ขณะหลิงหว่านมองฮูหยินลั่วรีบพาลั่วอวี้จูจากไปก็พลันกล่าวต่อหลิงอวี๋เสียงต่ำ“ท่านพี่ ฮูหยินลั่วผู้นี้มิใช่คนประเภทที่กลับเนื้อกลับตัว ท่านมิเห็นหรือว่านางจ้องท่านอย่างโหดเหี้ยมก่อนจากไป? ท่านระวังนางมาล้างแค้นท่านทีหลังนะเจ้าค่ะ!”หลิงอวี๋ส่ายศีรษะพลางกล่าวเสียงแผ่ว “ข้ารู้ว่านางคือคนสันดอนขุดง่าย สันดานขุดยาก!”“ข้าเพียงยืนในจุดยืนของมารดา จึงให้โอกาสนางสักครั้ง!”เพราะหลิงอวี๋จำแม่นมลี่ในตอนแรกได้ว่าเคยโขกหัวคำนับเพื่อขอให้ไป่สือช่วยหลิงเยวี่ยนจนเลือดอาบเต็มหน้าแม้ฮูหยินลั่วพูดจาทิ่มแทง แต่กลับดูเป็นความรักของแม่ที่มีลั่วอวี้จูจากใจจริงหากฮูหยินลั่วเข้าใจโอกาสอันล้ำค่านี้ก็คงจะพิจารณาตัวเองให้ดี ชี้แนะลั่วอวี้จูอย่างดี นั่นคือเรื่องอันดีนัก!หากยังกล้ามายั่วยุตนอีก หลิงอวี๋จะไม่คุยดี ๆ ด้วยขนาดนี้แล้ว!เซียวทงกับจ้าวเจินเจินจ้องหลิงอวี๋เหี้ยม คนดีใจกว้างล้วนเป็นหลิงอวี๋กระทำ เมื่อเทียบกับพวกนางแล้วทั้งคู่ดูโหดร้ายอย่างยิ่ง!แล้วจะให้กลืนความแค้นนี้ลงไปได้อย่างไร!จ้าวเจินเจินมองทางหลิงอวี๋พลางยกยิ้มชั่วร้าย มันยังมีอุบายสุดท้ายอยู่เถอะ!หลิงอวี๋ หากเจ้าออกจากงานชมบุปผาใน
หลิงอวี๋กล่าวต่อเซียวหลินเทียนอย่างจนปัญญาว่า “เช่นนั้นหม่อมฉันขอไปดื่มชาก่อนค่อยกลับเพคะ!”เซียวหลินเทียนพยักศีรษะพลางมองหลิงอวี๋เดินจากไปพระสนมหรงนั่งในศาลาที่สวนดอกไม้ โดยมีเสิ่นจวนค่อยรับใช้อยู่ข้าง ๆ องค์หญิงหกก็อยู่ด้วยเช่นเดียวกัน“หลิงอวี๋ขอเข้าเฝ้าพระสนมหรงเพคะ!”หลิงอวี๋โค้งคารวะพระสนมหรงปรายมองนางอย่างไม่ร้อนไม่หนาวพลางพยักหน้าเล็กน้อย “นั่งเถอะ!”หลิงอวี๋พลันนั่งลงที่เก้าอี้ข้าง ๆ“พี่สะใภ้ ดื่มชาเจ้าค่ะ!”เสิ่นจวนถือถ้วยชามารินชาให้หลิงอวี๋ และรินให้องค์หญิงหกกับพระสนมหรงด้วยเช่นกัน“นี่คือชาเม็ดแตงแห่งลู่อัน(1)ที่องค์จักรพรรดิทรงมอบแก่องค์หญิงหกในคราก่อนหรือเพคะ? ช่างหอมนัก!”พระสนมหรงยกชามาดมแล้วพลันร้องทักอย่างแปลกใจ“ว่ากันว่าองค์จักรพรรดิมีเพียงสองขวดโหล และยังมอบให้องค์หญิงขวดโหลหนึ่ง! องค์หญิงหกเพคะ องค์จักรพรรดิช่างโปรดปรานท่านโดยแท้!”เซียวทงกล่าวภูมิใจและเหิมใจว่า “นั่นแน่นอน! หลังตัวข้ารับมาก็ตัดใจดื่มมิได้เสียที วันนี้นำมาเพราะอยากต้อนรับแขกผู้มีเกียรติ!”พระสนมหรงพูดยิ้ม ๆ อย่างเอาใจ “หากเป็นเช่นนั้นข้าต้องดื่มเพิ่มสักสองถ้วยแล้ว ชาเม็ดแตงแห่งลู
“พี่สะใภ้ นี่คือชาดีที่หาดื่มได้ยากนัก!”เสิ่นจวนกล่าวอย่างมีไมตรี “เมื่อครู่เจ้าคงร่วมการประลองเหนื่อยแล้วเป็นแน่ ดื่มเพิ่มอีกสองถ้วยพลางชื่นชมบุปผาสนุกให้เต็มที่สักหน่อยเถอะ!”หลิงอวี๋คลี่ยิ้มน้อย ๆ ชายมองเสิ่นจวน และถือถ้วยชากล่าวว่า “เจ้าอย่ามัวแต่รินชาให้เรา เจ้าก็นั่งลงดื่มด้วยเถิด!”“เจ้าพักอยู่ตำหนักอ๋องอี้มานานนัก และช่วยดูแลสามีข้าอย่างยากลำบาก ถ้วยนี้แด่เจ้า!”หลิงอวี๋รินชาหนึ่งถ้วยให้เสิ่นจวน เสิ่นจวนตะลึงไปชั่วขณะ พลางมองทางองค์หญิงหกอย่างลำบากใจอยู่บ้างเซียวทงปรายมองนางเย็นชา เสิ่นจวนไร้ทางเลือกทำได้เพียงยกชามาดื่มหลิงอวี๋เชิดยิ้มหยันโดยยากจะสังเกตพบ และนั่งลงที่เดิมเสิ่นจวนรู้สึกกระสับกระส่าย ลุกขึ้นพรวดพลางกล่าวว่า “พี่สะใภ้เจ้าคะ ข้าขอเติมน้ำให้ท่าน!”“มิต้องแล้ว…!”มือของเสิ่นจวนสั่นเทาในขณะที่หลิงอวี๋กำลังบ่ายเบี่ยง กาน้ำชาจึงเอนเอียงจนทำให้ชาหกใส่กระโปรงหลิงอวี๋กะทันหันหลิงอวี๋โดนลวกจนเกือบสะดุ้งเมื่อเสิ่นจวนเห็นเหตุการณ์จึงวางกาน้ำชาลงใกล้ ๆ อย่างตะลีตะลาน“พี่สะใภ้ ข้าขอโทษเจ้าค่ะ… ท่านมีแผลน้ำลวกหรือไม่เจ้าคะ?”เสิ่นจวนล้วงผ้าเช็ดหน้าออกมาช่วยเช
มุมปากหลิงอวี๋เชิดยิ้มหยัน แม้องค์หญิงหกจะเสียของล้ำค่าไปสามชิ้นก็ยังไม่ได้เรียนรู้บทเรียน!ยังบังอาจยั่วยุตนอีก!นี่คงจะใช้ชีวิตจนเบื่อแล้วจริง ๆ!ยังมีเสิ่นจวนอีกคน ช่วงที่นางพักอยู่ตำหนักอ๋องอี้ ตอนแรกก็คึกคักกระโดดโลดเต้น แต่ต่อมาก็สงบเสงี่ยมเจียมตัวหลิงอวี๋ไม่เคยเชื่อว่าเสิ่นจวนจะกลับเนื้อกลับตัวจริง ๆ และนางคอยเสิ่นจวนเคลื่อนไหวมาตลอดแต่คิดไม่ถึงเลยว่าวิธีเคลื่อนไหวของเสิ่นจวนจะช่วยคนเลวทำชั่วเยี่ยงนี้!ตำแหน่งพระชายาอ๋องอี้มันหอมหวานขนาดนั้นเชียวหรือ?เพิ่งจบกับชิวเหวินซวง เสิ่นจวนก็มาอีกคน!หลิงอวี๋บ่ายหน้าไปพลางคลี่ยิ้มเย็นชา และพบกับตั่งเตียงอันเรียบง่ายอยู่ในห้อง!องค์หญิงหกกับเสิ่นจวนหมายจับตนกับชายสักคนให้อยู่บนเตียงด้วยกันหรือ?เรื่องนี้จ้าวเจินเจินกับพระสนมหรงก็รู้เบื้องลึกสินะ!ดี… ดีมาก!บัญชีนี้นางจะจำไว้ หากมีโอกาสจะชำระพวกนางไปทีละคนแน่!หลิงอวี๋พบว่าประตูถูกลงกลอนจึงไปตรวจสอบหน้าต่าง หน้าต่างก็ถูกปิดไว้จากข้างนอกอย่างแน่นหนา ผลักไม่ออกโดยสิ้นเชิง“เถาจื่อ…!”หลิงอวี๋เริ่มร้อนใจ ตอนเถาจื่อไปเอาน้ำ หากองค์หญิงหกกับเสิ่นจวนทำร้ายตน ตัวนางเองสามารถรับมือ
“ชาขององค์หญิงหกดีที่สุดจริง ๆ คงน่าเสียดายแย่หากเหล่าองค์ชายมิได้ลิ้มลอง!”จ้าวเจินเจินก็กล่าวยิ้มน้อย ๆ องค์ชายคังตอบอย่างรู้กัน “เช่นนั้นก็ต้องลิ้มลองสักหน่อย! ขอเชิญท่านอ๋องผิงหนาน พระชายาผิงหนานและพวกรัฐทายาทอันมาด้วยกันเถิด! มีสิ่งดี ๆ ก็ต้องแบ่งปันทุกคน!”เซียวทงพลันให้นางกำนัลไปเชิญคน และในไม่ช้า คนกลุ่มใหญ่ก็ติดตามนางกำนัลมาแล้วเดิมทีหลิงหว่านกับอันซินไม่อยากมา นางกำนัลเจาะจงบอกว่าองค์หญิงหกมีเรื่องอยากคุยกับพวกนาง พวกนางจึงจำใจต้องตามมา“ที่เรือนด้านหลังข้าให้คนเตรียมของว่างน้ำชาสุดประณีตไว้แล้ว มันช่างเข้ากับชาดียิ่งนัก ต้องทำให้พวกเจ้าดื่มจนสบายอารมณ์แน่นอน!”เซียวทงตั้งใจให้นางกำนัลเชิญฉินซานมาเช่นกัน นางกล่าวยิ้ม ๆ ต่อฉินซาน“ที่งานชมบุปผาในวันนี้ของตัวข้าจัดขึ้นได้สำเร็จโดยไร้การจลาจล เป็นเพราะความแข็งขันของแม่ทัพฉินมิเสื่อมคลาย!”“แม่ทัพฉิน ประเดี๋ยวข้าขอรินชาให้ท่านเพื่อแสดงความขอบคุณด้วยตัวข้าเอง!”ฉินซานตอบอย่างใจเย็น “นี่คือหน้าที่ของกระหม่อม กระหม่อมมิควรได้รับคำขอบคุณเช่นนี้จากองค์หญิงพ่ะย่ะค่ะ!”กลุ่มคนคุยเฮฮากันพลางเดินเข้าสวนดอกไม้เล็ก ๆ เมื่อมาถึงห
“สวรรค์! พระชายาอ๋องอี้ผู้สง่า คิดมิถึงเลยว่าจะกระทำเรื่องต่ำช้าเช่นนี้ในตอนกลางวันแสก ๆ!”ไม่รู้ว่าเป็นเสียงผู้ใดร้องทักหลิงหว่านที่ตามหลังอย่างใกล้ชิดเมื่อได้ยินก็ตกใจไปทันที!นางหมายฝ่ากลุ่มคมเบียดเข้าไปดู แต่รู้สึกกระวนกระวายใจนักที่กลับถูกคนมากมายขวางข้างหน้าไว้!เมื่อเซียวทงเห็นหลิงอวี๋ผมเผ้าสยายและอยู่ในสภาพกระอักกระอ่วนใจ จึงอดยกยิ้มย่ามใจมิได้หลิงอวี๋ที่ถูกจับได้ว่ากำลังล่วงประเวณี วันนี้เจ้าจะยังเถียงข้าง ๆ คู ๆ ได้อีกหรือ?“หลิงอวี๋… นางหญิงสำส่อน! เจ้ากระทำเช่นนี้ละอายใจต่อเสด็จพี่สี่หรือไม่?”เซียวทงเรียกขึ้นอย่างปวดใจ “ขนาดอยู่ในงานชมบุปผาของข้า เจ้ายังบังอาจทำสิ่งเลวทรามยิ่งกว่าสัตว์ที่นี่! เจ้า… เจ้าทำให้ราชวงศ์ต้องขายหน้าโดยแท้!”“ท่านปู่เฉิง ท่านต้องตัดสินเพื่อเสด็จพี่สี่เพคะ! วันนี้ต้องสังหารนางชั่วหลิงอวี๋ ไม่อาจให้นางมีชีวิตอยู่ทำราชวงศ์ขายหน้าได้เพคะ!”พระสนมหรงก็กระโจมเข้ามาอย่างเดือดดาล “หลิงอวี๋ นางหญิงสำส่อน… เจ้ากล้าดีอย่างไรมาทำเรื่องโสมมเช่นนี้!”“ท่านอ๋องเฉิง นี่มันช่างคาหนังคาเขายิ่งนัก วันนี้ท่านต้องให้ความเป็นธรรมกับเทียนเอ๋อร์นะเพคะ สังหารห
องค์ชายคังยิ้มกล่าวย่ามใจ “น้องสี่ ทุกคนตาสว่างแล้ว! หลิงอวี๋กระทำสิ่งเลวทรามเช่นนี้นั้นมิคู่ควรกับมงกุฎดอกโบตั๋นเสียเลย!”“การเดิมพันในวันนี้เป็นเจ้าแพ้! ม้ากีบขาวของข้ามิขอส่งให้เจ้า… เจ้าอย่าลืมส่งดาบสามมังกรให้ข้าด้วยแล้วกัน!”ขณะที่เซียวทงกับคนอื่น ๆ กำลังพากันวิพากษ์วิจารณ์หลิงอวี๋ ทันใดนั้นก็เกิดเสียงเหยียดหยามแผ่มาข้างหลังของทุกคน“อ้าว… หากเดิมพันก็ต้องยอมรับพ่ายสิ ขนาดเด็กยังรู้ความเลย!”“ทำไม องค์ชายคังแพ้ไม่เป็นรึ เลยหาคนมาใส่ไคล้ตัวข้า?”หลิงอวี๋?เมื่อได้ยินเสียงนี้กะทันหัน คนจำนวนมากพลันตกใจราวเห็นผี!เสียง… เสียงนี้ทำไมถึงดังมาจากข้างหลังพวกเขาเล่า?หลิงอวี๋กำลังฟุบกับพื้นแกล้งหมูตายหน้าด้าน ๆ อยู่มิใช่รึ?เซียวหลินเทียนหันหน้ามาคนแรกและหลังจากพบว่าเป็นหลิงอวี๋ มุมริมฝีปากของเขาจึงเผยรอยยิ้มขึ้นทันทีเป็นไปตามคาด!หลิงอวี๋มิใช่สตรีโง่เขลาอย่างที่เคยเป็นอีกต่อไป!นางในยามนี้ ไม่เพียงฉลาดปราดเปรื่อง แต่ยังงดงามมีสง่า นางจะเล่นชู้ได้อย่างไร!ที่เขานิ่งเงียบ เป็นเพราะอยากให้โอกาสคนพวกนี้แสดงละครเท่านั้น!ก่อนหน้านี้เซียวหลินเทียนก็สงสัยว่าอาจมีเล่ห์อยู่เบื้องห
คราวนี้เซียวทงถูกตีจนมึน หลังจากที่ตั้งสติได้ นางก็จ้องหลิงอวี๋อย่างคับแค้นใจพลางตะโกน“หลิงอวี๋ เจ้าตีข้าด้วยเหตุใด? หากวันนี้เจ้ามิให้ข้าตีคืน ข้าจะฆ่าเจ้า!”หลิงอวี๋หัวเราะเยาะพลางเอ่ย “ท่านยังมีหน้ามาถามหม่อมฉันอีกหรือ? หม่อมฉันเป็นพี่สะใภ้ของท่าน! ท่านเอ่ยวาจาให้ร้ายข้าว่าลักลอบเป็นชู้โดยไม่มีหลักฐาน หม่อมฉันยังตีท่านมิได้อีกหรือ!?”“เซียวทง ท่านบอกหม่อมฉันมาว่าสิ่งใดคือการที่บอกว่า เห็น ๆ อยู่ว่าคนข้างในคือหม่อมฉัน?”“เหตุใดท่านจึงมั่นใจนักว่าคนที่อยู่ข้างในน่าจะเป็นหม่อมฉัน?”“หรือว่า... ที่นางกำนัลเชิญหม่อมฉันมาดื่มชากับท่านนี่เป็นแผนของท่านใช่หรือไม่! ที่เสิ่นจวนทำน้ำชาหกเปียกชุดของหม่อมฉันก็เป็นแผนของท่าน! ที่จัดแจงให้หม่อมฉันไปเปลี่ยนอาภรณ์ที่เรือนด้านหลังก็เป็นแผนของท่าน! ภาพที่คนสองคนข้างในแอบทำอะไรกันนั่นอีก ทั้งหมดนี้มันเป็นแผนของท่านใช่หรือไม่!?”“บอกมา! เรื่องในวันนี้เป็นแผนการที่ท่านจัดวางขึ้นมาเอง หรือว่าสมคบคิดกับคนอื่นแล้วทำด้วยกัน?!”หลิงอวี๋ก้าวไปข้างหน้า ดวงตาเต็มไปด้วยความเยือกเย็นและกลิ่นอายสังหารร้ายแรง ทำให้เซียวทงถอยหลังไปโดยไม่รู้ตัวนี่เป็นครั้งแร
“หึหึ!”ชายาเจ้าแห่งทะเลหัวเราะออกมา “หลิงอวี๋ เจ้าคิดว่าข้าโง่รึ? หยกหล้าสุขาวดีหลอมรวมเป็นหนึ่งเดียวกับเจ้าแล้ว ค้นตัวเจ้าจะหาเจอได้อย่างไร?”“หลิงอวี๋ หยกหล้าสุขาวดีมิใช่ของของเจ้าตั้งแต่แรก มารดาเจ้าเป็นนางโจร ขโมยมหาวัตถุศักดิ์สิทธิ์ของจวนเจ้าแห่งทะเลไป การให้เจ้าคืนมาก็แค่เป็นการคืนของสู่เจ้าของเดิม!”“ข้าสืบรู้มาหมดแล้ว เจ้าและเซียวหลินเทียนสามีของเจ้าต่างก็อยู่ในเมืองหลวงแดนเทพ เจ้ายังมีบุตรชายอีกคนที่ฉินตะวันตก!”“หลิงอวี๋ ที่เจ้าปฏิเสธมิยอมรับฐานะของตนเองมาตลอด คงเป็นเพราะล่วงรู้ถึงวิธีที่จะนำหยกหล้าสุขาวดีออกมาแล้วสินะ”“เจ้าคิดว่าอย่างไรก็ต้องตายอยู่ดี ดังนั้นเจ้าจึงคิดว่า ขอเพียงมิยอมรับก็เป็นไปมิได้ที่พวกเราจะมัดตัวเจ้าไปสลายเลือดละลายกระดูกที่ภูเขาศักดิ์สิทธิ์เพื่อนำหยกหล้าสุขาวดีออกมา!”ชายาเจ้าแห่งทะเลพูดถึงตรงนี้ก็แค่นเสียงหัวเราะ “เจ้าเชื่อหรือไม่ ข้ามิจำเป็นต้องพิสูจน์ยืนยัน ก็สามารถมัดตัวเจ้าไปภูเขาศักดิ์สิทธิ์ได้แล้ว!”“ที่ข้าให้คนนำตัวเจ้ามาที่จวนเจ้าแห่งทะเล ก็เพื่อจะให้โอกาสเจ้า!”หลิงอวี๋หรือจะยอมรับฐานะของตนเพียงเพราะชายาเจ้าแห่งทะเลพูดเช่นนี้ได้อย่าง
“เข้าไป อย่าให้พ่อบ้านผู้นี้ต้องพูดเป็นครั้งที่สอง!”รอยยิ้มบนใบหน้าของพ่อบ้านเว่ยหายไปสิ้น กล่าวอย่างมิอดทน “เมื่อให้โอกาสดี ๆ มิชอบ ก็ต้องเจอดีเสียบ้าง!”เถาจื่อกำแขนหลิงอวี๋ไว้แน่น และถามผ่านสายตา“ตอนนี้ควรทำอย่างไรดีเจ้าคะ?”หลิงอวี๋ก็คาดมิถึงว่าจวนเจ้าแห่งทะเลจะเปลี่ยนท่าทีเร็วถึงเพียงนี้ ก่อนหน้านี้นางยังคิดว่า เมื่อเข้ามาในจวนเจ้าแห่งทะเลแล้วจะสามารถยื้อเวลาสักพักได้ชายาเจ้าแห่งทะเลมิปรากฏตัว แต่กลับให้พ่อบ้านเว่ยพาตนมาที่นี่เช่นนี้เลย?นี่หมายความว่าอย่างไรกัน?คิดจะขังนางไว้ หรือว่ามีแผนอื่นกระไร?หลิงอวี๋มองไปยังท่าทีมีเจตนาร้ายของพวกพลธนูและชายร่างใหญ่หลายคนที่ยืนอยู่ข้าง ๆ เหล่านั้น นางและเถาจื่อไม่มีทางหนีรอดจากเงื้อมมือของพวกเขาไปได้เลย“เข้าไปก่อนเถอะ!”หลิงอวี๋นำหน้าเดินเข้าไป เถาจื่อตามติดอยู่ข้างหลังหลิงอวี๋เพิ่งจะก้าวเท้าเข้าประตูเรือน เมื่อเห็นสภาพข้างในก็รู้สึกว่ามิดีแน่ เพิ่งจะคิดถอยหลังเถาจื่อกลับถูกคนผลักจากด้านหลังอย่างแรง ชนเข้ากับร่างหลิงอวี๋จนดันหลิงอวี๋เข้าไปข้างในทั้งสองคนล้มลงไปกองรวมกัน ยังมิทันได้ลุกขึ้นยืนก็ได้ยินเสียงดังโครมสนั่นกล
หลงเพ่ยเพ่ยห้อยอยู่บนชะง่อนผานั้น นางเองก็ทนต่อไปมิไหวแล้ว ภายใต้การเกลี้ยกล่อมของทุกคน นางจึงปีนป่ายเชือกขึ้นไปนางนึกถึงจุดประสงค์ที่ตนมาที่นี่ หากเย่หรงตายไปแล้วจริง ๆ เขาย่อมหวังให้นางช่วยหลิงอวี๋ออกมาได้อย่างแน่นอนนางมิอาจทำให้เย่หรงตายตามิหลับได้!เมื่อหลงเพ่ยเพ่ยปีนขึ้นมาได้ก็มิสนใจตรวจสอบบาดแผลของตน นางคุกเข่าลงต่อหน้าฮองเฮาทันทีนางกล่าวเสียงเครือ “เสด็จย่า เรื่องที่ทรงรับปากหม่อมฉันเมื่อครู่ สามารถประทานพระราชโองการให้หม่อมฉันตอนนี้ได้หรือไม่เพคะ?”“เมื่อครู่เย่หรงช่วยชีวิตหม่อมฉันและหยวนซานไว้ เพียงเห็นแก่บุญคุณทั้งสองครั้งนี้ เสด็จย่าทรงควรจะช่วยให้เขาสมหวังนะเพคะ!”ฮองเฮานึกถึงเรื่องที่เย่หรงและหลงเพ่ยเพ่ยอ้อนวอนตนเมื่อครู่ เย่หรงเป็นถึงเพียงนี้แล้ว นางจะยังทำให้คนที่เขาชอบพอลำบากใจได้อีกหรือ?ฮองเฮาถอดปิ่นปักผมอันหนึ่งของตนออกมาโดยมิทันคิด แล้วยื่นให้กับหลงเพ่ยเพ่ย“ถือปิ่นปักผมนี้ไปพาตัวสิงอวี๋ออกมาเถอะ!”หลงเพ่ยเพ่ยรับปิ่นปักผมหงส์คู่ปักทองคำของฮองเฮามาทั้งน้ำตา นี่คือปิ่นปักผมที่ฮองเฮาเท่านั้นจึงจะสวมใส่ได้ เห็นปิ่นดังเห็นองค์ เทียบเท่ากับพระราชโองการของฮองเฮ
“ท่านหญิง...”“เพ่ยเพ่ย...”ฮองเฮาเห็นหลงเพ่ยเพ่ยตกลงไปก็ตกใจจนหัวใจแทบหยุดเต้นไปชั่วขณะ ผานกกระเรียนแห่งนี้เป็นปรปักษ์กับราชวงศ์หรืออย่างไร?เหตุใดถึงได้ตกลงไปทีละคนเช่นนี้?“เร็วเข้า ช่วยคน!”ฮองเฮาตะโกนลั่น นางกำนัลที่มีไหวพริบรีบไปตามองครักษ์มาช่วยทางด้านเย่หรงทรงตัวได้มั่นคงบนชะง่อนผาแล้ว เขาเพิ่งจะถอนหายใจโล่งอกก็ได้ยินเสียงกรีดร้องจากด้านบนเมื่อเงยหน้าขึ้น เขาก็เห็นหลงเพ่ยเพ่ยกำลังร่วงหล่นลงมาหัวใจของเย่หรงหดเกร็งวูบ มิทันได้คิด คว้าเถาวัลย์ข้าง ๆ แล้วโหนตัวไปหาหลงเพ่ยเพ่ยหลงเพ่ยเพ่ยตกใจจนหลับตาลงแล้ว เตรียมพร้อมยอมรับความตายแต่ทันใดนั้นก็รู้สึกเหมือนตนชนเข้ากับคนผู้หนึ่ง จากนั้นร่างก็ถูกกอดไว้“ไปทางนั้น เร็วเข้า คว้าชะง่อนผานั่นไว้!”เย่หรงพลิกตัวกลางอากาศ เหวี่ยงหลงเพ่ยเพ่ยไปทางนั้น หลงเพ่ยเพ่ยพุ่งเข้าใส่ผนังผา แต่ใช้แรงมากเกินไปจนใบหน้าชนกับผนังผาจนถลอก นางเจ็บเสียจนหน้ามืดตาลายแต่นางมิสนใจความเจ็บปวดแทบขาดใจ เช่นเดียวกันกับเย่หรง เขาพยายามสุดชีวิตที่จะคว้าเถาวัลย์เหล่านั้นไว้โชคดีที่เถาวัลย์ฝั่งนี้ยังพันเกี่ยวกับกิ่งไม้มากมาย เถาวัลย์ที่พันกิ่งไม้ไว้นั้
“ซานเอ๋อร์!”หลงอวิ๋นก็เห็นภาพนี้เช่นกัน ทันใดนั้นในสมองก็ว่างเปล่า…ในฐานะมารดา นางจะมิรู้ได้อย่างไรว่าตนลำเอียงต่อบุตรชายทั้งสองคนหยวนซือและหยวนซานป่วยไข้พร้อมกัน นางกลับเฝ้าหยวนซือทั้งวันทั้งคืนส่วนหยวนซานกลับเป็นหยวนซิ่งสามีของนางที่คอยดูแลด้วยตนเองของประทานที่ได้รับจากมหาเทพและเจ้าแห่งทะเลผู้เป็นบิดาในช่วงเทศกาลปีใหม่และวันสำคัญต่าง ๆ นางก็จะให้หยวนซือเลือกก่อน ที่เหลือถึงจะให้หยวนซานเรื่องเช่นนี้นับมิถ้วน แต่หยวนซานกลับถูกหยวนซิ่งบิดาของเขาสั่งสอนมาอย่างดี มิเคยบ่นว่าเรื่องความลำเอียงของนางเลย!บัดนี้มองดูหยวนซานกำลังจะตกหน้าผา หลงอวิ๋นในฐานะมารดาจะสามารถมองดูเฉย ๆ ให้บุตรชายตายตกไปเช่นนี้ได้หรือ?ฝ่ามือหลังมือก็เนื้อเดียวกัน นางทำให้หยวนซานมาสู่ใต้หล้าผืนนี้ หยวนซานมีความผิดอะไร นางมีสิทธิ์อะไรจะทำกับหยวนซานเช่นนี้“ซานเอ๋อร์!”เรื่องนี้เกี่ยวพันถึงชีวิต เมื่อคิดว่าจะต้องสูญเสียบุตรชายคนนี้ไปตลอดกาล หลงอวิ๋นก็พลันเสียใจแต่ก็สายเกินไปนางมิสนใจอีกต่อไปว่าจะทำให้หยวนซือบาดเจ็บหรือไม่ นางใช้แรงดึงหยวนซือออกอย่างแรงแล้วพุ่งเข้าไปที่หน้าผา“ซานเอ๋อร์ แม่มาช่วยเจ้าแล้ว
หลงเพ่ยเพ่ยเห็นท่านหญิงชิงเฉิงและท่านหญิงอวิ๋น ในสมองพลันเกิดความคิดแวบขึ้นมา ถึงได้คิดข้ออ้างนี้ออกเมื่อเห็นเย่หรงตามแนวคิดของตนทัน หลงเพ่ยเพ่ยก็แอบชื่นชมในไหวพริบของเย่หรงในใจ แล้วกล่าวต่อไป“เสด็จย่า ท่านคงมิประสงค์ให้ท่านอาเจ้าแห่งทะเลต้องเสียหน้าใช่หรือไม่เพคะ!”“หากเย่หรงไปหาท่านปู่ของเขาให้ออกหน้า การกระทำอันเผด็จการเช่นนี้ของท่านอาเจ้าแห่งทะเลจะถูกผู้คนรังเกียจ ถึงเวลานั้นก็จะส่งผลกระทบต่อเกียรติของราชวงศ์พวกเรา!”“ในใต้หล้านี้มีสตรีมากมาย ท่านอาเจ้าแห่งทะเลก็มิได้ขาดสตรีที่มาเสนอตัวให้ เหตุใดต้องทำเรื่องทำลายวาสนาคู่ครองของผู้อื่นเช่นนี้ด้วย!”ครั้นฮองเฮานึกถึงความเหลวไหลของเจ้าแห่งทะเลก็รู้สึกเสียหน้ายิ่งนัก กล่าวเสียงเข้ม “เอาเถอะ ย่ารู้แล้ว จะออกพระราชโองการให้พวกเจ้าไปรับคนที่จวนเจ้าแห่งทะเล...”หลงเพ่ยเพ่ยและเย่หรงถอนหายใจโล่งอก เพียงแต่ทั้งสองยังมิทันลุกขึ้นยืน ก็มีเสียงกรีดร้องดังแว่วมาจากที่ไกล ๆได้ยินเสียงคนกำลังตะโกนแว่วมา “ช่วยด้วย เร็วเข้า ใครก็ได้ คุณชายน้อยตกลงไปใต้หน้าผาแล้ว...”ฮองเฮาพลันลุกขึ้นยืน ร้องเรียกอย่างร้อนรน “เร็ว ไปดูซิ ใครตกลงไป?”วันนี้
หลงอวิ๋นได้สติกลับคืนมา ตามปกติแล้วคนทั่วไปหากมิได้ยินคำพูดของท่านหญิงชิงเฉิงก็จะถามว่า “เมื่อครู่เจ้าว่ากระไรนะ?”แต่หลงอวิ๋นกลับมิทำตามปกติ ลุกขึ้นยืนแล้วกล่าวว่า “เสด็จย่า เด็ก ๆ เดินไปไกลแล้ว หม่อมฉันไปตามพวกเขากลับมาดีกว่า ควรลงจากเขาได้แล้วเพคะ!”พูดจบ หลงอวิ๋นก็เดินออกจากศาลาพักร้อนไป ร้องเรียกสาวใช้ของตนว่า “พวกคุณชายใหญ่ไปทางไหนกันหรือ?”เนี่ยนจูนางรับใช้ของหลงอวิ๋นกล่าวพลางยิ้มประจบ “แม่นมจี้และเนี่ยนชิงพาพวกเขาไปทางนั้นเจ้าค่ะ มิน่าจะเดินไปไกล!”“ไป ไปดูกัน!”หลงอวิ๋นเดินตามทิศทางที่เนี่ยนจูชี้ไปโดยมิหันกลับมามองท่านหญิงชิงเฉิงมองแผ่นหลังของนางที่เดินจากไปเช่นนั้นก็โกรธจนแทบจะด่าทอเสียงดังลั่นออกมา“พี่หญิงชิงเฉิง พี่หญิงอวิ๋นไปตามหาเด็ก ๆ แล้ว ท่านมิไปตามหาแก้วตาดวงใจทั้งสองของท่านบ้างหรือ?”หลงเพ่ยเพ่ยเห็นดังนั้นก็จงใจกล่าว “ผานกกระเรียนแห่งนี้แม้จะไม่มีสัตว์ร้าย แต่เด็ก ๆ ยังเล็กนัก เล่นอยู่ริมผา หากพลาดตกลงไป เช่นนั้นก็…”“เจ้าแช่งลูกข้ารึ?”ท่านหญิงชิงเฉิงมองหลงเพ่ยเพ่ยอย่างโกรธเคือง ด่าว่า “หลงเพ่ยเพ่ย เจ้าอายุยังน้อย เหตุใดจึงทำตัวเหลวไหลเช่นนี้ คบหากับเย่ห
“เรื่องคู่ครองของข้ารึ?”หลงเพ่ยเพ่ยชะงักไปครู่หนึ่ง นางยังมิได้พูดคุยเรื่องแต่งงานเลย เหตุใดจึงเกี่ยวข้องกับเรื่องคู่ครองของตนได้เล่า“นี่เป็นเพียงข้ออ้าง หลอกพวกนางไปก่อน แล้วค่อยพูดเรื่องสำคัญกับเสด็จย่าของท่าน!”เย่หรงยิ้มกล่าว “อย่างไรเสีย เรื่องนี้ค่อยอธิบายให้เสด็จย่าของท่านเข้าใจทีหลังก็ได้!”ขณะพูดคุยกัน ทั้งสองก็มาถึงศาลาพักร้อนแล้วท่านหญิงชิงเฉิงที่อยู่ในศาลาเห็นหลงเพ่ยเพ่ยกับเย่หรงตามมาถึงที่นี่ ก็พลันนึกถึงคำกำชับของชายาเจ้าแห่งทะเลนางรีบชิงพูดก่อน “ท่านหญิงฉางเล่อก็มาด้วยรึ อ้าว นี่พาคุณชายมาด้วย!”“คุณชายผู้นี้หน้ามิคุ้นเลย เมื่อก่อนมิเคยเห็น เป็นคุณชายจากตระกูลใดกัน?”เย่หรงเห็นใบหน้างดงามของท่านหญิงชิงเฉิงแสดงท่าทีดูแคลนก็รู้ว่าอันที่จริงนางรู้ว่าตนเป็นใครเพียงแต่เหมือนกับพวกคนหัวสูงในเมืองหลวงแดนเทพ นางก็ดูถูกตนที่เป็นบุตรชายที่มิได้เรื่องของตระกูลเย่เช่นกันเสด็จย่าของหลงเพ่ยเพ่ยยังคงดูสดใสร่าเริง อายุหกสิบกว่าปีแล้วแต่ใบหน้ายังคงเปล่งปลั่งมีน้ำมีนวล แทบจะไม่มีริ้วรอยเลยฮองเฮาได้ยินคำพูดของท่านหญิงชิงเฉิงก็มองมาอย่างสงสัย พินิจพิจารณาเย่หรง แล้วกล่าวพล
สิ่งที่เย่หรงคิด หลงเพ่ยเพ่ยก็คิดถึงเช่นกัน นางกล่าวกับเย่หรงอย่างขัดแย้งในใจ“เจ้าคิดจะบอกเรื่องที่เฉาฮุยยังมีชีวิตอยู่ให้พี่หญิงอวิ๋นฟังรึ?”“แต่เช่นนี้ก็มิยุติธรรมกับพี่เขยหยวน เขาและพี่หญิงอวิ๋นก็มีลูกชายด้วยกันอีกคนแล้ว หากบอกพี่หญิงอวิ๋นว่าเฉาฮุยยังมีชีวิตอยู่ จะเป็นการทำลายครอบครัวของพวกเขาเสียเปล่า!”“ข้ามิชอบที่ชายาเจ้าแห่งทะเลทำกับเฉาฮุยเช่นนี้ แต่พี่เขยหยวนและหลานชายตัวน้อยของข้าเป็นผู้บริสุทธิ์!”“อีกอย่าง พี่เขยหยวนก็ดีต่อพี่หญิงอวิ๋นมาก ก่อนหน้านี้ข้ายังอิจฉาพี่หญิงอวิ๋นที่ได้ลงเอยกับคนที่ดี!”เย่หรงยิ้มเย็นชา “เช่นนั้นยุติธรรมกับเฉาฮุยแล้วหรือ? เขายังมีบิดามารดาที่ต้องกตัญญูเลี้ยงดู ท่านหญิงอวิ๋นมิช่วยเขาออกมา แล้วจะมีใครช่วยเขาได้อีก?”“ชั่วชีวิตของเขาจะต้องอยู่ในคุกน้ำไปตลอดหรือ? นี่มันโหดร้ายยิ่งกว่าการฆ่าเขาทิ้งเสียอีก!”หลงเพ่ยเพ่ยพูดมิออกเดิมทีเฉาฮุยมีอนาคตที่สดใส เพียงเพราะรักใคร่กับท่านหญิงอวิ๋น ถึงต้องตกอยู่ในชะตากรรมอันน่าเศร้าเช่นนี้มิอาจกตัญญูเลี้ยงดูบิดามารดาได้ บุตรชายก็มากลายเป็นของผู้อื่น การที่เขาสามารถทนอยู่ต่อไปในคุกน้ำได้ คาดว่าคงเพราะยังมี