LOGINตื่นขึ้นมาพบลูกกับสามีที่จากไป แต่น้ำท่วมใหญ่กำลังจะมา! มีมิติ มีเสบียง มีครอบครัวดี ซือหยาไม่สนคำครหา ใช้เงินซื้อที่นา ที่อยู่อาศัย ที่ทำกิน! สร้างความมั่นคง จนคนที่เคยดูถูกต้องก้มหัวขอความช่วยเหลือ!
View More🌸 ตัวละครหลัก (นิยาย: ซือหยา...ย้อนเวลามาหาดวงใจทั้งสาม)
หานซือหยา → เสิ่นซือหยา (นางเอก): หลังแต่งเข้าสกุลเสิ่นจึงเปลี่ยนนามสกุล นิสัย: เจ้าเล่ห์ ร้ายกาจ ชอบวางแผนเพื่อผลประโยชน์ตัวเอง (เคยแกล้งตกน้ำให้พระเอกรับผิดชอบ)
เสิ่นหยางเฉิง (พระเอก) : พูดน้อย คิดมาก ขรึมจริงจัง ยอมทนอยู่กับภรรยาร้ายเพื่อลูก ๆ เก่งเรื่องล่าสัตว์ หาอาหารเลี้ยงครอบครัวได้ดี
👶 ฝาแฝด
เสิ่นอี้หมิง (ลูกชายคนโต) : พูดน้อย เงียบขรึม มาดเข้มเหมือนพ่อ
เสิ่นอันหมิง (ลูกชายคนเล็ก) : ร่าเริง ยิ้มง่าย ขี้อ้อน พูดเก่ง
🌾 สกุลเสิ่น (ครอบครัวพระเอก)
เสิ่นหยางกวง (พ่อพระเอก) : นิสัยโดยรวมดี สุภาพ ใจอ่อนโยน
เสิ่นอวี๋นั่ว (แม่พระเอก) : นิสัยโดยรวมดี อ่อนโยน รักลูกหลาน
เสิ่นหยางเฟิง (พี่ชายคนโตของพระเอก) : นิสัยโดยรวมดี ขยันขันแข็ง
เสิ่นหยวนอี (พี่สะใภ้คนโต) : นิสัยโดยรวมดี เป็นแม่บ้านใจเย็น
เสิ่นหยางรุ่ย (พี่ชายคนรองของพระเอก) : นิสัยโดยรวมดี รับงานเป็นผู้คุ้มกันขบวน เดินทางบ่อย
เสิ่นเหรินซิน (พี่สะใภ้คนรอง) : นิสัยไม่ดี ขี้อิจฉา ขี้บ่น ชอบกดขี่ลูกสาว
เสิ่นเซียว (ลูกพี่ชายคนโต 15 ปี) : นิสัยโดยรวมดี ฉลาด มีน้ำใจ
เสิ่นเจาตี้ (ลูกสาวพี่ชายคนรอง 8 ปี) : นิสัยโดยรวมดี อ่อนโยน (แม่ไม่รักเพราะอยากได้ลูกชาย)
🏮 ตัวละครจากสกุลหาน (ครอบครัวฝ่ายนางเอก)
หานเจี้ยน (พ่อนางเอก) : นิสัยดี รักลูกสาวมากจนตามใจเกินไป ถูกรีดไถเงินจนบ้านลำบาก
หานเซวียน (แม่นางเอก) : นิสัยดี รักลูกมาก
หานซือเหอ (น้องชายคนรอง 16 ปี) : สุภาพ ซื่อตรง
หานซือหลิง (น้องสาวคนเล็ก 10 ปี) : เรียบร้อย พูดน้อย
🏮 ตัวละครจากสกุลจาง (ผู้ร่วมเดินทาง)
จางวั่งซู: หัวหน้าครอบครัว สุขุม มีความรับผิดชอบ รู้จักบุญคุณ
จางเยียน: ภรรยา อ่อนโยน จิตใจดี
จางเหล่ย (ลูกชายคนรอง 18 ปี) : เรียนรู้เร็ว มุ่งมั่นในการเรียน
จางชิงชิง (ลูกสาวคนที่ 3 อายุ 15 ปี) : กระตือรือร้น เป็นผู้ช่วยที่ดี
จางหลิน (ลูกสาวคนเล็ก อายุ 10 ปี) : เรียนรู้เร็ว
🏮 สกุลหวัง (ผู้ช่วยเหลือและพันธมิตรในอนาคต)
หวังจวิ้นเหยียน: เสนาบดีกรมการคลัง อำนาจหลักคือ เงินตราและทรัพย์สิน
หวังฮูหยิน/สกุลลู่: เจ้าของหอโฉมสคราญ 'หงเหมย' และร้านค้าอีกหลายอย่าง อำนาจหลักคือ ข้อมูลข่าวสารและเครือข่ายสังคมชั้นสูง
หวังซูอิง (คุณหนูใหญ่ อายุ 16 ปี)
หวังซูเช่อ (คุณชายน้อย อายุ 10 ปี)
🏮 สกุลฮัว
ผู้อาวุโสฮัว: บิดาของฮัวเหอและหานเซวียน พ่อตาของหานเจี้ยน
ฮัวไท่ไท่: มารดาของฮัวเหอและหานเซวียน แม่ยายของหานเจี้ยน
ฮัวเหอ: พี่ชายของหานเซวียน / สามีของฮัวหลัน
ฮัวหลัน: ภรรยาของฮัวเหอ พี่สะใภ้ของหานเซวียน
ฮัวเจิ้งหรง: บุตรชายคนโตของฮัวเหอ (อายุ 30 ปี) เจ้ากรมกองคลัง (郎中) แห่งกรมพิธีการ
ฮัวหว่านหรู: บุตรสาวคนเล็กของฮัวเหอกับฮัวหลัน
หลี่ต้าเสียน: องครักษ์/คนคุ้มกันร่างกายกำยำสูงใหญ่ แข็งแกร่งเก่งกาจเรื่องการต่อสู้และการคุ้มกันความปลอดภัย
ซ่งโฮ่วหมิง: ผู้ช่วย/ผู้ติดต่อประสานงานร่างกายสมส่วน คล่องแคล่วว่องไวเชี่ยวชาญในการติดต่อประสานงานราชการและธุรการต่าง ๆ
📜 คำเตือนเกี่ยวกับลิขสิทธิ์ 📜
นิยายเรื่องนี้เป็นผลงานที่ได้รับความคุ้มครองตามพระราชบัญญัติลิขสิทธิ์ พ.ศ. 2537 และที่แก้ไขเพิ่มเติม ห้ามมิให้คัดลอก ดัดแปลง แก้ไข ทำซ้ำ เผยแพร่ หรือนำส่วนหนึ่งส่วนใดของเนื้อหาในหนังสือเล่มนี้ไปใช้เพื่อประโยชน์ทางการค้าโดยไม่ได้รับอนุญาตเป็นลายลักษณ์อักษรจากผู้เขียนโดยเด็ดขาด
การละเมิดลิขสิทธิ์ ไม่ว่าจะโดยเจตนาหรือไม่ก็ตาม ถือเป็นความผิดทางกฎหมาย ผู้กระทำผิดจะต้องรับผิดทั้งทางแพ่งและทางอาญา
สงวนสิทธิ์ทุกประการ
หากพบเห็นการละเมิดลิขสิทธิ์ กรุณาแจ้งผู้เขียนผ่านช่องทางที่กำหนด เพื่อดำเนินการตามสิทธิ์อันชอบธรรม
เพจ: ต้าซ้อ writer
📌 คำเตือนเนื้อหาและข้อชี้แจงสำคัญ (โปรดอ่านก่อนเริ่ม) 📌
นิยายเรื่องนี้เป็นงานเขียนแนวจินตนาการที่ ไม่มีการอ้างอิงถึงประวัติศาสตร์หรือบุคคลจริง โดยมีองค์ประกอบของตัวละครจากโลกปัจจุบันย้อนกลับไปยังยุคโบราณ ดังนั้น อาจมี ถ้อยคำ แนวคิด หรือสิ่งของที่ไม่สอดคล้องกับบริบททางประวัติศาสตร์ ปรากฏอยู่ในเรื่อง
เนื้อหาบางตอนอาจมีภาพของ ความรุนแรง การต่อสู้ การนองเลือด และการล่วงละเมิดทางเพศ ซึ่งไม่เหมาะสมสำหรับผู้อ่านที่มีอายุต่ำกว่า 18 ปี โปรดใช้วิจารณญาณอย่างสูงในการอ่าน
คำชี้แจงเพิ่มเติมเกี่ยวกับความอ่อนไหวของเนื้อหา
เนื้อหาในบางบทมีการกล่าวถึง ความโหดร้าย ทารุณกรรมทางร่างกายและจิตใจ รวมถึงการนำเสนอ ตัวละครที่มีภาวะทางสติปัญญาไม่สมบูรณ์
การนำเสนอตัวละครและฉากเหล่านี้ มีเจตนาเพื่อสะท้อนความไม่เป็นธรรมและความโหดร้ายของระบบครอบครัวและสังคมในยุคโบราณตามสมมติฐานของเรื่องเท่านั้น
ผู้เขียน ไม่มีเจตนาเหยียด ดูถูก หรือลดทอนคุณค่าของผู้มีภาวะพิเศษ หรือบุคคลใด ๆ ในความเป็นจริง ตัวละครและสถานการณ์ทั้งหมดเป็นเพียง "ตัวแสดงในบริบทของยุคสมัยและเรื่องราวสมมติ"
หากผู้อ่านรู้สึกไม่สบายใจกับฉากความรุนแรงหรือฉากที่ละเอียดอ่อนเหล่านี้ สามารถข้ามฉากไปได้โดยไม่กระทบต่อความเข้าใจหลักของเนื้อเรื่อง
ขอให้ผู้อ่านทุกท่านเสพเพื่อความบันเทิง และโปรดเคารพการใช้วิจารณญาณของตนเอง
ทันทีที่รถม้าจอดที่หน้าเรือนสกุลหาน ซือเหอก็รีบเปิดประตูรถแล้ววิ่งเข้าเรือนไปอย่างไม่คิดชีวิต ท่าทางที่เคยอิดโรยพลันกลับมามีพละกำลังอีกครั้ง เขามุ่งหน้าตรงไปยังห้องนอนใหญ่ของพี่สาว หวังจะเข้าไปกอดและหอมแก้มหลานสาวให้ชื่นใจแต่ทันทีที่เขาเดินเข้าใกล้ประตูห้อง ก็มีเสียงห้ามปรามดังขึ้นพร้อมกัน พ่อเฒ่าเสิ่น แม่เฒ่าหาน หยางเฉิง และแม้กระทั่งแม่เฒ่าฮัว ต่างก็ชี้มือมาที่เขาด้วยสีหน้าจริงจัง"หยุดเดี๋ยวนี้! ซือเหอ!" แม่เฒ่าหานกล่าวเสียงเข้ม นางทำจมูกฟุดฟิดด้วยความรังเกียจเล็กน้อย"ไปอาบน้ำให้สะอาดเสียก่อนลูก! เจ้าตัวเหม็นไปหมดแล้ว" พ่อเฒ่าหานกล่าวพลางหัวเราะอย่างขบขัน"เดี๋ยวกลิ่นเหงื่อกลิ่นควันเทียนจากตัวเจ้าจะไปติดหลานนะซือเหอ!" หยางเฉิงกล่าวอย่างเป็นห่วงซือเหอได้ยินดังนั้นก็อดที่จะยกมือขึ้นมาดมเสื้อผ้าตนเองไม่ได้ เขาหัวเราะออกมาอย่างขบขัน เพราะตอนนี้เขาตัวเหม็นจริง ๆ ราวกับแบกถังขยะมาด้วยสายตาของเขาถูกทอดมองไปยังหลานสาวตัวอ้วนที่อยู่ในอ้อมกอดของเจ้าแฝด อี้หมิงและอันหมิง ต่างพากันนั่งอยู่บนตั่งไม้ข้างเตียง อี้หมิงกำลังอุ้มประคองทารกน้อยไว้ด้วยความระมัดระวัง ส่วนอันหมิงก็นั่งเฝ้ามองน้องสาว
หลังจากการเขียนเรียงความเชิงนโยบายที่ยาวและหนักหน่วง ซือเหอและจางเหล่ยก็เริ่มเข้าสู่ข้อสอบถัดไป ซึ่งเป็น บทความแบบแปดส่วน และการตอบปัญหาบ้านเมือง ซึ่งต้องใช้ความรู้จากวรรณคดีขงจื๊อและปรัชญาโจทย์ข้อที่สอง "จงถอดความและวิจารณ์คำสอนของเมิ่งจื่อ: 'เมื่อราษฎรได้รับการดูแลอย่างดี ใครเล่าจะคิดก่อกบฏ?'"โจทย์ข้อที่สาม "ในฐานะผู้ดำรงตำแหน่งขุนนางท้องถิ่น ท่านจะมีแนวทางในการควบคุมและจัดการกับปัญหาความขัดแย้งระหว่างกลุ่มพ่อค้าขนาดใหญ่และชาวบ้านในเรื่องการใช้แหล่งน้ำร่วมกันได้อย่างไร?"เมื่อซือเหอและจางเหล่ยอ่านโจทย์ทั้งสองข้อ สีหน้าของทั้งคู่ก็ผ่อนคลายลงอย่างเห็นได้ชัดซือเหอซึ่งมีความรู้ด้านวรรณคดีที่แม่นยำ และมีประสบการณ์ตรงจากการค้าขายและการจัดสรรที่ดินของสกุลตนเอง ยกยิ้มเล็กน้อยจางเหล่ยก็พยักหน้าอย่างมั่นใจ เพราะข้อสอบเหล่านี้ไม่ได้ยากเกินความสามารถของพวกเขาเลย ความรู้ที่พวกเขาได้เรียนรู้มาจากซือหยาถูกจัดระบบและนำมาใช้ได้อย่างง่ายดายพวกเขาเริ่มเขียนตอบข้อสอบอย่างรวดเร็วและลื่นไหล พู่กันถูกตวัดลงบนกระดาษอย่างหนักแน่นและมั่นคง แต่หลังจากผ่านไปครึ่งวัน ปัญหาที่แท้จริงของการสอบก็เริ่มปรากฏชัด
สนามสอบหลวงซือเหอและจางเหล่ยมาถึง กงหยวน (贡院) ตามเวลาที่กำหนด พวกเขายืนอยู่ท่ามกลางกลุ่มบัณฑิตหลายร้อยคนที่แต่งกายด้วยชุดซิ่วไฉอย่างเรียบร้อย ใบหน้าของบัณฑิตทุกคนเต็มไปด้วยความตึงเครียดและหวาดหวั่น ไม่ใช่เพราะความยากของข้อสอบ แต่เป็นเพราะความทรมานของการอยู่ภายในห้องสอบตลอดสามวันสองคืนก่อนจะได้รับอนุญาตให้ก้าวเข้าสู่ประตูแรกของสนามสอบ เจ้าหน้าที่สนามสอบได้เรียกบัณฑิตเข้าแถวเพื่อทำการตรวจค้นอย่างละเอียดถี่ถ้วนที่เรียกว่า ซวนเซิน (悬身)"ถอดเครื่องแต่งกายออกให้หมด!" เสียงของเจ้าหน้าที่ผู้คุมสอบดังขึ้น ใบหน้าของเขาเคร่งขรึมและไม่แสดงความปรานีซือเหอและจางเหล่ยมองหน้ากันด้วยความรู้สึกอับอายเล็กน้อย ถึงจะมีฉากกั้นก็ไม่ช่วยอะไร พวกเขาจำต้องถอดเสื้อผ้าออกทีละชิ้น เจ้าหน้าที่ใช้มือลูบไล้ไปตามทุกตะเข็บของเสื้อผ้าและชุดชั้นในอย่างไม่ละเว้น พวกเขาแม้กระทั่งตรวจค้นก้นบึ้งของพู่กัน ปลายขนของแปรง ตรวจดูด้านในของกระดานไม้ และเคาะที่ก้นหินฝนหมึก เพื่อให้แน่ใจว่าไม่มีการซุกซ่อนโพยใด ๆ"นำอาหารออกมาวางเรียงบนโต๊ะ!" เจ้าหน้าที่อีกคนสั่ง พวกเขาตรวจดูอาหารแห้งอย่างละเอียด ผงโจ๊กของซือหยาก็ถูกเจ้าหน้าที่ล
ภายในห้อง ซือหยาถูกเปลี่ยนเสื้อผ้าและนอนพักอยู่บนเตียง ใบหน้าของนางยังคงดูอ่อนเพลีย แต่ดวงตาเต็มไปด้วยความอ่อนโยนและปีติ ร่างกายของนางถูกห่อหุ้มด้วยผ้าห่มหนาอย่างดี ข้าง ๆ เตียงมีเปลไม้ไผ่สานวางอยู่ ภายในเปลปูด้วยผ้าเนื้อดีนุ่ม ๆเด็กหญิงตัวน้อยนอนหลับตาพริ้มอยู่ในเปล ผิวของนางขาวสะอาดผุดผ่องราวกับหยก แก้มยุ้ย ๆ สีแดงระเรื่อของนางดูอวบอิ่มราวกับผลท้อแรกแย้ม เป็นทารกที่อ้วนท้วนสมบูรณ์และน่ารักน่าชังหยางเฉิงเดินไปที่เตียงเขาหยิบผ้าสะอาดที่มารดาเตรียมไว้มาเช็ดเหงื่อออกจากหน้าผากของภรรยาอย่างเบามือ"ลำบากเจ้าแล้ว... ซือหยา" น้ำเสียงของหยางเฉิงแหบพร่า แววตาของเขาเต็มไปด้วยความรู้สึกผิดและความซาบซึ้งใจ"ไม่ลำบากเจ้าค่ะท่านพี่ ข้าเต็มใจ... ว่าแต่ท่านพี่ตั้งชื่อให้ลูกรึยังเจ้าคะ" ซือหยาจับมือของสามีไว้ นางตอบด้วยรอยยิ้มที่อ่อนแรงแต่จริงใจหยางเฉิงหันไปมองเด็กหญิงตัวน้อยที่นอนอยู่ในเปล เขาเดินเข้าไปใกล้อีกนิด รอยยิ้มอ่อนโยนปรากฏบนใบหน้าคมคายของเขา"ตั้งแล้ว ให้นางชื่อ เสิ่นเยว่หมิง คล้องกับพี่ชายของนาง... เยว่หมิงลูกพ่อ" เขายื่นมือไปเกลี่ยแก้มยุ้ยของลูกสาวเบา ๆ ด้วยความรักใคร่ "...""พ่อค











