Share

บทที่ 9

มู่จิ่วซีเวลานี้พอมองไปก็ไม่เหมือนสาวน้อยอ้อนแอ้นเลย แต่ดูคล้ายกับขุนพลที่กำลังจะออกสังหารศัตรูในค่ายเสียมากกว่า

"คุณหนูใหญ่มู่ ข้าน้อยใช้กำลังภายในขั้นสามแล้ว ท่านระวังด้วย"

"ดี ถ้าไม่ไหว ก็สุดแล้วแต่เจ้าจะสำแดงเลย" มู่จิ่วซีพูดจบ ก็พุ่งตัวเข้าหาเย่อู๋เหิง

นางถนัดการต่อสู้ระยะประชิดที่สุด ยิ่งไปกว่านั้นจะดีที่สุดถ้ามีอาวุธในมือ ถึงอย่างไรเป้าหมายที่ฝึกฝนตอนแรกก็มีเพียงข้อเดียว นั่นคือการสังหารคน

ความเร็วคือสิ่งที่แกร่งที่สุดของนาง ดังนั้นเย่อู๋เหิงจึงไม่เชื่อเลยว่ามู่จิ่วซีที่เร็วขนาดนี้จะไม่ใช้กำลังภายใน แต่ความจริงมันก็เป็นเช่นนั้น

กำลังภายในระเบิดออก ความเร็วของเขาเพิ่มขึ้นทันที ทั้งสองคนปะทะกันไปสิบกว่ากระบวนท่าในพริบตา มู่จิ่วซีร่างกายคล่องแคล่วมาก แทบจะวนตีเย่อู๋เหิงเลยทีเดียว

แต่เย่อู๋เหิงก็พบว่าพลังของมู่จิ่วซีเองก็เพิ่มขึ้นเช่นกัน แต่มันไม่ใช่กำลังภายใน ความเร็วเองก็เพิ่มขึ้น

สิ่งนี้อธิบายว่าการประมือก่อนหน้า นางแค่หยั่งเชิงเท่านั้น สิ่งนี้ทำให้ใจเขาตกตะลึง

ใบหน้างามของโม่จุนก็เคร่งขรึมลงมาจนคนตกใจ สายตาจ้องเขม็งไปที่มู่จิ่วซี ในใจเองก็เกิดคลื่นถาโถม

มู่จิ่วซีต่อสู้จนชุ่มไปด้วยเหงื่อ ร่างกายนี้การเคลื่อนไหวหลายอย่างไม่สามารถทำได้สมบูรณ์ จนทำให้นางรู้สึกไม่มั่นใจ

และพลังของเย่อู๋เหิงก็ยิ่งเพิ่มมากขึ้น นางเองก็สัมผัสได้ถึงความยิ่งใหญ่ของกำลังภายในแล้ว

จู่ๆ นางก็ถอยหลังกับฉับพลัน หอบหายใจเอ่ยขึ้น "พอ!"

เย่อู๋เหิงเองก็หยุดลงทันที หน้าผากมีเหงื่อจางๆ มองมู่จิ่วซีและเอ่ยชมขึ้น "คุณหนูใหญ่ร่างกายคล่องแคล่ว ทำให้ข้าน้อยจำเป็นต้องใช้กำลังภายในขั้นห้าออกมา รู้สึกละอายเสียจริง"

มู่จิ่วซีโบกไม้โบกมือพูดขึ้นว่า "การประลองที่แท้จริง ใครเขาจะมาเก็บมาซ่อนกัน ข้าไม่เป็นกำลังภายใน ไม่ใช่คู่มือของเจ้า"

ตอนที่พูดดวงตานางก็ขรึมลง คิดในใจว่าเจ้าของร่างเดิมเรียนมาแค่หางอึ่งเท่านั้น ไม่ได้เรียนรู้กำลังภายใน สิ่งนี้ทำเอานางกลัดกลุ้มเสียจริง

โม่จุนจู่ๆ ก็เอ่ยขึ้นว่า "กระบวนท่าของเจ้าแตกต่างกับแม่ทัพใหญ่มู่เลย เจ้าไปเรียนมาจากใครหรือ?"

มู่จิ่วซีหันหน้าไปมองเขา จู่ๆ ก็เอ่ยขึ้นเสียงประหลาดใจ "ทำไมท่านยังไม่ไปอีกล่ะ?"

โม่จุนก็เคร่งขรึมลงมาในพริบตา

"เอาล่ะ อย่าทำหน้าเคร่งเลย ข้าเองก็ยังติดค้างท่านอยู่" มู่จิ่วซีเดินไปใต้ชายคานั่งลงหอบหายใจ "จริงด้วย ข้าเห็นด้วยเรื่องถอนหมั้น แต่ว่าข้ามีเงื่อนไขหนึ่ง"

โม่จุนกับเย่อู๋เหิงตามความคิดของนางไม่ทันเอาเสียเลย

"เงื่อนไขอะไร?" โม่จุนถาม

"ท่านสอนวิถีจิตของกำลังภายในให้ข้าหน่อย" มู่จิ่วซีหันหน้ามองเขา

โม่จุนงงงัน เย่อู๋เหิงก็หน้าเปลี่ยนสี

"เจ้าจะฝากตัวเป็นศิษย์กับข้าหรือ?" โม่จุนเลิกคิ้วถามขึ้น

มู่จิ่วซีร้องอ๋ามาคำหนึ่ง ส่ายหัว "ไม่ใช่แน่นอน ขอแค่เรียนรู้วิถีจิตกำลังภายในเท่านั้น ไม่ได้หรือ?"

เย่อู๋เหิงอธิบายขึ้นทันที "คุณหนูใหญ่ วิถีจิตกำลังภายในของทุกสำนักล้วนไม่ถ่ายทอดสู่ภายนอกโดยไร้เหตผล จวนมู่ของท่านเองก็น่าจะมีวิถีจิตกำลังภายในอยู่"

มู่จิ่วซียักไหล่เอ่ยว่า "เขาไม่ใช่เทพสงครามแห่งแคว้นเกาอวิ๋นเสียหน่อย วิชาจะต้องดีกว่าแน่ๆ โม่จุน สอนข้าไม่ได้จริงหรือ?"

"ไม่ได้!" โม่จุนปฏิเสธกลับ

"เช่นนั้นก็มาอภิเษกกัน ถ้าเป็นคนกันเองคงสอนได้สินะ" มู่จิ่วซีขยิบตาให้เขา

"ฝันไปเถอะ!" โม่จุนหัวเราะเย็นชา "ข้าไปบอกกับพ่อของเจ้าแล้วเรื่องถอนหมั้น"

"พ่อของข้าฟังข้านะ ต่อให้เขาเห็นด้วยแล้วจะทำไม ข้ามีวิธีทำให้ท่านถอนหมั้นไม่ได้ด้วยเถอะ อย่างเช่น เมื่อครู่ท่านก็เห็นเรือนร่างข้าแล้ว ไม่ควรจะรับผิดชอบหน่อยหรือ?"

"เจ้า ไร้ยางอาย!" โม่จุนโมโหจนถลึงตาโต

เย่อู๋เหิงเองก็กลืนไม่เข้าคายไม่ออก

"ท่านเย่เข้ามาตรวจสอบคดี แต่ท่านไม่ใช่เสียหน่อย ความบริสุทธิ์ของหญิงสาวสำคัญขนาดไหน ไม่ต้องให้ข้าเตือนท่านกระมัง ถ้าหากข้าไปบอกกับพระพันปีหลวง ท่านคิดว่าพระพันปีหลวงจะช่วยข้าหรือช่วยท่าน?"

"มู่จิ่วซี เจ้าอย่าให้เกินไปนัก!" โม่จุนโมโหจนสั่นเทิ้มไปทั้งร่าง ไม่เคยเห็นหญิงสาวที่ไร้ยางอายเช่นนี้มาก่อนเลย "เจ้าก่อนหน้าบอกว่าถ้าหาคนร้ายตัวจริงได้ เจ้าก็จะถอนหมั้น ตอนนี้กลับคำเสียแล้วหรือ"

Related chapters

Latest chapter

DMCA.com Protection Status