공유

บทที่ 30

작가: หูเทียนเสี่ยว
“ใครจะรู้ล่ะ แต่ก่อนหน้านี้มีข่าวแพร่สะพัดในวังหรือว่า ห้องหมอหลวงรักษาไทเฮาที่นอนสลบไม่ได้ แต่คุณหนูจั๋วจิ่วได้ทำการรักษาให้หายแล้วไม่ใช่หรือ”

“นั่นอาจเป็นเรื่องจริงก็ได้ อย่างไรก็ตาม ที่นี้ มันน่าตื่นเต้นมากที่ได้จะได้ชม”

เมื่อจั๋วซือหรายตื่นขึ้นมาในเช้าวันรุ่งขึ้น ข้าวลือก็แพร่กระจายไปทั่วเมืองหลวงปากต่อปาก!

ชั่งเวลาที่ทานอาหารเช้า จั๋วหวายฝึกซ้อมตอนเช้าเสร็จและรีบกลับไปที่สวนจี๋หย่าย่วน

เขาไม่สามารถระงับความตื่นเต้นในน้ำเสียงของตนได้

“ท่านพี่ จริงไหมเนี่ย จริงหรือท่านพี่...ท่านพี่จะประลองกับตระกูลเหยียน จะแข่งฝีมือทางการรักษาจริงหรือ”

คำพูดของจั๋วหวายทำให้มารดาของเขาตกตะลึงอยู่ครู่หนึ่ง และทันใดนั้นนางก็มองไปที่จั๋วซือหราน

จั๋วซือหรานยิ้มและไม่พูดอะไร

จั๋วหวายรู้คำตอบแล้ว ดวงตาของเขาเป็นประกาย

จั๋วซือหรานถามเขา "กลัวหรือ"

“ข้าไม่กลัวหรอกนะ” จั๋วหวายตอบอย่างไม่ลังเล

อวิ๋นเหนียงไม่ได้ไร้เตียงสาเหมือนเขา นางมองจั๋วซือหรานด้วยความกังวล "แม่รู้ว่าลูกมีพรสวรรค์อย่างมาก และมีความสามารถมากมายที่แม่ไม่รู้ แต่ตระกูลเหยียนถนัดการแพทย์ไม่ใช่หรือ"

นั่นเป็นเพราะในโลกนี้มีคนที่มีพรสวร
이 책을 계속 무료로 읽어보세요.
QR 코드를 스캔하여 앱을 다운로드하세요
잠긴 챕터
댓글 (4)
goodnovel comment avatar
apinyalive
รบกวนสอบถามค่ะ แอปนี้เก็บเงินเป็นรายสัปดาห์ใช่ไหมคะ ถ้าต้องการยกเลิกทำอย่างไรคะ รบกวนสอบถามผู้รู้ค่ะ ขอบคุณค่ะ
goodnovel comment avatar
warunee
เนื้อหาสนุกน่าติดตาม คนเขียนเก่งมาก
goodnovel comment avatar
มานัสรินทร์ อำมฤคขจร
3วันผ่านไปอัพเพิ่มหน่อยจ้า
댓글 모두 보기

최신 챕터

  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 1375

    ตอนนี้เอง จวงอี๋ไห่สามพ่อลูกก็เตรียมข้าวเย็นเสร็จแล้ว จัดวางไว้สองสามโต๊ะที่โถงใหญ่จั๋วซือหรานกับเฟิงเหยียน ปันอวิ๋น รวมถึงท่านแม่ จั๋วหวาย จวงชิ่งหมิง นั่งอยู่โต๊ะเดียวกันได้ยินเสียงฝีเท้าม้าแว่วเข้ามาแต่ไกล"เหมือนว่าจะมาแล้ว" จั๋วซือหรานดื่มน้ำแกงลงไปคำหนึ่ง จากนั้นก็เอ่ยขึ้นมาเสียงเรียบเฟิงเหยียนนึกขึ้นได้ถึงคำพูดที่นางพูดไว้ที่ห้องก่อนหน้านี้นางบอกว่ารอให้แม่ทัพเย่คิดจนเข้าใจ พวกเขาก็สามารถออกเดินทางได้แล้วเขาถามว่าแล้วเมื่อไรแม่ทัพเย่คนนั้นจะคิดจนเข้าใจ?นางบอกว่า...วันนี้ตอนนี้ เฟิงเหยียนก้ได้ยินเสียงฝีเท้าม้าแว่วเข้ามาแต่ไกลแล้ว พอคิดถึงความเป็นไปได้นั้น ก็พูดไม่ออกขึ้นมาไปชั่วขณะไม่นานนัก เสียงฝีเท้าม้าก็หยุดลงที่ประตูโรงเตี๊ยมผ่านไปครู่หนึ่ง ชายหนุ่มร่างสูงใส่ในชุดเกราะอ่อนคนหนึ่ง ก็ค่อยๆ เดินเข้ามาพลังบนตัวปล่อยจิตสังหารที่เด็ดขาดและเฉียบคมออกมาสายตาเองก็คมกริบทำให้คนอดรู้สึกไม่ได้ว่า คนผู้นี้...จะต้องเคยฆ่าคนมาแล้วแน่นอนหลังจากเย่เจิงเดินเข้ามา สายตาก็กวาดไปรอบๆ จากนั้นก็เล็งไปยังจั๋วซือหรานที่นั่งอยู่ที่โต๊ะส่วนคนอื่น...อย่างเช่นโต๊ะของเหลียนเจิ

  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 1374

    จั๋วซือหรานหัวเราะเสียงทุ้มเสียงของชายหนุ่มยิ่งน่าดึงดูดขึ้นท่ามกลางความมืด มีอาการแหบพร่าเล็กน้อย "หัวเราะอะไร?""ไม่มีอะไร" จั๋วซือหรานลูบใบหน้าเขาเบาๆเฟิงเหยียนเหมือนจะรู้สึกได้ว่า บางทีนางคงกำลังหัวเราะเขา...ที่ใจร้อนเสียขนาดนี้เขาไม่ส่งเสียงไปพักหนึ่งจั๋วซือหรานก็มองเขาเอ่ยขึ้นว่า "รู้ไหม พ่อครัวของโรงเตี๊ยม ยังไปทำงานดูแลม้าด้วยนะ...""...นั่นก็ยังดีที่เจ้าพาพ่อครัวมาด้วย" เฟิงเหยียนโอบนางมานั่งลงที่เก้าอี้จากนั้นจึงถามขึ้นว่า "ก่อนหน้านี้ไปจวนแม่ทัพมา เป็นยังไงบ้าง?"จั๋วซือหรานคิดๆ "ก็พอไหวอยู่ แม่ทัพคนนี้กระดูกแข็งน่าดู"เฟิงเหยียนพอได้ยินคำนี้ หลังจากชะงักไปครู่หนึ่งก็พูดแค่ว่า "ถ้างั้นเขาก็ลำบากแล้วสิ""อื๋อ?" จั๋วซือหรานไม่เข้าใจคำนี้ หัวเราะขึ้นมา "ทำไมถึงพูดแบบนี้ล่ะ?"เฟิงเหยียนตอบ "พวกกระดูกแข็งที่ถูกเจ้าจัดการไปแล้วมีน้อยซะที่ไหนกัน"พวกกระดูกไม่แข็งนางยังไปท้าทายอยู่เลยด้วยซ้ำ"ใช่ซะที่ไหนกันเล่า..." จั๋วซือหรานพูดพลางใช้นิ้ววงๆ เบาๆ ที่หน้าอกเขา "ข้าก็แค่อยากบรรลุเป้าหมายของข้าอย่างเป็นเหตุเป็นผลเฉยๆ เอง"ความหมายของคำพูดง่ายมาก ถ้ามีคนที่ไม่ยอมให้

  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 1373

    พอเดินเข้ามาในโรงเตี๊ยม จั๋วซือหรานก็พบว่า ไม่ใช่แค่คนน้อยเท่านั้น โรงเตี๊ยมนี้นอกจากพวกเขาแล้ว ไม่มีแขกคนอื่นอยู่เลยประหยัดเรื่องที่นางคิดจะเช่าเหมาไปเลยเหลียนเจินเดินเข้ามา บอกกับนางว่า "ข้าน้อยเดิมทียังคิดว่า นี่จัดการให้เพราะเห็นแก่หน้าของนายท่านหรือเปล่า"ถ้าหากแม่ทัพเย่เจิง จัดการให้พวกเขาแบบนี้เพราะเห็นแก่หน้านาง มันก็ดูสมเหตุสมผลดีจั๋วซือหรานโบกมือเอ่ยขึ้น "ไม่หรอก ข้าเพิ่งจะไปยั่วโมโหเขามา...เขาไม่ชกข้าก็ถือว่าข่มใจได้มากแล้ว แล้วนี่ยังจะมาจัดแจงที่พักให้ข้าอีก...จะเป็นไปได้ยังไง"เหลียนเจินพอได้ยินคำนี้ของนายท่าน มุมปากก็กระตุก เหมือนอยากจะยิ้มแต่เพราะนิสัยที่ค่อนข้างจริงจัง ดังนั้นจึงไม่ได้ยิ้มออกมา"เช่นนั้นก็คงเพราะคนน้อยจริงๆ" เหลียนเจินเอ่ยขึ้น"คนน้อยมากจริงๆ " ปันอวิ๋นเดินเข้ามาจากประตู "ข้าเพิ่งไปเดินวนข้างนอกมา คนไม่ถือว่าเยอะมาก ยิ่งไปกว่านั้นยังรู้สึกว่า ประชาชนส่วนใหญ่จะเป็นคนพื้นที่ด้วย หรืออาจจะเป็นพวกครอบครัวของเหล่าทหารอะไรเทือกนั้น"จั๋วซือหรานได้ยินคำนี้ ก็พยักหน้าว่าเข้าใจ "การโยกย้ายประชากรไม่เยอะ ดังนั้นโรงเตี๊ยมจึงเงียบเหงาสินะ""ก็ออกจะเงี

  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 1372

    ชิ่งหมิงเดิมก็คิดจะยืมแรงนาง เพื่อลุกขึ้นยืนแต่หลังจากมือของเขาออกแรงกุมมือจั๋วซือหรานแล้ว ก็ไม่ได้ยืมแรงลุกขึ้น แต่ไม่ขยับเขยื้อนแค่จับมือนางไว้แบบนั้น การเคลื่อนไหวหยุดอยู่เท่านี้นางยืนอยู่ เขานั่งยอง ยื่นมือกุมมือนางไว้...ทั้งที่ไม่ได้อยู่ในรูปร่างเด็กหนุ่มแบบก่อนหน้าแล้วแท้ๆ แต่ที่จั๋วซือหรานมองเขา...ก็ยังรู้สึกเหมือนว่าตนเองเห็นเด็กหนุ่มก่อนหน้าคนนั้นอยู่ท่าทางที่ทำอะไรไม่ค่อยถูกนั่น"เป็นอะไรไป?" จั๋วซือหรานถามชิ่งหมิงกดเสียงต่ำ เอ่ยขึ้นว่า "ข้าจะไปเมืองซื่อหนานกับเจ้า"จั๋วซือหรานหรือไม่พูดอะไร ยังคงก้มลงมองเขาชิ่งหมิงเอ่ยต่อว่า "ที่นั่นเป็นเมืองที่ชั่วร้าย ถึงแม้เจ้าจะแข็งแกร่งมาก เจ้าหุบเขากับใต้เท้าซือเจิ้งเองก็แข็งแกร่งมาก แต่ข้าก็ยังอยากไปกับพวกเจ้า"จั๋วซือหรานไม่พูดอะไร ยังคงมองเขา รอให้เขาพูดสิ่งที่อยากพูดออกมาให้หมด"ข้าไม่อยากเป็นคนที่ช่วยอะไรก้ไม่ได้" ชิ่งหมิงพูดคำนี้ออกมา น้ำเสียงกดลงต่ำมากฟังออกไม่ยาก ว่าอารมณ์เองก็ดิ่งเหมือนกันจั๋วซือหรานฟังออกถึงความดิ่งของเขา และฟังออกถึงความหมายของเขาเรื่องของเวินป๋อยวน ทรมานเขามาโดยตลอด ความรู้สึกโทษตัวเ

  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 1371

    เย่เจิงรู้อยู่แล้ว ว่ากองพันพยัคฆ์ทมิฬของตนเองประจำการอยู่เมืองลั่วหม่า ก็เพื่อคอยคุ้มกันเส้นพรมแดนใต้ไว้ป้องกันเพื่อนบ้านเข้ามาโจมตี และคอยป้องกันความวิ่นวายในซื่อหนานด้วยเป็นแบบนี้มาตั้งแต่แรก เขาเข้าใจเรื่องนี้ดีแต่จากคำพูดของใต้เท้าโหวหญิงตรงหน้าคนนี้ถ้านางเอาเมืองซื่อหนานมาได้ แล้วเขาไม่ได้รับคุณความดีใดๆ จากการช่วยเหลือล่ะก็ตอนนั้นทหารประจำการเมืองซื่อหนาน ก็จะต้องจัดสรรมาจากกองทัพสยบแดนใต้แน่นอนและตอนนั้นกองทหารประจำการเมืองซื่อหนาน ก็จะกลายเป็นเส้นแนวหน้าของพรมแดนใต้!เมืองลั่วหม่าเนื่องจากสภาพภูมิศาสตร์ที่ป้องกันง่ายยากจะโจมตี ดังนั้นจึงกลายเป็นเมืองหน้าด่านไปตราบใดที่เมืองซื่อหนานยังป้องกันเอาไว้ได้ ตำแหน่งของเมืองลั่วหม่าอันที่จริงก็จะไม่มีแรงกดดันมากนักว่ายังไงดีล่ะ...มันจะกลายเป็นอะไรที่กลืนไม่เข้าคายไม่ออกเอาน่ะสิตรงหน้าของเจ้ามีทหารประจำการตรึงแนวหน้าไว้แล้ว แล้วเจ้าจะยังเรียกตัวเองว่าเมืองหน้าด่านได้อีกหรือ?"ใต้เท้า ท่าน...!" เย่เจิงไม่เข้าใจคำพูดนี้ของจั๋วซือหรานที่ไหน ว่ามีการคุกคาม หยอกล่ออยู่จั๋วซือหรานยิ้มๆ มองเขา เหมือนไม่กลัวว่าเขาจะรู้สึกว

  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 1370

    "ข้าไม่ได้มองเรื่องให้มันง่ายนะ ข้าก็แค่ค่อนข้างมีวิธีรับมือกับคนก็เท่านั้น"ดวงตาจั๋วซือหรานหรี่ลงเล็กน้อย หัวเราะเอ่ยขึ้นว่า "ขอแค่ยังเป็นมนุษย์ ก็จะต้องมีจุดอ่อน และมีสิ่งที่อยากได้อยู่ เขาอยากได้อะไร ข้าก็ให้สิ่งนั้นกับเขา กระทั่งให้มากขึ้นไปอีก รวมถึงสิ่งที่เขาไม่กล้าที่จะคิด ก็ส่งให้กับเขาด้วย เขาต้องติดกับแน่นอน"เย่เจิงถนัดเรื่องเดินทัพจัดกระบวนทัพ เรื่องพวกจู่โจมฉับพลัน แต่ไม่ใช่เรื่องการวางแผนต่อสู้ด้วยเล่ห์เหลี่ยมฟังถึงตรงนี้ เขาก็ไม่ค่อยเข้าใจขึ้นมา "ท่านหมายถึงอะไรหรือ...?"จั๋วซือหราน "เจ้าเมืองเนี่ยคนนั้น สิ่งที่ต้องการไม่ใช่ซื่อหนานหรือ? ที่ทำมาทั้งหมดก็เพื่อไม่หวังให้ใครมาสั่นคลอนการควบคุมเมืองซื่อหนานของเขา"เย่เจิงพอได้ยิน ก็พยักหน้าเห็นด้วยกับคำพูดนี้และก็ได้ยินนางพูดต่อว่า "เช่นนั้น ข้าไม่เพียงแต่จะให้ซื่อหนานเขา แต่จะให้อำนาจที่ใหญ่กว่าในหลวนหนานกับเขาด้วย"ให้สิ่งที่เขาต้องการ แล้วค่อยให้สิ่งที่เขาไม่กล้าแม้แต่จะคิด...พอเป็นเช่นนี้ การจะรับความเชื่อใจจากอีกฝ่าย ก็ง่ายขึ้นเยอะแล้วพอถึงตอนนัน เขื่อนยาวนับพันลี้ก็ยังต้องพังทลายเพราะรังมด พังลงมาจากภายใน

더보기
좋은 소설을 무료로 찾아 읽어보세요
GoodNovel 앱에서 수많은 인기 소설을 무료로 즐기세요! 마음에 드는 책을 다운로드하고, 언제 어디서나 편하게 읽을 수 있습니다
앱에서 책을 무료로 읽어보세요
앱에서 읽으려면 QR 코드를 스캔하세요.
DMCA.com Protection Status