Share

บทที่ 863

Author: หว่านชิงอิ๋น
หลังจากออกจากหอการค้าเฟิงตูแล้วลั่วชิงยวนและซ่งเชียนฉู่ก็เดินไปตามถนน ซ่งเชียนฉู่เอ่ยว่า “สนหิมะเขาฉีซานมิได้อยู่ในกล่อง”

“มันอาจมิเคยถูกส่งมาตั้งแต่แรก”

“หรือไม่ก็ถูกปล้นไประหว่างทางโดยคนอื่นที่รู้เรื่องนี้”

“อย่างไรเสีย สนหิมะเขาฉีซานก็เป็นสมุนไพรที่ล้ำค่า หากมีข่าวรั่วออกไปผู้ที่รู้จักสมุนไพรก็จะมุ่งเป้าที่สนหิมะเขาฉีซาน”

“แน่นอน และอาจเป็นไปได้ว่าพวกเขาทำมันหายหลังจากเปิดกล่องออก”

“ส่งคนไปตามหาที่สมาการค้าอีกครั้งเถอะ”

หัวใจของลั่วชิงยวนจมลง กำหมัดแน่น รู้สึกถึงข้อมือที่อ่อนแรง และถอนหายใจ

“ข้าได้กลิ่นของสนหิมะเขาฉีซาน จากสมุนไพรนั้น”

“ข้าเก็บสมุนไพรที่มีกลิ่นแรงไว้ชิ้นหนึ่ง รอให้ข้ากลับไปแล้วจะคำนวณตำแหน่งของสนหิมะเขาฉีซาน”

มีบางอย่างที่เกี่ยวข้องกับสนหิมะเขาฉีซานเป็นแนวทาง ก็จะมีโอกาสค้นหาที่ตำแหน่งของสนหิมะเขาฉีซานได้

ซ่งเชียนฉู่ประหลาดใจ “นี่ก็คำนวณได้หรือ?”

ลั่วชิงยวนพยักหน้า “ได้ แต่ใช้พลังงานมาก”

เมื่อได้ยินเช่นนี้ซ่งเชียนฉู่ก็ถามอย่างลังเล “ถ้าอย่างนั้นร่างกายของท่านจะทนได้หรือ?”

ดวงตาของลั่วชิงยวนเย็นชาเล็กน้อย “ไม่มีทางอื่น ในเมื่อเป็นเช่นนี้แล้วครั้งนี้มีแต่
Continue to read this book for free
Scan code to download App
Locked Chapter

Related chapters

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 864

    ใต้ถ้วยชามีสิ่งเล็ก ๆ ที่กำลังดีดดิ้นอยู่ลั่วชิงยวนกลั้นอาการอาเจียนไว้ และมิได้ส่งเสียงออกมาแต่เห็นฟู่เฉินหวนหยิบชาขึ้นมากำลังจะดื่มมันเจ้าของร้านและเสี่ยวเอ้อร์ที่อยู่ข้าง ๆ แอบมองพวกเขาลั่วชิงยวนรีบกุมท้องทันที “ข้าเจ็บท้อง เจ็บมาก…”ฟู่เฉินหวนมีสีหน้าเปลี่ยนไป เขาก็วางถ้วยชาลง “เป็นอะไรไป”ลั่วชิงยวนแสดงอาการสาหัสและบีบคอตัวเองราวกับว่าหายใจมิออกฟู่เฉินหวนอุ้มนางขึ้นมา พาออกมานอกจุดพักม้า และวางนางบนม้านั่งหินใต้ต้นไม้ใหญ่ “เกิดอันใดขึ้น คุณหนูซ่ง อาการของนางเป็นอย่างไร”เซียวชูยังนำผู้คนออกจากจุดพักและรวมตัวกันอยู่รอบ ๆ โดยมิรู้ว่าเกิดอะไรขึ้นลั่วชิงยวนหยุดไอและกระซิบออกไปว่า “มีแมลงพิษอยู่ในชานั้น”“เจ้ามิได้ดื่มใช่หรือไม่?”เมื่อได้ยินเช่นนี้ เซียวชูและคนอื่น ๆ ก็รู้สึกมิสบายทันทีพวกเขารีบถามกันและกันว่ามีใครดื่มไปหรือไม่โชคดีที่เมื่อทุกคนได้ยินลั่วชิงยวนบ่นเรื่องที่นางปวดท้อง จึงวางถ้วยชาลงและไม่มีใครได้ดื่มอะไรฟู่เฉินหวนมองย้อนกลับไปที่จุดพักม้าแล้วพูดอย่างเย็นชา “เช่นนั้นมิควรอยู่ที่นี่นาน ๆ ไปกันเถอะ”ไม่มีใครกล้าอยู่อีก ขบวนออกเดินทางกันต่อแต่ในตอน

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 865

    ลั่วชิงยวนเหลือบมองด้วยความสับสนฟู่เฉินหวนกล่าวเสริม “มันคือน้ำที่นำมาจากซีหยางมก่อนเดินทาง”ลั่วชิงยวนยังคงหลับตาต่อไป “หม่อมฉันมิกระหาย ท่านดื่มเองเถอะ”“ข้าดื่มแล้ว”ลั่วชิงยวนลืมตาขึ้นและมองดูเขา ริมฝีปากของเขาแห้งแตกจนเลือดออก ดูแล้วเหมือนมิได้ดื่มน้ำนางขยับร่างกาย หันหลังให้ฟู่เฉินหวนเขาพูดอย่างเย็นชา “อย่าทำเป็นใจดีเลยเพคะ หม่อมฉันมิต้องการ”ฟู่เฉินหวนขมวดคิ้วและพูดว่า “บุคคลลึกลับอาจจะปรากฏตัวอีกครั้ง และเป้าหมายของนางคือเจ้า”“หากไม่มีแรงพอที่แล้วจับได้ทีหลัง ตัวข้าก็ต้องช่วยเจ้าอีก”ลั่วชิงยวนมิหันหน้ามามอง “หม่อมฉันบอกแล้วว่ามิดื่ม”“ท่านคิดว่าตบหัวแล้วมาลูบหลัง หม่อมฉันจะฟังท่านอีกหรือ?”“อย่ามาทำเดี๋ยวดีเดี๋ยวร้าย มิอยู่กับร่องกับรอย อย่าเปลี่ยนไปเปลี่ยนมาเช่นนี้ หม่อมฉันรับมือกับการเปลี่ยนแปลงเช่นนี้มิไหวหรอก”“ความช่วยเหลือเล็ก ๆ น้อย ๆ สามารถชดเชยความเสียหายที่ท่านทำกับหม่อมฉันได้หรือ?”“อย่าทำสิ่งที่ไร้ความหมายเหล่านี้เลย”ลั่วชิงยวนหลับตา และเลิกให้ความสนใจคำพูดเหล่านั้นเหมือนกับมีดที่แทงเข้าไปในใจของฟู่เฉินหวนอย่างเจ็บปวดเมื่อนึกถึงวันที่ทำลายวรย

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 866

    ลั่วชิงยวนพุ่งไปข้างหน้า ม่านตาของนางขยายออกเมื่อเห็นกริชที่คมกริบกำลังเคลื่อนเข้าใกล้หน้าอกของฟู่เฉินหวนทีละน้อยลั่วชิงยวนรู้สึกราวกับว่ามีคนบีบคอนาง เกิดความรู้สึกหายใจมิออกอย่างรุนแรงทันใดนั้นในสายตา มือที่มีข้อต่อชัดเจนและเส้นเลือดสีน้ำเงินโป่งชัด คว้ามือที่กำลังแทงลงไปของลั่วฉิงนั่นฟู่เฉินหวน!เขามิได้หมดสติ!ลั่วชิงยวนรีบวิ่งไปที่ด้านข้างของลั่วฉิง นางขมวดคิ้วและแทงกริชเข้าที่ด้านหลังของลั่วฉิงอย่างแรงลั่วฉิงรู้ว่านางอยู่ข้างหลัง อันตรายกำลังใกล้เข้ามา จึงกลิ้งตัว หลีกเลี่ยงการโจมตีของลั่วชิงยวนทันทีแต่ด้วยเหตุนี้ กริชในมือของลั่วฉิงจึงหล่นลงไป และเป็นฟู่เฉินหวนที่หยิบขึ้นมาฟู่เฉินหวนคว้ากริช ลุกขึ้นแทงไปที่ลั่วฉิงทั้งสองเริ่มต่อสู้อย่างดุเดือดลั่วชิงยวนมองอย่างประหม่า ตอนนี้นางมิสามารถทำอะไรได้ ทำได้แค่มิเป็นภาระ และหลบอยู่ในที่ปลอดภัยเท่านั้นนี่เป็นครั้งแรกที่นางเห็นลั่วฉิงและฟู่เฉินหวนประมือกันนางรู้ว่าฟู่เฉินหวนมีวรยุทธสูง แต่มิคาดคิดว่าจะเหนือกว่าลั่วฉิงเก่งที่เชี่ยวชาญในกลอุบาย หลายครั้ง มิใช่พิษก็เป็นสัตว์อันตราย หากเป็นคนธรรมดาคงรับมือได้ยากอย่าง

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 867

    ขณะที่ดื่ม น้ำที่มีกลิ่นหอมของหญ้าและดอกไม้ชุ่มชื่นผ่านลำคอลงไป ลั่วชิงยวนก็ตกใจทันใดนั้น นางก็เข้าใจว่าน้ำมาจากที่ใดนี่คือน้ำค้างจากกิ่งก้านของดอกไม้นางจ้องมองคนข้าง ๆ ที่มิแสดงอารมณ์อะไรอย่างนิ่งงันด้วยความรู้สึกซับซ้อน เขาเดินไปไกลขนาดนั้นในป่าเพื่อเก็บน้ำค้างนี่เองน้ำเยอะขนาดนี้ เขาต้องใช้เวลาเก็บนานเท่าใด กว่าจะรู้ตัว ก็เดินกลับเข้ากลุ่มไปแล้วเซียวชูตื่นขึ้นมา มองหาพวกเขาอยู่และรู้สึกโล่งใจเมื่อเห็นพวกเขาออกมา“ท่านอ๋อง พระชายา พวกท่านหายไปที่ใดมา กระหม่อมก็นึกว่า...”เซียวชูรู้สึกกังวลอย่างมากลั่วชิงยวนนำถุงใส่น้ำเปล่า เทบางส่วนให้ซ่งเชียนฉู่ และมอบที่เหลือให้กับเซียวชู“เอาไปแบ่งให้คนอื่นเถอะ”เมื่อเห็นสิ่งนี้ เซียวชูก็ประหลาดใจ “ท่านไปเอาสิ่งนี้มาจากที่ใดหรือขอรับ?”ลั่วชิงยวนมองไปที่ฟู่เฉินหวนซึ่งกำลังเตรียมม้าสำหรับการเดินทาง “ท่านอ๋องของเจ้าหามาน่ะสิ”เมื่อได้ยินสิ่งนี้ เซียวชูก็รู้สึกตื่นเต้นมากเขารีบจิบ และมอบที่เหลือให้คนอื่นทันทีเซียวชูตะโกน “ดื่มเสร็จแล้ว ทุกคนเตรียมตัวเดินทางกลับเมืองหลวง!”ตลอดทางหลังจากนั้น ก็ไม่มีเหตุการณ์แปลก ๆ เกิดขึ้นอี

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 868

    “สนหิมะเขาฉีซาน!”จือเฉาสะดุ้งและพยักหน้าอย่างรวดเร็ว “ใช่ ๆ ๆ นั่นแหละเจ้าค่ะ!”“นี่คือสิ่งที่หมอหลวงพูด!”ลั่วชิงยวนตกตะลึง สีหน้าเคร่งเครียด ลุกขึ้นแล้วเดินออกไปยังเรือนของลั่วเยวี่ยอิงทันทีรวดเร็วอะไรปานนี้ ลั่วเยวี่ยอิงตาบอดแล้วต้องการสนหิมะเขาฉีซานอีกต่างหากนี่มิใช่เรื่องบังเอิญแล้ว มันเป็นเพียงกลอุบายของลั่วฉิงเท่านั้นลั่วฉิงน่ากลับมาที่เมืองหลวงเร็วกว่าพวกเขา และขอให้เหยียนผิงเซียวมาขอให้ลั่วเยวี่ยอิงถามฟู่เฉินหวนเรื่องสนหิมะเขาฉีซานนางรีบไปที่เรือนของอีกฝ่ายยังมิทันเข้าไปในเรือน ก็ได้ยินเสียงร้องไห้ของลั่วเยวี่ยอิง ร้องจนหายใจมิทัน ดูสิ้นหวังอย่างยิ่งฟู่เฉินหวนปลอบใจ “หยุดร้องไห้ได้แล้ว ดวงตาของเจ้าเป็นแบบนี้แล้ว หากเจ้ายังร้องไห้ต่อไปก็จะรักษามิหายเข้าจริง ๆ”ลั่วเยวี่ยอิงหยุดร้องไห้เล็กน้อย พลางจับมือฟู่เฉินหวนพูดทั้งน้ำตา “ท่านอ๋อง ท่านจะมิทิ้งหม่อมฉันใช่หรือไม่เพคะ?”ฟู่เฉินหวนตบมือของนางเบา ๆ “มิทิ้งหรอก”ท่าทางที่ใกล้ชิดนั้น สะท้อนอย่างชัดเจนในดวงตาของลั่วชิงยวนดวงตาของนางเย็นชา พลันเดินเข้าไปมองไปที่หมอหลวงที่กำลังเขียนใบเทียบยาหมอหลวงเขียนใบเทีย

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 869

    หลังจากคิดอยู่นาน ลั่วชิงยวนก็กลับมาสนใจเครื่องยาสมุนไพรชุดนั้นอีกครั้งสนหิมะเขาฉีซานอาจจะยังอยู่ในนั้นนางต้องหามันอีกครั้ง!นางต้องไปอย่างเงียบ ๆ มิเช่นนั้นลั่วเยวี่ยอิงอาจจะเข้าใกล้ไปอีกขั้น และฟู่เฉินหวนจะไม่มีวันมอบสนหิมะเขาฉีซานให้นางเมื่อเปิดประตู จือเฉาก็รีบนำอาหารมา และก็ต้องตกใจเมื่อเห็นหน้านาง“พระชายา เหตุใดท่านจึงอิดโรยเช่นนี้เล่าเจ้าคะ?”ลั่วชิงยวนอดมิได้ที่จะมองในกระจกใบหน้านางซีดเซียว ไม่มีชีวิตชีวา ใต้ตาดำคล้ำ เต็มไปด้วยความเหนื่อยล้าลั่วชิงยวนมีลางสังหรณ์มิดีก่อนหน้านี้มิเคยอิดโรยเท่านี้มาก่อน“พระชายา บางทีท่านอาจมิได้กินอาหารมานานแล้วมาทานอะไรหน่อยเถิดเจ้าค่ะ”ลั่วชิงยวนนั่งที่โต๊ะเพื่อกินอาหารนางถาม “ท่านอ๋องเป็นอย่างไรบ้าง? เขามิได้ไปแคว้นหลีใช่หรือไม่?”จือเฉาส่ายหัว “สองวันมานี้ท่านอ๋องงานล้นมือ ตอนกลางคืนก็มิอยู่ในตำหนักเจ้าค่ะ”“บ่าวถามซูโหยวแล้ว เขาบอกว่าท่านอ๋องยังมิได้สั่งการให้ไปแคว้นหลีเจ้าค่ะ”“คิดว่าท่านอ๋องคงจะมิเสด็จไป”ดวงตาของลั่วชิงยวนเป็นประกาย ฟู่เฉินหวนในเวลากลางคืนอยู่นอกตำหนัก เพื่อหลีกเลี่ยงลั่วเยวี่ยอิงนี่มิใช่โอกาสที

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 870

    คนนั้นมายืนอยู่ที่นั่นตั้งแต่เมื่อไหร่กัน?ในเวลานี้ ลั่วชิงยวนคิดว่าอีกฝ่ายกำลังยืนอยู่นอกประตูแต่เมื่อเงาดำนั้นเคลื่อนไหว ลั่วชิงยวนก็ต้องตกใจเมื่อพบว่าเขายืนอยู่ในห้องหลังจากที่ลั่วชิงยวนเข้ามา ก็ไม่มีเสียงจากประตู ซึ่งพิสูจน์ว่าประตูมิได้ถูกเปิดคนผู้นี้จึงอยู่ในห้องนี้มาตั้งแต่แรกแล้วเฝ้ามองนางสะเดาะกุญแจเข้ามาอย่างเงียบ ๆ มองดูนางควานหาไปตามกล่องและตู้ต่าง ๆจู่ ๆ ลั่วชิงยวนรู้สึกเย็นวาบไปทั้งหลังทันทีลั่วชิงยวนกำมือแน่น มองไปรอบ ๆ เล็งไปที่หน้าต่าง เตรียมจะหนีทันทีแต่เงาดำนั้นกลับเคลื่อนที่เร็วราวกับลม มาถึงข้างตัวนางทันที คว้าไหล่นางจับแขนนางไว้ลั่วชิงยวนสวนกลับด้วยหลังฝ่ามือ หวังจะไล่ให้อีกฝ่ายถอย อีกฝ่ายก็หลบไปหนึ่งครั้งจริง ๆแต่เมื่อลั่วชิงยวนคิดจะใช้โอกาสนี้หลบหนี ก็ถูกอีกฝ่ายจับอย่างง่ายดายฝ่ามือที่เต็มไปด้วยจิตสังหารโจมตีเข้ามา ความรู้สึกคุ้นเคยก็พลันเกิดขึ้นลั่วชิงยวนมองไปที่เงาดำตรงหน้าเขาและตกตะลึง เขาคือฟู่เฉินหวน!นางสูญเสียทักษะวรยุทธทั้งหมดไปและมิสามารถหลีกเลี่ยงได้ นางทำได้เพียงหันหน้าไปทางด้านข้างและรับการตบจากตำแหน่งที่มิเป็นอันตรายถึงชีว

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 871

    “เพิ่งมาสงสัยเรื่องนี้เอาป่านนี้ ท่านมิคิดว่ามันสายเกินไปหน่อยหรือ?”“ฟู่เฉินหวน หากหม่อมฉันต้องการปลิดชีพท่าน หม่อมฉันมีโอกาสมากมายนับมิถ้วน”ฟู่เฉินหวนขมวดคิ้วและถามเสียงเข้ม "ข้าถามถึงความสัมพันธ์ของเจ้ากับคนลึกลับผู้นั้น!"“วรยุทธของพวกเจ้าเหมือนกัน มิใช่วรยุทธทั่ว ๆ ไป เจ้าอย่าคิดจะหลอกข้า!”หมอหลวงกล่าวว่า ลั่วเยวี่ยอิงกำลังจะตาบอดและต้องการใช้สนหิมะเขาฉีซานจากแคว้นหลี ดังนั้นเขาจึงเริ่มสงสัยเขาส่งซูโหยวไปตรวจสอบ ชุดยาที่นำกลับมาจากสมาการค้าเฟิงตูถูกส่งมาจากชายแดน และอาจเกี่ยวข้องกับแคว้นหลีเขาจึงอ้างว่าช่วงนี้เขามิได้อยู่ในตำหนักเพียงเพื่อล่อให้คนลึกลับคนนั้นมาติดกับจริง ๆ แล้วเขาอยู่ในโรงเก็บของทุกคืนในที่สุดคืนนี้ก็รอจนเหยื่อมาหาถึงที่ใครจะรู้ว่าคนที่จับได้มิใช่คนลึกลับ แต่เป็นลั่วชิงยวน!สิ่งนี้ทำให้เขาอดสงสัยมิได้ลั่วชิงยวนโกรธ พยายามดิ้นหลุดจากมือเขา ความเจ็บปวดเหมือนโดนเข็มแทงนางพูดด้วยความโกรธ “ใช่! นางกับข้าเป็นพวกเดียวกัน! พอใจหรือยัง!”ฟู่เฉินหวนมองนางด้วยสายตาเจ็บปวดครู่ต่อมา ใบหน้าของลั่วชิงยวนก็ซีดลง ในที่สุดก็ทนความเจ็บปวดมิไหว ภาพเบื้องหน้ามื

Latest chapter

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 1420

    ต่งอวิ๋นซิ่วตกใจจนหน้าซีดเผือด รีบยกมือขึ้นมาป้องกัน แล้วต่อสู้กับฝูเหมิ่งแต่พลังในตอนนี้ของต่งอวิ๋นซิ่วเทียบกับฝูเหมิ่งแล้วยังอ่อนแอกว่ามากนักสุดท้ายก็ถูกฝูเหมิ่งบีบคอไว้แน่นลั่วชิงยวนเห็นชัดเจนว่าในร่างของฝูเหมิ่งตอนนี้คือโหยวจิ้งเฉิง!เขาเป็นบ้าไปแล้วหรือ? เขาจะฆ่าต่งอวิ๋นซิ่วภรรยาของตนหรือ?เมื่อเห็นดังนั้น โหยวเซียงก็ชักกระบี่พุ่งเข้าไปหมายจะช่วยต่งอวิ๋นซิ่ว แต่ฝูเหมิ่งกลับมิหลบเลยแม้แต่น้อย ปล่อยให้กระบี่ในมือนางแทงทะลุร่างจากนั้นฝูเหมิ่งก็ฟาดมือไปทีหนึ่ง โหยวเซียงจึงกระเด็นปลิวไปโหยวเซียงกระอักเลือดออกมาต่งอวิ๋นซิ่วร้อนใจยิ่งนัก “เซียงเอ๋อร์ มิต้องสนใจแม่ รีบหนีไป!”โหยวเซียงจะทนมองดูมารดาของตนถูกฆ่าได้อย่างไร นางพยายามลุกขึ้นมาสู้ต่อแต่ฝูเหมิ่งกลับมองโหยวเซียงอย่างดุดัน แล้วกล่าวขู่ “คนที่ข้าต้องการฆ่ามีเพียงต่งอวิ๋นซิ่วเท่านั้น เจ้าจงหลีกไป”“มิเช่นนั้นอย่าหาว่าข้ามิเห็นแก่ความเป็นพ่อลูก”เมื่อได้ยินดังนั้น โหยวเซียงก็ตกใจจนยืนอึ้งไปกับที่ แล้วกล่าวเสียงสั่นเครือ “พ่อ… พ่อลูกหรือ?”ตอนนี้เสียงของฝูเหมิ่งก็มิใช่เสียงของฝูเหมิ่งอีกต่อไปแล้วเมื่อต่งอวิ๋นซิ่ว

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 1419

    ขณะนี้เอง โหยวเซียงก็ฉวยโอกาสหลบหนีจากมือของลั่วชิงยวนไปได้ต่งอวิ๋นซิ่วมองพวกเขาอย่างเย็นชา “ในเมื่อมาถึงที่นี่แล้วก็เตรียมตัวตายได้เลย!”ทันใดนั้นบนคานเรือนก็ปรากฏชายชุดดำจำนวนมากพร้อมถือหน้าไม้เล็งมาที่พวกเขาลูกดอกอันคมกริบประกายแสงเย็นลั่วชิงยวนยกยิ้มมุมปาก หัวเราะอย่างเย็นชา “ดูเหมือนว่าเจ้าจะเตรียมการมาอย่างดี ตอนนี้พวกข้าคงหนีออกจากห้องนี้ไปมิได้แล้วใช่หรือไม่?”ลั่วชิงยวนสังเกตประตูห้อง รวมถึงผนังห้องทุกด้าน แล้วพบว่ามีกลไกบนประตูเหนือศีรษะ ต่งอวิ๋นซิ่วหัวเราะเบา ๆ “แน่นอน นี่คือห้องกลไกที่สร้างขึ้นมาเพื่อรับมือพวกเจ้าที่บุกรุกเข้ามาบนเขา”“วันนี้พวกเจ้าอย่าหวังว่าจะได้ออกไปแม้แต่คนเดียว!”ลั่วชิงยวนจับกระบี่ห้วงสวรรค์แน่นแล้วพุ่งไปที่กลไกจุดหนึ่งบนผนังห้อง ฟาดฟันกระบี่ลงไปอย่างแรงต่งอวิ๋นซิ่วรีบดึงโหยวเซียงหลบหลีกไปแต่ใครเล่าจะรู้ว่าลั่วชิงยวนมิได้โจมตีพวกนาง แต่กลับฟันกลไกบนผนังห้องทำให้ประตูห้องลงกลอนอย่างสมบูรณ์เมื่อเห็นเช่นนั้น ต่งอวิ๋นซิ่วก็หัวเราะเยาะ “เจ้าช่างรนหาที่ตายยิ่งนัก”ลั่วชิงยวนยกยิ้มอย่างมีความหมาย “เช่นนั้นรึ? ยังมิรู้เลยว่าใครกันแน่ที่จะ

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 1418

    ร่างที่เดินออกมาจากฝูงชนนั้นมีท่าทางคุกคามยิ่งนักลั่วชิงยวนหรี่ตาลงเล็กน้อย นั่นคือสตรีที่นางเห็นในความทรงจำของอวี๋ตันเฟิ่งต่งอวิ๋นซิ่ว!โหยวเซียงดิ้นรนพลางเงยหน้ามองต่งอวิ๋นซิ่วด้วยดวงตาแดงก่ำ “ท่านแม่… เป็นความผิดของลูกเองที่ปล่อยให้พวกมันขึ้นเขามาได้”หากมิใช่เพราะลั่วชิงยวนรู้ทางลับของวัดร้างแห่งนั้น พวกนางคงไม่มีทางขึ้นเขามาได้ง่ายดายถึงเพียงนี้!ต่งอวิ๋นซิ่วมองด้วยความเจ็บปวดแล้วตวาดใส่ลั่วชิงยวน “ปล่อยลูกสาวข้าเดี๋ยวนี้! มิเช่นนั้นข้าจะทำให้พวกเจ้าตายเยี่ยงไร้ที่ฝัง!”ลั่วชิงยวนหัวเราะเบา ๆ แล้วพูดด้วยน้ำเสียงดูถูกเหยียดหยาม “เมื่อคืนยังพยายามทำลายวิญญาณที่เหลือของอวี๋ตันเฟิ่งอยู่เลย วันนี้เจ้าลืมไปแล้วหรือว่าศัตรูของเจ้าคือใคร?”“ใครกันแน่ที่จะตายแบบไร้ที่ฝัง ยังบอกมิได้หรอก”เมื่อได้ยินดังนั้น ต่งอวิ๋นซิ่วก็สะดุ้งเฮือก สีหน้าเปลี่ยนไปอย่างมากท่าทางของนางดูตึงเครียดขึ้นมาอย่างเห็นได้ชัด แต่ก็ยังพยายามซ่อนไว้ได้ดีนางมองลั่วชิงยวนอย่างใจเย็น แล้วกล่าวว่า “ในเมื่อพวกเจ้ามาถึงเมืองแห่งภูตผี ก็คงต้องการของล้ำค่าของเมืองแห่งภูตผีสินะ”“พวกเจ้าอยากได้อะไร ข้าสามารถให้เจ

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 1417

    นางปฏิเสธอย่างหนักแน่นลั่วชิงยวนกลับยกยิ้มอย่างพึงพอใจแล้วค่อย ๆ ลุกขึ้น “พานางไปด้วย ไปวัดร้าง!”พวกเนางมุ่งหน้าไปทางทิศใต้ โหยวเซียงดิ้นรนตลอดทาง แต่โฉวสือชีและคนใบ้จ้องมองทุกการกระทำของนางอย่างใกล้ชิด มิเปิดโอกาสให้นางหลบหนีไปได้แม้แต่น้อยเมื่อเดินไปได้ไกลมากพอสมควร เสียงไก่ขันยามรุ่งอรุณก็ดังขึ้นแล้วในที่สุดพวกเขาก็มาถึงวัดร้างแห่งนั้นในวัดร้างมีพระพุทธรูปที่เป็นซากปรักหักพังล้มลงบนพื้น ดูเหมือนว่าที่นี่จะไม่มีใครมานานแล้วเมื่อมองหาอย่างละเอียดก็พบรอยเท้าบนพื้นลั่วชิงยวนมั่นใจยิ่งขึ้น นี่คือสถานที่ที่ถูกต้อง!โหยวเซียงจ้องมองทุกการกระทำของลั่วชิงยวนอย่างกระวนกระวาย เกรงว่าลั่วชิงยวนจะพบกลไกเข้าแต่ลั่วชิงยวนกลับสังเกตปฏิกิริยาของโหยวเซียง ค่อย ๆ เดินไปในแต่ละที่โดยอาศัยการสังเกตปฏิกิริยาโหยวเซียงสุดท้ายลั่วชิงยวนจึงเพ่งเล็งไปที่ผนังด้านหนึ่งแล้วเริ่มค้นหากลไกเสียงเปิดกลไกดังแกร๊กดังขึ้นประตูบานหนึ่งบนพื้นพลันเปิดออกหลังจากที่ลั่วชิงยวนเปิดประตูแล้วก็พบว่าด้านล่างยังมีประตูอีกบานหนึ่ง และบนนั้นก็มีกลไกเช่นกันแต่สำหรับลั่วชิงยวนแล้วเรื่องนี้ง่ายมากเมื่อประต

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 1416

    “เจ้ารีบอะไรนักหนา รอมาตั้งนานแล้ว รออีกสักหน่อยจะเป็นกระไร”เมื่อได้ยินดังนั้น อวี๋ตันเฟิ่งก็หยุดมือลั่วชิงยวนเดินเข้าไปคว้าตัวโหยวเซียงไว้ให้โฉวสือชีมัดนางไว้แน่นหนา จากนั้นจึงปลุกโหยวเซียงให้ฟื้นขึ้นมาเมื่อฟื้นคืนสติ โหยวเซียงก็จ้องหน้าลั่วชิงยวนเขม็งอย่างโกรธแค้น “เจ้ากล้าจับข้า เจ้าคอยดูเถอะว่าจะตายอย่างไร!”ลั่วชิงยวนย่อตัวลงนั่งตรงหน้านาง แล้วหัวเราะเบา ๆ “ใช่แล้ว ใครจะกล้าแตะต้องคุณหนูใหญ่เมืองแห่งภูตผีเล่า”“น่าเสียดาย เมืองแห่งภูตผีแห่งนี้ บิดามารดาของเจ้าไปปล้นเขามา มิใช่ของพวกเขามาแต่เดิม ย่อมมิใช่ของเจ้าเช่นกัน”“ถึงเวลาคืนเจ้าของตัวจริงแล้ว”โหยวเซียงจ้องเขม็งนางอย่างโกรธแค้น “เจ้าพูดจาเหลวไหลอะไร! เมืองแห่งภูตผีแห่งนี้เป็นของบิดามารดาข้ามาแต่เดิม!”เมื่อได้ยินดังนั้น ลั่วชิงยวนก็ประหลาดใจ “หรือว่าต่งอวิ๋นซิ่วมิได้บอกความจริงแก่เจ้า”“ก็ถูกแล้ว เรื่องน่าอับอายเช่นนี้ นางจะบอกลูกสาวได้อย่างไร”“เมืองแห่งภูตผีแห่งนี้มิใช่เพียงถูกบิดามารดาเจ้ายึดมาเท่านั้น แต่ยังใช้วิธีการที่น่ารังเกียจในการยึดครองด้วย!”“เดาว่าจนถึงตอนนี้เจ้าก็คงยังมิรู้เลยว่าศัตรูของเจ้าคือผ

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 1415

    โหยวเซียงกัดฟันพูดด้วยน้ำเสียงเย็นเยียบลั่วชิงยวนมองไปที่อวี๋โหรว หลายวันมานี้อวี๋โหรวผอมซูบไปมาก“เจ้าจับตัวอวี๋โหรวมาเพื่อล่อข้ามาที่นี่รึ?”ลั่วชิงยวนหรี่ตามองโหยวเซียง“แต่เจ้ามิน่าจะมีความสามารถพอที่จะพาอวี๋โหรวออกจากวังหลวงไปได้”“เวินซินถงเป็นคนทำใช่หรือไม่?”“เจ้าทำข้อตกลงอะไรกับนางไว้?”โหยวเซียงหัวเราะเยาะ “อยากรู้รึ?”“คุกเข่าอ้อนวอนข้าสิ”“เจ้าอ้อนวอนข้า ข้าถึงจะบอกเจ้าว่าผู้ใดจับตัวอวี๋โหรวมา และผู้ใดร่วมมือกับข้าวางแผนให้เจ้ามาที่เมืองแห่งภูตผี”ลั่วชิงยวนมองท่าทีหยิ่งยโสของโหยวเซียงแล้วก็อดมิได้ที่จะหัวเราะเบา ๆ นางกวาดสายตามองไปรอบ ๆ แล้วถามว่า “ต่งอวิ๋นซิ่วมิมาด้วยรึ?”“เมื่อครู่นี้คนที่ต่อสู้กับข้าก็คือนางใช่หรือไม่?”เมื่อได้ยินน้ำเสียงเยาะเย้ยของลั่วชิงยวน โหยวเซียงก็โกรธจัด ในใจนางตกใจ ลั่วชิงยวนรู้แล้วหรือว่ามารดาของนางเป็นใคร“สารเลว!”นางบีบคออวี๋โหรวอย่างแรงเพื่อข่มขู่ลั่วชิงยวน “จะคุกเข่าหรือไม่?!”“ลั่วชิงยวน เจ้ามีโอกาสแค่ครั้งเดียว!”“หากเจ้ามิยอมคุกเข่ายอมจำนนแต่โดยดี ข้าจะหักคอนางเดี๋ยวนี้!”กล่าวจบ โหยวเซียงก็ออกแรงบีบบีบจนอวี๋โหรวหาย

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 1414

    ทันทีที่คนใบ้หันมาเห็นจึงรีบเข้ามาย่อตัวลงข้างนางแล้วช่วยประคองนางไว้ลั่วชิงยวนเช็ดเลือดที่มุมปาก ใบหน้าซีดเผือดกว่าเดิม“ข้ามิเป็นอะไร”นางเงยหน้าขึ้นมองอวี๋ตันเฟิ่งที่อยู่กลางอากาศ ในที่สุดจิตวิญญาณของนางก็สมบูรณ์แล้วบนใบหน้าซีดขาวนั้นปรากฏรอยยิ้ม รอยยิ้มนั้นทั้งพึงพอใจและเย่อหยิ่ง“ในที่สุดข้าก็ได้… เป็นอิสระแล้ว! ฮ่าฮ่าฮ่าฮ่า...”อวี๋ตันเฟิ่งหัวเราะลั่น ทำเอาป่าทั้งผืนเกิดพายุโหมกระหน่ำคนใบ้รีบยกมือขึ้นช่วยลั่วชิงยวนปัดป้องฝุ่นและใบไม้ที่ปลิวว่อน......จู่ ๆ ต่งอวิ๋นซิ่วก็กระอักเลือดออกมาเต็มปาก จากนั้นหมดสติล้มลงบนพื้น“ท่านแม่!”โหยวเซียงตกใจ รีบเข้าไปประคองนาง “ท่านแม่! ท่านแม่! ท่านเป็นอะไรไป!”หลังจากตะโกนเรียกอยู่นาน มารดาของนางก็มิฟื้นโหยวเซียงโกรธจนกัดฟันพูด “ลั่วชิงยวน สารเลว!”“เจ้าคอยดูเถอะ!”......ผ่านไปครู่ใหญ่ อวี๋ตันเฟิ่งถึงจะสงบสติอารมณ์ลงได้ลมพายุในป่าก็สงบลงเช่นกันถูหมิงที่อยู่ข้าง ๆ จึงค่อย ๆ ขยับเข้ามาใกล้ฉีเสวี่ยเวยที่ยังคงตกตะลึงมองภาพเหตุการณ์เมื่อครู่ด้วยความมิอยากเชื่อ “เมื่อกี้เกิดอะไรขึ้น?”“ต่อไปพวกเราต้องทำอะไร?”ลั่วชิงยวน

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 1413

    คนของถูหมิงตายไปหมดแล้ว เหลือเพียงฉีเสวี่ยเวยเท่านั้นในขณะที่พวกเขาเดินทางไปยังถ้ำแห่งที่หกในคืนนั้นผลลัพธ์ที่ได้กลับน่าผิดหวังเพราะในถ้ำว่างเปล่า“ดูเหมือนว่าพวกเราจะมาช้าไปก้าวหนึ่ง”ถูหมิงขมวดคิ้ว “เหลืออีกหนึ่งชิ้น ทำอย่างไรดี? หรือว่าความพยายามทั้งหมดของเราจะสูญเปล่า?”พวกเขาวุ่นวายมาหลายวัน เดินทางไปเกือบทั่วทั้งภูเขาแล้วหากสมบัติหายไปเช่นนี้ เขาคงต้องฆ่าสตรีผู้นี้เป็นแน่!ลั่วชิงยวนขมวดคิ้วครุ่นคิด แล้วกล่าวว่า “เหลืออีกหนึ่งชิ้นก็เหลืออีกหนึ่งชิ้น”“หาที่ปลอดภัยก่อน”จากนั้นพวกเขาก็มายังป่าที่ค่อนข้างสะอาด ไม่มีพุ่มไม้หรือวัชพืชหนาแน่นบนพื้นมากนัก ค่อนข้างโปร่งโล่งหีบทั้งห้าใบวางอยู่บนพื้นลั่วชิงยวนกล่าวว่า “เปิดหีบกันเถิด”ทันใดนั้นดวงตาของถูหมิงก็เป็นประกาย “เปิดได้หรือ?”เขาเห็นว่าบนหีบมีแต่อักขระสีเลือดปกคลุมอยู่ จึงยั้งมือไว้หลายครั้งแม้จะอยากเปิดก็ตามเมื่อได้ยินเช่นนี้จึงรีบเปิดหีบทันทีแต่เมื่อเปิดออกแล้ว ร่างกายของเขาก็แข็งทื่อไปศพ?!ทั้งยังเป็นศพที่ถูกชำแหละอีกด้วย?ฉีเสวี่ยเวยก็ตกใจกลัวลั่วชิงยวนกลับสงบสติอารมณ์ สั่งให้โฉวสือชีและคนใบ้ช่วย

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 1412

    “ใครกัน?!”ลั่วชิงยวนหรี่ตาลงเล็กน้อย แล้วตอบเสียงแผ่ว “ซูเซียง”“แต่ตอนนี้ควรเรียกนางว่าโหยวเซียง”“ภารกิจที่พวกเจ้าได้รับก็เป็นเพียงการละเล่นของนางเท่านั้น”“นางต้องการให้พวกเจ้าฆ่ากันเอง”และภารกิจหนังหน้าของหญิงงามที่ฉีเสวี่ยเวยได้รับ ก็คงเป็นการล่อลวงให้ฉีเสวี่ยเวยมาฆ่านางหากสามารถยืมมือคนอื่นฆ่าคนได้ โหยวเซียงก็มิจำเป็นต้องเปิดเผยตัวตนเพียงแต่โหยวเซียงคาดมิถึงว่าฉีเสวี่ยเวยจะฆ่านางมิได้ กระทั่งโหยวเซียงเองก็ฆ่านางมิได้“โหยวเซียงหรือ? นางเป็นคนของเมืองแห่งภูตผีแห่งนี้หรือ?” ฉีเสวี่ยเวยมองนางอย่างมิเชื่อสายตา“มิแปลกใจเลย… นางท้องแก่ถึงเพียงนั้นยังกล้ามาที่นี่ได้”ลั่วชิงยวนเห็นว่าใกล้รุ่งสางแล้ว จึงให้โฉวสือชีแก้เชือกที่มัดฉีเสวี่ยเวยไว้“ข้าจะยังมิฆ่าเจ้าตอนนี้”“มิว่าเรื่องที่เจ้ากล่าวมาจะเป็นจริงหรือไม่ก็มิสำคัญ ข้าก็มิกลัวว่าเจ้าจะไปบอกเรื่องนี้กับถูหมิง”“หากเจ้าไปบอก เรื่องเดียวที่จะเป็นผลเสียต่อพวกข้าก็คือต้องแบกหีบเพิ่มอีกมิกี่ใบ”“เพียงเท่านั้น”มิใช่เรื่องคอขาดบาดตายที่นางทำเป็นร่วมมือกับถูหมิง ก็เพียงต้องการใช้คนของเขาไปขวางทางศพชายที่ถูกผนึกไว้ในถ้ำ

Explore and read good novels for free
Free access to a vast number of good novels on GoodNovel app. Download the books you like and read anywhere & anytime.
Read books for free on the app
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status