ตอนที่10. วางแผน
เสียงของอาตงแทรกขึ้น ในตอนที่เซียวเล่ห์กำลังคิดอะไรเพลิน ๆ “บอสจะจัดงานที่ไหนครับ?”
“คฤหาสน์ริมทะเลของตระกูลเราเอง” เขาตอบทันที “และทุกคนในงาน...จะต้องถอดหน้ากากออกมาให้หมด”
บรรยากาศงานเลี้ยงหรูภายในโรงแรมระดับห้าดาวถูกตกแต่งอย่างหรูหรา แสงไฟคริสตัลระยิบระยับทั่วห้องบอลรูม ผสมเสียงไวโอลินคลอเบา ๆ ที่ชวนให้รู้สึกไม่ไว้วางใจยิ่งกว่าอบอุ่นต้อนรับ
เซียวเล่ห์ยืนสงบนิ่งอยู่มุมหนึ่งของงาน สูทดำเรียบหรูขับใบหน้าเย็นชาไร้ความรู้สึก ลูกสมุนยืนเรียงรายอยู่ด้านหลังอย่างมีระเบียบ ท่ามกลางกลุ่มแขกผู้ทรงอิทธิพลในวงการใต้ดินที่ทยอยเข้ามาเรื่อย ๆ
ฮานะก้าวเข้าสู่งานอย่างสง่าภายใต้ชุดกิโมโนประยุกต์สีเลือดนก ประดับลวดลายมังกรญี่ปุ่นปักด้วยไหมทอง โซระเดินตามหลังเธอห่าง ๆ สีหน้าพร้อมบวกเต็มพิกัด
ดวงตาคู่สวยของฮานะมองกวาดรอบงาน เธอจับสังเกตผู้คนไปเรื่อย ๆ ก่อนสายตาจะปะทะเข้ากับเซียวเล่ห์ที่มองมาอยู่ก่อนแล้ว
รอยยิ้มเย็นเฉียบผุดขึ้นบนใบหน้าของเซียวเล่ห์ เหมือนนักล่าที่กำลังรอเหยื่อเดินเข้ากับดักอย่างเต็มใจ
“ยินดีต้อนรับครับ..คุณหนูมังกรสายเลือดยากูซ่า” เขาเอ่ยเบา ๆ กับตัวเอง ก่อนจะยกแก้วไวน์ขึ้นแนบริมฝีปาก ราวกับให้สัญญาณเริ่มเกม
ฮานะเองก็ยิ้มบางเหมือนกัน ยิ้มที่ไร้ความเป็นมิตรไม่ต่างกันนัก
เซียวเล่ห์ก้าวเข้ามาใกล้ แววตานิ่งสงบแต่แฝงไปด้วยความคุกคามอ่อน ๆ เขาโน้มตัวลงเล็กน้อย พอให้กระซิบชิดหูหญิงสาวที่ยืนจิบไวน์อยู่คนเดียวริมระเบียงกระจก
“แต่งตัวมาแบบนี้… คิดจะล่อใครก่อนกันแน่ ฮานะจัง” ฮานะยกคิ้วขึ้นหยัน ๆ หันมาสบตาเขาชัด ๆ ดวงตาคมของเธอไม่สะทกสะท้านแม้แต่น้อย
“ใครจะล่อใครก็ไม่รู้สิ... แต่ที่แน่ ๆ คืนนี้ฉันมาในฐานะผู้แทนแก๊งยากูซ่า ไม่ใช่นักศึกษาโง่ ๆ ในคลาสของคุณ” เซียวเล่ห์หัวเราะเบา ๆ ในลำคอ เสียงต่ำทุ้มที่เต็มไปด้วยความยั่วยวน
“พูดเหมือนไม่เคยโง่ให้ฉันดูเลยสักครั้ง”
“ใช่ ฉันเคยโง่...” ฮานะก้าวเข้าไปใกล้จนหน้าเกือบชิด “…ที่เคยหลงคิดว่าอาจารย์หน้าตายคนนั้นแค่เย็นชา แต่ไม่อันตราย”
“น่ารักดีนี่... รู้ตัวช้าแต่ยังทัน” เขายกมือไปแตะแก้วไวน์ของเธอเบา ๆ แล้วพูดต่อด้วยน้ำเสียงราวกับบทสนทนาระหว่างคู่รักที่กำลังจีบกัน
“คืนนี้สนุกแน่… อย่าตายก่อนฉันให้สัญญาณล่ะ”
“ขอบคุณที่เตือน” ฮานะยิ้มบาง “แต่คุณต่างหากที่ควรดูหลังตัวเองไว้ให้ดี คนอย่างฉัน… ไม่ฆ่าซ้ำ”
เธอพูดจบก็หันหลังเดินจากไป ทิ้งไว้แค่กลิ่นน้ำหอมจาง ๆ และรอยยิ้มบาง ๆ ของเซียวเล่ห์ที่เปลี่ยนจากเจ้าเล่ห์เป็นอันตรายเต็มขั้น
“ตกลงคืนนี้ใครเป็นเหยื่อ… ใครเป็นนักล่า คงได้รู้กัน” เขาพึมพำอยู่เพียงลำพัง
เสียงไวโอลินคลอเบา ๆ ชวนเคลิ้ม แขกมากหน้าหลายตาจากวงการใต้ดินทยอยเดินเข้ามา เซียวเล่ห์ในชุดสูทดำสนิทที่ยังยืนรับแขกอยู่หน้าโถงกลาง ท่าทางสงบนิ่งแต่แววตาคมกริบจ้องทุกความเคลื่อนไหว
เสียงจากพิธีกรก็เรียกให้คู่ตัวแทนของแต่ละแก๊งออกไปเปิดฟลอร์เต้นรำ
“อย่าบอกนะว่าเธอไม่กล้า” เซียวเล่ห์กระซิบข้างหู แววตากรุ้มกริ่มชวนโมโห เพราะหลังจากที่พิธีกรประกาศเขาก็เดินตรงมาหาเธอในทันที ฮานะเลิกคิ้ว
“อย่าคิดว่าเต้นรำกับหมาป่าจะทำให้ฉันกลัว”
มือเขาสอดประสานกับมือเธอ สองร่างเคลื่อนไหวไปตามจังหวะดนตรี แต่มันไม่ใช่การเต้นรำธรรมดา
ทุกจังหวะฝ่าเท้าราวกับข่มกัน แข่งกัน ใครจะเป็นฝ่ายพลาดก่อนกันแต่ทันใดนั้น...
ปัง!!
เสียงปืนดังขึ้นกลางงาน แขกแตกตื่น เซียวเล่ห์โอบกอดฮานะเอาไว้ ก่อนจะหาที่บังกาย บอดี้การ์ดชักปืน ใครบางคนถูกยิงที่ไหล่ ไม่ถึงตายแต่ชัดเจนว่าคือการเตือนยังไม่ทันจะทันตั้งหลัก จอโปรเจกเตอร์ใหญ่กลางห้องกลับขึ้นภาพนิ่ง…ทุกอย่างในห้องเงียบสงบในทันนทีภาพของ “มิยูกิ เคียว พี่ชายของฮานะในสภาพถูกมัดและคุกเข่า ด้านหลังของเขา…คือชายคนหนึ่งในชุดดำที่ใบหน้าถูกพราง
และ ภาพสุดท้ายเซียวเล่ห์ยืนถือปืน จ่อหัวพี่ชายของเธอ!
เสียงฮือฮาดังก้อง
ฮานะนิ่งงันในอ้อมแขนของเซียวเล่ห์ แววตาเปลี่ยนเป็นแข็งกร้าวทันที “นี่หรือคือวิธีของนาย…ล่อฉันมาเพื่อฆ่า?”แต่เซียวเล่ห์กลับหันไปสบตาเธอด้วยแววสงสัย
“…ฉันไม่เคยเห็นภาพนี้มาก่อน”
ความเงียบชั่วขณะกลายเป็นแรงกดดันจนทุกคนในงานแทบหายใจไม่ออก ทั้งที่ต่างก็พากันหลบมุมจากกระสุนปืนที่ไม่รู้ว่าจะสาดมาจากทางไหน และจากมุมหนึ่งของระเบียงด้านบนใครคนหนึ่งที่ปิดบังใบหน้า ยืนดูเหตุการณ์อย่างเงียบ ๆ
รอยยิ้มเจือบนริมฝีปากของเขา ทั้งอบอุ่น…และอันตราย
ภาพเก่าดับไปภาพใหม่ขึ้นมาแทน...
คือ ภาพจากกล้องวงจรปิดเก่าๆ ที่แสดงให้เห็นเด็กหญิงในเสื้อเปื้อนเลือด ถูกดึงตัวออกมาจากกองซากศพ
เสียงชายคนหนึ่งพูดในคลิปแหบแห้งแต่ชัดเจน
“เด็กคนนี้... ไม่ใช่ลูกแท้ๆ ของโคจิโร่… พ่อแม่เธอตายเพราะเขา…” ทุกสายตาหันมองที่ฮานะ
ฮานะยืนนิ่งไปชั่วขณะ ดวงตาเบิกกว้าง เธอหันไปมองพ่อที่ยืนอยู่ในกลุ่มแขกยากูซ่าทางขวา เขาไม่แสดงสีหน้าใด ๆ ที่บังตัวอยู่อีกฝั่งหนึ่งพร้อมกับบอดีการ์ดเป็นจำนวนมาก
แต่ก่อนที่ใครจะพูดอะไรต่อ...
เสียงปืนก็ดังขึ้น!อีกครั้ง
ปัง! ปัง!
มีใครบางคนลอบยิงจากชั้นลอยเหนือเวที แขกแตกตื่น โกลาหลวุ่นวาย เซียวเล่ห์จับข้อมือฮานะไว้แน่นแล้วดึงร่างเธอเข้าหลบหลังเสา
“คิดจะฆ่าฉันหรือเธอกันแน่เนี่ย?”
เขาตะคอกเบา ๆ“ฉันจะรู้ไหม นายเองก็คงมีศัตรูเยอะไมต่างกันล่ะสิ”
ตอนที่10. วางแผนเสียงของอาตงแทรกขึ้น ในตอนที่เซียวเล่ห์กำลังคิดอะไรเพลิน ๆ “บอสจะจัดงานที่ไหนครับ?”“คฤหาสน์ริมทะเลของตระกูลเราเอง” เขาตอบทันที “และทุกคนในงาน...จะต้องถอดหน้ากากออกมาให้หมด”บรรยากาศงานเลี้ยงหรูภายในโรงแรมระดับห้าดาวถูกตกแต่งอย่างหรูหรา แสงไฟคริสตัลระยิบระยับทั่วห้องบอลรูม ผสมเสียงไวโอลินคลอเบา ๆ ที่ชวนให้รู้สึกไม่ไว้วางใจยิ่งกว่าอบอุ่นต้อนรับเซียวเล่ห์ยืนสงบนิ่งอยู่มุมหนึ่งของงาน สูทดำเรียบหรูขับใบหน้าเย็นชาไร้ความรู้สึก ลูกสมุนยืนเรียงรายอยู่ด้านหลังอย่างมีระเบียบ ท่ามกลางกลุ่มแขกผู้ทรงอิทธิพลในวงการใต้ดินที่ทยอยเข้ามาเรื่อย ๆฮานะก้าวเข้าสู่งานอย่างสง่าภายใต้ชุดกิโมโนประยุกต์สีเลือดนก ประดับลวดลายมังกรญี่ปุ่นปักด้วยไหมทอง โซระเดินตามหลังเธอห่าง ๆ สีหน้าพร้อมบวกเต็มพิกัดดวงตาคู่สวยของฮานะมองกวาดรอบงาน เธอจับสังเกตผู้คนไปเรื่อย ๆ ก่อนสายตาจะปะทะเข้ากับเซียวเล่ห์ที่มองมาอยู่ก่อนแล้วรอยยิ้มเย็นเฉียบผุดขึ้นบนใบหน้าของเซียวเล่ห์ เหมือนนักล่าที่กำลังรอเหยื่อเดินเข้ากับดักอย่างเต็มใจ“ยินดีต้อนรับครับ..คุณหนูมังกรสายเลือดยากูซ่า” เขาเอ่ยเบา ๆ กับตัวเอง ก่อนจะยกแก้วไวน์
ตอนที่9. ปรับความเข้าใจกับพ่อณ ร้านอาหารญี่ปุ่นของตระกูลมิยูกิเสียงประตูเลื่อนแบบญี่ปุ่นเปิดออก พร้อมร่างของ ฮานะ ที่ก้าวเข้ามาด้วยใบหน้าหวั่นใจ เธอได้รับข้อความจากพ่อให้มาที่ร้านด่วน โดยไม่มีคำอธิบายใด ๆ เพิ่มเติมมิยูกิ โคจิโร่ นั่งรออยู่แล้วที่โต๊ะมุมในสุดของร้าน แสงไฟสลัวตกกระทบใบหน้าเย็นชาของเขา ใบหน้าที่ไม่เคยแสดงความรักแบบพ่อคนอื่น ๆ มีเพียงความกดดันและคาดหวังที่ถาโถมใส่เธอมาตลอดชีวิต“มานั่ง” เสียงของเขานิ่ง เรียบ แต่หนักแน่นฮานะเดินเข้าไปนั่ง เธอยังไม่ทันได้ถามอะไร โคจิโร่ก็หยิบซองสีน้ำตาลขึ้นมาแล้วโยนลงบนโต๊ะตรงหน้าเธอ"เปิดดู"มือของฮานะสั่นเล็กน้อย ก่อนจะค่อย ๆ เปิดซองออกมาดู ภาพในนั้นคือภาพของ เคียว พี่ชายของเธอ ถูกจับมัดไว้กับเก้าอี้ในโกดังร้าง สีหน้าของเขาเต็มไปด้วยความเจ็บปวดและสิ้นหวังแต่สิ่งที่ทำให้เธอแทบหยุดหายใจ…คือใบหน้าของ เซียวเล่ห์ ในภาพ เขากำลังถือปืนจ่อที่ศีรษะของพี่ชายเธอ“เรื่องนี้มัน…” ฮานะพูดไม่ออก ร่างทั้งร่างราวกับถูกแช่แข็งโคจิโร่มองลูกสาวด้วยสายตาคมกริบ “ยังจะถามอะไรอีกไหม? รูปพวกนี้ตอบคำถามได้ชัดเจนกว่าคำพูดไหน ๆ”เสียงของเขาเข้มขึ้น “พี่ชายของ
ตอนที่8. เรื่องราวในอดีต“ฉันรู้แล้วว่าเธอไม่ใช่ลูกแท้ ๆ ของโคจิโร่และฉันก็รู้ด้วยว่าเธอมีพี่ชายชื่อฮารุโตะ...ที่อาจยังมีชีวิตอยู่”ฮานะเงยหน้าขึ้นมอง ดวงตาแดงก่ำ“แล้วคุณจะทำยังไง...จะใช้ฉันเป็นตัวล่อให้เขาโผล่มาใช่ไหม?”เซียวเล่ห์นิ่งไปพักหนึ่งก่อนพูดเสียงต่ำ“ไม่…แต่ถ้าเขาคือคนที่ฆ่าน้องชายฉัน ฉันจะลากเขาออกมาด้วยมือฉันเอง และถ้าเธอเป็นกุญแจ...ก็จงเตรียมใจไว้ได้เลยว่า ประตูที่เรากำลังจะเปิด มันจะไม่มีวันปิดลงอีกต่อไปแล้ว”“ประตูมันปิดตายตั้งแต่ที่ฉันได้มาเจอกับคุณแล้วต่างหาก เพราะอะไรรู้ไหมคะ? ”ฮานะเอ่ยถามเซียวเล่ห์ด้วยแววตาที่แดงก่ำเป็นอย่างมาก“เพราะอะไร ไหนพูดมาสิ อะไรที่ทำให้เธอคิดว่าประตูมันปิดตายตั้งแต่มาเจอฉัน” เซียวเล่ห์ถามด้วยความอยากรู้เป็นอย่างมาก ว่าอะไรที่ทำให้ฮานะคิดแบบนั้น“ก็ตั้งแต่ฉันเจอคุณ ชีวิตที่เคยเรียบง่ายของฉัน ในตอนนี้เต็มไปด้วยปัญหา ทั้งคนที่ติดตามฉัน โดยที่ฉันเองก็ไม่รู้ว่าคนที่ตามเป็นใคร และมีจุดประสงค์อะไร ไหนจะบอดีการ์ดทางฝั่งของฉัน ไหนจะคนของคุณ แบบนี้คุณยังคิดว่าชีวิตฉันมันยังเรียบง่ายอยู่อีกเหรอคะ แม้แต่ในรถที่ติดสัญญาณ GPS และ เครื่องดักฟัง”ฮานะพ
ตอนที่ 7. ความจริงไม่มีวันตาย…มันแค่ซ่อนอยู่ในความเงียบเกียวโต, ประเทศญี่ปุ่น เจ็ดปีก่อนลานฝึกศิลปะต่อสู้ของแก๊งมังกรดำ เสียงฝ่ามือกระทบไม้ไผ่ดังสะท้อนทั่วลาน ท่ามกลางอากาศเย็นยะเยือกของฤดูหนาวที่คลุมเมืองด้วยม่านหมอกเซียวหานในวัยเพียง 18 ปี ยืนประจันหน้ากับเด็กหนุ่มอีกคน ดวงตาเด็ดเดี่ยวไม่แพ้กัน“นายไม่ควรมาอยู่ที่นี่ ฮารุโตะ” เซียวหานกัดฟันเอ่ยขณะเงื้อดาบไม้ในมือ“ก็ฉันไม่มีที่ไปและที่นี่คือที่ที่ฉันจะพิสูจน์ว่าเด็กญี่ปุ่นตัวเล็ก ๆ คนนี้ไม่ได้อ่อนแออย่างที่ใคร ๆ คิด!”สองดาบไม้ปะทะกันกลางลาน เสียงดังปัง ๆ ราวกับจะสะท้อนอนาคตที่กำลังจะแตกสลายไม่นานหลังจากนั้น…เซียวหานตายอย่างลึกลับในการปฏิบัติการลับที่ไม่ควรพลาด และฮารุโตะ...หายตัวไปโดยไม่มีใครเห็นแม้แต่เงาปัจจุบัน กรุงเทพฯอาตงถือซองเอกสารมาให้เซียวเล่ห์ที่นั่งอยู่ในห้องพักอาจารย์“เราเจอหลุมศพชื่อเซโตะ ฮารุโตะจริงครับ แต่…ในหลุมนั้นไม่มีศพ”“ของปลอม?” เซียวเล่ห์ถามด้วยความแปลกใจเป็นอย่างมาก เมื่อได้ยินเรื่องที่ไม่น่าจะเป้นไปได้ในตอนนี้“ครับ…และเราพบว่า เขาอาจมีชีวิตอยู่ภายใต้อีกชื่อหนึ่ง ชื่อที่เกี่ยวข้องกับแก๊งยากูซ่าที่กลับ
ตอนที่6. ความลับที่ถูกเปิดเผยรถยนต์ของเซียวเล่ห์จอดที่บริเวณหน้าคอนโดของฮานะ ชายหนุ่มมองหญิงสาวที่นั่งนิ่งอยู่อย่างนั้นก่อนจะเอ่ยขึ้น“ไม่ลงไปล่ะ หรือว่ามีอะไร”“ฉันแค่อยากให้เราคงสถานะอาจารย์กับลูกศิษย์ในตอนที่อยู่ในมหาลัย ฉันไม่อยากให้ใครรู้เรื่องนี้ ได้ไหมคะ? ”“อืมเข้าใจแล้ว” เมื่อได้คำตอบที่ต้องการแล้วนั้น ฮานะเปิดประตูรถและก้าวออกไปทันทีทันทีที่เข้ามาภายในคอนโด ก็ต้องทำให้เธอตกใจเป็นอย่างมากเพราะว่าเมื่อเข้าไปในห้องนั้นเธอก็ได้พบกับโคจิโร่ พ่อของฮานะนั่งรออยู่ที่โต๊ะ พร้อมกับน้ำชาเย็นและเอกสารบางอย่าง“ลูกไปที่คฤหาสน์มังกรดำมาใช่ไหม?” ฮานะเงียบ รู้ตัวว่าโกหกไม่ได้“พ่อขอเตือนนะฮานะ…อย่าหวั่นไหวกับคนแบบนั้น พวกเขาเกิดมาเพื่อเป็นศัตรู ไม่ใช่คู่ชีวิตของเรา”ฮานะกำหมัดแน่น“แล้วถ้าหนูไม่อยากเป็นคนที่อยู่ในเกมของพวกเขาล่ะคะ?”โคจิโร่ชะงัก…แต่น้ำเสียงยังนิ่ง“ถ้าหนูออกจากเกม หนูจะไม่มีอะไรปกป้องตัวเองอีกเลย…แม้แต่หัวใจ”“พ่อให้คนตามหนู แต่ไม่ให้คนช่วยหนูในตอนที่หนูตกอยู่ในอันตรายอย่างนั้นเหรอคะ?”“ใช่ แต่พ่อรู้ว่าหมอนั่นจะไม่ทำอะไรลูกของพ่อเป็นแน่ เพราะมันเสี่ยงเกินไป”“แล้วถ้ามันก
ตอนที่5. คืนที่ทุกอย่างเปลี่ยนไปห้องใต้ดินของตึกเรียนร้างมือปริศนากำลังกดปุ่มส่งข้อความลับ ข้อความถูกส่งไปยังเบอร์ของฮานะ…พร้อมภาพถ่ายเก่า“ถ้าอยากรู้ความจริงเรื่องพี่ชายเธอ…มาพบฉัน คืนนี้ 2 ทุ่ม ที่ตึกเรียนร้าง” ภาพถ่ายที่แนบมา คือภาพของพี่เคียว…ยืนอยู่ข้างเซียวเล่ห์ ในวันที่เขายังไม่ใช่อาจารย์…แต่คือ มือขวาของมังกรดำเสียงฝีเท้าเบา ๆ ดังสะท้อนในทางเดินอันมืดสนิทของตึกเรียนร้างที่เงียบสงบ แสงจากโทรศัพท์มือถือเป็นเพียงสิ่งเดียวที่ส่องทางให้เธอ ค่อย ๆ เดินไปตามทางอย่างช้า ๆ ฮานะมองซ้ายมองขวาตลอดทางเดินอย่างระวัง เพราะเธอไม่อาจจะรู้ได้เลยว่าใครกันที่เป็นคนนัดเธอมาที่นี่ เขารู้เบอร์ติดต่อของเธอได้อย่างไรกัน2 ทุ่มตรง ฮานะมาหยุดอยู่หน้าห้องเรียนเก่าเบอร์ 313 ประตูแง้มไว้อย่างน่าประหลาด“กล้ามาดีหนิ มิยูกิ ฮานะ”เสียงชายหนุ่มแหบต่ำดังจากมุมมืด ฮานะเบิกตากว้างเมื่อเห็นชายร่างสูงในชุดหนังดำ สวมหน้ากากครึ่งหน้า“คุณเป็นใคร?” ฮานะเอ่ยถามและมองไปรอบ ๆ ห้องอย่างระมัดระวังเป็นอย่างมาก“คนที่รอดจากนรกมาเพราะการหักหลังของพี่ชายเธอ…” เขาขว้างแฟ้มหนึ่งมาให้ ฮานะก้มลงเก็บ ข้างในคือหล