Share

บทที่ 60

Author: ฉินอันอัน
เข้าไปในเรือนพักนอกเมืองเร่งรีบ

เมื่อมาถึงประตูโค้งรูปพระจันทร์ ยังมีกำแพงอีกชั้นกั้นอยู่ นางก็ได้ยินเสียงตำหนิของชีเจิ้นลอยออกมา

จนกระทั่งนางก้าวข้ามประตูโค้งรูปพระจันทร์ไป ทันใดนั้นก็มองเห็นชีเจิ้นยืนอยู่กลางลานบ้าน ทว่าเวลานี้ชีอวิ๋นถิงกำลัง นอนคว่ำอยู่บนม้านั่ง ถูกชีเจิ้นใช้แส้ม้าเฆี่ยนตีอย่างโหดร้าย

ชีเจิ้นลงมืออย่างไม่มีความปรานีแม้แต่น้อย แส้ที่ฟาดลงมาบนร่างในแต่ละครั้ง นำพาเอาลมแรงที่แสนเยือกเย็นออกมาด้วย เสื้อผ้าที่อยู่บนหลังของชีอวิ๋นถิงขาดจนหมดแล้ว เผยให้เห็นรอยบาดแผลเป็นเส้น ๆ โผล่ออกมา

นางหวังตกใจแทบสิ้นสติ ร่ำไห้พลางโผเข้าไปขวางอยู่เบื้องหน้าชีอวิ๋นถิงในทันที “ท่านโหว! ท่านโหว! อย่าตีอีกเลยนะเจ้าคะ หากยังตีต่อไป ท่านอาจตีเขาจนตายได้นะเจ้าคะท่านโหว!”

ชีเจิ้นไม่เคยมีโทสะขนาดนี้มาก่อน

เขาจับจ้องไปที่นางหวัง พลางพ่นคำพูดออกมาอย่างเย็นชา “ถอยไป!”

นางหวังตกใจเสียใจหัวใจรู้สึกบีบรัด เนื้อตัวสั่นเทา พลางร่ำไห้ขอร้องด้วยเสียงสะอึกสะอื้น “ท่านโหว ข้ารู้ว่าเขาทำความผิดใหญ่หลวง ข้ารู้ทุกอย่าง…แต่ถึงอย่างไรเขาก็เป็นบุตรชายแท้ ๆ ของพวกเรานะเจ้าคะ!”

ในเวลานี้ชีอวิ๋นถิงกำลังนอนคว
Continue to read this book for free
Scan code to download App
Locked Chapter
Comments (1)
goodnovel comment avatar
Benchawan
ทุกเรื่องที่นำมาลงให้อ่านสนุกมากคะ
VIEW ALL COMMENTS

Related chapters

  • ยอดหญิงในเงามาร   บทที่ 61

    เห็นได้ชัดว่าอยู่ในโถงดอกไม้แล้ว ตัดขาดจากลมหนาวภายนอก ทว่าในเวลาเดียวกับที่ชีเจิ้นกล่าวคำพูดนั้นออกมา นางหวังก็รู้สึกว่ามีความเย็นยะเยือกสายหนึ่งค่อย ๆ คืบคลานมาที่สันหลังของนาง ทำให้นางรู้สึกเหมือนตกลงไปในห้องที่เต็มไปด้วยน้ำแข็งนางอ้าปากอยู่ชั่วขณะ รู้สึกแต่เพียงว่าลำคอทั้งแห้งผากและทั้งเจ็บ พอจะเอ่ยปากถึงได้รู้ว่าเสียงของตนเองได้แหบแห้งไปหมดแล้ว “เช่นนั้นความหมายของท่านโหวก็คือ…”ไม่รู้ว่าเหตุใด เมื่อครู่นางเห็นบุตรชายของตนเองถูกตี ยังเกลียดจนขบเขี้ยวเคี้ยวฟัน ถึงขนาดสาปแช่งชีจิ่นอยู่ภายในใจ ทว่าในเวลานี้ เมื่อชีเจิ้นกล่าวประโยคนี้จบ นางก็รู้สึกกลัวจนตัวสั่นขึ้นมาอีกถึงอย่างไรนั่นก็เป็นลูกที่นางเลี้ยงดูมากับมือ เป็นลูกที่นางเฝ้าดูและอุ้มชูมาตั้งแต่เล็กแต่น้อย!ชีเจิ้นไม่มีความสองจิตสองใจใด ๆ และไม่มีความลังเลเลยแม้แต่น้อย เมื่อเห็นนางหวังถามเช่นนี้ เขาก็ถามกลับไปว่า “มิเช่นนั้นฮูหยินคิดว่าข้าหมายความว่าอย่างไรเล่า?”ใบหน้าของเขาแฝงไปด้วยความถากถางอยู่บางส่วน “ตอนนี้ทั่วทั้งราชสำนักกำลังวุ่นวายให้เหล่าขุนนางที่กอบโกยผลประโยชน์จากความดีความชอบ พึงสังวรณ์คำพูดและการกระทำของตน

  • ยอดหญิงในเงามาร   บทที่ 62

    นางหวังรู้อยู่แก่ใจดี ยิ่งเป็นชีเจิ้นยิ่งเป็นไปไม่ได้ที่จะสละบรรดาศักดิ์ที่เป็นของเขา หากว่าชีอวิ๋นถิงไม่ได้ ถึงแม้นางจะไม่มีบุตรชายคนอื่นอีกแล้ว ทว่าอนุภรรยาของชีเจิ้นก็ยังมีได้นี่นา!การคาดเดานี้เป็นเพียงแค่ความคิดเท่านั้น ทว่าก็ทำให้นางหวังสั่นไปทั้งตัวนางกัดฟันพลางหลับตาลง “ท่านโหว ข้ารู้ว่าควรทำเช่นไร ท่านวางใจเถิดเจ้าค่ะ!”ชีเจิ้นกวาดตามองนางอยู่ชั่วครู่ ไม่พูดอันใดมากอีก ลุกขึ้นยืนแล้วเดินจากไปภายในเรือนพักนอกเมืองอ้างว้างโดดเดี่ยวขึ้นมาโดยฉับพลันอีกด้านหนึ่ง หลังจากที่ชีอวิ๋นถิงไปแล้ว ชีจิ่นก็ถูกกักขังอย่างโดดเดี่ยวอยู่ในห้องปีกตะวันออกของเรือนด้านหลัง นางลุกนั่งไม่ติดที่ ไม่รู้แม้กระทั่งด้านนอกเกิดอันใดขึ้นบ้างกันแน่นางประเดี๋ยวลุกประเดี๋ยวนั่ง ภายในใจกำลังคาดเดาท่าทีของตระกูลชีอยู่ตลอดเวลานางอยู่ที่ตระกูลชีตั้งแต่เล็กยันโต ในใจของนางรู้นิสัยของชีเจิ้นกับนางหวังเป็นอย่างดียิ่งเป็นเช่นนี้ นางก็ยิ่งกระวนกระวายใจเพราะว่านางเข้าใจดีมากว่า คนอย่างชีเจิ้นไม่เห็นแก่หน้าผู้ใดทั้งสิ้นเมื่ออยู่ต่อหน้าผลประโยชน์ เขาให้ความสำคัญกับเกียรติของตระกูลและอนาคตมากกว่าสิ่งใดทั้งน

  • ยอดหญิงในเงามาร   บทที่ 63

    บุตรสาวย่อมเป็นผู้ที่เข้าใจมารดามากที่สุด ถูกเลี้ยงดูอยู่ข้างกายนางหวังมาสิบกว่าปี ชีจิ่นเข้าใจอย่างถ่องแท้ทุกการกระทำของนางหวังตั้งแต่แรกแล้วเมื่อเห็นท่าทางเช่นนี้ของนางหวัง นางแทบจะไม่มีการชะงักแม้เพียงเสี้ยววินาที รีบปิดหน้าพลางคุกเข่าลงกับพื้นแล้วร่ำไห้อย่างเจ็บปวด “ท่านแม่ ข้าผิดไปแล้ว! ข้าผิดไปแล้วเจ้าค่ะ!หากว่ากระทำผิดแล้วยังใช้ไม้แข็งกับนางหวัง โทสะของนางหวัง ก็จะยิ่งรุนแรงมากขึ้นเรื่อย ๆ ในตอนแรกอาจจะคิดแค่เพียงว่าอยากตบเท่านั้น แต่ท้ายที่สุดก็จะเกิดความวุ่นวายจนถึงขนาดไม่อาจควบคุมได้ทว่าหากยอมรับผิดด้วยท่าทีจริงใจตั้งแต่ต้น แสดงออกว่าจะไม่ทำผิดอีกแล้ว ไม่ว่าอย่างไรนางหวังกะจะให้โอกาสอีกครั้งหนึ่ง เดิมทีชีจิ่นก็ไม่ได้มีเวลามาคิดใคร่ครวญเรื่องพวกนี้ สิ่งที่ทำทั้งหมดต่างก็อาศัยสัญชาตญาณในช่วงหลายปีที่ผ่านมานางคุกเข่าไถลไปข้างหน้าพลางกอดต้นขาของนางหวังเอาไว้ ร้องไห้ออกมาอย่างปวดใจ “ท่านแม่ ข้ากลัวมากจริง ๆ นะเจ้าคะ! ข้าถูกไล่ออกจากจวน กลัวว่าท่านจะไม่ต้องการข้าแล้วจริง ๆ …”หัวใจคือก้อนเนื้อย่อมมีความรู้สึก นางหวังเห็นนางร่ำไห้อย่างเศร้าโศกเช่นนี้ ภายในใจทั้งเจ็บแค้น

  • ยอดหญิงในเงามาร   บทที่ 64

    สุดท้ายในช่วงเวลาที่ชี้เป็นชี้ตาย นางหวังก็บีบข้อมือของชีจิ่นเอาไว้แน่น พลางตบปิ่นปักผมทองชิ้นนั้นลงสู่พื้นทุกคนต่างก็ตกตะลึงอวิ๋นเยี่ยนแข้งขาอ่อน ล้มลงกับพื้นดวงตาเบิกกว้างด้วยความหวาดกลัว พลางกลืนน้ำลายเข้าไปอย่างตึงเครียดสวรรค์ นางเกือบจะคิดว่าคุณหนูของนางจะต้องตายเช่นนี้เสียแล้วเกาเจียหันไปมองนางหวังพลางขมวดคิ้ว ในใจรู้สึกเป็นกังวลท่านโหวได้ตัดสินความตายไปแล้ว จะต้องกำจัดชีจิ่นทิ้งให้ได้ คิดว่าชีจิ่นอกตัญญู เจ้าแผนการยากจะคาดเดาฮูหญิงกลับมาเปลี่ยนใจในนาทีสุดท้ายหากกลับไปในครานี้จะอธิบายกับท่านโหวเช่นไรดี?!ชีจิ่นดวงตาพร่ามัวไปด้วยน้ำตา กระโจนเข้าไปกอดขาของนางหวัง “ท่านแม่!”ทว่าภายในใจกลับเต็มไปด้วยความโล่งอกโชคดี โชคดีที่นางเดิมพันชนะ!หากว่าวันนี้คนที่มาเป็นชีเจิ้น ท่าทางเสแสร้งของนางในครั้งนี้คงจะต้องไม่มีประโยชน์อันใดเป็นแน่ทว่าคนที่มาคือนางหวัง ถึงอย่างไรสตรีก็มีความใจอ่อนมากกว่า แผนการทรมานตนเองของนางเป็นการล่าถอยเพื่อที่จะได้ก้าวไปข้างหน้า ทำตรงกันข้ามเพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่ต้องการนางหวังลูบผมของชีจิ่น พลางยื่นมือไปประคองนางลุกขึ้น “เจ้าไปเถิด!”ชีจิ่นม

  • ยอดหญิงในเงามาร   บทที่ 65

    ชีหยวนยิ้มโดยไม่พูดอันใด พลางถือกล่องอาหารกลับไปที่หอหมิงเยว่ด้วยตนเอง แม่ครัวหลายคนที่ทำหน้าที่อยู่ในครัวรอจนนางออกไปแล้ว จึงสบตากัน พลางเบะปากหนึ่งในนั้นพลิกหม้อไปมาหลายครั้งด้วยท่าทีประชดประชัน “ที่เหนียวเหนียวนี่มันคืออันใดกัน? คุณหนูใหญ่ผู้นี้…ของดี ๆ มีให้กินไม่กินชอบเอานิสัยเดิมมาใช้เสียจริง!”กลับมาที่จวนแล้ว อาหารที่กินล้วนเป็นอาหารหายาก ทว่าสุดท้ายก็ยังคิดถึงอาหารเลี้ยงหมูที่กินในชนบทพวกนั้นอยู่ตลอดเวลาไม่รู้สึกอับอายบ้างหรือไร?สาวใช้ในห้องครัวอีกคนเปิดเข่งสำหรับนึ่งอาหาร พบว่ายังมีของที่คล้ายกับซาลาเปาสีน้ำตาลอมเทาชิ้นเล็ก ๆ อยู่หลายชิ้น จึงอดไม่ได้ที่จะส่งเสียงจิ๊ออกมาเดิมทีนางคิดจะพูดจาแดกดันสักสองสามประโยค ทว่าเมื่อมองเห็นของสิ่งนี้สว่างโปร่งใส ถึงแม้จะเป็นสีน้ำตาลอมเทา แต่ดูไปแล้วกลับเหมือนจะโปร่งใสจนมองเห็นเนื้อที่อยู่ข้างใน จึงรู้สึกประหลาดใจอยู่บ้างนางหยิบขึ้นมากัดหนึ่งคำโดยไม่รู้เนื้อรู้ตัว ทว่าหลังจากนั้นก็อดจะส่งเสียงออกมาอย่างประหลาดใจไม่ได้“รสชาตินี้มัน…” นางพูดออกมาอย่างอดไม่ได้ “ช่างมีเอกลักษณ์ยิ่งนัก!”ชีหยวนกลับถึงหอหมิงเยว่เรียบร้อยแล้วในเ

  • ยอดหญิงในเงามาร   บทที่ 66

    นางชี้ไปที่โต๊ะเล็กข้างหน้าต่าง ก่อนจะถือกล่องอาหารเดินไปนั่งบนเบาะผ้า เซียวอวิ๋นถิงมองนางด้วยสายตาที่แฝงไปด้วยความหมายบางอย่าง ก่อนจะเดินไปนั่งฝั่งตรงข้ามเขานิ่งสงบ ราวกับสัตว์ร้ายที่กำลังอดทนรอเวลา เขาเกร็งไปทั้งตัวราวกับเสือร้ายที่พร้อมจะกระโจนใส่เหยื่อได้ทุกเมื่อคนอย่างเขา หากต้องการจะเอาชีวิตของชีหยวนแล้ว ก็เป็นเรื่องที่ทำได้ทันทีแต่เมื่อชีหยวนหยิบอาหารที่คล้ายกับซาลาเปาออกมาจากกล่องอาหาร และวางลงบนโต๊ะ สีหน้าของเขาก็พลันเปลี่ยนไปทันที เขาเอื้อมมือไปบีบคอชีหยวนอย่างแรงฝ่ามือขนาดใหญ่สามารถหักคอชีหยวนได้ด้วยมือเดียวแววตาของเขาเต็มไปด้วยความอาฆาตแค้น เขาถามด้วยน้ำเสียงแข็งกร้าว “เจ้าสืบเรื่องของข้างั้นหรือ?!”เซียวอวิ๋นถิงถูกองค์รัชทายาทส่งไปเลี้ยงดูที่ภูเขาหมิงซานในเมืองจูหรง เพราะร่างกายไม่แข็งแรงตั้งแต่เยาว์วัย เขาเพิ่งจะกลับมาอยู่ที่เมืองหลวงได้ไม่ถึงสามปีแต่น้อยคนนักที่จะรู้ว่า ความจริงแล้วเขาอยู่ที่จูหรงได้ไม่กี่วัน ก็ต้องย้ายตามท่านอาจารย์ของเขาโไปยังเมืองเจียงซี และอยู่ที่นั่นจนเติบใหญ่ส่วนสิ่งที่ชีหยวนหยิบออกมานั้น คนทั่วไปอาจไม่รู้จัก แต่เซียวอวิ๋นถิงกลับ

  • ยอดหญิงในเงามาร   บทที่ 67

    ชีหยวนตื่นตระหนกเพียงชั่วขณะเท่านั้นก่อนที่จะเข้ามาหาเซียวอวิ๋นถิง นางรู้อยู่แล้วว่าตัวเองไม่สามารถมีความลับอะไรต่อเซียวอวิ๋นถิงได้ในชาติที่แล้ว นางเคยตามดูเซียวอวิ๋นถิง และได้เห็นฝีมือของเขามาแล้ว บุรุษผู้นี้ถูกขนานนามว่าเป็น “จอมพิพากษาหน้าหยก” สมญานามนี้ไม่ใช่ได้มาเล่น ๆ เพราะเหตุนี้ นางจึงตอบกลับด้วยการยกมือเท้าคาง พรางยิ้มหวานมองเซียวอวิ๋นถิง “แล้วเรื่องนี้มันเกี่ยวข้องอะไรกับการที่เราร่วมมือกันเล่า? หรือเพราะว่าข้าน้อยฆ่าคน ท่านอ๋องจึงคิดที่จะผดุงความยุติธรรม ด้วยการส่งตัวข้าน้อยไปให้เหล่าขุนนางตัดสิน?”แม้นางจะรู้ว่า ตอนนี้อำนาจของนางกับเซียวอวิ๋นถิงยังห่างชั้นกันมาก นางควรจะถ่อมตัว และแสดงด้านดีของตนเองออกมาให้มากที่สุดเพื่อโน้มน้าวให้เซียวอวิ๋นถิงช่วยเหลือนางแต่ทว่าทุกครั้งที่นางนึกถึงเรื่องในชาติที่แล้ว นางก็อดไม่ได้ที่จะรู้สึกเจ็บใจแม้กระทั่งตอนที่นั่งอยู่ เซียวอวิ๋นถิงก็ยังสูงกว่าชีหยวน เขามองนางจากมุมสูง ภายใต้แสงไฟส่องลงมา ใบหน้าของนางดูเด็กและอ่อนเยาว์เป็นอย่างมากแต่ใครจะไปคิดว่าเด็กสาวที่มีใบหน้าอ่อนแอและน่าสงสารเช่นนี้ จะฆ่าคนได้อย่างชำนาญและว่องไวยิ่งกว่า

  • ยอดหญิงในเงามาร   บทที่ 68

    หลังจากที่ได้คิดทบทวนแล้ว นางก็รู้ว่าตัวเองแค่คนเดียว คงทำให้องค์หญิงใหญ่เชื่อใจได้ยากเพราะเหตุนี้นางจึงตัดสินใจเลือกที่จะให้เซียวอวิ๋นถิงช่วยยังไงเสีย นี่ก็ไม่นับว่านางเอาเปรียบเขา เพราะนางก็มีสิ่งตอบแทนให้แก่เซียวอวิ๋นถิงเช่นกันเมื่อได้ยินชีหยวนเอ่ยถึงองค์หญิงใหญ่ ใบหน้าหล่อเหลาของเซียวอวิ๋นถิงก็นิ่งขรึมขึ้นมาทันที “นี่เจ้ากล้าคิดร้ายกับองค์หญิงใหญ่หรือ? ช่างกล้าหาญจริง ๆ !”พูดจบ เขาก็เกิดความสงสัยอีกครั้ง “ชีหยวน ข้าสืบเรื่องของเจ้า สิบกว่าปีก่อนเจ้าเคยอยู่ที่หมู่บ้านสวีเจียมาตลอด ไม่เคยออกไปไหนเลย เจ้าไม่เคยเข้าเมืองด้วยซ้ำ…”เขามองชีหยวนด้วยสายตาเย็นชาในระยะที่มีเพียงโต๊ะคั่นตรงกลาง “เจ้าจะรู้ได้อย่างไรว่าองค์หญิงใหญ่พักผ่อนอยู่บนภูเขา แล้วทำไมเจ้าถึงรู้จักข้า ที่สำคัญ เจ้าได้รู้ได้อย่างไรว่าข้าเคยอยู่ที่เจียงซี อีกทั้งยังรู้รหัสลับของพวกมือสังหารกำลังตามล่าข้า?”คำถามเหล่านี้ยิ่งถามก็ยิ่งเร่งเร้า และน้ำเสียงของเขาก็ยิ่งเย็นชามากขึ้นเรื่อย ๆเมื่อพูดจบ สายตาของเขาได้จ้องเขม็งไปที่ชีหยวนอย่างอาฆาต “ถ้าเจ้าอธิบายไม่ได้ ข้าจะฆ่าเจ้าเดี๋ยวนี้! คิดว่าข้ายังจะต้องพูดเงื่อนไขอ

Latest chapter

  • ยอดหญิงในเงามาร   บทที่ 506

    ก็ต้องมี ‘คืนของขวัญ’ กลับไปบ้างกระมัง?ชีเจิ้นก็พลันเข้าใจ เพียงแค่เป้าหมายไม่ใช่ผู่อู๋ย่ง แต่ก็ยังเป็นการไปสังหารคนอยู่ดีเขาคิดอยู่ครู่หนึ่ง ก่อนจะกำชับว่า “เช่นนั้นก็ ระวังตัวด้วยแล้วกันนะ”ชีหยวนก็เดินตรงดิ่งออกจากประตูไปชีเจิ้นจึงหันกลับมามองท่านโหวผู้เฒ่าชีกับฮูหยินผู้เฒ่าชี “ท่านพ่อ ท่านแม่ ข้านึกขึ้นได้แล้ว วันปีใหม่วันนั้น แม่หนูหยวนบอกว่านอกจากจะแวะไปที่เรือนนอกเมืองแล้ว ยังมีธุระที่ต้องทำ มันเป็นธุระอะไรกันแน่?”ทั้งยังเป็น ‘การคืนของขวัญ’ ให้ผู่อู๋ย่งอีกด้วย?ท่านโหวผู้เฒ่าชีถลึงตาใส่เขาอย่างไม่สบอารมณ์ “เจ้าถามข้าแล้วข้าจะไปถามใคร โดนขังมาหลายวันแล้วเจ้ายังไม่เหนื่อยหรือไง? ทำตัวดี ๆ รีบไปอาบน้ำแล้วนอนพักเสีย ตอนเย็นค่อยไปกินข้าวที่เรือนใหญ่!”ชีเจิ้นอยากรู้จนใจแทบขาด แต่ก็ไม่อาจรู้ได้เลยว่าชีหยวนกำลังทำเรื่องอะไรที่เกี่ยวกับผู่อู๋ย่ง และยังจะบอกว่าเป็น ‘การคืนของขวัญ’ ให้อีกฝ่ายอีกต่างหากแต่แล้วเขาก็นึกขึ้นได้อีกเรื่องหนึ่ง “ท่านพ่อ! ผู้บัญชาการไล่จะไม่เป็นอะไรใช่หรือไม่?!”ไล่เฉิงหลงช่วยพวกเขาไว้มาก ที่ไม่โดนลงโทษก็เพราะอีกฝ่ายช่วยไกล่เกลี่ยแล้วไอ้หมาขันทีอ

  • ยอดหญิงในเงามาร   บทที่ 505

    ชีหยวนเลิกคิ้วขึ้นนิด ๆ เห็นทั้งสองคนกลับมาดูครบสามสิบสอง ดูก็รู้ว่าไม่ได้ถูกลงโทษ ก็รู้ทันทีว่าเป็นไล่เฉิงหลงที่ช่วยไว้นางหลุบตาลงแล้วส่ายหน้า “ไม่ใช่เพราะข้าหรอกเจ้าค่ะ เรื่องนี้เดิมทีก็เกิดขึ้นเพราะข้า เป็นข้าที่ก่อเรื่องวุ่นวายขึ้นมา พวกท่านต้องลำบากก็เพราะข้า”ความรู้สึกของท่านโหวผู้เฒ่าชีซับซ้อนอย่างยิ่งชีเจิ้นก็เช่นกันชีหยวนก็ถือว่าเข้าใจฐานะของตนเองดีนัก และไม่ทำตัวเกรงใจเกินจำเป็น พูดสิ่งที่ควรพูด ไม่สนใจด้วยซ้ำว่าจะมีใครตอบรับได้หรือไม่แต่ว่านางพูดตรงได้ ทว่าท่านโหวผู้เฒ่าชีกับชีเจิ้นย่อมไม่อาจตอบกลับตรง ๆ เช่นนั้น ท่านโหวผู้เฒ่าชีจึงกล่าวว่า “พูดอย่างนั้นก็ไม่ได้หรอก ตำแหน่งนี้ของเขา ทำมาก็หลายปี อยู่กึ่งกลาง หากทำงานของฝ่าบาทได้สำเร็จ เช่นนั้นสักวันก็ต้องเกิดเหตุเช่นนี้”ถ้าหากทำไม่สำเร็จ ต้องสืบหากันไปเรื่อย ๆ ไม่จบไม่สิ้น ฮ่องเต้หย่งชางก็ย่อมต้องเริ่มสงสัยในความสามารถของชีเจิ้น และหมดความอดทนต่อเขาฉะนั้นว่ากันตามจริงแล้ว เคราะห์นี้ก็หลีกเลี่ยงไม่ได้อยู่ดี ยังดีที่มีชีหยวนอยู่ จึงสามารถคลี่คลายเรื่องราวได้รวดเร็วขนาดนี้ท่านโหวผู้เฒ่าก็โล่งอก เมื่อเห็นเหล่าลูก

  • ยอดหญิงในเงามาร   บทที่ 504

    ฮ่องเต้หย่งชางกวาดพระเนตรมองโดยรอบ ตวาดเสียงเกรี้ยว “อ่างน้ำมงคลเล่า? ไยถึงได้มาช่วยดับไฟกันช้านัก?!”แล้วก็รีบร้อนหันไปถามไล่เฉิงหลง ซึ่งรับหน้าที่เฝ้าตำหนักเฟิ่งเจ่าในวันนี้ “ร่างของกุ้ยเฟยเล่า?”ไล่เฉิงหลงเหงื่อไหลท่วมทั้งร่าง คุกเข่าลงแล้วคารวะ “กระหม่อมกับนายพันลู่ช่วยกันหามร่างของกุ้ยเฟยออกมาได้แล้วพ่ะย่ะค่ะ เพียงแต่...”พวกเขาก็รู้ดีว่าเสี่ยวหลิ่วกุ้ยเฟยมีตำแหน่งเช่นไรในพระทัยของฮ่องเต้หย่งชาง ไหนเลยจะกล้าปล่อยให้ร่างของเสี่ยวหลิ่วกุ้ยเฟยถูกเผาจนมอดไหม้?หากปล่อยให้เป็นเช่นนั้นจริง เกรงว่าพวกตนก็คงต้องลงไปอยู่กับบรรพบุรุษแล้วแต่ถึงจะช่วยออกมาได้ ทว่าร่างของกุ้ยเฟยก็ยังคงดูเวทนานักอย่างน้อยเส้นผมของเสี่ยวหลิ่วกุ้ยเฟยก็ถูกไฟไหม้ไปแล้วครึ่งหนึ่งใบหน้าก็ถูกควันรมจนดำไปหมดฮ่องเต้หย่งชางปิดดวงเนตรลง เอื้อมพระหัตถ์ไปลูบไล้ใบหน้าของเสี่ยวหลิ่วกุ้ยเฟย สั่งการด้วยน้ำเสียงเคร่งขรึม “ไล่เฉิงหลง ลู่อี้เฟิง ดูแลไม่ดีจนตำหนักเฟิ่งเจ่าเกิดเพลิงไหม้ ให้ไปรับการลงโทษโบยสามสิบไม้ที่กรมวัง!”จากนั้นก็นิ่งไปครู่หนึ่ง แล้วถามต่อ “เหตุใดอ่างน้ำมงคลถึงกลายเป็นน้ำแข็ง?”ในวังหลวง ตามถนนสาย

  • ยอดหญิงในเงามาร   บทที่ 503

    ฮ่องเต้หย่งชางเหนื่อยล้าอย่างถึงที่สุดหลายวันมานี้ ทุกค่ำคืนเขามักจะฝันถึงเรื่องราวในอดีตตัวเขากับพระชายาหลิ่วสมัยยังอยู่ในดินแดนศักดินาในช่วงนั้น ยามใดที่คลื่นลมในทะเลพัดแรง ไม่รู้ว่าหลังคาบ้านของราษฎรกี่หลังจะปลิวว่อนทุก ๆ ปีล้วนมีคนต้องสังเวยชีวิตเพราะเหตุนี้ไม่น้อยแค่นั้นยังพอทนได้ แต่ภูมิอากาศก็ยังเย็นชื้น ทำให้ข้อกระดูกของเขาเจ็บเรื้อรังพระชายาหลิ่วจึงมักช่วยทำการรมยาเฉพาะจุดให้เขา อยู่เคียงข้างช่วยเหลือราษฎร คิดหาหนทาง ร่วมมือกับขุนนางท้องถิ่น แบ่งเขตพื้นที่ แล้วสอนชาวบ้านสร้างบ้านจากหินที่แข็งแรงมั่นคงในบริเวณที่ปลอดภัยกว่ายังได้ขอร้องอดีตฮ่องเต้ให้ส่งช่างจากกรมโยธามาช่วยสอนการเปิดเตาเผาและเผาอิฐพวกเขาค่อย ๆ แก้ไข นำพาเมืองจางโจวจากดินแดนยากไร้กลายเป็นเมืองมั่งคั่ง แม้แต่เมืองใกล้เคียงอย่างเฉวียนโจวก็ยังได้สร้างท่าเรือบางคราก็ฝันถึงเสี่ยวหลิ่วกุ้ยเฟยแรกเริ่มเดิมที เขาก็ไม่ได้คิดจะให้เสี่ยวหลิ่วกุ้ยเฟยเข้าวังเลยด้วยซ้ำเสี่ยวหลิ่วกุ้ยเฟยอายุน้อยกว่าเขามากเกินไป ห่างกันถึงสิบสองปีเขามองนางเหมือนน้องสาวคนหนึ่งมาตลอดแต่เมื่อเวลาค่อย ๆ ผ่านไป เสี่ยวหลิ่วกุ้ยเ

  • ยอดหญิงในเงามาร   บทที่ 502

    ปิดไม่มิดแล้วเขาไม่มีทางบ้าเลือดถึงขั้นลากผู่อู๋ย่งลงไปด้วยหรอก อย่างน้อยแบบนี้ผู่อู๋ย่งก็ยังอาจเห็นแก่ที่เขาเชื่อฟัง แล้วช่วยดูแลคนในตระกูลของเขาบ้างมิเช่นนั้น เกรงว่าตระกูลสวีคงไม่เหลือแม้แต่คนเดียวเซี่ยกงกงเชิญไล่เฉิงหลงเข้ามา ไล่เฉิงหลงก็นำเอกสารคำรับสารภาพพร้อมลายนิ้วมือของคนเหล่านั้นมาขึ้นถวายฮ่องเต้หย่งชางเพียงแค่เหลือบตามอง ก่อนจะเหวี่ยงเอกสารลงตรงหน้าสวีฮว่าน “เจ้ายังมีอะไรจะพูดอีก? คดีลักลอบค้าของเมื่อปลายปีก่อนก็เริ่มสอบตั้งแต่ตอนนั้นแล้ว เจ้าคงคิดหาแพะรับบาปไว้ตั้งแต่นั้นกระมัง? ถึงได้ยุยงปลุกปั่นพวกครัวเรือนทหารที่มีเอี่ยว ให้เชื่อว่าตระกูลชีหักหลังพวกเขา ให้พวกเขารับผิดแทน!”สวีฮว่านฟุบหน้าลงกับพื้น สั่นเทาไปทั้งร่าง เอ่ยปากวิงวอนไม่หยุด “ฝ่าบาทโปรดเมตตา ฝ่าบาทโปรดไว้ชีวิตเถิดพ่ะย่ะค่ะ!”ฮ่องเต้หย่งชางแค่นเสียงเย็น แล้วกวาดดวงเนตรมองเหล่าขุนนางบุ๋นบู๊ “เมื่อครู่พวกเจ้าล้วนโกรธแค้นลุกฮือกันขึ้นมา กล่าวว่านี่คือการสมคบคิดศัตรู ขายชาติ ทรยศหักหลัง เป็นความผิดฐานคิดกบฏ พวกเจ้าพูดถูกแล้ว”สิ้นคำ ก็เรียกผู้บัญชาการศาลต้าหลี่เติ้งเหรินกู้ “คดีนี้ให้ศาลต้าหลี่เป็นผู้สื

  • ยอดหญิงในเงามาร   บทที่ 501

    แน่นอนว่าผู่อู๋ย่งไม่มีพ่อ พ่อของเขาตายไปนานแล้ว มิเช่นนั้นจะเข้ามาเป็นขันทีในวังได้อย่างไรกันเล่า?!แต่ตอนนี้ ความรู้สึกในใจเขามันไม่ต่างอะไรกับพ่อเพิ่งตายไปจริง ๆ เลยบัดซบเอ๊ย!เหลวไหลสิ้นดี!ที่ไหนมีขันที ที่นั่นก็ต้องมีคนของเขาแฝงอยู่รัชทายาทวังบูรพาโง่เง่าอย่างกับหมู ทั้งยังอ่อนแอขี้โรค ร่างกายก็เจ็บออด ๆ แอด ๆ ไปทั้งตัวต่อให้เซียวอวิ๋นถิงฉลาดหลักแหลมแค่ไหน ก็ใช่ว่าจะรอดพ้นสายตาเขาไปได้ทุกอย่าง ไม่ว่าอย่างไรอีกฝ่ายก็เป็นแค่คน ไม่ใช่เทพเซียน!เขาเตรียมตัวไว้แล้วว่าส่งขันทีไปขัดขวางเซียวอวิ๋นถิง แล้วก็ให้องครักษ์เสื้อแพรไปทำเลยหลักฐานทั้ง ๆ ที่เขาวางแผนทุกอย่างเอาไว้อย่างไม่มีที่ติแต่สุดท้ายเซียวอวิ๋นถิงกลับวางแผนเหนือกว่า ส่งของไปถึงฮ่องเต้หย่งชางก่อนเสียได้แล้วจะไม่ให้เขาโมโหได้อย่างไร?!ไอ้บ้าสองตัวนั่น!คนหนึ่งเจ้าเล่ห์ อีกคนเหี้ยมโหด ราวกับสุนัขจิ้งจอกกับอสรพิษรวมหัวกัน ใครหน้าไหนเข้าใกล้ก็ต้องถูกพวกเขากัดเข้าให้สักแผลเขาสูดลมหายใจเข้าลึก แล้วรีบสงบสติอารมณ์ลงอย่างรวดเร็วเขาเบือนหน้าหนีอย่างเย็นชา ไม่มองทางสวีฮว่านอีกเขาไม่เคยกังวลเลยว่าเรื่องนี้จะพัวพัน

  • ยอดหญิงในเงามาร   บทที่ 500  

    ก็ใช่ว่าจะเคราะห์ร้ายเสียทีเดียว ถึงอย่างไรก็ไม่มีคนมาสนใจเขานัก ล้วนแต่ยุ่งกับการจัดการจวนฉู่กั๋วกงกันทั้งนั้น ต่อมาเสี่ยวหลิ่วกุ้ยเฟยก็ตายไปอีก เรื่องราวเยอะเกินไป ไม่มีใครจะนึกถึงเขาหรอก ทว่าเขาเองก็กลัวมาก! น้องหญิงคนนั้นของเขา มิใช่คนที่จะสะสางหนี้แค้นด้วยคุณธรรมมาตั้งแต่ตอนเยาว์วัยแล้ว หลังจากนี้จะต้องหาโอกาสมาจัดการเขาแน่! พูดให้ถึงที่สุด เรื่องทั้งหมดนี้ต้องโทษสกุลชีอย่างเดียว หากว่าสกุลชีไม่พาตัวพระชายาหลิ่วกลับมา เรื่องราวทั้งหมดนี้ก็จะไม่เกิดขึ้น ดังนั้นแล้วในตอนนี้อุตส่าห์หาโอกาสได้แล้วทั้งที เข้าย่อมต้องเหยียบย่ำสกุลชีให้เต็มที่แน่นอน ผู่อู๋ย่งยิ่งรู้สึกขบขันเต็มที พอเห็นว่าสวีฮว่านเหลือบสายตามองตนเองด้วยความเคร่งเครียดแล้ว ก็เบนสายตาออกเชิงว่าตักเตือนทันที สวีฮว่านรีบก้มศีรษะลง บัดนี้ลำคอของเขายังเจ็บแปลบ ๆ อยู่เลย ไหนจะตรงช่วงท้องอีก ดูเอาเถิดว่านางเด็กชีหยวนคนนี้ดุร้ายโหดเหี้ยมมากขนาดไหน หัวใจของเขาเต้นระส่ำว้าวุ่นไม่เป็นสุข จนถึงตอนนี้ ทั่วท้องพระโรงทั้งฝ่ายบู๊ฝ่ายบุ๋นล้วนพุ่งเป้าโจมตีจุดอ่อนของสกุลชี ทว่าเซียวอวิ๋นถิงกลับยังคงไม่ปรากฏตัว

  • ยอดหญิงในเงามาร   บทที่ 499  

    สกุลชีถูกโจรบุกปล้นในวันที่สามของปีใหม่ ที่พำนักของคุณหนูใหญ่สกุลชีถูกไฟเผาวอดไปครึ่งหนึ่ง หากมิใช่เพราะคุณหนูใหญ่สกุลชีบังเอิญไปอยู่ที่ห้องของฮูหยินผู้เฒ่า และกำลังคัดเลือกถั่วปากอ้ากับฮูหยินผู้เฒ่าพอดี เกรงว่าคุณหนูใหญ่สกุลชีคงจะไม่รอดแล้ว เรื่องนี้ปิดบังไม่อยู่ ไม่นาน ก็แพร่สะพัดลือเล่ากันไปไกลแล้ว จะไม่ให้แพร่สะพัดไปไกลก็คงไม่ได้ สกุลชีเพิ่งถูกกล่าวหาว่าสมคบกับข้าศึกขายดินแดนให้อริราชศัตรู โหวผู้เฒ่าชีและชีเจิ้นก็ถูกจับเข้าคุกหลวงไปแล้ว เห็นสกุลชีสภาพน่าเวทนาถึงเพียงนี้ แต่ใครจะรู้ว่ายังมีคนจ้องจะซ้ำเติมสกุลชีไม่ปล่อย หวังให้สกุลชีตายราบคาบ เฮอะ ๆ พวกชาวบ้านก็ยังมีแอบวิพากษ์วิจารณ์กันบ้าง “ไม่รู้ว่าใช่ฝีมือของครอบครัวทหารจากจี้โจวหรือไม่?” “จริงด้วย หากว่าเป็นอย่างที่พวกครอบครัวทหารเหล่านั้นว่ากันจริง เงินถูกสกุลชิงเอาไปแล้ว แต่กลับโยนความผิดให้พวกเขารับไว้แบบนั้น พวกเขาจะไปยอมได้อย่างไร?” “หากเป็นข้านะ ข้าก็คงทุ่มสุดตัวเหมือนกัน!” ดูเหมือนว่าคนที่คิดเห็นเช่นเดียวกันนี้จะมิได้มีเพียงแค่พวกชาวบ้าน เทศกาลปีใหม่ปีนี้ถูกลิขิตไว้ไม่ให้เงียบสงบ ในวันที่เจ็ดของปีใหม่ ศ

  • ยอดหญิงในเงามาร   บทที่ 498  

    สวีฮว่านเหงื่อเย็นไหลพลั่ก ตอนที่ได้ยินชีหยวนนับหนึ่ง สอง สาม ท้ายที่สุดเขาก็ทนไม่ไหว ร้องเสียงดังออกไป “ข้าให้เจ้าก็ได้! ข้าให้เจ้าก็ได้! สาส์นลับอยู่ใน…อยู่ในชั้นวางลับหลังโต๊ะหนังสือในห้องหนังสือของข้า!” ชีหยวนเปล่งเสียงอุทานออกมาหนึ่งคำ ก่อนจะเก็บกริชและปิ่นทองคำกลับมา แล้วใช้มือข้างหนึ่งคว้าคอเสื้อด้านหลังของเขาฉุดเขาขึ้นมา และผลักให้เขาเดินไปที่ชั้นหนังสือ พร้อมเอ่ยเสียงเข้มว่า “เปิดมัน” สวีฮว่านลังเลเล็กน้อย ทันใดนั้นชีหยวนก็เตะข้อพับขาของเขาอย่างแรงไปหนึ่งที “เปิดออก!” สวีฮว่านดึงจี้หยกที่ห้อยอยู่ข้างเอวของตนเองออกมาด้วยมือที่สั่นเทา ก่อนจะฝังมันเข้าไปในตำแหน่งที่เป็นช่องเว้าบนชั้นวางหนังสือ และหมุนมันหนึ่งรอบ ทันใดนั้นชั้นหนังสือก็เปิดออกอย่างช้า ๆ ทว่าเสี้ยวพริบตาเดียวนี้ สวีฮว่านรีบสะบัดตัวออกจากชีหยวนหวังว่าจะหลบหนี เขารู้ดี โดยปกติคนเราเมื่อตกอยู่ในเสี้ยวขณะที่ได้รับสิ่งของที่ตนเองต้องการมากเป็นอย่างยิ่ง ก็จะเผลอไผลไปได้ง่ายดายที่สุด เขาเฝ้ารอจังหวะนี้มาโดยตลอด ทว่าน่าเสียดาย เขาเพิ่งจะกลิ้งตัวไปกับพื้น กลับเห็นชีหยวนใช้มือปัดลูกธนูที่พุ่งออกมาจากชั้นวางลับ

Explore and read good novels for free
Free access to a vast number of good novels on GoodNovel app. Download the books you like and read anywhere & anytime.
Read books for free on the app
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status