Share

บทที่ 18

Author: หว่านชิงอิ๋น
เมื่อไม่มีใครอยู่ในลานแล้ว ลั่วชิงยวนก็หยิบเข็มทิศออกมาและเดินไปที่ด้านข้างของบ่อน้ำ ดูเหมือนว่าวิญญาณชั่วร้ายถูกเปิดออก พวกมันพุ่งออกมาอย่างบ้าคลั่ง และแพร่กระจายไปทั่ว

นางขมวดคิ้วสงสัยในใจ พลางผูกเชือกเข้ากับเสา แล้วปล่อยมันห้อยลงไปในบ่อน้ำ ก่อนจะจับเชือกแล้วค่อย ๆ เดินลงไปด้านใน

นางต้องการตรวจสอบให้แน่ชัดว่า ด้านล่างนั้นมันเป็นอย่างไรกันแน่

บ่อน้ำนั้นไม่ได้ลึกอย่างที่นางจินตนาการไว้ นางจึงกลั้นหายใจและว่ายไปที่ก้นบ่อ ก่อนจะพบว่า มีกระจกยันต์แปดทิศอยู่ที่ก้นบ่อ แต่กระจกยันต์แปดทิศนั้นหนักมาก และตรงมุมมีเชือกผูกติดเอาไว้ นางมิสามารถนำมันขึ้นมาได้ วิญญาณชั่วร้ายถูกปล่อยออกมาจากกระจกยันต์แปดทิศนี้ แสดงว่ามันน่าจะเอาไว้สะกดวิญญาณศพที่อยู่รอบ ๆ และเมื่อศพถูกนำออกไป ตำแหน่งของกระจกยันต์แปดทิศจึงเปลี่ยน และได้ปลดปล่อยวิญญาณร้ายจะออกมา

นางแน่ใจได้เลยว่า นี่คือการรวมตัวของสิ่งชั่วร้ายในแคว้นหลี่

ตราบใดที่กระจกยันต์แปดทิศถูกผนึกอย่างดี พลังงานชั่วร้ายจะไม่รั่วไหลออกไป และโดยทั่วไปแล้วตรวจจับได้ไม่ง่ายนัก เมื่อพลังงานชั่วร้ายรวมตัวกัน และมีพลังเพียงพอ เมื่อมันถูกเปิดออกอีกครั้ง พลังงานชั่ว
Continue to read this book for free
Scan code to download App
Locked Chapter

Latest chapter

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 1514

    การแพ้ให้กับสตรีนางหนึ่งช่างเป็นความอัปยศอดสูอย่างยิ่งฉีเฮ่ายอมสังหารผู้คนในที่นั้นทั้งหมดดีกว่าต้องคุกเข่าขออภัยต่อสตรีผู้นี้!ในวินาทีต่อมาผู้คุ้มกันที่ฉีเฮ่านำมาก็กรูกันเข้ามา แล้ววิ่งเข้าใส่ลั่วชิงยวนในขณะนั้นเอง ผู้คุ้มกันตลาดมืดก็เคลื่อนไหวในทันทีบรรยากาศพลันตึงเครียดขึ้นในพริบตาทำให้ผู้คนจำนวนมากที่มุงดูอยู่ต่างถอยกรูดด้วยความหวาดกลัว ด้วยเกรงว่าจะโดนลูกหลงฉีเฮ่าจ้องลั่วชิงยวนเขม็ง แล้วพุ่งเข้าใส่ลั่วชิงยวนในเวลานั้นเอง เงาร่างสีดำก็ร่อนลงมากลางอากาศ เข็มเงินหลายเล่มพุ่งตรงมาจิตสังหารพวยพุ่งฉีเฮ่าตอบสนองอย่างรวดเร็ว ถูกบังคับให้ถอยหลังไปหลายก้าวเข็มเงินพุ่งปักลงบนพื้นเสียงอันเปี่ยมด้วยอำนาจและทรงพลังดังมาจากฟากฟ้า “ข้าจะดูว่าใครกล้าแตะต้องน้องสาวของอวี๋หงผู้นี้!”เมื่อเสียงนั้นดังขึ้นก็ดึงดูดสายตาของผู้คนมากมายนับมิถ้วนทุกคนพากันมองไปตามเสียง จึงเห็นเงาร่างในชุดคลุมสีดำอยู่บนชายคา ภายใต้หน้ากากผีนั้นเพียงพอที่จะสะกดข่มผู้คนที่อยู่ในที่นั้นได้ฉีเฮ่าขมวดคิ้ว ทันใดนั้นก็เกิดความคิดที่จะถอยหนีมิอยากเป็นศัตรูกับตลาดมืดแต่มินานเขาก็ถูกความโกรธในใจครอบงำ

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 1513

    ทั้งสองปะทะกันหลายสิบกระบวนท่า ลั่วชิงยวนเอาแต่หลบหลีก แต่เพียงแค่หลบหลีกก็สามารถทำให้ฉีเฮ่าโกรธแทบตายได้จูลั่วที่ยืนมองอยู่ตลอดเวลารู้สึกกังวลสตรีผู้นี้มิได้อ่อนแอเลยท่านแม่ทัพใหญ่ประมาทแล้ว!ทันใดนั้นเอง เสียงฮือฮาด้วยความตื่นเต้นก็ดังขึ้นโดยรอบเพราะลั่วชิงยวนถูกบีบให้ถอยไปจนถึงขอบลานประลองแล้วอาจตกลงไปได้ทุกเมื่อสายตาของฉีเฮ่าเย็นชา ฉวยโอกาสจับบ่าของลั่วชิงยวน มุมปากแสยะยิ้มเย็น “จับเจ้าได้แล้ว!”“ดูสิว่าตอนนี้เจ้าจะหลบได้อย่างไรอีก!”หลังจากพูดอย่างนั้นเขาก็ลงมือหนักขึ้น ลั่วชิงยวนรับมือด้วยความตึงเครียด แต่ด้วยความแตกต่างของน้ำหนักตัว ฉีเฮ่าจึงจับแขนและขาของนางแล้วยกขึ้นฉีเฮ่ายกตัวลั่วชิงยวนขึ้นอย่างเย่อหยิ่ง เตรียมจะโยนนางออกจากลานประลองทว่าในชั่วขณะนั้นเอง ลั่วชิงยวนก็ออกแรงอย่างแรง ใช้เท้าข้างหนึ่งเกี่ยวคอของฉีเฮ่าไว้จากนั้นก็หมุนตัวหลุดจากมือของฉีเฮ่า แล้วเกี่ยวคอฉีเฮ่าแล้วล้มลงกับพื้นลั่วชิงยวนร่วงลงสู่พื้นก่อนแล้วฟาดฝ่ามือลงไป แรงลมยกฝุ่นคละคลุ้งก่อนจะกระโจนตัวขึ้นในพริบตาแต่ขาทั้งสองข้างยังคงล็อกคอของฉีเฮ่าไว้แน่นกดฉีเฮ่าลงกับพื้นอย่างแรงจากนั้น

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 1512

    รอยยิ้มหยอกเย้าปรากฏบนริมฝีปากของฉีเฮ่า แววตาจาบจ้วงราวกับมองเห็นสตรีตรงหน้าถูกโยนเข้าไปในหมู่ทหารแล้วในชั่วขณะเดียว แววตาหยาบโลนนั้นก็จุดประกายเพลิงโทสะในใจของลั่วชิงยวนลั่วชิงยวนกำหมัดแน่น“สู้กันบนลานประลองนี้ ผู้ใดถูกผลักตกจากลานประลองก่อน ผู้นั้นแพ้!”จากนั้นลั่วชิงยวนก็ออกคำสั่งให้คนที่อยู่ในที่นั้นถอยออกไปผู้คุ้มกันทั้งหมดพากันถอยไป ส่วนคนอื่น ๆ ก็ทยอยกันออกไปบนลานประลองจึงเหลือเพียงลั่วชิงยวนและฉีเฮ่าสองคนฉีเฮ่ามองสำรวจลั่วชิงยวนด้วยแววตาดูถูกเหยียดหยาม “เจ้ากล้าหาญถึงเพียงนี้ ข้าชื่นชมอยู่บ้าง”“เพียงแต่น่าเสียดายที่มิฉลาดนัก”ร่างอันบอบบางเช่นนี้ เขาสามารถชกให้ปลิวได้ในหมัดเดียวเสียด้วยซ้ำนางเอาความกล้าหาญมาจากที่ใด จึงได้มาเดิมพันครั้งใหญ่กับเขาเช่นนี้?ในขณะนั้นเอง โฉวสือชีและฉีอวี้ก็ปรากฏตัวขึ้นในฝูงชนที่มามุงดูอยู่ แล้วมองเห็นร่างสองร่างบนลานประลองโฉวสือชีเหงื่อตกในใจกังวลว่าลั่วชิงยวนจะวู่วามเกินไปเมื่อฉีอวี้เห็นชายคนนั้นบนแท่นประลอง หัวใจก็เต้นผิดจังหวะฉีเฮ่ามาได้อย่างไร!ฉีอวี้ถอยหลังไปสองก้าวด้วยความกังวลโฉวสือชีสังเกตเห็นจึงหันกลับมามองนาง

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 1511

    “ลั่วชิงยวน ข้าขอเตือนเจ้าว่าอย่าได้ล่วงเกินท่านแม่ทัพใหญ่!”เมื่อได้ยินชื่อนั้น ลั่วชิงยวนก็ขมวดคิ้ว แล้วเลิกคิ้วถาม “ตำแหน่งนี้ใหญ่มากนักหรือ?”“สมควรให้ข้าให้เกียรติด้วยหรือ?”เมื่อสิ้นคำนั้น สีหน้าของคนหลายคนก็พลันเปลี่ยนไปในทันทีอวี๋หลินตวาดว่า “ไร้ความรู้! ทั่วทั้งแคว้นหลีมีเก้าหัวเมือง แม่ทัพใหญ่ค่ายทหารอวิ๋นโจวคือผู้ปกครองสูงสุดของอวิ๋นโจว!”“เจ้ายังมิรีบมอบกระบี่หมื่นทิศอีก! เพื่อขอให้ท่านแม่ทัพใหญ่ไว้ชีวิตอย่างไรเล่า!”ฉีเฮ่าเผยสีหน้ามิพอใจ ท่าทีสูงส่งราวกับกำลังรอให้ลั่วชิงยวนคุกเข่าขออภัยแล้วมอบกระบี่หมื่นทิศให้ผู้คนโดยรอบต่างอุทานด้วยความตกใจ“แม่ทัพใหญ่ค่ายอวิ๋นโจวหรือ? ถึงกับมาตลาดมืดเลยหรือนี่”“ได้ยินมาว่า ค่ายอวิ๋นโจวคือค่ายที่แข็งแกร่งที่สุดในบรรดาเก้าหัวเมือง มิใช่เพียงทหารที่แข็งแกร่ง แม่ทัพก็ยังแข็งแกร่งยิ่งนัก!”“หากตลาดมืดกล้าล่วงเกินพวกเขา เมืองป้านกุ่ยคงจะต้องถูกทำลายมิใช่หรือ?”ฉีเฮ่าฟังคำพูดเหล่านั้นแล้วยิ่งพึงพอใจตลาดมืดเล็ก ๆ นี้จะกล้าล่วงเกินค่ายอวิ๋นโจวได้อย่างไร?ทว่าลั่วชิงยวนกลับยังคงมีสีหน้าสงบ มิได้แสดงความหวาดกลัวแม้แต่น้อยนางกลับ

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 1510

    อวี๋หลินหวาดกลัวและตื่นตระหนก เขาตะโกนลั่น “อย่า ๆ! พูดจากันดี ๆ ก่อนเถิด!”ลั่วชิงยวนยกยิ้มเย็นชา “นี่มิใช่ว่าเจ้าเป็นคนเดิมพันเองหรอกรึ? เจ้ามิได้ต้องการให้ข้าเป็นอนุของเจ้าหรอกหรือไร?”“หามิได้ ๆ” อวี๋หลินกลืนน้ำลายอย่างตื่นตระหนก“สายไปแล้ว” ลั่วชิงยวนยกยิ้มจาง ในดวงตาฉายแววมุ่งสังหารยกมือขึ้นเงื้อกระบี่ฟันเข้าที่แขนของอวี๋หลินอย่างแรงเมื่อสัมผัสได้ถึงคมกระบี่อันแหลมคม อวี๋หลินก็กรีดร้องออกมาแต่ทันใดนั้นเอง ร่างหนึ่งก็ร่วงลงมาจากฟ้ากระบี่บินพุ่งเข้าใส่ลั่วชิงยวน ลั่วชิงยวนรีบยกกระบี่ขึ้นปัดป้องร่างนั้นฉวยโอกาสกระโจนเข้ามาช่วยอวี๋หลินหนีไปได้ระยะห่างถูกขยายกว้างออกไปลั่วชิงยวนมองคนที่ช่วยอวี๋หลินไป เห็นอวี๋หลินกล่าวขอบคุณ “ขอบคุณ จูลั่ว”เมื่อกล่าวจบ อวี๋หลินก็เช็ดเหงื่อ มือยังคงสั่นเทาเขาเกือบจะเสียแขนไปแล้วลั่วชิงยวนได้ยินชื่อนี้แล้วก็ประหลาดใจเล็กน้อยจูลั่ว หนึ่งในสิบปรมาจารย์กระบี่ผู้เก่งกาจ เขาอยู่อันดับที่สองถึงแม้จะรองจากฝูเหมิ่ง แต่ชื่อเสียงกลับมิได้โด่งดังเท่าฝูเหมิ่ง เพราะฝูเหมิ่งสามารถบรรลุถึงขั้นที่คนกับกระบี่หลอมรวมเป็นหนึ่งได้แต่จูลั่วทำมิได

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 1509

    เงินทองมากมายถึงเพียงนั้น ต่อให้พวกเขาต้องรวบรวมจากทั่วทั้งตลาดมืดก็ต้องใช้เวลาหลายชั่วยามคราวนี้ลั่วชิงยวนจะแก้สถานการณ์อย่างไร!หนนี้หากนางก่อเรื่องใหญ่ ท่านอาของเขาต้องมิปล่อยนางไว้แน่ขอเพียงนางจากไป ว่าที่เจ้าเมืองแห่งเมืองป้านกุ่ยก็จะต้องเป็นเขา!บรรยากาศในลานประมูลเริ่มควบคุมมิได้มากขึ้นทันใดนั้นเอง เงาร่างที่สะท้อนอยู่บนม่านหน้าต่างก็ค่อย ๆ ลุกขึ้น แล้วเดินมายังริมหน้าต่างมือเรียวยกม่านขึ้นจากนั้นเสียงใสก็ดังขึ้นอีกครั้ง “ถ้าเช่นนั้นเราเปลี่ยนสถานที่กันเถิด เพื่อให้เจ้าได้เห็นว่าข้าประมูลกระบี่หมื่นทิศมาได้ด้วยเงินหนึ่งล้านตำลึงได้อย่างไร”อวี๋หลินตกใจ พลางลังเลอยู่ครู่หนึ่ง แล้วจึงกัดฟันกล่าว “ย่อมได้! ข้าจะดูว่าเจ้าจะใช้กลอุบายอันใดอีก!”ดังนั้นพวกเขาจึงมายังลานประลองด้านหลังลานประมูลค่ำคืนนี้ไม่มีใครใช้ลานประลอง ที่นี่กว้างขวาง เหมาะสำหรับวางเงินผู้คนในลานประมูลต่างพากันตามมาดูข่าวแพร่สะพัดออกไปอย่างรวดเร็ว ดึงดูดผู้คนให้มาชมมากขึ้นเรื่อย ๆอวี๋หลินรีบให้คนยกเงินสดมา แล้วหัวเราะเยาะเสียงเย็น “ข้ามิเชื่อว่าเจ้าจะนำเงินมากมายถึงเพียงนั้นมาได้”จากนั้นก็ให้

More Chapters
Explore and read good novels for free
Free access to a vast number of good novels on GoodNovel app. Download the books you like and read anywhere & anytime.
Read books for free on the app
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status