ตอนที่25
ความรู้สึกผิดกักขังหัวใจคน
วุ้นเย็นพยักหน้าอย่างดีใจ เพราะเธอเป็นคนที่ชอบกินน้ำส้มคั้นสดมาก ๆ โสภารีบเทน้ำส้มใส่แก้ว แล้วเอาไปส่งให้ลูกสาว
วุ้นเย็นรับมาก่อนจะดื่มอึก ๆ ไปครึ่งแก้ว
“ค่อย ๆ ดื่มซิลูก เดี๋ยวก็สำลักเอาหรอก” โสภาพูดไม่ทันขาดคำ วุ้นเย็นก็สำลักจนน้ำตาไหล
“เห็นไหม แม่บอกแล้วว่าให้ค่อย ๆ ดื่ม สำลักจนหน้าแดงแล้ว แม่ออกไปเรียกหมอดีกว่า”
โสภาพูดขึ้นด้วยความกังวล พลางหมุนตัวจะออกไปเรียกหมอ แต่วุ้นเย็นคว้าข้อมือของผู้เป็นแม่ไว้เสียก่อน
“แค่ก ไม่ต้อง ๆ หนูไม่เป็นอะไรแล้วค่ะ”
“แน่ใจนะว่าไม่เป็นไรแล้ว ถ้าเหนื่อยก็รีบบอกนะลูก” โสภายังไม่คลายกังวล
“หนูหายแล้วจริง ๆ ค่ะ นี่ไงไม่สำลักแล้ว เขาว่ากันว่า เวลาที่จู่ ๆ เราจามหรือว่าสำลักแสดงว่ามีคนคิดถึง นี่ก็แสดงว่ามีคนคิดถึงหนูแน่ ๆ เลยค่ะ” วุ้นเย็นพูดติดตลกเพียงเพื่อไม่ให้แม่กังวลมากเกินไป
โสภาส่ายหน้าก่อนจะบีบที่ปลายจมูกโด่งรั้นของลูกสาวเบา ๆ
“คิดถึงจนทำให้ เกือบเอาชีวิตไม่รอดแบบนี้แม่ว่าอย่าคิดถึงเลยดีกว่า” โสภาพูดกลั้วหัวเราะ
วุ้นเย็นยิ้มบาง ๆ ตากลมหรุบมองแก้วน้ำส้มในมือ
“น้ำส้มอร่อย สดชื่นไปถึงหัวใจเลยค่ะ คุณแม่คั้นมาเองเลยใช่ไหมคะเนี่ย” พูดจบก็ยกขึ้นจิบช้า ๆ เพราะกลัวจะสำลักเอาอีก
“เปล่า แม่ไม่ได้คั้น น่าจะเป็นคุณอาวิชัยซื้อมาให้น่ะลูก” โสภาตอบตามจริง
คิ้วเรียวของวุ้นเย็นขมวดเข้าหากันเล็กน้อย พร้อมกับพูดขึ้นด้วยความแปลกใจ
“แต่คุณอาไม่รู้ว่าหนูชอบน้ำส้มคั้นนี่คะ นอกจากคุณแม่ก็มี...พี่ชาย” ท้ายประโยคเธอพูดด้วยน้ำเสียงที่แผ่วเบา
“ไม่น่าจะใช่ เพราะตั้งแต่วันนั้น แม่ก็ไม่เห็นคุณธัชมาที่โรงพยาบาลอีกเลยจะมีก็แต่คุณดุจดาวกับคุณญาดาที่มา” โสภาพูดตามความเป็นจริง แต่เมื่อเห็นใบหน้าของลูกสาวสลดลง เธอก็ถอนหายใจยาว พร้อมกับลูบเรือนผมนุ่มเบา ๆ
“วุ้นเย็น แม่รู้ว่าหนูเสียใจที่คุณธัชไม่ยกโทษให้ในตอนนี้ หนูก็ต้องเข้าใจพี่เขานะลูก เขาเป็นที่หนึ่งในทุก ๆ ด้านของโรงเรียนมาตลอด แล้ววันหนึ่งถูกเพื่อนล้อเลียน ในเรื่องที่น้องสาวตัวเองเป็นคนกุขึ้นมา เป็นใคร ใครก็ต้องโกรธ แม่ว่าถ้าเป็นคนอื่นคงไล่เราสองแม่ลูกออกไปจากครอบครัวแล้ว แต่นี่คุณธัชเธออุตส่าห์เป็นฝ่ายออกจากบ้าน ไปใช้ชีวิตอยู่ต่างบ้านต่างเมือง แม่ว่าลึก ๆ เขาก็คงรักและเอ็นดูอยู่ไม่น้อย ให้เวลาพี่เขาหน่อยเถอะนะลูก” คราวนี้โสภาเลือกที่จะพูดความจริง เพื่อที่จะให้ลูกสาวยอมรับให้ได้ และรู้จักปล่อยวางไม่เอาความผิดหวังเสียใจมาทำร้ายตัวเองจนเจ็บป่วยแบบนี้อีก
ใบหน้าเรียวเล็กก้มลงจนเส้นผมสีน้ำตาลเข้มไหลปรกหน้า
“แล้วเวลาตั้งแปดปีนี่ ยังไม่เพียงพอที่จะให้อภัยหนูได้อีกหรือคะคุณแม่” เธอเอ่ยถามด้วยน้ำเสียงที่แผ่วเบา
โสภากรีดปลายนิ้วเรียว เกลี่ยผมนุ่มสลวยของลูกสาวไปเหน็บอยู่หลังใบหูบอบบาง แล้วเชยปลายคางเรียวมนพร้อมกับดันขึ้นน้อย ๆ เพื่อให้ดวงตาของเธอกับลูก ได้สบตากัน ก่อนจะพูดด้วยน้ำเสียงที่อ่อนโยน
“เรื่องแบบนี้ไม่มีใครตอบแทนเจ้าตัวเขาได้หรอกลูก เพราะแต่ละคนก็มีภูมิต้านกับเรื่องที่สะเทือนใจต่างกัน บางคนอาจจะแค่วันสองวัน บางคนก็ปีสองปี แต่บางคนก็เป็นสิบปีหรือบางคนก็ไม่อาจลืมเลือนเรื่องที่สะเทือนใจได้เลยตลอดชีวิต และคุณธัชอาจจะเป็นอย่างสุดท้ายนี้ก็เป็นได้ หนูต้องยอมรับว่าเรื่องที่หนูทำก็ร้ายแรงสำหรับคุณธัชมากเลยนะลูก”
“แล้วหนูจะต้องทำอย่างไร พี่เขาถึงจะยกโทษให้ล่ะคะ หรือหนูจะต้องจมอยู่กับความรู้สึกผิดนี้ไปจนตาย”
น้ำเสียงนั้นสั่นเครือและเต็มไปด้วยความเศร้า จนโสภาอดสะเทือนใจไม่ได้ แต่เธอก็ต้องปรับสีหน้าและน้ำเสียงให้เป็นปกติ เพราะการสอนให้ลูกยอมรับกับความเป็นจริง จะต้องดีกว่าการปลอบใจแน่นอน ที่ผ่านมาเธอเอาแต่ปลอบใจและให้ความหวังว่าเดี๋ยวเมธัชก็ให้อภัย จนเมื่อลูกต้องผิดหวังแล้วรับความจริงไม่ได้ ต้องหนีไปกินเหล้าให้อาการทรุดลงไปแบบนี้
“อย่างที่แม่บอกว่าสำหรับบางคน ต่อให้เราตายไปหรือชดใช้ด้วยชีวิต เขาก็อาจจะไม่ให้อภัยอยู่ดี และนี่คือความจริงที่หนูต้องยอมรับมัน และอีกอย่างคือหมั่นทำดีกับพี่เขา เหมือนที่หนูเคยทำ แต่ห้ามไปตามตื๊อตอแยเด็ดขาด หากพี่เขาไม่อยากเห็นหน้า เราก็อยู่ห่าง ๆ เอาไว้ เพื่อให้เขาสบายใจอย่างไรล่ะลูก”
โสภาพูดถ้อยคำเหล่านี้ออกมาด้วยความเจ็บปวด เธอไม่อยากพูดให้ลูกต้องเสียใจเลยแม้แต่น้อย แต่ก็ทนเห็นลูกทรุดหนักไม่ได้อีกแล้วเช่นกัน
น้ำตาใสไหลออกมาจากดวงตากลม ที่เต็มไปด้วยความเสียใจ วุ้นเย็นค่อย ๆ ยกมือขึ้นกอดรอบเอวกิ่วของผู้เป็นแม่ ปล่อยให้น้ำตาทำหน้าที่ของมันอย่างอิสระ แล้วพูดขึ้นอย่างแผ่วเบา
“ความรู้สึกผิด มันกักขังหัวใจคนได้ดีกว่าคุกอีกนะคะคุณแม่ หนูเจ็บปวดเหลือเกิน”
ตอนที่25ความรู้สึกผิดกักขังหัวใจคนวุ้นเย็นพยักหน้าอย่างดีใจ เพราะเธอเป็นคนที่ชอบกินน้ำส้มคั้นสดมาก ๆ โสภารีบเทน้ำส้มใส่แก้ว แล้วเอาไปส่งให้ลูกสาว วุ้นเย็นรับมาก่อนจะดื่มอึก ๆ ไปครึ่งแก้ว “ค่อย ๆ ดื่มซิลูก เดี๋ยวก็สำลักเอาหรอก” โสภาพูดไม่ทันขาดคำ วุ้นเย็นก็สำลักจนน้ำตาไหล “เห็นไหม แม่บอกแล้วว่าให้ค่อย ๆ ดื่ม สำลักจนหน้าแดงแล้ว แม่ออกไปเรียกหมอดีกว่า”โสภาพูดขึ้นด้วยความกังวล พลางหมุนตัวจะออกไปเรียกหมอ แต่วุ้นเย็นคว้าข้อมือของผู้เป็นแม่ไว้เสียก่อน “แค่ก ไม่ต้อง ๆ หนูไม่เป็นอะไรแล้วค่ะ” “แน่ใจนะว่าไม่เป็นไรแล้ว ถ้าเหนื่อยก็รีบบอกนะลูก” โสภายังไม่คลายกังวล “หนูหายแล้วจริง ๆ ค่ะ นี่ไงไม่สำลักแล้ว เขาว่ากันว่า เวลาที่จู่ ๆ เราจามหรือว่าสำลักแสดงว่ามีคนคิดถึง นี่ก็แสดงว่ามีคนคิดถึงหนูแน่ ๆ เลยค่ะ” วุ้นเย็นพูดติดตลกเพียงเพื่อไม่ให้แม่กังวลมากเกินไปโสภาส่ายหน้าก่อนจะบีบที่ปลายจมูกโด่งรั้นของลูกสาวเบา ๆ “คิดถึงจนทำให้ เกือบเอาชีวิตไม่รอดแบบนี้แม่ว่าอย่าคิดถึงเลยดีกว่า” โสภาพูดกลั้วหัวเราะวุ้นเย็นยิ้มบาง ๆ ตากลมหรุบมองแก้วน้ำส้มในมือ
ตอนที่24 ซ้อมตาย “ไม่เป็นไรก็ดีแล้วน่าคุณ หายตกใจได้แล้วมั้ง”ภากรปลอบภรรยา ที่ยังหน้าซีดตัวสั่นไม่หาย พร้อมทั้งส่งยาดมยาหอมให้อีกด้วย “โอ๊ย จะไม่ให้ตกใจได้ไงละคุณ นี่ถ้าหากฉันไม่ฟังลูก แล้วหลบงูตามรถคันนั้นไป จะเกิดอะไรขึ้นก็ไม่รู้ ใจคอไม่ดีเลยค่ะ แถมวันนี้หลวงพ่อก็พูดแปลก ๆ ประมาณว่าไม่ให้ยึดติด ให้ปล่อยวางอะไรแบบนั้นด้วยนะคะ ฉันว่าท่านคงรู้อะไรล่วงหน้าแน่ ๆ เลยค่ะคุณ” ญาดาพูดให้ฟังด้วยน้ำเสียงที่สั่นเครือดุดาวส่ายหน้าเบา ๆ พร้อมกับรอยยิ้มบาง ๆ “คุณแม่คะ สิ่งที่หลวงตาพูด นั่นเป็นเรื่องของสัจจะความจริงที่คนเราต้องพึงระลึกไว้เสมอ เพื่อที่ว่าจะได้ใช้ชีวิตด้วยความไม่ประมาท และหากถึงวาระสุดท้าย ก็จะได้จากโลกนี้ไปอย่างสงบอย่างไรล่ะคะ หลวงตาท่านไม่ได้รู้เห็นอะไรล่วงหน้าหรอกค่ะ เป็นบุญของพวกเรามากกว่า ที่ได้ฟังธรรมจากหลวงตา”ดุจดาวพูดด้วยหัวใจที่เปี่ยมสุข ไม่ได้ตระหนกต่อสิ่งใดเพราะเชื่อว่าอะไรจะเกิดมันก็ต้องเกิด ต่างกับญาดาผู้เป็นแม่ ที่รู้สึกไม่สบายใจกับคำพูดของลูกสาวเอาเสียเลย “วารงวาระสุดท้ายอะไร จะแต่งงานแล้วห้ามพูดอะไรที่ไม่เป็นมงคลนะลูก โบราณเขาถือรู้ห
ตอนที่23 ดูฤกษ์ดูยามบริเวณวัดป่ายังคงเงียบสงบ มีเพียงเสียงใบและกิ่งไม้แห้งในฤดูแล้ง ที่โดนลมพัดปลิดปลิวตกลงบนพื้นดังแกรกกราก สามเณรน้อยที่มาบวชในระหว่างปิดเทอมสององค์ กำลังช่วยกันถือบาตรจะไปล้างที่ลำธาร ด้านหลังกุฏิ แต่เสียงเจ้าอาวาสร้องห้ามด้วยน้ำเสียงดุ ๆ “ห้ามเอาบาตรไปล้างในลำธารนะ มันจะทำให้น้ำสกปรก แต่ถ้าจะเอาข้าวที่เหลือไปให้ปลากินนั้นย่อมได้” “ครับพระอาจารย์” สามเณรรับคำอย่างเคร่งครัด ก่อนจะรีบเดินไปที่โรงครัว ในตอนนั้นก็มีรถหรูที่คุ้นเคยเข้ามาจอดนิ่งอยู่หน้ากุฏินายสนคนขับรถรีบลงมาเปิดประตูให้ญาดาเละดุจดาว ก่อนจะเดินนำไปที่กุฏิ ทั้งสามกราบนมัสการเจ้าวาสเรียบร้อย แล้วญาดาก็พูดตามความประสงค์ที่มาในทันที “นมัสการเจ้าค่ะหลวงพ่อ ดิฉันมาในวันนี้ก็เพื่อที่จะให้หลวงพ่อ ดูฤกษ์งานแต่งงานให้กับลูกสาวเจ้าค่ะ”ท่านเจ้าอาวาสรู้จักกับทั้งสามคนที่มาเยือนดี ท่านเหลือบมองดุจดาวแวบหนึ่ง ก่อนจะหลับตาลงประมาณสองถึงสามนาที พอลืมตาขึ้นมาใหม่ ก็พูดเบาๆ “โยมดุจดาว จงยึดมั่นในความตั้งใจดีที่มีอยู่ และหมั่นทำบุญตักบาตร คิดและทำแต่สิ่งดี ๆ ต่อไป ให้ธรรมะอยู่ในทุกช่วงของล
ตอนที่22 ถ้าไม่ตื่นมา พี่จะไม่ให้อภัยตลอดไปญาดาพูดจบ ก็ดึงลูกสาวเข้ามากอดปลอบโยน แม้เธอเองจะเอ็นดูวุ้นเย็นไม่น้อย แต่ดุจดาวจะยึดติดจนทำให้ตัวเองไม่มีความสุขก็ไม่ได้เหมือนกัน ถึงอย่างไรความสุขของลูกก็ต้องมาก่อน และความสุขของลูกก็คือการได้แต่งงานกับเมธัช มีลูกหลานสืบไป..........................................................................ปลายนิ้วเรียว ไล้ไปที่ใบหน้าเล็ก ๆ ซีดขาวของวุ้นเย็นอย่าแผ่วเบา ไล่ไปถึงเปลือกตาบางที่ปิดสนิท ก่อนที่จะลูบขนตางอนหนา ที่เวลาที่เจ้าตัวพูด ขนตานี้ก็จะสั่นไหวราวปีกผีเสื้อดึงดูดสายตาของผู้คนได้เสมอเมธัชหดมือกลับมา ก่อนจะโน้มตัวลงไปกระซิบแผ่วเบาที่ริมใบหูบาง “ถ้าไม่ตื่นมา พี่ก็จะไม่ให้อภัยเธอตลอดไป”ในตอนนั้นหมอก็เปิดประตูเข้ามา เพื่อตรวจดูอาการของวุ้นเย็น เมธัชจึงออกมาจากห้อง ก่อนจะเข้าไปถอดชุดปลอดเชื้อของโรงพยาบาลออก แล้วกดลิฟต์เพื่อกลับไปที่บริษัท เพราะไม่ต้องการให้ใครรู้ว่าเขามาหาวุ้นเย็น ซึ่งสวนทางกับดุจดาว ที่มาพร้อมกับญาดา วิชัยและโสภาพอดิบพอดีทั้งสี่คนตรงไปยังห้องพักฟื้นที่วุ้นเย็นพักรักษาตัวอยู่ แต่เมื่อไปถึง เจ้าหน้าที่ห้องปลอดเ
ตอนที่21ความลับในกระเป๋าตุ๊กตาแมวนิ้วเรียวค่อย ๆ ดึงสมุดจิ๋วนั้นออกมา แล้วเปิดหน้าแรก เป็นรูปการ์ตูนเด็กผู้หญิงและผู้ชาย ที่วาดด้วยดินสอดูตลก และมีข้อความเขียนไว้ว่า ‘สวัสดีค่ะพี่ชาย’ พร้อมระบุวันที่ เขาจำได้ดีว่าเป็นวันแรกที่ได้เจอกับวุ้นเย็นรูปนี้ไม่ได้สวยงามหรือมีศิลปะที่โดดเด่นใด ๆ แต่กลับให้ความรู้สึกอบอุ่นในหัวใจแปลก ๆเขาเปิดผ่านไปที่กระดาษแผ่นที่สอง เป็นรูปการ์ตูนเหมือนเดิม แต่เป็นรูปที่เด็กผู้ชายและเด็กผู้หญิงโอบเอว จับมือกันคล้ายกำลังเต้นรำ พร้อมข้อความเศร้า ๆ ว่า ‘อยากเต้นรำกับพี่ชายแทนพี่ดาวแต่เต้นไม่เป็น’มาถึงหน้านี้หัวใจของเขาก็เริ่มเต้นแรง เขาไม่รอช้าที่จะเปิดดูหน้าต่อไป และหน้าต่อไป ส่วนใหญ่จะเป็นเหตุการณ์ที่เขากับวุ้นเย็นเคยทำด้วยกัน เช่นเล่นน้ำฝน สอนตีเทนนิส แต่รูปสุดท้ายนั้น ทำให้เขารู้สึกราวกับหัวใจกำลังบีบรัดจนรู้สึกเจ็บ เพราะเป็นภาพที่เด็กผู้หญิงนอนอยู่บนพื้นมองเด็กผู้ชายที่หันหลังให้ พร้อมกับข้อความ ‘หนูขอโทษค่ะพี่ชาย’เมธัชรู้สึกว่าข้อความ
ตอนที่20 เพราะอะไรกันแน่ดุจดาวตัดสินใจบอกเมธัช เรื่องที่วุ้นเย็นทักไอจีหาเธอตลอดมา เรื่องนี้เธอไม่เคยบอกเขามาก่อน เมธัชยังคงนิ่งเงียบ วุ้นเย็นจึงยื่นมืออีกข้าง ไปวางลงบนมือทั้งของเธอและเขาที่จับกันอยู่ พร้อมกับพูดอย่างอ่อนโยนและจริงใจ “น้องรักธัชมากนะ และดาวเชื่อว่าธัชก็รู้เรื่องนี้ดีกว่าดาวด้วยซ้ำ น้องยังเด็กและคิดไม่ถึงว่าเรื่องราวจะร้ายแรงบานปลายถึงกับทำร้ายธัชขนาดนั้น ดาวเชื่อว่าน้องรู้สึกผิด เสียใจและเครียดมากจนทำให้โรคหัวใจกำเริบ แต่น้องจะยังมีชีวิตต่อไปได้ หากได้รับกำลังใจดี ๆ จากธัชนะ ถึงธัชกับน้องจะไม่ใช่พี่น้องกันแท้ ๆ แต่ก็เคยมาเติมเต็มให้กันไม่ใช่หรือ ดาวจำได้ว่าธัชอยากมีน้องสาว แล้ววุ้นเย็นก็เข้ามา แววตาของธัชที่มองน้องเต็มไปด้วยความรักความอ่อนโยน จนบางครั้งดาวยังแอบอิจฉาเลย แล้วทำไมเราถึงไม่สร้างความอบอุ่นเหล่านั้นให้กลับมาอีกครั้งละคะ และครั้งนี้ก็สำคัญกับชีวิตของน้องมากด้วย เพราะธัชจะเป็นกำลังใจสำคัญให้น้องกลับมาเข้มแข็ง ตั้งใจรักษาตัว ธัชรู้ไหมว่า