Share

บทที่ 959

Penulis: หูเทียนเสี่ยว
จั๋วซือหรานบีบซากบันทึกเหล่านี้ไว้ในมือ สีหน้ายังคงไม่กลับมา

นางกลอกตามองซือคงเซี่ยน ถามว่า "ของพวกนี้...เจ้าเคยเห็นมาก่อนไหม?"

ซือคงเซี่ยนพยักหน้า ตอนที่สายตาตกไปอยุ่บนซากบันทึกในมือ คิ้วก็ขมวดแน่น สีหน้าเองก็มองออกไม่ยากว่าเคร่งขรึมขึ้นมา

ซือคงเซี่ยนเอ่ยเสียงต่ำ "ดังนั้นข้าถึงบอกว่าเจาหมิ่นเหมือนกับ...เป็นโรคจิตน่ะ ไม่เช่นนั้นนางคงไม่เขียนอะไรแปลกๆ...พวกนี้"

สายตาจั๋วซือหรานจ้องอยู่บนซากบันทึกเหล่านั้น

นางรู้แน่นอน ว่าทำไมซือคงเซี่ยนถึงรู้สึกว่าเจาหมิ่นเป็นโรคจิต

เพราะบนซากบันทึกเหล่านั้น เนื้อหาที่เจาหมิ่นเขียน จากที่คนอื่นเห็นก็คงรู้สึกว่าเกินความคาดหมายจริงๆ

สิ่งที่เขียนอยู่ด้านบน...ทั้งหมดเป็นเรื่องที่ยังไม่เกิดขึ้น

ดังนั้นจึงในสายตาของซือคงเซี่ยน จึงเหมือนเจาหมิ่นเกิดโรคจิตกำเริบแล้วเขียนเนื้อหาพวกนี้ออกมา

แต่จั๋วซือหรานรู้ ว่าเนื้อหาเหล่านั้นที่เขียนบนบันทึก ทั้งหมดล้วนเกิดขึ้นไปแล้ว

เพียงแต่ ไม่ได้อยู่ในโลกนี้ของนาง แต่เป็นในเส้นชะตาเก่าเจ้าของร่างเดิม

เนื้อนาที่เขียนในซากบันทึกนี้ของเจาหมิ่น ทั้งหมดล้วนอยู่ในเส้นชะตาเดิม เป็นเรื่องที่เกิดขึ้นกับจั๋วซือหรานเจ้าของร่
Lanjutkan membaca buku ini secara gratis
Pindai kode untuk mengunduh Aplikasi
Bab Terkunci

Bab terbaru

  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 1423

    พอรู้ว่าเนี่ยคุนกลับมารอบหนึ่ง จั๋วซือหรานก็รู้สึกประหลาดใจเล็กน้อย"เขาทำให้พวกเจ้าลำบากใจหรือเปล่า?" จั๋วซือหรานถาม"ไม่ขอรับ" เยว่จานตอบ "เดิมทีข้าก็คิดว่าเขาจะสร้างความลำบากใจให้เรา ถึงอย่างไรก็มีแต่พวกเราที่อยู่ที่นี่ คนใช้เดิมแต่ก่อนของเขาล้วนไม่อยู่กันแล้ว"พวกเขากระทั่งเตรียมใจจะถูกเจ้าเมืองเนี่ยลงโทษเสียด้วยซ้ำ กระทั่งว่าเยว่จานกำชับกับพวกเขาเอาไว้แล้ว ว่าไม่ว่าอย่างไรก็ต้องอดทนเอาไว้รอนายท่านตื่นแล้วค่อยว่ากัน"แต่คิดไม่ถึงว่า เขากลับไม่พูดอะไรเลย แค่กลับมารอบหนึ่ง จากนั้นก็ออกไปอย่างรวดเร็ว"พอได้ยินคำนี้ของเยว่จาน จั๋วซือหรานก็เลิกคิ้วขึ้นยังไม่ทันที่นางจะได้ถามละเอียด เยว่จานลังเลอยู่ครู่หนึ่ง เอ่ยต่อมาว่า "แต่ข้ารู้สึกว่า เจ้าเมืองเนี่ยกลับมารอบนี้น่าจะมีอะไรอยู่ด้วย"จั๋วซือหรานมองเขา "อื๋อ? ไหนว่ามาซิ?"เยว่จานเอ่ยขึ้นอย่างตั้งใจ "แม้เขาจะไม่พูดอะไร แต่กลับถามว่าตอนนี้ท่านพักอยู่เรือนหลังไหนในจวน ข้าคิดว่าเขาน่าจะคิดทำอะไรกับท่านอยู่ ดังนั้นจึงไม่ได้บอกข้อมูลจริงกับเขาพูดถึงตรงนี้ เยว่จานก็เอ่ยขอโทษเสียงต่ำ "ใต้เท้า ตอนนั้นสถานการณ์ไม่อำนวยให้ข้าเข้ามาถามท่

  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 1422

    พอดีตอนนั้นมีตระกูลหนึ่งสร้างความสัมพันธ์กับใต้เท้าในเมืองหลวงคนหนึ่ง บอกว่าขอแค่จัดการลงโทษสองตระกูลนี้เสียทรัพย์สินของตระกูลจงก็จะมอบให้กับใต้เท้าคนนี้ทั้งหมดตระกูลจงเป็นแค่ตระกูลพ่อค้าธรรมดาเท่านั้น จะไปสู้รบปรบมือกับใต้เท้าในเมืองหลวงได้อย่างไร...แค่โอกาสจะเรียกร้องความเป็นธรรมก็ยังไม่มีทั้งสองตระกูลจึงถูกเนรเทศออกมา หากเป็นความผิดถึงขั้นประหารทั้งตระกูล ก็คงจะสั่นสะเทือนไปถึงเมืองหลวงแล้วแต่เพราะเป็นแค่การเนรเทศเท่านั้น บวกกับการจัดการสินบนอย่างทั่วถึง เรื่องนี้จึงไม่เกิดกระแสใดแล้วเงียบหายไปเฉยๆพวกเขาสองตระกูลถูกเนรเทศไปไกล ระหว่างทางก็ถูกขายมาที่หลวนหนานนี้อีกหลังจากจั๋วซือหรานได้ยินเรื่องของเยว่จาน นางก็แหงนตาขึ้นมองเยว่จาน "ใต้เท้าที่มาจากเมืองหลวงคนนั้น คงจะไม่ใช่..."จั๋วซือหรานไม่ทันพูดจบ เยว่จานก็พยักหน้า "ขอรับ องค์ชายห้าซือคงอวี้นั่นเอง""แล้ว..." จั๋วซือหรานทอดถอนใจขึ้นมา "บังเอิญจริงๆ"สายตาของเยว่จานจ้องมองจั๋วซือหรานนิ่ง "ดังนั้นใต้เท้าจึงวางใจได้ ใต้เท้ามีบุญคุณการสร้างชีวิตใหม่กับพวกเราสองตระกูล ไม่ใช่เพียงช่วยชีวิตเราเท่านั้น แต่ยังแก้แค้นให้พวกเร

  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 1421

    จั๋วซือหรานวางมือของเขากดลงไปบนท้องครู่หนึ่งจากนั้น เฟิงเหยียนก็สัมผัสได้ถึงการเชื่อมโยงและถัดจากนั้น ก็สัมผัสได้ว่าท้องของนางดังกลุกกลักความตึงเครียดของเขาในที่สุดก็ผ่อนคลายลง มุมปากยกขึ้นเป็นรอยยิ้ม"หิวแล้วหรือ? ลุกมากินข้าวเถอะ"หลังจากลุกขึ้นมา จั๋วซือหรานก็พบว่า ทาสอาชญากรที่ซื้อมาเหล่านั้น จัดการจวนเจ้าเมืองแห่งนี้ได้อย่างเป็นระเบียบเรียบร้อย"ทำได้ไม่เลวเลยนี่" ในสายตาจั๋วซือหรานมีสีหน้าพึงพอใจออกมาชายชราที่ถูกนางเลือกมาดูแลจัดการเรื่องในจวนก่อนหน้าคนนั้น เปลี่ยนมาอยู่ในชุดใหม่แล้ว อาบน้ำเรียบร้อย เนื้อตัวสะอาดสะอ้านคนเองก็ดูกระปรี้กระเปร่าขึ้นมาก โค้งคำนับกับจั๋วซือหรานอย่างนอบน้อม"ใต้เท้า ข้าทำภารกิจเสร็จเรียบร้อย"จั๋วซือหรานถามขึ้น "เจ้าชื่ออะไรหรือ?""เยว่จานขอรับ" ชายชราตอบนาง ไม่มีท่าทีการปิดบังใดๆ "ใต้เท้า ท่านซื้อพวกเราที่ล้วนเป็นอาชญากรถูกเนรเทศ ดังนั้นจึงเป็นครอบครัวกันขอรับ ท่านซื้อมาสองครอบครัว ครอบครัวหนึ่งตระกูลเยว่ อีกครอบครัวตระกูลจงขอรับ"จั๋วซือหรานเลิกคิ้ว "ข้ารู้ว่าพวกเจ้าถูกเนรเทศมา"นางมองเยว่จาน "พวกเจ้าเป็นคนที่ไหนหรือ ทำอะไรผิดมา?"

  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 1420

    ยิ่งไปกว่นั้นไฟพวกนี้มีทั้งลึกทั้งตื้น มีทั้งเข้มทั้งอ่อน ราวกับบรรลุสมดุลที่เหมาะสมบางอย่างสีเหล่านี้ ค่อยๆ ห่อหุ้มเพลิงตะวันหงส์แดงเหล่านั้น และพยายามสลายมันเฟิงเหยียนกับปันอวิ๋นล้วนจ้องไม่วางตาไม่รู้ผ่านไปนานแค่ไหน กระทั่งขอบฟ้าก็ยังเรืองรองด้วยสีแสงอรุณพวกขเาจึงได้ยินเสียงหนึ่ง แหบพร่ามากๆ เหมือนเสียงที่ลำคอถูกไฟลวกเอ่ยขึ้นว่า "ฟ้าจะสางแล้ว เฟิงเหยียนกลับห้องไปก่อนเถอะ"เฟิงเหยียนพอได้ยินก็สั่นไปทั้งตัว จ้องนางเขม็ง ไม่มีท่าทีจะขยับจากนั้น ก็เห็นจั๋วซือหรานค่อยๆ ลืมตาขึ้นไม่ว่าจะเฟิงเหยียน หรือว่าปันอวิ๋น หรือว่าเฟิ่งหลานก็ล้วนมองเห็น ตอนที่จั๋วซือหรานลืมตา สีทั้งหก ก็สว่างวาบขึ้นในดวงตานาง"ใต้เท้า...นี่คือสำเร็จแล้วไหม? ท่านทำสำเร็จหรือเปล่า?" เสียงของเฟิ่งหลานสั่นเทา ปิดบังความตื่นเต้นไว้ไม่มิดไม่ใช่ตื่นเต้นเพราะจั๋วซือหรานรักษาพ่อของนางหาย แต่เป็นเพราะจั๋วซือหรานไม่เพียงรักษาพ่อของนาง แต่ตนเองก็ทำสำเร็จแล้ว...จั๋วซือหรานมองเฟิงเหยียน ยกมุมปากขึ้นเบาๆ เอ่ยขึ้นเสียงแหบพร่า "ฟ้าจะสางแล้ว กลับห้องเถอะ...เหนื่อยจัง ง่วงด้วย"เฟิงเหยียนไม่พูดอะไร อุ้มนางขึ้นมา

  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 1419

    ในเมื่อตัดสินใจแล้ว เช่นนั้นก็ใช้วิธีไฟวิเศษแล้วกันเพียงแต่ว่า พอเทียบกับพ่อลูกเฟิ่งหลานเฟิ่งซานที่กินอะไรกันแทบไม่ลงเนื่องจากตึงเครียดแล้วจั๋วซือหรานกลับกินอย่างเอร็ดอร่อย แตกต่างจากคนอื่นจริงๆแต่ก็ทำให้ความรู้สึกของคนผ่อนคลายลงมาบ้างได้จริงๆรอจนผ่านมื้อเย็นไป จั๋วซือหรานก็พาพวกเขากลับมาที่ห้องเพราะนางกับเฟิงเหยียน แล้วยังมีปันอวิ๋นอีกคน ก็ล้วนเข้าร่วมกับเรื่องนี้ชิ่งหมิงคิดๆ จึงขันอาสารับผิดชอบเรื่องคุ้มกันพวกเขาให้นอกเหนือจากนี้ ก็เหมือนไม่มีอะไรที่จำเป็นต้องเตรียมตัว"เตรียมตัวเสร็จหรือยัง?" จั๋วซือหรานถามขึ้นคำหนึ่งเฟิ่งซานกลืนน้ำลาย จากนั้นก็พยักหน้าขรึมๆจั๋วซือหรานบีบนิ้วมือเฟิงเหยียนเบาๆ เอ่ยขึ้นว่า "งั้นก็เริ่มเถอะ ไม่เป็นไร วางใจเถอะ"เฟิงเหยียนไม่วางใจแน่นอนแต่จำใจต้องทำแบบนี้ เขายื่นมือออกมา สองมือกุมจุดสำคัญของเฟิ่งซานไว้ตอนนี้เอง สองพ่อลูกเฟิ่งหลานเฟิ่งซานก็เห็นว่า ดวงตาลุ่มลึกเรียวยาวของชายคนนี้ เปลี่ยนแปลงไปในพริบตาดวงตาที่เดิมทีดำลุ่มลึก พริบตานั้น ไม่ว่าจะสีหรือม่านตาก็เปลี่ยนไปทั้งหมดราวกับว่าเป็น...ดวงตาของนกอะไรบางอย่าง คมกริบมากพริบตา

  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 1418

    พอได้ยินคำนี้ของจั๋วซือหราน สายตาของเฟิงเหยียนก็ขยับเล็กน้อยจั๋วซือหรานเอ่ยต่อว่า "ก็เหมือนลางสังหรณ์ว่าไมแน่ข้าอาจจะทำได้แบบนั้น"เฟิงเหยียนรู้ว่าลางสังหรณ์อาจจะทำได้ที่นางพูดถึง ไม่ได้หมายถึงเรื่องที่จะสามารถรักษาอาการป่วยครั้งนี้ของเฟิ่งซานได้แต่เป็นเรื่อง...ที่นางตั้งท้องและจะคลอดได้เฟิงเหยียนสูดลมหายใจลึก น้ำเสียงมีอาการจนใจ "แล้วครั้งนี้เจ้า มีลางสังหรณ์ว่าอะไรล่ะ...""ข้ารู้สึกว่า ข้าต้องมีตัวหมากมาเป็นไพ่ตายมากกว่านี้หน่อย" จั๋วซือหรานเอ่ยขึ้น ปลายนิ้วจิ้มไปที่กลางฝ่ามือเขา"ถ้างั้นอย่างน้อยข้าก็ต้องมีไฟที่ไม่ด้อยไปกว่าเพลิงตะวันหงส์แดงใช่ไหมล่ะ?" จั๋วซือหรานเอ่ยขึ้นตอนได้ยินนางพูดคำนี้ เฟิงเหยียนก็เงยหน้าขึ้นมองนางทันทีราวกับว่าพริบตานี้ เข้าใจความหมายของนางขึ้นฉับพลันเขาไม่ได้ตอบทันที ทั้งสองคนสบตานิ่งงันกันไปแบบนี้ครู่ต่อมา "เจ้าต้องรับปากข้า ห้ามฝืนตัวเอง ถ้าหากจัดการไม่ได้ ก็ให้ปันอวิ๋นเข้ามารับช่วงต่อ ข้าไม่สนว่าราชาปุโรหิตดินแดนทางใต้อะไรนั่นจะเป็นหรือตาย ข้าสนแค่เจ้าเท่านั้น"เฟิงเหยียนจ้องมองดวงตาจั๋วซือหรานเขม็ง เอาคำพูดสุดท้ายเมื่อครู่ พูดซ้ำขึ้นมาอ

Bab Lainnya
Jelajahi dan baca novel bagus secara gratis
Akses gratis ke berbagai novel bagus di aplikasi GoodNovel. Unduh buku yang kamu suka dan baca di mana saja & kapan saja.
Baca buku gratis di Aplikasi
Pindai kode untuk membaca di Aplikasi
DMCA.com Protection Status