Share

บทที่ 85

Penulis: หูเทียนเสี่ยว
คนรับใช้ตกตะลึงอยู่ครู่หนึ่ง แต่เขาก็ยังตอบว่า "สอง สองแส้ขอรับ"

จั๋วซือหรานเลิกคิ้ว “ข้าต้องรับตั้งเก้าเส้นโดยไม่มีข้อยกแว้น…” นางพูดเช่นนี้ ดูเหมือนนางไม่ได้ถามจงใจ จากนั้นยกรายการของขวัญในมือขึ้นและพูดต่อ “ข้าได้รับของขวัญแล้ว ฝากขอบคุณผู้อาวุโสทุกท่าน”

คนรับใช้ยังคงตกตะลึงอยู่ เขาถามด้วยน้ำเสียงแผ่วเบาว่า " คุณหนูจิ่ว ท่านไม่... กลับไปหรือ"

เดิมทีเขาได้ยินจากผู้อาวุโสว่า ส่งของขวัญเหล่านี้มาที่นี่ จั๋วซือหรานจะกลับไปที่จวนจั๋ว เพื่อขอบคุณสำหรับการส่งของขวัญแก่นาง ดังนั้นผู้อาวุโสให้พวกเขาเตรียมเกี้ยวนุ่ม ๆ มาที่นี่ เพื่อพา จั๋วซือหรานกลับไป

โดยไม่คาดคิด นางไม่มีความตั้งใจที่จะกลับไปเลยหรือ

จั๋วซือหรานมองคนรับใช้ นางยิ้มและพยักหน้า "ใช่สิ ข้าควรกลับไปที่ไหน ข้าถอนตัวออกจากสำนักงานใหญ่ของตระกูลแล้ว วันนี้คุณท่านลิ่วยังประกาศต่อสาธารณะว่า ข้า จั๋วซือหราน ไม่มีความเกี่ยวข้องกับตระกูลจั๋วอีกต่อไปแล้ว ที่ที่ข้าอยู่ในตอนนี้คือบ้านของข้า ข้าควรไปที่ไหนอีก”

คนรับใช้ดูลำบากใจมาก แต่เขาไม่มีสิทธิ์พูดอะไรมากมาย

คนรับใช้รู้ด้วยว่า เขาพูดอะไรไม่ได้อีกแล้ว หากเขาทำให้นางขุ่นเคือง เขานี่แหล
Lanjutkan membaca buku ini secara gratis
Pindai kode untuk mengunduh Aplikasi
Bab Terkunci

Bab terkait

  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 86

    ซือคงเซี่ยนเลิกคิ้วแล้วพูดว่า "อ้าว อย่างนี้หรือ เช่นนั้น เราไปกันเถอะ"จั๋วซือหรานหัวเราะ จากนั้นนางมองไปที่คนรับใช้ของจวนจั๋วที่อยู่ข้าง ๆ ด้วยสายตาที่แผ่วเบานางสั่ง“ที่นี่ไม่มีอะไรแล้ว พวกเจ้ากลับไปก่อนได้”คนรับใช้ยังอยากพูดอะไรอีก แต่พวกเขาไม่กล้าพูดอะไรเนื่องจากท่านอ๋องเซี่ยนอยู่ที่นี่เขาเพียงพูดด้วยความกลัว“ขอรับ คุณหนูจิ่ว เราจะกลับไปรายงานขอรับ พวกเราจะไม่รบกวนคุณหนูจิ่วอีกแล้วขอรับ”หลังจากคนรับใช้ออกไป จั๋วซือหรานจึงเดินตามซือคงเซี่ยน และออกจากจัวนไปยังพระราชวังซือคงเซี่ยนอดไม่ได้ที่ต้องหัวเราะแล้วพูดว่า " คุณหนูจิ่ว สรุปเจ้าจะไปพบเสด็จย่าเสียจริง หรือเจ้าไปเยี่ยมเสด็จย่าเพื่อรับของขวัญที่ข้าเตรียมให้คุณ หรือว่าเจ้าแค่จะหลบพวกคนที่น่ารำคาญในเมื่อครู่”ดวงตาของจั๋วซือหรานเป็นรูปพระจันทร์เสี้ยวเหมือนพระจันทร์เสี้ยว นางถามว่า "ท่านอ๋องคิดอย่างไร"ซือคงเซี่ยนมองดูนางแล้วพูดว่า "ไม่ว่าอย่างไรก็ตาม การแสดงของคุณหนูจิ่วในวันนี้น่าทึ่งมาก เดิมทีข้าอยากไปที่ชมที่นั่นด้วยตัวเอง แต่ข้ากลัวว่า คนอื่นจะคิดว่าแม้แต่ราชวงศ์ก็ดูถูกเจ้า ข้าจึงต้องอดทน ไม่กล้าไปที่นั่น คุณหนูจิ่วอย

  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 87

    ไม่มีผู้หญิงคนไหนอยากได้ยินคำนี้ แม้ว่านางจะได้รับคำชมในเรื่องความหน้าตาดี แต่คำว่า ความสวยงามเต็มไปด้วยการยั่วยุ ถึงแม้จะเป็นคำชม แต่มักไม่ได้ใช้กับผู้หญิงสูงศักดิ์ในเมืองหลวง แต่ใช้กับผู้หญิงที่ทำอาชีพที่ไม่ดีทันทีที่จั๋วซือหรานได้ยินเสียงนี้ นางก็เดาได้แล้วว่าใครคือเจ้าของเสียงนั้นนางหันกลับไปมองผู้ที่เดินมา ทำท่าเคารพเล็กน้อยและพูด "ขอ คารวะอ๋องชินเพคะ"ซือคงยวี่มองใบหน้าของนาง และดวงตาของเขาก็ค่อย ๆ ร้อนขึ้นว่ากันว่าลูกสาวคนที่เก้าของตระกูลจั๋วมีหน้าตาที่โดดเด่นและมีชื่อเสียงไปทั่วเมืองหลวงแต่ซือคงยวี่ไม่เคยมีโอกาสเจอนาง จนกระทั่งเขาเห็นด้วยตาของเขาในขณะนี้ เขาจึงจะรู้ว่า จั๋วซือหรานสวยขนาดไหนและสะเทือนใจขนาดไหนซือคงเซี่ยนยืนอยู่ข้าง ๆ เขารู้ดีว่าเสด็จพี่คนที่ห้าของเขาเป็นคนเช่นใดเขาขมวดคิ้วเบา ๆ อย่างไม่เหลือร่องรอย แต่ยังคงเรียกด้วยเสียงต่ำว่า "เสด็จพี่ห้า"ซือคงยวี่เหลือบมองเขา ดวงตาของเขาเย็นชาเล็กน้อย "ทำไมเจ้าถึงมาอยู่กับคุณหนูจั๋วจิ่ว "ซือคงเซี่ยนยังไม่ทันตอบ ซือคงยวี่หัวเราะเบา ๆ แล้วพูดว่า "โอ้ เพราะต้องไปรักษาอากรให้เสด็จย่าใช่ไหม"หลังจากจั๋วซือหรานได้

  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 88

    “เจ้าอย่ากังวล แม้ว่าตอนนี้เจ้าไม่สามารถรับทรัพยากรที่ดีของ ตระกูลจั๋วได้อีกต่อไป แต่เจ้าเป็นแพทย์กลั่นยา และเจ้าได้รักษาเสด็จย่า ซึ่งถือได้ว่าเป็นความกรุณาต่อราชวงศ์ ในอนาคต ข้าจะหนุนหลังให้เจ้าเอง"“หม่อมฉันขอบพระคุณท่านอ๋องชินเพคะ” จั๋วซือหรานกล่าวขอบคุณอย่างแผ่วเบา “เช่นนั้นหม่อมฉันขอตัวไปรักษาไทเฮากับท่านอ๋องก่อนเพคะ ดังนั้นหม่อมฉันขอไม่รบกวนท่านอ๋องชินอีกเพคะ”“เอาล่ะ เจ้ากับน้องเจ็ดรีบไปกันเถิด เดี๋ยวข้าจะให้คนเอาของขวัญเหล่านั้นไปที่จวนของเจ้าเอง”ซือคงยวี่พูดไป ดูเหมือนเขานึกถึงอะไรบางอย่าง เขาพูดเสริม"อ้าว ใช่แล้ว อีกไม่กี่วันจะมีงานเลี้ยงในสวนบ้านข้า เจ้ามาร่วมงานด้วยเลย"จั๋วซือหรานไม่รับปากทันที แต่นางพูดแบบขอไปที "หากหม่อมฉันไม่ติดธุระใด ๆ หม่อมฉันจะไปร่วมงานแน่ ๆ เพคะ"หลังจากบอกลาซือคงยวี่แล้ว นางและซือคงเซี่ยนก็เดินไปที่พระราชวังรอยยิ้มที่อยู่บนใบหน้าของจั๋วซือหรานในเมื่อก่อนจางหายไปทันที ดวงตาของนางเต็มไปด้วยความเย็นชา และดูเหมือนนางอารมณ์ไม่ดีซือคงเซี่ยนสังเกตการเปลี่ยนแปลงในชั่วขณะของนาง เขารู้สึกประหลาดใจเล็กน้อย เขาอดไม่ได้ที่ต้องถาม"เป็นอะไรหรือ แม่น

  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 89

    เป็นงานดอกไม้ที่จัดขึ้นเพื่อซือคงยวี่ ความหมายยังไม่ชัดเจนอีกหรือนั่นเป็นงานที่ถูกจัดขึ้นมาเพื่อให้เขาเลือกแม่นางที่สวยงามเขายังไม่ได้เป็นฮ่องเต้เลย แต่ตอนนี้ ลักษณะของงานดอกไม้ดูเหมือนฮ่องเต้คัดนางงามมันน่าหมั่นไส้จริง ๆจั๋วซือหรานขมวดคิ้วแน่น นางไม่ได้พูดอยู่พักหนึ่งซือคงเซี่ยนคิดว่านางโกรธ ดังนั้นเขาจึงแนะนำว่า "ไม่เป็นไร หากเจ้าไม่อยากร่วมงานเช่นนี้ เจ้าไม่ไปก็ได้ ข้าจะหนุนหลังนางเอง"เวลาผ่านไปครู่หนึ่ง จั๋วซือหรานจึงกัดฟันและพูดด้วยความโการธ"ข้าต้องวิจัยสูตรยาเม็ดของซือหลี่ตันติ่งให้เร็วที่สุด"เมื่อซือคงเซี่ยนได้ยินคำพูดนี้ เขาก็อดไม่ได้ที่ต้องตัวสั่น เขาถามอย่างระมัดระวัง “แล้วอย่างไรต่อล่ะ”จากนั้นเขาก็ได้ยินจั๋วซือหรานพูดอย่างโกรธ "อย่างไรต่อหรือ แน่นอนว่ามันจะใช้กับคนที่ควรใช้"จั๋วซือหรานอยากรู้ว่า ถึงเวลานั้น ซือคงยวี่จะยิ้มอย่างลามกเหมือนเมื่อครู่นี้ได้หรือไม่ใกล้จะถึงตำหนักหย่งโซ่วแล้ว จั๋วซือหรานรีบปรับสีหน้าของนางนางทราบดี ทั้งท่านอ๋องเซี่ยนและนางต่างไม่อยากไทเฮารู้เมื่อครู่นี้ ข้างนอกเกิดอะไรขึ้นพระวรกายของไทเฮายังไม่ฟื้น และพลังชีวิตของนางได้รับค

  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 90

    จั๋วซือหรานเหลือบมองซือคงเซี่ยน ซึ่งอยู่ไม่ไกล แล้วกระซิบกับ ไทเฮา ว่า "ไทเฮาอย่ากังวล หม่อมฉันจะช่วยท่านอ๋องเซี่ยนเพคะ"ไทเฮาหัวเราะและค่อย ๆ โบกมือเรียกจั๋วซือหรานจั๋วซือหรานสับสนเล็กน้อย แต่นางก็ยังเข้าไปข้างหน้าไทเฮาโน้มตัวเข้าหูนางแล้วกระซิบว่า " แม่นางจิ่ว เจ้าชอบทายาทของตระกูลเฟิงจริง ๆ ขนาดนั้นหรือ หากเพียงเพราะสัญญาการแต่งงานระหว่างตระกูลต่าง ข้าสามารถออกหน้าออกตาให้"จั๋วซือหรานได้ยินคำพูดนี้ นางรู้สึกสับสนเล็กน้อย ออกหน้าออกตาหรือ ออกหน้าออกตาอะไร นางคิดในเอง เป็นไปได้ไหมว่า ออดหน้าออกตาเพื่อให้นางหมั้นกับเฟิงเหยียนอีกครั้งจั๋วซือหรานไม่ทันพูดต่อ ไทเฮาพูดต่อ“ออกหน้าออกตาเพื่อยกเลิกการหมั้นระหว่างเจ้ากับเฟิงเหยียน จากนั้นเจ้าจะได้อยู่กับเซี่ยนเอ๋อร์ของเรา”จั๋วซือหรานตกตะลึง นางไม่เคยคิดว่า ไทเฮาจะมีความคิดเช่นนี้ แต่ก็ไม่น่าแปลกใจเลยโดยทั่วไป ราชสำนักจะไม่อยู่ร่วมกับตระกูลขุนนางประการแรก ราชวงศ์กลัวตระกูลขุนนางจะมีอำนาจมากเกินไป หากสายเลือดของตระกูลขุนนางแทรกซึมเข้าสู่สายเลือดราชวงศ์ นั่นจะทำให้ราชวงศ์ยิ่งหวาดกลัวมากขึ้นแต่จั๋วซือหรานไม่เหมือนคนอื่น มองจาก

  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 91

    ใบหน้าหล่อเหลาที่ปกคลุมไปด้วยหน้ากากรูปแบบเปลวไฟกำลังขมวดคิ้วอยู่ในขณะนี้ทำไมผู้หญิงคนนี้ถึงวุ่นวายราชวงศ์อยู่เสมอ ตระกูลชนชั้นสูงมีความห่างเหินโดยธรรมชาติและไม่ควรเข้าไปยุ่งเกี่ยวกับการแย่งชิงของราชวงศ์ เพื่ือจะไม่ทำให้ตัวเองเดือดร้อนโดยพื้นฐานแล้วทุกคนในตระกูลชนชั้นสูงต่างก็ตระหนักดีถึงเรื่องนี้ ดังนั้นแม้ว่าพวกเขาได้ติดต่อกับราชวงศ์อย่างลับ ๆ พวกเขาก็ต้องรักษาระยะห่างและความเหมาะสมภายนอกแต่นางกลับเปิดให้คนอื่นเห็นในเวลากลางวันแสกๆ เดินเข้าออกวังแทบจะพักในนั้นเลยในความเป็นจริง หากต้องหาเหตุผลที่ทำไมจั๋วซือหรานถึงเข้าไปเกี่ยวข้องกับราชวงศ์ตั้งแต่แรก นั่นจะเป็น'ผลงาน'ที่จั๋วหรูซินสร้างมาในงานดอกไม้ของพระราชวังเรื่องนี้ไม่ได้เป็นความลับดังนั้นเฟิงเหยียนอาจไม่รู้ว่าทำไมเขาถึงรู้สึกหงุดหงิดอย่างอธิบายไม่ถูกเมื่อรู้ว่านางมีความสัมพันธ์ใกล้ชิดกับราชวงศ์เจ้าหน้าที่ของหน่วยสืบสวนพิเศษมีหน้าที่รับผิดชอบในการติดตามจั๋วซือหรานเท่านั้นและรายงานที่อยู่และการเคลื่อนไหวของนาง พวกเขาไม่ทราบเรื่องต่าง ๆ ของจั๋วซือหรานเพียงแต่เขาสามารถตรวจจับการเปลี่ยนแปลงรัศมีของใต้เท้าได้อย่างชัดเจน

  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 92

    จ้านหลูคิดอยู่พักหนึ่ง เขาอดไม่ได้ที่ต้องถามอีกครั้งว่า "เช่นนั้น... มันเป็นในนามของใต้เท้าหรือในนามของซื่อจื่อขอรับ"หากส่งของขัวญไปในนามของหน่วยสืบสวนพิเศษ ก็ไม่ใช่เป็นไปไม่ได้ เพราะ จั๋วซือหรานสอบติดแพทย์กลั่นยาในหน่วยสืบสวนพิเศษแต่ชายบนเบาะนั่งคิดอยู่ครู่หนึ่งแล้วพูดด้วยน้ำเสียงทุ้มลึกว่า "ตัวเลือกอันหลัง"“รับทราบ“......จั๋วซือหรานออกมาวัง เมื่อนางกลับมาที่จวนของนางนางเห็นฝูซูกำลังทำหน้าเคร่งขรึมที่ห้องโถงด้านหน้า“เป็นอะไร” จั๋วซือหรานเดินเข้ามาเมื่อนางเดินเข้าไป นางจึงสั่งเกตนอกจากฝูซู ยังมีคนอีกสองคนยืนอยู่ที่ห้องโถงด้านหน้าจั๋วซือหรานเลิกคิ้ว นางทราบตัวตนของพวกเขาคนหนึ่งสวมเสื้อผ้าของคนรับใช้ของจวนอ๋องชินยวี่ และส่วนอีกคนสวมเสื้อผ้าของคนรับใช้ของจวนเฟิงฃคนรับใช้ของจวนอ๋องชินยวี่มาเยี่ยมบ้าน จั๋วซือหรานรู้สึกไม่แปลกใจแต่จวนเฟิงหรือสีหน้าของจั๋วซือหรานไม่มีการเปลี่ยนแปลง นางมองพวกเขาอย่างสงบคนรับใช้ขอจวนอ๋องชินยวี่ทำความเคารพแก่จั๋วซือหรานและกล่าวว่า " ขอแม่นางจิ่วมีสุขภาพที่ดี ข้าได้รับคำสั่งจากอ๋องชิน อ๋องชินให้ข้านำของขวัญมาส่งถึงจวนของแม่นางจิ่ว เพื่

  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 93

    อย่างไรก็ตาม แม้ว่าคนรับใช้ของจวนเฟิงจะเป็นคนรับใช้ในบ้าน พวกเขายังคงมีความภาคภูมิใจในตัวเอง ดังนั้นพวกเขาจึงไม่พูดอะไรสักคำ และเพียงกล่าวคำอำลาจั๋วซือหรานบังเอิญฝูซูเพิ่งส่งคนรับใช้ของจวนอ๋องชินเส็จและเดินกลับมา เมื่อเขาเห็นคนรับใช้ของตระกูลเฟิงเดินออกไป เขาก็แปลกใจเล็กน้อย "คุณหนูขอรับ ทำไมไม่ให้ข้าส่งแขกล่ะขอรับ เขาไปเองหรือขอรับ"จั๋วซือหรานะยิ้ม "คนของตระกูลเฟิง แม้แต่คนรับใช้ของตระกูลเฟิงก็มีความเย่อหยิ่งของตัวเอง พวกเขาอาจเห็นเมื่อครู่นี้ ข้าพูดอย่างไรกับคนรับใช้ของจวนอ๋องชิน พวกเขาจึงไม่ยอมทนคำพูดของข้า บางทีพวกเขาอาจจะกลับไปฟ้องข้าก็ได้นะ”ฝูซูตกตะลึง “ฟ้องหรือ นั่นจะไม่แย่หรือขอรับ” ฝูซูเกาหัว “เมื่อครู่นี้ข้าอ่านใบรายการของขวัญที่เฟิงซื่อจื่อส่งมา มีของดี ๆ มากมาย”ก่อนหน้านี้ คุณหนูยังไม่โวยวายต้องแต่งงานกับฉินตวนหยาง ตอนนั้นตระกูลยังเอ็นดูนางอย่างมากฝูซูรับใช้จั๋วซือหราน ดังนั้นเขามีโอกาสเห็นของดี ๆ มากมาย เขาไม่ใช่คนที่มีสายตาสั้น ดังนั้นหากฝูซูยอมรับว่ามีของดี ๆ มากมาย แสดงว่ามีของดีเยอะจริง ๆจั๋วซือหรานได้ยินคำพูดของฝูซู นางหัวเราะ “มันไม่ค่อยดีนัก ดังนั้นข้าต

Bab terbaru

  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 1277

    ขณะที่ตระหนักถึงจุดนี้ จั๋วซือหรานก็ตระหนักได้ถึงอีกจุดหนึ่งถ้าบอกว่า ตนเองหลังจากนี้อยู่ห่างเขาไม่ได้ แต่หลังจากนี้ยังต้องการแสงแดดล่ะก็เช่นนั้นก็เท่ากับว่า...นางมองชายหนุ่มที่โผล่หัวออกมาจากผ้าห่ม เห็นอักขระคำสาปประหลาดบนหน้าตาคนสมองทื่อนี้ ปรากฏขึ้นมาต่อเนื่อง หายไป แล้วก็โผล่ออกมารักษาแผลไฟไหม้...จั๋วซือหรานจึงเดินเข้าไปสองก้าวอย่างอดไม่อยู่ พอมาถึงตรงหน้าเขา ก็ยกมือขึ้นมาเบาๆเขาไม่ขยับ จ้องมองนางนิ่งจั๋วซือหรานแตะลงไปบนหน้าเขาเบาๆ ราวกับว่าแค่สัมผัสเพียงเล็กน้อยเท่านั้นนางขมวดคิ้วแน่นเขามองนางเงียบๆจั๋วซือหรานนิ่งงันไปครู่หนึ่ง จึงเอ่ยเสียงต่ำขึ้นว่า "พลังวิญญาณของข้า ช่วยอะไรท่านไม่ได้แล้วหรือ"น่าจะเพราะตนเองตั้งท้องจนงงๆ ไปแล้วจริงๆ หรืออาจเป็นเพราะไม่พอใจเจ้าคนสมองมีปัญหาตรงหน้านี้ ดังนั้นจึงไม่ได้สนใจอะไรมากกระทั่งถึงตอนนี้ จั๋วซือหรานจึงเพิ่งรู้สึกตัวพลังของตนเองก่อนหน้านี้ ทั้งๆ ที่สามารถบรรเทาอาการทำร้ายตนเองของเฟิงเหยียนได้แท้ๆ แล้วยังทำให้เขาต้านทานแสงแดดได้ระดับหนึ่งอีกด้วยแต่ตอนนี้ทำไมเหมือน...มันไม่มีประโยชน์แล้วล่ะ?ทว่าเฟิงเหยียน ดูเหมือนจะ

  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 1276

    ขณะที่จั๋วซือหรานขมวดคิ้วคิดว่าตัวเองกำลังทำอะไรอยู่ ทำไมถึงมุดเข้ามาด้วยกัน...กับเขาในผ้าห่มที่มืดสนิทนี้ ก็ได้ยินเสียงหัวเราะทุ้มๆ ดังขึ้นเสียงหัวเราะทุ้มต่ำ ในผ้าห่มมืดๆ ภายใต้ระยะใกล้ชิดที่แทบจะเบียดกันของคนทั้งสองนี้ จึงยิ่งชัดเจนเป็นพิเศษ...กระทั่งความหยาบกร้านแหบพร่าเล็กๆ ในน้ำเสียง ก็ยังชัดเจน ชัดเจนเอามากๆ!ยิ่งไปกว่านั้น เพราะความใกล้ชิดมากๆ ยังมีกระแสลมแผ่วๆ ที่เหมือนจะพัดผ่านข้างหูนางไปเหมือนกับแม้กระทั่งตอนที่เขาหัวเราะเสียงทุ้ม การสั่นสะเทือนของทรวงอก ตนเองก็ยังสัมผัสได้อย่างชัดเจนด้วย!จั๋วซือหรานกัดริมฝีปากเบาๆจึงได้ยินเสียงของตาคนสมองทื่อ ยังคงเป็นเส้นเสียงหยาบๆ ที่ชวนหลงใหลนั่นอยู่บอกกับนางว่า "นี่เจ้ากำลัง...เชื้อเชิญข้าหรือ?"จั๋วซือหรานเพิ่งตื่นขึ้นจากความฝันที่อยู่กับคนรัก ถือว่าถูกกวนให้ตื่นก็ได้ มีอารมณ์ขุ่นเคืองอยู่บ้างก็เรื่องปกติดังนั้นนางจึงไม่มีเวลามาปรับอารมณ์กับตาคนสมองทื่อนี่จั๋วซือหรานเอ่ยขึ้นว่า "ข้าควรจะมองท่านถูกเผาตายทั้งเป็นไปซะ"ตาสมองทื่อนี่ก็ไม่รู้ทำไมผ่านไปคืนนึงนิสัยก็เปลี่ยนไป จู่ๆ อารมณ์ก็ดีขึ้นมาเสียอย่างนั้นบางทีคงเพร

  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 1275

    จั๋วซือหรานได้ยินอารมณ์เจ็บปวดจากในน้ำเสียงเขา และได้ยินถึงอารมณ์เสียใจด้วยอันที่จริงสำหรับสำหรับอาการข้าหึงตัวข้าเองที่แปลกใหม่นี้ จั๋วซือหรานก็รู้สึกจนใจอยู่หน่อยๆ แล้วยังดูน่าขำอีกด้วยผลลัพธ์คือพอแหงนตามอง สีหน้ารอยยิ้มบนหน้าจั๋วซือหรานเหล่านั้น ก็แข็งทื่อไปทันทีอารมณ์ที่เรียกว่าความกังวล ก่อตัวขึ้นมาในดวงตามิน่าในน้ำเสียงเขาถึงมีความเจ็บปวดอยู่ตอนนี้ อักขระคำสาปปรากฏขึ้นบนตัวเขาแล้ว แสดงรูปลักษณ์ที่ประหลาดออกมา"นี่คือ..." จั๋วซือหรานยกมือมากำข้อมือเขาแต่นี่ไม่ใช่ความจริง เป็นแค่เขตแดนจิตใต้สำนึกบางอย่าง เป็นแค่ในความฝันเท่านั้น แน่นอนว่าจับชีพจรเขาไม่ได้"ไม่เป็นไร" บนสีหน้าชายหนุ่มแม้จะเต็มไปด้วยอักขระคำสาปประหลาด สายตาที่ก้มลงมามองนางกลับดูอบอุ่น "ไม่เป็นไร"เหมือนกลัวว่านางจะกังวล เขาจึงบอกว่าไม่เป็นไรขึ้นมาอีกครั้งจั๋วซือหรานตระหนักได้ถึงอะไรบางอย่าง ขมวดคิ้วขึ้นมานิ้วโป้งของชายหนุ่มกดลงเบาๆ ที่หว่างคิ้วนาง นวดๆ เหมือนติดจะนวดคลายสีหน้าอารมณ์ที่ยุ่งเหยิงเหล่านั้นออก"พักผ่อนให้ดี กินข้าวให้ดีด้วย" เขาเอ่ยขึ้นจั๋วซือหรานเบ้ปากเบาๆ เหลือบมองเขา "ถ้าหากเจ้าส

  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 1274

    จั๋วซือหรานไม่ส่งเสียง ครู่เดียว จึงถอนใจเบาๆ เอ่ยขึ้นว่า "อันที่จริง ข้าเองก็ไม่ได้ยืนหยัดขนาดนั้น แค่ตอนนี้ยังไม่ถึงเวลาจนตรอกจริงๆ ข้าก็ยังไม่อยากละทิ้งทั้งที่ยังไม่ได้ลอง"เฟิงเหยียนกอดนาง ในสีหน้ามีความเจ็บปวดเสียงยิ่งแหบพร่า เอ่ยขึ้นว่า "ข้าไม่อยากให้เจ้าต้องมาเหยียบซ้ำรอยมารดาของข้า และข้าก็ไม่อยากให้ลูกของเราเติบโตมาเป็นเหมือนข้าด้วย หากเรื่องนี้ ไม่มีวิธีอื่นแก้ไขได้นอกจากปล่อยให้มีฝันร้ายแบบนี้ต่อไปเรื่อยๆ ...ข้าก็หวังให้ฝันร้ายนี้หยุดลงที่ตัวข้าพอ"เสียงของชายหนุ่มแหบพร่ามาก ในน้ำเสียง...ก็มีความสิ้นหวังที่ปิดไว้ไม่มิดอยู่ ทิ่มแทงเข้ามาที่ใจของจั๋วซือหรานต้องเป็นแบบไหนกันนะ...ถึงบีบคั้นให้คนดีๆ ที่หยิ่งทะนงและยอดเยี่ยมคนหนึ่งตกอยู่ในสภาพนี้...ราวกับสัตว์ที่ถูกกักขังไว้จั๋วซือหรานมองเขา ครู่ต่อมา ก็ถอนหายใจเบาๆเอ่ยขึ้นว่า "จริงๆ แล้ว...เดิมทีข้าเองก็ยังไม่ค่อยแน่ใจ การวางแผนและความคิดของข้าจึงไม่ได้เล่าใด้คนอื่นฟัง"เฟิงเหยียนไม่พูดอะไร แค่แหงนตามองนางเงียบๆจั๋วซือหรานยิ้มๆ "ข้ารู้สึกจริงๆ ว่าไม่แน่ข้าอาจมีวิธี แม้ตอนนี้ข้ายังพูดถึงเหตุผลออกมาให้ชัดเจนไม่ได้ แต

  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 1273

    แม้จะบอกว่าเป็นความฝัน แต่อันที่จริงจั๋วซือหรานก็ค่อยๆ เข้าใจแล้ว ว่าเพราะอะไรหลังจากฝันถึงเขาครั้งที่แล้วจนมาถึงครั้งนี้ นานมากแล้วที่ไม่ได้ฝันถึงเขาอีกพอมาคิดอย่างละเอียด เหมือนว่าตอนฝันถึงเขาครั้งที่แล้ว จะเป็นหลังจากที่นางมีสัมพันธ์ทางกายกับเขาดังนั้นจั๋วซือหรานจึงค่อยๆ เข้าใจ บางทีน่าจะเป็นเพราะสาเหตุนี้การดูดหยางบำรุงหยินของนางก็ดูดซับมาจนพอเข้าใจแล้ว เหมือนว่าพอดูดซับมาถึงระดับหนึ่ง ก็จะเกิด...ถ้าจะพูดว่าเป็นความฝัน สู้บอกว่าเป็นการสื่อสารทางจิตใต้สำนึกกับความทรงจำของเฟิงเหยียนส่วนที่ถูกผนึกไปจะดีกว่า?และไม่ว่าจะ 'ความฝัน' ครั้งที่แล้ว หรือว่าครั้งนี้ก็มองออกได้ไม่ยากเฟิงเหยียนน่าจะเข้าใจต่อสถานการณ์อยู่ ดังนั้นบางทีจิตใต้สำนึกเขายังคงอยู่มาตลอด เพียงแต่ถูกสมองทื่อๆ นี่กดเอาไว้ หรือบางทีคงถูกสภาผู้อาวุโสลงมือสะกดเอาไว้ไม่แน่ว่า อาจจะต้องมีชนวนเหตุบางอย่าง ถึงจะสามารถปลุกขึ้นมาได้จั๋วซือหรานอยากจะรู้ชนวนเหตุนั้นว่าคืออะไรกันแน่"ต้องทำยังไงเจ้าถึงจะดีขึ้นมา?" จั๋วซือหรานถามแต่เฟิงเหยียนกลับเหมือนจะจำจุดสำคัญนั้นไม่ได้แล้ว ขมวดคิ้ว สีหน้าดูเหมือนขมขื่น เหมือนว

  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 1272

    ในห้วงฝันนางมองมือตัวเอง สับสนไปหมดทั้งตัว เหมือนยังตั้งตัวกลับมาไม่ได้เพราะนางถ้าไม่หลับลึก ก็จะเอาจิตใต้สำนึกส่งเข้าไปในมิติ จึงฝันน้อยครั้งมากดังนั้นตอนที่ดำดิ่งสู่ห้วงฝัน นางยังรู้สึกไม่คุ้นอยู่หน่อยๆ มองมือตนเอง รู้สึกไม่คอ่ยเป็นจริงสักเท่าไรวินาทีต่อมา มือข้างหนึ่งก็ทาบมาบนมือของนางมือข้างนั้น ข้อต่อกระดูกชัดเจน นิ้วเรียวยาว เล็บตัดมาดูสะอาดสะอ้าน ผิวหนังขาวซีดเย็นเหมือนไม่โดนแดดมานานสายตาของจั๋วซือหรานจ้องนิ่งอยู่บนมือข้างนี้ จากนั้นจึงค่อยๆ ยกขึ้นมามองไปยังเจ้าของมือนี้ ใบหน้าหล่อเหลาไม่มีที่ตินั่นทั้งที่เป็นใบหน้าที่เพิ่งเห็นไปก่อนหลับตาลงเมื่อครู่แท้ๆ แต่ตอนนี้พอมอง กลับยังคงทำให้นางรู้สึกเหมือนไม่เจอกันเสียนานสายตาของชายหนุ่มอบอุ่น ด้านในมีความรู้สึกอารมณ์เหมือนความเจ็บปวดแฝงอยู่"จั๋วเสียวจิ่ว..." เขาก้มหน้าลงเรียกนางจั๋วซือหรานมองเขา จากนั้นจึงออกแรงบีบมือเขา และน่าจะเพราะออกแรงมากเกินไปปลายเล็บจึงเหมือนจิกลงไปในเนื้อเขาฝันถึงเขาอีกแล้วจั๋วซือหรานมีปฏิกิริยาขึ้นมา ครั้งนี้เหมือนกับครั้งนั้นเลย ฝันถึงเฟิงเหยียนยิ่งไปกว่านั้นยังดูเหมือนจริงเป็นพิ

  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 1271

    กลางดึก จั๋วซือหรานกัดริมฝีปาก กอดหมอน เดินเท้าเปล่าจากห้องด้านนอกเข้าไปยังห้องด้านใน!คิ้วงามของนางขมวดแน่น สีหน้าที่มีสีเลือดฟื้นมาบ้างแล้ว ตอนนี้กลับขาวซีดขึ้นมาในใจนางเองก็พูดไม่ออก เดิมทีตอนที่หลับก็ยังดีอยู่ พอกลางดึกจู่ๆ ก็ไม่ไหวขึ้นมาเสียแล้วหน้าอกปั่นป่วนอย่างรุนแรง เป็นความรู้สึกทรมานแบบที่นางผ่านมาก่อนหน้าไม่ผิดเพี้ยนถ้าบอกว่าคนคนนี้ไม่เข้ามาก็ว่าไปอย่าง แต่นี่ก็เข้ามาแล้วว่ากันว่าพอเคยสบายแล้ว จะยากที่จะกลับไปลำบากตอนนี้จะให้นางปล่อยชายหนุ่มที่เหมือนกับ 'ยาบำรุงครรภ์' นี้ไว้ข้างในเฉยๆ โดยไม่ใช้ แล้วต้องมานั่งทนกระอักเลือดต่อล่ะก็...ขอโทษด้วย สกุลจั๋วอย่างนางไม่ใช่คนประเภทนั้นนางเข้าใจแล้ว ก่อนที่จะหลับไปเมื่อคืนนี้ ตอนที่เฟิงเหยียนบอกว่าจะนอนด้านนอก ริมฝีปากที่เม้มแน่นนั้นกำลังอดกลั้นเรื่องอะไรน่าจะคิดไว้แล้วว่าจะเกิดเรื่องแบบนี้สารเลว!จั๋วซือหรานครั่นเนื้อครั่นตัวตื่นมากลางดึก ต่อให้เป็นคนที่มีสติเยือกเย็นแค่ไหน ก็ยังมีอาการหงุดหงิดงัวเงียหลังตื่นนอนนางเดินเท้าเปล่าเข้าไปห้องด้านใน อากาศในหุบเขาตอนกลางคืนเย็นมากนางสวมแค่เสื้อบางๆ ชุดหนึ่ง ทั้งตัวเย

  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 1270

    แต่กลับรู้ตัวตนฐานะผู้ชายทรยศของเฟิงเหยียนได้ ไม่ต้องคิดเลยว่าคงเป็นจั๋วหวายพล่ามออกมาแน่"จั๋วหวายมาบอกเจ้าหรือ?" ปันอวิ๋นถามขึ้นคำหนึ่งจวงอี๋ไห่ พยักหน้าอย่างระมัดระวัง "คุณชายเสี่ยวหวายไม่หลอกข้าหรอก คุณชายเสี่ยวหวายบอกว่าเป็นผู้ชายทรยศ เช่นนั้นกว่าครึ่งก็ต้องเป็นผู้ชายทรยศแล้ว"ปันอวิ๋นถอนหายใจแผ่วเบาในห้อง จั๋วซือหรานนั่งลงข้างโต๊ะเฟิงเหยียนไม่พูดอะไร รินน้ำชาให้นางถ้วยหนึ่งจั๋วซือหรานกำถ้วยไว้ ใช้นิ้วมือลูบไล้ขอบถ้วยเบาๆ"อีกเดี๋ยวพออาหารส่งเข้ามา ก็กินสักหน่อยแล้วค่อยนอนพัก" เฟิงเหยียนเอ่ยขึ้นแต่ในน้ำเสียงแฝงไว้ด้วยความหนักแน่นที่ห้ามปฏิเสธจั๋วซือหรานแหงนตามองเขา กำลังจะบอกว่ายังไม่หิวก็เห็นริมฝีปากบางของชายคนนี้เม้มเบาๆ เอ่ยเสียงต่ำว่า "ข้าไม่มีสิทธิ์จะมาหารือกับเจ้าจริงๆ นั่นล่ะ..." สายตาเขาทอดลงไปที่ท้องน้อยนาง แววตาลึกซึ้งจากนั้นจึงเอ่ยต่อว่า "แต่การจะเตือนให้เจ้ากินอะไรดีดีก็ยังพอมีสิทธิ์อยู่" สายตาเขายกขึ้นมาจากท้องน้อยจั๋วซือหรานเลื่อนมาที่ดวงตานาง จ้องมองดวงตานาง เอ่ยต่อว่า "ถึงอย่างไรเมื่อครู่ก็เพิ่งช่วยเจ้ากลับมา ยิ่งไปกว่นั้นเรื่องถูกพลังศักดิ์สิท

  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 1269

    เขาไม่เพียงแต่ไม่ใช่สามีของนาง เขายังเป็นคู่หมั้นในนามของหญิงสาวคนอื่นอีกด้วยสีหน้าของเฟิงเหยียนแข็งทื่อไปแล้ว แต่ท้ายสุดก็ยังพูดอะไรไม่ออกเพราะในคำพูดจั๋วซือหราน ไม่มีส่วนที่ผิดเลยแม้แต่น้อยแม้จะบอกว่าเด็กคนนี้ ไม่เกี่ยวข้องอะไรกับเขาก็ตามแต่ครั้งก่อนหน้านั้น เป็นเพราะจั๋วซือหรานถูกวางแผนร้ายใส่ ถึงทำให้นางสับสนหลงใหลจนมีสัมพันธ์กับเขาถ้าจะบอกว่า เขาเอาเปรียบหญิงสาวไป ก็ไมไ่ด้พูดเกินเลยนักเอาเปรียบหญิงสาว จนทำนางตั้งท้อง ไม่เคยจะมารับผิดชอบอะไรตอนนี้กลับจะมาชี้มือชี้ไม้เรื่องของนางพอสรุปมาแบบนี้ มันก็ช่าง...แย่มากจริงๆเฟิงเหยียนเองก็รู้ว่าตนเองนั้นแย่มาก พูดอะไรออกมาไม่ได้ไปชั่วขณะปันอวิ๋นรู้สึกกระอักกระอ่วนแทนสหายเก่า เขากระแอมออกมาเบาๆ ทีหนึ่ง ไกล่เกลี่ยขึ้นว่า "เอาล่ะเอาล่ะ..."เขาเองก็ไม่รู้ว่าควรพูดอะไร ถึงอย่างไร ทั้งสองคนตอนนี้จะไม่ได้เป็นคู่รัก แต่ความสัมพันธ์แบบนี้...มันก็ดูคลุมเครือ กลืนไม่เข้าคายไม่ออกอยู่ นี่มันช่าง...ดังนั้นปันอวิ๋นเลยเปิดประเด็นขึ้น อึกอักในปากอยู่พักหนึ่ง กว่าจะพูดออกมาได้ "...พวกเจ้าหิวหรือยัง? ให้เหล่าจวนทำอะไรให้กินหน่อยดีไหม?"

Jelajahi dan baca novel bagus secara gratis
Akses gratis ke berbagai novel bagus di aplikasi GoodNovel. Unduh buku yang kamu suka dan baca di mana saja & kapan saja.
Baca buku gratis di Aplikasi
Pindai kode untuk membaca di Aplikasi
DMCA.com Protection Status