Share

บทที่ 1439

Author: หูเทียนเสี่ยว
คำนี้พอฟังแล้ว ก็เหมือนจะไม่มีอะไรที่ผิดปกตินัก

ดังนั้นสือหลินจึงรีบพาพวกของตนเองออกไป

เพียงแต่ว่า หลังจากพวกเขาออกจากจวนเจ้าเมือง สหายคนหนึ่งก็ถามขึ้นเสียงต่ำอย่างอดไม่อยู่

"พวกเรา...จะหนีกันไหม?"

พอคำนี้ออกมา พวกเขาก็นิ่งเงียบกันไป

นั่นสิ ก่อนหน้านี้ที่อยู่ข้างใน มันอันตรายเกินจนหนีไม่ได้

แต่ตอนนี้ พวกเขาออกมาจากจวนเจ้าเมืองแล้ว ถ้าหากจะหนีล่ะก็...

ตอนนี้ไม่ใช่ว่าจะไม่มีโอกาสนี่นา

เพียงแต่ว่าพวกเขา...จะหนีกันไหม?

สือหลินไม่พูดอะไร หันหน้ามองไปทางจิ่วเฉียวผาดหนึ่ง จิ่วเฉียวคือชื่อของชายหน้าบาก

เหมือนกำลังรอความเห็นของจิ่วเฉียว

จิ่วเฉียวไม่พูดอะไร แค่ถามว่า "เจ้าคิดว่ายังไงล่ะ?"

สือหลินเม้มปากนิ่งงันไปครู่หนึ่งจึงบอกว่า "ข้า...ไม่อยากไปเป็นหนูอีกแล้ว"

ได้ยินคำนี้ เหล่าสหายก็ล้วนสายตาเบิกโพลงด้วยความตกใจ

ราวกับว่าคำนี้ของสือหลิน ไปสะกิดบางจุดในใจพวกเขาเข้า

สือหลินสูดหายใจลึก พูดต่อว่า "พ่อแม่ของข้าจากไปเร็ว ท่านป้ากับท่านลุงคอยดูแลข้ามาโดยตลอด...แต่พวกเขากลับต้องมาตายเพราะข้า"

เขาไม่มีทางลืม ที่ตนเองไม่สามารถลงมือกับป้าและลุงได้ และตัดสินใจแล้วไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้นก็จะให้
Patuloy na basahin ang aklat na ito nang libre
I-scan ang code upang i-download ang App
Locked Chapter

Pinakabagong kabanata

  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 1449

    พอพูดจุดนี้ถึงปันอวิ๋น ตัวปันอวิ๋นก็ไม่พูดอะไร หรุบตาลงเล็กน้อย ดูเหมือนรู้สึกผิดอยู่จั๋วซือหรานเอ่ยต่อว่า "หลังจากนั้นพวกเจ้าอีกคนหนึ่งก็ช่วยเขาหลอมครึ่งหุ่นเชิดจนสำเร็จ ควบคุมราชาดินแดนทางใต้ได้อย่างสมบูรณ์ แล้วนางก็ก่อเรื่องต่อจนทำข้าขยะแขยงอีก..."นางมองศิษย์พี่น้องพวกนี้ในใจคิดว่า ตนเองคงจะติดหนี้บุญคุณศิษย์พี่น้องพวกนี้อยู่ เลยต้องมาช่วยเก็บกวาดความยุ่งเหยิงที่พวกเขาก่อไว้แบบนี้กระมังแต่ว่าจั๋วซือหรานแม้จะปวดหัวหน่อยๆ ทว่าในน้ำเสียงฟังแล้วกลับมีแค่ความรู้สึกจนใจเท่านั้น ไม่ได้มีความคิดจะกล่าวโทษเลยนางยื่นมือหยิบพู่กันกับหมึกออกมา เตรียมจะเขียนจดหมายส่งกลับไปเมืองหลวงเฟิงเหยียนเห็นท่าทางของนาง ก็พอเดาเจตนาได้ "เจ้ากังวลว่าการเคลื่อนไหวขั้นต่อไปของนาง จะพุ่งเป้าไปที่ต้าชางหรือ?"จั๋วซือหรานพยักหน้า "แม้ว่าแคว้นเหยี่ยนกับแคว้นเย่จะอยู่ใกล้ซือคงเจาหมิ่นมากกว่า ตามหลักแล้วลงมือได้สะดวกกว่า แต่ข้าคิดว่านางมีความแค้นส่วนตัวกับต้าชางและดินแดนทางใต้อยู่ ดังนั้นถ้าเทียบกับการที่นางจะลงมือกับแคว้นเหยี่ยนและแคว้นเย่แล้ว บางทีนางอาจจะอยากลงมือกับต้าชางมากกว่า"การพิจารณาของจั๋วซื

  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 1448

    "ของเล่นใหม่อะไรหรือ?" ปันอวิ๋นถามถังฉือคิดๆ "ข้าเองก็ไม่ค่อยชัดเจนเท่าไร ข้าไม่เข้าใจวิชาประหลาดลึกลับแบบนั้น แค่ได้ยินซงซีเหมือนจะเรียกว่าครึ่งหุ่นเชิดอะไรสักอย่าง..."ถังฉือพูดถึงจุดนี้ก็เบ้ปาก ทำท่าทางเหมือนไม่ใส่ใจ เอ่ยต่อว่า "ก็ไม่เข้าใจเท่าไร เจ้าเองก็รู้นี่ ซงซีตั้งชื่อห่วยจะตาย"ตอนนี้ใช้เวลามาพูดเรื่องชื่อห่วยไม่ห่วยเรอะ?แต่ก็คงมีแค่กระบี่อันดับหนึ่งแห่งใต้หล้าเท่านั้น ที่จะมีอารมณ์แบบนี้ได้ในสถานการณ์เช่นนี้ปันอวิ๋นกับจั๋วซือหรานล้วนได้ยินคำพูดของถังฉือแล้วครึ่งหุ่นเชิด?น่าจะเพราะ ทั้งสองคนรู้จักวิชาหุ่นเชิดอยู่ดังนั้นในใจจึงมีการคาดเดาอยู่บ้างส่วนจวงชิ่งหมิง น่าจะเพราะเดิมทีก็เป็นนักหลอมศัสตรา สายงานเดียวกับซงซี คนวงในพอเห็นแก่นแท้ของเรื่องก็จะเป็นกันแบบนี้ดังนั้นในใจชิ่งหมิงจึงมีการคาดเดาด้วยเช่นกันจั๋วซือหรานขมวดคิ้ว "คงจะไม่ใช่หุ่นเชิดที่คงจิตสำนึกเอาไว้ แต่เข้าควบคุมจิตสำนึกหรอกกระมัง ถึงได้เรียกว่าครึ่งหุ่นเชิด?"ถ้าหากเป็นแบบนี้จริง ก็พอจะสมเหตุสมผลแล้วเฟิ่งหลานบอกว่าราชาดินแดนทางใต้ตายไปนานแล้ว ถ้าหากตายไปจริงๆ ต้าชางก็ต้องได้รับข่าวนานแล้วสิ

  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 1447

    แม้จะบอกว่าจั๋วซือหรานรู้อยู่แล้วว่าในจดหมายลับดินแดนทางใต้พวกนี้มีเนื้อหาที่ไม่ค่อยจะดีนักยิ่งไปกว่านั้นก็รู้มานานแล้วว่าเนี่ยคุนลักลอบค้าโลหะกับอาวุธที่ขาดแคลนที่สุดไปยังดินแดนทางใต้กับแคว้นเหยี่ยนแต่ดูจากสีหน้าที่ปั้นยากขึ้นเรื่อยๆ ของพ่อลูกเฟิ่งหลานกับเฟิ่งซาน กลับยังรู้สึกว่า เรื่องราวอาจจะไม่ได้ง่ายดายแค่นี้จั๋วซือหรานก็ไม่ได้เร่งรัด รอพวกเขาค่อยๆ อ่าน อ่านจบแล้วค่อยพูดผลลัพธ์คือตอนที่อ่านจบเฟิ่งซานทนไม่ไหว กระอักเลือดออกมาโฮกหนึ่ง เห็นได้ชัดว่าโมโหจนเลือดลมพุ่งพล่านไปถึงระดับไหน"ท่านพ่อ!" เฟิ่งหลานร้องตกใจ รีบเข้ามาประคองตัวบิดาไว้เฟิ่งซานโบกไม้โบกมือ ส่งสัญญาณว่าตนเองไม่เป็นไรจั๋วซือหรานรอจนเขาอารมณ์สงบลงมาหน่อย จึงถามว่า "เป็นอย่างไรบ้าง เห็นร่องรอยอะไรมาบ้าง?"เนื่องจากเฟิ่งซานเลือดลมพุ่งพล่าน ตอนนี้ยังหายใจหายคอไม่สะดวกเฟิ่งหลานที่อยู่ข้างๆ จึงตอบว่า "ใต้เท้า ในห้องลับเหล่านี้ ทั้งหมดคือหลักฐานการสมคบคิดของเนี่ยคุนกับดินแดนทางใต้"จั๋วซือหรานพยักหน้า เรื่องนี้นางรู้อยู่แล้วเฟิ่งหลานเอ่ยต่อ "ดูจากเนื้อหาในจดหมายลับนี้..."นางสูดลมหายใจลึก น้ำเสียงขรึมลง

  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 1446

    "เห็นหรือ?" เย่เจิงไม่เข้าใจหน่อยๆ "เห็นอะไร?""จะได้เห็นศพของเนี่ยคุนถูกห้อยไว้บนประตูเมือง ความหมายของนายท่านคือต้องการจะทิ้งศพเอาไว้สี่สิบเก้าวัน แต่กลัวว่าถ้าแขวนไว้นานกว่านี้ คงจะมองไม่ออกแล้ว ดังนั้นถ้าท่านแม่ทัพอยากจะไปยืนยัน ก็คงต้องรีบหน่อย"ในใจเย่เจิงก็ท่วมท้นขึ้นทันทีบอกไม่ถูกว่าเป็นความรู้สึกอะไร หญิงสาวคนนั้น...สังหารเนี่ยคุนไปก็เรื่องนึง นี่ยังจะทิ้งศพไว้อีกสี่สิบเก้าวันด้วย!นี่เป็นการทำเพื่อเตือนเมืองซื่อหนาน พร้อมกับเตือนสติพวกคนที่เคยสมคบคิดกับเนี่ยคุนไปด้วยเย่เจิงพยักหน้า "คำสัญญาที่ให้กับใต้เท้าเอาไว้ข้าไม่กล้าลืมเด็ดขาด ข้าจะนำกำลังพลออกเดินทางให้เร็วที่สุด"คนที่เข้ามาส่งสารก็บอกกับเย่เจิงอีกว่า "ความหมายของใต้เท้า คือหวังว่าท่านแม่ทัพทำได้ไวเท่าไรก็ยิ่งดี เพราะนายท่านพบเรื่องบางเรื่องเข้า กังวลว่าหากชักช้าจะเกิดการเปลี่ยนแปลง"เย่เจิงรู้ ว่าโหวหญิงคนนั้นเป็นคนไม่พูดจาเหลวไหลไม่มีมูล ในเมื่อพูดแบบนี้แล้ว ก็ห้ามละเลยโดยเด็ดขาด"อย่างมากสุดคือออกเดินทางวันพรุ่งนี้"หลังจากได้คำตอบ คนที่เข้ามาส่งสารก่อนหน้าก็ไม่พูดอะไรอีก กลับไปซื่อหนานทันทีคนที่ส่งสา

  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 1445

    ถังฉือพอได้ยินคำนี้ ก็จ้องมองนางเขม็ง"พวกเจ้าสองคนนี่ ชอบตั้งชื่อให้คนอื่นซะจริงนะ" ถังฉือเอ่ยขึ้นจั๋วซือหรานยิ้มตอบ "ไม่ได้ตั้งให้เจ้า แต่ตั้งให้กับกระบวนท่าของเจ้า"ถังฉือคิดๆ "ชื่อว่าอะไรล่ะ?"ถึงอย่างไรเขาก็ไม่ชอบคำว่าทลายฟ้าจั๋วซือหรานยิ้มตาโค้ง "กระบี่ผ่ามิติ"ถังฉือขยับปาก เหมือนตนเองพูดชื่อนี้อยู่จากนั้นตาก็เป็นประกาย "ได้ เรียกแบบนี้เลยแล้วกัน"จั๋วซือหรานยิ้มตอบ "เอาล่ะวันนี้ก็แสดงเท่านี้พอ ข้านึ่งขนมแป้งฟักทองไว้ในครัว กินคู่กับผงรากบัวพุทราจีน รีบไปกินเถอะ"ถังฉือกระเด้งตัวขึ้นมา ก้าวเดินกระฉับกระเฉงตรงไปที่ห้องครัวทันทีจั๋วซือหรานพอหันมาก็เห็นสายตากระหายใคร่รู้สิบคู่"นายท่าน" จิ่วเฉียวเนื่องจากอายุมากสุด ดังนั้นจึงเป็นหัวหน้า เขาเอ่ยถามเสียงต่ำ "เมื่อครู่นี้ใต้เท้าถังฉือคนนั้น สำแดงอะไรออกมากันแน่? พวกข้าดูแล้วไม่เข้าใจเลย"จั๋วซือหรานยิ้มตาโค้ง นางดึงกระบี่ยาวออกมาจากเอวจิ่วเฉียวพูดขึ้นว่า "ดูดีดีๆ ล่ะ"จากนั้นจั๋วซือหรานก็สะบัดกระบี่!และทุกคนก็เห็นว่า กิ่งไม้เล็กหนาประมาณข้อมือกิ่งหนึ่งก็ถูกตัดขาดไปไม่รู้เพราะอะไร อาจจะเพราะการเคลื่อนไหวของจั๋วซื

  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 1444

    แต่ถ้าจะบอกว่าคนผู้นี้เข้าใจโลกตระหนักรู้และหัวไวล่ะก็ตัวเขานอกจากกินกับฆ่าคน ก็เหมือนจะไม่เป็นอะไรอีกเลย แล้วดูจะไม่สนใจด้วยจั๋วซือหรานยื่นมือไปกุมมือชิ่งหมิงเบาๆ "ไม่ต้องกังวล ไม่เกิดเรื่องอะไรหรอก สถานการณ์ตอนนี้ก็คือ ถ้าเจ้าไม่ไป ป๋อยวนก็ยังไม่ต้องกังวลเรื่องชีวิต ถึงแม้ว่า..."สายตาจั๋วซือหรานมองไปทางนิ้วขาดในผ้าเช็ดหน้า "...อาจจะลำบากสักหน่อย"ชิ่งหมิงค่อยๆ ใจเย็นลงมาแล้วจั๋วซือหรานเอ่ยต่อว่า "พวกเราต้องช่วยพวกเขาออกมาได้แน่นอน"จวงชิ่งหมิงพยักหน้าหนักๆถังฉือจึงมาพักอยู่ที่นี่ เขาไม่มีความรู้สึกอึดอัดเลยแม้แต่น้อยจั๋วซือหรานรู้สึกว่าเขาน่าจะมีความเฉื่อยชาด้านความรู้สึกอยู่บนตัวทุกวันจั๋วซือหรานทำของอร่อยให้เขากิน จึงทำให้เขาอารมณ์ดีได้ทุกวันกระทั่งจั๋วซือหรานถามถึงระดับวิถีกระบี่ของเขา เขาก็ยังดูมีความอดทนให้มาก"นี่ มันเป็น...แบบนี้" ตอนที่ถังฉือพูดคำว่า 'แบบนี้' กระบี่ไม้ในมือก็โบกไปด้านหน้า!นอกจากจั๋วซือหรานแล้ว พวกคนทรยศตำหนักเซินหลัวที่ภักดีกับจั๋วซือหรานเหล่านั้น ก็สนอกสนใจเป็นอย่างมากเห็นได้ชัด ว่าหลงใหลในความสามารถของใต้เท้าถังฉือคนนี้มานานแล้วการม

Higit pang Kabanata
Galugarin at basahin ang magagandang nobela
Libreng basahin ang magagandang nobela sa GoodNovel app. I-download ang mga librong gusto mo at basahin kahit saan at anumang oras.
Libreng basahin ang mga aklat sa app
I-scan ang code para mabasa sa App
DMCA.com Protection Status