Share

บทที่ 109

Author: หว่านชิงอิ๋น
ลั่วชิงยวนก้าวไปข้างหน้าอย่างมั่นคง ก่อนพบเทียนเล่มหนึ่งในห้องนางจึงจุดจนมันสว่างไปทั่ว

ฉะนั้นแล้วในห้องรับรองแขกอันยิ่งใหญ่แห่งนี้ มีเพียงแสงเทียนเล่มนี้เพียงอย่างเดียว

ท่ามกลางความมืดดังกล่าว มีไฟดวงน้อย ๆ สว่างขึ้น มันเป็นดั่งเป้าสายตาท่ามกลางความมืดมิดในยามกลางคืน

ลั่วชิงยวนไม่ได้ปิดประตู นางคลายผ้าห่มออกแล้วล้มตัวลงนอน

ตั้งแต่วินาทีแรกที่นางก้าวเข้าไปในห้องแห่งนี้ เข็มทิศก็สั่นไม่หยุด ที่นี่เต็มไปด้วยความชั่วร้ายและความโกรธแค้น!

ข้างนอกเกิดลมพัดแรงอย่างอธิบายไม่ได้ มันทำให้ใบไม้ในลานบ้านส่งเสียงกรอบแกรบ คล้ายกับเสียงหัวเราะอันน่าสะพรึงกลัว “วะ ฮ่า ฮ่า"

ทันใดนั้นก็มีลมพัดแรง กระแทกมาที่ประตู

เข็มทิศในมือของลั่วชิงยวนหมุนอย่างเงียบ ๆ ขณะที่ลมเข้าปะทะประตูอย่างแรง จนมันเปิดออก

ลมกระโชกแรงขึ้นและพัดไปทั่ว

ประตูลั่นดังเอี๊ยดอ๊าดและกระแทกปึงปัง

นางยังคงปลอดภัยในห้องรับรองแขกเล็ก ๆ ของนาง

ไม่ว่าวิญญาณชั่วร้ายจะแข็งแกร่งแค่ไหนก็ไม่มีวิญญาณชั่วร้ายตนใดบุกเข้ามาในห้องได้

นางสัมผัสได้ว่า วิญญาณร้ายเหล่านั้นรวมตัวกันอยู่รอบห้องของนาง และล้อมรอบนางเอาไว้

ลั่วชิงยวนหลับตาและพักผ่อ
Continue to read this book for free
Scan code to download App
Locked Chapter

Related chapters

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 110

    แต่ก็เป็นเรื่องปกติที่ลั่วหรงจะไม่ยอมออกไปไหน ลั่วชิงยวนจับลั่วอวิ๋นสี่เอาไว้อย่างรวดเร็ว กัดนิ้วของนางแล้ววาดอักขระบนหน้าผากของลั่วอวิ๋นสี่อย่างรวดเร็ว ก่อนที่วิญญาณอาฆาตที่อยู่โดยรอบจะค่อย ๆหายไปลั่วชิงยวนใช้โอกาสนี้แกะมือของลั่วอวิ๋นสี่ และในที่สุดนางก็คลายมือออกจากลำคอของตนรอยฝ่ามือสีเข้มที่คอทำให้ดูน่ากลัวนัก!ลั่วหรงที่คิดว่าตนเคยเห็นลมกระโชกแรงเช่นนี้มาหลายครั้ง และไม่เคยหวาดกลัวต่อสิ่งใด ในตอนนี้กลับหน้าซีดและแทบจะสิ้นสติเมื่อได้เห็นบุตรสาวของตนเป็นเช่นนี้ หัวใจของนางก็แทบจะสลายแต่ทว่าลั่วชิงยวนยังคงสงบและนิ่งเฉย หลังจากขับไล่วิญญาณชั่วร้ายที่อยู่รอบตัวไปได้แล้ว นางก็รีบหยิบยันต์ออกมา เผาน้ำ แล้วป้อนให้ลั่วอวิ๋นสี่ดื่มอาการตาเหลือกและฟองในปากของนางค่อย ๆ หายไปนางค่อย ๆ กลับมาสงบและล้มตัวลงนอนกับพื้น“รีบพานางกลับห้องเร็วเข้า!”ดวงตาของลั่วหรงแดงกำ และนางก็รีบเรียกคนสองสามคนให้พาลั่วอวิ๋นสี่กลับไปที่ห้องอย่างร้อนรนในขณะที่ลั่วหรงกำลังจะจากไป นางเหลือบมองลั่วชิงยวนอย่างลังเล "แล้วเจ้าล่ะ!"ลั่วชิงยวนเตะโต๊ะพิธีและแท่นบูชาแล้วเอ่ยขึ้นว่า "พวกท่านไปกันก่อนเถิด เด

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 111

    แม่ของนางคิดจะทำอะไรบางอย่างกับนางจริง ๆ ด้วย เช่นนี้แล้วลั่วอวิ๋นสี่จะไม่หนีจากเรื่องบ้า ๆ และอันตรายถึงชีวิตไปได้อย่างไรคำพูดเหล่านี้ทำให้ใบหน้าของลั่วหรงมืดลงเล็กน้อย มือของนางกำแขนเสื้อของตนเอาไว้โดยไม่รู้ตัว "ข้ามิได้ตั้งใจจะทำร้ายนาง!"ลั่วชิงยวนจึงใช้โอกาสในสถานการณ์นี้เอ่ยถามออกไปว่า "ฮูหยินลั่ว ท่านต้องการที่จะอัญเชิญวิญญาณของคุณชายให้มาสิงร่างของลั่วอวิ๋นสี่ แล้วให้เขาไปพบกับมหาราชครูลั่วเพื่อแก้ไขปมที่ติดอยู่ในใจของมหาราชครูลั่วมาหลายปีแล้วใช่หรือไม่?"เมื่อได้ยินคำถามนี้ ลั่วหรงก็ดูตกใจและมองคู่สนทนาด้วยความไม่เชื่อ "เจ้า… เจ้ารู้ได้เยี่ยงไร!"ลั่วชิงยวนรู้ตื้นลึกหนาบางถึงเพียงนี้ได้อย่างไร?!นางเป็นใครกันแน่?นางเป็นบุตรสาวของลั่วไห่ผิงจริง ๆ หรือ?ลั่วชิงยวนยังคงยิ้มอย่างสงบ และการแสดงออกที่สงบของนางก็ทำให้นางดูลึกลับขึ้นมาก“อย่างที่ข้าบอกท่าน คนผู้นั้นคงจะไปเกิดใหม่นานแล้ว ไม่เพียงแต่ท่านจะไม่อาจอัญเชิญวิญญาณของเขามาได้เท่านั้น แต่ท่านยังได้ดึงดูดบางสิ่งที่เลวร้ายเข้าไปในร่างกายของหลัวอวิ๋นสี่อีกด้วย”ลั่วชิงยวนอธิบายสั้น ๆ ถึงสาเหตุและผลกระทบของเหตุการณ์ก่อนห

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 112

    "ที่ข้าบอกเรื่องนี้กับเจ้า เพราะหวังว่าเจ้าจะเข้าใจความคิดความอ่านของคนในครอบครัวข้า!""แม้ว่าเจ้าจะมาที่นี่เพื่อวิ่งเต้นเรื่องในราชสำนักให้ลั่วไห่ผิง หรืออยากจะมาเป็นตัวแทนฟื้นฟูความสัมพันธ์ระหว่างสองครอบครัว ข้าก็ขอแนะนำเจ้าว่า อย่ามัวมาเสียเวลาเลยจะดีกว่า!"น้ำเสียงของลั่วหรงหนักแน่นเป็นพิเศษ "ครอบครัวของเราไม่มีทางยอมรับลั่วไห่ผิง!"หลังจากได้ยินสิ่งนี้ ลั่วชิงยวนก็ถอนหายใจด้วยความโล่งอก เป็นเพราะเรื่องพวกนี้เองนางลดสายตาลงและยกยิ้มขมขื่น "ท่านอากังวลเกินไปจริง ๆ พ่อของข้า... เกลียดข้า และไม่ยอมให้ข้าไปร่วมงานฉลองวันเกิดของท่านมหาราชครูด้วยซ้ำ เขาคิดว่า การที่ข้าอ้วนและมีใบหน้าอัปลักษณ์ จะทำให้เขาต้องอับอาย นั่นเป็นเหตุผลที่ทำให้… ข้าอยากเข้ามาที่จวนมหาราชครูถึงขนาดนี้”คำพูดที่ตรงไปตรงมาของนางทำให้ลั่วหรงตกใจไม่น้อยขณะมองไปที่ลั่วชิงยวน คิ้วของนางก็ยิ่งขมวดแน่นขึ้น "ลั่วไห่ผิงสนใจแต่ชื่อเสียงและเงินทองของตนเท่านั้น นี่แหละคือเขา!"หลังจากเข้าใจเหตุผลแล้วลั่วหรงก็รู้สึกเห็นใจลั่วชิงยวนขึ้นเล็กน้อย“เจ้าถึงได้ยอมออกเรือนเพื่อหลีกหนีจากท่านพ่อของเจ้าอย่างนั้นหรือ?” ลั่วหรงค

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 113

    มันแปลกเกินไป“ท่านอา ข้าขอไปเจอท่านปู่รองได้หรือไม่?” ลั่วชิงยวนถามลั่วหรงคิดอยู่ครู่หนึ่งแล้วพูดว่า "พรุ่งนี้ค่อยว่ากันเถอะ คืนนี้ดึกเกินไปแล้ว" "ได้เจ้าค่ะ"จากนั้น ลั่วชิงยวนก็ตรวจชีพจรของลั่วอวิ๋นสี่ ก่อนเขียนเทียบยาแล้วส่งให้ลั่วหรง ลั่วหรงรู้สึกประหลาดใจมาก "ข้าไม่คิดเลยว่าเจ้าจะมีทักษะทางการแพทย์กับเขาด้วย"ลั่วหรงส่งใบสั่งยาให้หลินอวี้เวยทันทีและขอให้นางไปจัดการเรื่องนี้ลั่วชิงยวนหันไปมองนางรับใช้ที่ออกไปพร้อมกับใบสั่งยา มีรอยรองเท้าเปียกหลงเหลืออยู่บนพื้นสองสามรอยน่าแปลกเสียจริง ช่วงนี้มีแดดจัดและไม่มีฝนเลยแม้แต่น้อยแล้วทำไมถึงมีรอยเท้าเปียกเช่นนี้?แต่นางก็คิดว่านางรับใช้คนนี้คงไปทำงานที่สวนด้านหลังจวนจึงอาจทำให้เท้าเปียกได้“ท่านอาเจ้าคะ สิ่งของอาถรรพ์ในบ้านยังกำจัดไม่หมดเลยเจ้าค่ะ ทางที่ดี ท่านควรเตรียมโกฐจุฬาลัมพาให้มากหน่อย และทำความสะอาดเรือนให้เรียบร้อยเพื่อขจัดสิ่งชั่วร้ายออกไป พรุ่งนี้ข้าจะจัดการให้และจะนำสิ่งเหล่านั้นออกไปทิ้งให้เร็วที่สุด ธงอัญเชิญวิญญาณทั้งที่ใช้ไปแล้วและยังไม่ได้ใช้จะต้องถูกเผาทิ้ง ขี้เถ้าจากธงอัญเชิญวิญญาณจะต้องถูกผลึกเอาไว้ในขวด

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 114

    มีภาพวาดแขวนอยู่บนผนังตรงทางเข้าด้านหน้า มันเป็นภาพเหตุการณ์เพลิงไหม้รุนแรง ยังประกอบไปด้วยสตรีและเด็กอยู่ในภาพนั้น ก่อนจะมีเสียงกรีดร้องดังขึ้นพวกเขาพยายามดิ้นรนหลบหนี แต่ก็ไม่อาจหนีจากเพลิงที่โหมกระหน่ำมาได้เมื่อหนีไม่ทัน พวกเขาจึงต้องตายในเปลวเพลิง“น้องหญิงชิงยวน?”เมื่อเห็นว่านางตะลึงไป ลั่วหลางหลางก็เอ่ยเรียกจากนั้นลั่วชิงยวนก็กลับมามีสติอีกครั้ง และยิ่งมองเข้าไปใกล้มากขึ้น ภาพวาดนั้นก็แสดงให้เห็นภาพของสตรีกิริยาอ่อนโยนกำลังอุ้มเด็กเอาไว้ผู้คนในภาพดูคล้ายจะมีชีวิตอยู่อย่างไร้กังวลลั่วชิงยวนขมวดคิ้วโดยไม่รู้ตัวหลังจากที่ลั่วหลางหลางเข้าไปในห้อง ลั่วชิงยวนก็ยิ่งตกใจมากขึ้นไปอีก ทั้งห้องเต็มไปด้วยภาพวาดที่คล้ายกันมีทั้งรูปเดี่ยวของสตรีและรูปเดียวของเด็กแขวนอยู่ด้วยจะเห็นได้ว่า ภาพวาดเหล่านี้ไม่ได้ถูกวาดโดยศิลปินคนเดียวกันทั้งหมด อีกทั้งมันยังมีรูปแบบการวาดที่แตกต่างกันอีกด้วย และแน่นอนว่าภาพวาดบุคคลเหล่านี้ถูกวาดตามคำอธิบายของมหาราชครูลั่ว นั่นก็เพราะว่าเขามีภาพวาดในลักษณะที่คล้ายคลึงกัน แต่ให้ความรู้สึกราวกับเป็นคนละคนเกือบทั้งห้องถูกรายล้อมไปด้วยภาพบุคคลและสิ

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 115

    ลั่วหลางหลางรู้ว่าเกิดอะไรขึ้นกับลั่วชิงยวน ครั้นยังวัยเยาว์พวกนางมีความสัมพันธ์ที่ดีต่อกัน แม้ว่าแม่ของพวกนางจะไม่ยอมให้พวกนางคบหากัน แต่พวกนางก็จะได้พบกันโดยบังเอิญในโอกาสพิเศษบางอย่างและจะได้เล่นด้วยกันเสมอหลังจากที่ลั่วชิงยวนป่วยและมีรูปร่างอวบอ้วนขึ้น พวกนางก็ไม่ได้ติดต่อกันอีกเลยนั่นเพราะลั่วชิงยวนไม่ยอมออกมานอกจวน“ถ้าท่านปู่รองได้รับรู้ถึงอาการของอวิ๋นสี่ เขาจะต้องกังวลและเศร้าโศกเป็นแน่ อีกทั้งเขาทำเรื่องพวกนี้ก็เพราะต้องการอัญเชิญวิญญาณของคนที่เขารัก ทั้งจะทำให้เขาตำหนิตัวเองเปล่า ๆ เช่นนั้นเราอย่าได้บอกเรื่องนี้กับท่านปู่จะดีกว่า"เมื่อได้ยินคำพูดของลั่วชิงยวน ดวงตาของลั่วหลางหลางก็เป็นประกายขึ้น นางพยักหน้าและพูดด้วยรอยยิ้ม "เจ้านี่คิดได้รอบคอบทีเดียว"“น้องหญิงชิงยวน ยังฉลาดเหมือนตอนเด็กไม่มีผิด!”ในช่วงหลายปีที่ผ่านมา ผู้คนข้างนอกต่างหัวเราะเยาะลั่วชิงยวน ด่าว่าลั่วชิงยวนว่าเป็นหมู นางรวบรวมความกล้าโต้เถียงกับพวกคนเหล่านั้นอยู่หลายครั้ง แต่ก็ยังถูกรังแกอย่างน่าสังเวชอยู่ดีนางไม่อาจปกป้องลั่วชิงยวนได้ และรู้สึกเสียใจทุกครั้งที่คิดถึงเรื่องนี้ทันทีที่ได้เห็นนางว

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 116

    ลั่วหรงเข้ามาฟังลั่วชิงยวนกระซิบหลังจากได้ยินสิ่งนี้ ดวงตาของลั่วหรงเป็นประกาย "เจ้าทำเช่นนั้นได้จริงหรือ?”“เชื่อข้าเถิด” ลั่วชิงยวนยิ้มและพยักหน้าอย่างมั่นคงลั่วหรงคิดว่า ตนไม่ใช่คนประเภทเชื่อใจใครง่าย ๆ ยังไม่รวมว่านางเพิ่งกลับใจได้เมื่อคืน และไม่รู้เลยว่าอะไรเป็นอะไรแต่เมื่อได้เห็นท่าทางมั่นใจของลั่วชิงยวน นางก็รู้สึกว่ามันน่าเชื่อถืออย่างอธิบายไม่ถูก“เอาล่ะ ข้าขอโทษที่รบกวนเจ้า! หากมันได้ผลจริง ข้าจะขอบคุณเจ้ามาก!” ลั่วหรงยกแขนขึ้นและโค้งคำนับลั่วชิงยวนช่วยพยุงนางไว้และพูดว่า "ท่านอา ข้าเต็มใจช่วย เพราะการช่วยท่าน ข้าก็เหมือนได้ช่วยตัวข้าเองด้วย"ว่ากันตามตรง การให้ความช่วยเหลือแก่พวกเขาก็ถือเป็นประโยชน์ของตัวนางเองด้วยสิ่งนี้ทำให้ลั่วหรงรู้สึกชอบลั่วชิงยวนขึ้นอีกเล็กน้อยอาจกล่าวได้ว่า ลั่วชิงยวนไม่ได้ประสงค์ร้ายอะไร จุดประสงค์ของนางค่อนข้างชัดเจน แล้วไม่ได้ทำให้ใครเดือดร้อน ทั้งยังสามารถสัมผัสได้ถึงความจริงใจของนางอีกด้วยลั่วชิงยวนบอกกับพวกนางถึงสิ่งที่ต้องระวังเป็นพิเศษ และวิธีจัดการกับสิ่งที่เรียกว่าวิญญาณร้ายเหล่านั้นก่อนที่นางจะเดินทางออกจากจวนมหาราชครูไป

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 117

    ทันใดนั้นก็มีเสียงอันสง่างามดังมาจากด้านหลัง“เมื่อคืนนี้ พระชายาอยู่ที่จวนของหม่อมฉันจริง ๆ เพคะ!”ลั่วชิงยวนหันหลังกลับไปมองและเห็นลั่วหรงเดินมาอย่างช้า ๆ โดยมีนางรับใช้อยู่เบื้องหลังนางหลายคน ในมือนางถือถุงผ้าเอาไว้นางจึงอดไม่ได้ที่จะประหลาดใจเล็กน้อยฟู่เฉินหวนเองก็ประหลาดใจเช่นกันเมื่อเห็นผู้มาเยือน และสุภาพขึ้นกว่าเก่า "ฮูหยินลั่ว"ฮูหยินลั่วหรงสาวเท้าเข้ามาด้วยรอยยิ้มบนใบหน้า นางเหลือบมองลั่วชิงยวนแล้วพูดว่า "ชิงยวนช่วยหม่อมฉันได้มากทีเดียว แถมหม่อมฉันยังไม่มีเวลาได้ขอบคุณเลยด้วยซ้ำ เพราะมาคิด ๆ ดูแล้ว หม่อมฉันรู้สึกว่า มันไม่เหมาะสม หม่อมฉันจึงตั้งใจนำโอสถมาให้นาง”ลั่วหลางหลางย้ำเตือน ลั่วชิงยวนเคยป่วยหนักมาก่อน เพราะเหตุนี้นางถึงได้เป็นสตรีอ้วนหน้าตาอัปลักษณ์จวนของนางมีเครื่องยาสมุนไพรมากที่สุด เพราะใครต่อใครต่างก็มอบของกำนัลมาให้ทุกปี จวนของนางไม่เคยรับของเหล่านั้นไว้เนื่องจากมันมีมูลค่ามากเกินไป เมื่อเวลาผ่านไปคนเหล่านั้นจึงเปลี่ยนมามอบเครื่องยาสมุนไพรแทน พวกเขาบอกว่าให้ใช้เพื่อรักษาโรคและบำรุงสุขภาพของมหาราชครู เช่นนั้นของขวัญเหล่านั้นจึงไม่ถูกปฏิเสธแม้ว่านางจะไ

Latest chapter

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 1422

    ร่างที่ไร้ศีรษะร่างหนึ่งถือกระบี่เดินเข้ามาหาลั่วชิงยวน โซ่เหล็กด้านหลังลากคนสามคนไว้แม้จะออกแรงสุดกำลังแล้วก็ยังฉุดรั้งโหยวจิ้งเฉิงไว้มิได้แต่ร่างของโหยวจิ้งเฉิงในตอนนี้ไม่มีศีรษะแล้ว ยากที่จะควบคุมร่างกายได้ลั่วชิงยวนถือกระบี่เงื้อฟันไปยังร่างของฝูเหมิ่ง เช่นเดียวกับตอนที่โหยวจิ้งเฉิงตัดแขนขาของอวี๋ตันเฟิ่งนางกำลังแก้แค้นและระบายความแค้นอย่างบ้าคลั่งตัดแขนของเขาขาดทีละข้างกระบี่ห้วงสวรรค์ร่วงลงสู่พื้นไปพร้อมกับแขนจากนั้นขาทั้งสองข้างของเขาก็ขาดกระเด็นอวี๋ตันเฟิ่งอาละวาดแก้แค้นอย่างบ้าคลั่งเมื่อมองไปยังซากศพที่กองอยู่บนพื้น ดวงตาของลั่วชิงยวนก็ราวกับถูกย้อมไปด้วยสีแดงฉานใต้หล้าเต็มไปด้วยกลิ่นคาวเลือดทั้งสามที่อยู่มิไกลต่างตกตะลึงมิเคยเห็นฉากที่นองเลือดเช่นนี้มาก่อนแต่ถึงแม้ร่างกายจะแหลกละเอียด โหยวจิ้งเฉิงก็ยังมิตายทันใดนั้นมีร่างหนึ่งพุ่งออกมาจากซากศพ แล้วลอยละลิ่วไปอวี๋ตันเฟิ่งกรีดร้องแหลม “โหยวจิ้งเฉิง เจ้าอย่าหวังว่าจะหนีไปไหนได้อีก! ข้าจะทำให้เจ้ามิได้ผุดได้เกิด!”พลังในร่างของนางพลันเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว เกิดเป็นลมพายุโหมกระหน่ำ ลั่วชิงยวนรู้สึกราว

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 1421

    ใบหน้านั้นบ่งบอกชัดเจนว่าเป็นโหยวจิ้งเฉิง“ต่อไปก็ถึงตาพวกเจ้าแล้ว” เขาเอ่ยด้วยเสียงแหบแห้งเย็นเยือกโฉวสือชีกำกระบี่ในมือแน่น ปกป้องคนใบ้และอวี๋โหรวไว้ส่วนลั่วชิงยวนค่อย ๆ ก้าวเท้าไปข้างหน้าในดวงตาค่อย ๆ ก่อเกิดจิตสังหารนางหลับตาลง แล้วกล่าวว่า “อวี๋ตันเฟิ่ง ไปแก้แค้นของเจ้าเถิด”ลั่วชิงยวนมอบร่างของตนให้อวี๋ตันเฟิ่งโดยสมบูรณ์เมื่อลืมตาขึ้นอีกครั้ง ใบหน้าของนางยังคงเป็นใบหน้าเดิม เพียงแต่แววตานั้นกลับดุดันยิ่งนัก ดวงตาสีแดงก่ำเต็มไปด้วยความแค้นเสียงของอวี๋ตันเฟิ่งดังขึ้น “โหยวจิ้งเฉิง ความแค้นระหว่างข้ากับเจ้า วันนี้ถึงคราวสะสางแล้ว”“สิบกว่าปีที่ผ่านมา ข้าคิดอยู่ตลอดเวลาว่าจะฉีกร่างเจ้าเป็นชิ้น ๆ อย่างไรถึงจะสาสมกับความแค้นในใจข้า”“แต่คาดมิถึงว่าเจ้าจะตายไปแล้ว”“แต่ก็มิเป็นไร วันนี้ข้าจะฉีกร่างเจ้าให้เป็นชิ้น ๆ ให้ได้!”เมื่อกล่าวจบ ลั่วชิงยวนก็กระโจนเข้าไปเสียงอาวุธปะทะกันอย่างรุนแรงดังขึ้นแต่ในเวลานี้เอง โหยวจิ้งเฉิงก็พุ่งไปยังกำแพง คว้ากระบี่ห้วงสวรรค์มาได้ จากนั้นกระโจนออกนอกห้องไปอวี๋ตันเฟิ่งรีบไล่ตามไปสีหน้าคนใบ้เปลี่ยนไป กระบี่ห้วงสวรรค์! หากฝูเหมิ่ง

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 1420

    ต่งอวิ๋นซิ่วตกใจจนหน้าซีดเผือด รีบยกมือขึ้นมาป้องกัน แล้วต่อสู้กับฝูเหมิ่งแต่พลังในตอนนี้ของต่งอวิ๋นซิ่วเทียบกับฝูเหมิ่งแล้วยังอ่อนแอกว่ามากนักสุดท้ายก็ถูกฝูเหมิ่งบีบคอไว้แน่นลั่วชิงยวนเห็นชัดเจนว่าในร่างของฝูเหมิ่งตอนนี้คือโหยวจิ้งเฉิง!เขาเป็นบ้าไปแล้วหรือ? เขาจะฆ่าต่งอวิ๋นซิ่วภรรยาของตนหรือ?เมื่อเห็นดังนั้น โหยวเซียงก็ชักกระบี่พุ่งเข้าไปหมายจะช่วยต่งอวิ๋นซิ่ว แต่ฝูเหมิ่งกลับมิหลบเลยแม้แต่น้อย ปล่อยให้กระบี่ในมือนางแทงทะลุร่างจากนั้นฝูเหมิ่งก็ฟาดมือไปทีหนึ่ง โหยวเซียงจึงกระเด็นปลิวไปโหยวเซียงกระอักเลือดออกมาต่งอวิ๋นซิ่วร้อนใจยิ่งนัก “เซียงเอ๋อร์ มิต้องสนใจแม่ รีบหนีไป!”โหยวเซียงจะทนมองดูมารดาของตนถูกฆ่าได้อย่างไร นางพยายามลุกขึ้นมาสู้ต่อแต่ฝูเหมิ่งกลับมองโหยวเซียงอย่างดุดัน แล้วกล่าวขู่ “คนที่ข้าต้องการฆ่ามีเพียงต่งอวิ๋นซิ่วเท่านั้น เจ้าจงหลีกไป”“มิเช่นนั้นอย่าหาว่าข้ามิเห็นแก่ความเป็นพ่อลูก”เมื่อได้ยินดังนั้น โหยวเซียงก็ตกใจจนยืนอึ้งไปกับที่ แล้วกล่าวเสียงสั่นเครือ “พ่อ… พ่อลูกหรือ?”ตอนนี้เสียงของฝูเหมิ่งก็มิใช่เสียงของฝูเหมิ่งอีกต่อไปแล้วเมื่อต่งอวิ๋นซิ่ว

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 1419

    ขณะนี้เอง โหยวเซียงก็ฉวยโอกาสหลบหนีจากมือของลั่วชิงยวนไปได้ต่งอวิ๋นซิ่วมองพวกเขาอย่างเย็นชา “ในเมื่อมาถึงที่นี่แล้วก็เตรียมตัวตายได้เลย!”ทันใดนั้นบนคานเรือนก็ปรากฏชายชุดดำจำนวนมากพร้อมถือหน้าไม้เล็งมาที่พวกเขาลูกดอกอันคมกริบประกายแสงเย็นลั่วชิงยวนยกยิ้มมุมปาก หัวเราะอย่างเย็นชา “ดูเหมือนว่าเจ้าจะเตรียมการมาอย่างดี ตอนนี้พวกข้าคงหนีออกจากห้องนี้ไปมิได้แล้วใช่หรือไม่?”ลั่วชิงยวนสังเกตประตูห้อง รวมถึงผนังห้องทุกด้าน แล้วพบว่ามีกลไกบนประตูเหนือศีรษะ ต่งอวิ๋นซิ่วหัวเราะเบา ๆ “แน่นอน นี่คือห้องกลไกที่สร้างขึ้นมาเพื่อรับมือพวกเจ้าที่บุกรุกเข้ามาบนเขา”“วันนี้พวกเจ้าอย่าหวังว่าจะได้ออกไปแม้แต่คนเดียว!”ลั่วชิงยวนจับกระบี่ห้วงสวรรค์แน่นแล้วพุ่งไปที่กลไกจุดหนึ่งบนผนังห้อง ฟาดฟันกระบี่ลงไปอย่างแรงต่งอวิ๋นซิ่วรีบดึงโหยวเซียงหลบหลีกไปแต่ใครเล่าจะรู้ว่าลั่วชิงยวนมิได้โจมตีพวกนาง แต่กลับฟันกลไกบนผนังห้องทำให้ประตูห้องลงกลอนอย่างสมบูรณ์เมื่อเห็นเช่นนั้น ต่งอวิ๋นซิ่วก็หัวเราะเยาะ “เจ้าช่างรนหาที่ตายยิ่งนัก”ลั่วชิงยวนยกยิ้มอย่างมีความหมาย “เช่นนั้นรึ? ยังมิรู้เลยว่าใครกันแน่ที่จะ

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 1418

    ร่างที่เดินออกมาจากฝูงชนนั้นมีท่าทางคุกคามยิ่งนักลั่วชิงยวนหรี่ตาลงเล็กน้อย นั่นคือสตรีที่นางเห็นในความทรงจำของอวี๋ตันเฟิ่งต่งอวิ๋นซิ่ว!โหยวเซียงดิ้นรนพลางเงยหน้ามองต่งอวิ๋นซิ่วด้วยดวงตาแดงก่ำ “ท่านแม่… เป็นความผิดของลูกเองที่ปล่อยให้พวกมันขึ้นเขามาได้”หากมิใช่เพราะลั่วชิงยวนรู้ทางลับของวัดร้างแห่งนั้น พวกนางคงไม่มีทางขึ้นเขามาได้ง่ายดายถึงเพียงนี้!ต่งอวิ๋นซิ่วมองด้วยความเจ็บปวดแล้วตวาดใส่ลั่วชิงยวน “ปล่อยลูกสาวข้าเดี๋ยวนี้! มิเช่นนั้นข้าจะทำให้พวกเจ้าตายเยี่ยงไร้ที่ฝัง!”ลั่วชิงยวนหัวเราะเบา ๆ แล้วพูดด้วยน้ำเสียงดูถูกเหยียดหยาม “เมื่อคืนยังพยายามทำลายวิญญาณที่เหลือของอวี๋ตันเฟิ่งอยู่เลย วันนี้เจ้าลืมไปแล้วหรือว่าศัตรูของเจ้าคือใคร?”“ใครกันแน่ที่จะตายแบบไร้ที่ฝัง ยังบอกมิได้หรอก”เมื่อได้ยินดังนั้น ต่งอวิ๋นซิ่วก็สะดุ้งเฮือก สีหน้าเปลี่ยนไปอย่างมากท่าทางของนางดูตึงเครียดขึ้นมาอย่างเห็นได้ชัด แต่ก็ยังพยายามซ่อนไว้ได้ดีนางมองลั่วชิงยวนอย่างใจเย็น แล้วกล่าวว่า “ในเมื่อพวกเจ้ามาถึงเมืองแห่งภูตผี ก็คงต้องการของล้ำค่าของเมืองแห่งภูตผีสินะ”“พวกเจ้าอยากได้อะไร ข้าสามารถให้เจ

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 1417

    นางปฏิเสธอย่างหนักแน่นลั่วชิงยวนกลับยกยิ้มอย่างพึงพอใจแล้วค่อย ๆ ลุกขึ้น “พานางไปด้วย ไปวัดร้าง!”พวกเนางมุ่งหน้าไปทางทิศใต้ โหยวเซียงดิ้นรนตลอดทาง แต่โฉวสือชีและคนใบ้จ้องมองทุกการกระทำของนางอย่างใกล้ชิด มิเปิดโอกาสให้นางหลบหนีไปได้แม้แต่น้อยเมื่อเดินไปได้ไกลมากพอสมควร เสียงไก่ขันยามรุ่งอรุณก็ดังขึ้นแล้วในที่สุดพวกเขาก็มาถึงวัดร้างแห่งนั้นในวัดร้างมีพระพุทธรูปที่เป็นซากปรักหักพังล้มลงบนพื้น ดูเหมือนว่าที่นี่จะไม่มีใครมานานแล้วเมื่อมองหาอย่างละเอียดก็พบรอยเท้าบนพื้นลั่วชิงยวนมั่นใจยิ่งขึ้น นี่คือสถานที่ที่ถูกต้อง!โหยวเซียงจ้องมองทุกการกระทำของลั่วชิงยวนอย่างกระวนกระวาย เกรงว่าลั่วชิงยวนจะพบกลไกเข้าแต่ลั่วชิงยวนกลับสังเกตปฏิกิริยาของโหยวเซียง ค่อย ๆ เดินไปในแต่ละที่โดยอาศัยการสังเกตปฏิกิริยาโหยวเซียงสุดท้ายลั่วชิงยวนจึงเพ่งเล็งไปที่ผนังด้านหนึ่งแล้วเริ่มค้นหากลไกเสียงเปิดกลไกดังแกร๊กดังขึ้นประตูบานหนึ่งบนพื้นพลันเปิดออกหลังจากที่ลั่วชิงยวนเปิดประตูแล้วก็พบว่าด้านล่างยังมีประตูอีกบานหนึ่ง และบนนั้นก็มีกลไกเช่นกันแต่สำหรับลั่วชิงยวนแล้วเรื่องนี้ง่ายมากเมื่อประต

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 1416

    “เจ้ารีบอะไรนักหนา รอมาตั้งนานแล้ว รออีกสักหน่อยจะเป็นกระไร”เมื่อได้ยินดังนั้น อวี๋ตันเฟิ่งก็หยุดมือลั่วชิงยวนเดินเข้าไปคว้าตัวโหยวเซียงไว้ให้โฉวสือชีมัดนางไว้แน่นหนา จากนั้นจึงปลุกโหยวเซียงให้ฟื้นขึ้นมาเมื่อฟื้นคืนสติ โหยวเซียงก็จ้องหน้าลั่วชิงยวนเขม็งอย่างโกรธแค้น “เจ้ากล้าจับข้า เจ้าคอยดูเถอะว่าจะตายอย่างไร!”ลั่วชิงยวนย่อตัวลงนั่งตรงหน้านาง แล้วหัวเราะเบา ๆ “ใช่แล้ว ใครจะกล้าแตะต้องคุณหนูใหญ่เมืองแห่งภูตผีเล่า”“น่าเสียดาย เมืองแห่งภูตผีแห่งนี้ บิดามารดาของเจ้าไปปล้นเขามา มิใช่ของพวกเขามาแต่เดิม ย่อมมิใช่ของเจ้าเช่นกัน”“ถึงเวลาคืนเจ้าของตัวจริงแล้ว”โหยวเซียงจ้องเขม็งนางอย่างโกรธแค้น “เจ้าพูดจาเหลวไหลอะไร! เมืองแห่งภูตผีแห่งนี้เป็นของบิดามารดาข้ามาแต่เดิม!”เมื่อได้ยินดังนั้น ลั่วชิงยวนก็ประหลาดใจ “หรือว่าต่งอวิ๋นซิ่วมิได้บอกความจริงแก่เจ้า”“ก็ถูกแล้ว เรื่องน่าอับอายเช่นนี้ นางจะบอกลูกสาวได้อย่างไร”“เมืองแห่งภูตผีแห่งนี้มิใช่เพียงถูกบิดามารดาเจ้ายึดมาเท่านั้น แต่ยังใช้วิธีการที่น่ารังเกียจในการยึดครองด้วย!”“เดาว่าจนถึงตอนนี้เจ้าก็คงยังมิรู้เลยว่าศัตรูของเจ้าคือผ

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 1415

    โหยวเซียงกัดฟันพูดด้วยน้ำเสียงเย็นเยียบลั่วชิงยวนมองไปที่อวี๋โหรว หลายวันมานี้อวี๋โหรวผอมซูบไปมาก“เจ้าจับตัวอวี๋โหรวมาเพื่อล่อข้ามาที่นี่รึ?”ลั่วชิงยวนหรี่ตามองโหยวเซียง“แต่เจ้ามิน่าจะมีความสามารถพอที่จะพาอวี๋โหรวออกจากวังหลวงไปได้”“เวินซินถงเป็นคนทำใช่หรือไม่?”“เจ้าทำข้อตกลงอะไรกับนางไว้?”โหยวเซียงหัวเราะเยาะ “อยากรู้รึ?”“คุกเข่าอ้อนวอนข้าสิ”“เจ้าอ้อนวอนข้า ข้าถึงจะบอกเจ้าว่าผู้ใดจับตัวอวี๋โหรวมา และผู้ใดร่วมมือกับข้าวางแผนให้เจ้ามาที่เมืองแห่งภูตผี”ลั่วชิงยวนมองท่าทีหยิ่งยโสของโหยวเซียงแล้วก็อดมิได้ที่จะหัวเราะเบา ๆ นางกวาดสายตามองไปรอบ ๆ แล้วถามว่า “ต่งอวิ๋นซิ่วมิมาด้วยรึ?”“เมื่อครู่นี้คนที่ต่อสู้กับข้าก็คือนางใช่หรือไม่?”เมื่อได้ยินน้ำเสียงเยาะเย้ยของลั่วชิงยวน โหยวเซียงก็โกรธจัด ในใจนางตกใจ ลั่วชิงยวนรู้แล้วหรือว่ามารดาของนางเป็นใคร“สารเลว!”นางบีบคออวี๋โหรวอย่างแรงเพื่อข่มขู่ลั่วชิงยวน “จะคุกเข่าหรือไม่?!”“ลั่วชิงยวน เจ้ามีโอกาสแค่ครั้งเดียว!”“หากเจ้ามิยอมคุกเข่ายอมจำนนแต่โดยดี ข้าจะหักคอนางเดี๋ยวนี้!”กล่าวจบ โหยวเซียงก็ออกแรงบีบบีบจนอวี๋โหรวหาย

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 1414

    ทันทีที่คนใบ้หันมาเห็นจึงรีบเข้ามาย่อตัวลงข้างนางแล้วช่วยประคองนางไว้ลั่วชิงยวนเช็ดเลือดที่มุมปาก ใบหน้าซีดเผือดกว่าเดิม“ข้ามิเป็นอะไร”นางเงยหน้าขึ้นมองอวี๋ตันเฟิ่งที่อยู่กลางอากาศ ในที่สุดจิตวิญญาณของนางก็สมบูรณ์แล้วบนใบหน้าซีดขาวนั้นปรากฏรอยยิ้ม รอยยิ้มนั้นทั้งพึงพอใจและเย่อหยิ่ง“ในที่สุดข้าก็ได้… เป็นอิสระแล้ว! ฮ่าฮ่าฮ่าฮ่า...”อวี๋ตันเฟิ่งหัวเราะลั่น ทำเอาป่าทั้งผืนเกิดพายุโหมกระหน่ำคนใบ้รีบยกมือขึ้นช่วยลั่วชิงยวนปัดป้องฝุ่นและใบไม้ที่ปลิวว่อน......จู่ ๆ ต่งอวิ๋นซิ่วก็กระอักเลือดออกมาเต็มปาก จากนั้นหมดสติล้มลงบนพื้น“ท่านแม่!”โหยวเซียงตกใจ รีบเข้าไปประคองนาง “ท่านแม่! ท่านแม่! ท่านเป็นอะไรไป!”หลังจากตะโกนเรียกอยู่นาน มารดาของนางก็มิฟื้นโหยวเซียงโกรธจนกัดฟันพูด “ลั่วชิงยวน สารเลว!”“เจ้าคอยดูเถอะ!”......ผ่านไปครู่ใหญ่ อวี๋ตันเฟิ่งถึงจะสงบสติอารมณ์ลงได้ลมพายุในป่าก็สงบลงเช่นกันถูหมิงที่อยู่ข้าง ๆ จึงค่อย ๆ ขยับเข้ามาใกล้ฉีเสวี่ยเวยที่ยังคงตกตะลึงมองภาพเหตุการณ์เมื่อครู่ด้วยความมิอยากเชื่อ “เมื่อกี้เกิดอะไรขึ้น?”“ต่อไปพวกเราต้องทำอะไร?”ลั่วชิงยวน

Explore and read good novels for free
Free access to a vast number of good novels on GoodNovel app. Download the books you like and read anywhere & anytime.
Read books for free on the app
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status