"หนูแก้วพอแล้ว เดี๋ยวป้าทำต่อเอง หนูแก้วไปเรียนเถอะ"
สาแม่บ้านเพียงคนเดียวประจำไร่ของตระกูลราเซ เธอมีหน้าที่ดูแลทำความสะอาดบ้านพักหลังใหญ่ที่อยู่กลางไร่ถึงแม้ไม่มีคนอยู่แต่ที่นี่ก็ต้องสะอาดราวกับมีคนอาศัยอยู่และตอนนี้เธอก็แขนหักเลยต้องร้องขอหาคนมาช่วยทำงานและก็ได้ดอกแก้วเด็กสาวจากสถานสงเคราะห์ที่ได้ทุนมาเรียนที่เชียงใหม่พอดีและก็โชคดีเอามากๆ เธอขยะทำงานตั้งแต่ตีห้าจนป่านนี้ยังไม่ยอมหยุดทั้งที่ใส่ชุดนักศึกษาเตรียมตัวจะไปเรียนแล้ว
"อีกนิดก็เสร็จแล้วค่ะ"
ดอกแก้วยิ้มตอบผู้สูงวัยด้วยความสดใส แล้วก้มหน้าเช็ดพื้นต่องานในบ้านหลังใหญ่ยังเหลืออีกมากและเธอก็ไม่อยากให้ป้าสาทำงานที่เหลือคนเดียวเพราะป้าแขนหักอยู่และก็อยู่ในวัยที่ควรจะพักผ่อนมากกว่าทำงานหนัก
"สายแล้วนะ รถโดยสารก็ใกล้จะได้เวลามาแล้วด้วย"
สิ่งเดียวที่จะหยุดเด็กสาวไม่ให้ทำงานได้คือเรื่องไปเรียนเพราะที่นี่ห่างไกลความเจริญมีรถโดยสารผ่านชั่วโมงละคันถ้าพลาดเที่ยวใดไปละก็ไปเรียนไม่ทันแน่ๆ
"เดี๋ยวแก้วถือขยะไปทิ้งให้นะคะ"
ดอกแก้วเหลือบมองก็ต้องรีบเก็บอุปกรณ์ในมือเข้าทีก่อนจะรีบวิ่งไปหยิบกระเป๋าเป้ที่เต็มไปด้วยหนังสือขึ้นมาสะพายแต่ไม่ลืมที่จะทำงานในบ้านไปด้วย
"รีบไปเถอะไม่ต้องห่วงป้าหรอก"
สาจำต้องไล่เด็กสาวอีกครั้ง เพราะถ้ามัวแต่ชักช้าเธอเกรงว่าดอกแก้วจะขาดเรียนโดนไม่จำเป็น ถึงเด็กคนนี้จะเรียนเก่งแต่ก็ไม่ควรมาขาดเรียน
"แก้วไปนะคะป้าสา"
หญิงสาวถือขยะถุงโตเกินตัวด้วยมือข้างเดียวอีกข้างกอดลาป้าสาหญิงสาวที่เธอเคารพรักเหมือนญาติผู้ใหญ่ทั้งที่เพิ่งจะเจอหน้ากันได้สองวัน
สาเองก็โอบกอดเด็กสาวด้วยมือเพียงข้างเดียวส่วนอีกข้างหักต้องใส่เฝือกห้อยคอเอาไว้ทำอะไรไม่ได้เลย
ดอกแก้วเดินออกจากบ้านหลังใหญ่ที่ตั้งเด่นอยู่กลางไร่ก่อนจะก้าวลงบันไดไปยังทางเดินที่ใช้เดินไปยังหน้าสวนสายตาของหญิงสาวพลันเหลือบมองไปยังหลังคาสีน้ำตาลเข้มของบ้านท้ายไร่ด้วยความสงสัย ที่นั่นมีอะไรทำไมถึงห้ามไม่ให้เดินผ่านไป
.....
"ป้าว่าอย่าดีกว่า"สารีบห้ามเด็กสาวเพราะนี่ใกล้เวลาที่เจ้าของบ้านจะกลับมาแล้ว เธอไม่อยากให้เด็กสาวไปเสี่ยงอันตรายที่ใครๆ ในไร่นี้ต่างเกรงกลัว"แก้วไปแป๊บเดียวค่ะ เดี๋ยวมา"เธอฟังใครซะที่ไหนล่ะรีบวิ่งกลับไปที่บ้านท้ายไร่อย่างไว รีบเปลี่ยนแล้วรีบกลับออกมาเจ้าของบ้านกลับมาจะดีใจซะอีกที่ได้ลงนอนบนที่นอนหอมๆ แทนของเก่าที่ทั้งเน่าทั้งเหม็นหลังเด็กสาวที่รีบวิ่งสากำลังยกมือภาวะนาให้เจ้าของบ้านกลับมาช้าจะได้ไม่เจอกับดอกแก้วเด็กสาวน่ารักคนนี้ เธอไม่อยากให้ดอกแก้วต้องเจอเหตุการณ์ร้ายๆ เลย"เดี๋ยวจะเอาไปซักให้แล้วจะรีบเอามาคืนนะคะ"เธอพูดกับผ้าปูพื้นเก่าที่ปลดออกมาจากที่นอนขนาดคิงไซร์ เจ้าของบ้านนี้คงตัวใหญ่ราวยักษ์เลยล่ะดูจากรอยยุบของที่นอนและก็คงสกปรกน่าดูถึงทนนอนอยู่แบบนี้ได้"เรียบร้อย"เกินกว่าสิบนาทีที่ดอกแก้วพยายามปูที่นอน เธอไม่ค่อยถนัดงานนี้เท่าไรปกติปูแต่ที่นอนให้เด็กๆ งานนี้ก็เลยดูยากและก็ไม่ค่อยเรียบร้อยดีนะป้าสาไม่มาด้วยไม่งั้นคงสอนกันอีกยกใหญ่เธอรีบเก็บผ้าปูที่นอนผืนเก่ากับผ้าห่มเน่าๆ ลงตะกร้าและหันไปมองที่นอนอันเก่าที่เธอจัดการแปลงโฉมซะใหม่ด้วยความพอใจก่อนจะรีบเดินออกจากห้องนอนที
"ป้าสา"หญิงสาววิ่งหน้าตาตื่นเข้ามาภายในบ้าน เธอทิ้งข้าวของในมือลงพื้นทั้งที่เป็นหนังสือเรียนแสนจะสำคัญที่สุดในชีวิตรีบเข้าไปรับร่างของหญิงวัยกลางคนที่เซทำท่าจะล้มมิล้มแหล่อยู่กลางบ้านดอกแก้วถึงกับถอนหายใจอย่างโล่งอกที่ร่างของป้าสาไม่ล้มลงพื้นไม่อย่างนั้นคงมีกระดูกส่วนไหนได้หักอีกแน่ เธอก็บอกแล้วนะว่าไม่ต้องทำงานหนักพวกนี้เดี๋ยวเธอกลับมาจัดการต่อเอง"ป้าไม่เป็นไร"สาค่อยๆ ปล่อยไม้ถูกพื้นออกจากมือข้างเดียวที่ใช้การได้ของเธอให้หญิงสาวที่ประคองเธอให้นั่งลงเอาไปเก็บ เธอแค่ทำงานปกติแต่อาการหน้ามืดมันดันกลับมาอีกจนแทบล้มทั้งยืนคราวก่อนก็ล้มแบบนี้เธอถึงได้แขนหักแต่วันนี้อุตส่าห์ระวังแล้วนะยังเกิดเหตุได้อีกดีนะที่เด็กสาวมาเห็นเข้าและช่วยได้ทัน"ป้าไม่ต้องทำงานแล้วนะ คอยบอกแก้วก็พอว่าต้องทำอะไร"เธอเพิ่งมาอยู่ได้แค่สองวันเลยไม่รู้ว่าต้องทำอะไรนักขอแค่มีคนบอกงานหนักแค่ไหนเธอก็ไม่เกี่ยงอยู่แล้วเพราะลำบากกว่านี้เธอก็เคยเจอมาแล้วตอนช่วยป้าๆ ในสถานสงเคราะห์หนักกว่าเป็นสิบเท่า"คงต้องรบกวนหนูแก้วแล้วนะ ขอบใจหนูแก้วนะ"เธอจับมือหญิงสาวที่น่ารักทั้งนิสัยและหน้าตามาไว้ในอุ้งมือของเธอตบเบาๆ อย่างเอ็นดู
"ประกาศไปด้วยสิว่าฉันกำพร้า"ดอกแก้วเธอไม่เคยกลัวใครเพราะชีวิตต้องต่อสู้มาโดยตลอดกับแค่คนเดินเข้ามาหาเรื่องเธอจัดการได้สบายมาก โดยเฉพาะกับแนนผู้หญิงที่ปากร้ายเพื่อทำให้ตัวเองดูดีกว่าคนอื่น ผู้หญิงที่มีดีแต่ปาก"ดอกแก้ว"น้ำหวานเดินเข้าไปยืนข้างเพื่อนสาวเธอหวั่นใจว่าดอกแก้วจะเสียใจที่โดนแนนว่า ไม่มีใครเอาปมด้อยของใครมาล้อกันหรอกนะมันทำร้ายจิตใจกันเกินไป"แต่ฉันขอถามเธอข้อหนึ่งนะว่าที่หายเงียบไปสองสามวันไม่มาเรียนหนิไปยกเครื่องหน้ามาใหม่หรือเสี่ยที่เลี้ยงเธอเอาไว้ไม่ให้เงินล่ะถึงมาเรียนไม่ได้"ดอกแก้วไม่ปล่อยให้แนนได้อ้าปากพูดอะไรเธอก็สาวไส้แนนต่ออย่างมันปาก กล้าดีมาว่าเธอก่อนก็ต้องโดนอะไรแบบนี้แหละ ถ้าไม่โดนซะบ้างต่อไปก็จะมาปากดีอีก ต้องเอาให้หลาบจำและน้ำเสียงของหญิงสาวตัวเล็กอย่างเธอก็ไม่ใช่เบาๆ มันดังเรียกนักศึกษาที่กำลังเดินไปเดินมาให้หยุดดู"แก้วพอเถอะ"จากที่หวั่นใจว่าเพื่อนจะเสียใจตอนนี้ต้องช่วยศัตรูที่มายืนต่อว่าเพื่อนก่อน ดูท่าทางดอกแก้วจะไม่ยอมง่ายๆ ดูจากรอยยิ้มที่มุมปากร้ายๆ นั่น เธอไม่เคยเห็นแบบนี้มาก่อนเลย"น้ำหวานขอไว้หรอกนะ"ดอกแก้วยิ้มให้กับแนน เธอพอใจในผลงานที่สามารถเรี
"สงสัยอะไรของเธอเนี้ยดอกแก้วไปเรียนได้แล้ว"หญิงสาวเขกหัวตัวเองโป๊กใหญ่ก่อนจะรีบวิ่งไปตามทางเดินที่เปียกไปด้วยน้ำเพราะเมื่อคืนฝนตกหนักวิ่งได้ไม่นานเธอก็ต้องเดินลากขาเพราะดินเหนียวติดรองเท้าเต็มไปหมด เธอเดินคอตกแถมยังต้องลากถุงขยะใบใหญ่ไปให้ถึงหน้าไร่อีกต่างหาก ถึงกับถอนหายใจเฮือกใหญ่ในความลำบากเช้านี้"หลบสิวะ อยากตายหรือไง"เสียงกรนด่าเป็นภาษาอังกฤษมาพร้อมเสียงบีบแตรรถดังสนั่น ดอกแก้วเบี่ยงตัวหลบเข้าข้างทางแทบไม่ทัน เธอไม่คิดว่าจะมีใครขับรถเร็วขนาดนี้ในทางที่แสนจะลำบากแล้วรถก็เร่งเครื่องออกไปราวกับจะเหาะได้เร็วมากสะจนคนที่จ้องมองอยู่อย่างดอกแก้วมองไม่ออกมาคนงานคนไหนเป็นคนขับรถออกมา"ว้าย"รถเร่งเครื่องออกไปแล้วพร้อมกับเหยียบน้ำในหลุมเล็กๆ แต่ลึกจนน้ำสีโคลนกระเด็นใส่ตัวดอกแก้วเต็มไปหมดโชคดีที่ถุงขยะที่เธอทนถือมาด้วยบังเอาไว้ก็เลยเปื้อนไม่มาก"ใคร ทำไมต้องรีบร้อนขนาดนี้ กลับมาขอโทษเลยนะ"เธอรีบเดินจ้ำอ้าวออกมาหน้าไร่เพราะเหลืออีกห้านาทีรถโดยสารจะมาถึงแล้วแต่ก็ยังมิวายด่ารถคันนั่นไปด้วย ทำไมต้องทำกับเธอแบบนี้ถึงจะเป็นน้องใหม่มาอยู่ในไร่ได้แค่สองวันก็ควรจะต้อนรับให้ดีกว่านี้ไม่ใช่เหรอน
"หนูแก้วพอแล้ว เดี๋ยวป้าทำต่อเอง หนูแก้วไปเรียนเถอะ"สาแม่บ้านเพียงคนเดียวประจำไร่ของตระกูลราเซ เธอมีหน้าที่ดูแลทำความสะอาดบ้านพักหลังใหญ่ที่อยู่กลางไร่ถึงแม้ไม่มีคนอยู่แต่ที่นี่ก็ต้องสะอาดราวกับมีคนอาศัยอยู่และตอนนี้เธอก็แขนหักเลยต้องร้องขอหาคนมาช่วยทำงานและก็ได้ดอกแก้วเด็กสาวจากสถานสงเคราะห์ที่ได้ทุนมาเรียนที่เชียงใหม่พอดีและก็โชคดีเอามากๆ เธอขยะทำงานตั้งแต่ตีห้าจนป่านนี้ยังไม่ยอมหยุดทั้งที่ใส่ชุดนักศึกษาเตรียมตัวจะไปเรียนแล้ว"อีกนิดก็เสร็จแล้วค่ะ"ดอกแก้วยิ้มตอบผู้สูงวัยด้วยความสดใส แล้วก้มหน้าเช็ดพื้นต่องานในบ้านหลังใหญ่ยังเหลืออีกมากและเธอก็ไม่อยากให้ป้าสาทำงานที่เหลือคนเดียวเพราะป้าแขนหักอยู่และก็อยู่ในวัยที่ควรจะพักผ่อนมากกว่าทำงานหนัก"สายแล้วนะ รถโดยสารก็ใกล้จะได้เวลามาแล้วด้วย"สิ่งเดียวที่จะหยุดเด็กสาวไม่ให้ทำงานได้คือเรื่องไปเรียนเพราะที่นี่ห่างไกลความเจริญมีรถโดยสารผ่านชั่วโมงละคันถ้าพลาดเที่ยวใดไปละก็ไปเรียนไม่ทันแน่ๆ"เดี๋ยวแก้วถือขยะไปทิ้งให้นะคะ"ดอกแก้วเหลือบมองก็ต้องรีบเก็บอุปกรณ์ในมือเข้าทีก่อนจะรีบวิ่งไปหยิบกระเป๋าเป้ที่เต็มไปด้วยหนังสือขึ้นมาสะพายแต่ไม่ลืมที่จะท
"เพล้ง"เสียงขวดเหล้าถูกปาใส่ผนังห้องทั้งที่คนถือขวดเหล้าอยู่ในมือยังไม่ได้ลืมตาตื่นขึ้นมาด้วยซ้ำ นี่ไม่ใช่ครั้งแรก ผนังห้องบอบช้ำจากการถูกขวดเหล้าปานับสิบๆ ครั้งภายในระยะเวลาไม่ถึงปีเสียงขวดแตกกลางดึกสงัดในบ้านท้ายไร่ถือเป็นเรื่องปกติ ในบ้านหลังนี้ไม่มีใครอยู่นอกจากเขาผู้ชายที่หัวใจเจ็บช้ำเกินเยียวยาอาศัยอยู่คนเดียวคนเมาลุกขึ้นยี่ผมยาวๆ ที่ไม่เคยถูกตัดมาแรมปีของตัวเองเพื่อปลุกร่างกายให้สร่างเมา และตื่นจากฝันร้ายบ้าบอที่ตามหลอกหลอนเขา นานเกินไปแล้วที่เฝ้าฝันถึงแต่คืนวันอันแสนเจ็บปวดเขาลุกขึ้นจากเตียงนอนที่มีแต่กลิ่นเหล้า เดินเซไปซ้ายทีขวาที ดีนะที่หลบเศษขวดเหล้าที่แตกเกลื่อนพื้นไปได้อย่างหวุดหวิดเขาเดินเข้าไปในครัวสถานที่ที่ควรจะมีแต่อาหาร เขาเดินตรงไปยังตู้ที่น่าจะเอาไว้ใส่พวกอาหารแห้ง ใช้มือสั่นเทาเพราะการกินเหล้าเกินขนาดเปิดมันออกมาในนั้นมีเหล้าเก็บเอาไว้มากมายและทุกสัดส่วนในครัวนี้ทั้งครัวก็เต็มไปด้วยเหล้า เพราะเขาไม่ได้ต้องการจะกินอะไรนอกจากเหล้า"อะไรวะ"แต่ทว่าวันนี้ในตู้เก็บเหล้ากลับไม่มีของที่ควรจะมี มันว่างเปล่าจนคนเมาตาสว่าง เขาเบิกตามองหาทุกจุดเปิดไปทุกตู้อย่างไม่อยากจ