แชร์

บทที่ 90

ผู้เขียน: หูเทียนเสี่ยว
จั๋วซือหรานเหลือบมองซือคงเซี่ยน ซึ่งอยู่ไม่ไกล แล้วกระซิบกับ ไทเฮา ว่า "ไทเฮาอย่ากังวล หม่อมฉันจะช่วยท่านอ๋องเซี่ยนเพคะ"

ไทเฮาหัวเราะและค่อย ๆ โบกมือเรียกจั๋วซือหราน

จั๋วซือหรานสับสนเล็กน้อย แต่นางก็ยังเข้าไปข้างหน้า

ไทเฮาโน้มตัวเข้าหูนางแล้วกระซิบว่า " แม่นางจิ่ว เจ้าชอบทายาทของตระกูลเฟิงจริง ๆ ขนาดนั้นหรือ หากเพียงเพราะสัญญาการแต่งงานระหว่างตระกูลต่าง ข้าสามารถออกหน้าออกตาให้"

จั๋วซือหรานได้ยินคำพูดนี้ นางรู้สึกสับสนเล็กน้อย ออกหน้าออกตาหรือ ออกหน้าออกตาอะไร นางคิดในเอง เป็นไปได้ไหมว่า ออดหน้าออกตาเพื่อให้นางหมั้นกับเฟิงเหยียนอีกครั้ง

จั๋วซือหรานไม่ทันพูดต่อ ไทเฮาพูดต่อ

“ออกหน้าออกตาเพื่อยกเลิกการหมั้นระหว่างเจ้ากับเฟิงเหยียน จากนั้นเจ้าจะได้อยู่กับเซี่ยนเอ๋อร์ของเรา”

จั๋วซือหรานตกตะลึง นางไม่เคยคิดว่า ไทเฮาจะมีความคิดเช่นนี้ แต่ก็ไม่น่าแปลกใจเลย

โดยทั่วไป ราชสำนักจะไม่อยู่ร่วมกับตระกูลขุนนาง

ประการแรก ราชวงศ์กลัวตระกูลขุนนางจะมีอำนาจมากเกินไป หากสายเลือดของตระกูลขุนนางแทรกซึมเข้าสู่สายเลือดราชวงศ์ นั่นจะทำให้ราชวงศ์ยิ่งหวาดกลัวมากขึ้น

แต่จั๋วซือหรานไม่เหมือนคนอื่น มองจาก
อ่านหนังสือเล่มนี้ต่อได้ฟรี
สแกนรหัสเพื่อดาวน์โหลดแอป
บทที่ถูกล็อก

บทล่าสุด

  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 1415

    จั๋วซือหรานเอะอะขนาดนี้ในจวน ตามหลักการเนี่ยคุนไม่มีทางไม่มีปฏิกิริยาแต่ก็ไม่มีปฏิกิริยาอะไรเลย เช่นนั้นก็มีแค่ความเป็นไปได้เดียว..."เนี่ยคุนไม่อยู่ในจวนแล้ว" จั๋วซือหรานคาดเดาออกมา "ไปย้ายกองหนุนแล้วกระมัง"จั๋วซือหรานขี้เกียจจะไปสนใจว่าเขาไปเคลื่อนย้ายกองหนุน ไปโยกย้ายกองหนุนอะไรหรือเปล่านางรู้สึกว่าคงไม่ได้เก่งกว่ากองหนุนของนางหรอกถึงยังไง ผู้ที่ใช้ชื่อว่า '...อันดับหนึ่งในใต้หล้า' ปกติจะต้องแข็งแกร่งเอามากๆส่วนเฟิ่งหลานก็พาพ่อของนางเข้ามาหาอย่างไว รถเข็นคันหนึ่งถูกลากมาถึงหน้าจวนเจ้าเมืองถ้าหากยังเป็นพวกคนใช้จวนเจ้าเมืองก่อนหน้าล่ะก็ เฟิ่งหลานคงได้ถูกสร้างความลำบากแน่แต่คนใพวกนั้นถูกจั๋วซือหรานตะเพิดไปแล้วที่เหลืออยู่คือทาสอาชญากรที่ซื้อมาเมื่อวานนี้ ยิ่งไปกว่านั้นทาสอาชญากรเหล่านี้เฟิ่งหลานเองก็มาซื้อด้วยกันกับจั๋วซือหรานดังนั้นเฟิ่งหลานพอเห็นก็จำทาสอาชญากรเหล่านี้ได้?เฟิ่งหลานตกตะลึงในใจ ใต้เท้าคนนี้ให้ตายสิ...แค่คืนเดียวเท่านั้น! แค่คืนเดียวเท่านั้นนะ!นางก็ให้พวกเขามาดูแลจัดการแล้วรึ?และทาสอาชญากรเหล่านี้หลายคนก็จำได้ ถึงคนหาข่าวที่มาซื้อพวกเขาพร้อมกับใต

  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 1414

    แต่ว่าในความวุ่นวายนี้ ก็ค่อยสงบลงมาแล้วแพ้ชนะชัดเจนแล้วทาสอาชญากรหลายคนลุกขึ้นโซซัดโซเซ พวกเขายกมือขึ้นเช็ดครบเลือดบนหน้ามองไปทางจั๋วซือหราน "ใต้เท้า"จั๋วซือหรานพยักหน้าพวกเขาเดิมทียังคงกระวนกระวายกันอยู่ ถ้าใต้เท้าคนนี้รู้สึกว่าพวกเราไม่ชนะจะทำอย่างไรกัน? เพราะคนพวกนี้คือคนใช้จวนเจ้าเมือง ยังไม่ตายกัน แค่นอนร้องครวญครางอยู่บนพื้นเท่านั้นพวกเขาไม่รู้ ว่าใต้เท้าคิดจะให้ชนะหรือว่าอะไรแบบไหนหรือว่าไม่ตายไม่เลิกราแบบนั้น?แต่เพียงไม่นาน พวกเขาก็ได้ยินเสียงหญิงสาวเย็นเยียบดังขึ้นว่า "เข้ามาเถอะ ต่อไปตำแหน่งของคนพวกนี้ ก็ให้พวกเจ้ามาทำแล้วกัน"ทาสอาชญากรพวกนี้ตกตะลึงไป "ใต้เท้า..."ไม่ใช่แค่พวกเขา แต่คนใช้จวนเจ้าเมืองพวกนั้นก็ตกตะลึงด้วย "ใต้เท้า!"จั๋วซือหรานมองคนใช้เหล่านี้เรียบๆ "ข้าไม่รู้ว่าพวกเจ้าไม่รู้จริงๆ หรือว่าแกล้งไม่รู้กันแน่ หรือว่ารู้แล้วแต่รู้สึกว่าเรื่องนี้ไม่เกี่ยวกับตนเอง?""จวนนี้เป็นจวนของข้าไปแล้ว พวกเจ้าคงคิดว่า พวกเจ้าเป็นคนใช้ของจวนนี้ ก็แค่เปลี่ยนเจ้านายเท่านั้น สามารถอยู่ที่นี่ทำงานต่อไปได้สินะ"สีหน้าของเหล่าคนใช้มองออกไม่ยาก ว่าพวกเขาคิดเช่นนี

  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 1413

    คนหนุ่มเหล่านี้เองก็ตระหนักได้ ว่าคำตอบนี้สำคัญมากใต้เท้าคนนี้ แตกต่างกับพวกขุนนางพุงพลุ้ยไม่เห็นหัวใครแบบที่พวกเขาเคยเจอมาหลังจากพวกเขานิ่งเงียบไปพักหนึ่ง ก็พยักหน้า"ได้ขอรับ""พวกเราทำได้ขอรับ"จั๋วซือหรานพอได้ยิน ก็เลิกคิ้วขึ้นเบาๆ ในสีหน้ามีความสุขอยู่หน่อยๆสีหน้าแบบนี้แม้จะไม่ชัดเจนนัก แต่ความผ่อนคลายในสีหน้าก็เห็นได้อย่างชัดเจนสิ่งนี้ทำให้พวกเขารุ้สึก่วา ตนเองน่าจะตอบถูกแล้วครู่ต่อมา ก็เห็นใต้เท้าคนนี้ ส่งยาลูกกลอนหลายเม็ดมาตรงหน้าพวกเขา"เอ้า กินซะ จากนั้นอาการบาดเจ็บของพวกเจ้าก็จะบรรเทาลง" จั๋วซือหรานเชิดคางไปทางพวกคนใช้จวนเจ้าเมืองเอ่ยต่อว่า "จากนั้นพวกเจ้าก็ไปซัดคนพวกนั้นซะ วางใจได้ มีข้าอยู่ตรงนี้ พวกเขาไม่กล้าแตะต้องพวกคนแก่คนอ่อนแอของพวกเจ้าทางนี้หรอก"คนพวกนี้งงเป็นไก่ตาแตกจริงๆ ไม่ใช่แค่พวกเขา แต่คนทั้งหมดที่นี่ นอกจากพวกเฟิงเหยียนชิ่งหมิงที่เข้าใจนิสัยของจั๋วซือหรานแล้วคนอื่นทั้งหมดล้วนงงกันหมดยาลูกกลอน...ส่งให้พวกเขาแบบนี้เลยหรือ?ในมือพวกเขาล้วนสั่นระริกขึ้นมา หยิบยาลูกกลอนออกมาจากฝ่ามือของนางไม่ค่อยเข้าใจความหมายของนาง และยังจ้องมองนางเขม็ง

  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 1412

    "เกิดเรื่องแล้ว?" จั๋วซือหรานยังงัวเงียอยู่ พอได้ยินเสียงนี้ จู่ๆ ก็ตื่นขึ้นมา "เกิดอะไรขึ้น?"จั๋วซือหรานลุกขึ้นมา กดบ่าเฟิงเหยียนไว้ "ท่านรออยู่ในห้อง ข้าไปดูก็พอ ไม่อะไรหรอก"แต่เฟิงเหยียนไม่วางใจ เขาเปลี่ยนเสื้อผ้าอย่างรวดเร็วตามออกไปพร้อมจั๋วซือหรานชิ่งหมิงบอกว่าคนของตลาดมืดทางนั้นมาแล้ว จากนั้นก็มีเรื่องกับคนของจวนเจ้าเมืองเข้าพูดแบบนี้ จั๋วซือหรานก็พอจะเดาได้แล้วว่าเรื่องอะไรมุมปากนางยกขึ้น "ไปดูกันเถอะ"พอมาถึงเรือนหน้าของจวนเจ้าเมือง ก็เห็นคนใช้ของจวนเจ้าเมืองเข้าแถวหน้ากระดาน ขวางไว้ด้านหน้าและด้านหน้าของพวกเขา ก็คือกลุ่มคนแก่เจ็บป่วยกลุ่มหนึ่ง...ก็ไม่เชิงขนาดนั้น ถึงยังไงก็เป็นเหล่าทาสอาชญากรที่จั๋วซือหรานซื้อไว้จากตลาดมืดเมื่อคืนนั่นล่ะพวกเขาถูกพวกค้าทาสในตลาดมืดส่งมาตั้งแต่เช้าตรู่พวกค้าทาสพวกนั้นเดิมทีคิดจะรอให้จั๋วซือหรานออกมาแล้วค่อยส่งให้นางเหมือนกันแต่พวกคนใช้จวนเจ้าเมืองแต่ละคนก็ดุกันอย่างกับผีร้ายพ่อค้าทาสเองก็ขี้เกียจจะเป็นคนชั่ว หลังจากปล่อยทาสอาชญากรพวกนี้แล้วก็ออกไปเลยตอนที่จั๋วซือหรานมาถึง ก็มองเห็นฉากเช่นนี้ครั้นจะบอกว่าสองฝ่ายคุมเชิ

  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 1411

    "ข้ารู้สึกว่า...น่าสนใจอยู่" จั๋วซือหรานเอ่ยขึ้นเฟิ่งหลานอารมณ์ยังดูกระวนกระวาย เดิมทีนางคิดว่าจะได้ยินคำปฏิเสธบ้างจากปากใต้เท้าคนนี้แต่จะอย่างไรก็คิดไม่ถึงเลยว่าจะได้ยินคำวิจารณ์อย่าง 'น่าสนใจ' จากปากของนางนี่ทำให้อารมณ์ของนางเดิมทีที่กระวนกระวายอยู่แล้ว ยิ่งกระวนกระวายหนักขึ้นไปอีกแล้ว...มันหมายความว่าอย่างไร? ไม่มีการชี้นำอะไรเลยน่าสนใจนี่มันดีหรือไม่ดีกันแน่? ปฏิเสธหรือว่าตกลงกัน?เฟิ่งหลานชั่วขณะหนึ่งรู้สึกว่าหัวในเต้นขึ้นมาถึงคอหอยแล้วจากนั้นก็เห็นจั๋วซือหรานพยักหน้า "ได้ เช่นนั้นก็ตามมาแล้วกัน"ดวงตาของเฟิ่งหลานถลึงเบิกกว้าง ประกายในดวงตาทั้งหมดล้วนเป็นความตกตะลึงยินดี"ขอบคุณ! ขอบคุณใต้เท้า! ขอบคุณใต้เท้า!" เฟิ่งหลานรีบร้อนเอ่ยขึ้น "ข้าจะซื่อสัตย์ต่อใต้เท้าอย่างแน่นอน!"จั๋วซือหรานมองนาง "พ่อของเจ้าไม่ใช่ป่วยหนักหรือ?"เฟิ่งหลานตกตะลึง จากนั้นก็หยักหน้างึมงำ "...เจ้าค่ะ"เฟิ่งหลานเดิมทีคิดว่าจั๋วซือหรานที่เอ่ยถึงเรื่องนี้ คิดจะแสดงท่าทีว่าสนใจแค่นางนะ ไม่ได้สนใจพ่อของนางแต่พอคิดดูอีกที ก็เหมือนว่า...จะไม่ใช่อะไรแบบนั้นเพราะใต้เท้าก็ไม่ได้ปล่อยทิ้งพวกคนแก่อ

  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 1410

    ปันอวิ๋นเอ่ยขึ้น "ข้าไม่ใช่ว่ารู้จัก ข้าแค่เคยได้ยินชื่อสกุลนี้ แค่คุ้นหูเท่านั้น"ปันอวิ๋นพูดต่อ มองไปทางเฟิ่งหลาน "เจ้าคือคนจากดินแดนทางใต้สินะ"เฟิ่งหลานพยักหน้าจั๋วซือหรานถามปันอวิ๋น ""นี่เป็นสกุลที่มีแค่ในดินแดนทางใต้ใช่ไหม?"ประมาณนั้น" ปันอวิ๋นพูดถึงตรงนี้ก็ชะงักไปเล็กน้อย จากนั้นจึงเอ่ยต่อว่า "ดินแดนทางใต้ไม่ใช่แค่จักรพรรดิที่มีอำนาจ มหาปุโรหิตเองก็มี ตระกูลของมหาปุโรหิตรับผิดชอบเรื่องพิธีกรรม ตำแหน่งฐานะสูงส่ง และตระกูลของมหาปุโรหิต ก็มีสกุลว่าเฟิ่ง"จั๋วซือหรานพอได้ยินก็เลิกคิ้ว ว้าวคิดไม่ถึงเลย ว่าจะได้คนสำคัญแบบนี้มา"ดังนั้น เจ้าคือคนจากตระกูลของมหาปุโรหิตดินแดนทางใต้หรือ?" จั๋วซือหรานมองไปทางเฟิ่งหลานเฟิ่งหลานคิดไม่ถึงว่าชายหนุ่มที่หน้าตาเย้ายวนนี่จะรู้เรื่องนี้ แต่ถึงยังไงนางก็ตั้งใจจะบอกกับจั๋วซือหรานอยู่แล้ว ดังนั้นจึงไม่มีอะไรเฟิ่งหลานพยักหน้าตอบ "ใช่ ข้าคือคนจากตระกูลมหาปุโรหิต"และตอนนี้เอง ปันอวิ๋นก็พูดต่อว่า "นางไม่ใช่แค่คนของตระกูลมหาปุโรหิต แต่นางคือคนจากราชวงศ์มหาปุโรหิต"พอได้ยินคำนี้ เฟิงหลานก็ม่านตาหดลง เบิกตาโพลงมองไปทางปันอวิ๋นปันอวิ๋นยื่น

บทอื่นๆ
สำรวจและอ่านนวนิยายดีๆ ได้ฟรี
เข้าถึงนวนิยายดีๆ จำนวนมากได้ฟรีบนแอป GoodNovel ดาวน์โหลดหนังสือที่คุณชอบและอ่านได้ทุกที่ทุกเวลา
อ่านหนังสือฟรีบนแอป
สแกนรหัสเพื่ออ่านบนแอป
DMCA.com Protection Status