ห้าปีต่อมา...
ณ เมืองเซริตาน่า แคว้นซานโตนี่
ประเทศคารัสซีเลียเป็นประเทศที่ตั้งอยู่ในหมู่เกาะ ดังนั้นพื้นที่ของแต่ละแคว้นจึงติดกับทะเล และมีหมู่เกาะเล็กๆ เป็นบริวาร แคว้นซานโตนี่เป็นแคว้นที่ตั้งอยู่ในเกาะแห่งหนึ่ง มีเมืองชายทะเลชื่อเมืองเซริตาน่า เป็นแหล่งท่องเที่ยวสำคัญแห่งหนึ่ง ท่าเรือน้ำลึกเซริตาน่ารองรับเรือสำราญจากทั่วโลก
เด็กหญิงตัวน้อยผมหยักสีน้ำตาลเจือสีทองยาวสลวย สวมชุดกระโปรงผ้าพิมพ์ลายดอกไฮบิสคัสสีฟ้าสด ยืนโบกป้ายชื่ออยู่บริเวณท่าเรือ ตอนนี้เรือสำราญสีขาวลำใหญ่กำลังเทียบท่าอยู่ รวมถึงเรือยอร์ชหลายลำ
“ไฮบิสคัสบีช ยินดีต้อนรับค่า คุณลูกค้าเชิญทางนี้ค่า”
เสียงแจ้วร้องเรียกลูกค้า ทำให้คนเห็นรู้สึกเอ็นดู แม่หนูน้อยวัยไม่เกินห้าขวบคนนี้น่ารักน่าชังเหลือเกิน ใบหน้ากลมป้อม แก้มเป็นพวง ริมฝีปากจิ้มลิ้มเจือสีชมพูระเรื่อ รับกับจมูกโด่งเล็ก บวกกับนัยน์ตาสีน้ำตาลใส ช่างน่าเอ็นดู หนูน้อยโบกป้ายไปมาต้อนรับลูกค้าของโฮม สเตย์เล็กๆ ของมารดา ซึ่งตั้งอยู่ไม่ไกลจากท่าเรือแห่งนี้
“ลูกค้ามาครบแล้วโรซี่ เราต้องพาพวกเขาไปพักผ่อน”
นายพัชรแตะไหล่หลานสาวให้หยุดโบกป้าย ลูกค้าจำนวนสิบคนของทริปนี้มากันครบแล้ว เขาอุ้มหลานสาวพามานั่งข้างคนขับ พารถตู้ที่ถูกดัดแปลงให้หลังคาเปิดออกได้ เดินทางไปยังโฮมสเตย์เล็กๆ นามว่า ไฮบิสคัสบีช โฮมสเตย์ ที่ซึ่งเขาและอลิชาลูกสาวได้พากันมาเริ่มต้นชีวิตใหม่ที่นี่เมื่อห้าปีก่อน
ในตอนนั้นเขาป่วยหนักด้วยอาการหลอดเลือดตีบในหัวใจ ต้องได้รับการผ่าตัด เงินที่มีอยู่ไม่พอจ่ายค่ารักษา จนอลิชาต้องไปรับจ้างอุ้มบุญโดยไม่ยอมบอกพ่อ กว่าเขาจะรู้ลูกก็ได้ทำตามขั้นตอนไปแล้ว
เมื่ออลิชาคลอดได้มอบเด็กผู้ชายให้นายจ้างไปโดยเก็บเด็กผู้หญิงคู่แฝดเลี้ยงไว้เอง เงินค่าจ้างงวดสุดท้าย มากพอจะให้สองพ่อลูกพากันมาเริ่มต้นใหม่ที่นี่
อลิชาซื้อบ้านและที่ดิน เริ่มต้นทำโฮมสเตย์เล็กๆ มีบ้านพักเพียงห้าหลัง และเปิดร้านอาหารและร้านกาแฟในบริเวณชายหาด กิจการเล็กๆ นี้ มีกำไรไม่มากมายนัก แต่ก็พอเลี้ยงดูสามชีวิตให้อยู่อย่างไม่ลำบาก นายพัชรทำหน้าที่เป็นคนดูแลลูกค้า คอยขับรถรับส่ง รวมถึงเป็นคนสวนดูแลต้นไม้ อลิชาเป็นคนดูแลร้านอาหารและร้านกาแฟ จ้างลูกจ้างเป็นคนท้องถิ่นสองคนให้ช่วยทำความสะอาดบ้านพัก และเป็นเด็กเสิร์ฟในร้าน ส่วนแม่หนูโรซี่ขันอาสาเป็นประชาสัมพันธ์ตัวน้อย คอยโบกป้ายเรียกลูกค้า บางครั้งก็สวมบทนักร้องนักดนตรีตัวจิ๋ว ดีดอูคูเลเล่พร้อมกับร้องเพลงขับกล่อมลูกค้า ที่มาใช้บริการร้านอาหารและร้านกาแฟของมารดา ความน่ารักน่าเอ็นดูทำให้หนูน้อยได้ทิปเป็นกอบเป็นกำ เอามาหยอดกระปุกออมสินทุกวันจนล้นกระปุก เรียกได้ว่าเป็นเศรษฐีนีตัวน้อยกันเลยทีเดียว
“แม่ขา โรซี่หิวข้าว อยากกินข้าวผัด”
พอรถจอดร่างกลมป้อมก็วิ่งถลาไปหามารดาที่ร้านอาหารทันที ร้องเรียกหาอาหารจานโปรดของตัวเอง คนเป็นแม่อุ้มร่างกลมๆ นั้นพาไปนั่งหลังเคาน์เตอร์ จัดการผัดข้าวผัดสับปะรดใส่กุ้งของโปรดให้ลูกสาวตัวน้อยได้รับประทาน
“อร่อยที่สุดเลยค่ะ แม่ลิช”
หนูโรซี่ตักเข้าปากเคี้ยวตุ้ยๆ พลางเอ่ยชมมารดา สีหน้ามีความสุข แก้มยุ้ยแดงๆ น่าเอ็นดู
“ค่อยๆ เคี้ยวค่ะลูก เดี๋ยวติดคอ นี่น้ำมะพร้าวหวานชื่นใจ”
อลิชาส่งน้ำมะพร้าวให้ลูกดื่ม นอกจากข้าวผัดสับปะรดแล้วก็มีน้ำมะพร้าวที่หนูน้อยโรซี่โปรดปราน กินได้แทบทุกวันไม่มีเบื่อ
“แม่ลิชขา โรซี่ขึ้นไปร้องเพลงได้ไหมคะ”
หลังจากกินอิ่มหนูน้อยก็หากิจกรรมทำ สิ่งที่มักจะทำในช่วงบ่ายคือการขึ้นเวทีร้องเพลงให้ลูกค้าฟัง หนูน้อยมีพรสวรรค์ด้านดนตรี และชื่นชอบเครื่องดนตรีคล้ายกีตาร์ตัวเล็กที่เรียกว่าอูคูเลเล่มาก แม้การหัดจะทำให้นิ้วเล็กๆ เจ็บจากการดีด แต่โรซี่น้อยไม่ยอมแพ้ ดีดพอฟังเป็นเพลงได้อย่างน่าทึ่ง แถมยังชอบร้องเพลงเสียงใสแจ๋วน่าฟัง เจ้าตัวชอบร้องเพลงประกอบอนิเมชั่นการ์ตูนเจ้าหญิงดิสนีย์ บางครั้งก็ชอบแต่งตัวเลียนแบบเจ้าหญิงในการ์ตูนเหล่านั้น เช่นเจ้าหญิง สโนว์ไวท์ เจ้าหญิงเบล ตอนนี้ดูจะถูกใจกับชุดของโมอาน่าเด็กสาวชาวเกาะ หัดร้องเพลงได้อย่างไพเราะด้วยน้ำเสียงเล็กๆของตัวเอง
“I wish I could be the perfect daughter. ไอ วิช ไอ คู้ด บี เดอะ เพอเฟก ดอเท่อ”
เสียงใสแจ๋วร้องเนื้อเพลงท่อนนี้อย่างตั้งใจ พร้อมกับหันมายิ้มให้ผู้เป็นมารดา คำแปลของเพลงท่อนนี้คือ หนูอยากเป็นลูกสาวที่ดีและเชื่อฟัง เรียกรอยยิ้มจากคนเป็นแม่พร้อมกับขอบตาที่ร้อนผ่าว
อลิชามองร่างเล็กที่กำลังขับร้องเพลง และดีดอูคูเลเล่คลอกับเสียงเพลงไปด้วย เจ้าตัวน้อยของแม่เติบโตขึ้นมาอย่างแข็งแรงสมบูรณ์ แถมยังฉลาด เชื่อฟัง และน่ารักขนาดนี้ ห้าปีที่แล้วหากเธอยอมให้ลูกถูกทำลาย วันนี้คงไม่ได้เห็นภาพอันน่าชื่นใจนี้ โรซี่น้อยเปรียบดังแสงตะวันของผู้เป็นแม่ เป็นแสงสว่างนำทางชีวิต เป็นความอบอุ่นของหัวใจ เป็นทุกสิ่งทุกอย่างในชีวิตของเธอ
“โรซี่เก่งและน่ารักมาก พ่อดีใจที่มีหลานอย่างแก”
นายพัชรเดินเข้ามานั่งข้างๆ ลูกสาว เขามองหลานตัวน้อยด้วยสายตารักใคร่ โรซี่ได้พรสวรรค์เรื่องดนตรีมาจากยายของแก แอนิต้าแม่ของอลิชาเป็นไกด์สาวที่มีความสามารถด้านดนตรีด้วย เขาพบเธอตอนที่เดินทางมาท่องเที่ยวที่คารัสซีเลีย ความรักงอกงามขึ้นจนตกลงใจใช้ชีวิตร่วมกัน เขาไม่หวนกลับแผ่นดินเกิดทิ้งทุกอย่างที่มีมาอยู่กับเธอ แต่ความสุขช่างแสนสั้นเมื่ออลิชาเรียนจบมหาวิทยาลัย แอนิต้าประสบอุบัติเหตุเรือล่มเสียชีวิต ทิ้งเขากับลูกสาวไว้ลำพังสองพ่อลูก เขาผูกพันกับคารัสซีเลียมากจึงไม่กลับเมืองไทย เมื่ออลิชาพาย้ายจากในตัวเมืองคาซาญ่ามายังเซริตาน่า เขาช่วยลูกสาวเลี้ยงหลานและสร้างโฮมสเตย์แห่งนี้ขึ้นมา หวังจะใช้ชีวิตบั้นปลายอย่างสุขสงบ ณ ดินแดนชายทะเลแห่งนี้
“หนูก็ภูมิใจในตัวแกค่ะพ่อ ถ้าแม่ยังอยู่แม่คงดีใจที่หลานมีส่วนคล้ายแม่มาก”
อลิชาเอ่ยขึ้น ภาพจำของมารดาคล้ายซ้อนทับอยู่บนตัวลูกน้อย ตัวเธอไม่มีพรสวรรค์เรื่องดนตรีเลย แต่กลับมีความสามารถเรื่องการทำอาหารและขนม เพราะคนเป็นพ่อเก่งในด้านนี้ นายพัชรพ่อของเธอเป็นเชฟทำงานในเรือสำราญมาก่อน ท่านมาพบรักกับแม่ของเธอซึ่งเป็นสาวชาวเกาะ เรื่องราวความรักแสนโรแมนติกของพ่อแม่ ทำให้อลิชาอยากเลียนแบบบ้าง แต่หนุ่มที่เข้ามาแจกขนมจีบล้วนยังไม่เข้าตา ยิ่งตอนนี้เธอเป็นแม่เลี้ยงเดี่ยวมีลูกสาวตัวน้อย ทำให้อลิชาไม่กล้าตัดสินใจรับไมตรีจากผู้ชายคนไหน ที่สำคัญโรซี่น้อยหวงแม่มาก หนุ่มที่เข้ามาใกล้เธอถูกลูกสาวของเธอเล่นงานมาแล้วทุกคน ไม่มีใครทำให้แม่หนูยอมรับได้สักคน สงสัยเธอคงต้องเป็นโสดไปตลอดชีวิต
อลิชาคิดอย่างปลงๆ ก่อนจะหันไปเห็นชายหนุ่มคนหนึ่งเดินเข้ามาในร้าน เขาถือช่อดอกไม้ช่อใหญ่มาส่งให้เธอ พร้อมคำอวยพรที่ทำเอาคนรับดอกไม้ถึงกับงง
“แฮปปี้เบิร์ดเดย์ครับ คุณอลิชา”
ชายหนุ่มนามว่าโรแบร์โต้เจ้าของอู่เรือ หนึ่งในชายหนุ่มที่เข้ามาหมายปองคุณแม่ลูกติด หอบดอกไม้มาอวยพรวันเกิดให้เธอ
“เอ่อ... วันนี้ไม่ใช่วันเกิดฉันค่ะ”
อลิชาจำต้องบอกความจริง แม้จะทำให้อีกฝ่ายหน้าแตกก็ตาม
“ไม่ใช่วันนี้เหรอครับ ก็โรซี่บอกผม...”
คนฟังทำหน้าเหวอยกมือขึ้นลูบท้ายทอยตัวเองไปมา ยิ้มเขินให้อย่างไม่รู้จะทำอย่างไรดี หันไปมองหนูน้อยที่อยู่บนเวที ก็พบว่าแกกำลังหัวเราะคิกคักชอบใจ รู้ตัวว่าโดนแม่หนูหลอกเสียแล้ว เขาอุตส่าห์ติดสินบนด้วยตุ๊กตาเจ้าหญิงครบเซตตามที่แม่หนูร้องขอ แลกกับการทราบวันเกิดของผู้เป็นแม่ แต่เจ้าตัวน้อยกลับตลบหลังเขาจนหน้าแตกเป็นผุยผง ฝ่ามือคันยิบๆ อยากฟาดก้นให้หายเจ็บใจ ใครจะคิดว่าหน้าตาน่ารักแบบนี้ จะซ่อนความแสบสันไว้ข้างใน เขาเคยได้ยินเพื่อนที่เข้ามาจีบอลิชาหลายคนเตือนแล้วแต่ไม่เชื่อ ตอนนี้เขาเริ่มเชื่อแล้วว่าแม่หนูน้อยร้ายกาจเกินวัยจริงๆ
คนเป็นพ่อน้ำตาแทบหยดเมื่อต้องส่งมอบแก้วตาดวงใจของตน ให้คนอื่นรับไปดูแล ความรักความห่วงใยของผู้เป็นพ่อทำให้หวงลูกสาวมาก พยายามทำทุกวิธีให้ลูกอยู่กับครอบครัวให้นานที่สุด แต่ก็ทำได้แค่เพียงถ่วงเวลา เมื่อลูกต้องเติบโตไปใช้ชีวิตของตัวเอง จำต้องยอมปล่อยมือ พาลูกไปส่งให้คนที่จะดูแลยอดดวงใจของพ่อ ให้ดีที่สุด“ริคคาโด้คะ โรซี่น้อยโตแล้ว เรียนจบตามที่คุณต้องการ ลูกต้องมีชีวิตของตัวเอง มีครอบครัวของแกเอง เราจะรั้งลูกไว้ให้อยู่กับเราตลอดชีวิตไม่ได้หรอกค่ะ อเลสซานโดรได้พิสูจน์ให้คุณเห็นแล้ว ว่าเขาเหมาะสมกับโรซี่น้อยของเรา เขาทำให้เราเชื่อมั่นว่า จะสามารถดูแลโรซี่น้อยได้ดีไม่แพ้กับเรา ลูกจะต้องมีความสุขมากแน่นอนค่ะ”อลิชาบอกสามี ในตอนที่ริคคาโด้พยายามเลื่อนการแต่งงานของลูกสาว ออกไปให้นานที่สุด เขายังทำใจไม่ได้หากต้องปล่อยมือจากลูก คำพูดของภรรยาเตือนสติให้ริคคาโด้ยอมปล่อยวาง งานแต่งงานจึงเกิดขึ้น“โรซี่น้อย ตื่นเต้นไหมลูก”ริคคาโด้กระซิบถามลูกสาว ขณะชลอฝีเท้าเดินช้าลงอีกสักหน่อย อีกไม่กี่ก้าวก็จะถึงแท่นพิธีแล้ว เขาต้องส่งลูกให้อเลสซานโดรดูแลไปตลอดชีวิต หัวใจของคนเป็นพ่อจุกแน่นด้วยความอาลัยอาวรณ์“ตื
“ท่านอคติกับผม ท่านไม่ให้โอกาสผมได้พิสูจน์ความจริงใจสักหน่อยหรือครับ”อเลสซานโดรท้วงขึ้น เขายอมทำทุกอย่าง เพียงเพื่อให้ริคคาโด้ยอมรับเขา“จริงใจเหรอ นายอย่าคิดว่าฉันไม่รู้ ว่านายทำอะไรลูกสาวฉันรึไง โรซี่น้อยยังเด็กไม่เท่าทันวัวแก่อย่างนายหรอก ลูกสาวของฉันอาจจะไม่เข้าใจความรักด้วยซ้ำ แต่ถูกนายหลอกให้หลงเชื่อ”ริคคาโด้ยังโมโหไม่หาย อเลสซานโดรย่ำยีหัวใจเขา มันกล้าจูบลูกสาวของเขาในงานเดบูตองต์“ท่านอย่าดูถูกหัวใจของโรซี่น้อยสิครับ ลูกสาวของท่านเธอมีหัวใจที่แสนบริสุทธิ์ เธอรู้จักความรักและเลือกที่จะรักอย่างถูกต้องดีงาม”อเลสซานโดรโต้กลับทันที โรซี่อาจจะอายุเพียงสิบแปดปี แต่เธอมีความคิดอ่าน มีสติยั้งคิดในการเลือกที่จะรัก ริคคาโด้ปรามาสหัวใจของลูกสาวมากเกินไป“โรซี่น้อยยังเด็ก แกไม่รู้จักหรอกความรักเป็นยังไง”ริคคาโด้เชื่อแบบนั้น แต่เขาไม่รู้ว่า ลูกสาวตัวน้อยของเขานั้น มีหัวใจรักยิ่งใหญ่แค่ไหน“โรซี่รู้จักความรักค่ะ พ่อริคกี้”โรซี่น้อยเดินเข้ามาในห้องพร้อมกับอลิชา สาวน้อยเดินไปหาบิดาและบอกกับท่านว่า“ความรักของโรซี่คือความถูกต้องดีงาม รักที่ให้เกียรติทั้งตัวเอง ครอบครัว และคนรัก พี่ชายเป็นท
บนฟลอร์เต้นรำ อเลสซานโดรพาร่างงามระหงของโรซี่ เต้นรำไปรอบๆ ฟลอร์ เขามองใบหน้างดงามที่ถูกตกแต่งอย่างสวยงามกว่าทุกครั้งด้วยแววตาชื่นชม นึกเปรียบเทียบกับสาวน้อยเดบูตองต์คนอื่นในงาน เขาให้คะแนนแบบไม่ลำเอียงเลยว่า โรซี่น้อยของเขางดงามที่สุด“พ่อริคกี้ต้องโมโหพี่ชายมากแน่ๆ ดูสิคะจ้องมาเหมือนจะเผาพี่ชายให้ตาย” โรซี่น้อยอดยิ้มขำไม่ได้“พี่ชายเลยต้องขอโรซี่เป็นแฟน ไม่อย่างนั้นโรซี่อาจจะขึ้นคานก็ได้นะ”อเลสซานโดรพูดเอาดีเข้าตัวอย่างน่าหมั่นไส้ โรซี่น้อยหัวเราะคิกขำคนหน้ามึน“เราไปทางนู้นกันดีกว่า หลังของพี่ชายถูกสายตาพ่อของโรซี่ กรีดจนเหวอะไปหมดแล้ว”อเลสซานโดรพาโรซี่น้อย เต้นรำไปจนสุดฟลอร์อีกด้าน ก่อนจะพาเธอเดินออกมาจากงาน หามุมสงบคุยกัน“พี่ชายบอกหรือยังว่า วันนี้โรซี่สวยมาก”อเลสซานโดรทำปากหวานเอ่ยชมสาวน้อย โรซี่ยิ้มพลางหมุนตัวให้เขาดู“ชมมาเยอะๆ ได้เลยค่ะ โรซี่รับได้”อเลสซานโดรยื่นมือไปดึงร่างงามมากอดไว้ มองใบหน้างดงามนั้นด้วยแววตาอ่อนโยน“โรซี่น้อยของพี่ชาย สวยที่สุดในโลก สวยเหมือนเจ้าหญิง พี่ชายขอเป็นเจ้าชายให้โรซี่ได้ไหม”“ได้สิคะ ถึงเจ้าชายจะแก่เหนียงยานไปหน่อย แต่ก็หล่อมาก หล่อกว่าหนุ
เพลงจบลงสาวน้อยเดบูตองต์เดินกลับมาหาคนในครอบครัว อลิชาปลาบปลื้มจนน้ำตาไหล ในขณะที่ริคคาโด้ห้ามตัวเองให้หยุดยิ้มไม่ได้“โรซี่น้อยของพ่อ หนูเป็นความภาคภูมิใจของครอบครัวเรานะลูก”ริคคาโด้ดึงร่างอรชรของโรซี่น้อยมากอดไว้ ปลื้มอกปลื้มใจกับงานเปิดตัวครั้งแรกของลูกสาว วงสังคมชั้นสูงจะต้องจับตามองลูกสาวคนสวยของเขาแน่นอน พวกบรรดาพ่อแม่ก็คงพากันมาทาบทามให้ลูกชายของตนเอง จนเลือกเขยขวัญไม่หวาดไม่ไหว แต่ให้พวกนั้นฝันหวานไปก่อนเถอะ เขายังไม่พร้อมยกโรซี่น้อยให้ใครดูแล“ขอบใจมากนะโรมิโอ ลูกดูแลน้องได้ดีมาก” อลิชาเอ่ยชมลูกชายโรมิโอเติบโตมาอย่างสง่างามไม่แพ้บิดา เขาตัวสูงใหญ่เกือบเท่าริคคาโด้แล้ว อีกไม่กี่ปีก็คงเหมือนผู้เป็นบิดา ส่วนเลโอนาโดลูกชายคนเล็ก ขอตัวไม่มาร่วมงานนี้ เพราะไม่ใช่งานของเด็ก“งานเลี้ยงยังอีกยาว ถ้ามีคนมาขอเต้นรำ พ่อริคกี้จะอนุญาตไหมคะ” โรซี่น้อยเอ่ยถามบิดา“เลือกคนเต้นหน่อยนะโรซี่น้อย ถ้าไอ้คนไหนมันฉวยโอกาสบอกพ่อได้เลย พ่อจะเตะมันออกจากงาน”ริคคาโด้ยังหวงลูกสาวคงเส้นคงวา แม้ต้องจำยอมให้โรซี่น้อยเต้นรำกับหนุ่มๆ แต่ก็ต้องจับตาดูตลอดเวลา“คุณป๋าทำตาขวางแบบนี้ หนุ่มๆ ที่ไหนจะกล้ามาขอโร
“ได้แน่นอน เรามาเป็นแฟนกันตั้งแต่ตอนนี้เลย พี่ชายจะเป็นแฟนที่ดีของโรซี่น้อย”“พี่ชายใจร้อนจัง โอเคค่ะ แต่ห้ามบอกพ่อริคกี้นะ” สาวน้อยยอมตกลง แต่มีข้อแม้สำคัญ“ไม่บอก ไม่บอกแน่นอน”ใครจะกล้าเสี่ยงให้ว่าที่พ่อตารู้ ขืนบอกไปเขามีหวังถูกอีกฝ่ายถลกหนังหัวแน่ ริคคาโด้หวงลูกสาวแค่ไหนทำไมเขาจะไม่รู้“แล้วเป็นแฟนกัน มันต่างจากตอนนี้ยังไงคะ”โรซี่น้อยทำตาแป๋ว มองหน้าชายหนุ่มท่าทางอยากรู้ หัวใจคนถูกมองเต้นรัวแรง มองตอบด้วยแววตาอ่อนหวาน“ต่างสิครับ คนเป็นแฟนกันต้องรักกันมากๆ แล้วก็ต้องเรียนรู้ที่จะใช้ชีวิตด้วยกัน ทำกิจกรรมร่วมกัน แล้วก็ทำแบบนี้ได้”อเลสซานโดรเชยคางมน ก่อนจะก้มลงไปแตะริมฝีปาก มอบจุมพิตแรกให้สาวน้อยอย่างอ่อนหวาน“โรซี่น้อย ไม่ชอบเหรอครับ”เขาเงยหน้าขึ้น หลังจากจูบสาวน้อยจนพอใจ แล้วพบว่าโรซี่น้อยนิ่งเงียบไป หน้าแดงจัด“ชอบ... ชอบสิคะ โรซี่รู้สึกดีจังคะ”โรซี่น้อยตอบด้วยน้ำเสียงสั่นนิดๆ สบตาเขาด้วยแววตาสดใส ไร้มารยา“ถ้าโรซี่จูบพี่ชาย จะรู้สึกเหมือนกันไหมคะ”เจ้าตัวอยากรู้ว่า หากเป็นฝ่ายจูบเขาก่อนจะรู้สึกแบบเดียวกันหรือเปล่า“ก็ต้องพิสูจน์ดู”อเลสซานโดรยิ้มด้วยความเอ็นดู โรซี่น้อยยังอ
“พี่ชายไม่ได้เป็นแฟนโรซี่สักหน่อย อย่ามาหวงกันสิ โรซี่ยังต้องพบเจอผู้คนอีกมากมาย ไม่อยากปิดกั้นตัวเองค่ะ”สาวน้อยบอกอย่างตรงไปตรงมาตามนิสัย ขณะมองหน้าพี่ชายที่ทำหน้าสลดด้วยความเห็นใจ แม่ลิชเคยบอกว่าหากจะรักชอบใคร ให้ถามหัวใจตัวเองให้ดี ว่ารู้สึกกับคนคนนั้นอย่างไร โรซี่น้อยรู้จักพี่ชายมาหลายปี สนิทสนมคุ้นเคยกันจนรู้สึกว่า อีกฝ่ายเหมือนคนในครอบครัว ยังหาคำตอบให้ตัวเองว่ารู้สึกกับเขาเกินคำว่าพี่ชายหรือเปล่า“พี่ชายขอโทษครับ พี่ชายเอาแต่ใจตัวเองเกินไป โรซี่น้อยมีสิทธิ์จะเลือกเต้นรำกับใครก็ได้ ตามที่โรซี่น้อยพอใจ พี่ชายมันก็แค่ตาแก่อายุมาก คงสู้หนุ่มๆ หน้ามนคนอื่นไม่ไหว”อเลสซานโดรทอดถอนใจแล้วยิ้มขมขื่น เขาเดินหนีมายืนเกาะราวกั้นขอบเรือ มองดูฝูงปลาโลมาสีชมพูพากันเล่นน้ำด้วยแววตาหม่นเศร้า ถึงจะมีอำนาจมากมายเป็นถึงประมุขตระกูลเบตาโทรี่ ก็ไม่สามารถทำให้สาวน้อยคนนี้สนใจเขามากกว่าผู้ชายคนอื่น“พี่ชายอย่าน้อยใจสิคะ โรซี่แค่ไม่อยากให้พ่อริคกี้เป็นห่วง พี่ชายก็รู้นี่คะว่าเวลาพ่อริคกี้เป็นห่วงโรซี่ทีไร ลำบากคนอื่นๆ ทุกที”โรซี่น้อยขยับเข้ามายืนข้างๆ มองร่างสูงใหญ่ ไม่ต่างจากบิดาของเธอด้วยแววตาอ่อนห