Share

บทที่ 1175

Auteur: หูเทียนเสี่ยว
"นายท่าน เขาทางนี้" เทียนถงทำสัญญาณมือ "เพียงแต่ว่า..."

เทียนถงดูกังวลหน่อยๆ "สภาพเขาเหมือนไม่ค่อยดีนัก หลังจากกลับมาจากโรงน้ำชา สภาพเขาก็ผิดปกติลแล้ว แต่ก็ไม่มีบาดแผลอะไรที่เด่น ราวกับว่า...ป่วยไปแล้ว?"

จั๋วซือหรานฟังคำพูดของเทียนถง พยักหน้าให้เรียบๆ "ข้าไปดูหน่อย"

น่าจะไม่ได้ป่วยกะทันหันหรอก คงไม่ใช่ว่าก่อนหน้านี้ไม่ยอมป่วย แล้วมาป่วยเอาตอนนี้หรอกนะ

จั๋วซือหรานรู้สึกว่า น่าจะเป็นเพราะถูกนางแย่งหุ่นเชิดมาหมดตอนที่สู้กับนางก่อนหน้านี้

น่าจะรู้สึกโกรธ บวกกับหุ่นเชิดความมืดนี่ เดิมทีก็ค่อนข้างชั่วร้ายอยู่ อาจจะมีผลกระทบย้อนกลับอยู่บ้าง

ไม่ว่าจะด้วยเหตุผลอะไร สำหรับนางแล้ว ไม่ใช่เรื่องที่ตำมืออะไรทั้งนั้น

นางมีเรื่องจะถามเขา เช่นนั้นก็ต้องถาม

ถ้าเขาจะตาย ก็ต้องตายหลังจากที่นางถามเสร็จ

น่าจะเพราะเป็นผู้อาวุโส เหลียนเจินจึงหาห้องแขกให้เขาเฉพาะห้องหนึ่ง

แสงในห้องไม่มืดนัก แต่พอเข้ามาก็ยังทำให้คนสัมผัสได้ถึงปราณความตายที่หนักอึ้งอยู่

คนบนแคร่ เดิมทีก็ร่างกายผอมเหมือนศพแห้งอยู่แล้ว ตอนนี้ยิ่งดูซูบผอมกว่าเดิม

ราวกับพลังชีวิตถูกดูดออกไปจนหมด

จั๋วซือหรานไม่ใส่ใจกับท่าทีนี้นัก หลังจาก
Continuez à lire ce livre gratuitement
Scanner le code pour télécharger l'application
Chapitre verrouillé

Related chapter

  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 1176

    เพียงแต่ว่าเขามีหน้าตาเหมือนศพแห้ง และเพราะมันดูแข็งทื่อ ดังนั้นจึงมองออกไม่ง่ายนักจั๋วซือหรานสังเกตเห็นสีหน้าเปลี่ยนแปลงเล็กน้อยของเขา "ดูท่า คงจะคล้ายข้าจริงๆ สินะ"หวงเจี้ยนถังดวงตาปูดโปน "ข้ายังไม่ได้พูดอะไรเสียหน่อย!""ก็จริง เจ้าไม่ได้พูดอะไร แต่ว่าข้าก็ไม่จำเป็นต้องให้เจ้าใช้ปากพูดออกมานี่"จั๋วซือหรานยังคงมองเขาเรียบๆ ถามต่อว่า "น้องชายข้าเข้ากันกับนางได้พอดี เป็นผู้ทดลองยาให้นาง...ส่วนนางก็หน้าตาคล้ายข้า เจ้าคิดว่านี่มันเพราะอะไร? หรือว่าบนโลกนี้ จะมีเรื่องบังเอิญขนาดนี้หรือ?"หวงเจี้ยนถังฟังคำนี้ ม่านตาก็หดลง! หญิงสาวคนนี้มันปีศาจจำแลงกายมาหรือไรกัน?!นี่มันเกิดกว่าฉลาดหลักแหลมแล้ว นี่มัน...วิชาชั่วร้ายชัดๆ!ถ้าหากนางรู้จริงๆ แล้วมันก็เรื่องนึงแต่ตอนนี้จากที่ฟัง หวงเจี้ยนถังรู้สึกว่า นางเหมือนจะแค่...คาดเดาเท่านั้น นางไม่ได้รู้อะไรเลยแต่กลับเดาได้ใกล้เคียงความจริงขึ้นเรื่อยๆจั๋วซือหรานเห็นม่านตาของเขาหดลง ก็จับการเปลี่ยนแปลงทางสีหน้าของเขาได้อีกจั๋วซือหรานเลิกคิ้ว "ดูท่าโลกนี้จะไม่มีเรื่องบังเอิญขนาดนั้น แต่ก็จริง ข้าเชื่อประโยคหนึ่งมาตลอด ว่าบนโลกนี้ไม่มีเรื่

  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 1177

    รอยยิ้มของหวงเจี้ยนถังแข็งทื่อไปแล้วส่วนจั๋วซือหราน ก็มองเขาเหมือนยิ้มเหมือนไม่ยิ้ม น้ำเสียงมีแววเหมือนแมวไล่จับหนูถามขึ้นมาว่า "หัวเราะไปสิ ทำไมไม่หัวเราะล่ะ?"สีหน้าหวงเจี้ยนถังแข็งทื่อ ผ่านไปครู่หนึ่งก็ยังไม่พูดอะไรออกมาจั๋วหวายหายใจหอบถี่ เห็นได้ชัดว่าโมโหจัดกับคำพูดของหวงเจี้ยนถัง ยากจะคุมอารมณ์ไว้ได้แต่จั๋วซือหรานกลับยื่นมือไปกดบนบ่าเขา เอ่ยเสียงต่ำว่า "เด็กโง่ ใจร้อนซะจริง เขาแค่ยุแยงเจ้า เจ้าก็ติดกับเข้าเสียแล้ว"จั๋วหวายถึงอย่างไรก็เป็นชายหนุ่มเลือดร้อน อารมณ์กับความเลือดเดือดขึ้นมาไวมากแต่ยังดีที่เขามีพี่สาวเป็นหลักยึดเหนี่ยว อารมณ์จึงผ่อนคลายลงมาอย่างรวดเร็วจั๋วหวายใจเย็นลงมาแล้วในมือจั๋วซือหรานกำขลุ่ยกู่อยู่ เคาะลงไปเบาๆ บนบ่าหวงเจี้ยนถัง "ข้ายังไม่ได้คิดว่าจะจัดการเจ้าสำนักพวกเจ้าอย่างไรดี เจ้าก็อย่าลงแรงช่วยนางนักเลย""บังอาจนัก!" หวงเจี้ยนถังเสียงแหบแห้งจั๋วซือหรานหัวเราะเบาๆ "ยิ่งไปกว่านั้น เจ้าทำไมถึงได้มั่นใจนัก ว่าเจ้าสำนักจะกลับมาช่วยพวกเจ้า?"หวงเจี้ยนถังจ้องมองนาง "เจ้าหมายความว่ายังไง""นางทำไมจะมองดูพวกเจ้าตายไม่ได้?" จั๋วซือหรานเหมือนยิ้มเหมื

  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 1178

    ยิ่งไปกว่านั้น...เขายังกังวล ความยุ่งยากเหล่านี้จะเป็นตนเองหรือเปล่าที่นำมาแม้ตัวเองจะเกิดเรื่องขึ้น แต่ก็นำปัญหาไม่น้อยมาให้พี่สาวอย่างไม่ต้องสงสัยแต่ที่จั๋วหวายกังวลยิ่งกว่าก็คือ ศัตรูหลอกใช้เขา ล่อพี่สาวให้เข้ามาถึงอย่างไรจากในบทสนทนาของพี่สาวกับหวงเจี้ยนถังเมื่อครู่ ก็ฟังออกไม่อยากว่ามีความหมายแบบนี้"โอ้ พวกนั้นน่ะ" สีหน้าจั๋วซือหรานดูแล้วนิ่งมาก "ไม่มีอะไรหรอก ก็แค่ทำท่าลึกลับกั๊กเรื่องราวกับเขาไปอย่างนั้นแหละ"จั๋วหวายฟังคำนี้ พอกำลังจะถอนใจโล่ง แต่ก็รู้สึกว่าไม่น่าเป็นแบบนั้น ก็เลยขมวดคิ้วขึ้นมา"ท่านหลอกข้า" จั๋วหวายเอ่ยขึ้นอย่างมั่นใจ "เมื่อครู่ต้องไม่ใช่แค่ทำลึกลับแน่ๆ"จั๋วซือหรานพอได้ยินมุมปากก็ยกขึ้น เลิกคิ้วเอ่ยขึ้น "อื๋อ? เจ้าเด็กโง่ยังรู้ด้วยว่าข้าหลอกคนอื่นหรือเปล่า?""ท่านคงกลัวว่าข้าจะกังวล ดังนั้นเลยจงใจเลี่ยงเรื่องสำคัญพูดแต่เรื่องเล็ก" มุมปากจั๋วหวายห้อยลงมา "ถ้าหากข้าฟังออกบ้างก็แล้วไป แต่ถ้าข้าฟังไม่ออก ท่านต้องคิดจะหลอกข้าไปแบบนี้แน่"จั๋วซือหรานหัวเราะขึ้นเบาๆ "เอาล่ะ เดามาถึงขนาดนี้เชียว...""ท่านพี่!""ได้ๆๆ เช่นนั้นจะบอกเจ้าหน่อยแล้วกัน หลักๆ

  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 1179

    ในสายตาจั๋วหวายมีความเสียใจขึ้นอย่างไม่ปิดบังจั๋วซือหรานมองออกถึงความเศร้าที่อัดแน่นเหล่านั้นการตายเร็วเกินไปของท่านพ่อ อันที่จริงก็สร้างความเจ็บช้ำมหาศาลให้กับท่านแม่ กับครอบครัวของพวกเขาอยู่แล้วนางกับเสี่ยวหวายกลายมาเป็นเด็กที่ไม่มีพ่อให้พึ่งพานางที่เป็นพี่สาวคนโต ก็จำใจต้องมารับผิดชอบส่วนท่านแม่...พูดแบบนี้ดีกว่า ถ้าหากไม่ใช่เพราะยังมีนางกับจั๋วหวายอยู่ นางคงจะตรอมใจตายตามท่านพ่อไปด้วยกันแล้วหรือก็คือ จากบางมุมมอง เซี่ยอวิ๋นซีแม้จะยังอยู่ แต่บางส่วนได้ตายตามสามีที่ล่วงลับไปแล้วชีวิตที่เหลืออยู่ของเซี่ยอวิ๋นซี ก็เหมือนจะมีไว้เพื่อลูกทั้งสองคน มีชีวิตอยู่เพื่อรำลึกถึงสามี ไม่ใช่เพื่อตัวเองอีกต่อไปดังนั้นจั๋วซือหรานตอนนี้จึงยังขุดคุ้ยความทรงจำจากเจ้าของร่างเดิมได้ ถึงภาพที่ตนเองคุกเข่ากราบไหว้อยู่หน้าป้ายวิญญาณบิดากับเสี่ยวหวายในทุกเทศกาลเช็งเม้งและเทศกาลกินอาหารเย็นทุกครั้ง ต่อให้เป็นการกราบไหว้ ดวงตาของเซี่ยอวิ๋นซีก็ยังแดงก่ำเหมือนจะร้องไห้เป็นสายเลือดหญิงสาวที่น่าสงสารคนนั้น แทบจะใช้ชีวิตที่เหลืออยู่เพื่อรำลึกถึงสามีจั๋วหวายเห็นมากับตา และถ้าหาก...ถ้าหากเรื่อ

  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 1180

    "โอ๋?" จั๋วซือหรานเลิกคิ้ว มุมปากยกขึ้นเป็นรอยยิ้มบางๆ น้ำเสียงฟังแล้วเหมือนครุ่นคิดอะไรอยู่ "เช่นนั้นก็เป็น...คนใจดีจริงๆ"ตอนที่นางพูดถึงคำว่าคนใจดี น้ำเสียงก็อ่อนลงมาเล็กน้อย"เป็นเขาที่ชี้ทางให้ข้า ให้ข้ามาคอนจับตาข่าวทางโรงน้ำชา บอกว่าข่าวสารที่โรงน้ำชารวดเร็วที่สุด ไม่แน่อาจจะได้ข่าวครอบครัวของข้า...แล้วเขาก็พูดถูกจริงๆ"จั๋วซือหรานหัวเราะเบาๆ "ใช่เลย เขาเก่งมาก"ทั้งหึงทั้งโกรธ แต่ก็ยังไม่ลืมที่จะมาชี้ทางให้น้องชายนาง เก่งจริงๆจั๋วหวายแน่นอนว่าไม่รู้สิ่งที่พี่สาวคิดในใจจั๋วหวายถามขึ้น "ท่านพี่ ถ้าหากท่านคิดจะใช้ข้าเป็นข้ออ้างหาเรื่องสำนักเมฆาวารี ข้าต้องไปหลบก่อนไหม?""อื๋อ?" จั๋วซือหรานมองเขา "ทำไมต้องหลบ?"จั๋วหวายตกตะลึง "ไม่...ไม่ใช่ว่าถ้าพวกเขาไม่ส่งข้าคืนให้ท่าน ท่านก็จะไม่เกรงใจพวกเขาหรือ? ถ้าข้าหลบไป ท่านถึงจะไม่เกรงใจพวกเขาได้ไง?"จั๋วซือหรานเขกหน้าผากเขา "เจ้าเด็กโง่ เจ้าก็อยู่ข้างๆ ข้านี่ล่ะ""แล้วพวกเขา..." จั๋วหวายยังงงๆ อยู่จั๋วซือหรานตอบ "พวกเขาบอกว่าเจ้าเป็นน้องชายข้าก็คือน้องชายข้าหรือไง? ถ้าข้าบอกไม่ใช่ พวกเขาจะพูดให้ฟ้าถล่มมันก็ไม่มีประโยชน์"จั

  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 1181

    ฝันร้ายถ้าหากมันน่ากลัว ก็จงเป็นฝันร้ายของฝันร้ายเสีย มังกรถ้าหากมันน่ากลัว ก็จงกลายเป็นมังกรของมังกรไปเสียจั๋วหวายฟังออก ว่าพี่สาวตนเองแค่ไม่ได้พูดออกมาตรงๆ เท่านั้น...คนอื่นถ้าหากกล้าเอาน้องชายของนางไปเป็นผู้ทดลองยา นางก็จะจับคนที่พวกนั้นหวงแหนมาหลอมเป็นกากยาเสียให้หมด!"นางอายุน้อยกว่าข้า สุขภาพไม่ค่อยดี" จั๋วหวายพูดถึงสุ่ยเชียนโยวจากสำนักเมฆาวารีคนนั้น "สภาพต้องกินยาตลอดแบบนั้นเลย"จั๋วซือหรานพอได้ยินก็ยิ้มๆ "ทำไม? อยากได้นางมาเป็นภรรยารึ?""!!" จั๋วหวายถลึงตาโต "ท่านพี่! อย่าพูดจาส่งเดชนะ! ข้าจะมีความคิดนั้นหรือเปล่ายังไม่พูดถึง แต่ถ้าเรื่องเป็นอย่างที่ท่านพูดไว้ก่อนหน้าล่ะก็ เช่นนั้นความสัมพันธ์ของนางกับพวกเราก็เป็น..."จั๋วหวายพูดขึ้นอย่างตั้งใจจั๋วซือหรานได้ยินก็กลั้นหัวเราะไว้ไม่อยู่ ต่อคำของเขามา "ไม่ใช่อะไรทั้งนั้น""อ๋า?" จั๋วหวายงงงันเหมือนเด็กทึ่มจั๋วซือหรานเอ่ยต่อ "ต่อให้เรื่องราวเป็นอย่างที่ข้าพูดไว้ก่อนหน้า ก็ไม่ได้เป็นตัวแทนของอะไรทั้งนั้น""เอ่อ..." จั๋วหวายกระพริบตาปริบๆ เหมือนหมาน้อยไร้เดียงสามองแล้วทำให้คนรู้สึกอยากเข้าไปลูบหัวเลยจั๋วซือหรานยื่นมือ

  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 1182

    ชุดคลุมสีม่วงทอง ปักลายดอกไม้ดูซับซ้อนผมยาวสยายด้านหลังรวบไว้หลวมๆ เส้นผมที่ดูกระเซิงห้อยลงมาจากบ่าดูมีเสน่ห์และดูชั่วร้ายมาก"เรื่องอะไร" เขาถามขึ้นมา สายตาจ้องไปบนตัวจั๋วหวาย"น้องชายข้า จั๋วหวาย" จั๋วซือหรานเอ่ยขึ้นคิ้วปันอวิ๋นเลิกขึ้นเล็กน้อย แต่ความตกตะลึงในสายตาก็ไม่ได้แจ่มชัดมากนัก "หาเจอแล้วหรือ?""อืม แต่ว่าข้าจะไปหาหาเรื่องก็กลัวไม่สะดวก" จั๋วซือหรานเอ่ยขึ้น "เจ้าช่วยข้าดูเขาหน่อยเถอะ"จั๋วหวายตกตะลึง "ท่านพี่..."อันที่จริงในใจเขาหวังจะไปกับท่านพี่ แต่ก็เข้าใจ ว่าตนเองมีแต่จะเพิ่มความลำบากให้พี่สาวเท่านั้นปันอวิ๋นจุ๊ปาก แต่ก็ไม่ได้ปฏิเสธ แค่เอ่ยขึ้นว่า "แค่หลอมกู่ให้เจ้ายังไม่พอ นี่ยังต้องมาช่วยเลี้ยงเด็กอีก...""ขอบคุณมากนะ" จั๋วซือหรานยิ้มตาโค้งเสียงของปันอวิ๋นเอ่ยขึ้นอย่างสงบ "ถ้าจะขอบคุณจริงๆ ก็มาแต่งงานกับข้าสิ"ดวงตาจั๋วหวายถลึงโต จ้องเขม็งที่ปันอวิ๋นจั๋วซือหรานดูจะมีภูมิคุ้มกันกับคำพูดแบบนี้ของปันอวิ๋นแล้วเจ้าหุบเขาหมื่นพิษคนนี้ ดูท่าทางเหมือนชั่วร้ายเย็นชา แต่อันที่จริงเป็นพวกปากแข็งใจอ่อน ทุกครั้งที่พูดก็จะเป็นแบบนั้นแต่ที่ควรช่วยก็จะช่วยอยู่

  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 1183

    เสียงของเจิ้นเจียงดูเร่งร้อน แต่กลับฟังไม่ออกว่าลนลานตรงไหนจั๋วซือหรานเปิดประตู "อืม เกิดอะไรขึ้น"เจิ้นเจียงเอ่ยว่า "มาขวางกันอยู่ด้านนอกโรงเตี๊ยมขอรับ""พวกกองหนุนสินะ?" จั๋วซือหรานถามเจิ้นเจียงพอนึกถึงขบวนที่อยู่ด้านนอกนั่น "รู้สึกเหมือนจะไม่ใช่กองหนุนเท่าไร..."กองหนุนของใครเป็นแบบนั้นกันล่ะอันที่จริงพอพูดขึ้นมา จำนวนคนก็ไม่น้อยเลย แต่เจิ้นเจียงพอคิดถึงความสามารถของคุณหนูตนเอง ก็รู้สึกว่า...คนแค่นี้ ก็เหมือนเข้ามาแจกแต้มให้เปล่าๆ กระมัง?พูดได้แค่ว่า ใครก็ตามที่ติดตามอยู่ข้างกายจั๋วซือหราน สายตาก็จะยิ่งสูงขึ้นเรื่อยๆจั๋วซือหรานได้ยินคำนี้ของเจิ้นเจียง คิดๆ แล้วก็หัวเราะ "ไม่ค่อยเหมือนกองหนุนหรือ? ทำไม อย่างนั้นคือเข้ามาประนามข้าหรือ?"เจิ้นเจียงคิดๆ รู้สึกว่าน่าจะเป็นไปได้!จั๋วซือหรานพยักหน้า "ออกไปดูหน่อย"มาถึงโถงหน้าโรงเตี๊ยม ให้เหลียนเจินเปิดประตูใหญ่โรงเตี๊ยมออกก็เห็นพวกสำนักเมฆาวารีอยู่ด้านนอกกลุ่มหนึ่ง กะด้วยสายตาประมาณยี่สิบคน ดูจากเสื้อผ้าแล้ว ล้วนเป็นพวกศิษย์ธรรมดาเสียส่วนใหญ่ในนี้น่าจะมีผู้ดูแลอยู่คนสองคนก่อนหน้านี้ยังทำหน้าขรึมพูดจาหนักแน่น แต่ตอนเ

Latest chapter

  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 1277

    ขณะที่ตระหนักถึงจุดนี้ จั๋วซือหรานก็ตระหนักได้ถึงอีกจุดหนึ่งถ้าบอกว่า ตนเองหลังจากนี้อยู่ห่างเขาไม่ได้ แต่หลังจากนี้ยังต้องการแสงแดดล่ะก็เช่นนั้นก็เท่ากับว่า...นางมองชายหนุ่มที่โผล่หัวออกมาจากผ้าห่ม เห็นอักขระคำสาปประหลาดบนหน้าตาคนสมองทื่อนี้ ปรากฏขึ้นมาต่อเนื่อง หายไป แล้วก็โผล่ออกมารักษาแผลไฟไหม้...จั๋วซือหรานจึงเดินเข้าไปสองก้าวอย่างอดไม่อยู่ พอมาถึงตรงหน้าเขา ก็ยกมือขึ้นมาเบาๆเขาไม่ขยับ จ้องมองนางนิ่งจั๋วซือหรานแตะลงไปบนหน้าเขาเบาๆ ราวกับว่าแค่สัมผัสเพียงเล็กน้อยเท่านั้นนางขมวดคิ้วแน่นเขามองนางเงียบๆจั๋วซือหรานนิ่งงันไปครู่หนึ่ง จึงเอ่ยเสียงต่ำขึ้นว่า "พลังวิญญาณของข้า ช่วยอะไรท่านไม่ได้แล้วหรือ"น่าจะเพราะตนเองตั้งท้องจนงงๆ ไปแล้วจริงๆ หรืออาจเป็นเพราะไม่พอใจเจ้าคนสมองมีปัญหาตรงหน้านี้ ดังนั้นจึงไม่ได้สนใจอะไรมากกระทั่งถึงตอนนี้ จั๋วซือหรานจึงเพิ่งรู้สึกตัวพลังของตนเองก่อนหน้านี้ ทั้งๆ ที่สามารถบรรเทาอาการทำร้ายตนเองของเฟิงเหยียนได้แท้ๆ แล้วยังทำให้เขาต้านทานแสงแดดได้ระดับหนึ่งอีกด้วยแต่ตอนนี้ทำไมเหมือน...มันไม่มีประโยชน์แล้วล่ะ?ทว่าเฟิงเหยียน ดูเหมือนจะ

  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 1276

    ขณะที่จั๋วซือหรานขมวดคิ้วคิดว่าตัวเองกำลังทำอะไรอยู่ ทำไมถึงมุดเข้ามาด้วยกัน...กับเขาในผ้าห่มที่มืดสนิทนี้ ก็ได้ยินเสียงหัวเราะทุ้มๆ ดังขึ้นเสียงหัวเราะทุ้มต่ำ ในผ้าห่มมืดๆ ภายใต้ระยะใกล้ชิดที่แทบจะเบียดกันของคนทั้งสองนี้ จึงยิ่งชัดเจนเป็นพิเศษ...กระทั่งความหยาบกร้านแหบพร่าเล็กๆ ในน้ำเสียง ก็ยังชัดเจน ชัดเจนเอามากๆ!ยิ่งไปกว่านั้น เพราะความใกล้ชิดมากๆ ยังมีกระแสลมแผ่วๆ ที่เหมือนจะพัดผ่านข้างหูนางไปเหมือนกับแม้กระทั่งตอนที่เขาหัวเราะเสียงทุ้ม การสั่นสะเทือนของทรวงอก ตนเองก็ยังสัมผัสได้อย่างชัดเจนด้วย!จั๋วซือหรานกัดริมฝีปากเบาๆจึงได้ยินเสียงของตาคนสมองทื่อ ยังคงเป็นเส้นเสียงหยาบๆ ที่ชวนหลงใหลนั่นอยู่บอกกับนางว่า "นี่เจ้ากำลัง...เชื้อเชิญข้าหรือ?"จั๋วซือหรานเพิ่งตื่นขึ้นจากความฝันที่อยู่กับคนรัก ถือว่าถูกกวนให้ตื่นก็ได้ มีอารมณ์ขุ่นเคืองอยู่บ้างก็เรื่องปกติดังนั้นนางจึงไม่มีเวลามาปรับอารมณ์กับตาคนสมองทื่อนี่จั๋วซือหรานเอ่ยขึ้นว่า "ข้าควรจะมองท่านถูกเผาตายทั้งเป็นไปซะ"ตาสมองทื่อนี่ก็ไม่รู้ทำไมผ่านไปคืนนึงนิสัยก็เปลี่ยนไป จู่ๆ อารมณ์ก็ดีขึ้นมาเสียอย่างนั้นบางทีคงเพร

  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 1275

    จั๋วซือหรานได้ยินอารมณ์เจ็บปวดจากในน้ำเสียงเขา และได้ยินถึงอารมณ์เสียใจด้วยอันที่จริงสำหรับสำหรับอาการข้าหึงตัวข้าเองที่แปลกใหม่นี้ จั๋วซือหรานก็รู้สึกจนใจอยู่หน่อยๆ แล้วยังดูน่าขำอีกด้วยผลลัพธ์คือพอแหงนตามอง สีหน้ารอยยิ้มบนหน้าจั๋วซือหรานเหล่านั้น ก็แข็งทื่อไปทันทีอารมณ์ที่เรียกว่าความกังวล ก่อตัวขึ้นมาในดวงตามิน่าในน้ำเสียงเขาถึงมีความเจ็บปวดอยู่ตอนนี้ อักขระคำสาปปรากฏขึ้นบนตัวเขาแล้ว แสดงรูปลักษณ์ที่ประหลาดออกมา"นี่คือ..." จั๋วซือหรานยกมือมากำข้อมือเขาแต่นี่ไม่ใช่ความจริง เป็นแค่เขตแดนจิตใต้สำนึกบางอย่าง เป็นแค่ในความฝันเท่านั้น แน่นอนว่าจับชีพจรเขาไม่ได้"ไม่เป็นไร" บนสีหน้าชายหนุ่มแม้จะเต็มไปด้วยอักขระคำสาปประหลาด สายตาที่ก้มลงมามองนางกลับดูอบอุ่น "ไม่เป็นไร"เหมือนกลัวว่านางจะกังวล เขาจึงบอกว่าไม่เป็นไรขึ้นมาอีกครั้งจั๋วซือหรานตระหนักได้ถึงอะไรบางอย่าง ขมวดคิ้วขึ้นมานิ้วโป้งของชายหนุ่มกดลงเบาๆ ที่หว่างคิ้วนาง นวดๆ เหมือนติดจะนวดคลายสีหน้าอารมณ์ที่ยุ่งเหยิงเหล่านั้นออก"พักผ่อนให้ดี กินข้าวให้ดีด้วย" เขาเอ่ยขึ้นจั๋วซือหรานเบ้ปากเบาๆ เหลือบมองเขา "ถ้าหากเจ้าส

  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 1274

    จั๋วซือหรานไม่ส่งเสียง ครู่เดียว จึงถอนใจเบาๆ เอ่ยขึ้นว่า "อันที่จริง ข้าเองก็ไม่ได้ยืนหยัดขนาดนั้น แค่ตอนนี้ยังไม่ถึงเวลาจนตรอกจริงๆ ข้าก็ยังไม่อยากละทิ้งทั้งที่ยังไม่ได้ลอง"เฟิงเหยียนกอดนาง ในสีหน้ามีความเจ็บปวดเสียงยิ่งแหบพร่า เอ่ยขึ้นว่า "ข้าไม่อยากให้เจ้าต้องมาเหยียบซ้ำรอยมารดาของข้า และข้าก็ไม่อยากให้ลูกของเราเติบโตมาเป็นเหมือนข้าด้วย หากเรื่องนี้ ไม่มีวิธีอื่นแก้ไขได้นอกจากปล่อยให้มีฝันร้ายแบบนี้ต่อไปเรื่อยๆ ...ข้าก็หวังให้ฝันร้ายนี้หยุดลงที่ตัวข้าพอ"เสียงของชายหนุ่มแหบพร่ามาก ในน้ำเสียง...ก็มีความสิ้นหวังที่ปิดไว้ไม่มิดอยู่ ทิ่มแทงเข้ามาที่ใจของจั๋วซือหรานต้องเป็นแบบไหนกันนะ...ถึงบีบคั้นให้คนดีๆ ที่หยิ่งทะนงและยอดเยี่ยมคนหนึ่งตกอยู่ในสภาพนี้...ราวกับสัตว์ที่ถูกกักขังไว้จั๋วซือหรานมองเขา ครู่ต่อมา ก็ถอนหายใจเบาๆเอ่ยขึ้นว่า "จริงๆ แล้ว...เดิมทีข้าเองก็ยังไม่ค่อยแน่ใจ การวางแผนและความคิดของข้าจึงไม่ได้เล่าใด้คนอื่นฟัง"เฟิงเหยียนไม่พูดอะไร แค่แหงนตามองนางเงียบๆจั๋วซือหรานยิ้มๆ "ข้ารู้สึกจริงๆ ว่าไม่แน่ข้าอาจมีวิธี แม้ตอนนี้ข้ายังพูดถึงเหตุผลออกมาให้ชัดเจนไม่ได้ แต

  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 1273

    แม้จะบอกว่าเป็นความฝัน แต่อันที่จริงจั๋วซือหรานก็ค่อยๆ เข้าใจแล้ว ว่าเพราะอะไรหลังจากฝันถึงเขาครั้งที่แล้วจนมาถึงครั้งนี้ นานมากแล้วที่ไม่ได้ฝันถึงเขาอีกพอมาคิดอย่างละเอียด เหมือนว่าตอนฝันถึงเขาครั้งที่แล้ว จะเป็นหลังจากที่นางมีสัมพันธ์ทางกายกับเขาดังนั้นจั๋วซือหรานจึงค่อยๆ เข้าใจ บางทีน่าจะเป็นเพราะสาเหตุนี้การดูดหยางบำรุงหยินของนางก็ดูดซับมาจนพอเข้าใจแล้ว เหมือนว่าพอดูดซับมาถึงระดับหนึ่ง ก็จะเกิด...ถ้าจะพูดว่าเป็นความฝัน สู้บอกว่าเป็นการสื่อสารทางจิตใต้สำนึกกับความทรงจำของเฟิงเหยียนส่วนที่ถูกผนึกไปจะดีกว่า?และไม่ว่าจะ 'ความฝัน' ครั้งที่แล้ว หรือว่าครั้งนี้ก็มองออกได้ไม่ยากเฟิงเหยียนน่าจะเข้าใจต่อสถานการณ์อยู่ ดังนั้นบางทีจิตใต้สำนึกเขายังคงอยู่มาตลอด เพียงแต่ถูกสมองทื่อๆ นี่กดเอาไว้ หรือบางทีคงถูกสภาผู้อาวุโสลงมือสะกดเอาไว้ไม่แน่ว่า อาจจะต้องมีชนวนเหตุบางอย่าง ถึงจะสามารถปลุกขึ้นมาได้จั๋วซือหรานอยากจะรู้ชนวนเหตุนั้นว่าคืออะไรกันแน่"ต้องทำยังไงเจ้าถึงจะดีขึ้นมา?" จั๋วซือหรานถามแต่เฟิงเหยียนกลับเหมือนจะจำจุดสำคัญนั้นไม่ได้แล้ว ขมวดคิ้ว สีหน้าดูเหมือนขมขื่น เหมือนว

  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 1272

    ในห้วงฝันนางมองมือตัวเอง สับสนไปหมดทั้งตัว เหมือนยังตั้งตัวกลับมาไม่ได้เพราะนางถ้าไม่หลับลึก ก็จะเอาจิตใต้สำนึกส่งเข้าไปในมิติ จึงฝันน้อยครั้งมากดังนั้นตอนที่ดำดิ่งสู่ห้วงฝัน นางยังรู้สึกไม่คุ้นอยู่หน่อยๆ มองมือตนเอง รู้สึกไม่คอ่ยเป็นจริงสักเท่าไรวินาทีต่อมา มือข้างหนึ่งก็ทาบมาบนมือของนางมือข้างนั้น ข้อต่อกระดูกชัดเจน นิ้วเรียวยาว เล็บตัดมาดูสะอาดสะอ้าน ผิวหนังขาวซีดเย็นเหมือนไม่โดนแดดมานานสายตาของจั๋วซือหรานจ้องนิ่งอยู่บนมือข้างนี้ จากนั้นจึงค่อยๆ ยกขึ้นมามองไปยังเจ้าของมือนี้ ใบหน้าหล่อเหลาไม่มีที่ตินั่นทั้งที่เป็นใบหน้าที่เพิ่งเห็นไปก่อนหลับตาลงเมื่อครู่แท้ๆ แต่ตอนนี้พอมอง กลับยังคงทำให้นางรู้สึกเหมือนไม่เจอกันเสียนานสายตาของชายหนุ่มอบอุ่น ด้านในมีความรู้สึกอารมณ์เหมือนความเจ็บปวดแฝงอยู่"จั๋วเสียวจิ่ว..." เขาก้มหน้าลงเรียกนางจั๋วซือหรานมองเขา จากนั้นจึงออกแรงบีบมือเขา และน่าจะเพราะออกแรงมากเกินไปปลายเล็บจึงเหมือนจิกลงไปในเนื้อเขาฝันถึงเขาอีกแล้วจั๋วซือหรานมีปฏิกิริยาขึ้นมา ครั้งนี้เหมือนกับครั้งนั้นเลย ฝันถึงเฟิงเหยียนยิ่งไปกว่านั้นยังดูเหมือนจริงเป็นพิ

  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 1271

    กลางดึก จั๋วซือหรานกัดริมฝีปาก กอดหมอน เดินเท้าเปล่าจากห้องด้านนอกเข้าไปยังห้องด้านใน!คิ้วงามของนางขมวดแน่น สีหน้าที่มีสีเลือดฟื้นมาบ้างแล้ว ตอนนี้กลับขาวซีดขึ้นมาในใจนางเองก็พูดไม่ออก เดิมทีตอนที่หลับก็ยังดีอยู่ พอกลางดึกจู่ๆ ก็ไม่ไหวขึ้นมาเสียแล้วหน้าอกปั่นป่วนอย่างรุนแรง เป็นความรู้สึกทรมานแบบที่นางผ่านมาก่อนหน้าไม่ผิดเพี้ยนถ้าบอกว่าคนคนนี้ไม่เข้ามาก็ว่าไปอย่าง แต่นี่ก็เข้ามาแล้วว่ากันว่าพอเคยสบายแล้ว จะยากที่จะกลับไปลำบากตอนนี้จะให้นางปล่อยชายหนุ่มที่เหมือนกับ 'ยาบำรุงครรภ์' นี้ไว้ข้างในเฉยๆ โดยไม่ใช้ แล้วต้องมานั่งทนกระอักเลือดต่อล่ะก็...ขอโทษด้วย สกุลจั๋วอย่างนางไม่ใช่คนประเภทนั้นนางเข้าใจแล้ว ก่อนที่จะหลับไปเมื่อคืนนี้ ตอนที่เฟิงเหยียนบอกว่าจะนอนด้านนอก ริมฝีปากที่เม้มแน่นนั้นกำลังอดกลั้นเรื่องอะไรน่าจะคิดไว้แล้วว่าจะเกิดเรื่องแบบนี้สารเลว!จั๋วซือหรานครั่นเนื้อครั่นตัวตื่นมากลางดึก ต่อให้เป็นคนที่มีสติเยือกเย็นแค่ไหน ก็ยังมีอาการหงุดหงิดงัวเงียหลังตื่นนอนนางเดินเท้าเปล่าเข้าไปห้องด้านใน อากาศในหุบเขาตอนกลางคืนเย็นมากนางสวมแค่เสื้อบางๆ ชุดหนึ่ง ทั้งตัวเย

  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 1270

    แต่กลับรู้ตัวตนฐานะผู้ชายทรยศของเฟิงเหยียนได้ ไม่ต้องคิดเลยว่าคงเป็นจั๋วหวายพล่ามออกมาแน่"จั๋วหวายมาบอกเจ้าหรือ?" ปันอวิ๋นถามขึ้นคำหนึ่งจวงอี๋ไห่ พยักหน้าอย่างระมัดระวัง "คุณชายเสี่ยวหวายไม่หลอกข้าหรอก คุณชายเสี่ยวหวายบอกว่าเป็นผู้ชายทรยศ เช่นนั้นกว่าครึ่งก็ต้องเป็นผู้ชายทรยศแล้ว"ปันอวิ๋นถอนหายใจแผ่วเบาในห้อง จั๋วซือหรานนั่งลงข้างโต๊ะเฟิงเหยียนไม่พูดอะไร รินน้ำชาให้นางถ้วยหนึ่งจั๋วซือหรานกำถ้วยไว้ ใช้นิ้วมือลูบไล้ขอบถ้วยเบาๆ"อีกเดี๋ยวพออาหารส่งเข้ามา ก็กินสักหน่อยแล้วค่อยนอนพัก" เฟิงเหยียนเอ่ยขึ้นแต่ในน้ำเสียงแฝงไว้ด้วยความหนักแน่นที่ห้ามปฏิเสธจั๋วซือหรานแหงนตามองเขา กำลังจะบอกว่ายังไม่หิวก็เห็นริมฝีปากบางของชายคนนี้เม้มเบาๆ เอ่ยเสียงต่ำว่า "ข้าไม่มีสิทธิ์จะมาหารือกับเจ้าจริงๆ นั่นล่ะ..." สายตาเขาทอดลงไปที่ท้องน้อยนาง แววตาลึกซึ้งจากนั้นจึงเอ่ยต่อว่า "แต่การจะเตือนให้เจ้ากินอะไรดีดีก็ยังพอมีสิทธิ์อยู่" สายตาเขายกขึ้นมาจากท้องน้อยจั๋วซือหรานเลื่อนมาที่ดวงตานาง จ้องมองดวงตานาง เอ่ยต่อว่า "ถึงอย่างไรเมื่อครู่ก็เพิ่งช่วยเจ้ากลับมา ยิ่งไปกว่นั้นเรื่องถูกพลังศักดิ์สิท

  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 1269

    เขาไม่เพียงแต่ไม่ใช่สามีของนาง เขายังเป็นคู่หมั้นในนามของหญิงสาวคนอื่นอีกด้วยสีหน้าของเฟิงเหยียนแข็งทื่อไปแล้ว แต่ท้ายสุดก็ยังพูดอะไรไม่ออกเพราะในคำพูดจั๋วซือหราน ไม่มีส่วนที่ผิดเลยแม้แต่น้อยแม้จะบอกว่าเด็กคนนี้ ไม่เกี่ยวข้องอะไรกับเขาก็ตามแต่ครั้งก่อนหน้านั้น เป็นเพราะจั๋วซือหรานถูกวางแผนร้ายใส่ ถึงทำให้นางสับสนหลงใหลจนมีสัมพันธ์กับเขาถ้าจะบอกว่า เขาเอาเปรียบหญิงสาวไป ก็ไมไ่ด้พูดเกินเลยนักเอาเปรียบหญิงสาว จนทำนางตั้งท้อง ไม่เคยจะมารับผิดชอบอะไรตอนนี้กลับจะมาชี้มือชี้ไม้เรื่องของนางพอสรุปมาแบบนี้ มันก็ช่าง...แย่มากจริงๆเฟิงเหยียนเองก็รู้ว่าตนเองนั้นแย่มาก พูดอะไรออกมาไม่ได้ไปชั่วขณะปันอวิ๋นรู้สึกกระอักกระอ่วนแทนสหายเก่า เขากระแอมออกมาเบาๆ ทีหนึ่ง ไกล่เกลี่ยขึ้นว่า "เอาล่ะเอาล่ะ..."เขาเองก็ไม่รู้ว่าควรพูดอะไร ถึงอย่างไร ทั้งสองคนตอนนี้จะไม่ได้เป็นคู่รัก แต่ความสัมพันธ์แบบนี้...มันก็ดูคลุมเครือ กลืนไม่เข้าคายไม่ออกอยู่ นี่มันช่าง...ดังนั้นปันอวิ๋นเลยเปิดประเด็นขึ้น อึกอักในปากอยู่พักหนึ่ง กว่าจะพูดออกมาได้ "...พวกเจ้าหิวหรือยัง? ให้เหล่าจวนทำอะไรให้กินหน่อยดีไหม?"

Découvrez et lisez de bons romans gratuitement
Accédez gratuitement à un grand nombre de bons romans sur GoodNovel. Téléchargez les livres que vous aimez et lisez où et quand vous voulez.
Lisez des livres gratuitement sur l'APP
Scanner le code pour lire sur l'application
DMCA.com Protection Status