Share

บทที่ 641  

Author: ฉินอันอัน
เมืองหลวงซึ่งห่างออกไปไกลพันลี้ ชีหยวนหาได้หลงละเลิงอย่างที่อ๋องฉีจินตนาการไม่

แต่ไหนแต่ไรคนอย่างนางไม่เคยรู้จักคำว่า ‘หลงละเลิง’

หลังจากสกุลเฝิงประสบเคราะห์กรรม ระยะนี้แม้กระทั่งจำนวนครั้งที่จวนอ๋องโจวเดินทางไปเรือนสกุลเฝิงก็ยังลดลงด้วย ทว่านางก็มิได้รู้สึกปีติยินดีมากนัก

ตรงกันข้ามฮูหยินผู้เฒ่าชีกลับสังเกตได้อย่างว่องไว ว่าจำนวนครั้งที่พระราชนัดดาองค์โตระยะนี้ปีนกำแพงจวนของตนเข้ามาดูจะถี่ขึ้นเรื่อย ๆ แล้ว!

นางจึงออกปากเตือนท่านโหวผู้เฒ่าชีอย่างอดไม่ได้

พวกเขาไม่ได้บอกว่าพระนัดดาองค์โตไม่เหมาะสม เพียงแต่ ท่านเองก็ควรแสดงท่าทีให้ชัดเจนสักหน่อยมิใช่หรอกหรือ?

อย่างเช่นว่าไปกราบทูลขอพระราชทานสมรสจากฮ่องเต้หย่งชางและฮองเฮาให้เป็นเรื่องเป็นราวอะไรทำนองนี้

อย่างไรก็ทูลขอราชโองการมาก่อนสิ!

วัน ๆ เอาแต่แอบมาปีนกำแพงเรือนพวกเขาแบบนี้มันใช้ได้ที่ไหน?!

โหวผู้เฒ่าชีอยากต่อกำแพงเรือนให้สูงกว่านี้จนแทบจะคลั่งตายอยู่แล้ว!

เขาหรือจะยังต้องให้ฮูหยินผู้เฒ่าชีเตือนอีก?

เขาขยันมาเฝ้าอยู่ที่หอหมิงเยว่ยิ่งกว่าผู้ใด ย่อมต้องรู้ว่าจำนวนความถี่ที่เซียวอวิ๋นถิงลอบเข้ามายังเรือนสกุลชีมากขึ้
Continue to read this book for free
Scan code to download App
Locked Chapter

Latest chapter

  • ยอดหญิงในเงามาร   บทที่ 642  

    เสี้ยวขณะนี้คำว่า ‘บุปผาผลิบานในใจ’ ในที่สุดก็กลายเป็นภาพชัดเจนตรงหน้า เขาพยายามระงับอาการตื่นเต้นในใจเอาไว้ ก่อนจะเอ่ยอย่างชัดถ้อยชัดคำช้า ๆ “แม่น้ำรั่วสามพันลี้ เพียงหนึ่งจอกดับกระหาย” เขาเว้นระยะครู่หนึ่ง ก่อนจะเอ่ยต่อ “อาหยวน ข้าก็เหมือนดอกชาภูเขาพวกนี้ เจ้าไม่ต้องทำอะไร ข้าก็พร้อมร่วงลงมาเพื่อเจ้า” ดอกชาภูเขาโอนเอนเอียงพลิ้วตามแรงลม ก้านใบไหวริกกลางสายลม นอกเรือนสายลมเอื่อยและระแนงองุ่นที่กำลังสั่นไหวเบา ๆ ตามแรงลมพัด ที่แท้ฤดูร้อนก็สบายถึงเพียงนี้ ชีหยวนหมุนตัวกลับมาผุดยิ้มบาง ๆ ให้เขา “เช่นนั้นก็ดี ข้าตอบรับท่านแล้ว” นางยอมรับความพ่ายแพ้ได้และยอมรับความรักได้เช่นกัน เรื่องของวันข้างหน้าก็ค่อยว่ากัน หากว่าเซียวอวิ๋นถิงทำไม่ดีกับนาง นางก็พร้อมง้างมีดปิดจบเขาในกระบวนเดียวเหมือนกัน แต่อย่างน้อยที่สุดในตอนนี้ นางก็ได้สัมผัสความรักและรับรู้ถึงความซื่อสัตย์ของเซียวอวิ๋นถิงแล้ว ชีวิตคนสั้นเพียงไม่กี่ปี ย่อมต้องหาความสุขให้ทันเวลา ทำในสิ่งที่ตนเองอยากทำ และให้ความรักกับคนที่ตนเองอยากรัก ความรักที่แท้จริงมิใช่เพียงรู้สึกดีแค่วูบหนึ่ง แต่เป็นการตระหนักรู้ว่าข้าและเจ้าจะ

  • ยอดหญิงในเงามาร   บทที่ 641  

    เมืองหลวงซึ่งห่างออกไปไกลพันลี้ ชีหยวนหาได้หลงละเลิงอย่างที่อ๋องฉีจินตนาการไม่ แต่ไหนแต่ไรคนอย่างนางไม่เคยรู้จักคำว่า ‘หลงละเลิง’ หลังจากสกุลเฝิงประสบเคราะห์กรรม ระยะนี้แม้กระทั่งจำนวนครั้งที่จวนอ๋องโจวเดินทางไปเรือนสกุลเฝิงก็ยังลดลงด้วย ทว่านางก็มิได้รู้สึกปีติยินดีมากนัก ตรงกันข้ามฮูหยินผู้เฒ่าชีกลับสังเกตได้อย่างว่องไว ว่าจำนวนครั้งที่พระราชนัดดาองค์โตระยะนี้ปีนกำแพงจวนของตนเข้ามาดูจะถี่ขึ้นเรื่อย ๆ แล้ว! นางจึงออกปากเตือนท่านโหวผู้เฒ่าชีอย่างอดไม่ได้ พวกเขาไม่ได้บอกว่าพระนัดดาองค์โตไม่เหมาะสม เพียงแต่ ท่านเองก็ควรแสดงท่าทีให้ชัดเจนสักหน่อยมิใช่หรอกหรือ? อย่างเช่นว่าไปกราบทูลขอพระราชทานสมรสจากฮ่องเต้หย่งชางและฮองเฮาให้เป็นเรื่องเป็นราวอะไรทำนองนี้ อย่างไรก็ทูลขอราชโองการมาก่อนสิ! วัน ๆ เอาแต่แอบมาปีนกำแพงเรือนพวกเขาแบบนี้มันใช้ได้ที่ไหน?! โหวผู้เฒ่าชีอยากต่อกำแพงเรือนให้สูงกว่านี้จนแทบจะคลั่งตายอยู่แล้ว! เขาหรือจะยังต้องให้ฮูหยินผู้เฒ่าชีเตือนอีก? เขาขยันมาเฝ้าอยู่ที่หอหมิงเยว่ยิ่งกว่าผู้ใด ย่อมต้องรู้ว่าจำนวนความถี่ที่เซียวอวิ๋นถิงลอบเข้ามายังเรือนสกุลชีมากขึ้

  • ยอดหญิงในเงามาร   บทที่ 640

    อย่างไร้เสียนับแต่ขาหัก อ๋องฉีก็ยิ่งอารมณ์ฉุนเฉียวง่ายขึ้นช่วงนี้แม้แต่หมอเทวดาเซวียก็ยังถูกเขารบกวนจนรำคาญแล้วขันทีสวีลองหยั่งเชิงถามว่า “ท่านอ๋อง ทรงหมายถึงสิ่งใดขอรับ”“เฝิงไฉ่เวยหาใช่หญิงธรรมดา” อ๋องฉีโบกจดหมายเหล่านั้น ริมฝีปากแย้มยิ้มเจือเย้ย “หากว่าชีหยวนเปรียบเสมือนไฟเพลิงที่ลุกโชน เช่นนั้นนางก็คืองูพิษตัวหนึ่ง รอคอยจังหวะพุ่งขึ้นมาฉกกัดเจ้าได้ทุกเมื่อ”ชาติก่อนมันก็เป็นเช่นนั้นมิใช่หรือ?ไม่ให้เป็นชายาของพระนัดดารัชทายาท นางก็เปลี่ยนตัวพระนัดดารัชทายาทเสียก็ได้เมื่อหวนคิดถึงเรื่องในอดีต อ๋องฉีก็รู้สึกอารมณ์ดีขึ้นมาทันทีเขานึกถึงที่เฝิงไฉ่เวยเขียนไว้ในจดหมายว่า เซียวอวิ๋นถิงได้กราบทูลต่อฮ่องเต้หย่งชาง ว่าตนมีสตรีที่หมายปองแล้ว หวังให้ฮ่องเต้พระราชทานสมรสให้ในภายหน้า นั่นก็บ่งบอกอยู่แล้วว่าเฝิงไฉ่เวยจะเลือกเดินทางใดวังบูรพานั้น มิใช่แผ่นเหล็กไร้รอยร้าวเรื่องในโลกล้วนแล้วแต่ไม่กลัวขาดแคลน หากแต่กลัวไม่เท่าเทียมกันเฉกเช่นเมื่อครั้งฮ่องเต้หย่งชางเคยลำเอียงเข้าข้างตน เหล่าเสนาขุนนางทั้งหลายก็ย่อมรอดูท่าทีแบ่งฝักแบ่งฝ่ายไปตามสถานการณ์องค์รัชทายาทในยามนี้ ก็หาได้เป็

  • ยอดหญิงในเงามาร   บทที่ 639

    ตอนที่อ๋องฉีได้รับจดหมายนั้น อากาศก็ร้อนแล้วเขาเพิ่งมาถึงเมืองเมืองหงตู ทุกอย่างล้วนไม่ราบรื่น ขณะที่กำลังหงุดหงิดใจ ยิ่งในยามที่อากาศร้อนจัด เมืองหงตูก็ราวกับเตาไฟ เผาจนผู้คนหายใจแทบไม่ออก แม้กระทั่งขาของเขาก็เหมือนจะปวดมากขึ้นอารมณ์ของเขาจึงยิ่งขุ่นเคือง ทนไม่ไหวถึงกับเตะม้านั่งข้างๆ เข้าอย่างแรงผลคือกลับกระแทกเข้าที่ขาเจ็บของตนเอง ความเจ็บแล่นปราดขึ้นมา ทำให้เขาขมวดคิ้วแน่นด้วยความเจ็บปวดจินเป่าถือถ้วยน้ำแข็งเข้ามา พอเห็นเขาก็แทบยืนไม่มั่น รีบวางถ้วยแล้วเข้าไปพยุงเขาอ๋องฉีกลับปัดเขาออก แล้วทรุดตัวลงไปนวดขาของตนเอง พลางเอ่ยเสียงต่ำ “อาจารย์ของเจ้าอยู่ไหน?”จินเป่ายืนตัวตรงอย่างนอบน้อม ตอบกลับว่า “กราบทูลท่านอ๋อง ท่านอาจารย์ได้รับข่าวสารบางอย่างแล้วก็ออกไปข้างนอก ตอนนี้ยังไม่กลับมาขอรับ”อ๋องฉีจึงแค่นเสียงเย็นชา ก่อนจะขมวดคิ้ว หยิบสาส์นทักทายจากเจ้าเมืองเมืองหงตูขึ้นมาอ่านในขณะที่อ่านด้วยอารมณ์ขุ่นมัว ขันทีสวีก็เร่งฝีเท้าเข้ามา โค้งตัวลงอย่างเคารพ เอ่ยเรียกท่านอ๋องเขาส่งเสียงรับคำ พลางโยนสาส์นในมือทิ้ง แล้วหันศีรษะไปมองขันทีสวี เอ่ยถามว่า “เป็นอย่างไร ฝั่งเมืองหลวงจัดก

  • ยอดหญิงในเงามาร   บทที่ 638

    หากบอกเสียตั้งแต่เนิ่น ๆ เฝิงอวี้จางย่อมต้องห้ามเรื่องนี้แน่นอน!เช่นนั้น เฝิงจวิ้นก็คงไม่ต้องตาย!ฮูหยินเฝิงนั่งตัวแข็งอยู่บนเตียง ชั่วขณะหนึ่งก็ยังไม่อาจกลืนรับเรื่องราวทั้งหมดที่เฝิงอวี้จางกล่าวได้ลง ดวงตาเบิกกว้างเต็มไปด้วยความตกตะลึงเฝิงอวี้จางตบโต๊ะเสียงดัง “ข้าไม่ได้โกรธที่ไฉ่เวยมีเล่ห์เหลี่ยม สำหรับนางและตระกูลเฝิงแล้ว การมีเล่ห์เหลี่ยมไม่ใช่เรื่องเลวร้าย แต่ข้าโกรธก็แต่ ที่นางเอาเล่ห์เหลี่ยมทั้งหมดไปใช้ในเรื่องไร้สาระเช่นนั้น!”เมื่อพูดถึงเรื่องนี้ เฝิงอวี้จางก็ยิ่งเดือดดาลให้ค่อยเป็นค่อยไปอะไรกัน หากเชื่อฟังพวกเขาแต่แรก ป่านนี้ยังจะมีเรื่องของชีหยวนอยู่หรือ?เพราะที่ผ่านมา พวกเขาต่างปล่อยตามใจนางมากเกินไป จนเลี้ยงให้นางกลายเป็นคนหยิ่งทะนงในใจฮูหยินเฝิงปวดศีรษะจนแทบแตก ตลอดหลายปีที่ผ่านมา เฝิงไฉ่เวยเป็นเด็กที่ได้รับความรักและทะนุถนอมที่สุดในบ้าน ฟังจากคำพูดของเฝิงอวี้จางกล่าวนี้ จากนี้ไปจะไม่สนใจนางอีกแล้ว?นางอ้าปาก กล่าวว่า “แล้ว ทางฝั่งพระนัดดารัชทายาท…...”“ยังจะหวังอะไรกับพระนัดดารัชทายาทอีก?” เฝิงอวี้จางหัวเราะอย่างขื่นขม มิอาจอดกลั้นความเจ็บปวดในใจ “เขาไม่มี

  • ยอดหญิงในเงามาร   บทที่ 637

    ตอนที่ตระกูลเฝิงเพิ่งกลับเข้าเมืองหลวง ก็ยังคงเป็นที่จับตามองและได้รับความนิยมไม่น้อย แต่ไม่นานหลังจากกลับมา ก็เกิดเรื่องใหญ่ขึ้นติด ๆ กันหลายเรื่อง หลังจากนั้นก็ถูกสั่งห้ามมิให้ออกจากจวน ชาวเมืองหลวงเริ่มรู้ว่ามีบางอย่างผิดปกติตระกูลเฝิงกลับเมืองหลวงมาได้สักพักแล้ว ตลอดช่วงเวลานี้ นอกจากในงานเลี้ยงชมดอกโบตั๋นที่เฝิงไฉ่เวยสามารถจำแนกดอกโบตั๋นได้กว่าร้อยสายพันธุ์ และมีฝีมือเขียนพู่กันที่งดงามไร้ที่ติ ก็แทบจำไม่ได้ว่าตระกูลเฝิงมีเรื่องอะไรให้ผู้คนจำได้อีกเลยอย่างน้อยเมื่อทุกคนเริ่มคิดทบทวน ก็ค่อย ๆ ตระหนักได้ว่า หากเบื้องบนมีใจจะให้ตระกูลเฝิงกลับมาเป็นที่ใช้งานอย่างจริงจัง คนที่โด่งดังไม่ควรจะมีแค่เด็กสาวคนหนึ่งที่ยังไม่ได้ออกเรือนเท่านั้นประตูเรือนของตระกูลเฝิงที่ก่อนหน้านี้ถูกเหยียบย่ำแทบพังกลับพลันเงียบเหงาลงในทันทีฮูหยินเฝิงร้อนใจจนปากพองไปหมดนับตั้งแต่เฝิงจวิ้นเสียชีวิต นางก็ล้มป่วยในช่วงที่เฝิงไฉ่เวยนั่งเฝ้าอยู่ข้าง ๆ นาง ในที่สุดฮูหยินเฝิงก็หาโอกาสได้ จับมือเฝิงไฉ่เวยไว้แน่นเสียจนเล็บแทบจะจิกเข้าไปในเนื้อ จ้องนางเขม็งพลันถามว่า “ท่านปู่เจ้าบอกว่าก่อนที่พี่เจ้าจะลงมือ เ

More Chapters
Explore and read good novels for free
Free access to a vast number of good novels on GoodNovel app. Download the books you like and read anywhere & anytime.
Read books for free on the app
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status