Share

บทที่ 47

Author: หูเทียนเสี่ยว
ไม่ต้องพูดถึงที่นี่เลย แม้แต่ในจวนจั๋ว คนรับใช้หลายคนล้วนเคารพผู้มีฐานะ แต่ดูถูกผู้ที่ไร้ฐานะ

ดังนั้นหลังจากเจ้าของร่างเดิมตัดสินใจแต่งงานกับฉินตวนหยาง แม่ของเจ้าของร่างเดิมและจั๋วหวายต่างเริ่มได้รับการดูถูกในจวนจั๋ว

คนรับใช้วัยกลางคนคนนี้ถูกสั่งมาที่นี่เป็นพ่อดูแลบ้าน และเดิมทีเขาไม่พอใจกับชะตากรรมของเขาที่ถูก 'เนรเทศ'

นอกจากนี้ เมื่อเขาเห็นจั๋วซือหรานเพิ่งตื่นและนางดูเหมือนอ่อนแอและถูกกลั่นแกล้งได้ง่าย เขาเลยดูถูกในใจจั๋วซือหรานเล็กน้อย และทัศนคติในการพูดของเขาก็เป็นการไม่ให้ความเคารพโดยธรรมชาติ

ฝูซูขมวดคิ้วขณะที่เขาฟัง"เจ้าพูดเช่นนี้ได้อย่างไร ทำไมเจ้าถึงพูดกับคุณหนุเช่นนี้"

คนรับใช้วัยกลางคนโค้งริมฝีปากแล้วพูดว่า "ข้าพูดอะไรผิดไป อีกอย่าง คุณท่านลิ่วเป็นผู้ที่สั่งข้ามาเป็นพ่อดูแลบ้านของคุณหนูจิ่ว โดยปกติแล้ว เจ้าต้องรับใช้ข้า ดังนั้นเจ้าต้องพูดดี ๆ กับข้าต่างหาก”

“เจ้า” ฝูซูโกรธมากจนหน้าแดง เขาเป็นเพียงชายหนุ่มผู้ภักดีต่อเจ้านายของเขา เขามีนิสัยเรียบง่ายแต่พูดไม่เก่ง ทันใดนั้น เขาไม่ทราบต้องโต้เถียงกับคำพูดนี้

เมื่อจั๋วซือหรานได้ยินคำพูดนั้น นางหรี่ตาลง บัดนี้นางไม่ง่วงนอนแ
Continue to read this book for free
Scan code to download App
Locked Chapter
Comments (2)
goodnovel comment avatar
Nongnuch Dit
ถามไม่ตอบโบนัสเอาไว้ทำอะไร
goodnovel comment avatar
Magister Mart WT
การพิมพ์การเรียบเรียงคำเหมือนนักแปลกำลังฝึกหัดเลย
VIEW ALL COMMENTS

Related chapters

  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 48

    “เจ้าสองคนแหละ เจ้าคุมเหล่าคนรับใช้เพศชาย ส่วนเจ้า คุมเหล่าคนรับใช้เพศผู้หญิง พวกเจ้าสั่งงานเอง”มีว่างฝูอันน่าเวทนาเป็นตัวอย่าง จั๋วซือหรานเชื่อพวกเขาจะไม่กล้าก่อเรื่องในชั่วคราว“ในเมื่อพวกเจ้ามาจากจวนจั๋ว ทางนั้นว่าอย่างไร หนังสือสารกรมธรรม์ของพวกเจ้าจะให้ข้าเก็บไว้หรือให้จวนจั๋วเก็บไว้เหมือนเดิม” จั๋วซือหรานถาม แต่เมื่อนางเห็นพวกเขายังหวาดกลัวอยู่ ดูเหมือนนางคงไม่ได้คำตอบหรอกจั๋วซือหรานโบกมือ "ช่างมันเถิด วันหลังข้าไปหาผู้อาวุโสใหญ่เอง เอาหนังสือสารกรมธรรม์ของพวกเจ้ากลับมาละกัน"จั๋วซือหรานไม่แน่ใจนางจะเอาหนังสือสารกรมธรรม์กลับมาได้หรือไม่ แต่สิ่งที่นางมั่นใจนั้นก็คือ ในบรรดาคนรับใช้ที่ตระกูลจั๋ว จัดไว้นั้น จะต้องมีสายลับของตระกูลจั๋วแน่ ๆว่างฝูนั้นที่ขดตัวเป็นกลอม ๆ นอนบนพื้นตรงนั้น ดูเหมือนว่าเขายังไม่หายจากอาการตกใจครั้งก่อนแต่ทันทีที่เขาได้ยินจั๋วซือหรานพูดถึงหนังสือสารกรมธรรม์ เขาก็ลุกขึ้นยืนและคลานไปหาจั๋วซือหรานทันที ราวกับว่าเขาฟื้นคืนสติก่อนที่จะเสียชีวิตหากคุณหนูจิ่วไปเอาหนังสือสารกรมธรรม์ของพวกเขาจากจวนจั๋วจริง ๆ นั่นหมายความว่า นางมีสิทธิ์ขายได้ตามใจชอบแม้ว

  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 49

    เมื่อเปรียบเทียบกับจั๋วซือหราน ผู้หญิงที่เกือบถูกครอบครัวของทอดทิ้ง สถาบันแพทย์หลวงสนใจผู้ที่เป็นเส้นสายและผู้ที่มีบุญคุณมากกว่า และยินดีกับคนเหล่านั้นอย่างไม่ต้องสงสัยดังนั้นเจ้าหน้าที่ที่มีหนวดคนนี้จึงตัดสินใจกีดขวางจั๋วซือหรานสอบใบอนุญาตแพทย์ เพื่อแสดงความเป็นมิตรกับเหยียนชางสถาบันแพทย์หลวงใครจะไปรู้คุณหนูจั๋วจิ่วผู้นี้ พูดจาโหดเช่นนี้เจ้าหน้าที่ที่มีหนวดโกรธมาก เขาพูดอย่างไม่พอใจ "เจ้ากล้าเรียกชื่อของหัวหน้าของสถาบันแพทย์หลวงได้อย่างไร คุณหนูจั๋วจิ่ว หัวหน้าของสถาบันแพทย์หลวงกลัวหญิงสาวที่ไร้เตียงสาอย่างเจ้าหรือ เจ้าไม่กล้วหาเรื่องใส่ตัวเองหรือ "จั๋วซือหรานเหลือบมองชายที่มีหนวดสั้น ๆ นางโบกมือแล้วพูดว่า "ช่างเถิด ทำไมข้าต้องเสียเวลามาคุยกับเจ้า... "ชายที่หนวดสั้น ๆ ยังคงอยู่ที่นั่นและพูดด้วยน้ำเสียงที่เต็มไปด้วยความดุถูก"ในเมื่อเจ้าไม่อยากอยู่ที่นี่ อย่าสอบใบอนุญาตแพทย์ละกัน แม่นางจั๋วจิ่วเย่อหยิ่งเช่นนี้ ทำไมเจ้าไม่ไปสอบแพทย์กลั่นยาล่ะ โถ มีทักษะการแพทย์ไม่มาก คิดว่าตัวเป็นหมอเทวดา ถุย”จั๋วซือหรานเลิกคิ้ว "แพทย์กลั่นยาหรือ เจ้าเตือนฉันพอดี"นางสะบัดแขนเสื้อแล้วหันตัวบ

  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 50

    เพียงแต่หลังจากที่ฝูซูดีใจ เขาก็เริ่มคิดอย่างมีเหตุผล เขาขมวดคิ้วและกระซิบว่า “แต่คุณหนูคะ หน่วยสืบสวนพิเศษไม่เปิดให้บุคคลทั่วไปเข้าเลย เราคงเข้าไปไม่ได้หรอกนะ”หลังจากที่จั๋วซือหรานได้ยินคำพูดของเขา นางมองไปในทิศทางหนึ่งอย่างกะทันหัน จากนั้นก็ยกมือขึ้นทันทีไม่มีใครสังเกตนางมีอาวุธสีดำอยู่ในมือของนางเมื่อไร เสียง ปัง ปัง ปัง ปัง ดังขึ้น เสียงหลายเสียงดังทะลุอากาศติดต่อกัน มุ่งหน้าตรงไปในทิศทางนั้นและในทิศทางนั้น เพื่อหลบการโจมตีฉับพลันของนาง ชายที่สวมชุดดำปรากฏตัวจากมุมถนนด้วยท่าทีเขินอายเล็กน้อยชายชุดดำตกตะลึงอย่างมาก ไม่เพียงเพราะจั๋วซือหรานสังเกตร่องรอยของเขาอย่างง่ายดาย แต่จากการโจมตีอย่างรวดเร็วภายในเวลาอันสั้นของจั๋วซือหราน นางอาจสังเกตการติดตามของเขาเสียนานแล้ว เพียงแต่นางทนถึงเวลานี้ จึงโจมตีเขาสิ่งที่ทำให้ชายชุดดำตกใจยิ่งกว่านั้นคือการโจมตีของจั๋วซือหราน เขาไม่รู้ว่ามันเป็นอาวุธประเภทใด แต่มันรวดเร็วและแม่นยำมาก หากเขาไม่หลบ เขาอาจจะโดนลูกศรเหล็กอันสั้นสี่ดอกนั้นไม่ต้องพูดถึงว่าชายชุดดำมองเห็นไม่ชัดเจน ฝูซูเองก็ไม่ทันมองคุณหนูของเขาลงมือเมื่อไรเขาเพียงรู้สึกคุณหนู

  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 51

    แพทย์กลั่นยามีจำนวนที่น้อยมาก นั่นเป็นเพราะว่าเกณฑ์นั้นสูงมากหากผู้ใดอยากเป็นแพทย์กลั่นยา ผู้ที่สอบไม่เพียงต้องต้องรู้วิชาการแพทย์เท่านั้น แต่ยังต้องเข้าใจเภสัชวิทยาและพิษวิทยาด้วย ยิ่งไปกว่านั้น ผู้สอบต้องรู้จักสมุนไพรนับร้อยชนิดและรู้วิธีจับคู่และประสานกันดังนั้นเมื่อเทียบกับแพทย์กลั่นยา การสอบใบอนุญาตแพทย์ก็ง่ายพอ ๆ กับน้ำดื่มและเนื่องจากการที่เป็นแพทย์กลั่นยาต้องมีความสามารถขั้นเทพ โดยปกติแล้ว ไม่หมอกลั่นยานอกระบบคนไหนมาสอบเป็นแพทย์กลั่นยาแพทย์กลั่นยาของแผ่นดินใหญ่มักจะรวมตัวในเจ็ดลัทธิหลัก และแพทย์กลั่นยาที่เก่งที่สุดในเจ็ดลัทธิหลักมักจะรวมตัวอยู่ในลัทธิตันติ่งจั๋วซือหรานรู้ทั้งหมดนี้ และนางทราบดีด้วยว่า ไม่เคยมีผู้ที่อยู่นอกระบบนิกายสอบเป็นแพทย์กลั่นยาได้ แน่นอนว่าไม่สามารถพูดได้ว่า ไม่มีนักเล่นแร่แปรธาตุที่นอกระบบ แต่มีแพทย์กลั่นยานอกระบบที่เรียนด้วยตนเองเดิมทีพวกเขาชินกับการมีความเป็นอิสระแล้ว พวกเขาไม่อยากมาสอบเป็นแพทย์กลั่นยาหรอกดังนั้นจึงเป็นเรื่องจริงที่ว่า แทบไม่มีใครสอบแพทย์กลั่นยาเมื่อซือหลี่ตันติ่งได้ยินจุดประสงค์ของจั๋วซือหราน เขาก็เงียบ "ไม่เคยมีคนมาสอ

  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 52

    อย่างไรก็ตาม ในขณะที่ซือหลี่ตันติ่งคิดว่าจั๋วซือหรานจะยอมแพ้แต่จั๋วซือหรานไม่ยอมแพ้ นางถามคำถามอื่นเท่านั้น "ใต้เท้าเจ้าคะ ตามหลัก ความเสี่ยงและผลประโยชน์ควรมีอยู่ร่วมกัน หากข้าสอบไม่ผ่านแพทย์กลั่นยา ข้าต้องรับโทษหนักเช่นนี้เพื่อชดใช้ความประมาทเลินเล่อของข้า…”ทันใดนั้น ในดวงตาที่อยู่ด้านหลังของหน้ากากของซือหลี่ตันติ่งเริ่มเกิดความสนใจออันแปลกประหลาดผู้หญิงคนนี้...ไม่กลัวหรือเห็นได้ชัดว่า ก่อนหน้านี้เขาเห็นความตกใจเล็กน้อยในดวงตาของนาง แต่ตอนนี้ดวงตาสีน้ำตาลของนางไม่มีสีหน้าที่สั่นเทาอีกต่อไป แต่ยังคงสงบราวกับว่าแค่มองดวงตาของนางก็จะรู้สึกว่า นางทำได้ง่ายมากจั๋วซือหรานกล่าวต่อ "...ตามเกณฑ์ หากข้าผ่านการสอบแพทย์กลั่นยา ข้าควรได้รับผลประโยชน์มากมาย ท่านคิดว่าอย่างไร"ซือหลี่ตันติ่งหรี่ตาลง และในทันใดนั้น ในน้ำเสียงอันดังของเขาเต็มไปด้วยความดีใจพวกเขาอยู่ห่างไกลจากลัทธิและได้รับมอบหมายให้ทำหน้าที่เป็นซือหลี่ในหน่วยสืบสวนพิเศษแคว้นต่าง ๆ แม้ว่างานนี้จะเป็นคุณสมบัติ แต่จริง ๆ แล้วในช่วงเวลาที่รับหน้าที่ ชีวิตของพวกเขาค่อนข้างน่าเบื่อนี่เป็นครั้งแรกที่เขาได้พบกับคนที่น่าสนใจใ

  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 53

    เมื่อจั๋วซือหรานเดินออกจากหน่วยสืบสวนพิเศษ ฝูซูกำลังกังวลมากเมื่อเขาเห็นจั๋วซือหรานเดินออกมา เขาจึงถอนหายใจด้วยความโล่งอก "คุณหนู"ทำไมจะร้องไห้แล้ว” จั๋วซือหรานเห็นดวงตาของฝูซูแดงก่ำ นางรู้สึกกตลก“ข้ากลัว นั่นคือหน่วยสืบสวนพิเศษนะขอรับ ใครจะไม่กลัว หน่วยสืบสวนพิเศษล่ะ ข้าเคยได้ยินคนอื่นเล่ากันว่า หลายคนเข้าไป ออกมาไม่ได้”ฝูซูรีบยกมือเช็ดตาแล้วพูดต่อ "และคุณหนูเป็นผู้ที่ขู่คนของหน่วยสืบสวนพิเศษ จึงเข้าไปได้"แน่นอนว่าเขากังวลคนของหน่วยสืบสวนพิเศษจะหาเรื่องของคุณหนูของเขาเพียงแต่ฝูซูยังหนุ่มอยู่ หลังจากเขาเห็นจั๋วซือหรานเดินออกมาอย่างปลอดภัย เขาหายความค่อยกังวลเล็กน้อย และเขาเริ่มสนใจของอย่างอื่น“คุณหนูขอรับ ม้วนนี้คืออะไรขอรับ” ฝูซูถามและมองดูม้วนหนังสือในมือของจั๋วซือหรานด้วยความอยากรู้อยากเห็น “มันดูละเอียดและงามมาก”ตอนที่จั๋วซือหรานได้รับม้วนหนังสือที่ซือหลี่ของลัทธิตันติ่ง โยนมา นางก็เดินออกมาก่อนโดยไม่ได้สังเกตม้วนหนังสือนี้ดี ๆหลังจากฝูซูเตือนนาง นางจึงสังเกตและตระหนักว่า มันเป็นม้วนหนังสือที่สวยงามมากจริง ๆ ภายนอกทำจากผ้าต่วนที่มีคุณภาพอย่างสูงและด้านในทำจากกระดา

  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 54

    แม้ว่าผู้รับใช้ที่ที่เหยียนชางเชื่อที่สุดสืบสวนข่าวนี้มาก แต่พวกเขาก็ไม่เข้าใจความหมาย "เพียงว่าข้าน้อยไม่เข้าใจ นางไปหน่วยสืบสวนพิเศษทำไมขอรับ"เหยียนชางโยนชามชาอีกใบแล้วพูดด้วยความโกรธ "จะทำอะไรได้อี! นางทำอะไรได้อีก นอกจากจะไปฟ้องข้า"เหยียนชางรู้ยัยเด็กที่แซ่จั๋วนั้นเป็นเด็กที่ไม่ยอมเสียเปรียบ มีอะไรต้องแก้แค้นแน่ ๆ ครั้งสุดท้ายเขาไปฟ้องนางที่หน่วยสืบสวนพิเศษ จนนางต้องทนทุกข์ทรมานมากมายจากการลงโทษของหน่วยสืบสวนพิเศษจั๋วซือหรานต้องแก้แค้นแน่ ๆ ตอนนี้นางไปที่หน่วยสืบสวนพิเศษ นางอาจไปฟ้องเขาใช้อำนาจในทางที่ผิดและติดสินบนเจ้าหน้าที่เพื่อป้องกันไม่ให้นางสอบใบอนุญาตแพทย์เหยียนชางรีบเดินไปทางหน่วยสืบสวนพิเศษเนื่องจากตระกูลเหยียนมีความสัมพันธ์ที่ดีกับซือหลี่ของลัทธิฉือซือหาง ดังนั้นเหยียนชาง ที่จะไปที่ หน่วยสืบสวนพิเศษ จึงไม่คดเคี้ยวเท่ากับ จั๋วซือหรานเหยียนชางได้พบซือหลี่ฉือหางอย่างรวดเร็ว ซือหลี่ฉือหางช่วยเขาอย่างไม่ถือสาเขาพาเหยียนชางไปหาซือหลี่ตันติ่ง“แม่นางคนที่เก้าของตระกูลจั๋วมาที่นี่เพื่อพบซือหลี่ตันติ่ง ” ซือหลี่ฉือหางพูดเหยียนชางยกมือขึ้นและโค้งคำนับให้กับซือหลี่

  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 55

    ซือหลี่ตันติ่งไม่กล่าวอะไร ซึ่งถือเป็นการยินยอมเหยียนชางตกใจอย่างมาก ในชั่วขณะนั้น เขาแทบจะไม่มีปฏิกิริยาแต่เขาค่อย ๆ รู้ตัว ยัยจั๋วซือหราน ทำไมยัยเด็กนี้ไม่ยอมแพ้สักที นางไม่กลัวสิ่งใดเลยจริง ๆ นางไม่กลัวอะไรเลยหรือความไม่เกรงกลัวของนางจะทำให้คู่ต่อสู้ของนางหวาดกลัวได้อย่างง่ายดายเพราะเรื่องต่าง ๆ มักจะเป็นเช่นนี้ เมื่อเจ้าไม่กลัวสิ่งใด ๆ ศัตรูของเจ้าจะเริ่มกลัวแทนยิ่ง จั๋วซือหราน แบบนี้ เขาจะเอาชนะอุปสรรคใด ๆ เพียงเพื่อแข่งขันกับ ตระกูลเหยียน ของพวกเขา ในมุมมองของเหยียนชาง เขามักรู้สึกมากขึ้นเรื่อย ๆ ว่า นางจะต้องชนะการแข่งขันครั้งนั้นยิ่งนางแข็งแกร่งเท่าไร นางจะยิ่งไม่กลัวมากขึ้นเท่านั้น เขามักจะอ่อนแอมากขึ้นเท่านั้น และยิ่งหวาดกลัวมากขึ้นเท่านั้นเป็นเพราะความกลัวนี้เองที่ทำให้เหยียนชางเสียสติในชั่วขณะเขาระงับอารมณ์และควบคุมน้ำเสียงไม่ได้ เขาบอกซือหลี่ตันติ่ง"ท่าน ท่านจะให้นางมาสอบแพทย์กลั่นยาได้อย่างไร ใคร ๆ ก็สอบแพทย์กลั่นยาได้เลยหรือ ยัยเด็กเย่อหยิ่ง นางคิดว่าตัวเองใช้ทักษะการแพทย์เป็นบ้าง และนางจะเก่งมาก ”ซือหลี่ฉือหางที่อยู่ด้านข้างกายเริ่มโกรธ และเสียงที่อ่อ

Latest chapter

  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 1279

    พอได้ยินคำนี้ของจั๋วหวาย สีหน้าจั๋วซือหรานก็ชะงักไปพอนึกถึงจั๋วเฮ่ออิงที่สีหน้าเปลี่ยนแล้วรีบร้อนออกไปวันนั้นนางรู้สึกว่าการคาดเดาของเสี่ยวหวาย...ดูสมเหตุสมผลดียังไม่ต้องพูดถึงว่าจั๋วเฮ่ออิงไปหาเซี่ยอวิ๋นซี แล้วจะมีผลลัพธ์อย่างไรจั๋วซือหรานแม้จะไม่ใช่เจ้าของร่างเดิม แต่ก็มีความรู้สึกรักอย่างจริงใจต่อเซี่ยอวิ๋นซีด้วยความเข้าใจต่อตัวเซี่ยอวิ๋นซีของนาง จั๋วซือหรานรู้สึกว่า เซี่ยอวิ๋นซีเป็นคนที่อ่อนนอกแข็งในการที่นางสามารถเลี้ยงลูกสองคนจนโตได้เพียงลำพังก็มองออกได้ไม่ยากคนแบบนี้ ในสถานการณ์ปกติขีดจำกัดจะชัดเจนมากนางจะอ่อนโยนกับคนของตนเอง แต่มีนิสัยที่แข็งกร้าวในสายตาไม่อาจทนเห็นสิ่งไม่ดีได้ ยอมหักแต่ไม่ยอมงอตอนที่นางรักจั๋วเฮ่ออิงก็คือรักจริงๆ ถ้าหากไม่มีลูกน้อยสองคนคอยรั้งนางไว้ นางคงฆ่าตัวตายตามจั๋วเฮ่ออิงไปตั้งแต่ตอนรู้ว่าเขาตายแล้วแต่พอมีตัวตนอย่างสุ่ยจิ้งหลาน เซี่ยอวิ๋นซีก็ไม่แน่ว่าจะอดทนต่อจั๋วเฮ่ออิงได้อีกตอนที่ไม่รัก ก็อาจจะไม่รักได้จริงๆแต่แล้วทำไมล่ะ แค่จั๋วเฮ่ออิงไปบอกเรื่องของนาง ด้วยนิสัยของเซี่ยอวิ๋นซี ต่อให้ฟ้าถล่มก็คงจะรีบมาหาอยู่ดีจั๋วซือหรานถอนห

  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 1278

    ตอนนี้ จั๋วซือหรานเห็นหน้าตนเองในน้ำได้เห็นสภาพของตนเองชัดๆ ดีขึ้นมากแล้วจริงๆแต่นางยังรู้สึกได้อย่างชัดเจน ว่าสภาพของตนเองก็กำลังแย่ลงอย่างรวดเร็วดังนั้น ตนเองตอนนี้...อยู่ห่างจากชายคนนั้นไม่ได้จริงๆถ้าแค่ห่างจากชายคนนั้น ตนเองก็อาจจะทนต่อไปไม่ไหว แล้วกลับไปอยู่ในสภาพก่อนหน้านี้อีก นั่นมันอันตรายเอามากๆส่วนตนเองถ้าหากยังตามชายคนนี้อยู่ตลอดล่ะก็...จั๋วซือหรานขมวดคิ้ว ในใจก็อดคิดไม่ได้ ตอนนี้ตนเองอย่างน้อยยังพอทนไหว ไม่ต้องตัวติดกับเขาตลอดเวลาก็ได้แต่...นี่มันเพิ่งจะเริ่มต้นนะจั๋วซือหรานเป็นคนที่เตรียมพร้อมล่วงหน้าอยู่เสมอ นางยกมือขึ้นลูบท้องน้อยเบาๆในใจยังคิดขึ้นอย่างกังวล ถ้าหากอายุครรภ์มากขึ้น สถานการณ์แบบนี้ก็น่าจะยิ่งรุนแรงขึ้นด้วยถึงตอนนั้นหากตนเองต้องอยู่กับเขาตลอดเวลาถึงจะรักษาสภาพให้คงที่ได้ล่ะ?ถ้าตนเองเป็นอย่างที่เขาบอกล่ะ ที่ว่าต้องการแสงแดดแล้วในเวลากลางวันแบบนั้น...คนนึงต้องการแสงแดด แต่อีกคนกลับถูกแสงแดดทำร้ายสถานการณ์แบบนี้ มันเป็นสถานการณ์ที่กลืนไม่เข้าคายไม่ออกจริงๆนางผ่อนคลายลงหน่อย แต่เขากลับทรมานขึ้นมาถ้าพอนางทรมาน เขาถึงจะผ่อนคลายลงมาได

  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 1277

    ขณะที่ตระหนักถึงจุดนี้ จั๋วซือหรานก็ตระหนักได้ถึงอีกจุดหนึ่งถ้าบอกว่า ตนเองหลังจากนี้อยู่ห่างเขาไม่ได้ แต่หลังจากนี้ยังต้องการแสงแดดล่ะก็เช่นนั้นก็เท่ากับว่า...นางมองชายหนุ่มที่โผล่หัวออกมาจากผ้าห่ม เห็นอักขระคำสาปประหลาดบนหน้าตาคนสมองทื่อนี้ ปรากฏขึ้นมาต่อเนื่อง หายไป แล้วก็โผล่ออกมารักษาแผลไฟไหม้...จั๋วซือหรานจึงเดินเข้าไปสองก้าวอย่างอดไม่อยู่ พอมาถึงตรงหน้าเขา ก็ยกมือขึ้นมาเบาๆเขาไม่ขยับ จ้องมองนางนิ่งจั๋วซือหรานแตะลงไปบนหน้าเขาเบาๆ ราวกับว่าแค่สัมผัสเพียงเล็กน้อยเท่านั้นนางขมวดคิ้วแน่นเขามองนางเงียบๆจั๋วซือหรานนิ่งงันไปครู่หนึ่ง จึงเอ่ยเสียงต่ำขึ้นว่า "พลังวิญญาณของข้า ช่วยอะไรท่านไม่ได้แล้วหรือ"น่าจะเพราะตนเองตั้งท้องจนงงๆ ไปแล้วจริงๆ หรืออาจเป็นเพราะไม่พอใจเจ้าคนสมองมีปัญหาตรงหน้านี้ ดังนั้นจึงไม่ได้สนใจอะไรมากกระทั่งถึงตอนนี้ จั๋วซือหรานจึงเพิ่งรู้สึกตัวพลังของตนเองก่อนหน้านี้ ทั้งๆ ที่สามารถบรรเทาอาการทำร้ายตนเองของเฟิงเหยียนได้แท้ๆ แล้วยังทำให้เขาต้านทานแสงแดดได้ระดับหนึ่งอีกด้วยแต่ตอนนี้ทำไมเหมือน...มันไม่มีประโยชน์แล้วล่ะ?ทว่าเฟิงเหยียน ดูเหมือนจะ

  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 1276

    ขณะที่จั๋วซือหรานขมวดคิ้วคิดว่าตัวเองกำลังทำอะไรอยู่ ทำไมถึงมุดเข้ามาด้วยกัน...กับเขาในผ้าห่มที่มืดสนิทนี้ ก็ได้ยินเสียงหัวเราะทุ้มๆ ดังขึ้นเสียงหัวเราะทุ้มต่ำ ในผ้าห่มมืดๆ ภายใต้ระยะใกล้ชิดที่แทบจะเบียดกันของคนทั้งสองนี้ จึงยิ่งชัดเจนเป็นพิเศษ...กระทั่งความหยาบกร้านแหบพร่าเล็กๆ ในน้ำเสียง ก็ยังชัดเจน ชัดเจนเอามากๆ!ยิ่งไปกว่านั้น เพราะความใกล้ชิดมากๆ ยังมีกระแสลมแผ่วๆ ที่เหมือนจะพัดผ่านข้างหูนางไปเหมือนกับแม้กระทั่งตอนที่เขาหัวเราะเสียงทุ้ม การสั่นสะเทือนของทรวงอก ตนเองก็ยังสัมผัสได้อย่างชัดเจนด้วย!จั๋วซือหรานกัดริมฝีปากเบาๆจึงได้ยินเสียงของตาคนสมองทื่อ ยังคงเป็นเส้นเสียงหยาบๆ ที่ชวนหลงใหลนั่นอยู่บอกกับนางว่า "นี่เจ้ากำลัง...เชื้อเชิญข้าหรือ?"จั๋วซือหรานเพิ่งตื่นขึ้นจากความฝันที่อยู่กับคนรัก ถือว่าถูกกวนให้ตื่นก็ได้ มีอารมณ์ขุ่นเคืองอยู่บ้างก็เรื่องปกติดังนั้นนางจึงไม่มีเวลามาปรับอารมณ์กับตาคนสมองทื่อนี่จั๋วซือหรานเอ่ยขึ้นว่า "ข้าควรจะมองท่านถูกเผาตายทั้งเป็นไปซะ"ตาสมองทื่อนี่ก็ไม่รู้ทำไมผ่านไปคืนนึงนิสัยก็เปลี่ยนไป จู่ๆ อารมณ์ก็ดีขึ้นมาเสียอย่างนั้นบางทีคงเพร

  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 1275

    จั๋วซือหรานได้ยินอารมณ์เจ็บปวดจากในน้ำเสียงเขา และได้ยินถึงอารมณ์เสียใจด้วยอันที่จริงสำหรับสำหรับอาการข้าหึงตัวข้าเองที่แปลกใหม่นี้ จั๋วซือหรานก็รู้สึกจนใจอยู่หน่อยๆ แล้วยังดูน่าขำอีกด้วยผลลัพธ์คือพอแหงนตามอง สีหน้ารอยยิ้มบนหน้าจั๋วซือหรานเหล่านั้น ก็แข็งทื่อไปทันทีอารมณ์ที่เรียกว่าความกังวล ก่อตัวขึ้นมาในดวงตามิน่าในน้ำเสียงเขาถึงมีความเจ็บปวดอยู่ตอนนี้ อักขระคำสาปปรากฏขึ้นบนตัวเขาแล้ว แสดงรูปลักษณ์ที่ประหลาดออกมา"นี่คือ..." จั๋วซือหรานยกมือมากำข้อมือเขาแต่นี่ไม่ใช่ความจริง เป็นแค่เขตแดนจิตใต้สำนึกบางอย่าง เป็นแค่ในความฝันเท่านั้น แน่นอนว่าจับชีพจรเขาไม่ได้"ไม่เป็นไร" บนสีหน้าชายหนุ่มแม้จะเต็มไปด้วยอักขระคำสาปประหลาด สายตาที่ก้มลงมามองนางกลับดูอบอุ่น "ไม่เป็นไร"เหมือนกลัวว่านางจะกังวล เขาจึงบอกว่าไม่เป็นไรขึ้นมาอีกครั้งจั๋วซือหรานตระหนักได้ถึงอะไรบางอย่าง ขมวดคิ้วขึ้นมานิ้วโป้งของชายหนุ่มกดลงเบาๆ ที่หว่างคิ้วนาง นวดๆ เหมือนติดจะนวดคลายสีหน้าอารมณ์ที่ยุ่งเหยิงเหล่านั้นออก"พักผ่อนให้ดี กินข้าวให้ดีด้วย" เขาเอ่ยขึ้นจั๋วซือหรานเบ้ปากเบาๆ เหลือบมองเขา "ถ้าหากเจ้าส

  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 1274

    จั๋วซือหรานไม่ส่งเสียง ครู่เดียว จึงถอนใจเบาๆ เอ่ยขึ้นว่า "อันที่จริง ข้าเองก็ไม่ได้ยืนหยัดขนาดนั้น แค่ตอนนี้ยังไม่ถึงเวลาจนตรอกจริงๆ ข้าก็ยังไม่อยากละทิ้งทั้งที่ยังไม่ได้ลอง"เฟิงเหยียนกอดนาง ในสีหน้ามีความเจ็บปวดเสียงยิ่งแหบพร่า เอ่ยขึ้นว่า "ข้าไม่อยากให้เจ้าต้องมาเหยียบซ้ำรอยมารดาของข้า และข้าก็ไม่อยากให้ลูกของเราเติบโตมาเป็นเหมือนข้าด้วย หากเรื่องนี้ ไม่มีวิธีอื่นแก้ไขได้นอกจากปล่อยให้มีฝันร้ายแบบนี้ต่อไปเรื่อยๆ ...ข้าก็หวังให้ฝันร้ายนี้หยุดลงที่ตัวข้าพอ"เสียงของชายหนุ่มแหบพร่ามาก ในน้ำเสียง...ก็มีความสิ้นหวังที่ปิดไว้ไม่มิดอยู่ ทิ่มแทงเข้ามาที่ใจของจั๋วซือหรานต้องเป็นแบบไหนกันนะ...ถึงบีบคั้นให้คนดีๆ ที่หยิ่งทะนงและยอดเยี่ยมคนหนึ่งตกอยู่ในสภาพนี้...ราวกับสัตว์ที่ถูกกักขังไว้จั๋วซือหรานมองเขา ครู่ต่อมา ก็ถอนหายใจเบาๆเอ่ยขึ้นว่า "จริงๆ แล้ว...เดิมทีข้าเองก็ยังไม่ค่อยแน่ใจ การวางแผนและความคิดของข้าจึงไม่ได้เล่าใด้คนอื่นฟัง"เฟิงเหยียนไม่พูดอะไร แค่แหงนตามองนางเงียบๆจั๋วซือหรานยิ้มๆ "ข้ารู้สึกจริงๆ ว่าไม่แน่ข้าอาจมีวิธี แม้ตอนนี้ข้ายังพูดถึงเหตุผลออกมาให้ชัดเจนไม่ได้ แต

  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 1273

    แม้จะบอกว่าเป็นความฝัน แต่อันที่จริงจั๋วซือหรานก็ค่อยๆ เข้าใจแล้ว ว่าเพราะอะไรหลังจากฝันถึงเขาครั้งที่แล้วจนมาถึงครั้งนี้ นานมากแล้วที่ไม่ได้ฝันถึงเขาอีกพอมาคิดอย่างละเอียด เหมือนว่าตอนฝันถึงเขาครั้งที่แล้ว จะเป็นหลังจากที่นางมีสัมพันธ์ทางกายกับเขาดังนั้นจั๋วซือหรานจึงค่อยๆ เข้าใจ บางทีน่าจะเป็นเพราะสาเหตุนี้การดูดหยางบำรุงหยินของนางก็ดูดซับมาจนพอเข้าใจแล้ว เหมือนว่าพอดูดซับมาถึงระดับหนึ่ง ก็จะเกิด...ถ้าจะพูดว่าเป็นความฝัน สู้บอกว่าเป็นการสื่อสารทางจิตใต้สำนึกกับความทรงจำของเฟิงเหยียนส่วนที่ถูกผนึกไปจะดีกว่า?และไม่ว่าจะ 'ความฝัน' ครั้งที่แล้ว หรือว่าครั้งนี้ก็มองออกได้ไม่ยากเฟิงเหยียนน่าจะเข้าใจต่อสถานการณ์อยู่ ดังนั้นบางทีจิตใต้สำนึกเขายังคงอยู่มาตลอด เพียงแต่ถูกสมองทื่อๆ นี่กดเอาไว้ หรือบางทีคงถูกสภาผู้อาวุโสลงมือสะกดเอาไว้ไม่แน่ว่า อาจจะต้องมีชนวนเหตุบางอย่าง ถึงจะสามารถปลุกขึ้นมาได้จั๋วซือหรานอยากจะรู้ชนวนเหตุนั้นว่าคืออะไรกันแน่"ต้องทำยังไงเจ้าถึงจะดีขึ้นมา?" จั๋วซือหรานถามแต่เฟิงเหยียนกลับเหมือนจะจำจุดสำคัญนั้นไม่ได้แล้ว ขมวดคิ้ว สีหน้าดูเหมือนขมขื่น เหมือนว

  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 1272

    ในห้วงฝันนางมองมือตัวเอง สับสนไปหมดทั้งตัว เหมือนยังตั้งตัวกลับมาไม่ได้เพราะนางถ้าไม่หลับลึก ก็จะเอาจิตใต้สำนึกส่งเข้าไปในมิติ จึงฝันน้อยครั้งมากดังนั้นตอนที่ดำดิ่งสู่ห้วงฝัน นางยังรู้สึกไม่คุ้นอยู่หน่อยๆ มองมือตนเอง รู้สึกไม่คอ่ยเป็นจริงสักเท่าไรวินาทีต่อมา มือข้างหนึ่งก็ทาบมาบนมือของนางมือข้างนั้น ข้อต่อกระดูกชัดเจน นิ้วเรียวยาว เล็บตัดมาดูสะอาดสะอ้าน ผิวหนังขาวซีดเย็นเหมือนไม่โดนแดดมานานสายตาของจั๋วซือหรานจ้องนิ่งอยู่บนมือข้างนี้ จากนั้นจึงค่อยๆ ยกขึ้นมามองไปยังเจ้าของมือนี้ ใบหน้าหล่อเหลาไม่มีที่ตินั่นทั้งที่เป็นใบหน้าที่เพิ่งเห็นไปก่อนหลับตาลงเมื่อครู่แท้ๆ แต่ตอนนี้พอมอง กลับยังคงทำให้นางรู้สึกเหมือนไม่เจอกันเสียนานสายตาของชายหนุ่มอบอุ่น ด้านในมีความรู้สึกอารมณ์เหมือนความเจ็บปวดแฝงอยู่"จั๋วเสียวจิ่ว..." เขาก้มหน้าลงเรียกนางจั๋วซือหรานมองเขา จากนั้นจึงออกแรงบีบมือเขา และน่าจะเพราะออกแรงมากเกินไปปลายเล็บจึงเหมือนจิกลงไปในเนื้อเขาฝันถึงเขาอีกแล้วจั๋วซือหรานมีปฏิกิริยาขึ้นมา ครั้งนี้เหมือนกับครั้งนั้นเลย ฝันถึงเฟิงเหยียนยิ่งไปกว่านั้นยังดูเหมือนจริงเป็นพิ

  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 1271

    กลางดึก จั๋วซือหรานกัดริมฝีปาก กอดหมอน เดินเท้าเปล่าจากห้องด้านนอกเข้าไปยังห้องด้านใน!คิ้วงามของนางขมวดแน่น สีหน้าที่มีสีเลือดฟื้นมาบ้างแล้ว ตอนนี้กลับขาวซีดขึ้นมาในใจนางเองก็พูดไม่ออก เดิมทีตอนที่หลับก็ยังดีอยู่ พอกลางดึกจู่ๆ ก็ไม่ไหวขึ้นมาเสียแล้วหน้าอกปั่นป่วนอย่างรุนแรง เป็นความรู้สึกทรมานแบบที่นางผ่านมาก่อนหน้าไม่ผิดเพี้ยนถ้าบอกว่าคนคนนี้ไม่เข้ามาก็ว่าไปอย่าง แต่นี่ก็เข้ามาแล้วว่ากันว่าพอเคยสบายแล้ว จะยากที่จะกลับไปลำบากตอนนี้จะให้นางปล่อยชายหนุ่มที่เหมือนกับ 'ยาบำรุงครรภ์' นี้ไว้ข้างในเฉยๆ โดยไม่ใช้ แล้วต้องมานั่งทนกระอักเลือดต่อล่ะก็...ขอโทษด้วย สกุลจั๋วอย่างนางไม่ใช่คนประเภทนั้นนางเข้าใจแล้ว ก่อนที่จะหลับไปเมื่อคืนนี้ ตอนที่เฟิงเหยียนบอกว่าจะนอนด้านนอก ริมฝีปากที่เม้มแน่นนั้นกำลังอดกลั้นเรื่องอะไรน่าจะคิดไว้แล้วว่าจะเกิดเรื่องแบบนี้สารเลว!จั๋วซือหรานครั่นเนื้อครั่นตัวตื่นมากลางดึก ต่อให้เป็นคนที่มีสติเยือกเย็นแค่ไหน ก็ยังมีอาการหงุดหงิดงัวเงียหลังตื่นนอนนางเดินเท้าเปล่าเข้าไปห้องด้านใน อากาศในหุบเขาตอนกลางคืนเย็นมากนางสวมแค่เสื้อบางๆ ชุดหนึ่ง ทั้งตัวเย

Explore and read good novels for free
Free access to a vast number of good novels on GoodNovel app. Download the books you like and read anywhere & anytime.
Read books for free on the app
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status