอาจหลีกหนีได้ทัน หากแต่แสงจากกระบี่เซียนกำลังง้างปากของมังกรดำเอาไว้ไม่ยอมให้มันบดขยี้จื่อเถิงและหยางซีอวิ๋นยังไม่อาจผละจากกองทัพปีศาจที่อยู่รอบตัวได้ ครั้นกำจัดไปหนึ่งก็จะถูกอีกสองถ่วงแข้งขาเอาไว้อย่างรู้งานในเมื่อไม่อาจขย้ำเหยื่อตัวน้อยตรงหน้าได้ มังกรดำจึงเปลี่ยนวิธี ค่อย ๆ ดูดกลืนพลังชีวิตของอิงฮวาแทนเส้นสายสีขาวจาง ๆ ถูกดึงยืดออกจากร่างเซียนน้อยทีละนิดจนนางไม่อาจกลั้นเสียงร้องเจ็บปวดได้ค่อย ๆ หมดแรงต้านทานจนปากของสัตว์อสูรเริ่มปิดลงได้เรื่อย ๆ“ศิษย์พี่...” เสียงหอบเหนื่อยล้าของอิงฮวาพึมพำอยู่ลำพัง คิดในใจว่าวันนี้ตนเองอาจจะไม่รอดจึงร่ายพลังน้อยนิดที่เหลืออยู่ส่งสัญญาณให้พวกเขาดวงไฟสีขาวพุ่งเข้าหาจื่อเถิงกับหยางซีอวิ๋นในพริบตาจึงทันได้หันรอยยิ้มสุดท้ายของศิษย์น้องเล็กที่กำลังจะถูกมังกรดำเขมือบอยู่รอมร่อเหตุการณ์นี้กระตุ้นให้จื่อเถิงเปิดผนึกเทพดาราออกส่วนหนึ่งเกิดรอยอักขระโบราณขึ้นที่แขนของนางพลันพลังเทพดาราส

    Last Updated : 2024-12-23
  • มารเร้นกายดับแสงดารา   ตอนที่ 9 หลบหนี

    เมื่อได้ฟังคำบอกเล่าเกี่ยวกับเมล็ดพันธุ์นั้นแล้ว จื่อเถิงจึงไม่รอช้านั่งสมาธิรวบรวมพลังเซียนของตนเองไว้ใจกลางจุดกำเนิดพลังเพื่อเก็บเกี่ยวสรรพสิ่งรอบตัวหลอมรวมเมล็ดพันธุ์ให้สมบูรณ์เลี่ยงหวงมีสีหน้ากังวลที่เห็นนางทำเช่นนั้นจึงถามศิษย์พี่ของนาง “นางกดดันตนเองเกินไปหรือไม่ เดิมทีเมล็ดพันธุ์จะสมบูรณ์เมื่อครบกำหนดอายุขัยในชาตินั้น แต่นี่นางจะย่นเวลาเพื่อหลอมรวมมันเชียวหรือ”“พวกเรามีทางเลือกด้วยหรือ” หยางซีอวิ๋นกล่าวขึ้น “จอมมารที่ไม่ควรปรากฏตัวกลับอยู่แดนมนุษย์ในเวลานี้ ไม่มีใครล่วงรู้เลยว่ามันจะคร่าอีกกี่ชีวิตเพื่อตามหานาง”จื่อเถิงรู้ดีว่าตนเองมีขีดจำกัดเท่าใด หากมีความมุ่งมั่นแล้ว ไม่ว่าสิ่งใดนางก็จะทำให้สำเร็จจงได้ ในเมื่อมีชีวิตของทุกคนเป็นเดิมพัน นางจึงไม่อาจอยู่เฉยปล่อยให้ใครต่อใครถูกทำลายทว่า พวกเขาไม่อาจหลบซ่อนอยู่ในเมืองจิวหรงได้นานเพราะสัตว์อสูรหลายตนผุดขึ้นมาราวกับดอกเห็ด

    Last Updated : 2025-01-01
  • มารเร้นกายดับแสงดารา   ตอนที่ 10 ตามหา

    ภพสวรรค์เทียนจวินและเทพอาวุโสถูกพลังมารกำบังตาชั่วขณะหนึ่งจึงไม่ทันสังเกตว่าจอมมารเล่นแร่แปรธาตุหลบหนีตามสังหารคนของตัวเองร่างมารของกงจื่อเย่ที่อยู่บนแดนมนุษย์ดูดกลืนพลังชีวิตผู้คนเป็นอาหารทำให้พลังความชั่วร้ายของเขาในร่างมารบนสวรรค์เพิ่มขึ้นด้วยแท่นเสาศักดิ์สิทธิ์ที่ผูกมัดเขาเอาไว้ ถูกกงจื่อเย่สั่นสะเทือนเล็กน้อยให้อีกฝ่ายตกใจเล่น ในใจมองว่าพลังเทพเซียนเหล่านั้นช่างเหมือนเด็กน้อยไม่มีผิดเขาสั่งการหลิวอิงอิงค้นหาคำตอบว่าเทพสงครามเล่นกลอันใดกับตัวเขาก่อนที่ร่างจะสลาย พลางจ้องหน้าเทพวายุด้วยรอยยิ้มเจ้าเล่ห์“ดวงตาสีฟ้า เรือนผมสีขาว เหมือนกันมากทีเดียว” กงจื่อเย่หัวเราะลั่น แม้จะยังไม่เคยพบหน้าเทพดาราตัวจริงมาก่อน แต่ภาพที่เห็นจากรายงานของโจวเหวินหลงก็ทำให้เข้าใจอย่างหนึ่งไม่ว่านางจะลงมาเกิดเป็นผู้ใด หากแต่รูปลักษณ์ของนางไม่เคยเปลี่ยน

    Last Updated : 2025-01-06
  • มารเร้นกายดับแสงดารา   ตอนที่ 11 คลาดกันอีกครา

    แดนมนุษย์หยางซีอวิ๋นประคองร่างบางของอิงฮวาไว้ข้างกาย มืออีกข้างที่เหลือกำด้ามกระบี่กวัดไกวสู้กับปีศาจสองสามตนที่กำลังล้อมหน้าล้อมหลังพวกมันเอื้อมมือสาวปลายผมยาวของอิงฮวาติดไปด้วยพลางยื้อหยุดฉุดกระชากตามใจหมายจะได้ดูดกลืนพลังชีวิตเซียนแสนบริสุทธิ์“ศิษย์พี่ ปล่อยข้าไว้เถิด” อิงฮวาเอ่ยปากบอกเขา สีหน้าจริงจังเพราะรู้สึกว่ากำลังเป็นตัวถ่วงทำให้เขาเหาะเหินเดินไม่สะดวก“ไม่ได้!” หยางซีอวิ๋นปฏิเสธทันควัน “หากไม่ได้เจ้าช่วยไว้เมื่อครู่ คงเป็นข้าที่ถูกพวกมันทำร้ายจนสาหัสเพียงนี้”เช้าวันนี้ ทั้งสองคนเพียงแค่ออกมาตรวจดูลาดเลาพื้นที่ภายนอกเท่านั้นเพราะเห็นว่ามารปีศาจไม่สามารถเข้ามายังป่าสนแดงฝั่งตะวันออกได้ทว่า ความสงบเงียบกลับกลายเป็นภาพลวงตาที่ปีศาจตนหนึ่งสร้างเอาไว้ ศิษย์สำนักดาราสวรรค์ถูกหลอกเข้าเต็มเปาจนเพลี่ยงพล้ำตกอยู่ในวงล้อมของ

    Last Updated : 2025-01-13
  • มารเร้นกายดับแสงดารา   ตอนที่ 12 อย่าไว้ใจผู้ใด

    เมื่อได้ยินศิษย์น้องพูดเช่นนั้น หยางซีอวิ๋นได้แต่ส่ายหน้าเพราะเขาเองก็ไม่รู้เลยว่าปลายทางของโชคชะตาจะเป็นอย่างไร จึงเอ่ยปลอบใจจื่อเถิงว่า “เช่นนั้นข้าจะพยายาม”“แล้วเจ้าเล่าอิงฮวา” จื่อเถิงถามศิษย์น้องบ้าง“ข้าก็จะพยายามเจ้าค่ะ” นางพยักหน้ารับปากเป็นอย่างดีจู่ ๆ ท้องฟ้าโปร่งกลับมีเค้าเมฆฝนราวกับพายุลูกใหญ่กำลังจะพัดผ่านมาทางนี้ หยางซีอวิ๋นพูดขึ้นมาว่า “ไม่ไกลจากที่นี่คงเป็นเมืองเป่ย พวกเรารีบไปหาที่พักก่อนฝนตกจะดีกว่า”หนึ่งก้านธูปต่อมาครั้นเข้ามายังใจกลางเมืองเป่ย ทหารอารักขาหลายสิบนายต่างกรูกันเข้ามาทำความเคารพพวกเขาราวกับว่ารู้จักกันมาก่อน“เอ่อ... พวกท่าน...” จื่อเถิงทำตัวไม่ถูก มือไม้พันกันเป็นระวิง“ท่านเซียนสำนักดาราสวรรค์ใช่หรือไม่” หนึ่งในนั้นถามพวกเขาสีหน้

    Last Updated : 2025-01-15
  • มารเร้นกายดับแสงดารา   ตอนที่ 13 จงรักษาสัญญา

    ก่อนหน้านั้นหนึ่งชั่วยามหยางซีอวิ๋นเดินตรวจตราดูรอบเรือนรับรองจึงรู้สึกว่าทหารอารักขาของเจ้าเมืองยืนอยู่รายรอบจนผิดสังเกต ไม่ใช่เพื่อดูแลปกป้องแต่ทำเหมือนต้องการกักขังไม่ให้พวกเขาหนีไปที่ใดแม้แต่อิงฮวาก็รู้สึกได้เช่นกันว่าบรรยากาศที่เป็นมิตรเมื่อครู่เปลี่ยนเป็นเย็นยะเยือกน่ากลัวเข้ามาแทนที่ นางขยับเข้ามาใกล้ศิษย์พี่บอกเขาว่า “ศิษย์พี่ ข้าคิดว่าคนพวกนั้นแปลก ๆ เจ้าค่ะ"ผู้เป็นศิษย์พี่พยักหน้าบอกให้นางหาช่องทางหนีเตรียมเอาไว้อย่างเงียบ ๆ ส่วนเขาจะไปปลุกจื่อเถิงแล้วหนีออกไปพร้อมกันแม้ว่ายามนี้จะมีฝนกระหน่ำเทลงมา“เจ้าค่ะ” นางพยักหน้าทำตามคำสั่งครั้นจะแยกตัวออกไปกลับได้ยินเสียงกุกกักดังมาจากอีกฟากหนึ่งของประตูที่พวกเขายืนอยู่จึงกระชับอาวุธในมือค่อย ๆ ย่างกรายเข้าไปตรวจสอบตุ๊บ!!!เด็กน้อยคนหนึ่งร่วงตกจากขอบหน้าต่

    Last Updated : 2025-01-17
  • มารเร้นกายดับแสงดารา   ตอนที่ 14 เผชิญหน้า

    ความรู้สึกที่ถาโถมทำให้พลังเซียนที่ถูกจอมมารกดขี่เอาไว้แข็งแกร่งขึ้นมาในทันที สีหน้าของนางแปรเปลี่ยนราวกับเป็นคนละคนคิดในใจด้วยความมุ่งมั่นว่าจะต้องพาพวกเขาหนีไปจากตรงนี้ให้ได้กงจื่อเย่สัมผัสได้ว่าพลังเซียนของนางกำลังต่อต้านเขาอย่างรุนแรงกว่าเดิมไม่อาจออมมือทำเป็นเล่นได้อีกต่อไปจึงหล่อหลอมพลังมารที่แท้จริงขึ้นมาเพื่อสังหารนางให้สิ้นซากทว่า จื่อเถิงคือผู้ที่เทพบรรพกาลเลือกเอาไว้ การทำลายนางจึงไม่ง่ายอย่างที่เขาคิด สายพลังบริสุทธิ์สะท้อนกลับมาทำลายตัวเขาเองจนนิ่งงันไปชั่วขณะไอมารที่ควบคุมจื่อเถิงและอิงฮวาอยู่จึงอ่อนแอลงชั่วคราว ทำให้พวกเขาได้โอกาสโต้กลับร่ายพลังเซียนพุ่งเข้าใส่ลูกน้องจอมมารในพริบตาจนลอยกระเด็นไปคนละทางพลังกึ่งเทพของจื่อเถิงไม่อาจควบคุมได้เพราะจิตใจที่ไม่มั่นคงมันสะท้อนเข้าหาหยกสีชมพูที่อาจารย์เจ้าสำนักให้นางเอาไว้จื่อเถิงจึงรู้สึกตัวตั้งสติร่ายวิชาเคลื่อนย้ายโดยใช้พลังใ

    Last Updated : 2025-01-19

Latest chapter

  • มารเร้นกายดับแสงดารา   ตอนที่ 57 นางรักเจ้า แต่รักข้ามากกว่า

    เช้าวันหนึ่งในหมู่บ้านดอกท้อนกน้อยสีดำไซ้ขนอยู่ข้าง ๆ สวีลู่ชิงที่นั่งหลับตาฟื้นฟูแก่นวิญญาณของตนเองอยู่เงียบ ๆ ส่วนอีนั่ววิ่งเล่นอยู่กับสมุนจอมมารโดยไม่รู้จักเหน็ดเหนื่อยบรรยากาศภายในหมู่บ้านเล็ก ๆ เต็มไปด้วยความสดชื่นสนุกสนานจนบางทีพวกเขาลืมไปเลยว่าสาเหตุที่ทำให้ทุกคนมาอยู่ร่วมกันในที่แห่งนี้คืออะไรสวีต้าเฟิงเดินเข้ามาทักทายน้องสาวยามเช้าเหมือนอย่างเคย รอยยิ้มบางประดับบนใบหน้านึกเอ็นดูนางราวกับเป็นเด็กน้อย แต่เวลานี้น้องสาวตัวเล็กในวันวานกลับมีบุตรชายจอมซนเหมือนนางไม่มีผิดเขาจึงรับหน้าที่ดูแลทั้งคู่ด้วยความเต็มใจ ถึงอย่างนั้นแล้วดวงตาสีฟ้ากลับจ้องมองนกน้อยตรงหน้าจิ๊บ จิ๊บ จิ๊บ จิ๊บ (มองหน้าข้า มีเรื่องอันใด)“...” เทพวายุ

  • มารเร้นกายดับแสงดารา   ตอนที่ 56 ยกโทษให้พ่อเถอะ

    สองอาทิตย์ต่อมาสมุนจอมมารทั้งสามล้อมวงก้มมองเจ้าถ่านด้วยความสงสัยว่านกน้อยตัวนี้เป็นมารปีศาจเผ่าพันธุ์ใดกันแน่“ผ่านมานานถึงเพียงนี้ เหตุใดบาดแผลจึงยังไม่หายหรือว่าถูกพลังร้ายกาจของผู้ใดมา” เฉินซือหยางขมวดคิ้วเป็นปมนึกสงสัยเพราะจับตามองอยู่นานแล้ว“พลังเทพอาจจะรักษาไม่ได้เพราะเป็นนกที่มาจากภพมารแต่ถึงอย่างไรพลังของนายน้อยก็ไม่ได้ผลอีก ข้าว่าเจ้าถ่านนี่มีอะไรแปลก ๆ” หลิวอิงอิงวิเคราะห์ตามความรูสึกของตัวเอง มือข้างหนึ่งเอื้อมมาจับปีกที่เป็นแผลจิ๊บ จิ๊บ จิ๊บ จิ๊บ“เฮอะ ดูสิ ข้าว่ามันบ่นเจ้าใหญ่เลย” โจวเหวินหลงพูดบ้าง คนที่มีสติดีที่สุดอย่างเขาจึงนึกเรื่องบางอย่างออกพลันจ้องมองดวงตาของนกน้อยอีกครั้งหนึ่ง&l

  • มารเร้นกายดับแสงดารา   ตอนที่ 55 จอมมารยังคงเจ้าเล่ห์

    บ้านหลังเล็กของมารน้อยเมื่อทั้งสองฝ่ายตัดสินใจได้แล้วว่าจะทำอย่างไรต่อไปจึงร่างสัญญาสงบศึกชั่วคราวเพราะต้องการดูลาดเลาสถานการณ์ที่ไม่คิดว่าจะเกิดขึ้นจริงบ้านหลังเล็กที่เคยอยู่กันเพียงสองคน เวลานี้มีหลังอื่นผุดขึ้นมาอยู่ใกล้ ๆ กันอีกสามสี่หลังจนแทบจะกลายเป็นหมู่บ้านที่มีทั้งมารและเทพอยู่ร่วมกันอย่างสันติต้นท้อรายรอบกำลังผลิดอกสีชมพูบานสะพรั่งเหมือนภาพวาด อีนั่วจึงตั้งชื่อหมู่บ้านของเขาว่าหมู่บ้านดอกท้อ ในใจคิดอยากอยู่ที่แห่งนี้อย่างสงบตลอดไปพลังของอีนั่วถูกกลบซ่อนเอาไว้ไม่ให้มารปีศาจตนอื่นรู้ รอบเขตบ้านจึงมีม่านศักดิ์สิทธิ์ของเทพวายุห้อมล้อมอยู่ด้วย“เจ้าจะทำเช่นนั้นไม่ได้ พวกข้าอึดอัด” หลิวอิง

  • มารเร้นกายดับแสงดารา   ตอนที่ 54 คนละครึ่งทาง

    สวีลู่ชิงและพี่ชายรอข่าวคราวจากเสี่ยวไป๋อยู่นอกเขตแดนมารนางเดินวนไปวนมาด้วยความกังวลกลัวว่าจะเกิดเรื่องไม่ดีกับอีนั่วจนแทบอยากจะฝ่าเข้าไปในภพมารเพื่อตามหาเขาด้วยตัวเอง“นั่งลงก่อนเถิด เจ้าเดินไปเดินมาจนข้าตาลายแล้ว” สวีต้าเฟิงส่ายหน้าพลางบ่นพึมพำ“ข้าเป็นห่วงเขา” นางเอ่ยตามตรง ใจหนึ่งรู้สึกตื่นเต้นที่จะได้เจอกับมารน้อยครั้งแรกแต่อีกใจกลับสัมผัสความรู้สึกคุ้นเคยได้อย่างบอกไม่ถูกช่วงเวลาเพียงเสี้ยวหนึ่ง เสี่ยวไป๋ส่งสัญญาณบางอย่างกลับมาหาผู้เป็นเจ้านายบอกให้รู้ว่ากำลังมาถึง รอยยิ้มบางจึงผุดขึ้นมาด้วยความยินดีพลันเงาดำตะคุ่มปรากฏด้านหลังเขตแดนภพมาร“สวีลู่ชิง ถอยออกมา” เทพวายุดึงร่างน้องสาวให้ออกห่างเพราะกลัวจะมีอันตราย “เจ้าอย่าเพิ่งวู่วาม จงอย่าล

  • มารเร้นกายดับแสงดารา   ตอนที่ 53 ฝากดูแลลูก

    หลังจากกงจื่อเย่สูญสิ้นไปทัพมารที่กำลังบุกสวรรค์ครานี้จึงแตกพ่ายเพราะไร้ผู้นำถูกกองทัพสวรรค์ขับไล่กลับภพมารในเวลาไม่นานเหล่าเทพเซียนต่างพากันโห่ร้องยินดีเพราะภัยคุกคามถูกกำจัดแล้ว หากแต่เทพอาวุโสและเทพชั้นสูงบางคนยังคงไม่อาจวางใจได้มากนักแต่ถึงอย่างนั้นแล้วก็พอจะโล่งใจได้บ้างว่าหลายพันปีต่อจากนี้สามภพคงจะสงบสุขราบรื่น และหากถึงเวลาที่จอมมารฟื้นคืนกลับมา ตอนนั้นพวกเขาคงหาวิธีรับมือได้บ้างแล้วตำหนักเทพดารามีแขกเข้าเยี่ยมไม่ขาดสายเพราะได้ยินเรื่องราวปากต่อปากจึงมาถามไถ่ด้วยตนเอง สวีลู่ชิงจึงบอกพวกเขาแต่เพียงว่า “มารผู้นั้นคงกลับใจกระมัง แต่ข้าไม่รู้หรอกว่าเป็นเพราะอันใด”นางกล่าวเช่นนั้นเพราะไม่รู้จริง ๆ แม้กงจื่อเย่จะจากไปแล้วแต่ความทรงจำที่ขาดหายไปก็ยังไม่กลับคืนมา

  • มารเร้นกายดับแสงดารา   ตอนที่ 52 สัญญาได้หรือไม่

    เทพเซียนที่ยืนอยู่รายรอบมองหน้ากันด้วยความงุนงงครั้นจะพุ่งตัวเข้าไปดึงจอมมารออกมาจากที่นั่นก็ทำไม่ได้เพราะรังแต่จะเสี่ยงชีวิตของตัวเองไปด้วยคราวแรกก็คิดว่าเขาเข้ามาขัดขวางไม่ให้นางทำภารกิจสำเร็จ แต่ไป ๆ มา ๆ กลับได้เห็นว่าจอมมารกำลังใช้ร่างกายตัวเองเป็นเกราะกำบังและรับอสนีบาตแต่เพียงผู้เดียว“สวีต้าเฟิง นี่มันเรื่องอันใดกัน” หนึ่งในเทพอาวุโสถามเขาเพราะเพิ่งมาถึง“ข้าก็ไม่รู้ขอรับ” เขาไม่อาจตอบคำถามนั้นได้เพราะไม่คิดว่าเรื่องราวตรงหน้าจะกลับตาลปัตรได้ขนาดนั้น“แต่ถ้าปล่อยเอาไว้แล้วจะจัดการจอมมารได้อย่างไร เจ้าก็รู้ไม่ใช่หรือว่าเทพดาราจะต้องเป็นผู้รับทัณฑ์สวรรค์ ไม่ได้การแล้ว ข้าต้องรีบเข้าไปห้าม”เทพอาวุโสส่ายหน้าหนักใจ ช่วงท

  • มารเร้นกายดับแสงดารา   ตอนที่ 51 อย่าผลักไสข้า

    เมื่อได้ยินคำพูดเช่นนั้นคนเป็นพี่ชายอย่างสวีต้าเฟิงแทบทำอาวุธหลุดมือ ในใจนึกโกรธเกรี้ยวที่จอมมารเจ้าเล่ห์พูดอะไรไม่เข้าเรื่อง“เจ้าอย่ามาพูดซี้ซั้ว” เทพวายุกำอาวุธประจำกายไว้แน่น “กล้าพูดใส่ร้ายให้น้องสาวข้ามีมลทิน เห็นทีคงไม่อยากมีชีวิตอยู่แล้วใช่หรือไม่”กงจื่อเย่ไม่ยอมน้อยหน้าเพราะทุกสิ่งที่พูดออกไปเป็นความจริงจึงยืนยันว่า “ข้าคือสามีที่ถูกต้องตามประเพณีในด่านเคราะห์ชาติที่สองของนาง” ใจจริงเขาอยากจะพูดต่อด้วยซ้ำไปว่ามีพยานรักหนึ่งคนที่มีดวงตาสีฟ้างดงามเหมือนกับนางแต่เพื่อความปลอดภัยของมารน้อย เขาจึงต้องเก็บเรื่องนี้เอาไว้ต่อไป“เฮอะ” เทพปฐพีแสยะยิ้ม “ก็แค่ด่านเคราะห์ เจ้าจะมายึดถือเช่นนั้นได้อย่างไร” เขาถามออกไปแต่ในใจเริ่มคิดแล้วว่าถ้าเขาได้ตัวภรรยากลับไปแล้วเรื่องราวสงครามของจอมมา

  • มารเร้นกายดับแสงดารา   ตอนที่ 50 บุกสวรรค์ตามหาภรรยา

    สายใยระหว่างแม่ลูกที่ถักทอในแก่นวิญญาณมารน้อยทำให้เขารู้ว่าเวลานี้นางหายไปอยู่ในที่แสนไกล ถึงอย่างนั้นก็ยังคงหวังลึก ๆ และนั่งรอมารดาอยู่ที่เดิมทว่า ผ่านไปวันแล้ววันเล่า ในใจของอีนั่วเศร้าหมองและคิดถึงนางยิ่งนักจึงตัดสินใจอย่างเด็ดขาด ไม่เกรงกลัวว่าจะมีอันตรายใด ๆ เกิดขึ้นกับตัวเองพลันใช้พลังมารหายตัวเข้าสู่แดนสวรรค์ในพริบตาอีนั่วรีบพุ่งไปที่ตำหนักเทพดาราในทันที ไม่ข้องแวะที่ใดเพราะห่วงว่าจะมีใครสังเกตเห็นตัวตนมารปีศาจ คอยแอบอยู่ในมุมมืด พรางตัวราวกับเป็นอากาศ แล้วกวาดสายตามองหามารดา“ท่านแม่...” เขาเผลอเรียกออกไปแบบนั้นอย่างเคยแต่หยุดชะงักไปเพราะรู้สึกได้ว่าหญิงสาวตรงหน้ามีอะไรแปลกไปจากเดิม นางกำลังหัวเราะและยิ้มให้คนที่ยืนอยู่ข้าง ๆ โดยไม่รู้สึกตัวเลยว่าเลือดเนื้อเชื้อไขตัวน้อย ๆ รอนางเพียงลำพัง

  • มารเร้นกายดับแสงดารา   ตอนที่ 49 มารน้อยหวนกลับ

    วันหนึ่งในฤดูฝนเสียงฟ้าร้องคำรามก้องไปทั่วบริเวณเป็นเวลาเกือบสองชั่วยาม พื้นดินรอบบ้านเปียกแฉะกลายเป็นโคลนและมีแอ่งน้ำเล็ก ๆ เกิดขึ้นหลายแห่งทุ่งดอกไม้สีเหลืองพัดไหวตามสายฝนลมพัดในเวลานั้นราวกับเริงระบำแม้อู๋เยว่ชิงจะถูกพลังของอีนั่วปกปิดเรื่องบางอย่างเอาไว้ แต่นางที่เป็นถึงเทพดาราย่อมเฉลียวใจได้ในบางครั้งว่าทุกสิ่งมันแปลกเกินไป อายุที่เพิ่มมากขึ้นในทุกวัน ไม่มีมนุษย์ผู้ใดหรอกจะอายุยืนร้อยปีแต่เนื้อหนังร่างกายและใบหน้ายังคงเหมือนวันวานไม่เปลี่ยนแปลงโดยเฉพาะอีนั่ว ร้อยปีผ่านมาแล้วเขายังคงเหมือนเด็กอายุเจ็ดขวบไม่มีผิดสายตาที่ล่องลอยราวกับจิตใจไม่อยู่กับเนื้อกับตัวทำให้บุตรชายสังเกตได้ในพริบตา เขาเอียงคอเล็กน้อยก่อนที่พลังมารจาง ๆ ค่อย ๆ เคลื่อนผ่านไปหาอู๋เยว่ชิง

Explore and read good novels for free
Free access to a vast number of good novels on GoodNovel app. Download the books you like and read anywhere & anytime.
Read books for free on the app
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status