Share

บทที่ 1140

Author: กานเฟย
หลังจากที่จ้าวฮุยได้ถ่ายทอดคำสั่งของจักรพรรดิอู่อันที่เรียกพบท่านอ๋องอี้กับพระชายาแล้ว เซียวหลินเทียนกับหลิงอวี๋ก็ทำได้เพียงต้องกลับไปที่วังก่อน

เซียวหลินเทียนได้รับการปลอบโยนจากหลิงอวี๋ก็รู้สึกดีขึ้นมากแล้วแต่เมื่อเข้าไปในห้องทรงพระอักษร ก็เห็นใบหน้าที่มืดมนของจักรพรรดิอู่อัน

นอกจากนี้ยังมีรอยยิ้มเหยียดหยามที่ยิ้มข้างนอกแต่ข้างในมิได้ยิ้มขององค์ชายเว่ย เซียวหลินเทียนจึงรู้สึกกลัดกลุ้มอีกครั้ง

“เซียวหลินเทียน หลิงอวี๋ พวกเจ้าได้คำมั่นสัญญาทางทหารไปแล้ว พวกเจ้าเห็นว่ามันเป็นเรื่องเล่น ๆ รึ?”

จักรพรรดิอู่อันมิได้ให้ทั้งสองคนลุกขึ้นแล้วก็ดุด่าขึ้นมาเลย

“บันไดใหม่ที่ยังมิได้ตรวจสอบ เจ้าก็กล้าเอาไปลองใช้ในสถานการณ์เช่นนี้หรือ พวกเจ้าเห็นว่าสองเมืองของข้าเป็นอะไร? คิดจะทำลายตามใจชอบเยี่ยงนี้รึ?”

องค์ชายเว่ยรีบซ้ำเติมทันทีด้วยท่าทางเคียดแค้นชิงชัง

“น้องสี่ เสด็จพ่อหวังในตัวเจ้าไว้สูงมาก! เห็น ๆ อยู่ว่าตามขั้นตอนแล้วพวกเจ้าเองก็มีโอกาสชนะเช่นกัน เหตุใดเจ้าจึงประมาทเช่นนี้เล่า!”

ขุนนางพรรคพวกขององค์ชายเว่ยเองก็เอ่ยแปลก ๆ เช่นกัน “ฝ่าบาท กระหม่อมได้ยินว่า บันไดใหม่ของท่านอ๋องอี้ได้พระชาย
Continue to read this book for free
Scan code to download App
Locked Chapter
Comments (3)
goodnovel comment avatar
Prasong Kongbundansuk
ไม่มีตอนต่อลบออกไป
goodnovel comment avatar
Prasong Kongbundansuk
ตอนต่อยังมีไหม
goodnovel comment avatar
Prasong Kongbundansuk
จบตอนแล้วหารือ
VIEW ALL COMMENTS

Latest chapter

  • ยอดหมอหญิงทะลุห้วงเวลา   บทที่ 2704

    เมื่อสือเหล่ยเห็นท่าทางกังวลของเผยอวี้ ก็หัวเราะพลางกล่าวว่า “แม่ทัพเผย ท่านมิต้องเป็นห่วง แม่ทัพหลิงมิเป็นอะไร!”“มิเพียงแต่มิเป็นอะไร เขายังได้พบกับวาสนาอันน่าอัศจรรย์ สามารถสยบสัตว์อสูรได้ตัวหนึ่งด้วย!”“ข้าจะบอกให้นะ สัตว์อสูรตัวนี้เป็นลิงตัวหนึ่ง มีพละกำลังมหาศาล...”สือเหล่ยเล่าเจื้อยแจ้วถึงเรื่องราวที่พวกเขาไปพบเจอสัตว์อสูรสองตัวกำลังต่อสู้กัน และท้ายที่สุดหลิงเฟิงก็เป็นฝ่ายเก็บผลประโยชน์ไปอย่างไรให้เผยอวี้ฟังจนหมดสิ้นฉินซานที่ตามมาถึงกับยืนตะลึงเมื่อได้ฟัง ครู่ต่อมาจึงกล่าวขึ้นอย่างอิจฉาว่า “หลิงเฟิงนี่ช่างโชคดีเสียจริง!”“หากรู้แต่แรกว่าเป็นเช่นนี้ ข้าไปตามหาซานเชวี่ยเสียก็ดี บางทีสัตว์วิเศษตัวนั้นอาจจะกลายเป็นของข้า!”ขณะที่ทุกคนกำลังสนทนากันอยู่ ก็พลันเห็นหลิงเฟิงและลิงตัวหนึ่งเดินเรียงแถวกลับมาหลิงเฟิงหัวเราะเหอะ ๆ แล้วเอ่ยขึ้น “เผยอวี้ ฉินซาน ดูเจ้ากร่างของข้าสิ สง่างามองอาจหรือไม่?”“เอ้อ จริงสิ วันนี้ทุกคนจะได้กินของดีกันแล้ว เจ้ากร่างได้นำของกำนัลแรกพบมาให้พวกเจ้ามากมายเลยทีเดียว!”พลางพูด หลิงเฟิงก็เททุกอย่างออกมาจากแหวนพระสุเมรุของเขาจนหมดสิ้น มีทั้งเนื้อเส

  • ยอดหมอหญิงทะลุห้วงเวลา   บทที่ 2703

    เถาจื่อยังคงเป็นกังวลกับอาการบาดเจ็บของอู่หราน เมื่อได้ยินดังนั้นจึงกล่าวขึ้นว่า “ถ้าเช่นนั้นพี่ใหญ่หลิง ท่านค่อย ๆ ตามมาแล้วกัน พวกเราขอไปก่อนนะเจ้าคะ!สือเหล่ยแบกอู่หรานขึ้นหลังเรียบร้อยแล้ว ทุกคนคิดว่าเมื่อมีเจ้ากร่างคอยช่วยเหลือหลิงเฟิง เขาย่อมมิน่าจะเกิดเหตุมิคาดฝันอันใดขึ้นได้ จึงรีบเดินทางกลับซานเชวี่ยเดินนำทางอยู่ข้างหน้า สือเหล่ยพลางเดินพลางเอ่ยถามด้วยความสงสัย“ซานเชวี่ย เจ้าหลงทางได้อย่างไร?”“ระหว่างทางเจ้ามิได้ทำเครื่องหมายไว้ตลอดหรือ?”ซานเชวี่ยแสดงสีหน้ากระอักกระอ่วน เอ่ยตอบอย่างเก้อเขินว่า “ตอนแรกก็เป็นเช่นนั้นเจ้าค่ะ แต่ภายหลังเกิดเหตุมิคาดฝันขึ้น ข้าจึงมิทันได้ทิ้งสัญลักษณ์ไว้!”“ข้าจะบอกพวกท่านให้ ในภูเขานี้ยังมีคนป่าผู้หนึ่ง เขาปกคลุมไปด้วยขนสีขาวทั่วทั้งร่าง เคลื่อนไหวรวดเร็วราวกับสายฟ้าแลบ!”“วันนั้นข้าเห็นเขาในป่า ก็รู้สึกประหลาดใจยิ่งนัก!”“มิใช่ว่าฮองเฮาทรงรับสั่งให้แม่ทัพเผยคอยจับตาดูว่าหลงหมิงยังมีชีวิตอยู่หรือไม่ พอข้าเห็นคนผู้นั้นเข้า ก็เลยคิดว่าอาจจะเป็นหลงหมิง จึงได้แอบติดตามเขาไป!”“เขาวิ่งเร็วมาก ข้ามัวแต่รีบไล่ตามเขา เลยมิทันได้ทิ้งสัญลักษณ์ไ

  • ยอดหมอหญิงทะลุห้วงเวลา   บทที่ 2702

    สือเหล่ยเห็นดังนั้นก็เอ่ยยิ้มขึ้นมา “ท่านแม่ทัพหลิง แม้มันจะเป็นสัตว์อสูร แต่ก็ยังเป็นเพียงสัตว์ป่าที่ยังมิถูกขัดเกลา”“ข้าคาดว่ามันคงฟังที่ท่านพูดมิเข้าใจ ต่อไปภายหน้าท่านค่อย ๆ สอนมันไปเรื่อย ๆ มิช้ามันย่อมสื่อใจกับท่านได้!” หลิงเฟิงครุ่นคิดแล้วก็เห็นว่ามีเหตุผล ในเมื่อพูดกับเจ้ากร่างมิรู้เรื่อง ก็คงต้องพามันออกเดินทางไปด้วยกัน!ทั้งสองคำนึงถึงบาดแผลบนตัวของเจ้ากร่าง จึงมิได้เร่งฝีเท้า เพียงค่อย ๆ เดินไปอย่างช้า ๆเดินมาได้ครึ่งค่อนวัน ครั้นเมื่อถึงจุดนัดหมาย ก็ยังมิเห็นวี่แววของอู่หรานและเถาจื่อทั้งสองจึงตัดสินใจเดินตามเส้นทางที่ซานเชวี่ยทิ้งร่องรอยไว้ครั้งนี้เมื่อเดินมาจนเกือบค่อนบ่าย ก็ได้ยินเสียงวิ่งมาจากที่ไกล ๆ ตามมาด้วยเสียงคำรามอย่างเกรี้ยวกราดของสัตว์ป่า“หรือว่าอู่หรานกับเถาจื่อจะเจอเรื่องอันตรายเข้าแล้ว?”หลิงเฟิงชักกระบี่ออกมา แล้วรีบรุดไปข้างหน้าพร้อมกับสือเหล่ยเพื่อไปสมทบกับเถาจื่อและอู่หรานวิ่งไปได้มิถึงร้อยเมตร ก็เห็นเถาจื่อและซานเชวี่ยกำลังประคองอู่หรานที่อาบไปด้วยเลือดวิ่งตรงมาเมื่อเห็นหลิงเฟิง เถาจื่อก็ตะโกนลั่น “พี่ใหญ่หลิง รีบมาช่วยเร็วเข้า!”“พี

  • ยอดหมอหญิงทะลุห้วงเวลา   บทที่ 2701

    หลิงเฟิงในยามนี้ราวกับเด็กน้อยจอมซน แม้จะเห็นว่าเจ้าตัวประหลาดตาเขียวมิพอใจ แต่เขาก็ยังเอ่ยหยอกเย้าว่า “ก็ให้ชื่อนี้แหละ!”“เจ้าจะคงมิได้จะให้ข้าเรียกเจ้าว่าเจ้าถั่ว เจ้าจิ๋ว หรือว่าเจ้าลิงหรอกใช่หรือไม่?”เจ้าตัวประหลาดตาเขียวกลอกตาอย่างจนใจ ชื่อพวกนี้ยังสู้ชื่อปี้อวี้มิได้เลยด้วยซ้ำ!“หรือจะให้ข้าเรียกเจ้าว่าเจ้ากร่าง?”หลังจากหยอกเย้าเจ้าตัวประหลาดตาเขียวจนพอใจแล้ว หลิงเฟิงก็เริ่มตั้งชื่ออย่างจริงจังเสียที“เจ้ากร่าง ก็มิเลวนะ ต่อให้เจ้ามิชอบ ข้าก็มิเปลี่ยนแล้ว!”หลิงเฟิงแสร้งทำเป็นข่มขู่เจ้าตัวประหลาดตาเขียวเอียงคอ ดูเหมือนจะมิเข้าใจว่าเจ้ากร่างหมายความว่าอะไรหลิงเฟิงจึงทำท่าทางวางมาดใหญ่โตในท่วงทีแบบประหนึ่งตนเป็นผู้ยิ่งใหญ่ที่สุดในปฐพี พร้อมกับอธิบายอย่างใจเย็น“เจ้ากร่าง ก็คือความหมายที่ว่าเก่งกาจมาก ๆ เจ้าสามารถเอาชนะเสือดำตัวนั้นได้ ก็นับเป็นเจ้าป่าได้แล้ว!”“ข้าจะตั้งชื่อให้เจ้าว่าหวังป้า[footnoteRef:0]ก็ได้ แต่หวังป้ากับหวังปา[footnoteRef:1]ฟังดูคล้ายกันนัก ฝ่ายหนึ่งเป็นคำด่าคน แต่อีกนัยหนึ่งก็แฝงไว้ซึ่งความยิ่งใหญ่และน่าเกรงขาม!” [0: หวังป้า 王霸 หมายถึง เจ้าป่า]

  • ยอดหมอหญิงทะลุห้วงเวลา   บทที่ 2700

    ยังมิทันที่สือเหล่ยจะพูดอะไร หลิงเฟิงก็ไต่ลงไปตามกองหินที่พังทลายนั้นแล้วเขาคล่องแคล่วว่องไว เวลามินานก็ลงไปถึงลำธารด้านล่างแล้วเขาเดินเข้าไป แต่ยังมิทันได้เข้าไปใกล้ เขาก็เห็นว่าลิงตัวนั้นเงยหน้าขึ้นมาในทันที ดวงตาสีเขียวจ้องมองมาที่หลิงเฟิงอย่างโหดร้ายหัวใจของหลิงเฟิงหยุดเต้นไปชั่วขณะ แล้วมองลิงตัวนั้นอย่างกังวลเมื่อคืนหลิงเฟิงได้เห็นความโหดเหี้ยมในการต่อสู้กันของสัตว์ประหลาดสองตัวนี้แล้ว หากลิงตัวนี้กระโจนเข้าใส่ตน เขาก็มิรู้เช่นกันว่าตนจะเป็นคู่ต่อสู้ของมันได้หรือไม่แต่ลิงตัวนั้นมิได้เคลื่อนไหวใด ๆ แต่จ้องมองหลิงเฟิงอย่างโกรธเกรี้ยวอยู่เช่นนั้นหลิงเฟิงเห็นว่าผิวหนังบนร่างของมันเปิดออกและเลือดก็ไหลซึมออกมามิหยุดเขารู้สึกสะกิดใจขึ้นมา สัตว์ประหลาดตาเขียวตัวนี้อ่อนแรงมากแล้ว บางทีมันอาจจะไม่มีแรงโจมตีตนแล้วก็เป็นได้หลิงเฟิงจึงยกมือทั้งสองขึ้น พร้อมทั้งยิ้มแล้วเอ่ยว่า “หากเจ้าฟังข้ารู้เรื่อง ก็จะรู้ว่าข้ามิได้มีเจตนาร้ายต่อเจ้า มิฉะนั้นหากข้าคิดจะสังหารเจ้า เจ้าก็หนีไปมิพ้นหรอก!”“สัตว์ประหลาดน้อย เจ้าดูบาดแผลเต็มตัวเจ้าสิ หากข้ามิช่วยเจ้า เจ้าก็คงจะเลือดไหลออกมาจนตาย!

  • ยอดหมอหญิงทะลุห้วงเวลา   บทที่ 2699

    ปกติแล้วภายนอกนั้นเถาจื่อจะทำตัวเหมือนมิได้คิดมากอะไร และยังคงช่วยทุกคนทำงานไปตามเดิมแต่ในบางครั้งหลิงเฟิงก็เห็นว่า เถาจื่อมักจะหลบไปตามลำพังเพื่อสวดส่งวิญญาณให้กับคนที่ตายในการสู้รบเช่นพวกจ้าวซวนอยู่บ่อย ๆครานั้นเมื่อหลิงเฟิงเห็นเข้า ในใจก็รู้สึกอึดอัดขึ้นมาตอนนั้นเขาเองก็ถูกเถาจื่อทำร้ายจนเกือบตายเช่นกัน บนร่างกายเขามีบาดแผลจากมีดขนาดต่าง ๆ อยู่นับสิบแผล และเป็นหลิงอวี๋ที่ช่วยชีวิตเขาไว้ได้หลังจากที่รู้ว่าเถาจื่อคือคนที่ทรยศพวกเขา หลิงเฟิงเองก็อยากสังหารเถาจื่อเช่นกันแต่หลังจากที่ได้ฟังหลิงอวี๋บอกว่า เถาจื่อถูกชายาเจ้าแห่งทะเลควบคุม จึงสูญเสียสติของตนไปแล้วทำความผิดเหล่านั้น ความโกรธที่หลิงเฟิงมีต่อเถาจื่อก็หายไปกว่าครึ่งแล้วแต่ก็เป็นเช่นเดียวกับทุกคน ต่อให้ในแง่ของเหตุผลหลิงเฟิงจะรู้สึกว่าการที่เถาจื่อทรยศพวกเขานั้นมิใช่ความผิดของนางทั้งหมด แต่ทุกครั้งที่เห็นเถาจื่อ ในใจของหลิงเฟิงก็มักจะมีความรู้สึกที่ติดค้างอยู่เสมอวันนั้นเมื่อเห็นเถาจื่อคุกเข่าอย่างตั้งมั่น แล้วสวดบทสวดส่งวิญญาณในใจของหลิงเฟิงก็รู้สึกมิสบายใจยิ่งนักเขานึกถึงคำพูดที่หลิงอวี๋กล่าวไว้ว่า หากเปลี่ยน

More Chapters
Explore and read good novels for free
Free access to a vast number of good novels on GoodNovel app. Download the books you like and read anywhere & anytime.
Read books for free on the app
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status