Share

บทที่ 1149

Author: หว่านชิงอิ๋น
ลั่วชิงยวนเผยรอยยิ้ม “นอนมากเกินไป ร่างกายไร้เรี่ยวแรงไปหมดแล้ว”

“ท่านพ่อของเจ้าเล่า? กลับเมืองหลวงพร้อมเจ้าหรือไม่?”

ซ่งเชียนฉู่ส่ายหน้า “แม้สำนักหุบเขาซีหลิงจี้เยวี่ยจะถูกเผาทำลาย แต่ตระกูลของข้าอาศัยอยู่ที่นั่นมาหลายชั่วอายุคน ท่านพ่อตั้งใจจะอยู่ที่นั่นเพื่อสร้างสำนักหุบเขาซีหลิงจี้เยวี่ยขึ้นใหม่”

ได้ยินดังนั้นลั่วชิงยวนก็ตกใจเล็กน้อย “แล้วสมุนไพร...”

ซ่งเชียนฉู่คลี่ยิ้ม “สมุนไพรมีไว้สำหรับใช้รักษาผู้คน เมื่อนำมารักษาโรคช่วยชีวิตผู้คนจึงจะเรียกว่าเป็นยา”

“ครั้งนี้แม้จะสูญเสียสมบัติที่สะสมมานับร้อยปี แต่ผ่านไปอีกร้อยปีก็สะสมขึ้นมาใหม่ได้”

เมื่อได้ยินดังนั้น ลั่วชิงยวนก็พยักหน้า “กองคาราวานของสมาคมการค้าเฟิงตูสามารถไปถึงซีหลิงได้ ข้าจะช่วยพวกเจ้าสร้างสำนักขึ้นใหม่”

“แต่เหตุใดเจ้าจึงมิอยู่ช่วยท่านพ่อของเจ้าที่ซีหลิงเล่า?”

ซ่งเชียนฉู่มองนางด้วยความเป็นห่วง “ครั้งนี้เป็นเพราะเรื่องของตระกูลข้า ทำให้ท่านต้องบาดเจ็บเช่นนี้ ข้าต้องรอดูมือของท่านให้หายดีก่อนจึงจะจากไปได้”

“ยิ่งกว่านั้น... ข้ายังรู้สึกว่าเขาเหมือนจะมิค่อยสบายด้วย...”

ซ่งเชียนฉู่ขมวดคิ้ว แววตาเต็มไปด้วยความกังวล

“ฉู
Continue to read this book for free
Scan code to download App
Locked Chapter

Related chapters

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 1150

    ทันทีที่คำพูดประโยคนี้หลุดออกมา ทั้งลั่วชิงยวนและฟู่เฉินหวนก็เปลี่ยนสีหน้า“ว่ากระไรนะ?”ทั้งสองรีบเข้าวังบัดนี้ขุนนางน้อยใหญ่ล้วนมายืนล้อมหน้าตำหนักของจักรพรรดิด้วยความร้อนใจฟู่เฉินหวนและลั่วชิงยวนที่ยังมิทันได้เปลี่ยนชุดถูกขวางไว้“ท่านอ๋อง พระชายา ฝ่าบาททรงมีพระอาการวิกฤต หมอหลวงมู่มิอนุญาตให้ผู้ใดเข้าเฝ้า บอกว่าจะนำความเย็นเข้าไป ทำให้กระทบกระเทือนพระวรกายพ่ะย่ะค่ะ”ฟู่เฉินหวนและลั่วชิงยวนได้แต่รออยู่หน้าตำหนักบรรทม มิกล้าเข้าไปลั่วชิงยวนครุ่นคิด นางเดินไปที่หน้าต่างแล้วตะโกนผ่านหน้าต่าง “ท่านหมอหลวงมู่! องค์จักรพรรดิทรงประชวรด้วยโรคใดหรือ?”เมื่อหมอหลวงมู่ได้ยินเสียงของลั่วชิงยวนก็รู้สึกราวกับพบแสงสว่างในความมืดมิด“พระอาการของฝ่าบาทคล้ายกับถูกพิษ มิใช่พิษร้ายแรง แต่สะสมมานานแล้ว เพิ่งจะกำเริบ อาการคือพระพักตร์เขียวคล้ำ หายใจติดขัด เพียงแค่สายลมผิดปกติเล็กน้อยก็กระทบกระเทือนพระวรกายแล้วขอรับ”“เส้นพระโลหิตทั่วร่างกายปูดโปน เห็นได้ชัดว่าเกิดจากการขาดอากาศ ข้าฝังเข็มเพื่อระบายเส้นลมปราณและตบหลังหลายครั้ง ท่านทรงไอเป็นพระโลหิต มีลิ่มเลือดปนออกมาด้วย มิทราบว่าเป็นสิ่งใด”

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 1151

    ลั่วชิงยวนรู้สึกหนักใจ จึงมิได้กล่าวสิ่งใดอีกแต่นางก็รู้สึกได้ว่าสวรรค์ลิขิตมาแล้ว ผู้ใดเล่าจะฝืนชะตาได้โชคชะตาของทุกคนล้วนเกี่ยวพันกัน การเปลี่ยนแปลงโชคชะตาของคนผู้หนึ่ง อันที่จริงแล้วจะส่งผลกระทบต่อผู้คนนับมิถ้วนเช่นเดียวกับที่นางเคยทำนายว่าฟู่จิ่งหานจะมีเคราะห์พยายามช่วยเขาแล้วแต่สำนักหุบเขาซีหลิงจี้เยวี่ยกลับเกิดเรื่องขึ้นมาเสียก่อนหลังจากกลับมา ฟู่จิ่งหานก็ยังคงเกิดเรื่อง เพียงแต่ยังรักษาชีวิตไว้ได้......หลายวันต่อมาฟู่จิ่งหานนอนอยู่บนเตียงคนป่วย เขาฟื้นขึ้นมาหลายครั้ง แต่ก็หลับไปอย่างรวดเร็วขุนนางในราชสำนักต่างพูดคุยกันอย่างเป็นส่วนตัวมานับครั้งมิถ้วนจักรพรรดิประชวรหนัก มิสามารถบริหารราชการแผ่นดินได้ เรื่องใหญ่เรื่องเล็กเกือบทั้งหมดล้วนเป็นฟู่เฉินหวนที่ตัดสินใจมีขุนนางหลายคนไปเข้าเฝ้าจักรพรรดิสูงสุดเพื่อขอให้จักรพรรดิสูงสุดตัดสินใจ ให้องค์ชายห้าฟู่อวิ๋นโจวเข้าควบคุมดูแลการบริหารราชการแผ่นดินแทนลั่วชิงยวนไปรักษาจักรพรรดิสูงสุดบ่อย ๆ แน่นอนว่าย่อมได้ยินเรื่องมากมายเหล่านี้ซึ่งก็เป็นไปตามคาด ในเวลานี้ไม่มีผู้ใดเสนอชื่อฟู่เฉินหวนเลยต่างก็เสนอชื่อองค์ชายห้า

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 1152

    หลังจากฟู่อวิ๋นโจวกลับมายังเมืองหลวง วันแรกที่เข้าประชุมราชสำนัก จักรพรรดิสูงสุดได้ออกพระราชโองการให้ฟู่อวิ๋นโจวรับหน้าที่ดูแลการบริหารราชการแผ่นดินและให้ฟู่เฉินหวนช่วยเหลือเขาพระราชโองการนี้ จักรพรรดิสูงสุดตรัสด้วยพระโอษฐ์เอง โดยมีลั่วชิงยวนเป็นผู้จดบันทึกนางมิรู้ว่าจักรพรรดิสูงสุดคิดเช่นไร ในใจก็อดน้อยใจแทนมิได้ฟู่เฉินหวนทำเพื่อแคว้นเทียนเชวียมากมาย มีผลงานมากมาย เหตุใดจักรพรรดิสูงสุดจึงดูเหมือนมิยอมรับความดีความชอบของเขาแม้ฟู่เฉินหวนจะมิแสดงความมิพอใจใด ๆ แต่เมื่อได้ยินพระราชโองการนี้ ในดวงตาก็ยังมีความผิดหวังเมื่อฟู่อวิ๋นโจวได้เป็นผู้สำเร็จราชการแทน ไม่มีผู้ใดในราชสำนักคัดค้านดูเหมือนว่าทุกคนจะพึงพอใจหลังจากเลิกประชุม ฟู่อวิ๋นโจวเดินมาหาฟู่เฉินหวน “ต่อไปก็ต้องพึ่งพาเสด็จพี่ช่วยเหลือแล้ว กระหม่อมยังมีหลายสิ่งที่มิเข้าใจ หวังว่าเสด็จพี่จะเมตตาชี้แนะ”ฟู่เฉินหวนกล่าวอย่างแผ่วเบา “เช่นนั้นไปคุยกันที่ห้องทรงพระอักษรเถิด”เมื่อมาถึงห้องทรงพระอักษร มีเพียงพวกเขาสองคนเท่านั้นแต่ฟู่อวิ๋นโจวกลับมิได้ขอคำแนะนำเรื่องราชการ กลับถามว่า “เสด็จพี่รักลั่วชิงยวนจริงหรือไม่?”ฟู่

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 1153

    ฟู่เฉินหวนครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่ง “ร้านอาหารอร่อย ๆ ก็ไปกินกันมาหมดแล้ว ได้ยินว่าน้ำแกงเนื้อแกะที่ตรอกหูซีอร่อย ไปซดสักถ้วยให้ร่างกายอบอุ่นดีหรือไม่?”ลั่วชิงยวนพยักหน้า “เพคะ!”จากนั้นทั้งสองก็ไปยังร้านเก่าแก่แห่งนั้นแล้วสั่งน้ำแกงเนื้อแกะสองถ้วย ปรากฏว่าถ้วยใหญ่กว่าใบหน้าเสียอีกบนโต๊ะยังมีเนื้อย่างและน้ำแกงผักรสชาติเผ็ดร้อน หอมอร่อยด้วย เมื่อกินคู่กับน้ำแกงเนื้อแกะในค่ำคืนเหมันตฤดูเช่นนี้ช่างอิ่มเอมใจยิ่งนักระหว่างกินอาหาร ลั่วชิงยวนรินเหล้าหนึ่งจอกแล้วกล่าวว่า “เพื่อฉลองชัยชนะในเมืองฉิน!”ฟู่เฉินหวนยกยิ้มจาง ยกจอกขึ้นชนกับนางเบา ๆดื่มหมดในรวดเดียวลั่วชิงยวนกล่าวต่อ “วันนี้จักรพรรดิสูงสุดเล่าให้หม่อมฉันฟัง... เหตุผลที่ให้ฟู่อวิ๋นโจวรับหน้าที่บริหารราชการแผ่นดินแทน”“พระองค์ทรงสงสารที่ท่านเหนื่อยเกินไป มิอยากให้ท่านแบกรับมากเกินไป จึงตั้งใจจะฝึกฝนฟู่อวิ๋นโจว”ฟู่เฉินหวนได้ยินดังนั้นก็ชะงักไปแล้วมองลั่วชิงยวนด้วยแววตาลึกล้ำ“อะไรหรือเพคะ? หม่อมฉันพูดผิดไปหรือ?” ลั่วชิงยวนมองเขาด้วยความมิเข้าใจฟู่เฉินหวนยิ้ม “ไม่หรอก ขอบคุณเจ้านะ”“ขอบคุณหม่อมฉันอีกแล้ว? สุภาพถึงเพียง

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 1154

    ลั่วเยวี่ยอิงมีความเคลื่อนไหวอีกแล้ว หรือว่าเหยียนหน่ายซินปรากฏตัวอีก?“ลั่วเยวี่ยอิงเล่าอยู่ที่ใด? ออกจากตำหนักไปแล้วหรือ?”หากออกจากตำหนักไปแล้วก็ยิ่งดี จะได้จับเหยียนหน่ายซินแล้วก็กำจัดลั่วเยวี่ยอิงไปพร้อมกันเสียเลยแต่จือเฉากลับรายงานว่า “มิใช่เจ้าค่ะ นางไปที่ห้องครัว แต่งกายเป็นนางรับใช้ มิทราบว่าคิดจะทำสิ่งใด”ลั่วชิงยวนครุ่นคิด แล้วสั่งการว่า “จือเฉา พาบ่าวในเรือนออกไปให้หมด”จือเฉารับคำ “เจ้าค่ะ”จากนั้นจือเฉาก็พาคนอื่น ๆ ออกไปจนหมดลั่วชิงยวนวางตำราแพทย์ลงแล้วเอนกายนอนลงบนเตียงนุ่มก่อนดึงผ้าห่มขึ้นมาคลุม“แค่กแค่กแค่ก...”อากาศหนาวเย็นขึ้นทุกวัน ลั่วชิงยวนยังคงมิสบายจนได้นางนอนลง ตั้งใจจะงีบหลับสักครู่ยามราตรีคืบคลานเข้ามา ภายนอกเริ่มมืดมิด ลั่วชิงยวนเผลอหลับไปในขณะที่กำลังจะหลับใหล ก็รู้สึกว่ามีใครบางคนค่อย ๆ เปิดประตูห้องเข้ามา เสียงฝีเท้าแผ่วเบาค่อย ๆ เข้ามาใกล้นางจากนั้นกระถางธูปบนโต๊ะก็ถูกเปิดออก มิรู้ว่าคนผู้นั้นทำสิ่งใดอยู่ต่อมาเสียงฝีเท้านั้นก็หยุดลง ลั่วชิงยวนรู้สึกได้อย่างชัดเจนว่ามีสายตาจ้องมองนางอยู่ด้านหลังลั่วเยวี่ยอิงมองแผ่นหลังของลั่วชิงยวน

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 1155

    เมื่อฟู่เฉินหวนได้ยินดังนั้นก็หน้าเสียลั่วเยวี่ยอิงหนีไปแล้วหรือ?เขารีบไปยังเรือนของลั่วชิงยวนปรากฏว่าในลาน ลั่วเยวี่ยอิงยังมิตายมีนางรับใช้คนหนึ่งมารายงาน “พระชายา ท่านอ๋องเสด็จกลับมาแล้ว กำลังมาทางนี้เจ้าค่ะ!”ลั่วชิงยวนหน้าเสีย “ขวางเขาไว้ก่อน!”กล่าวจบ นางก็คว้าผ้าแพรขาวออกแรงรัดคอ หมายจะฆ่าลั่วเยวี่ยอิงก่อนที่ฟู่เฉินหวนจะมาถึงมิเช่นนั้นลั่วเยวี่ยอิงต้องฟ้องฟู่เฉินหวนแน่นอนแต่เมื่อลั่วเยวี่ยอิงได้ยินว่าท่านอ๋องเสด็จมาก็เหมือนกับเจอที่พึ่งสุดท้าย นางจึงดิ้นรนสุดชีวิต พยายามต่อยเตะลั่วชิงยวนแต่ก็สายไปเสียแล้วฟู่เฉินหวนเดินเข้ามาในเรือนเมื่อเห็นภาพนั้น ฟู่เฉินหวนก็หน้าซีด เขารีบพุ่งเข้าไปต่อยลั่วชิงยวนที่หน้าอกลั่วชิงยวนกระอักเลือด ล้มลงกับพื้นทันใด“พระชายา!” จือเฉาตกใจ รีบเข้าไปดูผ้าแพรหลุด ลั่วเยวี่ยอิงคลานเข้าไปกอดขาฟู่เฉินหวน “ท่านอ๋อง... พระชายาจะฆ่าหม่อมฉัน! นางจะฆ่าหม่อมฉัน!”“ท่านฆ่านางเถิด ฆ่านางเถิด! มิเช่นนั้นหม่อมฉันต้องตายด้วยน้ำมือของนางเป็นแน่เพคะ!”ฟู่เฉินหวนตาแดงก่ำเหมือนจะคลุ้มคลั่ง เขามองลั่วชิงยวนด้วยสายตาอาฆาตแล้วพุ่งเข้าไปบีบคอลั่วชิ

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 1156

    ฟู่เฉินหวนฟังแล้วปวดร้าวใจยิ่งนักเมื่อก้มลงมองมือตนก็รู้สึกมิอยากจะเชื่อ เขาเกือบจะฆ่าลั่วชิงยวนไปแล้วจริง ๆเขาสามารถควบคุมตัวเองได้ แม้จะปวดหัวจนแทบแตกก็ตามแต่วันนี้เขากลับควบคุมตัวเองมิได้หากยังเป็นเช่นนี้ต่อไป ลั่วชิงยวนคงต้องตายด้วยน้ำมือเขาเป็นแน่ลั่วชิงยวนทำเพื่อเขามามากมาย เขาจะทำร้ายนางได้อย่างไร!หลังจากยืนนิ่งอยู่ครู่หนึ่ง ฟู่เฉินหวนก็หันหลังกลับไป สายตาฉายแววเย็นชาค่ำคืนนี้หิมะโปรยปรายลงมาหนาแน่น ปกคลุมไปทั่วทั้งร่างเมื่อฟู่เฉินหวนจากไป บนพื้นก็มีหิมะหนาแล้วซูโหยวถือร่มวิ่งตามมา แล้วกางร่มบังหิมะให้ฟู่เฉินหวน “ท่านอ๋อง”ฟู่เฉินหวนเดินไปข้างหน้าด้วยสีหน้าหนักอึ้ง ซูโหยวก็มิอาจหยั่งรู้ได้ว่าเขากำลังคิดถึงสิ่งใดอยู่ใกล้ถึงเรือนพัก ฟู่เฉินหวนก็หยุดเดิน แล้วหันไปมองอีกทาง“มิต้องตามข้ามา”เมื่อพูดจบ ท่านอ๋องก็เดินไปยังเรือนของลั่วเยวี่ยอิงซูโหยวมิได้ตามไปด้วย......เมื่อฟู่เฉินหวนมาถึงเรือนของลั่วเยวี่ยอิงก็สั่งให้ทหารทั้งหมดออกไปลั่วเยวี่ยอิงได้ยินเสียงจึงรีบวิ่งออกมาจากห้อง นางแต่งกายด้วยผ้าเนื้อบางเบา เท้าเปล่าวิ่งลงไปเหยียบหิมะ“ท่านอ๋อง หม่อมฉ

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 1157

    “ฆ่าลั่วชิงยวน แล้วให้หม่อมฉันขึ้นเป็นพระชายาของท่านแทน ดีหรือไม่เพคะ?” ลั่วเยวี่ยอิงร้องไห้อ้อนวอน แต่กลับออกคำสั่งแก่ฟู่เฉินหวนหากเขามิอยากเจ็บปวดจนตายก็ต้องฆ่าลั่วชิงยวน!ดวงตาของฟู่เฉินหวนแดงก่ำ เส้นเลือดปูดโปนขณะกำหมัดแน่น นัยน์ตาฉายแววเหี้ยมโหดเขารวบรวมพลังปราณ สั่นสะเทือนไปทั้งร่างกายเขี้ยวเหล็กถูกกระแทกออกจากร่างของเขาลั่วเยวี่ยอิงที่กอดเขาจากด้านหลังตกใจ ตัวแข็งทื่อในทันทีทำได้เพียงก้มลงมองรูโหว่บนหน้าอกที่เต็มไปด้วยเลือดแล้วถอยหลังเซ ล้มลงบนพื้นหิมะอย่างอ่อนแรงเลือดไหลออกจากร่างของนาง นางอ้าปากยื่นมือไปหาฟู่เฉินหวน “ท่านอ๋อง ช่วย... ช่วยหม่อมฉันด้วย...”สายตาเย็นชาของฟู่เฉินหวนจ้องมองสภาพของลั่วเยวี่ยอิงแต่ก็เต็มไปด้วยความเจ็บปวดทรมานเลือดสาดกระเซ็นบนหิมะขาวโพลน แล้วฟู่เฉินหวนก็ล้มลงบนกองเลือดเช่นกันเขามิอาจลงมือฆ่าลั่วเยวี่ยอิงได้ แต่กลับใช้เขี้ยวเหล็กสังหารนางความเจ็บปวดแสนสาหัสถาโถมเข้ามาจนยากจะทนทานเมื่อซูโหยวที่แอบตามมาเห็นภาพนั้นก็ตกใจมากรีบแบกฟู่เฉินหวนขึ้นบ่าแล้วเตรียมกลับไปทันทีเขาเพียงแค่เหลือบมองลั่วเยวี่ยอิงที่ร้องขอความช่วยเหลืออยู

Latest chapter

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 1422

    ร่างที่ไร้ศีรษะร่างหนึ่งถือกระบี่เดินเข้ามาหาลั่วชิงยวน โซ่เหล็กด้านหลังลากคนสามคนไว้แม้จะออกแรงสุดกำลังแล้วก็ยังฉุดรั้งโหยวจิ้งเฉิงไว้มิได้แต่ร่างของโหยวจิ้งเฉิงในตอนนี้ไม่มีศีรษะแล้ว ยากที่จะควบคุมร่างกายได้ลั่วชิงยวนถือกระบี่เงื้อฟันไปยังร่างของฝูเหมิ่ง เช่นเดียวกับตอนที่โหยวจิ้งเฉิงตัดแขนขาของอวี๋ตันเฟิ่งนางกำลังแก้แค้นและระบายความแค้นอย่างบ้าคลั่งตัดแขนของเขาขาดทีละข้างกระบี่ห้วงสวรรค์ร่วงลงสู่พื้นไปพร้อมกับแขนจากนั้นขาทั้งสองข้างของเขาก็ขาดกระเด็นอวี๋ตันเฟิ่งอาละวาดแก้แค้นอย่างบ้าคลั่งเมื่อมองไปยังซากศพที่กองอยู่บนพื้น ดวงตาของลั่วชิงยวนก็ราวกับถูกย้อมไปด้วยสีแดงฉานใต้หล้าเต็มไปด้วยกลิ่นคาวเลือดทั้งสามที่อยู่มิไกลต่างตกตะลึงมิเคยเห็นฉากที่นองเลือดเช่นนี้มาก่อนแต่ถึงแม้ร่างกายจะแหลกละเอียด โหยวจิ้งเฉิงก็ยังมิตายทันใดนั้นมีร่างหนึ่งพุ่งออกมาจากซากศพ แล้วลอยละลิ่วไปอวี๋ตันเฟิ่งกรีดร้องแหลม “โหยวจิ้งเฉิง เจ้าอย่าหวังว่าจะหนีไปไหนได้อีก! ข้าจะทำให้เจ้ามิได้ผุดได้เกิด!”พลังในร่างของนางพลันเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว เกิดเป็นลมพายุโหมกระหน่ำ ลั่วชิงยวนรู้สึกราว

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 1421

    ใบหน้านั้นบ่งบอกชัดเจนว่าเป็นโหยวจิ้งเฉิง“ต่อไปก็ถึงตาพวกเจ้าแล้ว” เขาเอ่ยด้วยเสียงแหบแห้งเย็นเยือกโฉวสือชีกำกระบี่ในมือแน่น ปกป้องคนใบ้และอวี๋โหรวไว้ส่วนลั่วชิงยวนค่อย ๆ ก้าวเท้าไปข้างหน้าในดวงตาค่อย ๆ ก่อเกิดจิตสังหารนางหลับตาลง แล้วกล่าวว่า “อวี๋ตันเฟิ่ง ไปแก้แค้นของเจ้าเถิด”ลั่วชิงยวนมอบร่างของตนให้อวี๋ตันเฟิ่งโดยสมบูรณ์เมื่อลืมตาขึ้นอีกครั้ง ใบหน้าของนางยังคงเป็นใบหน้าเดิม เพียงแต่แววตานั้นกลับดุดันยิ่งนัก ดวงตาสีแดงก่ำเต็มไปด้วยความแค้นเสียงของอวี๋ตันเฟิ่งดังขึ้น “โหยวจิ้งเฉิง ความแค้นระหว่างข้ากับเจ้า วันนี้ถึงคราวสะสางแล้ว”“สิบกว่าปีที่ผ่านมา ข้าคิดอยู่ตลอดเวลาว่าจะฉีกร่างเจ้าเป็นชิ้น ๆ อย่างไรถึงจะสาสมกับความแค้นในใจข้า”“แต่คาดมิถึงว่าเจ้าจะตายไปแล้ว”“แต่ก็มิเป็นไร วันนี้ข้าจะฉีกร่างเจ้าให้เป็นชิ้น ๆ ให้ได้!”เมื่อกล่าวจบ ลั่วชิงยวนก็กระโจนเข้าไปเสียงอาวุธปะทะกันอย่างรุนแรงดังขึ้นแต่ในเวลานี้เอง โหยวจิ้งเฉิงก็พุ่งไปยังกำแพง คว้ากระบี่ห้วงสวรรค์มาได้ จากนั้นกระโจนออกนอกห้องไปอวี๋ตันเฟิ่งรีบไล่ตามไปสีหน้าคนใบ้เปลี่ยนไป กระบี่ห้วงสวรรค์! หากฝูเหมิ่ง

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 1420

    ต่งอวิ๋นซิ่วตกใจจนหน้าซีดเผือด รีบยกมือขึ้นมาป้องกัน แล้วต่อสู้กับฝูเหมิ่งแต่พลังในตอนนี้ของต่งอวิ๋นซิ่วเทียบกับฝูเหมิ่งแล้วยังอ่อนแอกว่ามากนักสุดท้ายก็ถูกฝูเหมิ่งบีบคอไว้แน่นลั่วชิงยวนเห็นชัดเจนว่าในร่างของฝูเหมิ่งตอนนี้คือโหยวจิ้งเฉิง!เขาเป็นบ้าไปแล้วหรือ? เขาจะฆ่าต่งอวิ๋นซิ่วภรรยาของตนหรือ?เมื่อเห็นดังนั้น โหยวเซียงก็ชักกระบี่พุ่งเข้าไปหมายจะช่วยต่งอวิ๋นซิ่ว แต่ฝูเหมิ่งกลับมิหลบเลยแม้แต่น้อย ปล่อยให้กระบี่ในมือนางแทงทะลุร่างจากนั้นฝูเหมิ่งก็ฟาดมือไปทีหนึ่ง โหยวเซียงจึงกระเด็นปลิวไปโหยวเซียงกระอักเลือดออกมาต่งอวิ๋นซิ่วร้อนใจยิ่งนัก “เซียงเอ๋อร์ มิต้องสนใจแม่ รีบหนีไป!”โหยวเซียงจะทนมองดูมารดาของตนถูกฆ่าได้อย่างไร นางพยายามลุกขึ้นมาสู้ต่อแต่ฝูเหมิ่งกลับมองโหยวเซียงอย่างดุดัน แล้วกล่าวขู่ “คนที่ข้าต้องการฆ่ามีเพียงต่งอวิ๋นซิ่วเท่านั้น เจ้าจงหลีกไป”“มิเช่นนั้นอย่าหาว่าข้ามิเห็นแก่ความเป็นพ่อลูก”เมื่อได้ยินดังนั้น โหยวเซียงก็ตกใจจนยืนอึ้งไปกับที่ แล้วกล่าวเสียงสั่นเครือ “พ่อ… พ่อลูกหรือ?”ตอนนี้เสียงของฝูเหมิ่งก็มิใช่เสียงของฝูเหมิ่งอีกต่อไปแล้วเมื่อต่งอวิ๋นซิ่ว

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 1419

    ขณะนี้เอง โหยวเซียงก็ฉวยโอกาสหลบหนีจากมือของลั่วชิงยวนไปได้ต่งอวิ๋นซิ่วมองพวกเขาอย่างเย็นชา “ในเมื่อมาถึงที่นี่แล้วก็เตรียมตัวตายได้เลย!”ทันใดนั้นบนคานเรือนก็ปรากฏชายชุดดำจำนวนมากพร้อมถือหน้าไม้เล็งมาที่พวกเขาลูกดอกอันคมกริบประกายแสงเย็นลั่วชิงยวนยกยิ้มมุมปาก หัวเราะอย่างเย็นชา “ดูเหมือนว่าเจ้าจะเตรียมการมาอย่างดี ตอนนี้พวกข้าคงหนีออกจากห้องนี้ไปมิได้แล้วใช่หรือไม่?”ลั่วชิงยวนสังเกตประตูห้อง รวมถึงผนังห้องทุกด้าน แล้วพบว่ามีกลไกบนประตูเหนือศีรษะ ต่งอวิ๋นซิ่วหัวเราะเบา ๆ “แน่นอน นี่คือห้องกลไกที่สร้างขึ้นมาเพื่อรับมือพวกเจ้าที่บุกรุกเข้ามาบนเขา”“วันนี้พวกเจ้าอย่าหวังว่าจะได้ออกไปแม้แต่คนเดียว!”ลั่วชิงยวนจับกระบี่ห้วงสวรรค์แน่นแล้วพุ่งไปที่กลไกจุดหนึ่งบนผนังห้อง ฟาดฟันกระบี่ลงไปอย่างแรงต่งอวิ๋นซิ่วรีบดึงโหยวเซียงหลบหลีกไปแต่ใครเล่าจะรู้ว่าลั่วชิงยวนมิได้โจมตีพวกนาง แต่กลับฟันกลไกบนผนังห้องทำให้ประตูห้องลงกลอนอย่างสมบูรณ์เมื่อเห็นเช่นนั้น ต่งอวิ๋นซิ่วก็หัวเราะเยาะ “เจ้าช่างรนหาที่ตายยิ่งนัก”ลั่วชิงยวนยกยิ้มอย่างมีความหมาย “เช่นนั้นรึ? ยังมิรู้เลยว่าใครกันแน่ที่จะ

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 1418

    ร่างที่เดินออกมาจากฝูงชนนั้นมีท่าทางคุกคามยิ่งนักลั่วชิงยวนหรี่ตาลงเล็กน้อย นั่นคือสตรีที่นางเห็นในความทรงจำของอวี๋ตันเฟิ่งต่งอวิ๋นซิ่ว!โหยวเซียงดิ้นรนพลางเงยหน้ามองต่งอวิ๋นซิ่วด้วยดวงตาแดงก่ำ “ท่านแม่… เป็นความผิดของลูกเองที่ปล่อยให้พวกมันขึ้นเขามาได้”หากมิใช่เพราะลั่วชิงยวนรู้ทางลับของวัดร้างแห่งนั้น พวกนางคงไม่มีทางขึ้นเขามาได้ง่ายดายถึงเพียงนี้!ต่งอวิ๋นซิ่วมองด้วยความเจ็บปวดแล้วตวาดใส่ลั่วชิงยวน “ปล่อยลูกสาวข้าเดี๋ยวนี้! มิเช่นนั้นข้าจะทำให้พวกเจ้าตายเยี่ยงไร้ที่ฝัง!”ลั่วชิงยวนหัวเราะเบา ๆ แล้วพูดด้วยน้ำเสียงดูถูกเหยียดหยาม “เมื่อคืนยังพยายามทำลายวิญญาณที่เหลือของอวี๋ตันเฟิ่งอยู่เลย วันนี้เจ้าลืมไปแล้วหรือว่าศัตรูของเจ้าคือใคร?”“ใครกันแน่ที่จะตายแบบไร้ที่ฝัง ยังบอกมิได้หรอก”เมื่อได้ยินดังนั้น ต่งอวิ๋นซิ่วก็สะดุ้งเฮือก สีหน้าเปลี่ยนไปอย่างมากท่าทางของนางดูตึงเครียดขึ้นมาอย่างเห็นได้ชัด แต่ก็ยังพยายามซ่อนไว้ได้ดีนางมองลั่วชิงยวนอย่างใจเย็น แล้วกล่าวว่า “ในเมื่อพวกเจ้ามาถึงเมืองแห่งภูตผี ก็คงต้องการของล้ำค่าของเมืองแห่งภูตผีสินะ”“พวกเจ้าอยากได้อะไร ข้าสามารถให้เจ

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 1417

    นางปฏิเสธอย่างหนักแน่นลั่วชิงยวนกลับยกยิ้มอย่างพึงพอใจแล้วค่อย ๆ ลุกขึ้น “พานางไปด้วย ไปวัดร้าง!”พวกเนางมุ่งหน้าไปทางทิศใต้ โหยวเซียงดิ้นรนตลอดทาง แต่โฉวสือชีและคนใบ้จ้องมองทุกการกระทำของนางอย่างใกล้ชิด มิเปิดโอกาสให้นางหลบหนีไปได้แม้แต่น้อยเมื่อเดินไปได้ไกลมากพอสมควร เสียงไก่ขันยามรุ่งอรุณก็ดังขึ้นแล้วในที่สุดพวกเขาก็มาถึงวัดร้างแห่งนั้นในวัดร้างมีพระพุทธรูปที่เป็นซากปรักหักพังล้มลงบนพื้น ดูเหมือนว่าที่นี่จะไม่มีใครมานานแล้วเมื่อมองหาอย่างละเอียดก็พบรอยเท้าบนพื้นลั่วชิงยวนมั่นใจยิ่งขึ้น นี่คือสถานที่ที่ถูกต้อง!โหยวเซียงจ้องมองทุกการกระทำของลั่วชิงยวนอย่างกระวนกระวาย เกรงว่าลั่วชิงยวนจะพบกลไกเข้าแต่ลั่วชิงยวนกลับสังเกตปฏิกิริยาของโหยวเซียง ค่อย ๆ เดินไปในแต่ละที่โดยอาศัยการสังเกตปฏิกิริยาโหยวเซียงสุดท้ายลั่วชิงยวนจึงเพ่งเล็งไปที่ผนังด้านหนึ่งแล้วเริ่มค้นหากลไกเสียงเปิดกลไกดังแกร๊กดังขึ้นประตูบานหนึ่งบนพื้นพลันเปิดออกหลังจากที่ลั่วชิงยวนเปิดประตูแล้วก็พบว่าด้านล่างยังมีประตูอีกบานหนึ่ง และบนนั้นก็มีกลไกเช่นกันแต่สำหรับลั่วชิงยวนแล้วเรื่องนี้ง่ายมากเมื่อประต

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 1416

    “เจ้ารีบอะไรนักหนา รอมาตั้งนานแล้ว รออีกสักหน่อยจะเป็นกระไร”เมื่อได้ยินดังนั้น อวี๋ตันเฟิ่งก็หยุดมือลั่วชิงยวนเดินเข้าไปคว้าตัวโหยวเซียงไว้ให้โฉวสือชีมัดนางไว้แน่นหนา จากนั้นจึงปลุกโหยวเซียงให้ฟื้นขึ้นมาเมื่อฟื้นคืนสติ โหยวเซียงก็จ้องหน้าลั่วชิงยวนเขม็งอย่างโกรธแค้น “เจ้ากล้าจับข้า เจ้าคอยดูเถอะว่าจะตายอย่างไร!”ลั่วชิงยวนย่อตัวลงนั่งตรงหน้านาง แล้วหัวเราะเบา ๆ “ใช่แล้ว ใครจะกล้าแตะต้องคุณหนูใหญ่เมืองแห่งภูตผีเล่า”“น่าเสียดาย เมืองแห่งภูตผีแห่งนี้ บิดามารดาของเจ้าไปปล้นเขามา มิใช่ของพวกเขามาแต่เดิม ย่อมมิใช่ของเจ้าเช่นกัน”“ถึงเวลาคืนเจ้าของตัวจริงแล้ว”โหยวเซียงจ้องเขม็งนางอย่างโกรธแค้น “เจ้าพูดจาเหลวไหลอะไร! เมืองแห่งภูตผีแห่งนี้เป็นของบิดามารดาข้ามาแต่เดิม!”เมื่อได้ยินดังนั้น ลั่วชิงยวนก็ประหลาดใจ “หรือว่าต่งอวิ๋นซิ่วมิได้บอกความจริงแก่เจ้า”“ก็ถูกแล้ว เรื่องน่าอับอายเช่นนี้ นางจะบอกลูกสาวได้อย่างไร”“เมืองแห่งภูตผีแห่งนี้มิใช่เพียงถูกบิดามารดาเจ้ายึดมาเท่านั้น แต่ยังใช้วิธีการที่น่ารังเกียจในการยึดครองด้วย!”“เดาว่าจนถึงตอนนี้เจ้าก็คงยังมิรู้เลยว่าศัตรูของเจ้าคือผ

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 1415

    โหยวเซียงกัดฟันพูดด้วยน้ำเสียงเย็นเยียบลั่วชิงยวนมองไปที่อวี๋โหรว หลายวันมานี้อวี๋โหรวผอมซูบไปมาก“เจ้าจับตัวอวี๋โหรวมาเพื่อล่อข้ามาที่นี่รึ?”ลั่วชิงยวนหรี่ตามองโหยวเซียง“แต่เจ้ามิน่าจะมีความสามารถพอที่จะพาอวี๋โหรวออกจากวังหลวงไปได้”“เวินซินถงเป็นคนทำใช่หรือไม่?”“เจ้าทำข้อตกลงอะไรกับนางไว้?”โหยวเซียงหัวเราะเยาะ “อยากรู้รึ?”“คุกเข่าอ้อนวอนข้าสิ”“เจ้าอ้อนวอนข้า ข้าถึงจะบอกเจ้าว่าผู้ใดจับตัวอวี๋โหรวมา และผู้ใดร่วมมือกับข้าวางแผนให้เจ้ามาที่เมืองแห่งภูตผี”ลั่วชิงยวนมองท่าทีหยิ่งยโสของโหยวเซียงแล้วก็อดมิได้ที่จะหัวเราะเบา ๆ นางกวาดสายตามองไปรอบ ๆ แล้วถามว่า “ต่งอวิ๋นซิ่วมิมาด้วยรึ?”“เมื่อครู่นี้คนที่ต่อสู้กับข้าก็คือนางใช่หรือไม่?”เมื่อได้ยินน้ำเสียงเยาะเย้ยของลั่วชิงยวน โหยวเซียงก็โกรธจัด ในใจนางตกใจ ลั่วชิงยวนรู้แล้วหรือว่ามารดาของนางเป็นใคร“สารเลว!”นางบีบคออวี๋โหรวอย่างแรงเพื่อข่มขู่ลั่วชิงยวน “จะคุกเข่าหรือไม่?!”“ลั่วชิงยวน เจ้ามีโอกาสแค่ครั้งเดียว!”“หากเจ้ามิยอมคุกเข่ายอมจำนนแต่โดยดี ข้าจะหักคอนางเดี๋ยวนี้!”กล่าวจบ โหยวเซียงก็ออกแรงบีบบีบจนอวี๋โหรวหาย

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 1414

    ทันทีที่คนใบ้หันมาเห็นจึงรีบเข้ามาย่อตัวลงข้างนางแล้วช่วยประคองนางไว้ลั่วชิงยวนเช็ดเลือดที่มุมปาก ใบหน้าซีดเผือดกว่าเดิม“ข้ามิเป็นอะไร”นางเงยหน้าขึ้นมองอวี๋ตันเฟิ่งที่อยู่กลางอากาศ ในที่สุดจิตวิญญาณของนางก็สมบูรณ์แล้วบนใบหน้าซีดขาวนั้นปรากฏรอยยิ้ม รอยยิ้มนั้นทั้งพึงพอใจและเย่อหยิ่ง“ในที่สุดข้าก็ได้… เป็นอิสระแล้ว! ฮ่าฮ่าฮ่าฮ่า...”อวี๋ตันเฟิ่งหัวเราะลั่น ทำเอาป่าทั้งผืนเกิดพายุโหมกระหน่ำคนใบ้รีบยกมือขึ้นช่วยลั่วชิงยวนปัดป้องฝุ่นและใบไม้ที่ปลิวว่อน......จู่ ๆ ต่งอวิ๋นซิ่วก็กระอักเลือดออกมาเต็มปาก จากนั้นหมดสติล้มลงบนพื้น“ท่านแม่!”โหยวเซียงตกใจ รีบเข้าไปประคองนาง “ท่านแม่! ท่านแม่! ท่านเป็นอะไรไป!”หลังจากตะโกนเรียกอยู่นาน มารดาของนางก็มิฟื้นโหยวเซียงโกรธจนกัดฟันพูด “ลั่วชิงยวน สารเลว!”“เจ้าคอยดูเถอะ!”......ผ่านไปครู่ใหญ่ อวี๋ตันเฟิ่งถึงจะสงบสติอารมณ์ลงได้ลมพายุในป่าก็สงบลงเช่นกันถูหมิงที่อยู่ข้าง ๆ จึงค่อย ๆ ขยับเข้ามาใกล้ฉีเสวี่ยเวยที่ยังคงตกตะลึงมองภาพเหตุการณ์เมื่อครู่ด้วยความมิอยากเชื่อ “เมื่อกี้เกิดอะไรขึ้น?”“ต่อไปพวกเราต้องทำอะไร?”ลั่วชิงยวน

Explore and read good novels for free
Free access to a vast number of good novels on GoodNovel app. Download the books you like and read anywhere & anytime.
Read books for free on the app
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status