บุรุษผู้นั้นเอาหมวกไม้ไผ่ออก ใบหน้าที่เหน็ดเหนื่อยของเขาจึงปรากฏต่อสายตาของทุกคนบุรุษผู้นี้อายุสี่สิบกว่าปี แม้ว่าจะแตกแดดจนผิวสีแทนเล็กหน่อย แต่ดวงตาของเขาใต้คิ้วหนาของเขากลับดำขลับเป็นประกาย เต็มไปด้วยพลัง“ท่านจินต้า!”ลู่หนานรู้สึกประหลาดใจ มิคาดคิดเลยว่าคนที่เซียวหลินเทียนพาพวกเขาออกมาพบจะเป็นท่านจินต้า!“ขึ้นไปคุยกันบนรถม้า!”ท่านจินต้าเข้าไปในรถม้าของเซียวหลินเทียน จ้าวซวนก็ตามเข้าไปด้วยลู่หนานสั่งให้องครักษ์บังคับรถม้าไปตามถนนแล้วตนก็ตามรถม้าไป“ท่านจินต้า คราวที่แล้วท่านบอกว่ามิสามารถกลับเมืองหลวงได้สักระยะหนึ่งมิใช่หรือ? งานเสร็จแล้วหรือ?”จ้าวซวนเอ่ยถามอย่างค่อนข้างแปลกใจท่านจินต้ายิ้มเล็กน้อย “นั่นท่านอ๋องโกหกเจ้า… ข้าได้รับจดหมายของเจ้าก็รีบมาเลย!”“แต่ระหว่างทางข้าได้รับคำสั่งจากท่านอ๋องให้ข้าไปทำธุระ ข้าก็เลยไปช่วยท่านอ๋องทำงานก่อน!”“เป็นเยี่ยงไรบ้าง?” เซียวหลินเทียนเอ่ยถามท่านจินต้าหุบยิ้ม พลางเอ่ยเสียงขรึม “ภารกิจลุล่วงพ่ะย่ะค่ะ! กระหม่อมทำงานที่ท่านอ๋องมอบหมายสำเร็จแล้ว!”“กระหม่อมพบบ้านเกิดของชิวเฮ่าแล้ว และได้ทำการตรวจสอบอย่างละเอียดแล้วด้วย ครอบคร
เซียวหลินเทียนพยักหน้า “ฉางซุ่นอี้หลบอยู่ลึกถึงเพียงนี้ ย่อมมีวิธีการของเขา สืบหาคนผู้นี้ต่อไป!”“เรื่องเร่งด่วนที่สุดก็คือ พวกเราต้องกำจัดสายสืบในตำหนักอ๋องอี้ก่อน จากนั้นค่อยดึงตัวสหายของพวกเขาในฉินตะวันตกออกมาให้ได้มากที่สุด!”เซียวหลินเทียนเอ่ยอย่างใจเย็น “ข้าได้คิดแผนการที่สามารถบังคับพวกเขาส่วนใหญ่ออกมาได้แล้ว! ท่านจิน จ้าวซวน ลู่หนาน เรื่องนี้ต้องการความร่วมมือจากพวกเจ้า!”“ท่านอ๋องบอกมาได้เลยพ่ะย่ะค่ะ!”ทั้งสามเอ่ยเป็นเสียงเดียวกัน “กระหม่อมยินดีช่วยเหลือเต็มที่!”เซียวหลินเทียนกระซิบบอกแผนการของตน ท่านจินฟังแล้วก็ยิ้มออกมา พลางมองไปทางเซียวหลินเทียนในช่วงที่เขาไม่อยู่ เซียวหลินเทียนเติบโตขึ้นมากอาจเป็นเพราะเดินไม่ได้ ทำให้เซียวหลินเทียนมีเวลาในการศึกษาและครุ่นคิดมากขึ้น ดังนั้นจึงก้าวหน้าอย่างรวดเร็วเช่นนี้!“ท่านอ๋อง แผนการนี้ยอดเยี่ยมยิ่งพ่ะย่ะค่ะ!”ท่านจินต้าได้ทำการปรับและเพิ่มเติมรายละเอียดในแผนการของเซียวหลินเทียนทั้งสองต่างก็พอใจกับผลหลังจากที่แก้ไขแล้วมาก จึงตัดสินใจว่าจะดำเนินการตามแผนกระทั่งพูดคุยกันเสร็จ เซียวหลินเทียนก็ให้รถม้าหยุดลง แล้วท่านจินต้าก็
พวกเขาไม่มีทางให้เงินและเสบียงทหารตกเป็นของแม่ทัพฟ่านได้!หรือว่า...จู่ ๆ ชิวเฮ่าก็ใจเต้น ฝ่าบาทให้เขากับชิวเหวินซวงหาเงินด้วยมิใช่หรือ?หากพวกเขารู้เวลาส่งมอบเงินและเสบียงทหาร แล้วพวกเขาก็สกัดกั้นเงินก้อนนี้ในระหว่างทาง เช่นนั้นก็เท่ากับว่าตัดเงินและเสบียงทหารของแม่ทัพฟ่าน และทำภารกิจสำเร็จไปพร้อมกันเลยมิใช่หรือ?หากมีจำนวนมาก เมื่อพวกเราได้เงินและเสบียงทหารนี้ไป ฝ่าบาทจะต้องชื่นชมพวกเขาอย่างแน่นอน!และฝ่าบาทอาจจะเลื่อนขั้นและเพิ่มเงินให้เพราะความสำเร็จยิ่งใหญ่นี้ด้วย!ชิวเฮ่ายิ่งคิดก็ยิ่งตื่นเต้น พอเห็นพวกเซียวหลินเทียนไปแล้ว เขาก็รีบไปหาชิวเหวินซวงแล้วเล่าเรื่องนี้และความคิดของเขาทันทีชิวเหวินซวงก็ตื่นเต้นขึ้นมาเช่นกัน ทว่าเนื่องสตรีมีความละเอียดรอบคอบ นางจึงกระซิบ“ท่านพี่ ข่าวนี้เป็นเรื่องจริงรึ?”ชิวเฮ่ากลอกตาใส่นาง “แน่นอนว่าเป็นเรื่องจริงสิ! ยามนี้เซียวหลินเทียนเชื่อใจพวกเรามาก เจ้าดูสิขนาดวันนี้ปรึกษาเรื่องสำคัญเขายังมิให้ข้าออกไปเลย!”“อีกอย่าง วันนี้เขาออกไปกับลู่หนาน ยังให้ข้าช่วยเขาจัดการเอกสารในห้องตำราด้วย! หากเซียวหลินเทียนสงสัยพวกเรา เขาจักให้ข้าอยู่ในห้องห
เมื่อลู่หนานเห็นว่าเขาไปแล้ว จึงกระซิบกับเซียวหลินเทียน“ท่านอ๋อง ท่านอ๋องคิดว่าชิวเฮ่าจะไปด้วยตนเองหรือไม่พ่ะย่ะค่ะ?”เซียวหลินเทียนยิ้มเล็กน้อย “นี่เป็นโอกาสที่ดีที่จะสร้างความสำเร็จยิ่งใหญ่ เขาต้องไปแน่!”“ลู่หนาน เชื่อหรือไม่ พอเขาเห็นด้วยตาของตนเองว่าพวกเราได้เตรียมเงินและเสบียงทหารอย่างดีแล้ว เขาจักต้องหาโอกาสขอลาอย่างแน่นอน!”ลู่หนานเอ่ยด้วยความโกรธ “ท่านอ๋อง กระหม่อมก็อยากจะขอลาเช่นกัน กระหม่อมอยากจะตามรัฐทายาทอันไป อยากจับชิวเฮ่ากลับมาด้วยตัวกระหม่อมเอง อยากจับพวกสาบสืบและทำงานให้สำเร็จด้วยพ่ะย่ะค่ะ!”เซียวหลินเทียนใจเต้น เขาเองก็อยากจะไปด้วย!พวกชิวเฮ่าจะต้องลงมืออย่างเต็มที่เพื่อเงินจำนวนมหาศาลนี้เป็นแน่ เขามิได้เพลิดเพลินไปกับความรู้สึกพุลุ่งพล่านในสนามรบมานานมากแล้ว!ในช่วงสองวันที่ผ่านมาขาของตนก็สามารถยืนได้นานขึ้นเรื่อย ๆ แล้ว หากทำอย่างรวดเร็วก็มิน่ามีปัญหาใด!เซียวหลินเทียนยิ่งคิดก็ยิ่งใจเต้น แล้วความคิดหนึ่งก็แวบขึ้นมา“ลู่หนาน ข้ามีความคิดอะไรบางอย่าง ไม่เพียงแต่พวกเจ้าขอไปได้ แต่มิดึงดูดความสงสัยของชิวเหวินซวงด้วย!”ดวงตาของลู่หนานเป็นประกาย รีบขยับหูไปฟัง
ภารกิจของจูเผิงในครั้งนี้คือการเฝ้าติดตามชิวเฮ่ากับคนของตระกูลชิวอย่างลับ ๆเขาพาองครักษ์สองสามคนติดตามคนของตระกูลชิวไป ระหว่างทางไม่มีอะไรผิดปกติเลยจูเผิงเองก็มิกล้าชะล่าใจ เขารู้เรื่องที่หลู่ชิ่งถูกหลิงอวี๋รับตัวไประหว่างทาง จึงกลัวว่าชิวเฮ่าจะใช้ลูกไม้กลยุทธิ์จักจั่นลอกคราบเช่นนี้มาทำให้ตนตายใจเช่นกันหลังจากเดินทางเช่นนี้เป็นเวลาสามวัน จูเผิงก็กังวลใจเล็กน้อยหรือว่าชิวเฮ่ามิได้คิดจะไปปล้นเงินทหาร?พลบค่ำวันนี้ ท้องฟ้าค่อย ๆ มืดลงแล้ว รถม้าของพวกชิวเฮ่าก็ยังเดินทางไปอย่างสบาย ๆ บนถนนจูเผิงรู้สึกประหลาดใจเล็กน้อย เมื่อสองวันก่อนชิวเฮ่าได้พาครอบครัวของเขาไปหาที่พักแล้ว แต่คืนนี้ดูท่าทีไม่เหมือนว่าเขาจะพักโรงเตี๊ยมเลย!หรือว่าชิวเฮ่าวางแผนที่จะหลบหนีในคืนนี้?จูเผิงพาคนตามไปอีกช่วงถนน ถนนส่วนนี้อยู่ในถิ่นทุรกันดาร ไม่มีผู้ใดอยู่บนถนนเลยจูเผิงมิกล้าตามไปใกล้มากเกินไป กระทั่งเห็นรถม้าหายไปตรงทางเลี้ยว เขาจึงพาคนตามไปแต่เมื่อพวกเขาเลี้ยวไป กลับพบว่ารถม้าของครอบครัวชิวเฮ่าหายไปแล้วจูเผิงตกใจมาก ขณะที่เขากำลังจะไล่ตามไป ก็เห็นป่าที่อยู่ข้างหน้าไม่ไกล“พวกเจ้ารอข้าอยู่ที่นี
จูเผิงได้ยินเสียงลม ก็รีบหันกลับมาใช้ดาบต้านไว้ แล้วทั้งสองก็ต่อสู้กันจูเผิงกังวลมาก ในขณะที่กำลังต่อสู้กันอยู่นั้น ชิวเหวินอิงก็ตามมาทันแล้ว“ข้าจะจัดการกับเขาเอง...”ชิวเหวินอิงเอ่ย “ชิวเฮ่าเจ้าออกไปแสร้งทำเป็นเผชิญหน้ากับโจร ดูว่าจูเผิงพาคนมากี่คนแล้วล่อพวกเขาเข้ามา!”“พวกเจ้ามันเป็นชายหญิงที่หัวใจโหดเหี้ยม ข้าไม่มีทางยอมให้พวกเจ้าทำสำเร็จหรอก!”จูเผิงกัดฟันตะคอกด้วยความโกรธ จากนั้นก็ยกดาบแทงไปทางชิวเฮ่า ชิวเฮ่าหันกลับมาเหวี่ยงดาบใส่แขนของเขาหนังแยกออกเสียจนเห็นกระดูก!จูเผิงกัดฟัน เขาจับดาบไว้แน่นแล้วหันกลับไปแทงชิวเฮ่าอีกครั้งชิวเหวินอิงแทงไปที่เอวของจูเผิงเขาเดินโซเซ อดทนต่ออาการบาดเจ็บยกดาบฟันไปที่ชิวเหวินอิงชิวเฮ่ารีบวิ่งออกไป พลางตะโกน “ใครก็ได้… พวกเราถูกซุ่มโจมตี!”พวกองครักษ์ที่ติดตามจูเผิงได้ยินเสียงจึงลงจากหลังม้าแล้ววิ่งเข้าไปเมื่อชิวเฮ่าเห็นว่าอีกฝ่ายมีทั้งหมดสี่คน ก็รู้สึกสบายใจทันที“ข้าง… ข้างใน รีบหน่อย จูเผิงจักทนมิไหวแล้ว!”ชิวเฮ่าวิ่งนำเข้าไปข้างใน พวกองครักษ์ได้ยินเสียงการต่อสู้กันในป่าจึงรีบวิ่งไปอย่างรวดเร็ว“ตรง… ข้างหน้านั่น...”ชิวเฮ่า
“ฮูหยิน… แล้ว… แล้วฮูหยินเล่า!”ชิวเฮ่าอดทนต่อความเจ็บปวดสาหัสแล้วลุกขึ้น เทยาลงบนแผลไปด้วย พลางเอ่ยถามไปด้วย“ข้าจักไปสอบสวนจูเผิง เขายังมิตาย! ข้าอยากรู้ว่าเซียวหลินเทียนรู้อะไรบ้าง!”ชิวเหวินอิงตะคอก “ฝ่าบาทมุมานะทำงานหนัก วางกลยุทธ์มานานนับทศวรรษเพื่อสร้างเครือข่ายข่าวกรองนี้...”“หากมันถูกทำลายด้วยมือของพวกเรา ชิวเฮ่า พระองค์ไม่มีวันปล่อยพวกเราไปแน่!”“ครั้งนี้ข้าถูกพวกเจ้าทำให้ตาย!”ชิวเหวินอิงบีบคอของชิวเฮ่า พลางเอ่ยอย่างชั่วร้าย“รีบไปขวางคนของเราไว้มิให้ตกหลุมพราง! หวังว่าทุกอย่างยังมิสายเกินไป!”“ชิวเฮ่า เจ้าอย่าคิดหลบหนีไประหว่างทาง! เจ้าก็รู้ว่าวิธีการของฝ่าบาทนั้นร้ายแรงเพียงใด เว้นแต่เจ้าจักตาย มิฉะนั้นแม้ว่าเจ้าหนีไปซ่อนตัวอยู่สุดขอบหล้า พระองค์ก็สามารถจับเจ้าได้!”ชิวเฮ่าตัวสั่น กำลังจะพูดอะไรบางอย่างชิวเหวินอิงก็เอ่ยขึ้นมาอย่างเย็นชา “อย่าลืมว่าชิวเหวินซวงยังอยู่ในตำหนักอ๋องอี้... เจ้าคงมิอยากให้ญาติเพียงคนเดียวในใต้หล้านี้ของเจ้ามีชีวิตที่ตายทั้งเป็นนับจากนี้กระมัง?”ชิวเฮ่านึกถึงชะตากรรมที่น่าสังเวชของสายสืบเหล่านั้นที่แอบหลบหนี แล้วก็กลัวจนตัวสั่นเขากั
“ความตายมาอยู่ตรงหน้าแล้ว เจ้ายังปากแข็งอยู่อีกรึ?”ชิวเหวินอิงโน้มตัวไปจ้องมองจูเผิง พลางเอ่ยอย่างดุร้าย“หากเจ้าตอบข้ามาดี ๆ ข้าจักปล่อยให้เจ้าตายแบบสบาย ๆ มิเช่นนั้น… เจ้าคงต้องทนทุกข์ยิ่งกว่าตกนรก!”เท้าทั้งสองข้างของจูเผิงเลือดออก เขารู้สึกได้ว่าตนนอนจมกองเลือดอยู่ แต่เขาก็ไม่รู้สึกกลัวเลยสักนิด“ชิวเหวินอิง หากข้าตกนรก เจ้าก็คงตกนรกขุมที่สิบแปด ต้องเจ็บปวดยิ่งกว่าข้าหลายร้อยหลายพันเท่าแน่นอน!”จูเผิงจ้องชิวเหวินอิงอย่างดุเดือด “จะทุบตีหรือฆ่าก็มาเลย! หากข้าจูเผิงขมวดคิ้วแม้สักนิด ข้าก็เป็นเดรัจฉานแล้ว!”ชิวเหวินอิงยิ้มเหยียด “ได้ อยากเป็นบุรุษผู้แข็งแกร่งใช่หรือไม่? เช่นนั้นข้าจักช่วยสงเคราะห์เจ้าเอง!”นางหยิบผงยาออกมาจากแขนแล้วโรยลงบนเลือดของจูเผิงหลังจากนั้นไม่นาน ฝูงมดก็คลานมาจากทุกทิศทุกทาง เข้าไปในบาดแผลและเสื้อผ้าของจูเผิงอย่างรวดเร็ว“เจ้าใช้วิธีนี้ มันต่างอะไรกับการจักจี้ข้าเล่า?”จูเผิงที่ในตอนแรกยังเหยียดหยัน รู้สึกคันอย่างรุนแรงไปทั้งตัวแล้ว!แล้วบาดแผลก็เริ่มรู้สึกเจ็บแปลก ๆความเจ็บปวดเช่นนี้เป็นสิ่งที่เขามิเคยพบมาก่อน มันกัดกินกระดูก เจ็บปวดอย่างแสนสาหั
“หึหึ!”ชายาเจ้าแห่งทะเลหัวเราะออกมา “หลิงอวี๋ เจ้าคิดว่าข้าโง่รึ? หยกหล้าสุขาวดีหลอมรวมเป็นหนึ่งเดียวกับเจ้าแล้ว ค้นตัวเจ้าจะหาเจอได้อย่างไร?”“หลิงอวี๋ หยกหล้าสุขาวดีมิใช่ของของเจ้าตั้งแต่แรก มารดาเจ้าเป็นนางโจร ขโมยมหาวัตถุศักดิ์สิทธิ์ของจวนเจ้าแห่งทะเลไป การให้เจ้าคืนมาก็แค่เป็นการคืนของสู่เจ้าของเดิม!”“ข้าสืบรู้มาหมดแล้ว เจ้าและเซียวหลินเทียนสามีของเจ้าต่างก็อยู่ในเมืองหลวงแดนเทพ เจ้ายังมีบุตรชายอีกคนที่ฉินตะวันตก!”“หลิงอวี๋ ที่เจ้าปฏิเสธมิยอมรับฐานะของตนเองมาตลอด คงเป็นเพราะล่วงรู้ถึงวิธีที่จะนำหยกหล้าสุขาวดีออกมาแล้วสินะ”“เจ้าคิดว่าอย่างไรก็ต้องตายอยู่ดี ดังนั้นเจ้าจึงคิดว่า ขอเพียงมิยอมรับก็เป็นไปมิได้ที่พวกเราจะมัดตัวเจ้าไปสลายเลือดละลายกระดูกที่ภูเขาศักดิ์สิทธิ์เพื่อนำหยกหล้าสุขาวดีออกมา!”ชายาเจ้าแห่งทะเลพูดถึงตรงนี้ก็แค่นเสียงหัวเราะ “เจ้าเชื่อหรือไม่ ข้ามิจำเป็นต้องพิสูจน์ยืนยัน ก็สามารถมัดตัวเจ้าไปภูเขาศักดิ์สิทธิ์ได้แล้ว!”“ที่ข้าให้คนนำตัวเจ้ามาที่จวนเจ้าแห่งทะเล ก็เพื่อจะให้โอกาสเจ้า!”หลิงอวี๋หรือจะยอมรับฐานะของตนเพียงเพราะชายาเจ้าแห่งทะเลพูดเช่นนี้ได้อย่าง
“เข้าไป อย่าให้พ่อบ้านผู้นี้ต้องพูดเป็นครั้งที่สอง!”รอยยิ้มบนใบหน้าของพ่อบ้านเว่ยหายไปสิ้น กล่าวอย่างมิอดทน “เมื่อให้โอกาสดี ๆ มิชอบ ก็ต้องเจอดีเสียบ้าง!”เถาจื่อกำแขนหลิงอวี๋ไว้แน่น และถามผ่านสายตา“ตอนนี้ควรทำอย่างไรดีเจ้าคะ?”หลิงอวี๋ก็คาดมิถึงว่าจวนเจ้าแห่งทะเลจะเปลี่ยนท่าทีเร็วถึงเพียงนี้ ก่อนหน้านี้นางยังคิดว่า เมื่อเข้ามาในจวนเจ้าแห่งทะเลแล้วจะสามารถยื้อเวลาสักพักได้ชายาเจ้าแห่งทะเลมิปรากฏตัว แต่กลับให้พ่อบ้านเว่ยพาตนมาที่นี่เช่นนี้เลย?นี่หมายความว่าอย่างไรกัน?คิดจะขังนางไว้ หรือว่ามีแผนอื่นกระไร?หลิงอวี๋มองไปยังท่าทีมีเจตนาร้ายของพวกพลธนูและชายร่างใหญ่หลายคนที่ยืนอยู่ข้าง ๆ เหล่านั้น นางและเถาจื่อไม่มีทางหนีรอดจากเงื้อมมือของพวกเขาไปได้เลย“เข้าไปก่อนเถอะ!”หลิงอวี๋นำหน้าเดินเข้าไป เถาจื่อตามติดอยู่ข้างหลังหลิงอวี๋เพิ่งจะก้าวเท้าเข้าประตูเรือน เมื่อเห็นสภาพข้างในก็รู้สึกว่ามิดีแน่ เพิ่งจะคิดถอยหลังเถาจื่อกลับถูกคนผลักจากด้านหลังอย่างแรง ชนเข้ากับร่างหลิงอวี๋จนดันหลิงอวี๋เข้าไปข้างในทั้งสองคนล้มลงไปกองรวมกัน ยังมิทันได้ลุกขึ้นยืนก็ได้ยินเสียงดังโครมสนั่นกล
หลงเพ่ยเพ่ยห้อยอยู่บนชะง่อนผานั้น นางเองก็ทนต่อไปมิไหวแล้ว ภายใต้การเกลี้ยกล่อมของทุกคน นางจึงปีนป่ายเชือกขึ้นไปนางนึกถึงจุดประสงค์ที่ตนมาที่นี่ หากเย่หรงตายไปแล้วจริง ๆ เขาย่อมหวังให้นางช่วยหลิงอวี๋ออกมาได้อย่างแน่นอนนางมิอาจทำให้เย่หรงตายตามิหลับได้!เมื่อหลงเพ่ยเพ่ยปีนขึ้นมาได้ก็มิสนใจตรวจสอบบาดแผลของตน นางคุกเข่าลงต่อหน้าฮองเฮาทันทีนางกล่าวเสียงเครือ “เสด็จย่า เรื่องที่ทรงรับปากหม่อมฉันเมื่อครู่ สามารถประทานพระราชโองการให้หม่อมฉันตอนนี้ได้หรือไม่เพคะ?”“เมื่อครู่เย่หรงช่วยชีวิตหม่อมฉันและหยวนซานไว้ เพียงเห็นแก่บุญคุณทั้งสองครั้งนี้ เสด็จย่าทรงควรจะช่วยให้เขาสมหวังนะเพคะ!”ฮองเฮานึกถึงเรื่องที่เย่หรงและหลงเพ่ยเพ่ยอ้อนวอนตนเมื่อครู่ เย่หรงเป็นถึงเพียงนี้แล้ว นางจะยังทำให้คนที่เขาชอบพอลำบากใจได้อีกหรือ?ฮองเฮาถอดปิ่นปักผมอันหนึ่งของตนออกมาโดยมิทันคิด แล้วยื่นให้กับหลงเพ่ยเพ่ย“ถือปิ่นปักผมนี้ไปพาตัวสิงอวี๋ออกมาเถอะ!”หลงเพ่ยเพ่ยรับปิ่นปักผมหงส์คู่ปักทองคำของฮองเฮามาทั้งน้ำตา นี่คือปิ่นปักผมที่ฮองเฮาเท่านั้นจึงจะสวมใส่ได้ เห็นปิ่นดังเห็นองค์ เทียบเท่ากับพระราชโองการของฮองเฮ
“ท่านหญิง...”“เพ่ยเพ่ย...”ฮองเฮาเห็นหลงเพ่ยเพ่ยตกลงไปก็ตกใจจนหัวใจแทบหยุดเต้นไปชั่วขณะ ผานกกระเรียนแห่งนี้เป็นปรปักษ์กับราชวงศ์หรืออย่างไร?เหตุใดถึงได้ตกลงไปทีละคนเช่นนี้?“เร็วเข้า ช่วยคน!”ฮองเฮาตะโกนลั่น นางกำนัลที่มีไหวพริบรีบไปตามองครักษ์มาช่วยทางด้านเย่หรงทรงตัวได้มั่นคงบนชะง่อนผาแล้ว เขาเพิ่งจะถอนหายใจโล่งอกก็ได้ยินเสียงกรีดร้องจากด้านบนเมื่อเงยหน้าขึ้น เขาก็เห็นหลงเพ่ยเพ่ยกำลังร่วงหล่นลงมาหัวใจของเย่หรงหดเกร็งวูบ มิทันได้คิด คว้าเถาวัลย์ข้าง ๆ แล้วโหนตัวไปหาหลงเพ่ยเพ่ยหลงเพ่ยเพ่ยตกใจจนหลับตาลงแล้ว เตรียมพร้อมยอมรับความตายแต่ทันใดนั้นก็รู้สึกเหมือนตนชนเข้ากับคนผู้หนึ่ง จากนั้นร่างก็ถูกกอดไว้“ไปทางนั้น เร็วเข้า คว้าชะง่อนผานั่นไว้!”เย่หรงพลิกตัวกลางอากาศ เหวี่ยงหลงเพ่ยเพ่ยไปทางนั้น หลงเพ่ยเพ่ยพุ่งเข้าใส่ผนังผา แต่ใช้แรงมากเกินไปจนใบหน้าชนกับผนังผาจนถลอก นางเจ็บเสียจนหน้ามืดตาลายแต่นางมิสนใจความเจ็บปวดแทบขาดใจ เช่นเดียวกันกับเย่หรง เขาพยายามสุดชีวิตที่จะคว้าเถาวัลย์เหล่านั้นไว้โชคดีที่เถาวัลย์ฝั่งนี้ยังพันเกี่ยวกับกิ่งไม้มากมาย เถาวัลย์ที่พันกิ่งไม้ไว้นั้
“ซานเอ๋อร์!”หลงอวิ๋นก็เห็นภาพนี้เช่นกัน ทันใดนั้นในสมองก็ว่างเปล่า…ในฐานะมารดา นางจะมิรู้ได้อย่างไรว่าตนลำเอียงต่อบุตรชายทั้งสองคนหยวนซือและหยวนซานป่วยไข้พร้อมกัน นางกลับเฝ้าหยวนซือทั้งวันทั้งคืนส่วนหยวนซานกลับเป็นหยวนซิ่งสามีของนางที่คอยดูแลด้วยตนเองของประทานที่ได้รับจากมหาเทพและเจ้าแห่งทะเลผู้เป็นบิดาในช่วงเทศกาลปีใหม่และวันสำคัญต่าง ๆ นางก็จะให้หยวนซือเลือกก่อน ที่เหลือถึงจะให้หยวนซานเรื่องเช่นนี้นับมิถ้วน แต่หยวนซานกลับถูกหยวนซิ่งบิดาของเขาสั่งสอนมาอย่างดี มิเคยบ่นว่าเรื่องความลำเอียงของนางเลย!บัดนี้มองดูหยวนซานกำลังจะตกหน้าผา หลงอวิ๋นในฐานะมารดาจะสามารถมองดูเฉย ๆ ให้บุตรชายตายตกไปเช่นนี้ได้หรือ?ฝ่ามือหลังมือก็เนื้อเดียวกัน นางทำให้หยวนซานมาสู่ใต้หล้าผืนนี้ หยวนซานมีความผิดอะไร นางมีสิทธิ์อะไรจะทำกับหยวนซานเช่นนี้“ซานเอ๋อร์!”เรื่องนี้เกี่ยวพันถึงชีวิต เมื่อคิดว่าจะต้องสูญเสียบุตรชายคนนี้ไปตลอดกาล หลงอวิ๋นก็พลันเสียใจแต่ก็สายเกินไปนางมิสนใจอีกต่อไปว่าจะทำให้หยวนซือบาดเจ็บหรือไม่ นางใช้แรงดึงหยวนซือออกอย่างแรงแล้วพุ่งเข้าไปที่หน้าผา“ซานเอ๋อร์ แม่มาช่วยเจ้าแล้ว
หลงเพ่ยเพ่ยเห็นท่านหญิงชิงเฉิงและท่านหญิงอวิ๋น ในสมองพลันเกิดความคิดแวบขึ้นมา ถึงได้คิดข้ออ้างนี้ออกเมื่อเห็นเย่หรงตามแนวคิดของตนทัน หลงเพ่ยเพ่ยก็แอบชื่นชมในไหวพริบของเย่หรงในใจ แล้วกล่าวต่อไป“เสด็จย่า ท่านคงมิประสงค์ให้ท่านอาเจ้าแห่งทะเลต้องเสียหน้าใช่หรือไม่เพคะ!”“หากเย่หรงไปหาท่านปู่ของเขาให้ออกหน้า การกระทำอันเผด็จการเช่นนี้ของท่านอาเจ้าแห่งทะเลจะถูกผู้คนรังเกียจ ถึงเวลานั้นก็จะส่งผลกระทบต่อเกียรติของราชวงศ์พวกเรา!”“ในใต้หล้านี้มีสตรีมากมาย ท่านอาเจ้าแห่งทะเลก็มิได้ขาดสตรีที่มาเสนอตัวให้ เหตุใดต้องทำเรื่องทำลายวาสนาคู่ครองของผู้อื่นเช่นนี้ด้วย!”ครั้นฮองเฮานึกถึงความเหลวไหลของเจ้าแห่งทะเลก็รู้สึกเสียหน้ายิ่งนัก กล่าวเสียงเข้ม “เอาเถอะ ย่ารู้แล้ว จะออกพระราชโองการให้พวกเจ้าไปรับคนที่จวนเจ้าแห่งทะเล...”หลงเพ่ยเพ่ยและเย่หรงถอนหายใจโล่งอก เพียงแต่ทั้งสองยังมิทันลุกขึ้นยืน ก็มีเสียงกรีดร้องดังแว่วมาจากที่ไกล ๆได้ยินเสียงคนกำลังตะโกนแว่วมา “ช่วยด้วย เร็วเข้า ใครก็ได้ คุณชายน้อยตกลงไปใต้หน้าผาแล้ว...”ฮองเฮาพลันลุกขึ้นยืน ร้องเรียกอย่างร้อนรน “เร็ว ไปดูซิ ใครตกลงไป?”วันนี้
หลงอวิ๋นได้สติกลับคืนมา ตามปกติแล้วคนทั่วไปหากมิได้ยินคำพูดของท่านหญิงชิงเฉิงก็จะถามว่า “เมื่อครู่เจ้าว่ากระไรนะ?”แต่หลงอวิ๋นกลับมิทำตามปกติ ลุกขึ้นยืนแล้วกล่าวว่า “เสด็จย่า เด็ก ๆ เดินไปไกลแล้ว หม่อมฉันไปตามพวกเขากลับมาดีกว่า ควรลงจากเขาได้แล้วเพคะ!”พูดจบ หลงอวิ๋นก็เดินออกจากศาลาพักร้อนไป ร้องเรียกสาวใช้ของตนว่า “พวกคุณชายใหญ่ไปทางไหนกันหรือ?”เนี่ยนจูนางรับใช้ของหลงอวิ๋นกล่าวพลางยิ้มประจบ “แม่นมจี้และเนี่ยนชิงพาพวกเขาไปทางนั้นเจ้าค่ะ มิน่าจะเดินไปไกล!”“ไป ไปดูกัน!”หลงอวิ๋นเดินตามทิศทางที่เนี่ยนจูชี้ไปโดยมิหันกลับมามองท่านหญิงชิงเฉิงมองแผ่นหลังของนางที่เดินจากไปเช่นนั้นก็โกรธจนแทบจะด่าทอเสียงดังลั่นออกมา“พี่หญิงชิงเฉิง พี่หญิงอวิ๋นไปตามหาเด็ก ๆ แล้ว ท่านมิไปตามหาแก้วตาดวงใจทั้งสองของท่านบ้างหรือ?”หลงเพ่ยเพ่ยเห็นดังนั้นก็จงใจกล่าว “ผานกกระเรียนแห่งนี้แม้จะไม่มีสัตว์ร้าย แต่เด็ก ๆ ยังเล็กนัก เล่นอยู่ริมผา หากพลาดตกลงไป เช่นนั้นก็…”“เจ้าแช่งลูกข้ารึ?”ท่านหญิงชิงเฉิงมองหลงเพ่ยเพ่ยอย่างโกรธเคือง ด่าว่า “หลงเพ่ยเพ่ย เจ้าอายุยังน้อย เหตุใดจึงทำตัวเหลวไหลเช่นนี้ คบหากับเย่ห
“เรื่องคู่ครองของข้ารึ?”หลงเพ่ยเพ่ยชะงักไปครู่หนึ่ง นางยังมิได้พูดคุยเรื่องแต่งงานเลย เหตุใดจึงเกี่ยวข้องกับเรื่องคู่ครองของตนได้เล่า“นี่เป็นเพียงข้ออ้าง หลอกพวกนางไปก่อน แล้วค่อยพูดเรื่องสำคัญกับเสด็จย่าของท่าน!”เย่หรงยิ้มกล่าว “อย่างไรเสีย เรื่องนี้ค่อยอธิบายให้เสด็จย่าของท่านเข้าใจทีหลังก็ได้!”ขณะพูดคุยกัน ทั้งสองก็มาถึงศาลาพักร้อนแล้วท่านหญิงชิงเฉิงที่อยู่ในศาลาเห็นหลงเพ่ยเพ่ยกับเย่หรงตามมาถึงที่นี่ ก็พลันนึกถึงคำกำชับของชายาเจ้าแห่งทะเลนางรีบชิงพูดก่อน “ท่านหญิงฉางเล่อก็มาด้วยรึ อ้าว นี่พาคุณชายมาด้วย!”“คุณชายผู้นี้หน้ามิคุ้นเลย เมื่อก่อนมิเคยเห็น เป็นคุณชายจากตระกูลใดกัน?”เย่หรงเห็นใบหน้างดงามของท่านหญิงชิงเฉิงแสดงท่าทีดูแคลนก็รู้ว่าอันที่จริงนางรู้ว่าตนเป็นใครเพียงแต่เหมือนกับพวกคนหัวสูงในเมืองหลวงแดนเทพ นางก็ดูถูกตนที่เป็นบุตรชายที่มิได้เรื่องของตระกูลเย่เช่นกันเสด็จย่าของหลงเพ่ยเพ่ยยังคงดูสดใสร่าเริง อายุหกสิบกว่าปีแล้วแต่ใบหน้ายังคงเปล่งปลั่งมีน้ำมีนวล แทบจะไม่มีริ้วรอยเลยฮองเฮาได้ยินคำพูดของท่านหญิงชิงเฉิงก็มองมาอย่างสงสัย พินิจพิจารณาเย่หรง แล้วกล่าวพล
สิ่งที่เย่หรงคิด หลงเพ่ยเพ่ยก็คิดถึงเช่นกัน นางกล่าวกับเย่หรงอย่างขัดแย้งในใจ“เจ้าคิดจะบอกเรื่องที่เฉาฮุยยังมีชีวิตอยู่ให้พี่หญิงอวิ๋นฟังรึ?”“แต่เช่นนี้ก็มิยุติธรรมกับพี่เขยหยวน เขาและพี่หญิงอวิ๋นก็มีลูกชายด้วยกันอีกคนแล้ว หากบอกพี่หญิงอวิ๋นว่าเฉาฮุยยังมีชีวิตอยู่ จะเป็นการทำลายครอบครัวของพวกเขาเสียเปล่า!”“ข้ามิชอบที่ชายาเจ้าแห่งทะเลทำกับเฉาฮุยเช่นนี้ แต่พี่เขยหยวนและหลานชายตัวน้อยของข้าเป็นผู้บริสุทธิ์!”“อีกอย่าง พี่เขยหยวนก็ดีต่อพี่หญิงอวิ๋นมาก ก่อนหน้านี้ข้ายังอิจฉาพี่หญิงอวิ๋นที่ได้ลงเอยกับคนที่ดี!”เย่หรงยิ้มเย็นชา “เช่นนั้นยุติธรรมกับเฉาฮุยแล้วหรือ? เขายังมีบิดามารดาที่ต้องกตัญญูเลี้ยงดู ท่านหญิงอวิ๋นมิช่วยเขาออกมา แล้วจะมีใครช่วยเขาได้อีก?”“ชั่วชีวิตของเขาจะต้องอยู่ในคุกน้ำไปตลอดหรือ? นี่มันโหดร้ายยิ่งกว่าการฆ่าเขาทิ้งเสียอีก!”หลงเพ่ยเพ่ยพูดมิออกเดิมทีเฉาฮุยมีอนาคตที่สดใส เพียงเพราะรักใคร่กับท่านหญิงอวิ๋น ถึงต้องตกอยู่ในชะตากรรมอันน่าเศร้าเช่นนี้มิอาจกตัญญูเลี้ยงดูบิดามารดาได้ บุตรชายก็มากลายเป็นของผู้อื่น การที่เขาสามารถทนอยู่ต่อไปในคุกน้ำได้ คาดว่าคงเพราะยังมี