“ยอพระกลิ่นบ้าบออะไร ฉันไม่รู้จัก ถ้าเธอมีพ่อแล้วพ่อของเธออยู่ที่ไหน” มาคัสยังไม่เลิกล้อเลียน
“พ่อของฉันอยู่ที่ไหนสักที่บนโลกใบนี้แหละ แค่พ่อยังตามหาฉันไม่เจอ”
โรซี่น้อยโต้คืน หัวใจปวดหนึบกับคำล้อเลียนนั้น เธอมีแม่ลิชกับคุณตาพัชร ส่วนพ่อคือใครไม่รู้ ชื่ออะไรก็ไม่รู้ แม่หนูเคยถามผู้เป็นแม่ คำตอบที่ได้คือพ่ออยู่ไกลมาก วันหนึ่งพ่อจะกลับมาหาโรซี่ แม่หนูจึงชอบมาที่ท่าเรือแห่งนี้ หวังว่าวันหนึ่งจะได้พบพ่อ
“อย่ามาอ้างมั่วๆ เลย ยายเด็กไม่มีพ่อ แม่เธอเป็นโสเภณี เธอเลยไม่มีพ่อ”
โจเอลส่ายหน้าไม่เชื่อ เด็กชายลามปรามไปถึงแม่ของหนูน้อย จำคำพูดของพี่สาวมาด่าว่าอย่างคะนองปาก พี่สาวของเขาบอกว่าอลิชาแม่ของโรซี่เป็นผู้หญิงแพศยา ชอบหลอกให้ผู้ชายหลงรัก แฟนของพี่สาวเขาก็เคยหลงรักแม่ของโรซี่มาก่อน
“ไอ้ปากตูด อย่ามาว่าแม่ลิชนะ ไอ้คนปากเน่า”
แม่หนูน้อยด่าคืนด้วยคำหยาบที่แกไม่ค่อยถนัด ส่งผลให้เด็กชายโมโหขึ้นมา
“ปากดีแบบนี้ต้องสั่งสอน”
โจเอลตรงเข้ามาดึงหางเปียของโรซี ส่วนมาคัสก็ทำแบบเดียวกันกับเปียอีกข้าง แม่หนูน้อยถูกเด็กสองคนรุมรังแกก็เริ่มต่อสู้ โดยการเตะหน้าแข้งเด็กชายทั้งสองจนร้องโอดโอยล้มลงกับพื้น
“พวกนายมันนิสัยไม่ดีเลย” แม่หนูน้อยกอดอกพลางตำหนิ
“ยายเด็กไม่มีพ่อ กล้าทำแบบนี้กับพวกฉันเหรอ”
มาคัสกับโจเอลรีบลุกขึ้นมา ทำท่าจะเข้าไปจัดการแม่หนูโรซี่ตัวแสบอีก แต่ยังไม่ทันได้เข้าใกล้ คอเสื้อของพวกเขาสองคนก็ถูกใครคนหนึ่งจับหิ้วจนเท้าลอยจากพื้น เมื่อหันไปมองก็ต้องย่นคอด้วยความกลัว สายตาของผู้ชายร่างใหญ่ช่างดุกร้าวน่ากลัวหลือเกิน
“เป็นผู้ชายรังแกเด็กผู้หญิงแบบนี้ ไม่ไหวนะไอ้หนู”
ริคคาโด้ทนเห็นแม่หนูน้อยถูกรังแกไม่ได้จึงเข้ามาช่วย เอริกตามมาสมทบ ทนายความหนุ่มเอานิ้วจิ้มหน้าผากเด็กสองคน
“รู้ไหมว่ารังแกคนอื่นแบบนี้ มีความผิดนะ”
“เราสองคนไม่ได้รังแก ก็ยายโรซี่มาด่าเรานี่” มาคัสเถียง
“ใช่ ยายเด็กไม่มีพ่อนี่ ด่าเราก่อน” โจเอลโยนโทษให้โรซี่น้อย
“อย่ามาโกหก ฉันเห็นเหตุการณ์ตั้งแต่ต้น พวกนายสองคนตัวแค่นี้ริเป็นอันธพาลแล้วหรือ”
ริคคาโด้ยื่นหน้าไปจ้องเด็กชายทั้งสองทีละคน ทำเอาเด็กทั้งคู่ย่นคอด้วยความกลัว
“ปล่อยพวกเรานะ ไม่อย่างนั้นถ้าพ่อฉันมา พ่อฉันจะฆ่านายแน่ พ่อฉันเป็นลูกน้องท่านนิโคลัสผู้ยิ่งใหญ่นะ”
มาคัสยกพ่อขึ้นมาอ้าง พ่อของเขาทำงานให้ท่านนิโคลัส เบตาโทรี่ หัวหน้าแก๊งไทก้าซานโตนี่ เขาคิดว่าพ่อของเขาเก่งมาก ใครๆ ระแวกหมู่บ้านต่างพากันเกรงใจพ่อ เด็กชายจึงทำตัวเกเรโดยไม่กลัวใคร
“แน่จริงก็ไปฟ้องพ่อแกเลยเจ้าหนู บอกให้มาหาฉันได้ทุกเวลา”
ริคคาโด้แค่นยิ้มหยัน ก่อนจะโยนเด็กสองคนลงพื้น ปล่อยให้วิ่งหนีไป แล้วหันไปมองแม่หนูตัวน้อยด้วยแววตาอ่อนแสงลง
“เจ็บหรือเปล่า”
เขาเอามือลูบผมที่ฟูยุ่งให้แม่หนู รู้สึกเอ็นดูหนูน้อยคนนี้ขึ้นมา เมื่อครู่เขาเห็นท่าทางเก่งกล้าของแม่หนูคนนี้แล้วชอบใจ ตัวเล็กเท่ามดแต่กล้าหาญไม่ยอมให้คนรังแก เท้าน้อยๆ เตะหน้าแข้งเด็กชายตัวโตกว่าสองคนจนล้ม แถมยังไม่วิ่งหนี ยืนด่าเจ้าอันธพาลเด็กฉอดๆ แบบไม่กลัวเกรง สร้างความประทับใจให้เขามาก
“ไม่เจ็บค่ะ ขอบคุณมากนะคะที่ช่วยหนู”
โรซี่น้อยพนมมือไหว้ขอบคุณแบบไทยๆ ทำเอาคนเห็นยกคิ้วสูงด้วยความแปลกใจ
“หนูมีเชื้อสายไทยใช่ไหม”
“ค่ะ คุณตาพัชรเป็นคนไทยค่ะ” แม่หนูน้อยตอบอย่างภาคภูมิใจ
ริคคาโด้คลี่ยิ้ม ความเอ็นดูเพิ่มขึ้นอีกเท่าตัว เขามีมารดาเป็นคนไทย ท่านเป็นต้นแบบผู้หญิงที่เขาชื่นชม นั่นเป็นเหตุผลให้มาเฟียหนุ่มไม่เคยติดใจสาวๆ คนไหน เพราะหาผู้หญิงที่มีลักษณะคล้ายมารดาเขาไม่พบสักคน
“แล้วบ้านอยู่แถวไหน ทำไมมาเล่นที่นี่ คนเยอะแบบนี้ไม่กลัวเหรอ”
เอริกถามอย่างสนใจ เขามองใบหน้ากลมนั้นแล้วรู้สึกคุ้นเคย เหมือนเคยเห็นใบหน้าคล้ายกันแบบนี้ที่ไหนมาก่อน แต่ก็นึกไม่ออก
“หนูมากับคุณตาค่ะ นั่นไงคะคุณตาเดินมานั่นแล้ว”
โรซี่น้อยหันไปเห็นคุณตาของแก กำลังเดินมาก็โบกมือให้ นายพัชรรีบเดินเข้ามาอุ้มหลานสาวไว้ เขามองชายสองคนที่กำลังคุยกับโรซี่อย่างสำรวจ
“มีอะไรกันหรือเปล่าครับ”
“ไม่มีอะไรหรอกครับ เจ้านายผมท่านเอ็นดูแม่หนูเลยชวนคุย”
เอริกรีบบอก เกรงอีกฝ่ายเข้าใจเขากับเจ้านายผิด
“คุณลุงสองคนนี้ ช่วยโรซี่ไว้ค่ะ เมื่อกี้มาคัสกับโจเอลรังแกโรซี่ค่ะ” แม่หนูแจกแจงให้ผู้เป็นตาฟัง
“ขอบคุณคุณสองคนมากครับ เด็กสองคนนั่นชอบรังแกโรซี่บ่อยๆ เห็นทีผมต้องไปคุยกับพ่อแม่พวกเขาสักวัน” นายพัชรเอ่ยขอบคุณ
“เรื่องเล็กน้อยครับ ว่าแต่บ้านพวกคุณอยู่แถวนี้หรือครับ” ริคคาโด้เอ่ยขึ้น
“เราเปิดโฮมสเตย์กับร้านอาหารครับ ตอนนี้มีห้องว่างอยู่ ถ้าพวกคุณยังไม่มีที่พักก็มาใช้บริการได้นะครับ” นายพัชรเอ่ยชวน
“แม่ลิชทำข้าวผัดสับปะรดอร่อยมากเลยค่ะ” แม่หนูช่วยโปรโมตอีกคน
ริคคาโด้ยิ้มเอ็นดู เขาหันไปบอกเอริกว่า
“เอริก ฉันอยากกินข้าวผัดสับปะรด ยกเลิกห้องพักที่สั่งจองเปลี่ยนมาพักที่บ้านพักของพวกเขาแทน”
มาเฟียหนุ่มทนความน่ารักน่าเอ็นดูของแม่หนูไม่ไหว โรซี่น้อยมีแรงดึงดูดบางอย่าง ทำให้เขาอยากเข้าใกล้ มันคงจะดี หากเขาใช้เวลาสองวันนี้พักที่โฮมสเตย์ของครอบครัวแม่หนูน้อย
คนเป็นพ่อน้ำตาแทบหยดเมื่อต้องส่งมอบแก้วตาดวงใจของตน ให้คนอื่นรับไปดูแล ความรักความห่วงใยของผู้เป็นพ่อทำให้หวงลูกสาวมาก พยายามทำทุกวิธีให้ลูกอยู่กับครอบครัวให้นานที่สุด แต่ก็ทำได้แค่เพียงถ่วงเวลา เมื่อลูกต้องเติบโตไปใช้ชีวิตของตัวเอง จำต้องยอมปล่อยมือ พาลูกไปส่งให้คนที่จะดูแลยอดดวงใจของพ่อ ให้ดีที่สุด“ริคคาโด้คะ โรซี่น้อยโตแล้ว เรียนจบตามที่คุณต้องการ ลูกต้องมีชีวิตของตัวเอง มีครอบครัวของแกเอง เราจะรั้งลูกไว้ให้อยู่กับเราตลอดชีวิตไม่ได้หรอกค่ะ อเลสซานโดรได้พิสูจน์ให้คุณเห็นแล้ว ว่าเขาเหมาะสมกับโรซี่น้อยของเรา เขาทำให้เราเชื่อมั่นว่า จะสามารถดูแลโรซี่น้อยได้ดีไม่แพ้กับเรา ลูกจะต้องมีความสุขมากแน่นอนค่ะ”อลิชาบอกสามี ในตอนที่ริคคาโด้พยายามเลื่อนการแต่งงานของลูกสาว ออกไปให้นานที่สุด เขายังทำใจไม่ได้หากต้องปล่อยมือจากลูก คำพูดของภรรยาเตือนสติให้ริคคาโด้ยอมปล่อยวาง งานแต่งงานจึงเกิดขึ้น“โรซี่น้อย ตื่นเต้นไหมลูก”ริคคาโด้กระซิบถามลูกสาว ขณะชลอฝีเท้าเดินช้าลงอีกสักหน่อย อีกไม่กี่ก้าวก็จะถึงแท่นพิธีแล้ว เขาต้องส่งลูกให้อเลสซานโดรดูแลไปตลอดชีวิต หัวใจของคนเป็นพ่อจุกแน่นด้วยความอาลัยอาวรณ์“ตื
“ท่านอคติกับผม ท่านไม่ให้โอกาสผมได้พิสูจน์ความจริงใจสักหน่อยหรือครับ”อเลสซานโดรท้วงขึ้น เขายอมทำทุกอย่าง เพียงเพื่อให้ริคคาโด้ยอมรับเขา“จริงใจเหรอ นายอย่าคิดว่าฉันไม่รู้ ว่านายทำอะไรลูกสาวฉันรึไง โรซี่น้อยยังเด็กไม่เท่าทันวัวแก่อย่างนายหรอก ลูกสาวของฉันอาจจะไม่เข้าใจความรักด้วยซ้ำ แต่ถูกนายหลอกให้หลงเชื่อ”ริคคาโด้ยังโมโหไม่หาย อเลสซานโดรย่ำยีหัวใจเขา มันกล้าจูบลูกสาวของเขาในงานเดบูตองต์“ท่านอย่าดูถูกหัวใจของโรซี่น้อยสิครับ ลูกสาวของท่านเธอมีหัวใจที่แสนบริสุทธิ์ เธอรู้จักความรักและเลือกที่จะรักอย่างถูกต้องดีงาม”อเลสซานโดรโต้กลับทันที โรซี่อาจจะอายุเพียงสิบแปดปี แต่เธอมีความคิดอ่าน มีสติยั้งคิดในการเลือกที่จะรัก ริคคาโด้ปรามาสหัวใจของลูกสาวมากเกินไป“โรซี่น้อยยังเด็ก แกไม่รู้จักหรอกความรักเป็นยังไง”ริคคาโด้เชื่อแบบนั้น แต่เขาไม่รู้ว่า ลูกสาวตัวน้อยของเขานั้น มีหัวใจรักยิ่งใหญ่แค่ไหน“โรซี่รู้จักความรักค่ะ พ่อริคกี้”โรซี่น้อยเดินเข้ามาในห้องพร้อมกับอลิชา สาวน้อยเดินไปหาบิดาและบอกกับท่านว่า“ความรักของโรซี่คือความถูกต้องดีงาม รักที่ให้เกียรติทั้งตัวเอง ครอบครัว และคนรัก พี่ชายเป็นท
บนฟลอร์เต้นรำ อเลสซานโดรพาร่างงามระหงของโรซี่ เต้นรำไปรอบๆ ฟลอร์ เขามองใบหน้างดงามที่ถูกตกแต่งอย่างสวยงามกว่าทุกครั้งด้วยแววตาชื่นชม นึกเปรียบเทียบกับสาวน้อยเดบูตองต์คนอื่นในงาน เขาให้คะแนนแบบไม่ลำเอียงเลยว่า โรซี่น้อยของเขางดงามที่สุด“พ่อริคกี้ต้องโมโหพี่ชายมากแน่ๆ ดูสิคะจ้องมาเหมือนจะเผาพี่ชายให้ตาย” โรซี่น้อยอดยิ้มขำไม่ได้“พี่ชายเลยต้องขอโรซี่เป็นแฟน ไม่อย่างนั้นโรซี่อาจจะขึ้นคานก็ได้นะ”อเลสซานโดรพูดเอาดีเข้าตัวอย่างน่าหมั่นไส้ โรซี่น้อยหัวเราะคิกขำคนหน้ามึน“เราไปทางนู้นกันดีกว่า หลังของพี่ชายถูกสายตาพ่อของโรซี่ กรีดจนเหวอะไปหมดแล้ว”อเลสซานโดรพาโรซี่น้อย เต้นรำไปจนสุดฟลอร์อีกด้าน ก่อนจะพาเธอเดินออกมาจากงาน หามุมสงบคุยกัน“พี่ชายบอกหรือยังว่า วันนี้โรซี่สวยมาก”อเลสซานโดรทำปากหวานเอ่ยชมสาวน้อย โรซี่ยิ้มพลางหมุนตัวให้เขาดู“ชมมาเยอะๆ ได้เลยค่ะ โรซี่รับได้”อเลสซานโดรยื่นมือไปดึงร่างงามมากอดไว้ มองใบหน้างดงามนั้นด้วยแววตาอ่อนโยน“โรซี่น้อยของพี่ชาย สวยที่สุดในโลก สวยเหมือนเจ้าหญิง พี่ชายขอเป็นเจ้าชายให้โรซี่ได้ไหม”“ได้สิคะ ถึงเจ้าชายจะแก่เหนียงยานไปหน่อย แต่ก็หล่อมาก หล่อกว่าหนุ
เพลงจบลงสาวน้อยเดบูตองต์เดินกลับมาหาคนในครอบครัว อลิชาปลาบปลื้มจนน้ำตาไหล ในขณะที่ริคคาโด้ห้ามตัวเองให้หยุดยิ้มไม่ได้“โรซี่น้อยของพ่อ หนูเป็นความภาคภูมิใจของครอบครัวเรานะลูก”ริคคาโด้ดึงร่างอรชรของโรซี่น้อยมากอดไว้ ปลื้มอกปลื้มใจกับงานเปิดตัวครั้งแรกของลูกสาว วงสังคมชั้นสูงจะต้องจับตามองลูกสาวคนสวยของเขาแน่นอน พวกบรรดาพ่อแม่ก็คงพากันมาทาบทามให้ลูกชายของตนเอง จนเลือกเขยขวัญไม่หวาดไม่ไหว แต่ให้พวกนั้นฝันหวานไปก่อนเถอะ เขายังไม่พร้อมยกโรซี่น้อยให้ใครดูแล“ขอบใจมากนะโรมิโอ ลูกดูแลน้องได้ดีมาก” อลิชาเอ่ยชมลูกชายโรมิโอเติบโตมาอย่างสง่างามไม่แพ้บิดา เขาตัวสูงใหญ่เกือบเท่าริคคาโด้แล้ว อีกไม่กี่ปีก็คงเหมือนผู้เป็นบิดา ส่วนเลโอนาโดลูกชายคนเล็ก ขอตัวไม่มาร่วมงานนี้ เพราะไม่ใช่งานของเด็ก“งานเลี้ยงยังอีกยาว ถ้ามีคนมาขอเต้นรำ พ่อริคกี้จะอนุญาตไหมคะ” โรซี่น้อยเอ่ยถามบิดา“เลือกคนเต้นหน่อยนะโรซี่น้อย ถ้าไอ้คนไหนมันฉวยโอกาสบอกพ่อได้เลย พ่อจะเตะมันออกจากงาน”ริคคาโด้ยังหวงลูกสาวคงเส้นคงวา แม้ต้องจำยอมให้โรซี่น้อยเต้นรำกับหนุ่มๆ แต่ก็ต้องจับตาดูตลอดเวลา“คุณป๋าทำตาขวางแบบนี้ หนุ่มๆ ที่ไหนจะกล้ามาขอโร
“ได้แน่นอน เรามาเป็นแฟนกันตั้งแต่ตอนนี้เลย พี่ชายจะเป็นแฟนที่ดีของโรซี่น้อย”“พี่ชายใจร้อนจัง โอเคค่ะ แต่ห้ามบอกพ่อริคกี้นะ” สาวน้อยยอมตกลง แต่มีข้อแม้สำคัญ“ไม่บอก ไม่บอกแน่นอน”ใครจะกล้าเสี่ยงให้ว่าที่พ่อตารู้ ขืนบอกไปเขามีหวังถูกอีกฝ่ายถลกหนังหัวแน่ ริคคาโด้หวงลูกสาวแค่ไหนทำไมเขาจะไม่รู้“แล้วเป็นแฟนกัน มันต่างจากตอนนี้ยังไงคะ”โรซี่น้อยทำตาแป๋ว มองหน้าชายหนุ่มท่าทางอยากรู้ หัวใจคนถูกมองเต้นรัวแรง มองตอบด้วยแววตาอ่อนหวาน“ต่างสิครับ คนเป็นแฟนกันต้องรักกันมากๆ แล้วก็ต้องเรียนรู้ที่จะใช้ชีวิตด้วยกัน ทำกิจกรรมร่วมกัน แล้วก็ทำแบบนี้ได้”อเลสซานโดรเชยคางมน ก่อนจะก้มลงไปแตะริมฝีปาก มอบจุมพิตแรกให้สาวน้อยอย่างอ่อนหวาน“โรซี่น้อย ไม่ชอบเหรอครับ”เขาเงยหน้าขึ้น หลังจากจูบสาวน้อยจนพอใจ แล้วพบว่าโรซี่น้อยนิ่งเงียบไป หน้าแดงจัด“ชอบ... ชอบสิคะ โรซี่รู้สึกดีจังคะ”โรซี่น้อยตอบด้วยน้ำเสียงสั่นนิดๆ สบตาเขาด้วยแววตาสดใส ไร้มารยา“ถ้าโรซี่จูบพี่ชาย จะรู้สึกเหมือนกันไหมคะ”เจ้าตัวอยากรู้ว่า หากเป็นฝ่ายจูบเขาก่อนจะรู้สึกแบบเดียวกันหรือเปล่า“ก็ต้องพิสูจน์ดู”อเลสซานโดรยิ้มด้วยความเอ็นดู โรซี่น้อยยังอ
“พี่ชายไม่ได้เป็นแฟนโรซี่สักหน่อย อย่ามาหวงกันสิ โรซี่ยังต้องพบเจอผู้คนอีกมากมาย ไม่อยากปิดกั้นตัวเองค่ะ”สาวน้อยบอกอย่างตรงไปตรงมาตามนิสัย ขณะมองหน้าพี่ชายที่ทำหน้าสลดด้วยความเห็นใจ แม่ลิชเคยบอกว่าหากจะรักชอบใคร ให้ถามหัวใจตัวเองให้ดี ว่ารู้สึกกับคนคนนั้นอย่างไร โรซี่น้อยรู้จักพี่ชายมาหลายปี สนิทสนมคุ้นเคยกันจนรู้สึกว่า อีกฝ่ายเหมือนคนในครอบครัว ยังหาคำตอบให้ตัวเองว่ารู้สึกกับเขาเกินคำว่าพี่ชายหรือเปล่า“พี่ชายขอโทษครับ พี่ชายเอาแต่ใจตัวเองเกินไป โรซี่น้อยมีสิทธิ์จะเลือกเต้นรำกับใครก็ได้ ตามที่โรซี่น้อยพอใจ พี่ชายมันก็แค่ตาแก่อายุมาก คงสู้หนุ่มๆ หน้ามนคนอื่นไม่ไหว”อเลสซานโดรทอดถอนใจแล้วยิ้มขมขื่น เขาเดินหนีมายืนเกาะราวกั้นขอบเรือ มองดูฝูงปลาโลมาสีชมพูพากันเล่นน้ำด้วยแววตาหม่นเศร้า ถึงจะมีอำนาจมากมายเป็นถึงประมุขตระกูลเบตาโทรี่ ก็ไม่สามารถทำให้สาวน้อยคนนี้สนใจเขามากกว่าผู้ชายคนอื่น“พี่ชายอย่าน้อยใจสิคะ โรซี่แค่ไม่อยากให้พ่อริคกี้เป็นห่วง พี่ชายก็รู้นี่คะว่าเวลาพ่อริคกี้เป็นห่วงโรซี่ทีไร ลำบากคนอื่นๆ ทุกที”โรซี่น้อยขยับเข้ามายืนข้างๆ มองร่างสูงใหญ่ ไม่ต่างจากบิดาของเธอด้วยแววตาอ่อนห