แชร์

บทที่ 818

ผู้เขียน: หูเทียนเสี่ยว
"ประชาสัมพันธ์..."ฮั่วจือโจวไม่อยากจะเชื่อ "เจ้าคงไม่ได้คิดจะใช้เรื่องนี้เป็นเงื่อนไขไปชวนตระกูลอื่นอีกใช่ไหม?"

จั๋วซือหรานยิ้มตอบ "ถึงตอนนั้นค่อยว่ากัน แต่ก็ไม่ใช่ว่าจะไม่ได้นี่นา"

ถึงอย่างไรสิ่งนี้สำหรับนางแล้วคือเรื่องเล็กน้อยมาก

......

ไม่ถึงสองวัน ก็มีข่าวแพร่กระจายไปทั่วทั้งเมืองหลวง

"ได้ยินว่าแม่นางจั๋วจิ่วมีความสัมพันธ์ที่ไม่เลวกับตระกูลฮั่ว แล้วนี่ยังไปร่วมมือกันด้วย!"

"ตระกูลฮั่วบ้าไปแล้วหรือ?! จั๋วจิ่วตอนนี้ไม่ใช่เป็นก้อนขี้หมาหรือไรกัน? ใครก็กลัวที่จะไปเกลือกกลั้วด้วย พวกเขาคิดอะไรกัน?"

"ได้ยินว่าแม่นางจั๋วจิ่วจะไปหลอมยาให้ตระกูลฮั่วทุกเดือน ยาลูกกลอนกู้หยวนแปดเม็ดเลยนะ!"

"ให้ตายเถอะ! นางเอาชีวิตมาหลอมเลยไหมนั่น? นางไม่ใช่เพิ่งจะสอบนักกลั่นยาหรือ? หลอกกันหรือเปล่า?"

"ถ้าเป็นพวกต้มตุ๋นล่ะก็ ตระกูลฮั่วเองก็ไม่ใช่คนโง่ ถึงจะยอมถูกนางหลอกนะ? ตระกูลฮั่วถ้าร่วมมือกับนางจริง ในบางระดับก็เหมือนไปผิดใจกับตระกูลอื่นแล้ว พวกเขาจะใช้ของปลอมมาผดใจกับตระกูลต่างๆ ไหม?"

ข่าวเหล่านี้ ค่อยๆ กระจายตัวออกไป

มีบางตระกูลเริ่มคิดจะทำเรื่องโง่ๆ ขึ้นแล้ว

และยังมีอีกข่าวหนึ่งที่กำลังแพร่
อ่านหนังสือเล่มนี้ต่อได้ฟรี
สแกนรหัสเพื่อดาวน์โหลดแอป
บทที่ถูกล็อก

บทล่าสุด

  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 1411

    "ข้ารู้สึกว่า...น่าสนใจอยู่" จั๋วซือหรานเอ่ยขึ้นเฟิ่งหลานอารมณ์ยังดูกระวนกระวาย เดิมทีนางคิดว่าจะได้ยินคำปฏิเสธบ้างจากปากใต้เท้าคนนี้แต่จะอย่างไรก็คิดไม่ถึงเลยว่าจะได้ยินคำวิจารณ์อย่าง 'น่าสนใจ' จากปากของนางนี่ทำให้อารมณ์ของนางเดิมทีที่กระวนกระวายอยู่แล้ว ยิ่งกระวนกระวายหนักขึ้นไปอีกแล้ว...มันหมายความว่าอย่างไร? ไม่มีการชี้นำอะไรเลยน่าสนใจนี่มันดีหรือไม่ดีกันแน่? ปฏิเสธหรือว่าตกลงกัน?เฟิ่งหลานชั่วขณะหนึ่งรู้สึกว่าหัวในเต้นขึ้นมาถึงคอหอยแล้วจากนั้นก็เห็นจั๋วซือหรานพยักหน้า "ได้ เช่นนั้นก็ตามมาแล้วกัน"ดวงตาของเฟิ่งหลานถลึงเบิกกว้าง ประกายในดวงตาทั้งหมดล้วนเป็นความตกตะลึงยินดี"ขอบคุณ! ขอบคุณใต้เท้า! ขอบคุณใต้เท้า!" เฟิ่งหลานรีบร้อนเอ่ยขึ้น "ข้าจะซื่อสัตย์ต่อใต้เท้าอย่างแน่นอน!"จั๋วซือหรานมองนาง "พ่อของเจ้าไม่ใช่ป่วยหนักหรือ?"เฟิ่งหลานตกตะลึง จากนั้นก็หยักหน้างึมงำ "...เจ้าค่ะ"เฟิ่งหลานเดิมทีคิดว่าจั๋วซือหรานที่เอ่ยถึงเรื่องนี้ คิดจะแสดงท่าทีว่าสนใจแค่นางนะ ไม่ได้สนใจพ่อของนางแต่พอคิดดูอีกที ก็เหมือนว่า...จะไม่ใช่อะไรแบบนั้นเพราะใต้เท้าก็ไม่ได้ปล่อยทิ้งพวกคนแก่อ

  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 1410

    ปันอวิ๋นเอ่ยขึ้น "ข้าไม่ใช่ว่ารู้จัก ข้าแค่เคยได้ยินชื่อสกุลนี้ แค่คุ้นหูเท่านั้น"ปันอวิ๋นพูดต่อ มองไปทางเฟิ่งหลาน "เจ้าคือคนจากดินแดนทางใต้สินะ"เฟิ่งหลานพยักหน้าจั๋วซือหรานถามปันอวิ๋น ""นี่เป็นสกุลที่มีแค่ในดินแดนทางใต้ใช่ไหม?"ประมาณนั้น" ปันอวิ๋นพูดถึงตรงนี้ก็ชะงักไปเล็กน้อย จากนั้นจึงเอ่ยต่อว่า "ดินแดนทางใต้ไม่ใช่แค่จักรพรรดิที่มีอำนาจ มหาปุโรหิตเองก็มี ตระกูลของมหาปุโรหิตรับผิดชอบเรื่องพิธีกรรม ตำแหน่งฐานะสูงส่ง และตระกูลของมหาปุโรหิต ก็มีสกุลว่าเฟิ่ง"จั๋วซือหรานพอได้ยินก็เลิกคิ้ว ว้าวคิดไม่ถึงเลย ว่าจะได้คนสำคัญแบบนี้มา"ดังนั้น เจ้าคือคนจากตระกูลของมหาปุโรหิตดินแดนทางใต้หรือ?" จั๋วซือหรานมองไปทางเฟิ่งหลานเฟิ่งหลานคิดไม่ถึงว่าชายหนุ่มที่หน้าตาเย้ายวนนี่จะรู้เรื่องนี้ แต่ถึงยังไงนางก็ตั้งใจจะบอกกับจั๋วซือหรานอยู่แล้ว ดังนั้นจึงไม่มีอะไรเฟิ่งหลานพยักหน้าตอบ "ใช่ ข้าคือคนจากตระกูลมหาปุโรหิต"และตอนนี้เอง ปันอวิ๋นก็พูดต่อว่า "นางไม่ใช่แค่คนของตระกูลมหาปุโรหิต แต่นางคือคนจากราชวงศ์มหาปุโรหิต"พอได้ยินคำนี้ เฟิงหลานก็ม่านตาหดลง เบิกตาโพลงมองไปทางปันอวิ๋นปันอวิ๋นยื่น

  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 1409

    พอได้ยินคำนี้ เฟิงเหยียนก็หันมามองนาง สายตายากจะอธิบายปันอวิ๋นกับชิ่งหมิงเองก็มองนาง เหมือนเดาได้ถึงคำตอบแล้ว"คงไม่ใช่คำตอบที่ข้าคิดหรอกกระมัง?" ปันอวิ๋นถามขึ้นมาคำหนึ่งจั๋วซือหรานยิ้มพลางเดินไปด้านหน้า "ทำอะไรน่ะพวกเจ้า พวกชายหนุ่มไม่ใช่ว่าชอบไปกันหรือ? พวกเจ้านี่แปลกจริง! แล้วก็นะ กับข้าวที่นั่นมันไม่อร่อยรึไงกัน?"เฟิ่งหลานเดิมทียังไม่รู้ว่าใต้เท้าจะพานางไปที่ไหนจนกระทั่ง มองเห็นทางเข้าถนนบุปผา ได้กลิ่นหอมประทินลอยเข้ามาในอากาศนางจึงเพิ่งเข้าใจว่าเพราะอะไรสีหน้าของสามคนนี้ก่อนหน้าถึงยากจะอธิบายนักถึงยังไง...มีหญิงสาวพาชายหนุ่มมาเที่ยวในถนนบุปผาโรงคณิกาเสียที่ไหนกัน...จั๋วซือหรานเดินพาพวกเขาเข้าไปอย่างคุ้นที่คุ้นทางแม่เล้าพอเห็นนางเข้ามา ก็เหมือนเห็นตัวกาลกีณีขึ้นมาให้ตายเถอะ! ทำไมถึงได้มาอีกแล้วล่ะ!พอออกไปก็ถูกตั๋วทองโบกเข้าใส่หน้าสีหน้าที่ดูทุกข์ระทมแต่เดิมบนหน้าแม่เล้า ก็เปลี่ยนเป็นความกระตือรือร้นยินดีขึ้นมาทันที"ใต้เท้ามาอีกแล้วหรือ! ยินดีต้อนรับจริงๆ!"จั๋วซือหรานโบกมือเอ่ยขึ้น "ห้องหรูที่เงียบๆ สุราอาหารเลิศรส ส่วนที่เหลือเป็นรางวัลของเจ้า"แม่เล้าพอ

  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 1408

    เหล่าทาสอาชญากรที่ถูกล่ามด้วยโซ่เหล็กและขังอยู่ในกรงเหล็กเหล่านั้นเดิมทีก็รู้สึกสิ้นหวังมากแล้ว แววตาเต็มไปด้วยความรู้สึกด้านชากระทั่งยังคิดว่าคงต้องตายแน่แล้วตอนที่ได้ยินคำพูดของจั๋วซือหราน พวกเขาก็อดมองขึ้นมาด้วยดวงตาเป็นประกายไม่ได้ แต่ก็เป็นแค่ชั่วระยะสั้นนิดเดียวเท่านั้น และจางหายไปอย่างรวดเร็วจั๋วซือหรานกำชับเหล่านี้เสร็จ ก็จ่ายเงินแล้วออกไปคนหาข่าวคนนั้นตามอยู่ด้านหลังนาง แต่ก็เงียบมาตลอด ราวกับว่าตั้งแต่เมื่อครู่นี้ นางก็คอยสังเกตพฤติกรรมของจั๋วซือหรานอยู่ตลอดเดินห่างออกมาระยะหนึ่ง คนหาข่าวจึงถามจั๋วซือหรานขึ้นเสียงต่ำคำหนึ่ง "ทำไมท่านต้องเอาคนแก่อ่อนแอพวกนั้นไปด้วยหรือ?""อื๋อ?" จั๋วซือหรานมองนาง "เจ้าถามข้าหรือ? เจ้าคิดว่าข้าเทำไปเพราะอะไรล่ะ?"คนหาข่าวคนนี้อันที่จริงก็ไม่ค่อยแน่ใจ นางแค่รู้สึกว่า...ใต้เท้าคนนี้ แม้จะเก่งกาจ แต่ก็เหมือนว่าจะไม่ใช่คนเลวดังนั้นนางจึงตอบว่า "ข้ารู้สึกว่าใต้เท้าสงสารพวกเขา ดังนั้นจึงจะพาไปด้วยกัน"จั๋วซือหรานพอได้ยินก็หัวเราะ "คิดไม่ถึงเลย ว่าภาพลักษณ์ของข้าในใจเจ้าจะยิ่งใหญ่ขนาดนี้?"คนหาข่าวรู้สึกเขินหน่อยๆ ไม่พูดอะไรจั๋วซ

  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 1407

    จั๋วซือหรานเห็นท่าทางนางเป็นแบบนี้ กลับหัวเราะขึ้นมาไม่มีความคิดจะทำอะไรนางทั้งนั้นพอหันหน้าไปก็บอกกับเฟิงเหยียนกับปันอวิ๋นว่า "ดังนั้นที่เขาอยู่ในซื่อหนาน คงไม่ใช่เพราะพวกเขามีสถานการณ์เดียวกับพวกเจ้าหรอกนะ?"เพราะถูกสภาผู้อาวุโสตามล่าหรือ?จั๋วซือหรานคาดเดาแบบนี้แต่ปันอวิ๋นกับเฟิงเหยียนกลับเผย...สีหน้าหนึ่งออกมาจั๋วซือหรานเองก็บอกไม่ถูกว่าสีหน้าแบบนี้ควรพรรณาว่าอะไรดี ถ้าพูดขึ้นมาก็น่าจะเป็นค่อนข้างดูถูกคนคนนั้นกระมังไม่สิ บางทีถ้าเทียบกับบอกว่าดูถูกคนนั้น สู้บอกว่าดูถูกตัวตนเต่าหลังวารี...ที่คนคนนั้นแบกรับอยู่ดีกว่า?จั๋วซือหรานฟังออกถึงความหมายแฝงที่อยู่ด้านใน เอ่ยขึ้นอย่างจนใจ "เจ้าสองคนคิดว่าหงส์แดงกับกู่วิญญาณเป็นของดีนักหรือไรกัน!"ถ้าเป็นของที่ดีจริง พวกเขาสองคนคงไม่ถูกจำกัดแบบตอนนี้หรอกในสภาพที่ไม่ค่อยต่างกัน ยังจะดูถูกว่ากุญแจของคนอื่นระดับสูงไม่พออีกรึ?จั๋วซือหรานเกือบจะหัวเราะออกมาเพราะโมโหสองคนนี้แล้วปันอวิ๋นหันสายตาไปทางอื่นเฟิงเหยียนกระแอมออกมาเบาๆ พูดเลี่ยงไปเรื่องอื่นว่า "เขารู้ว่าเราอยู่ที่นี่ ถ้าไม่หนี ก็คงจะมาหาพวกเราเอง บางทีอาจจะแอบสังเกตอยู

  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 1406

    จั๋วซือหรานยื่นมือไปทางเฟิงเหยียนเฟิงเหยียนก็วางกระบี่ประจำตระกูลเข้ามาในมือนางอย่างรู้กันกระบี่รูปร่างโบราณถูกนางกุมไว้ในมือ นางหันด้ามกระบี่ไปยังคนผู้นี้คนผู้นี้ขมวดคิ้ว ไม่ขยับตัวไปพักหนึ่งครู่หนึ่งจึงยื่นมือออกมา วางลงไปบนด้ามกระบี่เล่มนี้ชักไม่ออกเลย เขาออกแรงจริงเล็กน้อย!ซี๊ด...ฝ่ามือมีความเจ็บปวดจากการแผดเผาอย่างรุนแรงเขาค่อยๆ ลดมือลงเงียบๆ พูดด้วยน้ำเสียงทุ้มต่ำว่า "ดึงไม่ออก ข้ายอมแพ้ ขอตัวก่อน"เขาหมุนตัวจะเดินไปพวกจั๋วซือหรานเองก็ไม่คิดจะไล่ตามจวงชิ่งหมิงเอ่ยขึ้นคำหนึ่ง "กระบี่เล่มนั้นของเขา น่าสนใจอยู่นะ"จั๋วซือหรานเอ่ยขึ้น "กระบี่ประจำตระกูลเล่มหนึ่งน่ะ ต้องน่าสนใจอยู่แล้ว" มุมปากนางยกขึ้นเป็นรอยยิ้มอันที่จริงก่อนหน้านี้นางมองไกลๆ ก็รู้สึกว่ากระบี่เล่มนั้นไม่ธรรมดาเลยแต่เฟิงเหยียนปันอวิ๋นกับชิ่งหมิงเหมือนไม่สังเกตเห็นอะไรเลย นางจึงรู้สึกแค่ว่าตนเองเข้าใจผิดไปจึงอยากจะเข้ามาดูเสียหน่อยจากนั้นตอนที่ชักกระบี่ นางดึงมันออกมา กลิ่นอายที่ทะลักออกมาจากในฝักกระบี่นั่น พวกเขาต้องสังเกตเห็นแล้วแน่ๆกระบี่เล่มนั้นกับกระบี่ประจำตระกูลของเฟิงเหยียนน่าจะเ

บทอื่นๆ
สำรวจและอ่านนวนิยายดีๆ ได้ฟรี
เข้าถึงนวนิยายดีๆ จำนวนมากได้ฟรีบนแอป GoodNovel ดาวน์โหลดหนังสือที่คุณชอบและอ่านได้ทุกที่ทุกเวลา
อ่านหนังสือฟรีบนแอป
สแกนรหัสเพื่ออ่านบนแอป
DMCA.com Protection Status