Share

บทที่ 134

Penulis: หว่านชิงอิ๋น
เขาร้องตะโกนทีหนึ่ง

ลั่วไห่ผิงตกใจจนก้าวถอยหลังไปหลายก้าว

คนใช้สีหน้าซีดเทา ใต้ตาดำมืด ดวงตาคู่นั้นขาวโพลนราวกับปลาตาย มองแล้วดูน่ากลัวนัก

“เจ้าเดินไม่มีเสียงงั้นหรือ? บังอาจเสียจริง!“ ลั่วไห่ผิงสงบจิตใจ เขาที่เป็นท่านอัครมหาเสนาบดี ตกใจบ่าวคนหนึ่งถึงขั้นนี้ หากคนอื่นรู้เข้าคงเสียหน้าแย่!

เขาสะบัดแขนเสื้อเดินออกไปด้วยน้ำโห

ทันทีที่เขาจากไป หัวของบ่าวผู้นั้นก็บิดหันอย่างแข็งทื่อ ดวงตาราวกับปลาตายคู่นั้นจ้องไปที่เขา

“มองบ้าอะไร?” ลั่วไห่ผิงโมโห

วินาทีต่อมา มือที่ขาวซีดคู่หนึ่ง ยกบีบมาที่เขาฉับพลัน และตะครุบลั่วไห่ผิงจนล้มนอนบนพื้น

ลั่วไห่ผิงเดินออกจากเรือนได้ไม่นาน ลั่วชิงยวนก็ได้ยินเสียงตะโกนตกใจทันที หว่างคิ้วของนางกระตุก “ท่านปู่ ข้าไปตรวจดูเสียก่อน”

ท่านมหาราชครูลั่งพยักหน้า จากนั่นหยิบภาพวาดไร้หน้าผืนนั้นขึ้นมาดูอีกครั้ง

ลั่วชิงยวนเดินไปตามเสียง แม้จะไม่มีเสียงตะโกนแล้ว แต่นางกลับสามารถได้ยินเสียงต่อสู้

เมื่อเหยียบที่เรือนเปลี่ยวร้าง ลั่วชิงยวนสามารถรับรู้ถึงพลังวิญญาณชั่วร้ายอย่างชัดเจน นางกวาดล้างสิ่งอัปมงคลของจวนมหาราชครูไปจนสิ้นแล้วมิใช่หรือ? เหตุใดที่นี่…

Lanjutkan membaca buku ini secara gratis
Pindai kode untuk mengunduh Aplikasi
Bab Terkunci

Bab terkait

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 135

    ลั่วหรงโน้มตัวมองดูศพบนพื้นอย่างตั้งใจ พร้อมกล่าว “เขามิใช่คนใช้ในจวนของเรา แต่เป็นคนใช้ชั่วคราว ที่รับมาเพื่อจัดงานฉลองของท่านพ่อ เข้ามาในจวนได้เพียงห้าวัน!” “เพียงแต่ใบหน้าของเขาตอนนั้น… ยังมิได้น่ากลัวเช่นนี้…” ลั่วหรงรู้สึกขนลุก คนผู้นี้ตายในจวนตั้งแต่เมื่อใดกัน… หรือว่า ที่เข้ามาในจวนมันไม่ใช่คนตั้งแต่แรก… “ผู้ใดบ้างที่รับเข้ามาชั่วคราว? รวมตัวพวกเขา แล้วควบคุมตัวไว้ทันที!” ลั่วชิงยวนรู้สึกเรื่องนี้มันแปลกประหลาดเกินไป ดูท่าเรื่องธงอัญเชิญวิญญาณเมื่อครั้งที่แล้ว จะยังไม่จบ! คนใช้ถูกควบคุมตัวไว้อย่างรวดเร็ว แม้ทุกคนจะลืมตาอยู่ แต่สีหน้าซีดเผือด ลูกตานูนขึ้นเล็กน้อย ใบหน้าไร้ซึ่งกลิ่นไอชีวิต ทำนางรับใช้ตกใจกันไม่น้อย ลั่วชิงยวนสั่งให้คนนำเชือกมามัดตัวพวกเขาไว้ ในปากของพวกเขาต่างถูกยัดด้วยกระดาษยันต์ เพื่อยืนยันว่า จริง ๆ แล้วพวกเขาเป็นเพียงซากศพที่เดินได้ ไม่สามารถต่อสู้ได้ ดูท่าคนที่โจมตีลั่วไห่ผิงเมื่อครู่ จะเผลอแสดงอาการก่อน แต่แล้วเมื่อนับจำนวนคน ผู้ดูแลกลับบอก “ยังขาดอากุ้ยอีกคนหนึ่ง!” “อากุ้ยไปไหนแล้ว? ใครเห็นบ้างว่านางไปไหน?” ลั่วหรงถามอย่างร้อนรน นางรับ

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 136

    ระหว่างทางไปปีกตะวันตก ฟู่เฉินหวนรู้สึกวิงเวียนศีรษะ มีร่างบางร่างปรากฏขึ้นตรงหน้าเขา ร่างนั้นส่ายไปมาเขาขมวดคิ้ว ยกมือขึ้นโบก แต่มันก็หายไปอีกแต่เมื่อเขาเริ่มก้าวเท้า มันก็ปรากฏตัวขึ้นอีกครั้ง ร่างสองสามร่างเหล่านั้นมุ่งหน้าไปในทิศทางเดียวกันทันใดนั้นวิสัยทัศน์ของเขาก็พร่ามัว และร่างที่อยู่ตรงหน้าเขาก็ค่อย ๆ ชัดเจนขึ้น ดูเหมือนจะเป็น... ท่านมหาราชครูลั่ว?เขารีบตามชายผู้นั้นไป แต่ด้วยเหตุผลบางอย่าง สายตาของเขากลับพร่ามัวเขาหยุดเดินดูคล้ายกับเสียงของมหาราชครูลั่วยังดังก้องในหูเขา และร่างที่พร่ามัวตรงหน้าก็มองกลับมาที่เขาด้วย“เฉินหวน มานี่สิ ท่านไปยืนทำไมอยู่ตรงนั้น?”ฟู่เฉินหวนพยักหน้า “ข้ามาแล้ว”เขาส่ายหน้าอย่างแรงและเดินไปข้างหน้าด้วยความรวดเร็วฟู่เฉินหวนไม่รู้ตัวเลยว่าในขณะนี้เขาเดินมาถึงจุดสิ้นสุดของปีกตะวันตกแล้ว………ลั่วชิงยวนรีบไปที่ปีกตะวันตกเกือบจะในทันที ก่อนจะบุกเข้าไปด้านในโดยไม่เคาะประตู “พี่หญิงหลางหลาง!”เมื่อเปิดประตูเข้าไป นางก็เห็นลั่วหลางหลางนอนอยู่บนเตียง!สีหน้าของนางแปลเปลี่ยนไปอย่างมาก หรือว่านางจะมาสายเกินไป?!หัวใจของนางหล่นไปที่ตาตุ่ม

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 137

    ฟู่เฉินหวนอดทนต่อความเจ็บปวดอย่างแสนสาหัสไม่มีเรี่ยวแรงโต้กลับ เขาถูกนางเตะอย่างแรงจนไม่อาจต้านทานไหวลั่วชิงยวนรู้ดีแก่ใจว่า ฟู่เฉินหวนไม่มีทางจะมาที่เรือนของลั่วหลางหลางด้วยความตั้งใจของเขาเองยิ่งไปกว่านั้น สีหน้าของเขาก็ดูไม่ปกติอีกด้วยนี่คงถูกใครสักคนจัดฉากอย่างแน่นอนถึงอย่างนั้นนางก็ยังด่าทอเขาอยู่ดี! โอกาสทองเช่นนี้ใช่จะมาหานางบ่อย ๆ!ฟู่เฉินหวนโกรธจนอดไม่ได้ที่จะตอบโต้ เขาคว้าข้อมือของลั่วชิงยวนเอาไว้ ก่อนพลิกตัวนางแล้วกดนางลงกับเตียง“ลั่วชิงยวน! เจ้าจะพอได้หรือยัง?”ลั่วชิงยวนพยายามขัดขืน แต่ก็ไม่อาจหลุดพ้นจากพันธนาการได้ นางเงยหน้าขึ้นมองใบหน้าของอีกฝ่ายที่มีเส้นเลือดปูดโปน อีกทั้งดวงตาของเขาก็ดูดุร้ายนัก“ปล่อยข้านะ!” ลั่วชิงยวนโกรธและไม่ยอมแพ้ นางยังยกขาขึ้นและกดมันลงไปที่บริเวณตรงกลางระหว่างขาของฟู่เฉินหวนอีกครั้ง ก่อนจะเอ่ยปากขู่ "ท่านอ๋อง หากท่านไม่ปล่อย เช่นนั้นหม่อมฉันจะไม่เกรงใจแล้วนะ!”นางจะใช้เตะนี้เล่นงานเขาจริง ๆ ด้วย!ฟู่เฉินหวนเมื่อได้ยินเช่นนั้นก็ยิ่งโกรธ ความเจ็บปวดสาหัสทำให้เขากัดฟันแน่น "ลั่วชิงยวน ถ้าเจ้าอยากตายก็ลองขยับดูสิ!"ขณะนี้ทั้งสองต

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 138

    ใบหน้าของฟู่เฉินหวนหม่นลงหลังจากได้ยินสิ่งนี้“ท่านอ๋อง เชิญนั่งเถิดเพคะ” ลั่วชิงยวนสวมรองเท้าเสร็จแล้ว จึงจัดเสื้อผ้าให้เป็นระเบียบ นั่งที่โต๊ะก่อนผายมือเป็นท่าทางเชิญชวนฟู่เฉินหวนจัดเสื้อผ้าอาภรณ์ที่สวมอยู่ให้เป็นระเบียบและนั่งลงด้วยสีหน้าเศร้าหมองทันทีที่เขานั่งลง เขาก็เห็นลั่วชิงยวนดึงเข็มออกมาจากที่ไหนก็ไม่รู้ นางยิ้มอย่างเย็นชาก่อนจะเอ่ยว่า "ท่านอ๋อง ใบหน้าของท่านดูไม่ดีเลย ท่านจำเป็นต้องได้รับการฝังเข็มเพื่อบรรเทาอาการบัดเดี๋ยวนี้เพคะ"ดวงตาของฟู่เฉินหวนเย็นชา แม้ว่าเขาจะนึกลังเล แต่ก็ยังยอมยื่นมือออกไปลั่วชิงยวนหยิบเข็มออกมา แทงเข็มลงบนข้อมือของฟู่เฉินหวนหลายจุด ทำให้ฤทธิ์ของยาที่ฟู่เฉินหวนได้รับบรรเทาลงเล็กน้อยรังสีสังหารในดวงตาของเขาหายไปอย่างรวดเร็วมาก แต่เส้นเลือดยังคงปูดโปนไม่หายเดาว่านี่อาจเป็นความเจ็บปวดของการถูกนางเตะผ่าหมาก…ท้ายที่สุดเขาก็ถอนหายใจด้วยความโล่งอก และเบาใจขึ้นเป็นอย่างมากลั่วหรงรีบไปยังเรือนปีกตะวันตกอย่างกังวล นางได้ยินเสียงตะโกนดังมาจากที่ไหนก็ไม่รู้ ตะโกนดังออกมาว่า ท่านอ๋องเมามายและรีบวิ่งเข้าไปในเรือนปีกตะวันตก นั่นทำให้หัวใจของนางตกไ

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 139

    “และเหตุใดท่านถึงได้กล่าวว่า ท่านอ๋องรีบเร่งเข้ามาในเรือนทางปีกตะวันตกอย่างบ้าคลั่งด้วยล่ะ?” คนอื่นถามขึ้นอีกใบหน้าของฟู่เฉินหวนมืดมนและเขาพูดอย่างเย็นชา "พวกท่านอยากเข้ามาทานอาหารด้วยกันก่อนหรือไม่?"คำพูดนี้มีความหมายว่า เขาไม่ชอบให้คนอื่น ๆ พูดจาอะไรให้มากความทุกคนมองดูท่านอ๋องที่ดูคล้ายกำลังจะเสียสติ ใบหน้าของเขามืดมน และดูเหมือนใกล้จะกินหัวใครสักคนเข้าแล้ว“แค่เรื่องเข้าใจผิดนี่เอง เอาล่ะ เอาล่ะ! อย่าได้รบกวนท่านอ๋องและพระชายาจากมื้ออาหารของพวกเขาเลย!”เมื่อประโยคนั้นจบลง หลายต่อหลายคนก็ก้าวออกจากห้องไป“ข้าก็นึกว่าเกิดเรื่องใหญ่ขึ้น แต่กลายเป็นเพียงเรื่องเข้าใจผิดเท่านั้น”ผู้คนเริ่มจากไปทีละคนเมื่อเห็นว่าไม่ได้เกิดอะไรขึ้นกับลั่วหลางหลาง ลั่วหรงก็รู้สึกสบายใจขึ้นมาก ก่อนรีบส่งแขกให้กลับไปยังพื้นที่จัดงานฉลองที่ลานในจวนหลังจากที่ทุกคนจากไปแล้ว ลั่วหรงก็กลับมา "ชิงยวน หลางหลาง..." ลั่วชิงยวนรีบเดินไปที่ด้านหลังเตียง แล้วพยุงลั่วหลางหลางออกมานอนบนเตียงดังเดิมเมื่อเห็นใบหน้าที่แดงระเรื่อของลั่วหลางหลาง ลั่วอวิ๋นสี่ก็วิตกกังวลอย่างหนักและจ้องมองไปที่ลั่วชิงยวน "พี่

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 140

    “ในจวนของท่านมีที่ใดบ้างที่ชื้นแฉะอยู่ตลอดเวลา?” ลั่วชิงยวนถามอย่างรวดเร็วลั่วหรงไม่รู้ว่าอีกฝ่ายถามเพราะเหตุใด แต่หลังจากคิดอยู่ครู่หนึ่ง นางก็ตอบออกไปว่า "ด้านทิศเหนือของจวนเป็นพื้นที่ป่าไผ่ มีน้ำตกเล็ก ๆ และลำธารอยู่ที่นั่น พื้นที่บริเวณนั้นจึงชื้นแฉะอยู่ตลอดเวลา อวิ๋นสี่เคยพักอยู่ที่เรือนแถวนั้น หลังจากย้ายออกไป แถวนั้นก็ว่างเปล่า”ทันทีที่นางพูดจบ ลั่วชิงยวนก็เห็นว่าสีหน้าของหลินอวี้เวยเปลี่ยนไปดวงตาของลั่วชิงยวนเป็นประกาย นางยกยิ้มมุมปาก "อย่างนี้นี่เอง!"ลั่วหรงรู้สึกสับสนและไม่เข้าใจว่าเหตุใดจู่ ๆ ลั่วชิงยวนถึงอยากไปพื้นที่ในบริเวณนั้น นางจึงได้แต่นำทางลั่วชิงยวนและฟู่เฉินหวนไปยังป่าไผ่แห่งนั้นด้วยตนเองบริเวณป่าไผ่ทางทิศเหนือของจวนมหาราชครูแทบไม่มีคนย่างกรายเข้ามาเลย เรียกได้ว่าเป็นสถานที่อันเงียบสงบที่สุดในจวน เมื่อเปิดประตูสวนเข้าไป ก็ปรากฏรอยเท้าให้เห็นอยู่ทั่วลั่วหรงขมวดคิ้ว “ที่นี่ไม่มีใครอยู่อาศัยมาตั้งนานแล้ว ใครกันที่เข้ามาที่นี่?”“หลินอวี้เวย” ลั่วชิงยวนพูด เมื่อสังเกตจากรอยเท้าบนพื้นมันดูใกล้เคียงกับรอยเท้าของหลินอวี้เวย ดังนั้นจึงน่าจะเป็นนาง“เจ้ารู้ไ

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 141

    เมื่อได้เห็นท่าทางหวาดกลัวของหลิ่วจิ้นแล้ว ลั่วชิงยวนก็รู้สึกเย้ยหยันในใจจนถึงตอนนี้หลินอวี้เวยก็ยังไม่คิดจะสารภาพ และถึงกับยอมเสี่ยงซ่อนตัวหลิ่วจิ้นไว้ในจวนมหาราชครูซึ่งเป็นผลให้ชายผู้นี้หันกลับมาแว้งกัดนางหลินอวี้เวยเสียเองยิ่งไม่ต้องพูดถึงว่าหลินอวี้เวยถูกผิดเช่นไร เพียงเมื่อได้เห็นเช่นนี้แล้วนางก็รู้สึกว่าหลินอวี้เวยช่างน่าสมเพชเสียจริง“นางฝังอะไรไว้ที่ใดเล่า?” ลั่วหรงถามทันทีหลิ่วจิ้นยืนขึ้นและชี้ไปที่น้ำตก "ตรงนั้นขอรับ!"เขาเดินไปข้างหน้าลั่วชิงยวนมองเห็นสิ่งที่อยู่ใต้น้ำตกได้ในเสี้ยววินาที และทันใดนั้นดวงตาของนางก็เป็นประกายนางก้าวไปข้างหน้าและหยิบของออกมาจากใต้ม่านน้ำตกนั้น“นี่มัน…” ลั่วหรงมองดูสิ่งนี้อย่างคุ้นเคย“ธงชี้นำศพ” น้ำเสียงของลั่วชิงยวนเย็นชาเล็กน้อย “ไม่แปลกใจแล้วที่วันนี้จวนมหาราชครูจะมีผีดิบพวกนั้นอยู่ ดูเหมือนว่าคนเหล่านั้นจะกลายเป็นผีดิบอยู่ก่อนแล้ว ก่อนจะเข้ามาในจวน”“เพราะมีธงชี้นำศพซ่อนอยู่ในบ้าน พวกมันจึงสามารถปลอมแปลงเป็นคนธรรมดาได้ เรื่องทั้งหมดนี้ไม่ใช่เพียงแผนการชั่วร้ายเล็ก ๆ อีกแล้ว”หากในวันนี้พวกเขาไม่อาจค้นพบได้ทันเวลา ผีดิบเหล่าน

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 142

    ลั่วชิงยวนขมวดคิ้ว "นี่ท่านสงสัยว่าตัวข้าฆ่าคนปิดปากอย่างนั้นหรือ?"ฟู่เฉินหวนมองไปทางอื่นและไม่ได้ตอบอะไร แต่สีหน้าของเขาได้บอกทุกอย่างไว้แล้วลั่วชิงยวนอยากจะอธิบาย แต่เธอก็รู้สึกเหนื่อยๆ รู้สึกเหมือนตัวเองคิดผิดที่รู้อะไรมากเกินไปฟู่เฉินหวนรู้สึกกังขาในเรื่องนี้จริง ๆ นั่นก็เพราะลั่วชิงยวนเป็นคนสัมผัสกับธงชี้นำศพ และนางก็เป็นคนที่สัมผัสร่างกายของหลิ่วจิ้นด้วยสิ่งที่สำคัญที่สุดคือ เขาสงสัยว่าเหตุการณ์นี้อาจเกี่ยวข้องกับตระกูลเหยียน ลั่วชิงยวนและตระกูลเหยียนนั้นก็มีความเกี่ยวข้องกันอย่างแยกไม่ออกลั่วหรงดูเคร่งขรึมและเอ่ยขึ้นว่า "ตอนนี้เราทำได้เพียงไปสอบปากคำหลินอวี้เวยเท่านั้น"ลั่วหรงจัดให้มีคนคอยจับตาดูร่างของหลิ่วจิ้นเอาไว้ ก่อนที่ทั้งสามจะออกจากป่าไผ่หลังจวนไปอย่างรวดเร็วเรือนปีกตะวันตก ลั่วอวิ๋นสี่กำลังทุบตีหลินอวี้เวยเพื่อบังคับให้นางสารภาพอยู่ แต่แม้จะใช้แส้เฆี่ยนตีหลินอวี้เวยจนตาย หลินอวี้เวยก็ยังไม่ปริปาก“นังสารเลว! เราปฏิบัติต่อเจ้าอย่างดี กลับกลายเป็นว่า เจ้าวางแผนทำร้ายพี่หญิงของข้าเสียเอง! ข้าหลงนึกว่าเจ้ารักและเอ็นดูพี่สาวของข้ามากแต่กลับกลายเป็นว่าเจ้าอยากใ

Bab terbaru

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 1424

    “ท่านอยู่ต่อ ส่วนคนอื่น ๆ ออกไปก่อนเถิด” ลั่วชิงยวนกล่าวกับชายชราจากนั้นคนอื่น ๆ ก็ทยอยออกไปชายชราลุกขึ้นเดินมายืนตรงหน้าลั่วชิงยวน “ท่านเจ้าเมืองมีสิ่งใดจะสั่งหรือขอรับ?”ลั่วชิงยวนถามว่า “บนเขาแห่งนี้มีคนมาแย่งชิงยาสมุนไพรไปจริงหรือ? ที่ส่งคนไปตามหา มีเบาะแสอะไรบ้างหรือไม่?”“มีคนมาจริง ๆ ขอรับ พรรคพวกของพวกมันมีประมาณสิบคนได้ แต่พวกมันหนีไปเร็วมาก ตอนนั้นทุกคนมัวแต่สนใจด้านหน้า ไม่มีใครสังเกตว่ามีคนบุกเข้าไปในคลังโอสถ”“พวกเขาถึงได้หนีรอดไปได้ขอรับ”เมื่อได้ยินดังนั้น ลั่วชิงยวนก็ยิ่งสงสัยว่าเป็นคนของสำนักเทียนฉยง และจงใจมาเป็นปฏิปักษ์กับนาง จึงได้ชิงบัวถวายไปก่อนมองดูชายชราตรงหน้าแล้ว ลั่วชิงยวนก็ยังมิเข้าใจเขาดีนักนางจึงถามว่า “บนหลังของท่านมีรอยประทับทาสหรือไม่?”เมื่อได้ยินดังนั้น ชายชราก็ตกใจเล็กน้อย จากนั้นก็พยักหน้า “มีขอรับ”ลั่วชิงยวนรู้ว่าคำพูดของนางย่อมทำให้เขาเคลือบแคลงใจว่านางมิใช่อวี๋ตันเฟิ่งแต่นางก็มิได้คิดจะแสร้งเป็นอวี๋ตันเฟิ่งเพื่อเข้าควบคุมเมืองแห่งภูตผีแห่งนี้“ท่านควรรู้ว่าข้ามิใช่อวี๋ตันเฟิ่ง”ชายชราผู้นั้นอึ้งไป มิรู้ว่าจะพูดอย่างไรดี ในเมื่อ

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 1423

    หวังเพียงว่าจะกักขังโหยวจิ้งเฉิงไว้บนเขาได้ เพราะหากเขาไปสิงอยู่ในร่างผู้อื่นแล้วหนีลงเขาไปได้ก็จะเป็นเรื่องยุ่งยากเพียงแต่ในตอนนี้ นางไม่มีแรงพอที่จะไล่ตามแล้ว จึงไปหายาในคลังกับคนใบ้เมื่อไปถึง โฉวสือชีและอวี๋โหรวก็อยู่ที่นั่นอวี๋โหรวปรุงโอสถเสร็จแล้วโฉวสือชีกำลังค้นหาสมุนไพรอยู่ข้าง ๆ“เจ้าเป็นอย่างไรบ้าง?” โฉวสือชีถามด้วยความเป็นห่วงลั่วชิงยวนส่ายหน้า “ข้ามิเป็นอะไร”โฉวสือชียื่นกล่องในมือออกมา แล้วพูดว่า “เจอโสมมังกรเพียงกิ่งเดียวเอง”ลั่วชิงยวนรับกล่องมา แล้วส่งให้คนใบ้ “รอจัดการเรื่องนี้เสร็จก่อน ข้าจะจัดยาให้เจ้าชุดหนึ่ง แม้จะมิสามารถรักษาอาการของเจ้าให้หายขาดได้ แต่ก็พอจะยืดชีวิตได้”คนใบ้พยักหน้า รับโสมมังกรมาด้วยสีหน้าซับซ้อนภายใต้หน้ากากโฉวสือชีกล่าวเสียงหนักแน่น “คลังโอสถนี่ใหญ่โตเกินไป ข้าหาบัวถวายมิเจอจริง ๆ”“และเมื่อดูแล้วในนี้ก็มีร่องรอยการถูกรื้อค้น ต่งอวิ๋นซิ่วคงมิได้หลอกพวกเรา บัวถวายคงถูกใครบางคนชิงไปแล้ว”เมื่อได้ยินดังนั้น ลั่วชิงยวนก็ขมวดคิ้วแน่น “บังเอิญเกินไปแล้ว บัวถวายถูกชิงไปตอนที่เรามาถึงพอดี”“แถมยังถูกกวาดไปจนเกลี้ยง”“สมุนไพรอื่นก็มิ

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 1422

    ร่างที่ไร้ศีรษะร่างหนึ่งถือกระบี่เดินเข้ามาหาลั่วชิงยวน โซ่เหล็กด้านหลังลากคนสามคนไว้แม้จะออกแรงสุดกำลังแล้วก็ยังฉุดรั้งโหยวจิ้งเฉิงไว้มิได้แต่ร่างของโหยวจิ้งเฉิงในตอนนี้ไม่มีศีรษะแล้ว ยากที่จะควบคุมร่างกายได้ลั่วชิงยวนถือกระบี่เงื้อฟันไปยังร่างของฝูเหมิ่ง เช่นเดียวกับตอนที่โหยวจิ้งเฉิงตัดแขนขาของอวี๋ตันเฟิ่งนางกำลังแก้แค้นและระบายความแค้นอย่างบ้าคลั่งตัดแขนของเขาขาดทีละข้างกระบี่ห้วงสวรรค์ร่วงลงสู่พื้นไปพร้อมกับแขนจากนั้นขาทั้งสองข้างของเขาก็ขาดกระเด็นอวี๋ตันเฟิ่งอาละวาดแก้แค้นอย่างบ้าคลั่งเมื่อมองไปยังซากศพที่กองอยู่บนพื้น ดวงตาของลั่วชิงยวนก็ราวกับถูกย้อมไปด้วยสีแดงฉานใต้หล้าเต็มไปด้วยกลิ่นคาวเลือดทั้งสามที่อยู่มิไกลต่างตกตะลึงมิเคยเห็นฉากที่นองเลือดเช่นนี้มาก่อนแต่ถึงแม้ร่างกายจะแหลกละเอียด โหยวจิ้งเฉิงก็ยังมิตายทันใดนั้นมีร่างหนึ่งพุ่งออกมาจากซากศพ แล้วลอยละลิ่วไปอวี๋ตันเฟิ่งกรีดร้องแหลม “โหยวจิ้งเฉิง เจ้าอย่าหวังว่าจะหนีไปไหนได้อีก! ข้าจะทำให้เจ้ามิได้ผุดได้เกิด!”พลังในร่างของนางพลันเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว เกิดเป็นลมพายุโหมกระหน่ำ ลั่วชิงยวนรู้สึกราว

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 1421

    ใบหน้านั้นบ่งบอกชัดเจนว่าเป็นโหยวจิ้งเฉิง“ต่อไปก็ถึงตาพวกเจ้าแล้ว” เขาเอ่ยด้วยเสียงแหบแห้งเย็นเยือกโฉวสือชีกำกระบี่ในมือแน่น ปกป้องคนใบ้และอวี๋โหรวไว้ส่วนลั่วชิงยวนค่อย ๆ ก้าวเท้าไปข้างหน้าในดวงตาค่อย ๆ ก่อเกิดจิตสังหารนางหลับตาลง แล้วกล่าวว่า “อวี๋ตันเฟิ่ง ไปแก้แค้นของเจ้าเถิด”ลั่วชิงยวนมอบร่างของตนให้อวี๋ตันเฟิ่งโดยสมบูรณ์เมื่อลืมตาขึ้นอีกครั้ง ใบหน้าของนางยังคงเป็นใบหน้าเดิม เพียงแต่แววตานั้นกลับดุดันยิ่งนัก ดวงตาสีแดงก่ำเต็มไปด้วยความแค้นเสียงของอวี๋ตันเฟิ่งดังขึ้น “โหยวจิ้งเฉิง ความแค้นระหว่างข้ากับเจ้า วันนี้ถึงคราวสะสางแล้ว”“สิบกว่าปีที่ผ่านมา ข้าคิดอยู่ตลอดเวลาว่าจะฉีกร่างเจ้าเป็นชิ้น ๆ อย่างไรถึงจะสาสมกับความแค้นในใจข้า”“แต่คาดมิถึงว่าเจ้าจะตายไปแล้ว”“แต่ก็มิเป็นไร วันนี้ข้าจะฉีกร่างเจ้าให้เป็นชิ้น ๆ ให้ได้!”เมื่อกล่าวจบ ลั่วชิงยวนก็กระโจนเข้าไปเสียงอาวุธปะทะกันอย่างรุนแรงดังขึ้นแต่ในเวลานี้เอง โหยวจิ้งเฉิงก็พุ่งไปยังกำแพง คว้ากระบี่ห้วงสวรรค์มาได้ จากนั้นกระโจนออกนอกห้องไปอวี๋ตันเฟิ่งรีบไล่ตามไปสีหน้าคนใบ้เปลี่ยนไป กระบี่ห้วงสวรรค์! หากฝูเหมิ่ง

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 1420

    ต่งอวิ๋นซิ่วตกใจจนหน้าซีดเผือด รีบยกมือขึ้นมาป้องกัน แล้วต่อสู้กับฝูเหมิ่งแต่พลังในตอนนี้ของต่งอวิ๋นซิ่วเทียบกับฝูเหมิ่งแล้วยังอ่อนแอกว่ามากนักสุดท้ายก็ถูกฝูเหมิ่งบีบคอไว้แน่นลั่วชิงยวนเห็นชัดเจนว่าในร่างของฝูเหมิ่งตอนนี้คือโหยวจิ้งเฉิง!เขาเป็นบ้าไปแล้วหรือ? เขาจะฆ่าต่งอวิ๋นซิ่วภรรยาของตนหรือ?เมื่อเห็นดังนั้น โหยวเซียงก็ชักกระบี่พุ่งเข้าไปหมายจะช่วยต่งอวิ๋นซิ่ว แต่ฝูเหมิ่งกลับมิหลบเลยแม้แต่น้อย ปล่อยให้กระบี่ในมือนางแทงทะลุร่างจากนั้นฝูเหมิ่งก็ฟาดมือไปทีหนึ่ง โหยวเซียงจึงกระเด็นปลิวไปโหยวเซียงกระอักเลือดออกมาต่งอวิ๋นซิ่วร้อนใจยิ่งนัก “เซียงเอ๋อร์ มิต้องสนใจแม่ รีบหนีไป!”โหยวเซียงจะทนมองดูมารดาของตนถูกฆ่าได้อย่างไร นางพยายามลุกขึ้นมาสู้ต่อแต่ฝูเหมิ่งกลับมองโหยวเซียงอย่างดุดัน แล้วกล่าวขู่ “คนที่ข้าต้องการฆ่ามีเพียงต่งอวิ๋นซิ่วเท่านั้น เจ้าจงหลีกไป”“มิเช่นนั้นอย่าหาว่าข้ามิเห็นแก่ความเป็นพ่อลูก”เมื่อได้ยินดังนั้น โหยวเซียงก็ตกใจจนยืนอึ้งไปกับที่ แล้วกล่าวเสียงสั่นเครือ “พ่อ… พ่อลูกหรือ?”ตอนนี้เสียงของฝูเหมิ่งก็มิใช่เสียงของฝูเหมิ่งอีกต่อไปแล้วเมื่อต่งอวิ๋นซิ่ว

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 1419

    ขณะนี้เอง โหยวเซียงก็ฉวยโอกาสหลบหนีจากมือของลั่วชิงยวนไปได้ต่งอวิ๋นซิ่วมองพวกเขาอย่างเย็นชา “ในเมื่อมาถึงที่นี่แล้วก็เตรียมตัวตายได้เลย!”ทันใดนั้นบนคานเรือนก็ปรากฏชายชุดดำจำนวนมากพร้อมถือหน้าไม้เล็งมาที่พวกเขาลูกดอกอันคมกริบประกายแสงเย็นลั่วชิงยวนยกยิ้มมุมปาก หัวเราะอย่างเย็นชา “ดูเหมือนว่าเจ้าจะเตรียมการมาอย่างดี ตอนนี้พวกข้าคงหนีออกจากห้องนี้ไปมิได้แล้วใช่หรือไม่?”ลั่วชิงยวนสังเกตประตูห้อง รวมถึงผนังห้องทุกด้าน แล้วพบว่ามีกลไกบนประตูเหนือศีรษะ ต่งอวิ๋นซิ่วหัวเราะเบา ๆ “แน่นอน นี่คือห้องกลไกที่สร้างขึ้นมาเพื่อรับมือพวกเจ้าที่บุกรุกเข้ามาบนเขา”“วันนี้พวกเจ้าอย่าหวังว่าจะได้ออกไปแม้แต่คนเดียว!”ลั่วชิงยวนจับกระบี่ห้วงสวรรค์แน่นแล้วพุ่งไปที่กลไกจุดหนึ่งบนผนังห้อง ฟาดฟันกระบี่ลงไปอย่างแรงต่งอวิ๋นซิ่วรีบดึงโหยวเซียงหลบหลีกไปแต่ใครเล่าจะรู้ว่าลั่วชิงยวนมิได้โจมตีพวกนาง แต่กลับฟันกลไกบนผนังห้องทำให้ประตูห้องลงกลอนอย่างสมบูรณ์เมื่อเห็นเช่นนั้น ต่งอวิ๋นซิ่วก็หัวเราะเยาะ “เจ้าช่างรนหาที่ตายยิ่งนัก”ลั่วชิงยวนยกยิ้มอย่างมีความหมาย “เช่นนั้นรึ? ยังมิรู้เลยว่าใครกันแน่ที่จะ

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 1418

    ร่างที่เดินออกมาจากฝูงชนนั้นมีท่าทางคุกคามยิ่งนักลั่วชิงยวนหรี่ตาลงเล็กน้อย นั่นคือสตรีที่นางเห็นในความทรงจำของอวี๋ตันเฟิ่งต่งอวิ๋นซิ่ว!โหยวเซียงดิ้นรนพลางเงยหน้ามองต่งอวิ๋นซิ่วด้วยดวงตาแดงก่ำ “ท่านแม่… เป็นความผิดของลูกเองที่ปล่อยให้พวกมันขึ้นเขามาได้”หากมิใช่เพราะลั่วชิงยวนรู้ทางลับของวัดร้างแห่งนั้น พวกนางคงไม่มีทางขึ้นเขามาได้ง่ายดายถึงเพียงนี้!ต่งอวิ๋นซิ่วมองด้วยความเจ็บปวดแล้วตวาดใส่ลั่วชิงยวน “ปล่อยลูกสาวข้าเดี๋ยวนี้! มิเช่นนั้นข้าจะทำให้พวกเจ้าตายเยี่ยงไร้ที่ฝัง!”ลั่วชิงยวนหัวเราะเบา ๆ แล้วพูดด้วยน้ำเสียงดูถูกเหยียดหยาม “เมื่อคืนยังพยายามทำลายวิญญาณที่เหลือของอวี๋ตันเฟิ่งอยู่เลย วันนี้เจ้าลืมไปแล้วหรือว่าศัตรูของเจ้าคือใคร?”“ใครกันแน่ที่จะตายแบบไร้ที่ฝัง ยังบอกมิได้หรอก”เมื่อได้ยินดังนั้น ต่งอวิ๋นซิ่วก็สะดุ้งเฮือก สีหน้าเปลี่ยนไปอย่างมากท่าทางของนางดูตึงเครียดขึ้นมาอย่างเห็นได้ชัด แต่ก็ยังพยายามซ่อนไว้ได้ดีนางมองลั่วชิงยวนอย่างใจเย็น แล้วกล่าวว่า “ในเมื่อพวกเจ้ามาถึงเมืองแห่งภูตผี ก็คงต้องการของล้ำค่าของเมืองแห่งภูตผีสินะ”“พวกเจ้าอยากได้อะไร ข้าสามารถให้เจ

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 1417

    นางปฏิเสธอย่างหนักแน่นลั่วชิงยวนกลับยกยิ้มอย่างพึงพอใจแล้วค่อย ๆ ลุกขึ้น “พานางไปด้วย ไปวัดร้าง!”พวกเนางมุ่งหน้าไปทางทิศใต้ โหยวเซียงดิ้นรนตลอดทาง แต่โฉวสือชีและคนใบ้จ้องมองทุกการกระทำของนางอย่างใกล้ชิด มิเปิดโอกาสให้นางหลบหนีไปได้แม้แต่น้อยเมื่อเดินไปได้ไกลมากพอสมควร เสียงไก่ขันยามรุ่งอรุณก็ดังขึ้นแล้วในที่สุดพวกเขาก็มาถึงวัดร้างแห่งนั้นในวัดร้างมีพระพุทธรูปที่เป็นซากปรักหักพังล้มลงบนพื้น ดูเหมือนว่าที่นี่จะไม่มีใครมานานแล้วเมื่อมองหาอย่างละเอียดก็พบรอยเท้าบนพื้นลั่วชิงยวนมั่นใจยิ่งขึ้น นี่คือสถานที่ที่ถูกต้อง!โหยวเซียงจ้องมองทุกการกระทำของลั่วชิงยวนอย่างกระวนกระวาย เกรงว่าลั่วชิงยวนจะพบกลไกเข้าแต่ลั่วชิงยวนกลับสังเกตปฏิกิริยาของโหยวเซียง ค่อย ๆ เดินไปในแต่ละที่โดยอาศัยการสังเกตปฏิกิริยาโหยวเซียงสุดท้ายลั่วชิงยวนจึงเพ่งเล็งไปที่ผนังด้านหนึ่งแล้วเริ่มค้นหากลไกเสียงเปิดกลไกดังแกร๊กดังขึ้นประตูบานหนึ่งบนพื้นพลันเปิดออกหลังจากที่ลั่วชิงยวนเปิดประตูแล้วก็พบว่าด้านล่างยังมีประตูอีกบานหนึ่ง และบนนั้นก็มีกลไกเช่นกันแต่สำหรับลั่วชิงยวนแล้วเรื่องนี้ง่ายมากเมื่อประต

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 1416

    “เจ้ารีบอะไรนักหนา รอมาตั้งนานแล้ว รออีกสักหน่อยจะเป็นกระไร”เมื่อได้ยินดังนั้น อวี๋ตันเฟิ่งก็หยุดมือลั่วชิงยวนเดินเข้าไปคว้าตัวโหยวเซียงไว้ให้โฉวสือชีมัดนางไว้แน่นหนา จากนั้นจึงปลุกโหยวเซียงให้ฟื้นขึ้นมาเมื่อฟื้นคืนสติ โหยวเซียงก็จ้องหน้าลั่วชิงยวนเขม็งอย่างโกรธแค้น “เจ้ากล้าจับข้า เจ้าคอยดูเถอะว่าจะตายอย่างไร!”ลั่วชิงยวนย่อตัวลงนั่งตรงหน้านาง แล้วหัวเราะเบา ๆ “ใช่แล้ว ใครจะกล้าแตะต้องคุณหนูใหญ่เมืองแห่งภูตผีเล่า”“น่าเสียดาย เมืองแห่งภูตผีแห่งนี้ บิดามารดาของเจ้าไปปล้นเขามา มิใช่ของพวกเขามาแต่เดิม ย่อมมิใช่ของเจ้าเช่นกัน”“ถึงเวลาคืนเจ้าของตัวจริงแล้ว”โหยวเซียงจ้องเขม็งนางอย่างโกรธแค้น “เจ้าพูดจาเหลวไหลอะไร! เมืองแห่งภูตผีแห่งนี้เป็นของบิดามารดาข้ามาแต่เดิม!”เมื่อได้ยินดังนั้น ลั่วชิงยวนก็ประหลาดใจ “หรือว่าต่งอวิ๋นซิ่วมิได้บอกความจริงแก่เจ้า”“ก็ถูกแล้ว เรื่องน่าอับอายเช่นนี้ นางจะบอกลูกสาวได้อย่างไร”“เมืองแห่งภูตผีแห่งนี้มิใช่เพียงถูกบิดามารดาเจ้ายึดมาเท่านั้น แต่ยังใช้วิธีการที่น่ารังเกียจในการยึดครองด้วย!”“เดาว่าจนถึงตอนนี้เจ้าก็คงยังมิรู้เลยว่าศัตรูของเจ้าคือผ

Jelajahi dan baca novel bagus secara gratis
Akses gratis ke berbagai novel bagus di aplikasi GoodNovel. Unduh buku yang kamu suka dan baca di mana saja & kapan saja.
Baca buku gratis di Aplikasi
Pindai kode untuk membaca di Aplikasi
DMCA.com Protection Status