แม่นมเว่ยนำถ้อยคำของไทเฮาเหลียงไปถ่ายทอดถึงจักรพรรดิอู่อัน ความโกรธของจักรพรรดิอู่อันก็หายไปครึ่งนึงทันทีเขาเอ่ยกับฮองเฮาเว่ยด้วยความโกรธ “ในเมื่อไทเฮาบอกมาเช่นนี้ เช่นนั้นก็รอวันมะรืนดีกว่า! หากหลิงอวี๋มิสามารถพิสูจน์ความบริสุทธิ์ของนางได้ในวันมะรืน ข้าจะออกคำสั่งให้อ๋องอี้หย่ากับหลิงอวี๋แล้วค่อยลงโทษนาง!”ฮองเฮาเว่ยแอบกัดฟัน ในใจก็รู้สึกเกลียดไทเฮาเหลียงขึ้นมานางคิดว่าหากเวลายิ่งยาวนานไปจะยิ่งมีอุปสรรคมากขึ้น จึงอยากจะตัดหนทางของหลิงอวี๋เสียก่อน ไหนเลยจะคิดว่าไทเฮาเหลียงแม่เฒ่าเลวผู้นี้ จนถึงเวลานี้แล้วจะยังคงปกป้องหลิงอวี๋เช่นนี้ไทเฮาบอกมาเช่นนี้แล้ว องค์จักรพรรดิไม่มีทางเปลี่ยนใจอย่างแน่นอนฮองเฮาเว่ยจะพูดอะไรได้อีกเล่า!นางคิดว่านางได้บอกกับพระชายาเว่ยแล้ว หากพระชายาเว่ยฉลาดก็คงจะลงมือโจมตีก่อน!......ราชสำนักฝ่ายในท่านอ๋องเฉิงให้แม่นางเหยียนพาหลิงอวี๋ไปสอบปากคำทางด้านหลิงอวี๋ยังคงมิสามารถทำสิ่งใดได้ นางยังคิดมิออกว่าจะช่วยเฮ่ออันได้อย่างไรดีนางบอกเรื่องการคาดเดาของนางเกี่ยวกับพระชายาเส้าให้ท่านอ๋องเฉิงรู้ แล้วให้ท่านอ๋องเฉิงช่วยตนถ่ายทอดเรื่องเหล่านั้นไปให้เซียว
“อย่าเพิ่งใจร้อน! นั่งลงแล้วค่อย ๆ พูดกัน!”เซียวหลินเทียนเห็นรอยฟกช้ำบนใบหน้าของหลิงอวี๋ ก็อดมิได้ที่จะสัมผัสมันอย่างปวดใจ“ข้าพบเบาะแสบางอย่างแล้ว จึงเข้ามาคุยกับเจ้า”“เหล่าเอ้อร์ที่ถูกเจ้าแทงเมื่อวานนี้คือเนี่ยนซวงจากตำหนักพระชายาซิ่น พระชายาซิ่นแจ้งกับผู้ดูแลภายในว่านางหายตัวไป แต่กองทัพหลวงมิพบบุคคลนี้ในวังเลย!”“พระชายาซิ่น?” หลิงอวี๋มิได้รู้จักพระชายาในวังมากนัก“นางเป็นแม่ขององค์หญิงเจ็ด และยังมีองค์ชายอีกคนหนึ่งที่เป็นลูกแท้ ๆ ของนาง ปีนี้เขาอายุเพียงสิบขวบเท่านั้น พระชายาซิ่นไม่มีทางสร้างศัตรูกับเราเพียงเพื่อองค์ชายที่อายุน้อยเช่นนี้แน่!”เซียวหลินเทียนเล่าเรื่องตงฮุ่ยกับตงจู๋ให้หลิงอวี๋ฟัง รวมถึงความสงสัยของเขาเกี่ยวกับพระชายาเส้าด้วยหลิงอวี๋ฟังแล้วก็หัวเราะเยาะ “หม่อมฉันก็คิดว่าผู้บงการอยู่เบื้องหลังคือพระชายาเส้าเช่นกัน! วิธีการของนางฉลาดมาก คนที่นางใช้ล้วนเป็นคนที่นางให้แทรกซึมอยู่ในตำหนักของผู้อื่น! หากถูกเปิดโปงก็จะไม่มีใครสงสัยนาง!”หลิงอวี๋บอกทุกอย่างที่นางคิดให้เซียวหลินเทียนฟังเมื่อเซียวหลินเทียนฟังที่หลิงอวี๋บอกว่า คนลึกลับมิได้ฆ่าเฮ่ออัน อาจจะอยากดูว่า
หลิงอวี๋คิดว่าท่านจินต้ามีความรู้มากมาย ดังนั้นนางจึงเขียนคำสองสามคำนั้นลงบนพื้นให้ท่านจินต้าดูท่านจินต้าดูแล้วก็เอ่ย “นี่น่าจะเป็นตัวอักษรของเยวี่ยใต้เมื่อกว่าร้อยปีที่แล้ว อักษรเช่นนี้เลิกใช้ไปแล้วและเขียนยากเกินไป”“เมื่อร้อยกว่าปีที่แล้วหลังจากที่จักรพรรดิมู่หรงเกาจู่แห่งเยวี่ยใต้ขึ้นครองบัลลังก์ พระองค์ได้ระดมนักวิชาการมาพัฒนาอักษร พยายามที่จะรวมเข้ากับสี่แคว้นเพื่อให้สะดวกทางการค้าระหว่างแคว้น!”“ภายใต้อิทธิพลของพระองค์ ตอนนี้ทั้งสี่แคว้นจึงมีอักษรกับภาษาที่คล้ายคลึงกันมากแล้ว!”หลิงอวี๋รู้สึกหงุดหงิดเล็กน้อย หรือว่าท่านจินต้าเองก็มิเข้าใจคำเหล่านี้เช่นกัน?เช่นนั้นตนจะหาทางช่วยเฮ่ออันได้เยี่ยงไรเล่า?ท่านจินต้าเห็นท่าทางลำบากใจของหลิงอวี๋ จึงยิ้มแล้วเอ่ย “พระชายามิต้องกังวล อย่าคิดว่าอักษรมันซับซ้อน อักษรเหล่านี้ก็มีกฎเกณฑ์ของมัน หากอนุมานตามอักษรปัจจุบันของเรา แม้ว่าจะเข้าใจได้มิหมด แต่ก็พอจะเข้าใจความหมายทั่วไปได้!”หลิงอวี๋คิดอยู่พักหนึ่งแล้วใช้วิธีที่ท่านจินต้าสอนมาลองอนุมานดู มันก็เหมือนกับอักษรจีนตัวเต็มกับตัวย่อในยุคปัจจุบัน มีบางตัวที่เปลี่ยนไปโดยสิ้นเชิง แต่บางตั
เมื่อเห็นท่าทีกระตือรือร้นของหลิงอวี๋ ท่านจินต้าก็มีแรงใจขึ้นมา แล้วเอ่ยต่อ“ข้าก็ได้ยินมาจากคำบอกเล่าเช่นกัน มิรู้รายละเอียดมากนัก... ว่ากันว่ายิ่งพลังวิญญาณของพวกเขายิ่งฝึกจนอยู่ขั้นสูงเท่าไร ความสามารถก็จะยิ่งแข็งแกร่งขึ้นเท่านั้น สามารถควบคุมอากาศให้เป็นดาบได้ ควบแน่นน้ำให้เป็นน้ำแข็งได้ ทั้งยังผนึกวิญญาณได้ด้วย! ใช้สัตว์เทพมาใช้ประโยชน์ส่วนตัวได้อีก!”เซียวหลินเทียนฟังแล้วก็ตะลึง เขากับท่านจินต้ามิเคยคุยกันถึงตำนานเหล่านี้เลย เขามืรู้จริง ๆ ว่ามีชนเผ่าที่มีวรยุทธที่แข็งแกร่งถึงเพียงนี้อยู่ในใต้หล้าด้วย“ท่านจินต้า เช่นนั้นตามที่ท่านบอก หากเราเผชิญหน้ากับคู่ต่อสู้ที่มีพลังวิญญาณที่แข็งแกร่งเช่นนี้ วรยุทธของข้าก็อ่อนแอมากสำหรับพวกเขาใช่หรือไม่?”ท่านจินต้าพยักหน้าอย่างระมัดระวัง “หากตำนานเป็นเรื่องจริง วรยุทธของท่านอ๋องก็อ่อนแอสำหรับพวกเขาอย่างแน่นอนพ่ะย่ะค่ะ!”เซียวหลินเทียนตะลึงไปครู่หนึ่ง จากนั้นก็ส่ายหัวพลางเอ่ย “ข่าวลือทั้งหมดมันเกินจริงไป! ข้ามิเชื่อว่าจะมีคนที่แข็งแกร่งเช่นนี้ในใต้หล้า!”แต่หลิงอวี๋กลับมิได้มองในแง่เดียวกับเซียวหลินเทียน ตัวนางเองเป็นคนที่ข้ามมิติมา ทั
หลังจากที่ทั้งสองคนออกไปแล้ว หลิงอวี๋ก็พบแนวทางแล้วก็ศึกษาตำราการแพทย์ต่อไปมิรู้เช่นกันว่าดูไปนานเท่าใดก่อนที่จะได้ยินเสียงฝีเท้าสองคน คนหนึ่งก้าวหนักกับอีกคนก้าวเบาหลิงอวี๋รีบซ่อนตำราการแพทย์ไว้ในมิติทันทีทันทีที่ออกมา ก็เห็นร่างคนสองคนยืนอยู่นอกประตูห้องขังเป็นหญิงหนึ่งคน และชายหนึ่งคนร่างกายของชายผู้นั้นถูกซ่อนอยู่ในความมืด หลิงอวี๋รู้สึกถึงกลิ่นอายที่คุ้นเคยบนร่างกายของเขาทันทีคนลึกลับที่ปรากฏตัวในตำหนักหย่งเหอผู้นั้น!หลิงอวี๋ตกใจมาก เหตุใดสองคนนี้จึงมาปรากฏตัวในคุกของราชสำนักฝ่ายในได้?เส้นสายของพระชายาเส้ากว้างไกลมาก!“หลิงอวี๋…”ทันทีที่หญิงผู้นั้นเอ่ย หลิงอวี๋ก็ฟังออกเลยว่านี่คือหัวหน้าที่ลักพาตัวตน!เหตุใดนางจึงออกมาจากวังเล่า?หลิงอวี๋ตกใจเล็กน้อย เซียวหลินเทียนบอกว่า ในเวลานั้นมีกองทัพหลวงเห็นตงฮุ่ยกับตงจู๋จากตำหนักพระชายาฮุ่ยบริเวณใกล้กับตำหนักหย่งเหอ!เช่นนั้นหัวหน้าผู้นี้ก็น่าจะเป็นหนึ่งในนั้นในเวลานี้หัวหน้าผู้นี้ยังกล้าออกจากวังอีก นี่มิเกรงกลัวเลยหรือ?หลิงอวี๋มีความสัมพันธ์ที่ดีกับพระชายาเย่ ก่อนหน้านี้นางลืมให้เซียวหลินเทียนไปเตือนองค์ชายเย่ให้
หลิงอวี๋อดมิได้ที่จะหัวเราะพลางเอ่ย “เทียนซือ เจ้าพาผู้ที่เป็นเซียนมาให้ข้าดูสิ แล้วข้าจะเชื่อคำพูดของเจ้า!”สีหน้าของเก๋อเทียนซือมืดมนลง ตงจู๋จึงดุด้วยความโกรธ “หลิงอวี๋ เทียนซือของเราให้โอกาสเจ้าแล้ว เจ้าอย่ามาทิ้งเกียรตินี้ไปจะดีกว่า!”หลิงอวี๋ยิ้มเย็นชา “เช่นนี้จะเรียกว่าทิ้งเกียรติได้เยี่ยงไรรึ? เมื่อครู่เจ้าบอกว่า ข้ามิเห็นโลงศพมิหลั่งน้ำตา เช่นนั้นก็เป็นเรื่องปกติที่ข้าจะมิลงมือทำสิ่งใดหากมิได้เห็นเป้าหมายที่ชัดเจน!”“ข้าเติบโตมาถึงเพียงนี้ยังมิเคยเห็นคนที่เป็นเซียนเลย เขามิให้ข้าดู ข้าจะเชื่อได้อย่างไรว่าเขาพูดความจริงเล่า?”“ดังเช่นที่ว่า ใคร ๆ ก็วาดรูปอาหารได้ แต่มันกินได้หรือไม่เล่า?”ตงจู๋ถูกหลิงอวี๋ขัดเช่นนั้นก็พูดมิออกเก๋อเทียนซือยิ้มพลางเอ่ย “เจ้านี่ฉลาดมากจริง ๆ ได้สิ การเป็นเซียนอาจจะยากสักหน่อย แต่การที่ความอ่อนเยาว์มิแก่เฒ่านั้น ตัวข้านี้แลที่เป็นตัวอย่างที่ดีที่สุด! หากเจ้าเรียนรู้จากข้า แม้ว่าเจ้าจะมิสามารถเป็นเซียนได้ แต่ก็จะมีชีวิตอยู่ต่อไปได้อีกหลายร้อยปี!”“สาวน้อย หากเจ้าฉลาดมาก เจ้าสามารถเรียนรู้เกี่ยวกับการกลับชาติมาเกิดและยืดอายุของเจ้าเป็นพันปีได้!
หลิงอวี๋หัวเราะเยาะ “ข้ามิรู้ว่าเหตุใดเจ้าจึงคิดว่าข้ามีตำราการแพทย์อยู่ในมือ หรือเจ้าเคยสงสัยบ้างหรือไม่ว่าแหล่งข่าวของเจ้าถูกต้องหรือไม่?”หลิงอวี๋ได้เห็นแล้วว่าความสามารถของเก๋อเทียนซือนั้นเหนือกว่าพวกของเซียวหลินเทียนมากนี่เป็นศัตรูที่น่ากลัวมากในตอนที่พวกเขายังมิสามารถจัดการกับเขาได้ ก็ทำได้เพียงพยายามหลอกเขาให้ดีที่สุด ทำให้เขาคิดว่าตำราการแพทย์มิได้อยู่ในมือของตนจริง ๆ แล้วให้เขาไปหามันที่อื่น!หลิงอวี๋เอ่ยอย่างจริงจัง “เมื่อวานข้าติดคุกก็ครุ่นคิดอยู่นานว่า ซือคงชวิ่นผู้นี้หายตัวไปสิบกว่าปีแล้ว แม้ว่าเขาจะเคยรู้จักท่านแม่ของข้า แต่พวกเจ้ารู้หรือไม่ว่าท่านแม่ของข้าตายเยี่ยงไร?”“นางตายด้วยยาพิษ! หากนางมีตำราของซือคงชวิ่นอยู่ในมือ นางจะตายอย่างอนาถเช่นนั้นหรือ?”เก๋อเทียนซือขมวดคิ้ว เขาเคยสืบเรื่องเหล่านี้ แม้ว่าจะมีคนบอกว่าหลานฮุ่ยจวนตายด้วยอาการป่วยก็ตาม!แต่ตอนหลานฮุ่ยจวนตายนั้นยังเยาว์มาก หากนางมีตำราการแพทย์ของซือคงชวิ่นอยู่ในมือจริง ๆ นางจะป่วยตายได้เยี่ยงไร!ยิ่งไปกว่านั้น วันนี้เขาได้สังเกตหลิงอวี๋อย่างละเอียดแล้วทั้งในตำหนักหย่งเหอและในห้องขังหลิงอวี๋มีพลังวิญ
หลิงอวี๋ถือปิ่นปักผมหมุนไปมา ทันใดนั้นก็มีแสงวาบขึ้นมาในสระน้ำ แม้ว่าแสงจะวาบผ่านแต่หลิงอวี๋ก็สังเกตมันได้นางเดินเข้าไปใกล้สระน้ำ แล้วแสงนั้นก็วูบวาบใต้น้ำ เมื่อแสงอาทิตย์เคลื่อนตัวแสงนั้นก็หายไปมีบางอย่างอยู่ใต้สระน้ำหลิงอวี๋ถอดอาภรณ์ออกแล้วกระโดดลงไปนางดำน้ำไปในที่ที่มีแสงนั้นอยู่หลายครั้ง ในที่สุดก็พบกล่องเหล็กฝังอยู่ในโคลนครึ่งหนึ่งหลิงอวี๋ขึ้นมาบนผิวน้ำด้วยความตื่นเต้นพลางหายใจเข้าเล็กน้อย ก่อนที่จะดำลงไปคราวนี้นางนำกล่องเหล็กขึ้นมาจากสระน้ำได้นางปีนขึ้นฝั่ง เช็ดร่างกายอย่างง่าย ๆ แล้วดูกล่องเหล็กที่ถูกปิดผนึกไว้ มีเพียงรูเล็ก ๆ ที่ด้านบนเท่านั้นดูเหมือนว่าจะเป็นรูปกุญแจ!แต่โลกนี้จะมีรูกุญแจเล็ก ๆ แบบนี้ได้เยี่ยงไร!หลิงอวี๋ขมวดคิ้ว มิรู้ว่าจะเปิดกล่องเหล็กได้เยี่ยงไรทันใดนั้นนางก็เหลือบไปเห็นปิ่นปักผมรูปนกกระเรียนที่วางอยู่บนพื้น ตรงส่วนบนของมันมีขนาดที่พอจะใส่เข้าไปในรูกุญแจได้พอดีเลยมิใช่หรือหลิงอวี๋คุกเข่าลงกับพื้น แล้วเสียบปิ่นปักผมเข้าไปในรูกุญแจปิ่นปักผมมิได้เข้าไปในรูกุญแจทั้งอัน หลิงอวี๋ตื่นเต้น ถือปิ่นรูปนกกระเรียนแล้วหมุนจากนั้นก็ได้ยินเสียงแกร๊
“หึหึ!”ชายาเจ้าแห่งทะเลหัวเราะออกมา “หลิงอวี๋ เจ้าคิดว่าข้าโง่รึ? หยกหล้าสุขาวดีหลอมรวมเป็นหนึ่งเดียวกับเจ้าแล้ว ค้นตัวเจ้าจะหาเจอได้อย่างไร?”“หลิงอวี๋ หยกหล้าสุขาวดีมิใช่ของของเจ้าตั้งแต่แรก มารดาเจ้าเป็นนางโจร ขโมยมหาวัตถุศักดิ์สิทธิ์ของจวนเจ้าแห่งทะเลไป การให้เจ้าคืนมาก็แค่เป็นการคืนของสู่เจ้าของเดิม!”“ข้าสืบรู้มาหมดแล้ว เจ้าและเซียวหลินเทียนสามีของเจ้าต่างก็อยู่ในเมืองหลวงแดนเทพ เจ้ายังมีบุตรชายอีกคนที่ฉินตะวันตก!”“หลิงอวี๋ ที่เจ้าปฏิเสธมิยอมรับฐานะของตนเองมาตลอด คงเป็นเพราะล่วงรู้ถึงวิธีที่จะนำหยกหล้าสุขาวดีออกมาแล้วสินะ”“เจ้าคิดว่าอย่างไรก็ต้องตายอยู่ดี ดังนั้นเจ้าจึงคิดว่า ขอเพียงมิยอมรับก็เป็นไปมิได้ที่พวกเราจะมัดตัวเจ้าไปสลายเลือดละลายกระดูกที่ภูเขาศักดิ์สิทธิ์เพื่อนำหยกหล้าสุขาวดีออกมา!”ชายาเจ้าแห่งทะเลพูดถึงตรงนี้ก็แค่นเสียงหัวเราะ “เจ้าเชื่อหรือไม่ ข้ามิจำเป็นต้องพิสูจน์ยืนยัน ก็สามารถมัดตัวเจ้าไปภูเขาศักดิ์สิทธิ์ได้แล้ว!”“ที่ข้าให้คนนำตัวเจ้ามาที่จวนเจ้าแห่งทะเล ก็เพื่อจะให้โอกาสเจ้า!”หลิงอวี๋หรือจะยอมรับฐานะของตนเพียงเพราะชายาเจ้าแห่งทะเลพูดเช่นนี้ได้อย่าง
“เข้าไป อย่าให้พ่อบ้านผู้นี้ต้องพูดเป็นครั้งที่สอง!”รอยยิ้มบนใบหน้าของพ่อบ้านเว่ยหายไปสิ้น กล่าวอย่างมิอดทน “เมื่อให้โอกาสดี ๆ มิชอบ ก็ต้องเจอดีเสียบ้าง!”เถาจื่อกำแขนหลิงอวี๋ไว้แน่น และถามผ่านสายตา“ตอนนี้ควรทำอย่างไรดีเจ้าคะ?”หลิงอวี๋ก็คาดมิถึงว่าจวนเจ้าแห่งทะเลจะเปลี่ยนท่าทีเร็วถึงเพียงนี้ ก่อนหน้านี้นางยังคิดว่า เมื่อเข้ามาในจวนเจ้าแห่งทะเลแล้วจะสามารถยื้อเวลาสักพักได้ชายาเจ้าแห่งทะเลมิปรากฏตัว แต่กลับให้พ่อบ้านเว่ยพาตนมาที่นี่เช่นนี้เลย?นี่หมายความว่าอย่างไรกัน?คิดจะขังนางไว้ หรือว่ามีแผนอื่นกระไร?หลิงอวี๋มองไปยังท่าทีมีเจตนาร้ายของพวกพลธนูและชายร่างใหญ่หลายคนที่ยืนอยู่ข้าง ๆ เหล่านั้น นางและเถาจื่อไม่มีทางหนีรอดจากเงื้อมมือของพวกเขาไปได้เลย“เข้าไปก่อนเถอะ!”หลิงอวี๋นำหน้าเดินเข้าไป เถาจื่อตามติดอยู่ข้างหลังหลิงอวี๋เพิ่งจะก้าวเท้าเข้าประตูเรือน เมื่อเห็นสภาพข้างในก็รู้สึกว่ามิดีแน่ เพิ่งจะคิดถอยหลังเถาจื่อกลับถูกคนผลักจากด้านหลังอย่างแรง ชนเข้ากับร่างหลิงอวี๋จนดันหลิงอวี๋เข้าไปข้างในทั้งสองคนล้มลงไปกองรวมกัน ยังมิทันได้ลุกขึ้นยืนก็ได้ยินเสียงดังโครมสนั่นกล
หลงเพ่ยเพ่ยห้อยอยู่บนชะง่อนผานั้น นางเองก็ทนต่อไปมิไหวแล้ว ภายใต้การเกลี้ยกล่อมของทุกคน นางจึงปีนป่ายเชือกขึ้นไปนางนึกถึงจุดประสงค์ที่ตนมาที่นี่ หากเย่หรงตายไปแล้วจริง ๆ เขาย่อมหวังให้นางช่วยหลิงอวี๋ออกมาได้อย่างแน่นอนนางมิอาจทำให้เย่หรงตายตามิหลับได้!เมื่อหลงเพ่ยเพ่ยปีนขึ้นมาได้ก็มิสนใจตรวจสอบบาดแผลของตน นางคุกเข่าลงต่อหน้าฮองเฮาทันทีนางกล่าวเสียงเครือ “เสด็จย่า เรื่องที่ทรงรับปากหม่อมฉันเมื่อครู่ สามารถประทานพระราชโองการให้หม่อมฉันตอนนี้ได้หรือไม่เพคะ?”“เมื่อครู่เย่หรงช่วยชีวิตหม่อมฉันและหยวนซานไว้ เพียงเห็นแก่บุญคุณทั้งสองครั้งนี้ เสด็จย่าทรงควรจะช่วยให้เขาสมหวังนะเพคะ!”ฮองเฮานึกถึงเรื่องที่เย่หรงและหลงเพ่ยเพ่ยอ้อนวอนตนเมื่อครู่ เย่หรงเป็นถึงเพียงนี้แล้ว นางจะยังทำให้คนที่เขาชอบพอลำบากใจได้อีกหรือ?ฮองเฮาถอดปิ่นปักผมอันหนึ่งของตนออกมาโดยมิทันคิด แล้วยื่นให้กับหลงเพ่ยเพ่ย“ถือปิ่นปักผมนี้ไปพาตัวสิงอวี๋ออกมาเถอะ!”หลงเพ่ยเพ่ยรับปิ่นปักผมหงส์คู่ปักทองคำของฮองเฮามาทั้งน้ำตา นี่คือปิ่นปักผมที่ฮองเฮาเท่านั้นจึงจะสวมใส่ได้ เห็นปิ่นดังเห็นองค์ เทียบเท่ากับพระราชโองการของฮองเฮ
“ท่านหญิง...”“เพ่ยเพ่ย...”ฮองเฮาเห็นหลงเพ่ยเพ่ยตกลงไปก็ตกใจจนหัวใจแทบหยุดเต้นไปชั่วขณะ ผานกกระเรียนแห่งนี้เป็นปรปักษ์กับราชวงศ์หรืออย่างไร?เหตุใดถึงได้ตกลงไปทีละคนเช่นนี้?“เร็วเข้า ช่วยคน!”ฮองเฮาตะโกนลั่น นางกำนัลที่มีไหวพริบรีบไปตามองครักษ์มาช่วยทางด้านเย่หรงทรงตัวได้มั่นคงบนชะง่อนผาแล้ว เขาเพิ่งจะถอนหายใจโล่งอกก็ได้ยินเสียงกรีดร้องจากด้านบนเมื่อเงยหน้าขึ้น เขาก็เห็นหลงเพ่ยเพ่ยกำลังร่วงหล่นลงมาหัวใจของเย่หรงหดเกร็งวูบ มิทันได้คิด คว้าเถาวัลย์ข้าง ๆ แล้วโหนตัวไปหาหลงเพ่ยเพ่ยหลงเพ่ยเพ่ยตกใจจนหลับตาลงแล้ว เตรียมพร้อมยอมรับความตายแต่ทันใดนั้นก็รู้สึกเหมือนตนชนเข้ากับคนผู้หนึ่ง จากนั้นร่างก็ถูกกอดไว้“ไปทางนั้น เร็วเข้า คว้าชะง่อนผานั่นไว้!”เย่หรงพลิกตัวกลางอากาศ เหวี่ยงหลงเพ่ยเพ่ยไปทางนั้น หลงเพ่ยเพ่ยพุ่งเข้าใส่ผนังผา แต่ใช้แรงมากเกินไปจนใบหน้าชนกับผนังผาจนถลอก นางเจ็บเสียจนหน้ามืดตาลายแต่นางมิสนใจความเจ็บปวดแทบขาดใจ เช่นเดียวกันกับเย่หรง เขาพยายามสุดชีวิตที่จะคว้าเถาวัลย์เหล่านั้นไว้โชคดีที่เถาวัลย์ฝั่งนี้ยังพันเกี่ยวกับกิ่งไม้มากมาย เถาวัลย์ที่พันกิ่งไม้ไว้นั้
“ซานเอ๋อร์!”หลงอวิ๋นก็เห็นภาพนี้เช่นกัน ทันใดนั้นในสมองก็ว่างเปล่า…ในฐานะมารดา นางจะมิรู้ได้อย่างไรว่าตนลำเอียงต่อบุตรชายทั้งสองคนหยวนซือและหยวนซานป่วยไข้พร้อมกัน นางกลับเฝ้าหยวนซือทั้งวันทั้งคืนส่วนหยวนซานกลับเป็นหยวนซิ่งสามีของนางที่คอยดูแลด้วยตนเองของประทานที่ได้รับจากมหาเทพและเจ้าแห่งทะเลผู้เป็นบิดาในช่วงเทศกาลปีใหม่และวันสำคัญต่าง ๆ นางก็จะให้หยวนซือเลือกก่อน ที่เหลือถึงจะให้หยวนซานเรื่องเช่นนี้นับมิถ้วน แต่หยวนซานกลับถูกหยวนซิ่งบิดาของเขาสั่งสอนมาอย่างดี มิเคยบ่นว่าเรื่องความลำเอียงของนางเลย!บัดนี้มองดูหยวนซานกำลังจะตกหน้าผา หลงอวิ๋นในฐานะมารดาจะสามารถมองดูเฉย ๆ ให้บุตรชายตายตกไปเช่นนี้ได้หรือ?ฝ่ามือหลังมือก็เนื้อเดียวกัน นางทำให้หยวนซานมาสู่ใต้หล้าผืนนี้ หยวนซานมีความผิดอะไร นางมีสิทธิ์อะไรจะทำกับหยวนซานเช่นนี้“ซานเอ๋อร์!”เรื่องนี้เกี่ยวพันถึงชีวิต เมื่อคิดว่าจะต้องสูญเสียบุตรชายคนนี้ไปตลอดกาล หลงอวิ๋นก็พลันเสียใจแต่ก็สายเกินไปนางมิสนใจอีกต่อไปว่าจะทำให้หยวนซือบาดเจ็บหรือไม่ นางใช้แรงดึงหยวนซือออกอย่างแรงแล้วพุ่งเข้าไปที่หน้าผา“ซานเอ๋อร์ แม่มาช่วยเจ้าแล้ว
หลงเพ่ยเพ่ยเห็นท่านหญิงชิงเฉิงและท่านหญิงอวิ๋น ในสมองพลันเกิดความคิดแวบขึ้นมา ถึงได้คิดข้ออ้างนี้ออกเมื่อเห็นเย่หรงตามแนวคิดของตนทัน หลงเพ่ยเพ่ยก็แอบชื่นชมในไหวพริบของเย่หรงในใจ แล้วกล่าวต่อไป“เสด็จย่า ท่านคงมิประสงค์ให้ท่านอาเจ้าแห่งทะเลต้องเสียหน้าใช่หรือไม่เพคะ!”“หากเย่หรงไปหาท่านปู่ของเขาให้ออกหน้า การกระทำอันเผด็จการเช่นนี้ของท่านอาเจ้าแห่งทะเลจะถูกผู้คนรังเกียจ ถึงเวลานั้นก็จะส่งผลกระทบต่อเกียรติของราชวงศ์พวกเรา!”“ในใต้หล้านี้มีสตรีมากมาย ท่านอาเจ้าแห่งทะเลก็มิได้ขาดสตรีที่มาเสนอตัวให้ เหตุใดต้องทำเรื่องทำลายวาสนาคู่ครองของผู้อื่นเช่นนี้ด้วย!”ครั้นฮองเฮานึกถึงความเหลวไหลของเจ้าแห่งทะเลก็รู้สึกเสียหน้ายิ่งนัก กล่าวเสียงเข้ม “เอาเถอะ ย่ารู้แล้ว จะออกพระราชโองการให้พวกเจ้าไปรับคนที่จวนเจ้าแห่งทะเล...”หลงเพ่ยเพ่ยและเย่หรงถอนหายใจโล่งอก เพียงแต่ทั้งสองยังมิทันลุกขึ้นยืน ก็มีเสียงกรีดร้องดังแว่วมาจากที่ไกล ๆได้ยินเสียงคนกำลังตะโกนแว่วมา “ช่วยด้วย เร็วเข้า ใครก็ได้ คุณชายน้อยตกลงไปใต้หน้าผาแล้ว...”ฮองเฮาพลันลุกขึ้นยืน ร้องเรียกอย่างร้อนรน “เร็ว ไปดูซิ ใครตกลงไป?”วันนี้
หลงอวิ๋นได้สติกลับคืนมา ตามปกติแล้วคนทั่วไปหากมิได้ยินคำพูดของท่านหญิงชิงเฉิงก็จะถามว่า “เมื่อครู่เจ้าว่ากระไรนะ?”แต่หลงอวิ๋นกลับมิทำตามปกติ ลุกขึ้นยืนแล้วกล่าวว่า “เสด็จย่า เด็ก ๆ เดินไปไกลแล้ว หม่อมฉันไปตามพวกเขากลับมาดีกว่า ควรลงจากเขาได้แล้วเพคะ!”พูดจบ หลงอวิ๋นก็เดินออกจากศาลาพักร้อนไป ร้องเรียกสาวใช้ของตนว่า “พวกคุณชายใหญ่ไปทางไหนกันหรือ?”เนี่ยนจูนางรับใช้ของหลงอวิ๋นกล่าวพลางยิ้มประจบ “แม่นมจี้และเนี่ยนชิงพาพวกเขาไปทางนั้นเจ้าค่ะ มิน่าจะเดินไปไกล!”“ไป ไปดูกัน!”หลงอวิ๋นเดินตามทิศทางที่เนี่ยนจูชี้ไปโดยมิหันกลับมามองท่านหญิงชิงเฉิงมองแผ่นหลังของนางที่เดินจากไปเช่นนั้นก็โกรธจนแทบจะด่าทอเสียงดังลั่นออกมา“พี่หญิงชิงเฉิง พี่หญิงอวิ๋นไปตามหาเด็ก ๆ แล้ว ท่านมิไปตามหาแก้วตาดวงใจทั้งสองของท่านบ้างหรือ?”หลงเพ่ยเพ่ยเห็นดังนั้นก็จงใจกล่าว “ผานกกระเรียนแห่งนี้แม้จะไม่มีสัตว์ร้าย แต่เด็ก ๆ ยังเล็กนัก เล่นอยู่ริมผา หากพลาดตกลงไป เช่นนั้นก็…”“เจ้าแช่งลูกข้ารึ?”ท่านหญิงชิงเฉิงมองหลงเพ่ยเพ่ยอย่างโกรธเคือง ด่าว่า “หลงเพ่ยเพ่ย เจ้าอายุยังน้อย เหตุใดจึงทำตัวเหลวไหลเช่นนี้ คบหากับเย่ห
“เรื่องคู่ครองของข้ารึ?”หลงเพ่ยเพ่ยชะงักไปครู่หนึ่ง นางยังมิได้พูดคุยเรื่องแต่งงานเลย เหตุใดจึงเกี่ยวข้องกับเรื่องคู่ครองของตนได้เล่า“นี่เป็นเพียงข้ออ้าง หลอกพวกนางไปก่อน แล้วค่อยพูดเรื่องสำคัญกับเสด็จย่าของท่าน!”เย่หรงยิ้มกล่าว “อย่างไรเสีย เรื่องนี้ค่อยอธิบายให้เสด็จย่าของท่านเข้าใจทีหลังก็ได้!”ขณะพูดคุยกัน ทั้งสองก็มาถึงศาลาพักร้อนแล้วท่านหญิงชิงเฉิงที่อยู่ในศาลาเห็นหลงเพ่ยเพ่ยกับเย่หรงตามมาถึงที่นี่ ก็พลันนึกถึงคำกำชับของชายาเจ้าแห่งทะเลนางรีบชิงพูดก่อน “ท่านหญิงฉางเล่อก็มาด้วยรึ อ้าว นี่พาคุณชายมาด้วย!”“คุณชายผู้นี้หน้ามิคุ้นเลย เมื่อก่อนมิเคยเห็น เป็นคุณชายจากตระกูลใดกัน?”เย่หรงเห็นใบหน้างดงามของท่านหญิงชิงเฉิงแสดงท่าทีดูแคลนก็รู้ว่าอันที่จริงนางรู้ว่าตนเป็นใครเพียงแต่เหมือนกับพวกคนหัวสูงในเมืองหลวงแดนเทพ นางก็ดูถูกตนที่เป็นบุตรชายที่มิได้เรื่องของตระกูลเย่เช่นกันเสด็จย่าของหลงเพ่ยเพ่ยยังคงดูสดใสร่าเริง อายุหกสิบกว่าปีแล้วแต่ใบหน้ายังคงเปล่งปลั่งมีน้ำมีนวล แทบจะไม่มีริ้วรอยเลยฮองเฮาได้ยินคำพูดของท่านหญิงชิงเฉิงก็มองมาอย่างสงสัย พินิจพิจารณาเย่หรง แล้วกล่าวพล
สิ่งที่เย่หรงคิด หลงเพ่ยเพ่ยก็คิดถึงเช่นกัน นางกล่าวกับเย่หรงอย่างขัดแย้งในใจ“เจ้าคิดจะบอกเรื่องที่เฉาฮุยยังมีชีวิตอยู่ให้พี่หญิงอวิ๋นฟังรึ?”“แต่เช่นนี้ก็มิยุติธรรมกับพี่เขยหยวน เขาและพี่หญิงอวิ๋นก็มีลูกชายด้วยกันอีกคนแล้ว หากบอกพี่หญิงอวิ๋นว่าเฉาฮุยยังมีชีวิตอยู่ จะเป็นการทำลายครอบครัวของพวกเขาเสียเปล่า!”“ข้ามิชอบที่ชายาเจ้าแห่งทะเลทำกับเฉาฮุยเช่นนี้ แต่พี่เขยหยวนและหลานชายตัวน้อยของข้าเป็นผู้บริสุทธิ์!”“อีกอย่าง พี่เขยหยวนก็ดีต่อพี่หญิงอวิ๋นมาก ก่อนหน้านี้ข้ายังอิจฉาพี่หญิงอวิ๋นที่ได้ลงเอยกับคนที่ดี!”เย่หรงยิ้มเย็นชา “เช่นนั้นยุติธรรมกับเฉาฮุยแล้วหรือ? เขายังมีบิดามารดาที่ต้องกตัญญูเลี้ยงดู ท่านหญิงอวิ๋นมิช่วยเขาออกมา แล้วจะมีใครช่วยเขาได้อีก?”“ชั่วชีวิตของเขาจะต้องอยู่ในคุกน้ำไปตลอดหรือ? นี่มันโหดร้ายยิ่งกว่าการฆ่าเขาทิ้งเสียอีก!”หลงเพ่ยเพ่ยพูดมิออกเดิมทีเฉาฮุยมีอนาคตที่สดใส เพียงเพราะรักใคร่กับท่านหญิงอวิ๋น ถึงต้องตกอยู่ในชะตากรรมอันน่าเศร้าเช่นนี้มิอาจกตัญญูเลี้ยงดูบิดามารดาได้ บุตรชายก็มากลายเป็นของผู้อื่น การที่เขาสามารถทนอยู่ต่อไปในคุกน้ำได้ คาดว่าคงเพราะยังมี