Share

บทที่ 119

Author: ฉินอันอัน
ชีอวิ๋นถิงปิดหน้าโดยไม่รู้ว่าตนทำอะไรผิดอีก

หรือเป็นเพราะเรื่องที่ชิงซงไปเผาศาลบรรพบุรุษ?

แต่นั่นไม่ถูกต้อง หลังจากเผาศาลบรรพบุรุษแล้ว ท่านพ่อและคนอื่น ๆ ยิ่งควรคิดว่าชีหยวนเป็นสัตว์เดรัจฉาน และไล่นางออกไปทันทีมิใช่หรือ?

เช่นนั้น แล้วมันเป็นเพราะอะไรล่ะ?!

หลังจากที่ชีเจิ้นออกไป ชีอวิ๋นถิงก็เอามือปิดหน้า คิดอย่างเหม่อลอยอยู่นาน และดุใส่หญิงรับใช้ที่อยู่ข้างๆ “ไป! ไปเชิญคุณหนูหานมา เร็วเข้า!”

เขาอยากถามนักว่า เกิดอะไรขึ้นกันแน่!

ท่าทีของสาวรับใช้ล้วนแปลกประหลาดมาก

ยังคงเป็นแม่นมของชีอวิ๋นถิงที่ก้าวออกมา ถอนหายใจ “คุณชาย ล้มเลิกความคิดนี้เสียเถอะ ท่านจะไม่มีวันได้พบกับคุณหนูหานอีกแล้ว”

ไม่ได้พบอีกแล้ว?

ชีอวิ๋นถิงตกตะลึง พ่อแม่ของหานเยว่เอ๋อล้วนเสียชีวิตทั้งคู่ และครอบครัวของนางไม่ใช่คนดี ดังนั้นนางจึงถูกฝากไว้ให้ตระกูลชีดูแล นางเป็นเหมือนคนในตระกูลชี ภายภาคหน้าจะแต่งงานก็ต้องอยู่ในตระกูลชี

เหตุใดจึงไม่ได้พบกันอีกต่อไป?

นอกจากนี้ คำพูดนี้เหตุใดจึงฟังดูคุ้นเคยนัก?

ดูเหมือนเขาจะเคยได้ยินประโยคนี้มาก่อนในเวลาอื่น

เมื่อไหร่กันนะ?

เขาจำได้แล้ว เป็นตอนที่นางหวังบอกกับเขาอย่างจริงจ
Patuloy na basahin ang aklat na ito nang libre
I-scan ang code upang i-download ang App
Locked Chapter

Kaugnay na kabanata

  • ยอดหญิงในเงามาร   บทที่ 120

    อ๋องฉีช่างใช้ไม่ได้เสียจริง มีสัมพันธ์ลักลอบเป็นชู้กับลูกสาวบุญธรรมของคนอื่น ทั้งยังสืบข่าวในเรือนของคนอื่นอีกด้วย นี่มันใช้ได้ที่ไหนกัน?ผู้ตรวจการโจวปิดสาส์นด้วยความฉับไว เขาเองก็ขมวดคิ้วและส่ายหัว ใช้ไม่ได้ ใช้ไม่ได้จริงๆ!ขณะที่เขากำลังคิดเช่นนี้อยู่ เลขาก็เข้ามาแจ้งเรื่องที่หานเยว่เอ๋อกำลังคุกเข่าอยู่ด้านนอกผู้ตรวจการโจวตอบรับ จำได้ทันทีว่าหานเยว่เอ๋อเป็นลูกสาวของสหายเก่าของเขาทว่า.....เขาลุกขึ้นยืน คิดอยู่ครู่หนึ่ง แล้วก็ออกไปด้วยตัวเองหานเยว่เอ๋อยังคงคุกเข่าอยู่บนพื้นกระเบื้อง ผู้คนเดินเข้าออกหน้าประตู หลายคนก็จับตามองไปที่ตัวนางผู้ตรวจการโจวลงบันไดมาหยุดอยู่ตรงหน้านาง: “ลุกขึ้นเถิด! เจ้ามาที่นี่ มีเรื่องอันใดรึ?”หานเยว่เอ๋อสะอื้นไห้และร้องออกมา: “ท่านอาโจว! เรื่องนี้ไม่เกี่ยวกับท่านอ๋อง! ท่านอ๋องไม่ได้ขอให้ข้าสืบหาข่าวของตระกูลชีเป็นการส่วนตัว ทุกอย่างข้าทำด้วยตัวข้าเอง! ข้ากับท่านอ๋อง…...”เมื่อนางกล่าวถึงตรงนี้ นางก็คร่ำครวญและแก้มของนางก็แดงก่ำ “ข้าและท่านอ๋องต่างก็รักใคร่กัน อันที่จริงแล้ว ข้าและท่านอ๋องต่างก็รู้ใจกันมาเป็นเวลานานแล้ว! ด้วยเหตุนี้ ระหว่างคน

  • ยอดหญิงในเงามาร   บทที่ 121

    เสียงกัมปนาทดังขึ้น ราวอสนีบาตสายหนึ่งฟาดลงมา ฉีอ๋องถามอย่างตกตะลึงว่า “พระราชทานสมรสอะไรกัน พระราชทานสมรสอะไร?”เขาเป็นโอรสมังกร ยิ่งเป็นบุตรชายแท้ๆ ของเสี่ยวหลิ่วกุ้ยเฟย ยามอยู่ในวังนอกจากรัชทายาท นับว่าฐานะของเขาสูงที่สุดและได้รับความรักจากฮ่องเต้มากที่สุดด้วยนับตั้งแต่เด็ก ฮ่องเต้หย่งชางก็นำความรู้สึกผิดต่อพระชายาหลิ่วมาไว้ที่ตัวเขา ตามใจเขาอย่างมากเจ็ดขวบเขาก็ได้รับการแต่งตั้งเป็นอ๋อง ที่ดินศักดินาคือมณฑลเหอหนานซึ่งเป็นดินแดนอันอุดมสมบูรณ์ในที่ราบภาคกลาง แม้จะยังมิได้ย้ายไปประจำที่ที่ดินศักดินา แต่องครักษ์ที่มอบให้เขาก็เพิ่มจำนวนไปถึงห้าหมื่นแล้วและเนื่องจากเขายังไม่ได้แต่งงาน ฮ่องเต้หย่งชางจึงอนุญาตให้เขาเข้าออกวังได้ตามใจ กระทั่งตัดใจให้เขาย้ายไปอยู่ที่เขตศักดินาไม่ได้ด้วยความโปรดปรานเช่นนี้ เขาจะไม่เกิดความคิดอื่นขึ้นมาได้อย่างไร?รัชทายาท?รัชทายาทแล้วอย่างไร?!หากมิใช่เพราะตอนนั้นฮองเฮาเฝิงเจ้าเล่ห์เพทุบาย แล้วยังมีตระกูลเฝิงที่ควบคุมการป้องกันในเมืองหลวง กุมทรัพย์สินเงินทองอยู่ในมือ ฮองเฮาเฝิงจะมีโอกาสเป็นฮองเฮาได้อย่างไรรัชทายาทยิ่งไม่ต้องพูดถึง! ร่างกายอ่อนแอ

  • ยอดหญิงในเงามาร   บทที่ 122

    แต่งงาน?!แต่งงานบ้านบ้าบออะไร!เพียงครู่เดียว ขันทีสวีก็เข้ามาอย่างเร่งร้อนฉีอ๋องเหลือบมองเขาทีหนึ่ง มิได้กล่าวสิ่งใดแต่ขันทีสวีรู้ดีว่า นี่เป็นความหมายว่าจงอย่างพร่ำเรื่องไร้สาระ เขาจึงก้าวสองสามก้าวแล้วลดเสียงลงว่า “ท่านอ๋อง แม่นางหานแอบหนีออกไปพบผู้ตรวจการโจวของสำนักตรวจการอย่างลับๆ คุกเข่าที่หน้าประตูขอร้องให้ผู้ตรวจการโจวส่งนางกลับตระกูลชีขอรับ”เขากล่าวจบก็มองสีหน้าของฉีอ๋อง จากนั้นก็ไม่กล้ากล่าวสิ่งใดอีก ได้แต่ถอยไปยืนอยู่ด้านข้างในห้องเงียบงันเป็นเวลานาน บรรยากาศกดดันไร้สุ้มเสียงเป็นเวลานานหลังจากนั้น ฉีอ๋องก็กวาดของทั้งหมดบนโต๊ะลงพื้น ถ้วยน้ำชาและแจกันลายสีครามประดุจฟ้าหลังฝนอันล้ำค่า ล้วนหล่นลงบนพื้น บังเกิดเสียงดังสนั่นขันทีสวีมีสีหน้าหวาดหวั่น “ท่านอ๋องรักษาสุขภาพด้วยพ่ะย่ะค่ะ”ดี! ดี! ดีนัก!ดวงตาของฉีอ๋องเปล่งแสงเยียบเย็นออกมา ประดุจหมาป่าที่ถูกทำให้โมโหตัวหนึ่งหานเยว่เอ๋อช่างดีนัก! กล่าวกระไรว่าที่ไปหาผู้ตรวจการโจวก็เพื่อตน นางจะรับความผิดทั้งหมดไว้เองแต่ลูกไม้เล็กๆ เช่นนี้จะตบตาฉีอ๋องได้อย่างไร?นางจงใจทำให้เรื่องใหญ่ชัดๆในวังจึงได้ประกาศราชโองการพร

  • ยอดหญิงในเงามาร   บทที่ 123

    หัวใจทั้งดวงของหานเยว่เอ๋อเต้นระรัว ตลอดทั้งคืนล้วนไม่อาจข่มตาเช้าวันรุ่งขึ้นเมื่อลืมตาขึ้นมา กระทั่งมาอยู่ต่อหน้ากระจกแต่งตัว นางจึงได้กล้าเชื่อว่า ตนได้กลายเป็นว่าที่พระชายาของฉีอ๋องในอนาคตแล้วราชโองการจากโอรสสวรรค์ ทรงให้คำมั่นด้วยพระองค์เองดังนั้น ทั่วทั้งเมืองหลวง ไม่สิ หลังจากที่สารถูกส่งไปยังที่ต่างๆ ผู้คนทั่วหล้าย่อมได้รู้ว่า นางจะกลายเป็นพระชายาของฉีอ๋องแล้วได้เชิดหน้าชูตาเสียที ช่างสาแก่ใจเหลือเกิน!นางสางผมของตนอย่างช้าๆ ค่อยๆ คลี่ยิ้มออกมาหน้ากระจกอย่างลำพองชีจิ่น ชีหยวนอะไรกัน?นังโง่ชีจิ่นนั่นตายไปแล้วส่วนนังชีหยวนนั่นเหอะเหอะ คิดว่าตัวเองแน่ ต่อให้นางสามารถเลียนแบบลายมือของนางปลอมจดหมายแล้วอย่างไร?นางอาศัยเพียงตนเอง ก็สามารถสร้างหนทางออกมาอีกสายได้เช่นกัน!นังบ่าวชั้นต่ำที่กลับมาจากชนบทนั่นไม่มีทางจินตนาการออกว่า ฐานะ ‘พระชายา’ นี้สูงส่งเพียงใดนับจากบัดนี้ไป ยามที่ชีหยวนพบนาง จะต้องคุกเข่าถือรองเท้าให้นางอย่างต่ำต้อยนบนอบ (คุกเขาแทบเท้านาง)เหลียนเอ๋อร์ที่อยู่ข้างกายนางก็แย้มยิ้มอย่างเบิกบานเช่นเดียวกัน ยิ่งเสี่ยงผลตอบแทนก็ยิ่งสูงจริงๆ เมื่อวานยังไม

  • ยอดหญิงในเงามาร   บทที่ 124

    “ข้าแอบทำอย่างลับ ๆ หรือ?” สีหน้าของชีหยวนอ่อนโยน ทว่าคำพูดที่กล่าวออกมากลับมั่นอกมั่นใจในเหตุผลของตนเป็นอย่างยิ่ง “ข้าทำอย่างเปิดเผยต่างหาก”ไป๋จื่อไม่รู้ว่ากล่าวอย่างไรดี ทันใดนั้นก็ได้ยินเสียงโหวกเหวกดังมาทางนอกหน้าต่างนี่เป็นห้องส่วนชั้นสองที่อยู่ติดกับถนน หากตั้งใจฟัง แม้แต่เสียงร้องขายของบนท้องถนนก็สามารถได้ยินอย่างชัดเจน ยามนี้ ด้านนอกมีเสียงตะคอกด่าทอ และเสียงร้องไห้ดังเข้ามาเมื่อนางเหลือบมองชีหยวนอย่างไม่ได้ ก็เห็นชีหยวนลุกขึ้นมาคุณหนูจะชมเรื่องครึกครื้นด้านนอกหรือนี่? ไป๋จื่อรีบผลักบานหน้าต่างออกทันที “คุณหนู ตรงนี้เจ้าค่ะ…” เพิ่งกล่าวจบประโยคเดียว นางก็กรีดร้องเสียงดังออกมาทันทีว่า “คุณหนู เป็นเหลียนเฉียวกับซุ่นจื่อเจ้าค่ะ! พวกเขาเกิดเรื่องแล้ว!”เวลานี้ รถม้าหรูหราคันหนึ่งจอดลงที่ข้างทางพอดี และซุ่นจื่อกับเหลียนเฉียวต่างคุกเข่าอยู่บนพื้น ยามนี้ดูทุลักทุเลเป็นอย่างมากในอ้อมแขนของซุ่นจื่อยังกอดเด็กน้อยที่อายุราวสองสามขวบไว้ผู้หนึ่งไม่รู้ว่าคนบนรถม้ากล่าวสิ่งใด คนขับรถม้าก็ใช้แส้ฟาดลงบนหลังของซุ่นจื่ออย่างแรง จนผิวหนังของซุ่นจื่อปริแตกออกทันทีเหลียนเฉียวคุกเข่า

  • ยอดหญิงในเงามาร   บทที่ 125

    หานเยว่เอ๋อที่นั่งวางท่าอยู่ในรถตลอดก็ได้สติกลับมาเช่นกัน เมื่อเลิกม่านขึ้นแล้วเห็นเหลียนเอ๋อร์นอนแน่นิ่งอย่างไร้สุ้มเสียงไร้ลมหายใจอยู่ตรงนั้น สีหน้าก็เปลี่ยนไปอย่างไม่อาจควบคุมทันทีเหลียนเอ๋อร์เป็นสาวใช้ผู้ติดตามของนางที่เกิดในบ้าน เป็นคนที่นางเชื่อใจที่สุด!ในอนาคต เมื่อนางเป็นพระชายา ข้างกายไม่อาจขาดผู้ที่จงรักภักดี สั่งให้ไปที่ใดก็ไปนั่นเช่นนี้ แต่บัดนี้ กลับถูกชีหยวนทำร้ายจนตายเสียแล้ว!นังดาวหายนะนี่ ไม่ว่าเรื่องใดพบเจอกับนางก็ต้องกลายเป็นเรื่องร้ายจริงๆนางมองไปยังชีหยวนอย่างขบเขี้ยวเคี้ยวฟัน ในใจคิดว่านังบ้านนอกคอกนาคนนี้ ตอนอยู่ในจวนก็ไม่ได้รับความชื่นชอบจากนางหวัง ต้องยังไม่รู้เรื่องที่ตนได้รับพระราชทานสมรสให้แต่งกับฉีอ๋องเป็นแน่ จึงอดยิ้มออกมาอย่างเย้ยหยันไม่ได้นางกล่าวอย่างเย็นชาว่า “เจ้ารู้หรือไม่ว่าผู้ที่เจ้าฆ่าเป็นผู้ใด?!”ยามนี้ ในห้องส่วนตัวห้องหนึ่งบนชั้นสามของหอไท่ไป๋ หน้าต่างถูกผลักออกแล้วปาเป่าเดาะลิ้นครั้งหนึ่ง จากนั้นหันศีรษะกลับมากล่าวกับเซียวอวิ๋นถิงว่า “ท่านอ๋อง ท่านอ๋อง! เป็นคุณหนูใหญ่ตระกูลชีพ่ะย่ะค่ะ!”เรื่องที่ฉีอ๋องได้รับพระราชทานสมรสนั้น เซีย

  • ยอดหญิงในเงามาร   บทที่ 126  

    ชีหยวนถอยหลังไปก้าวหนึ่ง แล้วตะโกนถามเสียงดังว่า “หานเยว่เอ๋อ เจ้าก็เป็นพระชายาเช่นนี้หรือ?! กลางวันแสกๆ บนแผ่นดินอันสุขสงบใต้ฝ่าพระบาทของโอรสสวรรค์ เจ้ากลับให้ท้ายข้ารับใช้ก่ออาชญากรรม เกือบเหยียบย่ำเด็กน้อยและชนชาวบ้านจนตาย เจ้า คู่ควรจะเป็นพระชายาของฉีอ๋องหรือ?! ” เด็กยังคงร้องไห้เสียงดัง เด็กน้อยที่ยังสูงไม่ถึงต้นขาของผู้ใหญ่ แหงนหน้าร้องไห้จนสุดเสียง ทำให้ผู้ที่พบเห็นปวดใจนัก เหล่าชาวบ้านตะลึงไปครู่หนึ่งก็เดือดดาลขึ้นมา มีคนอดพูดเสียงดังไม่ได้ว่า “นั่นสิ! พระชายาแล้วอย่างไร ถนนจูเชวี่ยไม่ใช่ที่จะมาควบม้าเร็วแบบนี้ได้! เหยียบแผงขายผักของข้าจะเละหมดแล้วเนี่ย!” ก็ราวกับน้ำหยดหนึ่งที่ตกลงสู่กระทะน้ำมันที่ต้มจนร้อน กระทะใบนั้นก็เกิดฟองปะทุปึงปังขึ้นมาทันที ทันใดนั้น ก็เกิดเสียงสนับสนุนต่างๆ นานา ขึ้นมา “พระชายาแล้วอย่างไร? พระชายายิ่งใหญ่นักหรือ? พวกเราเป็นราษฎรนะ!” “ผู้มีอำนาจเสวยสุข คนจนได้แต่ทุกข์ยาก ยังไม่ทันเป็นพระชายาด้วยซ้ำ ก็ลำพองจนลืมตน ให้ท้ายบริวารก่ออาชญากรรมเช่นนี้บนท้องถนน” ซุ่นจื่อหันศีรษะไปมองชีหยวนอย่างสั่นสะท้าน ในใจทั้งตื่นตระหนกทั้งกังวล ปากของคุณใ

  • ยอดหญิงในเงามาร   บทที่ 127  

    บรรดาชาวบ้านที่อยู่บนท้องถนน ต่างพากันรุมล้อมรถม้าของจวนฉีอ๋องไว้ แรกเริ่มยังเป็นเพียงการด่าทอ ทว่าต่อมา ก็ไม่รู้เป็นผู้ใดเป็นผู้นำเริ่มขว้างปาสิ่งของ ผลก็คือท้องฟ้าที่เต็มไปด้วยของประเภทใบผักที่เน่าเสียและก้อนหิน หานเยว่เอ๋อโมโหจนใบหน้าบิดเบี้ยวแล้ว บังอาจนัก! ช่างบังอาจเหลือเกิน! ชีหยวนเป็นเช่นนั้น พวกชาวบ้านโง่เขลาที่ถูกยุแยงก็เป็นเช่นนี้! เป็นพวกชาวบ้านที่โง่งมกลุ่มหนึ่งจริงๆ! นางตำหนิคนขับรถม้าและองครักษ์อย่างรุนแรง “พวกเจ้าตายแล้วหรืออย่างไร?! มีคนล่วงเกินขบวนรถของพระชายา สังหารสาวใช้ของข้า นี่เป็นความผิดสถานใดกัน ต้องให้ข้าสั่งสอนพวกเจ้าด้วยหรือ?!” พระชายาของชินอ๋อง เป็นตำแหน่งที่เหนือกว่าสตรีบรรดาศักดิ์ขั้นสูงสุด ต่อให้เหล่าขุนนางพบเห็น ขุนนางบุ๋นยังต้องลงจากเกี้ยว ขุนนางบู๊ยังต้องลงจากม้า แล้วนับประสาอะไรกับหญิงสาวไร้ศักดิ์ไร้ตำแหน่งที่ยังมิได้ออกเรือน? คนขับรถม้าลังเลไปชั่วขณะ ทว่าองครักษ์ที่อยู่ด้านข้างกับดึงดาบดังเคร้งออกมาทันที เหวอ! ถึงอย่างไรก็แสดงอาวุธออกมาแล้ว เหล่าราษฎรจึงพากันถอยหลังด้วยความหวาดกลัว ในชั่วขณะหนึ่ง ถือว่าสถานการณ์ได้ถูกสะกดไว้แล้ว

Pinakabagong kabanata

  • ยอดหญิงในเงามาร   บทที่ 510

    พระที่ถูกจี้ด้วยธูปร้องเสียงหลงกลางป่าเขาที่เงียบสงัด เสียงกรีดร้องของพระรูปนั้นดังสนั่นแทบทะลุทะลวงเมฆบนฟ้าพระรูปอื่น ๆ ต่างก็ตกตะลึงกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น พอเห็นชีหยวนก็พากันทำหน้าเหมือนเห็นผีนี่ผีหรือ หญิงสาวผู้นี้ ไฉนถึงออกมาได้อย่างปลอดภัย?!ไม่น่าเชื่อว่าฉือซานจะไม่ลงมือกับหญิงสาวที่งดงามขนาดนี้?!แต่พวกเขาไม่มีเวลาคิดหาคำตอบอีกต่อไปแล้ว เพราะชีหยวนได้ชักกระบี่อ่อนจากเอวออกมาใช้วรยุทธ์ของนางเพื่อฆ่าสวะพวกนี้ถือเป็นการขี่ช้างจับตั๊กแตนโดยแท้ เวลาไม่ถึงหนึ่งก้านธูป พระสิบกว่ารูปก็ตายหมดจิ้งคงถึงกับอึ้งงันเขาขดตัวเป็นก้อน ยื่นมือออกมาบังอย่างขลาดกลัว “อย่านะ อย่า อย่าสังหารข้า อย่าสังหารข้าเลย!”ชีหยวนเก็บกระบี่อ่อนไป เอ่ยถามเสียงขรึม “ลุกขึ้นเองไหวหรือไม่?”จิ้งคงถึงเพิ่งรู้ว่าชีหยวนไม่มีเจตนาจะฆ่าเขา เขาฝืนรับคำ แล้วค่อย ๆ ยันกายลุกขึ้นจากพื้น แล้วมองไปที่ชีหยวนอยากจะพูดอะไรบางอย่าง แต่ก็ลังเลชีหยวนเอ่ยถามเขาตรง ๆ ไม่อ้อมค้อม “รู้หรือไม่ว่าหญิงสาวพวกนั้นถูกขังอยู่ที่ใด?”จิ้งคงน้ำตาคลอทันที ที่แท้นางมาที่นี่เพื่อช่วยพวกหญิงสาวพวกนั้นเขารีบพยักหน้า “รู้ ทุกค

  • ยอดหญิงในเงามาร   บทที่ 509

    ด้านนอก บรรดาพระกำลังรุมสั่งสอนจิ้งคงผู้ที่ขัดขวางไม่ให้ชีหยวนเข้าวัดเมื่อครู่จิ้งคงกลิ้งอยู่กับพื้น สองมือกอดศีรษะ ปกป้องจุดสำคัญของร่างกาย พร้อมเรียกศิษย์พี่ไม่ขาดปาก พยายามคลานขึ้นมาคุกเข่าขอร้องแต่เขาเพิ่งจะลุกขึ้นได้ พระอีกรูปก็เตะเขาล้มลงไปอีก แล้วพูดเสียงเย็นชา “ข้าก็ว่าอยู่ พักนี้เหตุใดหญิงสาวแรกรุ่นถึงมาที่วัดน้อยลง ที่แท้ในวัดเราก็มีคนทรยศ!”จิ้งคงถูกซ้อมจนใบหน้าเขี้ยวช้ำบวมปูด ปากกับจมูกมีเลือดไหล แต่กลับไม่กล้าเช็ด ตาโปนจนแทบลืมไม่ขึ้น เริ่มโขกศีรษะกับพื้นไม่หยุด “เป็นความผิดของศิษย์น้องเอง ศิษย์น้องไม่กล้าอีกแล้ว ขอศิษย์พี่ไว้ชีวิตข้าด้วย ขอให้ศิษย์พี่ไว้ชีวิตข้าด้วย!”“ไว้ชีวิตเจ้าหรือ?!” พระที่เป็นหัวโจกอีกคนคว้ากำธูปจากกระถางธูปใกล้มือ แล้วพลิกกลับด้าน จี้ลงบนหัวของจิ้งคงอย่างกะทันหันจิ้งคงพลันกรีดร้องโหยหวน พลางร้องไห้กลิ้งไปมาบนพื้นพระพวกนั้นกลับพากันหัวเราะเสียงดังพระที่ใช้ธูปจี้หัวจิ้งคงเอ่ยเสียงดูแคลน “พวกเราก็รู้กันดี พระอาจารย์ชอบเก็บหญิงสาวที่ดีที่สุด หน้าตาสวยที่สุดไว้ให้ ‘บรรพบุรุษเบื้องบน’ เสวยสุข คนที่มาวันนี้น่ะ งามไม่เป็นสองรองใคร เห็นแวบเดียวก

  • ยอดหญิงในเงามาร   บทที่ 508

    เขาก้าวเท้าไปด้วยรอยยิ้ม “อมิตา...”ยังไม่ทันกล่าวคำสวดจบ ชีหยวนก็เหยียบต้นไม้ส่งตัวเองลอยขึ้นไป แล้วฟาดเท้าเข้าใส่อกของฉือซานอย่างจัง ฉือซานกระเด็นลงไปกองกับพื้น กระอักเลือดออกมาเต็มปากจากนั้นก็ไม่หยุดการเคลื่อนแม้แต่น้อย นางพุ่งเข้าหาฉือซาน มีดสั้นในแขนเสื้อก็เผยออกมา จ่อเข้าที่อกของเขาฉือซานถึงกับมึนงงไปกับการเคลื่อนไหวนี้ไหนบอกว่าเป็นหญิงสาวที่ไร้หนทาง ไร้ที่พึ่ง ถูกบีบบังคับให้มาขอบุตรไงเล่า?นี่มันคืออะไรกันแน่?!ชีหยวนมองเขาด้วยสายตาเย็นชา สายตานั้นไม่เหมือนกับมองคน แต่เหมือนมองดูหินก้อนหนึ่ง หรือไม่ก็ต้นไม้ต้นหนึ่ง เหมือนมองสิ่งที่ไร้ชีวิตนางไม่พูดพร่ำเพรื่อ ถามขึ้นตรง ๆ “หญิงสาวที่พวกเจ้าลักพาตัวมาจากเรือนพักนอกเมืองเมื่อไม่กี่วันก่อน พวกเจ้าพาไปซ่อนไว้ที่ใด?”ฉือซานเบิกตากว้างในทันที ริมฝีปากสั่นระริกปลายมีดของชีหยวนแทงอกของเขาลึกหนึ่งชุ่นโดยไม่รั้งรอ เลือดไหลพรวดออกจากแผลทันทีจากนั้นนางก็ถาม “ผู่อู๋ย่งเป็นลุงแท้ ๆ ของเจ้าใช่หรือไม่? เห็นได้ยากจริง ๆ หลานของไอ้หมาขันที เขาบอกเจ้าว่าให้เจ้าอยู่นิ่ง ๆ ไปพักหนึ่ง รออีกไม่นานจะให้เจ้าไปเป็นขุนนางที่สำนักพระพุทธศาส

  • ยอดหญิงในเงามาร   บทที่ 507

    ชีหยวนควบม้าเร็วออกจากเมือง โดยไม่พาคนติดตามไปแม้แต่คนเดียว ลมพัดแรงจนเสื้อคลุมสีแดงสดของนางปลิวสะบัด แต่นางกลับไม่ใส่ใจแม้แต่น้อย แม้หมวกคลุมศีรษะจะเปิดออก นางก็ไม่คิดจะดึงกลับมาสวมอีกนางรู้ดีบนโลกนี้ไม่มีแม่ทัพไร้พ่ายตั้งแต่อดีตจนปัจจุบัน เว้นแต่จ้าวจื่อหลงผู้เป็นดั่งปาฏิหาริย์ ผู้อื่นแม้เป็นแม่ทัพที่เก่งกล้าสักเพียงใด ก็ล้วนเคยลิ้มรสความพ่ายแพ้แต่สำหรับนาง ไม่มีทาง!โดยเฉพาะคนที่ฆ่านาง ทั้งยังทำให้คนที่นางพามาด้วยต้องเติบโตขึ้นโดยไม่มีแม่ ก็ยิ่งสมควรตาย!ตั้งแต่เล็กจนโต สิ่งที่นางไม่เคยเข้าใจก็คือเหตุใดหลี่ซิ่วเหนียงถึงไม่เหมือนแม่คนอื่นสิ่งที่นางอิจฉามากที่สุดก็คือเด็กคนอื่น ๆบัดนี้มีเด็กอีกคนหนึ่งที่ต้องกลายเป็นกำพร้าเพราะนาง ชีหยวนรู้สึกว่าตัวเองช่างบาปหนานักแน่นอนว่าความผิดของนางมีอยู่จริง แต่มันก็ยังมีบางคนที่สมควรจะลงนรกสิบแปดขุม!นางควบม้าเร็วเร่งรุดมาถึงวัดว่านอันที่ชานเมืองหลวง เอียงศีรษะเล็กน้อย จ้องคำว่าวัดว่านอันสามคำนั้นอย่างเย็นชา บนใบหน้าฉายแววเย็นเยียบอย่างที่ไม่เคยมีมาก่อนออกจากเมืองหลวงมาถึงที่นี่ก็เป็นเวลาค่ำแล้วยามดึกดื่นเช่นนี้ หญิงสาววัยแรกแย

  • ยอดหญิงในเงามาร   บทที่ 506

    ก็ต้องมี ‘คืนของขวัญ’ กลับไปบ้างกระมัง?ชีเจิ้นก็พลันเข้าใจ เพียงแค่เป้าหมายไม่ใช่ผู่อู๋ย่ง แต่ก็ยังเป็นการไปสังหารคนอยู่ดีเขาคิดอยู่ครู่หนึ่ง ก่อนจะกำชับว่า “เช่นนั้นก็ ระวังตัวด้วยแล้วกันนะ”ชีหยวนก็เดินตรงดิ่งออกจากประตูไปชีเจิ้นจึงหันกลับมามองท่านโหวผู้เฒ่าชีกับฮูหยินผู้เฒ่าชี “ท่านพ่อ ท่านแม่ ข้านึกขึ้นได้แล้ว วันปีใหม่วันนั้น แม่หนูหยวนบอกว่านอกจากจะแวะไปที่เรือนนอกเมืองแล้ว ยังมีธุระที่ต้องทำ มันเป็นธุระอะไรกันแน่?”ทั้งยังเป็น ‘การคืนของขวัญ’ ให้ผู่อู๋ย่งอีกด้วย?ท่านโหวผู้เฒ่าชีถลึงตาใส่เขาอย่างไม่สบอารมณ์ “เจ้าถามข้าแล้วข้าจะไปถามใคร โดนขังมาหลายวันแล้วเจ้ายังไม่เหนื่อยหรือไง? ทำตัวดี ๆ รีบไปอาบน้ำแล้วนอนพักเสีย ตอนเย็นค่อยไปกินข้าวที่เรือนใหญ่!”ชีเจิ้นอยากรู้จนใจแทบขาด แต่ก็ไม่อาจรู้ได้เลยว่าชีหยวนกำลังทำเรื่องอะไรที่เกี่ยวกับผู่อู๋ย่ง และยังจะบอกว่าเป็น ‘การคืนของขวัญ’ ให้อีกฝ่ายอีกต่างหากแต่แล้วเขาก็นึกขึ้นได้อีกเรื่องหนึ่ง “ท่านพ่อ! ผู้บัญชาการไล่จะไม่เป็นอะไรใช่หรือไม่?!”ไล่เฉิงหลงช่วยพวกเขาไว้มาก ที่ไม่โดนลงโทษก็เพราะอีกฝ่ายช่วยไกล่เกลี่ยแล้วไอ้หมาขันทีอ

  • ยอดหญิงในเงามาร   บทที่ 505

    ชีหยวนเลิกคิ้วขึ้นนิด ๆ เห็นทั้งสองคนกลับมาดูครบสามสิบสอง ดูก็รู้ว่าไม่ได้ถูกลงโทษ ก็รู้ทันทีว่าเป็นไล่เฉิงหลงที่ช่วยไว้นางหลุบตาลงแล้วส่ายหน้า “ไม่ใช่เพราะข้าหรอกเจ้าค่ะ เรื่องนี้เดิมทีก็เกิดขึ้นเพราะข้า เป็นข้าที่ก่อเรื่องวุ่นวายขึ้นมา พวกท่านต้องลำบากก็เพราะข้า”ความรู้สึกของท่านโหวผู้เฒ่าชีซับซ้อนอย่างยิ่งชีเจิ้นก็เช่นกันชีหยวนก็ถือว่าเข้าใจฐานะของตนเองดีนัก และไม่ทำตัวเกรงใจเกินจำเป็น พูดสิ่งที่ควรพูด ไม่สนใจด้วยซ้ำว่าจะมีใครตอบรับได้หรือไม่แต่ว่านางพูดตรงได้ ทว่าท่านโหวผู้เฒ่าชีกับชีเจิ้นย่อมไม่อาจตอบกลับตรง ๆ เช่นนั้น ท่านโหวผู้เฒ่าชีจึงกล่าวว่า “พูดอย่างนั้นก็ไม่ได้หรอก ตำแหน่งนี้ของเขา ทำมาก็หลายปี อยู่กึ่งกลาง หากทำงานของฝ่าบาทได้สำเร็จ เช่นนั้นสักวันก็ต้องเกิดเหตุเช่นนี้”ถ้าหากทำไม่สำเร็จ ต้องสืบหากันไปเรื่อย ๆ ไม่จบไม่สิ้น ฮ่องเต้หย่งชางก็ย่อมต้องเริ่มสงสัยในความสามารถของชีเจิ้น และหมดความอดทนต่อเขาฉะนั้นว่ากันตามจริงแล้ว เคราะห์นี้ก็หลีกเลี่ยงไม่ได้อยู่ดี ยังดีที่มีชีหยวนอยู่ จึงสามารถคลี่คลายเรื่องราวได้รวดเร็วขนาดนี้ท่านโหวผู้เฒ่าก็โล่งอก เมื่อเห็นเหล่าลูก

  • ยอดหญิงในเงามาร   บทที่ 504

    ฮ่องเต้หย่งชางกวาดพระเนตรมองโดยรอบ ตวาดเสียงเกรี้ยว “อ่างน้ำมงคลเล่า? ไยถึงได้มาช่วยดับไฟกันช้านัก?!”แล้วก็รีบร้อนหันไปถามไล่เฉิงหลง ซึ่งรับหน้าที่เฝ้าตำหนักเฟิ่งเจ่าในวันนี้ “ร่างของกุ้ยเฟยเล่า?”ไล่เฉิงหลงเหงื่อไหลท่วมทั้งร่าง คุกเข่าลงแล้วคารวะ “กระหม่อมกับนายพันลู่ช่วยกันหามร่างของกุ้ยเฟยออกมาได้แล้วพ่ะย่ะค่ะ เพียงแต่...”พวกเขาก็รู้ดีว่าเสี่ยวหลิ่วกุ้ยเฟยมีตำแหน่งเช่นไรในพระทัยของฮ่องเต้หย่งชาง ไหนเลยจะกล้าปล่อยให้ร่างของเสี่ยวหลิ่วกุ้ยเฟยถูกเผาจนมอดไหม้?หากปล่อยให้เป็นเช่นนั้นจริง เกรงว่าพวกตนก็คงต้องลงไปอยู่กับบรรพบุรุษแล้วแต่ถึงจะช่วยออกมาได้ ทว่าร่างของกุ้ยเฟยก็ยังคงดูเวทนานักอย่างน้อยเส้นผมของเสี่ยวหลิ่วกุ้ยเฟยก็ถูกไฟไหม้ไปแล้วครึ่งหนึ่งใบหน้าก็ถูกควันรมจนดำไปหมดฮ่องเต้หย่งชางปิดดวงเนตรลง เอื้อมพระหัตถ์ไปลูบไล้ใบหน้าของเสี่ยวหลิ่วกุ้ยเฟย สั่งการด้วยน้ำเสียงเคร่งขรึม “ไล่เฉิงหลง ลู่อี้เฟิง ดูแลไม่ดีจนตำหนักเฟิ่งเจ่าเกิดเพลิงไหม้ ให้ไปรับการลงโทษโบยสามสิบไม้ที่กรมวัง!”จากนั้นก็นิ่งไปครู่หนึ่ง แล้วถามต่อ “เหตุใดอ่างน้ำมงคลถึงกลายเป็นน้ำแข็ง?”ในวังหลวง ตามถนนสาย

  • ยอดหญิงในเงามาร   บทที่ 503

    ฮ่องเต้หย่งชางเหนื่อยล้าอย่างถึงที่สุดหลายวันมานี้ ทุกค่ำคืนเขามักจะฝันถึงเรื่องราวในอดีตตัวเขากับพระชายาหลิ่วสมัยยังอยู่ในดินแดนศักดินาในช่วงนั้น ยามใดที่คลื่นลมในทะเลพัดแรง ไม่รู้ว่าหลังคาบ้านของราษฎรกี่หลังจะปลิวว่อนทุก ๆ ปีล้วนมีคนต้องสังเวยชีวิตเพราะเหตุนี้ไม่น้อยแค่นั้นยังพอทนได้ แต่ภูมิอากาศก็ยังเย็นชื้น ทำให้ข้อกระดูกของเขาเจ็บเรื้อรังพระชายาหลิ่วจึงมักช่วยทำการรมยาเฉพาะจุดให้เขา อยู่เคียงข้างช่วยเหลือราษฎร คิดหาหนทาง ร่วมมือกับขุนนางท้องถิ่น แบ่งเขตพื้นที่ แล้วสอนชาวบ้านสร้างบ้านจากหินที่แข็งแรงมั่นคงในบริเวณที่ปลอดภัยกว่ายังได้ขอร้องอดีตฮ่องเต้ให้ส่งช่างจากกรมโยธามาช่วยสอนการเปิดเตาเผาและเผาอิฐพวกเขาค่อย ๆ แก้ไข นำพาเมืองจางโจวจากดินแดนยากไร้กลายเป็นเมืองมั่งคั่ง แม้แต่เมืองใกล้เคียงอย่างเฉวียนโจวก็ยังได้สร้างท่าเรือบางคราก็ฝันถึงเสี่ยวหลิ่วกุ้ยเฟยแรกเริ่มเดิมที เขาก็ไม่ได้คิดจะให้เสี่ยวหลิ่วกุ้ยเฟยเข้าวังเลยด้วยซ้ำเสี่ยวหลิ่วกุ้ยเฟยอายุน้อยกว่าเขามากเกินไป ห่างกันถึงสิบสองปีเขามองนางเหมือนน้องสาวคนหนึ่งมาตลอดแต่เมื่อเวลาค่อย ๆ ผ่านไป เสี่ยวหลิ่วกุ้ยเ

  • ยอดหญิงในเงามาร   บทที่ 502

    ปิดไม่มิดแล้วเขาไม่มีทางบ้าเลือดถึงขั้นลากผู่อู๋ย่งลงไปด้วยหรอก อย่างน้อยแบบนี้ผู่อู๋ย่งก็ยังอาจเห็นแก่ที่เขาเชื่อฟัง แล้วช่วยดูแลคนในตระกูลของเขาบ้างมิเช่นนั้น เกรงว่าตระกูลสวีคงไม่เหลือแม้แต่คนเดียวเซี่ยกงกงเชิญไล่เฉิงหลงเข้ามา ไล่เฉิงหลงก็นำเอกสารคำรับสารภาพพร้อมลายนิ้วมือของคนเหล่านั้นมาขึ้นถวายฮ่องเต้หย่งชางเพียงแค่เหลือบตามอง ก่อนจะเหวี่ยงเอกสารลงตรงหน้าสวีฮว่าน “เจ้ายังมีอะไรจะพูดอีก? คดีลักลอบค้าของเมื่อปลายปีก่อนก็เริ่มสอบตั้งแต่ตอนนั้นแล้ว เจ้าคงคิดหาแพะรับบาปไว้ตั้งแต่นั้นกระมัง? ถึงได้ยุยงปลุกปั่นพวกครัวเรือนทหารที่มีเอี่ยว ให้เชื่อว่าตระกูลชีหักหลังพวกเขา ให้พวกเขารับผิดแทน!”สวีฮว่านฟุบหน้าลงกับพื้น สั่นเทาไปทั้งร่าง เอ่ยปากวิงวอนไม่หยุด “ฝ่าบาทโปรดเมตตา ฝ่าบาทโปรดไว้ชีวิตเถิดพ่ะย่ะค่ะ!”ฮ่องเต้หย่งชางแค่นเสียงเย็น แล้วกวาดดวงเนตรมองเหล่าขุนนางบุ๋นบู๊ “เมื่อครู่พวกเจ้าล้วนโกรธแค้นลุกฮือกันขึ้นมา กล่าวว่านี่คือการสมคบคิดศัตรู ขายชาติ ทรยศหักหลัง เป็นความผิดฐานคิดกบฏ พวกเจ้าพูดถูกแล้ว”สิ้นคำ ก็เรียกผู้บัญชาการศาลต้าหลี่เติ้งเหรินกู้ “คดีนี้ให้ศาลต้าหลี่เป็นผู้สื

Galugarin at basahin ang magagandang nobela
Libreng basahin ang magagandang nobela sa GoodNovel app. I-download ang mga librong gusto mo at basahin kahit saan at anumang oras.
Libreng basahin ang mga aklat sa app
I-scan ang code para mabasa sa App
DMCA.com Protection Status