หลิงเยวี่ยได้ยินเซียวหลินเทียนบอกว่าพวกเขามีศัตรูมากก็เป็นห่วงหลิงอวี๋ขึ้นมาทันทีเซียวหลินเทียนสังเกตคำพูดและท่าทีจึงรีบเอ่ย“เยวี่ยเยวี่ย ท่านแม่ของเจ้าเคยบอกว่าเราเป็นครอบครัวเดียวกัน เมื่อเผชิญหน้ากับความลำบากก็ควรจะร่วมแรงร่วมใจกันฟันฝ่าอุปสรรคไปด้วยกัน!”“เยวี่ยเยวี่ย หากเจ้ามิยอมตามข้าเข้าไปในวัง เจ้ามิกังวลว่าสักวันหนึ่งเจ้าจะมิได้เจอพวกเราอีกแล้วหรือ?”หลิงเยวี่ยได้ยินคำพูดนี้ก็สีหน้าเปลี่ยนทันทีใช่ หากมิตามคนคนนี้เข้าวังไปก็จะมิได้เจอท่านแม่ของตน!เขาจ้องมองเซียวหลินเทียนอย่างเกลียดชังแล้วจึงเอ่ย “กระหม่อมจะตามท่านเข้าวัง!”เขากลัวว่าเซียวหลินเทียนจะเข้าใจผิดว่าตนให้อภัยเขาแล้ว หลิงเยวี่ยจึงเอ่ยต่อ “เพื่อท่านแม่ของกระหม่อม มิใช่เพื่อท่าน!”เซียวหลินเทียนรู้ว่าตนทำให้เขาเสียใจ หากอยากให้เขาเปลี่ยนแปลงทัศนคติที่มีต่อตนในทันทีก็คงจะเป็นไปมิได้เซียวหลินเทียนจึงทำได้เพียงถอยหลังก้าวหนึ่งพลางเอ่ย “ได้ ข้าจะทำตัวดี ๆ ให้เจ้ายอมรับข้า!”หลิงเยวี่ยจึงถูกเซียวหลินเทียนรับกลับเข้าวังไปเช่นนี้ระหว่างทาง เซียวหลินเทียนจึงเอ่ยกำชับ “หลังจากเข้าวังไปแล้วนามเรียกขานของเจ้าก็จะย
หลิงอวี๋เห็นเขาร้องไห้ก็รู้สึกปวดใจแล้วกลั้นน้ำตาหอมแก้มเขาไปพลางเอ่ย “ต่อไปแม่กับเยวี่ยเยวี่ยจะมิต้องแยกจากกันอีกแล้ว เยวี่ยเยวี่ยเด็กดี ไปเปลี่ยนชุดไว้ทุกข์แล้วไปเคารพพระบรมศพเสด็จปู่กันเถอะ!”“ท่านแม่ ท่านผู้นั้นบอกว่าต้องให้ข้าเปลี่ยนนามเป็นเซียวเยวี่ย บอกว่าหากมิเปลี่ยนจะสร้างความยุ่งยากให้ท่านแม่!” หลิงเยวี่ยถือโอกาสกระซิบบอกหลิงอวี๋หลิงอวี๋มองไปทางเซียวหลินเทียนที่อยู่ด้านข้างเซียวหลินเทียนได้ยินหลิงเยวี่ยเรียกตนเองว่าท่านผู้นั้น ใบหน้าก็กระตุก หลิงเยวี่ยมิยอมแม้แต่จะเรียกว่าเสด็จพ่อเลย นี่ยังโกรธตนเองอยู่อีกหรือเมื่อเห็นว่าหลิงอวี๋จ้องมองตนอย่างโกรธเคือง เซียวหลินเทียนก็ทำได้เพียงก้าวเข้าไปพลางกระซิบ“เมื่อก่อนข้าเป็นคนผิดเองที่มิได้ให้นามเยวี่ยเยวี่ย! แต่ตอนนี้ข้ารู้แล้วว่าผิด เจ้าให้เยวี่ยเยวี่ยเปลี่ยนมาใช้สกุลเซียวเถิดนะ!”“อาอวี๋ วังหลวงมิเหมือนข้างนอก หากใช้สกุลหลิงต่อไปจะสร้างความยุ่งยากให้เจ้ากับเยวี่ยเยวี่ยได้!”“เยวี่ยเยวี่ยเป็นลูกชายข้า ให้เขาได้รู้จักบรรพบุรุษของเขาเถิด นี่คือการกลับใจที่จริงใจของข้า!”หลิงอวี๋ขมวดคิ้ว แม้ว่าจะมิรู้ว่าเรื่องราวในภายภาคหน้า
คำพูดของจูหลานทำเอาจ้าวเจินเจินพูดมิออกแม้ว่าจ้าวเจินเจินจะสามารถออกเงินค่าผักเหล่านี้ได้เช่นกัน แต่เรื่องอะไรนางจะต้องควักเงินของตนไปซื้อใจคนเพื่อหลิงอวี๋ด้วยเล่า!พระชายาเส้าอยู่ข้าง ๆ ได้ยินดังนั้นแต่ก็มิได้คิดจะช่วยเหลือจ้าวเจินเจินตอนนี้นางมิอยากจะพบจ้าวเจินเจินเลยสตรีผู้นี้ กางปีกภูมิใจว่าตนเป็นสตรีผู้มีความสามารถอันดับหนึ่งในเมืองหลวง แต่นอกจากหน้าตาแล้ว นางมีคุณสมบัติใดที่โดดเด่นกันเล่า!มงกุฎที่เป็นเครื่องหมายของสตรีผู้มีความสามารถอันดับหนึ่งในเมืองหลวงถูกหลิงอวี๋แย่งไปแล้ว!นางใส่ร้ายหลิงอวี๋ครั้งแล้วครั้งเล่าก็มิเป็นผล กลับทำให้ชื่อเสียงของตนได้รับความเสียหายอีก!ที่สำคัญที่สุดก็คือ ยังมิสามารถมีบุตรให้องค์ชายคังได้เลยสตรีที่ไม่มีประโยชน์ต่อองค์ชายคังเลยแม้แต่น้อยเช่นนี้ หากพระชายาเส้ามิสนใจในอำนาจจ้าวฮุยก็คงให้องค์ชายคังขอหย่ากับนางไปตั้งนานแล้ว!เมื่อเห็นว่าในเวลานี้จ้าวเจินเจินจัดการมิได้แม้แต่พระชายาเย่เพียงผู้เดียว พระชายาเส้าก็รังเกียจมากช่วงนี้คนจำนวนมากในเมืองหลวงต่างก็พูดกันว่า หลิงอวี๋คือผู้ส่งเสริมให้ชีวิตสามีเจริญรุ่งเรืองพูดกันว่านับตั้งแต่ที่นา
จ้าวเจินเจินมองไปทางหลิงอวี๋อย่างหงุดหงิดหลิงอวี๋คุกเข่าอยู่อย่างตั้งใจ ก้มหน้าตั้งสมาธิ ท่าทีที่ดูสงบผ่อนคลายนั้นยิ่งทำให้จ้าวเจินเจินแทบบ้าหลิงอวี๋มีสิทธิ์อะไรถึงได้สง่างามเช่นนี้ อีกทั้งด้วยสถานะของนางก็มิต้องคุกเข่าอย่างยากลำบากถึงเพียงนี้ด้วยหากตนมิต้องคุกเข่าก็สงบผ่อนคลายได้เช่นกันหลิงอวี๋มันเป็นโจร!นางแย่งทุกอย่างที่เป็นของตนไป!สารเลว! นางสารเลว!“ข้าจะออกไปสูดอากาศ!”จ้าวเจินเจินทนมิไหวแล้วจริง ๆ นางพูดเสียงเบาแล้วถอยออกไปสายลมเย็นในฤดูหนาวพัดมาปะทะใบหน้าของนาง ความหนาวเหน็บกัดกินไปจนถึงกระดูก จ้าวเจินเจินจึงได้รู้สึกว่าอาการเวียนหัวจากกลิ่นธูปของตนเริ่มดีขึ้นมานางก้าวไปข้างหน้าอย่างช้า ๆ เดินไปถึงเส้นทางที่เซียวหลินเทียนต้องผ่านแล้วรออย่างอดทนอีกมินาน จะต้องมีคนไปรายงานเซียวหลินเทียนว่ามีเรื่องด่วน แล้วเซียวหลินเทียนก็จะต้องหยุดเฝ้าพระบรมศพและผ่านมาทางนี้จ้าวเจินเจินมิรู้ว่า ท่านพ่อให้คนมาส่งข้อความถึงตนว่าให้มารอเซียวหลินเทียนตรงนี้ด้วยเจตนาอันใดแต่นางแอบคาดเดาไปว่า องค์ชายคังกับท่านพ่อคงวางแผนบางอย่างเพราะมิอยากให้เซียวหลินเทียนขึ้นครองบัลลังก์เจตนา
“มีมือสังหาร!”ลู่หนานเห็นว่าเซียวหลินเทียนถูกลอบสังหารก็ตะโกนเสียงดัง แล้วชักดาบเข้าไปหามือสังหารที่ผลักเซียวหลินเทียนมือสังหารถอยหลังแล้วกลิ้งออกไปอย่างรวดเร็ว แล้วลากจ้าวเจินเจินที่ตรงหน้าตนอย่างรุนแรงดาบของลู่หนานพุ่งไป เมื่อเห็นว่าจ้าวเจินเจินบังหน้าอยู่ก็มิกล้าแทงแต่มือสังหารผู้นั้นกลับมิได้สนใจเช่นนี้ นางชักดาบที่เอวออกมาแทงไปทางลู่หนานลู่หนานหลบไปอย่างรวดเร็วแต่มิทันแล้ว เขาถูกแทงเข้าที่แขน จนดาบที่ถือมิมั่นคงร่วงลงไปที่พื้นจ้าวซวนเห็นว่าที่หน้าอกของเซียวหลินเทียนมีเลือดซึมออกมาก็เข้าไปรับร่างเซียวหลินเทียนไว้อย่างตกใจแล้วลากเขาไปด้านหลังพวกองครักษ์คนอื่น ๆ ก็วิ่งมาป้องกันเซียวหลินเทียนไว้“ฝ่าบาท ช่วยด้วยเพคะ!”ดูเหมือนว่าเสียงการต่อสู้จะปลุกให้จ้าวเจินเจินที่ “สลบ” อยู่ฟื้นขึ้นมาแล้ว จ้าวเจินเจินลืมตาขึ้นมาก็ถูกมือสังหารลากไปข้างหลังจึงตกใจหน้าถอดสีแล้วกรีดร้องออกมาเซียวหลินเทียนพูดมิออกเลย ที่หน้าอกของเขายังมีกริชเล่มนั้นคาอยู่ และกริชก็อาบยาพิษ พิษนั้นแล่นเข้าจู่โจมที่หัวใจทันทีเซียวหลินเทียนจ้องมองมือสังหารกับจ้าวเจินเจินที่อยู่ตรงหน้า เขามิแน่ใจว่าจ้าวเจ
ในขณะที่นางกำลังตามซุ่ยเอ๋อร์ไปก็ได้ยินเสียงตะโกนอย่างโกรธเกรี้ยวราวกับฟ้าผ่าของจ้าวซวนดังมา “ตามพระชายาองค์รัชทายาทมาช่วยเร็วเข้า… องค์จักรพรรดิถูกลอบสังหาร...”ว่ากระไรนะ?หลิงอวี๋ตกใจ เซียวหลินเทียนถูกลอบสังหารหรือ?จ้าวซวนตะโกนอย่างสุดกำลังเช่นนี้ หรือว่าจะอยู่ในจุดที่อันตรายมาก?“พระชายา รีบไปช่วยนายน้อยเถิดเพคะ! นายน้อยสำลักน้ำไปมาก มิรู้ว่าจะยังช่วยได้หรือไม่!”ดูเหมือนว่าซุ่ยเอ๋อร์จะร้อนใจมาก นางร้องไห้พลางดึงแขนเสื้อของหลิงอวี๋ไว้แล้วจะลากนางไปทางหนึ่งก็เซียวหลินเทียน ทางหนึ่งก็เซียวเยวี่ย หลิงอวี๋ลำบากใจในทุกทางในขณะที่หลิงอวี๋เตรียมจะไปดูเซียวเยวี่ยก่อนก็มิรู้ว่าพระชายาเส้าโผล่มาตอนไหนแล้วก็เอ่ยเตือนนาง“พระชายาองค์รัชทายาท เจ้ารีบไปช่วยเซียวเยวี่ยเถิด! ทางด้านองค์จักรพรรดิมีองครักษ์อยู่มิน้อย ในวังก็ยังมีกองทัพหลวงอยู่อีกมาก พวกเขาสามารถปกป้ององค์จักรพรรดิได้!”“เซียวเยวี่ยยังเด็ก เด็กน้อยจมน้ำหากไปช่วยเหลือมิทันการหากมิรุนแรงก็จะกลายเป็นซื่อบื้อเอาได้ แต่หากรุนแรงก็อาจถึงตาย! หากเจ้ามิอยากเสียใจไปตลอดชีวิตก็รีบไปช่วยเยวี่ยเยวี่ยเถิด!”หลิงอวี๋ได้ยินดังนั้นก็รีบ
จ้าวเจินเจินรู้สึกกังวลใจขึ้นมาทันที มิอาจเชื่อคำพูดของมือสังหารได้เลย“การตายของข้าเป็นสิ่งที่มิอาจทำตามใจของตนเองได้ แต่น่าสงสารที่เจ้ากลับถูกพ่อของเจ้าเองเป็นคนสั่งให้สังหาร!”มือสังหารหัวเราะอย่างเย็นชา พลางเอ่ยอย่างใจร้าย “หลังจากที่เจ้ากลายเป็นผีแล้ว หากจะแค้นก็แค้นที่เจ้ามิควรเกิดมาในตระกูลจ้าวแล้วกัน!”หลังจากพูดจบ มือสังหารก็เอาดาบปาดคอจ้าวเจินเจินอย่างโหดร้ายเลือดจำนวนมากพุ่งกระฉูดออกมาในทันที จ้าวเจินเจินเห็นเลือดสด ๆ พุ่งกระจายไปในอากาศ จากนั้นก็สาดกระเซ็นมาบนใบหน้าของตนมีเลือดบางส่วนกระเซ๋นเข้ามาในตาจนทำให้ตาของนางเป็นสีแดงฉานตอนนี้นางเชื่อคำพูดของมือสังหารแล้ว!หากไม่มีคำสั่งของท่านพ่อ มือสังหารที่ตระกูลของตนส่งมาจะอาจหาญสังหารตนถึงเพียงนี้ได้เช่นไรกัน!แม้แต่ในความฝันจ้าวเจินเจินก็คิดมิถึงเลยว่า ตนจะมีจุดจบเช่นนี้ได้!นางมิได้ตายด้วยน้ำมือของหลิงอวี๋กับเซียวหลินเทียน แต่ตายด้วยน้ำมือของพ่อตัวเอง!หึ!ช่างน่าขันที่ตนยังคงมาช่วยท่านพ่อกับองค์ชายคังถ่วงเวลาเซียวหลินเทียนไว้อย่างยินดีเช่นนี้ที่แท้แล้วเรื่องนี้ล้วนเป็นข้ออ้างทั้งสิ้น!เป้าหมายของพวกเขามิใช่เพ
“ถ่ายทอดคำพูดของข้าออกไปให้ผู้ดูแลงานในแต่ละฝ่ายดูแลงานของตนให้ดี หากมีเรื่องอะไรก็จัดการเองเลย หากไม่มีความสามารถที่จะจัดการได้ก็ให้เปลี่ยนเป็นคนที่ทำได้จัดการแทนเสีย!”หลิงอวี๋ออกคำสั่งอย่างเด็ดขาดทันทีชีวิตของเซียวหลินเทียนอยู่ในความเสี่ยง แต่ละคนกลับคิดจะมาขัดขวางตนมิให้ช่วยเซียวหลินเทียน เช่นนั้นก็มาดูกันว่าผู้ใดที่รั้นจะทำเช่นนั้น!แม้ว่านางหลิงอวี๋จะต้องเข่นฆ่าสังหารก็จะไม่มีทางยอมอ่อนข้อเช่นกัน!คืนนี้ ต่อให้ฟ้าถล่มแผ่นดินทลายก็มิอาจขัดขวางตนมิให้ช่วยเหลือเซียวหลินเทียนได้เทพเจ้าขวางก็จะสังหารเทพเจ้า! พระขัดขวางก็จะสังหารพระ!จักรพรรดิองค์ใหม่ถูกลอบสังหารภายในวังข่าวนี้แพร่กระจายไปในวังหลวงทันที และก็ไปถึงหูไทเฮาด้วยเช่นกันไทเฮาโกรธจนตัวสั่นพลางเอ่ยออกมา “ดี ดีจริง ๆ… ลูกของข้าเพิ่งตายไปมิทันไรก็มีคนคิดจะสังหารเทียนเอ๋อร์เสียแล้ว!”“เพื่อตำแหน่งมังกรนี้ พวกเขามิต้องการกระทั่งแผ่นดินของตระกูลเซียวเลยหรือ?”“ไปตรวจสอบ ตรวจให้เข้มงวด หาให้เจอว่าผู้ใดเป็นคนบ่งการ ข้าต้องการหัวทั้งตระกูลของมันผู้นั้น!”ยังมิทันที่หลิงอวี๋จะส่งคนมาเชิญ ไทเฮาก็มาจัดการสถานการณ์โดยรวมด้ว
“หึหึ!”ชายาเจ้าแห่งทะเลหัวเราะออกมา “หลิงอวี๋ เจ้าคิดว่าข้าโง่รึ? หยกหล้าสุขาวดีหลอมรวมเป็นหนึ่งเดียวกับเจ้าแล้ว ค้นตัวเจ้าจะหาเจอได้อย่างไร?”“หลิงอวี๋ หยกหล้าสุขาวดีมิใช่ของของเจ้าตั้งแต่แรก มารดาเจ้าเป็นนางโจร ขโมยมหาวัตถุศักดิ์สิทธิ์ของจวนเจ้าแห่งทะเลไป การให้เจ้าคืนมาก็แค่เป็นการคืนของสู่เจ้าของเดิม!”“ข้าสืบรู้มาหมดแล้ว เจ้าและเซียวหลินเทียนสามีของเจ้าต่างก็อยู่ในเมืองหลวงแดนเทพ เจ้ายังมีบุตรชายอีกคนที่ฉินตะวันตก!”“หลิงอวี๋ ที่เจ้าปฏิเสธมิยอมรับฐานะของตนเองมาตลอด คงเป็นเพราะล่วงรู้ถึงวิธีที่จะนำหยกหล้าสุขาวดีออกมาแล้วสินะ”“เจ้าคิดว่าอย่างไรก็ต้องตายอยู่ดี ดังนั้นเจ้าจึงคิดว่า ขอเพียงมิยอมรับก็เป็นไปมิได้ที่พวกเราจะมัดตัวเจ้าไปสลายเลือดละลายกระดูกที่ภูเขาศักดิ์สิทธิ์เพื่อนำหยกหล้าสุขาวดีออกมา!”ชายาเจ้าแห่งทะเลพูดถึงตรงนี้ก็แค่นเสียงหัวเราะ “เจ้าเชื่อหรือไม่ ข้ามิจำเป็นต้องพิสูจน์ยืนยัน ก็สามารถมัดตัวเจ้าไปภูเขาศักดิ์สิทธิ์ได้แล้ว!”“ที่ข้าให้คนนำตัวเจ้ามาที่จวนเจ้าแห่งทะเล ก็เพื่อจะให้โอกาสเจ้า!”หลิงอวี๋หรือจะยอมรับฐานะของตนเพียงเพราะชายาเจ้าแห่งทะเลพูดเช่นนี้ได้อย่าง
“เข้าไป อย่าให้พ่อบ้านผู้นี้ต้องพูดเป็นครั้งที่สอง!”รอยยิ้มบนใบหน้าของพ่อบ้านเว่ยหายไปสิ้น กล่าวอย่างมิอดทน “เมื่อให้โอกาสดี ๆ มิชอบ ก็ต้องเจอดีเสียบ้าง!”เถาจื่อกำแขนหลิงอวี๋ไว้แน่น และถามผ่านสายตา“ตอนนี้ควรทำอย่างไรดีเจ้าคะ?”หลิงอวี๋ก็คาดมิถึงว่าจวนเจ้าแห่งทะเลจะเปลี่ยนท่าทีเร็วถึงเพียงนี้ ก่อนหน้านี้นางยังคิดว่า เมื่อเข้ามาในจวนเจ้าแห่งทะเลแล้วจะสามารถยื้อเวลาสักพักได้ชายาเจ้าแห่งทะเลมิปรากฏตัว แต่กลับให้พ่อบ้านเว่ยพาตนมาที่นี่เช่นนี้เลย?นี่หมายความว่าอย่างไรกัน?คิดจะขังนางไว้ หรือว่ามีแผนอื่นกระไร?หลิงอวี๋มองไปยังท่าทีมีเจตนาร้ายของพวกพลธนูและชายร่างใหญ่หลายคนที่ยืนอยู่ข้าง ๆ เหล่านั้น นางและเถาจื่อไม่มีทางหนีรอดจากเงื้อมมือของพวกเขาไปได้เลย“เข้าไปก่อนเถอะ!”หลิงอวี๋นำหน้าเดินเข้าไป เถาจื่อตามติดอยู่ข้างหลังหลิงอวี๋เพิ่งจะก้าวเท้าเข้าประตูเรือน เมื่อเห็นสภาพข้างในก็รู้สึกว่ามิดีแน่ เพิ่งจะคิดถอยหลังเถาจื่อกลับถูกคนผลักจากด้านหลังอย่างแรง ชนเข้ากับร่างหลิงอวี๋จนดันหลิงอวี๋เข้าไปข้างในทั้งสองคนล้มลงไปกองรวมกัน ยังมิทันได้ลุกขึ้นยืนก็ได้ยินเสียงดังโครมสนั่นกล
หลงเพ่ยเพ่ยห้อยอยู่บนชะง่อนผานั้น นางเองก็ทนต่อไปมิไหวแล้ว ภายใต้การเกลี้ยกล่อมของทุกคน นางจึงปีนป่ายเชือกขึ้นไปนางนึกถึงจุดประสงค์ที่ตนมาที่นี่ หากเย่หรงตายไปแล้วจริง ๆ เขาย่อมหวังให้นางช่วยหลิงอวี๋ออกมาได้อย่างแน่นอนนางมิอาจทำให้เย่หรงตายตามิหลับได้!เมื่อหลงเพ่ยเพ่ยปีนขึ้นมาได้ก็มิสนใจตรวจสอบบาดแผลของตน นางคุกเข่าลงต่อหน้าฮองเฮาทันทีนางกล่าวเสียงเครือ “เสด็จย่า เรื่องที่ทรงรับปากหม่อมฉันเมื่อครู่ สามารถประทานพระราชโองการให้หม่อมฉันตอนนี้ได้หรือไม่เพคะ?”“เมื่อครู่เย่หรงช่วยชีวิตหม่อมฉันและหยวนซานไว้ เพียงเห็นแก่บุญคุณทั้งสองครั้งนี้ เสด็จย่าทรงควรจะช่วยให้เขาสมหวังนะเพคะ!”ฮองเฮานึกถึงเรื่องที่เย่หรงและหลงเพ่ยเพ่ยอ้อนวอนตนเมื่อครู่ เย่หรงเป็นถึงเพียงนี้แล้ว นางจะยังทำให้คนที่เขาชอบพอลำบากใจได้อีกหรือ?ฮองเฮาถอดปิ่นปักผมอันหนึ่งของตนออกมาโดยมิทันคิด แล้วยื่นให้กับหลงเพ่ยเพ่ย“ถือปิ่นปักผมนี้ไปพาตัวสิงอวี๋ออกมาเถอะ!”หลงเพ่ยเพ่ยรับปิ่นปักผมหงส์คู่ปักทองคำของฮองเฮามาทั้งน้ำตา นี่คือปิ่นปักผมที่ฮองเฮาเท่านั้นจึงจะสวมใส่ได้ เห็นปิ่นดังเห็นองค์ เทียบเท่ากับพระราชโองการของฮองเฮ
“ท่านหญิง...”“เพ่ยเพ่ย...”ฮองเฮาเห็นหลงเพ่ยเพ่ยตกลงไปก็ตกใจจนหัวใจแทบหยุดเต้นไปชั่วขณะ ผานกกระเรียนแห่งนี้เป็นปรปักษ์กับราชวงศ์หรืออย่างไร?เหตุใดถึงได้ตกลงไปทีละคนเช่นนี้?“เร็วเข้า ช่วยคน!”ฮองเฮาตะโกนลั่น นางกำนัลที่มีไหวพริบรีบไปตามองครักษ์มาช่วยทางด้านเย่หรงทรงตัวได้มั่นคงบนชะง่อนผาแล้ว เขาเพิ่งจะถอนหายใจโล่งอกก็ได้ยินเสียงกรีดร้องจากด้านบนเมื่อเงยหน้าขึ้น เขาก็เห็นหลงเพ่ยเพ่ยกำลังร่วงหล่นลงมาหัวใจของเย่หรงหดเกร็งวูบ มิทันได้คิด คว้าเถาวัลย์ข้าง ๆ แล้วโหนตัวไปหาหลงเพ่ยเพ่ยหลงเพ่ยเพ่ยตกใจจนหลับตาลงแล้ว เตรียมพร้อมยอมรับความตายแต่ทันใดนั้นก็รู้สึกเหมือนตนชนเข้ากับคนผู้หนึ่ง จากนั้นร่างก็ถูกกอดไว้“ไปทางนั้น เร็วเข้า คว้าชะง่อนผานั่นไว้!”เย่หรงพลิกตัวกลางอากาศ เหวี่ยงหลงเพ่ยเพ่ยไปทางนั้น หลงเพ่ยเพ่ยพุ่งเข้าใส่ผนังผา แต่ใช้แรงมากเกินไปจนใบหน้าชนกับผนังผาจนถลอก นางเจ็บเสียจนหน้ามืดตาลายแต่นางมิสนใจความเจ็บปวดแทบขาดใจ เช่นเดียวกันกับเย่หรง เขาพยายามสุดชีวิตที่จะคว้าเถาวัลย์เหล่านั้นไว้โชคดีที่เถาวัลย์ฝั่งนี้ยังพันเกี่ยวกับกิ่งไม้มากมาย เถาวัลย์ที่พันกิ่งไม้ไว้นั้
“ซานเอ๋อร์!”หลงอวิ๋นก็เห็นภาพนี้เช่นกัน ทันใดนั้นในสมองก็ว่างเปล่า…ในฐานะมารดา นางจะมิรู้ได้อย่างไรว่าตนลำเอียงต่อบุตรชายทั้งสองคนหยวนซือและหยวนซานป่วยไข้พร้อมกัน นางกลับเฝ้าหยวนซือทั้งวันทั้งคืนส่วนหยวนซานกลับเป็นหยวนซิ่งสามีของนางที่คอยดูแลด้วยตนเองของประทานที่ได้รับจากมหาเทพและเจ้าแห่งทะเลผู้เป็นบิดาในช่วงเทศกาลปีใหม่และวันสำคัญต่าง ๆ นางก็จะให้หยวนซือเลือกก่อน ที่เหลือถึงจะให้หยวนซานเรื่องเช่นนี้นับมิถ้วน แต่หยวนซานกลับถูกหยวนซิ่งบิดาของเขาสั่งสอนมาอย่างดี มิเคยบ่นว่าเรื่องความลำเอียงของนางเลย!บัดนี้มองดูหยวนซานกำลังจะตกหน้าผา หลงอวิ๋นในฐานะมารดาจะสามารถมองดูเฉย ๆ ให้บุตรชายตายตกไปเช่นนี้ได้หรือ?ฝ่ามือหลังมือก็เนื้อเดียวกัน นางทำให้หยวนซานมาสู่ใต้หล้าผืนนี้ หยวนซานมีความผิดอะไร นางมีสิทธิ์อะไรจะทำกับหยวนซานเช่นนี้“ซานเอ๋อร์!”เรื่องนี้เกี่ยวพันถึงชีวิต เมื่อคิดว่าจะต้องสูญเสียบุตรชายคนนี้ไปตลอดกาล หลงอวิ๋นก็พลันเสียใจแต่ก็สายเกินไปนางมิสนใจอีกต่อไปว่าจะทำให้หยวนซือบาดเจ็บหรือไม่ นางใช้แรงดึงหยวนซือออกอย่างแรงแล้วพุ่งเข้าไปที่หน้าผา“ซานเอ๋อร์ แม่มาช่วยเจ้าแล้ว
หลงเพ่ยเพ่ยเห็นท่านหญิงชิงเฉิงและท่านหญิงอวิ๋น ในสมองพลันเกิดความคิดแวบขึ้นมา ถึงได้คิดข้ออ้างนี้ออกเมื่อเห็นเย่หรงตามแนวคิดของตนทัน หลงเพ่ยเพ่ยก็แอบชื่นชมในไหวพริบของเย่หรงในใจ แล้วกล่าวต่อไป“เสด็จย่า ท่านคงมิประสงค์ให้ท่านอาเจ้าแห่งทะเลต้องเสียหน้าใช่หรือไม่เพคะ!”“หากเย่หรงไปหาท่านปู่ของเขาให้ออกหน้า การกระทำอันเผด็จการเช่นนี้ของท่านอาเจ้าแห่งทะเลจะถูกผู้คนรังเกียจ ถึงเวลานั้นก็จะส่งผลกระทบต่อเกียรติของราชวงศ์พวกเรา!”“ในใต้หล้านี้มีสตรีมากมาย ท่านอาเจ้าแห่งทะเลก็มิได้ขาดสตรีที่มาเสนอตัวให้ เหตุใดต้องทำเรื่องทำลายวาสนาคู่ครองของผู้อื่นเช่นนี้ด้วย!”ครั้นฮองเฮานึกถึงความเหลวไหลของเจ้าแห่งทะเลก็รู้สึกเสียหน้ายิ่งนัก กล่าวเสียงเข้ม “เอาเถอะ ย่ารู้แล้ว จะออกพระราชโองการให้พวกเจ้าไปรับคนที่จวนเจ้าแห่งทะเล...”หลงเพ่ยเพ่ยและเย่หรงถอนหายใจโล่งอก เพียงแต่ทั้งสองยังมิทันลุกขึ้นยืน ก็มีเสียงกรีดร้องดังแว่วมาจากที่ไกล ๆได้ยินเสียงคนกำลังตะโกนแว่วมา “ช่วยด้วย เร็วเข้า ใครก็ได้ คุณชายน้อยตกลงไปใต้หน้าผาแล้ว...”ฮองเฮาพลันลุกขึ้นยืน ร้องเรียกอย่างร้อนรน “เร็ว ไปดูซิ ใครตกลงไป?”วันนี้
หลงอวิ๋นได้สติกลับคืนมา ตามปกติแล้วคนทั่วไปหากมิได้ยินคำพูดของท่านหญิงชิงเฉิงก็จะถามว่า “เมื่อครู่เจ้าว่ากระไรนะ?”แต่หลงอวิ๋นกลับมิทำตามปกติ ลุกขึ้นยืนแล้วกล่าวว่า “เสด็จย่า เด็ก ๆ เดินไปไกลแล้ว หม่อมฉันไปตามพวกเขากลับมาดีกว่า ควรลงจากเขาได้แล้วเพคะ!”พูดจบ หลงอวิ๋นก็เดินออกจากศาลาพักร้อนไป ร้องเรียกสาวใช้ของตนว่า “พวกคุณชายใหญ่ไปทางไหนกันหรือ?”เนี่ยนจูนางรับใช้ของหลงอวิ๋นกล่าวพลางยิ้มประจบ “แม่นมจี้และเนี่ยนชิงพาพวกเขาไปทางนั้นเจ้าค่ะ มิน่าจะเดินไปไกล!”“ไป ไปดูกัน!”หลงอวิ๋นเดินตามทิศทางที่เนี่ยนจูชี้ไปโดยมิหันกลับมามองท่านหญิงชิงเฉิงมองแผ่นหลังของนางที่เดินจากไปเช่นนั้นก็โกรธจนแทบจะด่าทอเสียงดังลั่นออกมา“พี่หญิงชิงเฉิง พี่หญิงอวิ๋นไปตามหาเด็ก ๆ แล้ว ท่านมิไปตามหาแก้วตาดวงใจทั้งสองของท่านบ้างหรือ?”หลงเพ่ยเพ่ยเห็นดังนั้นก็จงใจกล่าว “ผานกกระเรียนแห่งนี้แม้จะไม่มีสัตว์ร้าย แต่เด็ก ๆ ยังเล็กนัก เล่นอยู่ริมผา หากพลาดตกลงไป เช่นนั้นก็…”“เจ้าแช่งลูกข้ารึ?”ท่านหญิงชิงเฉิงมองหลงเพ่ยเพ่ยอย่างโกรธเคือง ด่าว่า “หลงเพ่ยเพ่ย เจ้าอายุยังน้อย เหตุใดจึงทำตัวเหลวไหลเช่นนี้ คบหากับเย่ห
“เรื่องคู่ครองของข้ารึ?”หลงเพ่ยเพ่ยชะงักไปครู่หนึ่ง นางยังมิได้พูดคุยเรื่องแต่งงานเลย เหตุใดจึงเกี่ยวข้องกับเรื่องคู่ครองของตนได้เล่า“นี่เป็นเพียงข้ออ้าง หลอกพวกนางไปก่อน แล้วค่อยพูดเรื่องสำคัญกับเสด็จย่าของท่าน!”เย่หรงยิ้มกล่าว “อย่างไรเสีย เรื่องนี้ค่อยอธิบายให้เสด็จย่าของท่านเข้าใจทีหลังก็ได้!”ขณะพูดคุยกัน ทั้งสองก็มาถึงศาลาพักร้อนแล้วท่านหญิงชิงเฉิงที่อยู่ในศาลาเห็นหลงเพ่ยเพ่ยกับเย่หรงตามมาถึงที่นี่ ก็พลันนึกถึงคำกำชับของชายาเจ้าแห่งทะเลนางรีบชิงพูดก่อน “ท่านหญิงฉางเล่อก็มาด้วยรึ อ้าว นี่พาคุณชายมาด้วย!”“คุณชายผู้นี้หน้ามิคุ้นเลย เมื่อก่อนมิเคยเห็น เป็นคุณชายจากตระกูลใดกัน?”เย่หรงเห็นใบหน้างดงามของท่านหญิงชิงเฉิงแสดงท่าทีดูแคลนก็รู้ว่าอันที่จริงนางรู้ว่าตนเป็นใครเพียงแต่เหมือนกับพวกคนหัวสูงในเมืองหลวงแดนเทพ นางก็ดูถูกตนที่เป็นบุตรชายที่มิได้เรื่องของตระกูลเย่เช่นกันเสด็จย่าของหลงเพ่ยเพ่ยยังคงดูสดใสร่าเริง อายุหกสิบกว่าปีแล้วแต่ใบหน้ายังคงเปล่งปลั่งมีน้ำมีนวล แทบจะไม่มีริ้วรอยเลยฮองเฮาได้ยินคำพูดของท่านหญิงชิงเฉิงก็มองมาอย่างสงสัย พินิจพิจารณาเย่หรง แล้วกล่าวพล
สิ่งที่เย่หรงคิด หลงเพ่ยเพ่ยก็คิดถึงเช่นกัน นางกล่าวกับเย่หรงอย่างขัดแย้งในใจ“เจ้าคิดจะบอกเรื่องที่เฉาฮุยยังมีชีวิตอยู่ให้พี่หญิงอวิ๋นฟังรึ?”“แต่เช่นนี้ก็มิยุติธรรมกับพี่เขยหยวน เขาและพี่หญิงอวิ๋นก็มีลูกชายด้วยกันอีกคนแล้ว หากบอกพี่หญิงอวิ๋นว่าเฉาฮุยยังมีชีวิตอยู่ จะเป็นการทำลายครอบครัวของพวกเขาเสียเปล่า!”“ข้ามิชอบที่ชายาเจ้าแห่งทะเลทำกับเฉาฮุยเช่นนี้ แต่พี่เขยหยวนและหลานชายตัวน้อยของข้าเป็นผู้บริสุทธิ์!”“อีกอย่าง พี่เขยหยวนก็ดีต่อพี่หญิงอวิ๋นมาก ก่อนหน้านี้ข้ายังอิจฉาพี่หญิงอวิ๋นที่ได้ลงเอยกับคนที่ดี!”เย่หรงยิ้มเย็นชา “เช่นนั้นยุติธรรมกับเฉาฮุยแล้วหรือ? เขายังมีบิดามารดาที่ต้องกตัญญูเลี้ยงดู ท่านหญิงอวิ๋นมิช่วยเขาออกมา แล้วจะมีใครช่วยเขาได้อีก?”“ชั่วชีวิตของเขาจะต้องอยู่ในคุกน้ำไปตลอดหรือ? นี่มันโหดร้ายยิ่งกว่าการฆ่าเขาทิ้งเสียอีก!”หลงเพ่ยเพ่ยพูดมิออกเดิมทีเฉาฮุยมีอนาคตที่สดใส เพียงเพราะรักใคร่กับท่านหญิงอวิ๋น ถึงต้องตกอยู่ในชะตากรรมอันน่าเศร้าเช่นนี้มิอาจกตัญญูเลี้ยงดูบิดามารดาได้ บุตรชายก็มากลายเป็นของผู้อื่น การที่เขาสามารถทนอยู่ต่อไปในคุกน้ำได้ คาดว่าคงเพราะยังมี