ตอนที่ 5
สองล้าน
เช้านี้รถหรูคันเดิมขับมาจอดหน้าร้านแต่วันนี้มาเร็วกว่า เมื่อวาน
ชุลีก้าวลงจากรถด้วยเสื้อผ้าที่ธรรมดาแต่ก็รู้ว่าไม่ใช่ราคาถูก พร้อมกับใส่ผ้ากันเปื้อนแบบแม่ค้ามาด้วย
“ไม่ได้ขายอะไรมานาน เดี๋ยววันนี้จะมาช่วยขายนะจะได้ ไว ๆ ลูกค้ารอกันนาน ต้องไปทำงานกันอีก”
ดุจดาวทำหน้าที่คิดเงิน เพราะย่าสามีตักแกงใสถุงได้เก่งมาก ตักไว้รอพอลูกค้าสั่งดุจดาวก็หยิบใส่ถุงได้เลย วันนี้ลูกค้าจึงไม่ต้องยืนรอกันนาน
“ขายหมดเลย ดีนะยังเหลือน้ำพริกเผาให้ฉันกลับไปกินบ้านตั้งถุงหนึ่ง ทำเองหรือรับเขามา”
ชุลีลากเก้าอี้มานั่ง เพราะอายุที่มากและไม่ค่อยได้ยืนนานเธอเริ่มปวดเข่า
“ทำเองค่ะ ยังมีที่บ้านอีก ตำครั้งหนึ่งก็จะขายสองวัน พอหมดก็เปลี่ยนเป็นน้ำพริกกะปิกับน้ำพริกตาแดงค่ะ”
“น้ำพริกตาแดงกินกับปลาดุกย่างอร่อย”
คนสูงอายุเสนอความคิดเห็นเพราะเธอจะเห็นสองอย่างนี้ขายคู่กันบ่อย ๆ
“ใช่ค่ะ ถ้าวันไหนทำน้ำพริกตาแดงเมียเพื่อนพี่ตฤณจะมานั่งย่างปลาดุกขายข้าง ๆ ค่ะ”
“แกงส้มอร่อยมากเลยนะ ไปได้ฝีมือทำกับข้าวมาจากไหน ดูยังเป็นสาวหน้าตาก็ไม่ได้ดูจะเก่งเรื่องนี้เลย”
ดุจดาวมองคนถามที่สุดท้ายต้องมีคำที่ดูถูกสักนิดในคำถามแต่หญิงสาวก็พยายามมองข้ามไป
“แม่ค่ะ แม่จะสอนเวลาไปเจอกับข้าวที่ไหนอร่อยแม่ก็จะให้แกะสูตรออกมาว่าเขาใส่อะไรบ้าง รสชาติแบบไหนถึงจะอร่อย หนูโตมากับร้านข้าวแกงก็เลยทำเป็นตั้งแต่เด็ก หนูทำกับข้าวของสองเวลาเลยไม่ได้ทำมามาก เพราะจะได้ขายหมดทุกวันไม่ต้องติดมือกลับบ้าน”
รถคันหรูขับมาจอดที่หน้าร้านเพื่อนรับผู้ช่วยคนใหม่ที่แต่งตัวดีมากกลับบ้าน
“เดี๋ยวพรุ่งนี้ฉันมาใหม่ แยกกับข้าวใส่ถุงไว้ให้ด้วย วันนี้กินแค่นี้ไปก่อน”
ชุลีเดินถือถุงน้ำพริกเผากลับขึ้นไปบนรถและขับกลับออกไป โดยที่วันนี้เธอไม่ได้ไปหาหลานชาย
ดุจดาวกลับมาถึงบ้านก็เจอสามีกำลังนั่งตักน้ำพริกใส่ถุงให้เธอและกำลังปิ้งไข่เพื่อให้เธอไปขายเย็นนี้
“ทำไม่นอนต่อล่ะพี่ ฉันทำเองได้”
ดุจดาวอยากให้สามีได้พักบ้างเพราะคืนนี้เขาก็จะต้องเข้าเวรแทนเพื่อนเพราะอยากได้เงินพิเศษ
“เสร็จแล้ว ดาวไปอาบน้ำแล้วเดี๋ยวเรามานอนกอดกันสักชั่วโมงพี่ค่อยลุกไปอาบน้ำแล้วเย็นนี้ไม่ต้องทำไปขายเยอะจะได้ไม่ต้องกลับมืด”
“จ้าพี่ ฉันจะทำผัดผักกับหมูทอดและก็แกงมะเขือแค่ไม่กี่อย่างก็พอแล้ว”
หญิงสาวลืมไปเสียสนิทว่าจะเล่าเรื่องของผู้ช่วยขายแกงคนใหม่ จนมานึกได้อีกทีตอนที่ชายหนุ่มเดินออกมาจากห้องน้ำ
“วันนี้ย่าพี่มาช่วยดาวขายแกงแต่เช้า และบอกว่าพรุ่งนี้จะมาใหม่ ให้เก็บแกงไว้ให้ด้วยเพราะวันนี้ขายหมดท่านได้แค่น้ำพริกเผาไปถุงเดียว”
คนฟังทำท่าตกใจ คนไฮโซร่ำรวยแบบย่าของเขา ลงทุนตื่นแต่เช้ามืดมาช่วยหลานสะใภ้ขายแกง
“บ้านท่านไม่ได้อยู่ใกล้เลย สงสัยตื่นตั้งแต่เช้ามืดแน่ ๆ คงเหงามั้ง เพราะคุณพ่อเคยบอกว่าท่านไม่ค่อยมีเพื่อน เพราะท่านเองก็มาจากคนที่ฐานะจนเลยไม่ชอบที่จะเข้าสังคมไฮโซเท่าไหร่ ส่วนมากจะส่งคุณพ่อไป แต่ถ้าเรื่องธุรกิจท่านเก่งมากคุณพ่อยังทำได้ไม่เหมือน สงสัยจะอยากเปิดร้านข้าวแกง”
ชายหนุ่มพูดไปหัวเราะไปเพราะไม่ได้คิดจริงจัง แต่ดุจดาวจำคำที่ชุลีพูดวันที่เธอไปบ้านได้ว่าถ้าย้ายเข้ามาก็หาทำเลเปิดร้านให้ใหญ่ไปเลย และที่ท่านมาดูคงอยากรู้ว่าขายเป็นอย่างไรบ้าง
เช้านี้คนเป็นย่าก็มาช่วยตามที่บอกไว้แต่หลังจากช่วยเสร็จเธอเดินไปที่ป้ายที่ติดไว้บริเวณที่ดินที่ปล่อยร้างอยู่ใกล้ ๆ กับที่ ดุจดาวตั้งรถขายกับข้าว
“ตรงนี้ทำเลดีนะ ใกล้โรงงานบ้านเช่าหอพักเยอะไปหมดแต่ร้านแบบนั่งกินไม่ค่อยจะมีเลย”
ชุลีทำท่ากดโทรศัพท์ปากก็พูดไปด้วยเหมือนคนแก่ที่เหงาจริง ๆ พอมีโอกาสให้พูดก็พูดไม่หยุด
“ที่ดินแถวนี้แพงค่ะ เจ้าของรวย ๆ กันหมดเขาขายแพงให้เช่าก็แพงอีก”
ดุจดาวอธิบายให้ย่าสามีฟังแต่อีกฝ่ายดูไม่ค่อยได้ตั้งใจฟังเท่าไหร่เพราะกำลังหยิบโทรศัพท์มาแนบหู
ลูกค้ามาซื้อกับข้าวดุจดาวจึงหันมาขายของแต่ก็พอได้ยินว่าย่าสามีกำลังคุยโทรศัพท์กับใครสักคนเรื่องที่ดิน
“ฉันโทรไปแล้ว ไอ้ที่ข้างหลังเธอเจ้าของมันเตรียมจะโก่งราคาเชียว ที่ก็เป็นบ่อน้ำขัง ใครซื้อก็ต้องถมดินอีก เดี๋ยวฉันจะเข้าไปคุยไม่ใช่ใครที่ไหน ลูกชายเขาไปเที่ยวยุโรปกับตระการเมื่อคราวที่แล้ว จะต่อราคาให้แหลกเลย”
หญิงสาวฟังด้วยความตกใจนี่ย่าสามีจะซื้อที่ดินตรงนี้เพื่อให้เธอขายแกงเลยเหรอ ราคาดูแล้วหลักล้านกว่าแน่ ๆ ถึงแม้จะแค่ไม่กี่ตารางวา
“คุณย่าจะซื้อเพื่อให้ดาวขายแกงเหรอคะ”
“ก็ใช่น่ะสิ ฉันคงไม่ซื้อไว้ปลูกข้าวหรอกมั้ง”
หญิงสาวถอนหายใจหนึ่งครั้งก่อนจะพูดต่อเธอพยายามชินแต่ก็ยังรู้สึกทุกทีเวลาเจอคำพูดแบบนี้
“ดาวว่ามันจะไม่คุ้มกันนะคะ กำไรแค่วันละพันกว่า สองพันบ้าง ราคาที่ดินและไหนจะทำร้านอีก”
“ก็ร้านเธอมีแค่นี้มันก็ขายได้แค่นี้ วันละพันสองพันเดือนหนึ่งก็ห้าหกหมื่น ไม่ใช่น้อย ๆ แล้วถ้าทำให้มันขายได้ทั้งวันมีคนช่วยไม่ต้องมาให้ลูกค้ารอมีที่นั่งกิน มีขนม น้ำ คู่แข่งก็ไม่มี แล้วที่ดินตรงนี้มันทำเลทองซื้อไว้ก็เป็นสมบัติ ไม่ต้องมายุ่งเดี๋ยวฉันจัดการเอง เอาแกงมา แล้วนี่เงิน วันนี้กลับเร็วจะไปคุยเรื่องที่เลย”
หญิงชราสำเนียงจีนขึ้นรถกลับไปแล้ว แต่ทุกคำพูดที่เขาทิ้งไว้คือระเบิดในหัวใจของหญิงสาว มันคือระเบิดที่เหมือนกำลังทำให้เธอต้องตัดสินใจ ในเมื่อเธอไม่ยอมไปอยู่บ้านนั้น ย่าสามีก็จะซื้อที่เพื่อให้เธออยู่ที่นี่และได้มีร้านขายข้าวแกงเป็นของตัวเองเหมือนที่เธอหวัง
น้ำตาของแม่ค้าคนสวยไหลออกมาอย่างไม่รู้ตัว ยิ่งอีกฝ่ายทำดีกับเธอ เธอยิ่งรู้สึกผิดที่ไปถือสาคำพูดของผู้ใหญ่ที่ท่านคงจะเป็นคนพูดจาตรง ๆ แต่ใจอาจจะไม่ได้คิดดูถูกใคร จนทำให้สามีของเธอเองต้องลำบากอดหลับอดนอนเป็นยามแทนที่จะได้แต่งตัวหล่อไปดูโรงสีของครอบครัว
ชุลีกลับไปแล้วเธอก็กลับมาอีกในช่วงเย็นพร้อมกับข่าวเรื่องการซื้อที่ดินที่เธอได้ไปคุยมา
“ทำมาน้อยจังเย็น มื้อเย็นเป็นเวลาพักผ่อนใคร ๆ เขาก็อยากกินของอร่อย ทีหลังทำให้มันเยอะ ๆ ขายไปก่อนลูกค้ามาใกล้จะหมดแล้วเดี๋ยวฉันนั่งรอ ค่อยคุยกัน”
หญิงชรานั่งเขี่ยโทรศัพท์ระหว่างรอ แต่ก็ไม่ถึงสิบนาที ดุจดาวก็เริ่มเก็บร้านแล้ว
“หมดแล้วใช่ไหม มายืนใกล้ ๆ ฟังนะที่ดินยังตกลงไม่ได้แต่คงซื้อแน่นอน คนแม่มันจะขายสองล้านแต่ลูกชายเขาจะแถมถมที่ให้เพราะคิดดูแล้วถมเกือบสองแสนแน่ที่เล็ก ๆ แบบนี้แต่เวลาถมแล้วมันจะดูไม่เล็กเลย”
“สองล้าน!” หญิงสาวร้องด้วยความตกใจ
“สองบาทล่ะมั้งหน้าโรงงานแบบนี้ นัดกับหลานชายฉันเลยจะหยุดขายวันไหนให้ตฤณลางานแล้วไปคุยที่บ้าน ฉันแก่แล้วทำไรก็รีบทำ มัวแต่หากินกันแบบนี้ ตระกูลฉันกุดพอดีหลานไม่มีสักคน”
ชุลีพูดจบก็เดินไปขึ้นรถกลับทันที ดุจดาวมองคนสูงอายุที่เดินคล่องแคล่วตัดสินใจทำอะไรว่องไวเธอไม่สงสัยเลยว่าทำไมย่าสามีของเธอถึงรวย
ตอนที่ 10สาวน้อยฟาร์มรัก ทุกย่างดีขึ้นหลังจากวันที่ดนัทธ์ตัดสินใจไปเคลียร์ทุกอย่างกับกำนันสมยศ เรื่องราวเหล่านี้แม่เล็กรู้เรื่องอยู่ก่อนแล้วยกเว้นเรื่องขอดาริน ทุกคนต่างก็คิดว่าเธอฆ่าตัวตายเพราะเสียใจที่โดนกระทำร้ายแรงแบบนั้น “กรรมใครก็กรรมมัน แม่หวังว่าลูกทั้งสองคนและหลานสาวที่กำลังจะลืมตาดูโลกในเร็ว ๆ นี้คงไม่ต้องเจอกับความแค้นที่ไม่จบไม่สิ้นแบบนี้” แม่เล็กคิดว่ากำนันคงสบายใจขึ้นที่ได้ระบายความรู้สึกเพราะมันเป็นความทุกข์ที่เขาเก็บไว้ในใจคนเดียวมานานแสนนาน เวลาที่ทุกคนในไร่รอคอยก็มาถึงสาวน้อยตัวขาวตาสีน้ำตาลเหมือนเทียนหอมผู้เป็นแม่ก็ลืมตาออกมาดูโลกด้วยน้ำหนัก ถึงสามพันหกร้อยกรัม&nb
ตอนที่ 9เพราะเธอคือดวงใจ พยาบาลและคุณหมอพาเทียนหอมเข้ามาส่งที่ห้องพักฟื้น เสียงประตูทำให้คุณพ่อที่นอนหลับอยู่รู้สึกตัวและรีบตื่นขึ้นมาหาภรรยา “เด็กในท้องได้รับยาเพราะได้รับผ่านทางแม่แต่ตอนนี้ยังไม่มีอาการอะไรแสดงออกมาว่าผิดปกติ หมออยากให้นอนโรงพยาบาลสักสามคืนเพื่อให้แน่ใจว่ายาหมดฤทธิ์แล้ว จะได้ปลอดภัยทั้งแม่และลูก และหลังจาที่ออกจากโรงพยาบาลแล้วหมอจะนัดมาตรวจครรภ์ถี่หน่อยเพื่อติดตามอาการ” พ่อเลี้ยงยกมือไหว้ขอบคุณคุณหมอและพยาบาลทุกคนที่ช่วยกันดูแลภรรยาของเขา “ผมดีใจที่สุดเลยที่คุณกับลูกปลอดภัย” ชายหนุ่มบีบมือเทียนหอมไว้แน่นเหมือนกลัวว่าถ้าปล่อยมือภรรยาของเขาจะหายไป
ตอนที่ 8ดวงใจพ่อเลี้ยง จำนวนห้องเก็บของที่มากและไร่องุ่นทั้งหมดเป็นของชาวบ้านไม่ใช่ของพ่อเลี้ยงเลยจึงทำให้ดนัทธ์ทำได้แค่มองผ่านช่องและร้องเรียกภรรยาเท่านั้น ลูกน้องแต่ละคนก็อยู่ในสภาพที่ไม่เต็มร้อยจึงทำให้การค้นหาเกือบสองชั่วโมงไม่มีใครได้ยินเสียงหรือเจออะไรที่เชื่อมโยงไปถึงเทียนหอมได้เลย ชายหนุ่มทรุดตัวนั่งลงกับพื้นข้างห้องเก็บของ ของไร่องุ่นของผู้ใหญ่ที่เขากำลังให้เมียคนงานไปแจ้งข่าวเพื่อให้ผู้ใหญ่ช่วยประสานชาวบ้านมาช่วยกันเปิดห้องเก็บของ ระหว่างนี้คนงานก็ช่วยกันดูแลไม่ให้พวกมันเข้ามาในพื้นที่ได้ เพราะกลัวว่าจะย้อนกลับมาเอาตัวเทียนหอมไป “ผมขอโทษ เทียนผมขอโทษ” พ่อเลี้ยงนั่งร้องไห้เหมือนคนเสียสติเพราะฤทธิ์ของสุราและเกิดจากความอ่อนแอภายในจิตใ
ตอนที่ 7ดอกรักเบ่งบาน เทียนหอมกลายเป็นภรรยาของพ่อเลี้ยงอย่างเต็มตัว ชาวบ้านก็พากันนินทาตามประสา บางคนก็ว่าสมภารกินไก่วัดแต่ทั้งสองคนไม่สนใจกับคำพูดพวกนั้นเพราะไม่มีอะไรสำคัญเท่ากับ ความจริงที่ทั้งคู่ใช้หัวใจรับรู้ “วันนี้พ่อเลี้ยงไปไหนมาทั้งวันเลยค่ะ เทียนมองไปรอบ ๆ ฟาร์มก็ไม่เห็น” หญิงสาวแปลกใจที่พ่อเลี้ยงหายไปไหนทั้งหมดโดยที่ไม่บอกเธอและปกติเขาจะเอาเธอไปด้วยเกือบทุกที่ “ผมไม่ได้ไปไหนหรอกไปดูไร่ส้มด้านหลังมาเพราะจะเริ่มเก็บผลผลิต แล้วก็คุยกับหัวหน้าคนงาน ประชุมวางแผนกัน เลยไม่อยากพาเทียนไปจะไปนั่งเบื่อเปล่า ๆ ” หญิงสาวหยิบผ้าเช็ดตัวยื่นให้สามีที่เหงื่อเต็มตัว เนื้อตัวก็ดูไหม้เพราะคงประชุมกันกลางแดดเห็นแล้วไม่เห
ตอนที่ 6คดี เชนถูกส่งให้ไปสืบเรื่องมือปืนที่ทางตำรวจบอกว่าหลบหนีไปได้หนึ่งคนแต่สิ่งที่เชนรู้มาคือมือปืนคนนั้นถูกกำนันสมยศสั่งฆ่าและตอนนี้กำนันได้เอาตัวครอบครัวของมือปืนทั้งสองคนไปอยู่ในความดูแล พ่อเลี้ยงเอาข้อมูลที่ได้ไปปรึกษาทนาย สื่อ และเพื่อนที่เป็นตำรวจ จึงหาทางออกที่ดีที่สุดและส่งคนไปคุยกับมือปืนทั้งสองคนที่ตอนนี้ถูกฝากขังอยู่ “พวกเรารู้เรื่องครอบครัวพวกนายแล้ว ถ้านายยอมพูดกับสื่อ ทางเราจะพาครอบครัวของนายสองคนไปอยู่กับหน่วยงานที่ดูแลผู้หญิงและเด็กและถ้านายให้การเป็นประโยชน์โทษที่จะได้รับก็จะน้อยลง พวกนายคงยังไม่รู้ว่าสุดท้ายแล้วเพื่อนที่ตำรวจบอกว่าหนีไปได้ตอนนี้มันโดนกำนันเก็บเรียบร้อยแล้วแต่ยังไม่มีใครหาศพเจอ โชคยังดีที่ลูกเมียมันหนีไปอยู่กับญาติที่เป็นตำรวจอยู่ที่ภาคใต้ได้ทัน ตัดสินใจเอานะ” 
ตอนที่ 5ชีวิตต้องดำเนินต่อไป ทางโรงพยาบาลโทรศัพท์ให้ทางญาติไปรับศพกลับมาทำพิธีทางศาสนาได้แล้วเพราะทางโรงพยาบาลได้ส่งผลชันสูตรให้กับเจ้าหน้าที่แล้ว งานศพของลออและเทพถูกจัดอย่างเรียบง่าย มีผู้ใหญ่ผดุงกับพ่อเลี้ยงเป็นคนคอยจัดการให้ทุกอย่าง แม่เล็กเองก็คอยอยู่ ข้าง ๆ เทียนหอมในเวลานี้เพราะคงไม่มีลูกคนไหนทำใจได้ที่ต้องมาเสียพ่อกับแม่ไปพร้อมกันแบบนี้ เสร็จจากงานศพชีวิตของเทียนหอมก็ต้องดำเนินต่อไป แม่เล็กหางานให้หญิงสาวทำเพื่อให้เธอไม่ว่างจะได้ไม่ต้องคิดมาก “เห็นห้องนั้นไหมเป็นที่แพ็คผักใช้ระบบสูญกาศ ทุกเช้าก็ไปช่วยแม่เล็กในห้องนั้นแล้วกันเพราะปกติในนั้นเร