Share

บทที่ 460

Author: ฉินอันอัน
หัวใจของขันทีเซี่ยแทบจะกระเด็นออกมาถึงคอหอย

สวรรค์ช่วยด้วยเถอะ!

ไม่ว่าท่านอ๋องจะทำอะไรก็ลำบากไปหมดจริง ๆ

ถ้าไม่ลุกขึ้นมาพูดอะไร คนทั่วหล้าก็จะตราหน้าว่าเขาเป็นหลานอกตัญญู เป็นคนโง่เขลาอ่อนแอ

แต่ถ้าลุกขึ้นมาพูดตอนนี้ เกรงว่าในความพิโรธของฮ่องเต้หย่งชาง อาจจะปลดเขาจากตำแหน่งพระราชนัดดาองค์โตได้เลย!

ไม่รู้ทำไม ขันทีเซี่ยเผลอหันมองไปทางชีหยวนโดยไม่รู้ตัว

แต่ชีหยวนไม่มีเวลาสนใจว่าใครมองนางทั้งนั้น นางแค่จับชายแขนเสื้อของ พระชายาหลิ่วเอาไว้ เขย่าเบา ๆ ส่งสายตาเป็นสัญญาณ และกดเสียงลงต่ำ “พระชายา ถึงขนาดนี้แล้ว ยังจะทนอีกหรือ? คนที่ฆ่าท่านแม่ของท่าน จะปล่อยให้นางแย่งชิงตำแหน่งของท่าน ให้นางเข้าไปในสุสานหลวงได้อีกหรือ?”

……

ไล่เฉิงหลงแอบเหลือบมองชีหยวนอีกรอบ

เสียงกระซิบของคุณหนูใหญ่ตระกูลชีนี้ ให้มันเบากว่านี้ไม่ได้เลยหรือ?

เขาเป็นถึงองครักษ์เสื้อแพรนะ!

นางยังมีความเคารพขั้นพื้นฐานต่อองครักษ์เสื้อแพรบ้างหรือไม่เนี่ย?!

ไม่เพียงแค่ไม่กลัว นางยังยุยงให้พระชายาหลิ่วลุกขึ้นก่อเรื่องอีกด้วย!

องค์หญิงเป่าหรงที่กำลังร้องไห้สะอึกสะอื้นอยู่ พลันเปลี่ยนเป็นยิ้มออกมาในทันที

แม้เสด็จแม่จะตายอย
Patuloy na basahin ang aklat na ito nang libre
I-scan ang code upang i-download ang App
Locked Chapter

Pinakabagong kabanata

  • ยอดหญิงในเงามาร   บทที่ 644  

    ทว่าในใจของนางกลับยังคงรู้สึกไม่สบอารมณ์เท่าใดนัก ผ่านเหตุการณ์นี้ไป นางมีหรือจะมองท่าทีของเซียวอวิ๋นถิงที่มีต่อสกุลเฝิงไม่ออก ดังเช่นที่เขาเคยพูดไว้ก่อนหน้านี้ เรื่องที่สกุลเฝิงเคยช่วยเหลือพวกเขาไว้เมื่อก่อนเขาจะตอบแทนด้วยรางวัล แต่ก็แค่ของรางวัลเท่านั้น เขาไม่เคยมีความคิดจะให้สกุลเฝิงได้ตำแหน่งชายาพระนัดดาแม้แต่น้อย เซียวอวิ๋นถิงตอบกลับอย่างเปิดเผย “เป็นเรื่องมงคลยิ่งเรื่องหนึ่งพ่ะย่ะค่ะ ก่อนเรื่องราวจะกำหนดแน่ชัด กระหม่อมอยากบอกเสด็จย่าก่อนสักคำพ่ะย่ะค่ะ” เขาเอ่ยเสียงขรึม “แม่นางผู้นั้นที่กระหม่อมพึงใจเลื่อมใสมานานคือคุณหนูใหญ่แห่งจวนหย่งผิงโหว บัดนี้ในที่สุดนางก็ได้ตอบรับความรู้สึกของกระหม่อมแล้ว ดังนั้น กระหม่อมจึงอยากทูลแจ้งต่อเสด็จย่า ว่าจากนี้ชายาพระนัดดาของกระหม่อมได้ถูกกำหนดไว้แล้ว กระหม่อมหวังว่าเสด็จย่าเองจะทรงโปรดปรานนางด้วยเช่นกันพ่ะย่ะค่ะ” ฮองเฮาเฝิงขมวดคิ้วขึ้นอย่างอดไม่ได้ ความจริงเรื่องนี้นางทราบจากปากของเฝิงไฉ่เวยมาก่อนแล้ว ทว่าที่รับรู้มาก่อนหน้านั้นก็เป็นเรื่องหนึ่ง และการที่เซียวอวิ๋นถิงเข้ามาขอร้องตนเองต่อหน้าอย่างเอาจริงเอาจังเช่นนี้ก็เป็นอีกเรื่

  • ยอดหญิงในเงามาร   บทที่ 643  

    ฮูหยินผู้เฒ่ายิ้มกว้างเสียจนรอยขมวดย่นบนหว่างคิ้วคลายออกทั้งหมด แต่กระนั้นก็ยังกลั้นน้ำตาเอาไว้ไม่อยู่ เด็กที่แสนดีจริง ๆ นางสะอื้นออกมาอย่างอดไม่ไหว “แม่หนูหยวน ย่ารู้สึกผิดกับเจ้ามาตลอด” นางส่งคนไปยังหมู่บ้านในชนบทเพื่อสืบเรื่องของหลี่ซิ่วเหนียงและคนขายเนื้อสวี่มาแล้ว เมื่อได้สืบถึงจะรู้ว่า แทบทุกคนในที่อาศัยในหมู่บ้านชนบทล้วนรู้จักชีหยวน นางเคยผ่านความยากลำบากแสนสาหัสมาตั้งแต่ยังเด็ก ตอนหิวโซที่สุด ยังถึงขั้นแย่งหัวมันเทศที่คนอื่นไม่ต้องการแล้วมาจากสุนัขตัวหนึ่ง ทั้งที่นางใช้ชีวิตผ่านมาด้วยความยากลำบากเพียงนั้น ทว่าขอเพียงเจ้าแสดงความเมตตาต่อนางแม้เพียงน้อยนิด นางก็จะจดจำบุญคุณของเจ้าไม่รู้ลืม เคยมีช่วงหนึ่งฮูหยินผู้เฒ่าชีมักนอนไม่หลับในยามดึกเอาแต่พลิกตัวไปมากระสับกระส่าย พอคิดถึงชีวิตที่ผ่านมาของชีหยวนก็รู้สึกปวดหัวใจขึ้นมาทันที นางไม่กล้าแม้แต่จะคิดด้วยซ้ำว่า ชีหยวนอดทนอดกลั้นกับความหิวและความทรมานให้ผ่านคืนที่แสนยากลำบากในแต่ละคืนไปได้อย่างไร ยิ่งไม่กล้าคิดด้วยซ้ำว่า ในช่วงเวลานั้นชีหยวนจะเคยเฝ้าหวังในใจซ้ำแล้วซ้ำเล่าให้ญาติพี่น้องมารับนางกลับไปบ้างหรือไม่ นางร่

  • ยอดหญิงในเงามาร   บทที่ 642  

    เสี้ยวขณะนี้คำว่า ‘บุปผาผลิบานในใจ’ ในที่สุดก็กลายเป็นภาพชัดเจนตรงหน้า เขาพยายามระงับอาการตื่นเต้นในใจเอาไว้ ก่อนจะเอ่ยอย่างชัดถ้อยชัดคำช้า ๆ “แม่น้ำรั่วสามพันลี้ เพียงหนึ่งจอกดับกระหาย” เขาเว้นระยะครู่หนึ่ง ก่อนจะเอ่ยต่อ “อาหยวน ข้าก็เหมือนดอกชาภูเขาพวกนี้ เจ้าไม่ต้องทำอะไร ข้าก็พร้อมร่วงลงมาเพื่อเจ้า” ดอกชาภูเขาโอนเอนเอียงพลิ้วตามแรงลม ก้านใบไหวริกกลางสายลม นอกเรือนสายลมเอื่อยและระแนงองุ่นที่กำลังสั่นไหวเบา ๆ ตามแรงลมพัด ที่แท้ฤดูร้อนก็สบายถึงเพียงนี้ ชีหยวนหมุนตัวกลับมาผุดยิ้มบาง ๆ ให้เขา “เช่นนั้นก็ดี ข้าตอบรับท่านแล้ว” นางยอมรับความพ่ายแพ้ได้และยอมรับความรักได้เช่นกัน เรื่องของวันข้างหน้าก็ค่อยว่ากัน หากว่าเซียวอวิ๋นถิงทำไม่ดีกับนาง นางก็พร้อมง้างมีดปิดจบเขาในกระบวนเดียวเหมือนกัน แต่อย่างน้อยที่สุดในตอนนี้ นางก็ได้สัมผัสความรักและรับรู้ถึงความซื่อสัตย์ของเซียวอวิ๋นถิงแล้ว ชีวิตคนสั้นเพียงไม่กี่ปี ย่อมต้องหาความสุขให้ทันเวลา ทำในสิ่งที่ตนเองอยากทำ และให้ความรักกับคนที่ตนเองอยากรัก ความรักที่แท้จริงมิใช่เพียงรู้สึกดีแค่วูบหนึ่ง แต่เป็นการตระหนักรู้ว่าข้าและเจ้าจะ

  • ยอดหญิงในเงามาร   บทที่ 641  

    เมืองหลวงซึ่งห่างออกไปไกลพันลี้ ชีหยวนหาได้หลงละเลิงอย่างที่อ๋องฉีจินตนาการไม่ แต่ไหนแต่ไรคนอย่างนางไม่เคยรู้จักคำว่า ‘หลงละเลิง’ หลังจากสกุลเฝิงประสบเคราะห์กรรม ระยะนี้แม้กระทั่งจำนวนครั้งที่จวนอ๋องโจวเดินทางไปเรือนสกุลเฝิงก็ยังลดลงด้วย ทว่านางก็มิได้รู้สึกปีติยินดีมากนัก ตรงกันข้ามฮูหยินผู้เฒ่าชีกลับสังเกตได้อย่างว่องไว ว่าจำนวนครั้งที่พระราชนัดดาองค์โตระยะนี้ปีนกำแพงจวนของตนเข้ามาดูจะถี่ขึ้นเรื่อย ๆ แล้ว! นางจึงออกปากเตือนท่านโหวผู้เฒ่าชีอย่างอดไม่ได้ พวกเขาไม่ได้บอกว่าพระนัดดาองค์โตไม่เหมาะสม เพียงแต่ ท่านเองก็ควรแสดงท่าทีให้ชัดเจนสักหน่อยมิใช่หรอกหรือ? อย่างเช่นว่าไปกราบทูลขอพระราชทานสมรสจากฮ่องเต้หย่งชางและฮองเฮาให้เป็นเรื่องเป็นราวอะไรทำนองนี้ อย่างไรก็ทูลขอราชโองการมาก่อนสิ! วัน ๆ เอาแต่แอบมาปีนกำแพงเรือนพวกเขาแบบนี้มันใช้ได้ที่ไหน?! โหวผู้เฒ่าชีอยากต่อกำแพงเรือนให้สูงกว่านี้จนแทบจะคลั่งตายอยู่แล้ว! เขาหรือจะยังต้องให้ฮูหยินผู้เฒ่าชีเตือนอีก? เขาขยันมาเฝ้าอยู่ที่หอหมิงเยว่ยิ่งกว่าผู้ใด ย่อมต้องรู้ว่าจำนวนความถี่ที่เซียวอวิ๋นถิงลอบเข้ามายังเรือนสกุลชีมากขึ้

  • ยอดหญิงในเงามาร   บทที่ 640

    อย่างไร้เสียนับแต่ขาหัก อ๋องฉีก็ยิ่งอารมณ์ฉุนเฉียวง่ายขึ้นช่วงนี้แม้แต่หมอเทวดาเซวียก็ยังถูกเขารบกวนจนรำคาญแล้วขันทีสวีลองหยั่งเชิงถามว่า “ท่านอ๋อง ทรงหมายถึงสิ่งใดขอรับ”“เฝิงไฉ่เวยหาใช่หญิงธรรมดา” อ๋องฉีโบกจดหมายเหล่านั้น ริมฝีปากแย้มยิ้มเจือเย้ย “หากว่าชีหยวนเปรียบเสมือนไฟเพลิงที่ลุกโชน เช่นนั้นนางก็คืองูพิษตัวหนึ่ง รอคอยจังหวะพุ่งขึ้นมาฉกกัดเจ้าได้ทุกเมื่อ”ชาติก่อนมันก็เป็นเช่นนั้นมิใช่หรือ?ไม่ให้เป็นชายาของพระนัดดารัชทายาท นางก็เปลี่ยนตัวพระนัดดารัชทายาทเสียก็ได้เมื่อหวนคิดถึงเรื่องในอดีต อ๋องฉีก็รู้สึกอารมณ์ดีขึ้นมาทันทีเขานึกถึงที่เฝิงไฉ่เวยเขียนไว้ในจดหมายว่า เซียวอวิ๋นถิงได้กราบทูลต่อฮ่องเต้หย่งชาง ว่าตนมีสตรีที่หมายปองแล้ว หวังให้ฮ่องเต้พระราชทานสมรสให้ในภายหน้า นั่นก็บ่งบอกอยู่แล้วว่าเฝิงไฉ่เวยจะเลือกเดินทางใดวังบูรพานั้น มิใช่แผ่นเหล็กไร้รอยร้าวเรื่องในโลกล้วนแล้วแต่ไม่กลัวขาดแคลน หากแต่กลัวไม่เท่าเทียมกันเฉกเช่นเมื่อครั้งฮ่องเต้หย่งชางเคยลำเอียงเข้าข้างตน เหล่าเสนาขุนนางทั้งหลายก็ย่อมรอดูท่าทีแบ่งฝักแบ่งฝ่ายไปตามสถานการณ์องค์รัชทายาทในยามนี้ ก็หาได้เป็

  • ยอดหญิงในเงามาร   บทที่ 639

    ตอนที่อ๋องฉีได้รับจดหมายนั้น อากาศก็ร้อนแล้วเขาเพิ่งมาถึงเมืองเมืองหงตู ทุกอย่างล้วนไม่ราบรื่น ขณะที่กำลังหงุดหงิดใจ ยิ่งในยามที่อากาศร้อนจัด เมืองหงตูก็ราวกับเตาไฟ เผาจนผู้คนหายใจแทบไม่ออก แม้กระทั่งขาของเขาก็เหมือนจะปวดมากขึ้นอารมณ์ของเขาจึงยิ่งขุ่นเคือง ทนไม่ไหวถึงกับเตะม้านั่งข้างๆ เข้าอย่างแรงผลคือกลับกระแทกเข้าที่ขาเจ็บของตนเอง ความเจ็บแล่นปราดขึ้นมา ทำให้เขาขมวดคิ้วแน่นด้วยความเจ็บปวดจินเป่าถือถ้วยน้ำแข็งเข้ามา พอเห็นเขาก็แทบยืนไม่มั่น รีบวางถ้วยแล้วเข้าไปพยุงเขาอ๋องฉีกลับปัดเขาออก แล้วทรุดตัวลงไปนวดขาของตนเอง พลางเอ่ยเสียงต่ำ “อาจารย์ของเจ้าอยู่ไหน?”จินเป่ายืนตัวตรงอย่างนอบน้อม ตอบกลับว่า “กราบทูลท่านอ๋อง ท่านอาจารย์ได้รับข่าวสารบางอย่างแล้วก็ออกไปข้างนอก ตอนนี้ยังไม่กลับมาขอรับ”อ๋องฉีจึงแค่นเสียงเย็นชา ก่อนจะขมวดคิ้ว หยิบสาส์นทักทายจากเจ้าเมืองเมืองหงตูขึ้นมาอ่านในขณะที่อ่านด้วยอารมณ์ขุ่นมัว ขันทีสวีก็เร่งฝีเท้าเข้ามา โค้งตัวลงอย่างเคารพ เอ่ยเรียกท่านอ๋องเขาส่งเสียงรับคำ พลางโยนสาส์นในมือทิ้ง แล้วหันศีรษะไปมองขันทีสวี เอ่ยถามว่า “เป็นอย่างไร ฝั่งเมืองหลวงจัดก

Higit pang Kabanata
Galugarin at basahin ang magagandang nobela
Libreng basahin ang magagandang nobela sa GoodNovel app. I-download ang mga librong gusto mo at basahin kahit saan at anumang oras.
Libreng basahin ang mga aklat sa app
I-scan ang code para mabasa sa App
DMCA.com Protection Status