LOGINด้านลูคัส
ชายหนุ่มร่างกำยำสวมชุดสูทกับเสื้อเชิ้ตสีขาวด้านในกำลังก้าวเดินเข้ามาในร้านอาหารสุดหรูบนตึกสูง เมื่อลูคัสเดินเข้ามาภายในร้านอาหาร เหล่าพนักงานต่างก็รีบปรี่เข้ามาให้บริการผู้อำนวยการโรงพยาบาลเอกชนชื่อดังที่กำลังโด่งดังอยู่ในตอนนี้ทันที
ลูคัสเพิ่งเสร็จงานจากโรงพยาบาล เขาก็รีบตรงมาทานอาหารต่อเลย เนื่องจากทั้งวันเขายังไม่มีอะไรตกถึงท้องเลยสักอย่าง ด้วยงานที่เร่งไปเสียทุกอย่างในวันนี้จึงทำให้เขาไม่มีเวลาได้พักเลย ชายหนุ่มทั้งเครียดเรื่องโรงพยาบาลและมีเรื่องกาสิโนที่เขาเป็นหุ้นส่วนกับเพื่อนให้คิดเยอะแยะไปหมด
พนักงานสาวเดินนำชายหนุ่มมายังโต๊ะสำหรับหนึ่งที่นั่ง ลูคัสเดินมาทิ้งตัวนั่งลงบนเก้าอี้และสั่งอาหารทันที ส่วนบอดี้การ์ดของชายหนุ่มก็ยืนอยู่ด้านหลังของลูคัสอย่างเงียบๆ เพื่อรอรับคำสั่งของเจ้านาย ชายหนุ่มไม่รอช้า เขาสั่งอาหารกับพนักงานทันที
“รอสักครู่นะคะท่าน” พนักงานบอกกล่าวกับชายหนุ่มด้วยน้ำเสียงสุภาพนอบน้อม หลังจากที่ชายหนุ่มสั่งอาหารเสร็จเรียบร้อยแล้ว พนักงานสาวก็รีบปลีกตัวออกไปจากโต๊ะของเขาอย่างรวดเร็ว
ในระหว่างที่ชายหนุ่มกำลังรออาหารอยู่ ดวงตาคมกริบกวาดสายตามองไปรอบๆ ร้านอาหารอยู่สักพักหนึ่ง ก่อนที่สายตาของชายหนุ่มจะไปสะดุดเข้ากับผู้หญิงคนหนึ่งที่เขารู้สึกคุ้นเคยแปลกๆ
“นั่นมัน…” ชายหนุ่มบ่นพึมพำกับตัวเอง ภาพของหญิงสาวคนหนึ่งในวันนั้นที่เขาบังเอิญชนเธอจนเสื้อผ้าของเด็กสาวเปื้อนน้ำชานมไข่มุกไปหมด และเธอก็ยังเป็นคนที่ทำให้เขาคิดถึงรอยยิ้มที่น่ารักน่าเอ็นดูนั้นมาจนถึงทุกวันนี้ แต่เขาก็ตัดใจไปแล้วว่าคงงไม่ได้พบเจอกับเธออีก ทว่าวันนี้เขากลับไปพบเจอกับเออีกครั้ง
“มีอะไรหรือเปล่าครับนายท่าน” บอดี้การ์ดคนสนิทก้าวมาหนึ่งก้าวพร้อมกับเอ่ยถามขึ้นมา เมื่อเขาได้ยินว่าลูคัสพูดอะไรบางอย่างออกมา
“ไม่มีอะไร” ลูคัสหลุดออกจากภวังค์ ก่อนที่เขาจะเอ่ยตอบกลับคนสนิทไป
ชายหนุ่มมองจับจ้องไปยังเด็กสาวอีกครั้ง เขาพยายามสังเกตคนรอบตัวของเด็กสาวที่ตรงข้ามเธอเป็นชายแก่คนหนึ่งที่ดูท่าทางไม่ค่อยเป็นมิตรสักเท่าไหร่และข้างกายของเธอก็เป็นผู้หญิงคนหนึ่ง ส่วนเด็กสาวนั้นก็ดูท่าทางเกร็งแปลกๆ จนเขารู้สึกได้ เขาสัมผัสได้ถึงสถานการณ์บางอย่างที่มันดูไม่น่าไว้วางใจสักเท่าไหร่ ลูคัสจึงพยายามมองสถานการณ์ของโต๊ะนั้นอยู่ห่าง จนกระทั่งอาหารที่ชายหนุ่มสั่งเอาไว้มาเสิร์ฟ
ลูคัสหยิบมีดกับส้อมขึ้นมาตักอาหารตรงหน้าเพื่อรับประทาน โดยที่สายตาของเขายังคงจับจ้องมองเด็กสาวไม่ละสายตา จวบจนชายหนุ่มเห็นว่าหญิงแก่ข้างกายเด็กสาวเดินปลีกตัวไปจากโต๊ะ ด้วยความอยากรู้อยากเห็นลูคัสจึงคิดที่จะตามหญิงแก่คนนั้นไป
“กูไปเข้าห้องน้ำก่อน รออยู่นี่แหละ” ลูคัสลุกขึ้นยืนพร้อมกับบอกกล่าวบอดี้การ์ดคนสนิทที่ยืนอยู่ด้านหลัง
“ครับนาย” อีวานตอบกลับด้วยน้ำเสียงหนักแน่น จากนั้นลูคัสก็ลุกขึ้นจากเก้าอี้หรูและก้าวเดินตามหญิงแก่ไปอย่างระแวดระวังทันที
หญิงแก่เดินมาตรงหน้าห้องน้ำพลางมองซ้ายมองขวาอย่างเลิ่กลั่ก เมื่อเธอเห็นว่าไม่มีใครอยู่แถวๆ นั้นแล้ว หญิงแก่จึงยกโทรศัพท์ขึ้นมาแนบหูเอาไว้
ลูคัสเดินตามหญิงแก่ที่ดูมีท่าทางไม่น่าไว้ใจแปลกๆ มา จนกระทั่งเขาเห็นว่าเธอกำลังพูดคุยโทรศัพท์กับใครบางคนอยู่ ชายหนุ่มแอบอยู่ตรงซอกเล็กๆ เพื่อแอบฟังหญิงแก่คนนั้น เขาก็ไม่รู้ว่าทำไมเขาถึงต้องทำแบบนี้เช่นกัน แต่ลูคัสเชื่อสัญชาตญาณของตัวเองมากกว่าสิ่งใด
‘เดี๋ยวฉันกลับแล้ว จะทิ้งยัยสาไว้กับท่านนี่แหละ ท่านอยากได้เธอ เขาจะพาเธอไปวันนี้ แล้วพรุ่งนี้จะโอนเงินให้เราไปใช้หนี้’
ชายหนุ่มแอบฟังหญิงแก่คุยโทรศัพท์อยู่สักพักหนึ่ง เขาได้ยินทุกอย่างชัดเจนและพยายามจับใจความทุกอย่าง
ท่าน? อยากได้เธอ? ใช้หนี้? งั้นเหรอ คำถามมากมายเริ่มผุดขึ้นมาในสมองของลูคัส
‘แค่นี้ก่อน ฉันต้องรีบจัดการเรื่องนี้ให้เรียบร้อย’
หญิงแก่เอ่ยกับปลายสาย ก่อนที่เธอจะกดวางสายไป เธอตั้งท่าจะเดินกลับมายังโต๊ะ ลูคัสจึงรีบปลีกตัวเดินออกไปจากตรงนั้นและกลับไปยังโต๊ะของตัวเองทันที เพื่อดูสถานการณ์จากนี้ต่อไป
ชายหนุ่มร่างกำยำกลับมายังโต๊ะอาหารของตัวเอง จากนั้นชายหนุ่มก็นั่งลงและมองไปที่โต๊ะของสาวน้อยอีกครั้ง ไม่นานสักเท่าไหร่ หญิงแก่คนนั้นก็เดินกลับมาที่โต๊ะของเด็กสาว
“มีอะไรหรือเปล่าครับนาย” อีวานเอ่ยถามอย่างรู้ทันกับท่าทีของเจ้านาย ก่อนที่บอดี้การ์ดชุดดำจะหันไปมองยังโต๊ะที่เจ้านายกำลังจับจ้องอย่างไม่วางตา และอีวานก็พบว่าตรงโต๊ะนั้นคือเด็กสาวที่เจ้านายของเขาเคยเดินชนเมื่อเดือนที่แล้ว เขาจำเธอได้ดีเนื่องจากเจ้านายมีท่าทีที่อ่อนโยนกับเธอ ต่างจากปกติของลูคัสที่มักจะเมินหญิงสาวทุกคนที่เข้ามาในชีวิต
“จำเด็กผู้หญิงคนนั้นได้ไหม” ลูคัสเอ่ยถามอีวานพร้อมกับชี้ไปยังโต๊ะของเด็กสาว และแน่นอนว่าอีวานรู้อยู่แล้วว่าเจ้านายกำลังจับจ้องที่เธออยู่
“ครับ จำได้ครับนาย” อีวานตอบกลับ
“ฉันว่าผู้หญิงข้างๆ เธอดูท่าทางแปลกๆ” ชายหนุ่มเลือกที่จะพูดกับคนสนิทอย่างตรงไปตรงมา
“ทำไมเหรอครับ” บอดี้การ์ดเอ่ยถามด้วยความสงสัย
ยังไม่ทันที่ลูคัสจะตอบกลับอะไรออกไป หญิงแก่ที่นั่งอยู่ข้างกายของเด็กสาวก็ถือกระเป๋าและลุกขึ้น ลูคัสจับใจความได้ว่าเธอล่ำลาชายแก่ตรงข้ามอยู่ชั่วครู่ ก่อนที่หญิงแก่จะเดินออกไปจากโต๊ะนั้นทันที ซึ่งแน่นอนว่าเด็กสาวดูมีท่าทางมึนงงกับสถานการณ์ตรงหน้าอย่างเห็นได้ชัดแต่เธอก็ดูเหมือนจะไม่กล้าตามหญิงแก่ไป
“เหมือนเธอจะโดนทิ้งให้อยู่กับชายคนนั้นเพียงลำพังเลยนะครับ” อีวานมองดูสถานการณ์พลางเอ่ยขึ้นมา
“อือ ใช่” ลูคัสตอบกลับ เขานึกถึงประโยคที่หญิงแก่คุยโทรศัพท์กับใครบางคนหน้าห้องน้ำ
‘เดี๋ยวฉันกลับแล้ว จะทิ้งยัยสาไว้กับท่านนี่แหละ ท่านอยากได้เธอ เขาจะพาเธอไปวันนี้ แล้วพรุ่งนี้จะโอนเงินให้เราไปใช้หนี้’
ลูคัสเริ่มเดาสถานการณ์ออกบ้างแล้ว จากเหตุการณ์และคำพูดของหญิงแก่ในก่อนหน้านี้ที่เขาไปแอบฟังมา และแน่นอนว่าในตอนนี้เด็กสาวคนนั้นกำลังอยู่ในอันตรายอย่างแน่นอน
ดวงตาคมกริบมองจ้องไปยังเด็กสาวที่นั่งบีบมือตัวเองเอาไว้แน่นสลับกับชายแก่ที่พยายามจะพูดคุยกับเด็กสาวและมองเธอด้วยท่าทางจาบจ้วงอย่างเห็นได้ชัด ส่วนเด็กสาวก็ทำได้เพียงก้มหน้างุดและตัวสั่นด้วยความหวาดกลัว
จนกระทั่งเขาเห็นว่าเด็กสาวกับชายแก่ทานอาหารกันจนเสร็จเรียบร้อยแล้ว ชายแก่จึงลุกขึ้นและเหมือนเขาจะพยายามชักชวนให้เด็กสาวลุกขึ้นยืนตาม แต่ทว่าสาวน้อยก็อ้อยอิ่งอยู่สักพักหนึ่ง ก่อนที่เธอจะจำใจลุกขึ้นยืนแล้วเดินไปอย่างช้าๆ ทำให้ชายแก่รีบเดินตามเด็กสาวไปด้วยใบหน้าหื่นกระหายทันที เมื่อลูคัสเห็นอย่างนั้น เขาจึงรีบลุกขึ้นจากเก้าอี้อย่างรวดเร็ว
“จ่ายเงินด้วยอีวาน” ชายหนุ่มบอกกล่าวคนสนิท
“ครับนาย” สิ้นเสียงตอบกลับของอีวาน ลูคัสรีบจ้ำอ้าวเดินตามเด็กสาวกับชายแก่ไปทันที
ย้อนไปก่อนหน้านี้ร่างกำยำของลูคัสสวมเสื้อเชิ้ตนั่งอยู่บนเก้าอี้ตรงโต๊ะทำงานภายในโรงพยาบาลของตัวเอง เขาใจจดใจจ่อกับเอกสารในแฟ้มตรงหน้าอยู่ เสียงเคาะประตูดังขึ้นมาพร้อมกับอีวานที่เปิดแง้มประตูห้องเข้ามา อีวานเดินมาหยุดอยู่ตรงหน้าโต๊ะทำงานของลูคัส“นายครับ…ประวัติของผู้หญิงที่นายให้ผมไปสืบมาครับ” อีวานเอ่ยพลางยื่นแฟ้มเอกสารสีดำวางไว้บนโต๊ะให้เจ้านาย ลูคัสจึงเอื้อมมือไปหยิบแฟ้มขึ้นมาและเปิดอ่านทันที “ชาลิสา” ลูคัสพึมพำชื่อของหญิงสาวออกมาเบาๆ ตั้งแต่วันนั้นที่เขาชนเข้ากับเธอ เขาก็รู้สึกถูกใจเธอมากๆ เขาไม่สามารถเอาผู้หญิงคนนั้นออกไปจากสมองของตัวเองได้ บางวันเขาก็ต้องมาสำเร็จความใคร่ด้วยมือของตัวเองเมื่อเขานึกถึงเธอ ลูคัสเพิ่งจะเข้าใจคำว่ารักแรกพบก็ตอนที่พบกับนักศึกษาคนนี้นี่แหละ“ครอบครัวเธอติดพนันเหรอ” ชายหนุ่มอ่านประวัติของเธอไปเรื่อยๆ พลางเอ่ยถามคนสนิทขึ้นมา “ไม่ใช่แม่แท้ๆ ครับ…เป็นแม่เลี้ยงกับลูกติดครับ” อีวานตอบกลับเจ้านาย ลูคัสครุ่นคิดอยู่ชั่วครู่ เขาไล่สายตาอ่านไปเรื่อยๆ ก็พบว่ากาสิโนที่พวกมันไปเล่น ก็คือกาสิโนของเขาเอง ดีเลย! แบบนี้เขาจะได้ทำอะไรง่ายยิ่งขึ้น“ทำให้พวกมันเป็นหนี้
หนึ่งปีต่อมา“พ่อกับแม่ถึงไหนแล้ว…เพิ่งลงเครื่องเหรอครับ…ครับ” เสียงทุ้มทรงพลังของลูคัสเอ่ยกับปลายสาย เขายืนอยู่ในห้องโถงของคฤหาสน์ที่ตอนนี้กลายเป็นสนามเด็กเล่นไปเรียบร้อยแล้ว ลูคัสยืนล้วงกระเป๋ากางเกงมือเดียวพลางแนบโทรศัพท์ตรงใบหูเพื่อคุยโทรศัพท์กับพ่อของตัวเอง เมื่อคุยเสร็จลูคัสก็กดวางสายไปทันที“พ่อแม่ลงเครื่องแล้ว…กำลังตรงมาที่คฤหาสน์” ลูคัสหันมาบอกกล่าวกับภรรยา ก่อนที่เขาจะเดินมาย่อตัวนั่งลงข้างๆ ชาลิสา“ค่ะ” เสียงหวานของชาลิสาตอบกลับสามีสั้นๆ เธอนั่งอยู่บนโซฟากลางห้อง บนอ้อมแขนของชาลิสามีเด็กชายแก้มยุ่ยๆ นอนมองเธอตาแป๋ว “เซบาสเตียน…คุณปู่คุณย่ากำลังจะมาหาแล้วนะลูก” ชาลิสาก้มลงเอ่ยกับลูกชายวัยสี่เดือนนิดๆ ถึงแม้ว่าเขายังไม่รู้เรื่อง แต่เธอก็มักจะพูดคุยกับลูกชายตลอด มือบางยกขึ้นมาลูบไล้แก้มขาวอมชมพูของเด็กน้อย“คุณหนูคะ” เสียงของณัฐวดีเอ่ยขึ้นมาพร้อมกับร่างหญิงสาวที่เดินตรงมาหยุดอยู่หน้าของเจ้านายทั้งสองคน“มีอะไรหรือเปล่าคะป้าณัฐ” ชาลิสาเงยหน้าขึ้นไปมองหญิงแก่ ปกติณัฐวดีจะประจำอยู่ที่บ้านของชาลิสา แต่เมื่อชาลิสาคลอดลูกชายออกมาได้ หญิงแก่ก็ขอมาดูแลคุณชายที่คฤหาสน์ทันที“คุณใบเฟิร
“สวัสดีค่ะท่านลูคัส…ยินดีต้อนรับนะคะมาดาม” เสียงของแม่บ้านทักทายลูคัสกับชาลิสาที่กำลังเดินเข้าไปในคฤหาสน์ของตระกูลโลรองต์ ข้างหลังของคู่สามีภรรยาป้ายแดงมีเหล่าบอดี้การ์ดที่ถือกระเป๋ามาให้หญิงสาวสามสี่ใบ สาวใช้ยืนเรียงรายอยู่ตรงประตูทางเข้าเพื่อรอรับเจ้านายอย่างเป็นระเบียบผ่านมาสามวันหลังจากงานแต่งงานของพวกเขา ชาลิสาคุยกับณัฐวดีเมื่อวานนี้ เพื่อที่จะให้หญิงแก่มาอยู่ที่คฤหาสน์ด้วยกัน แต่ทว่าหญิงแก่ก็ไม่อยากมาเพราะการเป็นอยู่ที่แตกต่างกัน ชาลิสากับลูคัสจึงได้ข้อสรุปว่าควรพาณัฐวดีไปส่งที่บ้านของชาลิสา เพื่อให้สาวใช้คนสนิทของเธอเป็นหูเป็นตาและดูแลคนในบ้านของหญิงสาวด้วย พวกเขาจึงจัดการทุกอย่างให้เสร็จก่อนที่จะย้ายเข้ามาที่คฤหาสน์คู่สามีภรรยาป้ายแดงเดินเคียงข้างกันมาที่ห้องโถงใหญ่เพราะลูคัสคาดว่าพ่อแม่ต้องอยู่ในห้องนี้อย่างแน่นอน“มากันแล้วเหรอ” เสียงชายแก่พูดขึ้นมาทันทีเมื่อเห็นชาลิสากับลูคัสเดินเข้ามาในห้องโถง“นั่งลงก่อนๆ” ลูตินนั่งอยู่บนโซฟาข้างภรรยาเอ่ยต่อ ลูคัสจึงดันแผ่นหลังแบบบางของชาลิสาให้เดินไปทิ้งตัวนั่งลงตรงข้ามกับพ่อแม่“พ่อกับแม่คุยกันแล้วนะ…ในเมื่อพวกแกมาอยู่ที่คฤหาสน์แล้ว…พ
ชาลิสามองลูคัสที่คืบคลานมาหาเธอตาปริบๆ มารู้ตัวอีกที ชายหนุ่มก็มาหยุดอยู่ตรงหน้าของเธอและเริ่มไต่มาคร่อมร่างเธอเอาไว้แล้ว ชาลิสาเอนกายไปด้านหลังอย่างช้าๆ เพราะร่างกำยำที่โน้มลงมาใกล้เธอมากยิ่งขึ้น“พี่ไม่เหนื่อยบ้างเหรอคะ” เสียงหวานของชาลิสาเอ่ยถาม“ก็เหนื่อยครับ” ลูคัสตอบกลับ“งั้นเรานะ…อืออ” ยังไม่ทันที่ชาลิสาจะเอ่ยจบประโยค เรียวปากหยักหนาฉกจูบลงบนเรียวปากเล็กอย่างรวดเร็วลิ้นสากร้อนแทรกเข้าไปตวัดพัวพันลิ้นเล็กอย่างหื่นกระหาย ถึงแม้ว่าหญิงสาวจะอยู่ในพิธีมาตลอดทั้งวัน แต่ผิวเนื้อของเธอก็ยังคงหอมหวานอยู่เหมือนเดิม ยิ่งเหงื่อหญิงสาวออกมันยิ่งทำให้กลิ่นของเธอชัดมากยิ่งขึ้น ชายหนุ่มทาบทับลงไปเรื่อยๆ จนหญิงสาวเอนกายลงไปนอนราบกับที่นอนลิ้นร้ายควานหาความหอมหวานจากอุ้งปากเล็กอยู่สักพัก ก่อนที่เรียวปากหยักจะค่อยๆ ละริมฝีปากออกมาอย่างช้าๆ เขาชะงักจ้องมองใบหน้าสวยคมของภรรยาอยู่ชั่วครู่ มือแกร่งเลื่อนมาจับใบหน้าเธอ ก่อนที่เขาจะจุมพิตลงบนหน้าผากเกลี้ยงเกลาอย่างแผ่วเบาเขายืดกายนั่งตัวตรง ก่อนที่มือแกร่งเลื่อนลงไปถอดชุดเจ้าสาวออกอย่างช้าๆ ไม่กี่นาทีต่อมาชุดเจ้าสาวแสนสวยก็หลุดออกไปจากร่างอรชร ชายห
เสียงดนตรีบรรเลงเปิดขึ้นเบาๆ บรรยากาศงานแต่งงานริมทะเลที่ตกแต่งโทนสีขาวผ้าพลิ้วไสวเข้ากับทะเลและหาดทรายสีขาว ภายในงานถูกตกแต่งด้วยกุหลาบสีชมพูกับขาวสลับกันดูสวยงาม ชาลิสาสวมชุดเจ้าสาวสีขาวสะอาดตาดุจดั่งนางฟ้าเดินดิน ร่างอรชรสวยสง่าก้าวเดินไปตามพรมที่ปูยาวไปจนถึงแท่นทำพิธีที่ฉากเบื้องหลังเป็นทะเลสีฟ้าครามที่มีชายหนุ่มสวมชุดสูทและแต่งทรงผมดูเรียบร้อยกว่าปกติชาลิสามองว่าที่เจ้าบ่าวที่อยู่ตรงสุดทางเดินพรมแดงด้วยสายตาเปล่งประกาย ลูคัสราวกับเทพเจ้าหล่อเหลาสง่างามที่หลุดออกมาในเทพนิยาย เรียวขาสวยย่างกรายตรงไปหาเจ้าบ่าวของเธออย่างช้าๆ แขกเหรื่อทั้งสองฝั่งของพรมแดงมองหญิงสาวที่กำลังก้าวอย่างชื่นชมในความงดงามของเธอลูคัสมองร่างอรชรในชุดเจ้าสาวตาไม่กะพริบ โดยปกติชาลิสาก็ดูสวยสดอยู่แล้ว แต่ทว่าในวันนี้หญิงสาวยิ่งดูสวยสง่าและมีเสน่ห์มากๆ เขามองตามร่างเล็กจนกระทั่งเธอเดินมาหยุดอยู่ตรงหน้าของเขาและบาทหลวง ใบเฟิร์นกับฟีลิกซ์รับหน้าที่เป็นเพื่อนเจ้าบ่าวเจ้าสาว เพื่อนทั้งสองคนยืนอยู่ด้านหลังของคู่บ่าวสาวของงานในวันนี้“สวยมาก” เสียงทุ้มเอ่ยออกมาพลางเลื่อนมือไปจับมือเล็กเอาไว้ทั้งสองข้าง“ขอบคุณค่ะ วั
หลายวันต่อมา“ครับ…ผมรู้แล้วครับพ่อ…เรื่องร้านชุดแต่งงานผมจัดการแล้ว” เสียงของลูคัสคุยโทรศัพท์กับบิดาตัวเองอยู่บนโซฟาภายในห้องนั่งเล่นบนเพนท์เฮาส์หรู ชาลิสากำลังเก็บจานช่วยณัฐวดีเพราะพวกเขาเพิ่งกินอาหารเช้าเสร็จ หลังจากวันที่ลูคัสขอชาลิสาแต่งงาน ชายหนุ่มก็โทรไปบอกกล่าวกับพ่อแม่ทันที ซึ่งพวกท่านก็ดีใจมากๆ แต่อีกอย่างหนึ่งที่เขาแอบทำไว้ก็คือการ์ดงานแต่งงาน เขาไม่รู้ว่าหญิงสาวจะตอบตกลงหรือเปล่า แต่เขาก็สั่งทำการ์ดแต่งงานไปเรียบร้อยแล้ว และตั้งแต่ที่ลูคัสแจ้งเรื่องที่เขาขอชาลิสาแต่งงานแล้ว ลูตินเอาแต่โทรมาหาเขาและสอบถามเรื่องนั้นเรื่องนี้ไม่หยุด ชายแก่โทรมาทุกวันจนเขารู้สึกรำคาญเล็กน้อย“คุณพ่อว่าไงบ้างคะ” หญิงสาวเก็บจานเก็บโต๊ะจนเสร็จสรรพ เธอก็เดินมาย่อตัวนั่งลงบนโซฟาข้างกายชายหนุ่ม มือแกร่งเลื่อนมาแตะต้นขาหญิงสาวเอาไว้ทันที“ก็เรื่องเดิมๆ นั่นแหละ ให้พี่เร่งหาร้านชุดแต่งงาน แล้วก็หาที่จัดงานแต่งงานด้วย” เขาหันมาตอบกลับชาลิสา“ไม่เห็นจะต้องเร่งเลยค่ะ” เธอก็ไม่เข้าใจว่าทำไมทุกคนถึงได้ดูทำอะไรรีบร้อนไปหมดเช่นนี้ ถึงแม้ว่าชาลิสาจะรู้สึกดี แต่เธอก็ไม่ได้อยากจะให้ลูคัสเหนื่อยมากจนเกินไป“พวก







