“ท่านอ๋องเฉิง...”เมื่อตราประทับของท่านอ๋องเฉิงกำลังจะแตะลงบนหนังสือหย่า เสียงตะโกนก็ดังมาจากไกล ๆจากนั้นมีม้าหลายตัวควบเข้ามาอย่างรวดเร็วเซียวหลินเทียนเป็นผู้นำมาแล้วตะโกนมาจากไกล ๆ “ท่านอ๋องเฉิง กระหม่อมจับมือสังหารที่ฆ่าจ่างหนิงได้แล้ว... นางสามารถพิสูจน์ได้ว่าหลิงอวี๋พูดความจริง!”ท่านอ๋องเฉิงถอนหายใจโล่งอกทันที แล้วขยำหนังสือหย่าเป็นลูกกลม ๆ โยนมันทิ้งไปพร้อมกับตะโกน“เอาตัวขึ้นมา!”“หลีกทางให้หมด!”หลี่ว์จงเจ๋อยังมิได้ไปไหนไกล เมื่อเห็นภาพนี้ก็วิ่งเข้ามาเปิดทางให้เซียวหลินเทียนเซียวหลินเทียนรีบควบม้ากีบขาวเข้าไป แล้วลงจากม้าที่หน้าห้องพิจารณาคดีเขาวิ่งวุ่นทั้งวันทั้งคืนเพื่อจับกุมคน แล้วรีบเดินทางกลับโดยมิกล้าหยุดพักด้วยซ้ำ เพราะกลัวว่าจะสายแล้วหลิงอวี๋จะถูกตัดสินเมื่อได้ยินคำพูดของท่านอ๋องเฉิง เซียวหลินเทียนก็แอบถอนหายใจโล่งอก โชคดีที่เขากลับมาทันเวลาองค์ชายเว่ยและภรรยาของเขา รวมถึงเฮ่อจู้โกรธจนใบหน้าบิดเบี้ยว!เมื่อเห็นว่าเหลือเพียงแค่ประทับตรา หลิงอวี๋ก็จะถูกหย่าร้างแล้ว และพวกเขาจะก็พาตัวนางออกไปได้!ใครจะคิดว่าเซียวหลินเทียนจะรีบกลับมาทัน!แม้ว่าพระชายาเว
เฮ่อจู้ยิ้มเยาะพลางเอ่ย “ท่านอ๋องอี้ เห็นหรือไม่ว่ากลอุบายของท่านใช้มิได้ผล! คนเราต้องการชีวิตมิได้ต้องการเงินพ่ะย่ะค่ะ!”คนที่เฝ้าดูอยู่ข้างนอกเกิดความโกลาหลขึ้นในทันทีมีคนตะโกนขึ้นมา “ท่านอ๋องอี้ ชีวิตของพระชายาอ๋องอี้คือชีวิต แต่ชีวิตของคนธรรมดาสามัญมิใช่ชีวิตหรือ? ท่านจะใส่ร้ายผู้อื่นเพื่อช่วยพระชายาของตนได้เยี่ยงไร!”“ถูกต้อง มีอำนาจแล้วยิ่งใหญ่นักหรือ?”“ประหารหลิงอวี๋… ประหารหลิงอวี๋!”มีคนตะโกนขึ้นมาด้วยความโกรธ “แล้วยังจะบอกว่าองค์ชายที่ฝ่าฝืนกฎหมายก็มีความผิดเช่นเดียวกับคนทั่วไป… พวกท่านเหล่านี้ ใช้อำนาจอิทธิพล เมื่อฆ่าคนแล้วก็ไปหาคนมารับผิดแทน บนใต้หล้านี้จะยังมีความยุติธรรมอะไรอีก!”“พวกเราคนธรรมดาสามัญ ต้องทำตามที่พวกท่านบงการหรือ?”คำพูดเหล่านี้ทำเอาเซียวหลินเทียนโกรธจนหน้าซีด คนเหล่านี้มิรู้เลยว่า “คนสามัญธรรมดา” ตรงหน้าผู้นี้แสร้งทำเป็นน่าสงสาร ตัวนางเก่งกาจมาก พวกเขาต้องทำงานหนักทั้งคืนถึงจะจับตัวนางมาได้ในกระบวนการจับกุมนาง เฉาอี้กับองครักษ์หนึ่งคนได้รับบาดเจ็บจากนางไปด้วยเมื่อตงจู๋เห็นว่านางหนีมิพ้นแล้ว นางก็ยอมจำนนให้จับ ใครจะคิดว่าเมื่อนางมาถึงราชสำนักฝ
เซียวหลินเทียนจับมือหลิงอวี๋อย่างกังวลมิรู้ว่าองค์ชายเย่จัดการเรื่องในวังเป็นเยี่ยงไรบ้าง!หากมีอะไรผิดพลาด เช่นนั้นตนจะมิสามารถเป็นมีพยานเรื่องตงจู๋ และมิสามารถปกป้องหลิงอวี๋ได้!เวลาผ่านไปทีละน้อยท่านอ๋องหงซานเอ่ยอย่างมิอดทน “ท่านอ๋องเฉิง องค์จักรพรรดิทรงตัดสินไว้ว่าจะตัดหัวหลิงอวี๋ในเวลาบ่ายสาม ตอนนี้อีกมิเท่าไร่ก็จะถึงบ่ายสามแล้ว!”“คดีนี้ของเจ้าจะยังพิจารณาอยู่หรือไม่?”เฮ่อจู้ก็เอ่ยด้วยความโกรธเช่นกัน “ท่านอ๋องเฉิง เรารอให้เสียเวลาเช่นนี้มิไหวแล้ว! ท่านต้องกำหนดเวลาให้กับเรา!”ผู้ที่รอดูอยู่ข้างนอกก็รำคาญกับการรอคอยเช่นกัน จึงพากันตะโกนขึ้นมา“ท่านอ๋องเฉิง หากท่านต้องการปกป้องหลิงอวี๋ก็ทำเช่นนี้มิได้กระมัง!”“เราทุกคนมาที่นี่เพื่อมาดูท่านพิจารณาคดีนี้ หากท่านมิรู้ว่าจะพิจารณาคดีเยี่ยงไรก็ลงไปให้ท่านอ๋องหงซานมาพิจารณาแทนเถิด!”“เปลี่ยนคน… เปลี่ยนคน...”คนในตำหนักองค์ชายเว่ยกับจวนของเฮ่อจู้เป็นผู้นำในการตะโกนองค์ชายเว่ยมองเซียวหลินเทียนอย่างภาคภูมิใจพลางเอ่ยอย่างหน้าซื่อใจคด “น้องสี่ เจ้าก็ได้เห็นแล้ว มิใช่ว่าข้ากำลังทำเรื่องให้เจ้าลำบากใจ แต่เป็นหลิงอวี๋ที่ทำเรื่องเ
ในที่สุดท่านอ๋องหงซานก็พบโอกาสที่จะได้ลืมตาอ้าปากแล้ว เขายืนขึ้นหยิบพระราชโองการมา พร้อมตะโกนเสียงดัง“ท่านอ๋องเฉิงรับคำสั่ง...”ท่านอ๋องเฉิงงุนงง พระชายาเว่ยขอพระราชโองการอะไรกัน? เหตุใดจึงมิได้ยินอันเจ๋อเอ่ยถึงเรื่องนี้เลย!เซียวหลินเทียน ฉินซานและคนอื่น ๆ ก็ตะลึงเช่นกัน ทุกคนก็มีลางสังหรณ์ที่มิดีอยู่ในใจ!แม้ว่าท่านอ๋องเฉิงจะสับสน แต่เมื่อเห็นพระราชโองการสีทองก็ยังคงเดินลงไป แล้วยกเสื้อคลุมขึ้นพร้อมทั้งคุกเข่าลง “น้อมรับพระราชโองการ...”“ด้วยโองการแห่งฟ้า องค์จักรพรรดิได้มีพระบัญชา… หากท่านอ๋องเฉิงมิสามารถตัดสินคดีฆาตกรรมของหลิงอวี๋ได้อย่างยุติธรรมในเวลาบ่ายสาม ท่านอ๋องหงซานจะรับช่วงพิจารณาคดีของหลิงอวี๋แทน…”หัวใจของท่านอ๋องเฉิงกับเซียวหลินเทียนจมดิ่งลงหลังจากที่ท่านอ๋องหงซานอ่านจบ เขาก็วางพระราชโองการขององค์จักรพรรดิอย่างภูมิใจ “ท่านอ๋องเฉิง นี่มันบ่ายสามแล้ว ในเมื่อเจ้ามิสามารถตัดสินคดีได้ ข้าจะรับช่วงต่อคดีนี้เอง!”ท่านอ๋องหงซานเดินไปที่บนแท่นพิจารณาคดี แล้วเอื้อมมือไปหยิบค้อนขึ้นมาฟาดมันลงบนโต๊ะอย่างรวดเร็ว“หลิงอวี๋สังหารท่านหญิงจ่างหนิง และทำให้เฮ่ออันได้รับบาดเจ็บ
หากวันนี้เซียวหลินเทียนกล้าขวางพระชายาเว่ยมิให้พาหลิงอวี๋ไป และกล้าต่อต้านกองทัพหลวง เขาจะถูกตั้งข้อหากบฏ!เซียวหลินเทียนสีหน้ามืดมนและกำมือแน่นแวบหนึ่งในความคิดเขาก็คือ แม้ว่าเขาจะต้องฆ่ากองทัพหลวงเหล่านี้ เขาก็ต้องพาหลิงอวี๋ออกไปให้ได้!แต่เมื่อเห็นสายตาตะลึงของจ้าวซวนกับคนอื่น ๆ เซียวหลินเทียนก็บังคับตนให้ละทิ้งความคิดนี้ไป...กองทัพหลวงเหล่านั้นมีทั้งดาบและธนู พวกเขาต้องได้รับคำสั่งเป็นการส่วนตัวจากองค์จักรพรรดิ ตราบใดที่ตนกล้าต่อต้าน พวกเขาจะฆ่าตนอย่างแน่นอน!ไม่มีทางที่เขาจะพาหลิงอวี๋ฝ่าลูกธนูมากมายถึงเพียงนี้ไปได้อย่างปลอดภัยเป็นแน่!ยิ่งไปกว่านั้น นี่มิใช่แค่เรื่องระหว่างตนเองกับหลิงอวี๋เท่านั้น!มีคนจำนวนมากในตำหนักอ๋องอี้ และยังมีหลิงเยวี่ยอีก แม้กระทั่งจวนเสนาบดีเจิ้นหย่วนและฉินซานเองก็จะลำบากไปกับตนด้วย!เซียวหลินเทียนรู้สึกเสียใจเป็นครั้งแรก!ไม่ว่าวรยุทธของเขาจะดีแค่ไหน!แต่พลังของเขาก็ยังน้อยเกินไป!เขามิสามารถต่อสู้กับอำนาจขององค์จักรพรรดิได้เลย!เซียวหลินเทียนมิเคยมีความคิดที่จะนั่งในตำแหน่งนั้นมาก่อนเลย...มีเพียงการควบคุมโชคชะตาไว้ในมือของตนเท่านั้น เขา
“หลิงอวี๋ นี่คือผลกรรมที่เจ้าฆ่าลูกสาวของข้า!”พระชายาเว่ยมิสามารถซ่อนความตื่นเต้นของตนได้เลย ยิ่งหลิงอวี๋อับอาย นางก็ยิ่งมีความสุข!นางเดินตามไปข้างหลัง เห็นว่าหลิงอวี๋กำลังจะถูกลากไปที่เกวียนบรรทุกมูลสัตว์ที่ตำหนักองค์ชายเว่ยเตรียมไว้ในที่ไกล ๆ นั้น เฉาอี้ยืนอยู่ที่ทางแยกเพื่อรอพบองค์ชายเย่เขามองความสับสนวุ่นวายอย่างกังวล และมองไปทางถนนขณะที่เขากำลังจะก่นด่านั้น ก็เห็นว่าในที่สุดก็มีม้าเร็วหลายตัวควบเข้ามา และองครักษ์คนหนึ่งก็ตะโกนมาจากไกล ๆ“พี่จ้าว องค์ชายเย่ ขันทีเซี่ยและหัวหน้าฝ่ายในมาแล้ว! ไปรายงานท่านอ๋องเร็วเข้า!”เฉาอี้พ่นลมหายใจออกมาอย่างตื่นเต้น แล้ววิ่งไปที่ห้องพิจารณาคดีพร้อมกับตะโกนไปขณะที่วิ่งไปด้วย“ท่านอ๋อง ท่านอ๋องเฉิง… องค์ชายเย่ ขันทีเซี่ยและหัวหน้าฝ่ายในมาแล้วพ่ะย่ะค่ะ…”“พวกเขานำหลักฐานสำคัญมา…”เสียงนี้ดังขึ้น เมื่อเซียวหลินเทียนได้ยินก็รู้สึกราวกับฟื้นคืนชีพขึ้นมาอีกครั้ง เขารีบวิ่งขึ้นไปราวกับสายลมแล้วช่วยเหลือหลิงอวี๋ออกมาจากเงื้อมมือของคนรับใช้ในตำหนักองค์ชายเว่ย“องค์ชายเย่และขันทีเซี่ยนำหลักฐานสำคัญมาแล้ว!”“ไม่มีใครได้รับอนุญาตให้พาหลิงอวี๋
หลังจากนั้นมินาน องค์ชายเย่ ขันทีเซี่ยและหัวหน้าฝ่ายในก็ตามหลังมาท่านอ๋องหงซานได้นั่งในห้องพิจารณาคดีของราชสำนักฝ่ายในมินาน ก็ถูกท่านอ๋องเฉิงไล่ลงมาแล้วคดีของหลิงอวี๋จะถูกพิจารณาใหม่!แม้ว่าองค์ชายเว่ย พระชายาเว่ยและเฮ่อจู้จะมิยอม แต่ขันทีเซี่ยก็มีพระราชโองการล่าสุดขององค์จักรพรรดิมา ทั้งสามคนมิยอมก็ต้องยอม!“ท่านอ๋องเฉิง กระหม่อมนำชุดดำกับลูกดอกพิษของตงจู๋มา!”องค์ชายเย่เหลือบมองเซียวหลินเทียนอย่างรู้สึกผิด จากนั้นก็โบกมือ แล้วองครักษ์ของเขาก็เอาหลักฐานเข้ามาตงจู๋ที่คุกเข่าอยู่ข้าง ๆ ก็ยังต้องโต้เถียงอยู่ในเวลานี้ นางตะโกนราวกับว่าถูกใส่ความ “องค์ชายเย่ บ่าวรู้ว่าหลิงอวี๋ช่วยพระชายาเย่ไว้ แต่ท่านจะใส่ร้ายบ่าวเพียงเพราะรู้สึกขอบคุณนางมิได้เพคะ!”“บ่าวภักดีต่อพระชายาฮุ่ย ถึงมิได้มีความดีความชอบใดแต่ก็ทำงานอย่างหนักเพคะ!”“หุบปาก!”องค์ชายเย่ตะโกนด้วยความโกรธ “พี่สะใภ้สี่ช่วยพระชายาของข้าไว้จริง ๆ! ข้ารู้สึกขอบคุณนาง แต่หัวหน้าฝ่ายในพาคนไปหาหลักฐานเหล่านี้มาด้วยตัวเอง!”“ตงเหมยผู้สมรู้ร่วมคิดของเจ้าก็สารภาพแล้วว่านี่คือชุดดำของเจ้า!”ตงจู๋ยังคงโต้แย้งอยู่ “สิ่งที่ตงเหมยบอกน
ท่านอ๋องเฉิงกุมขมับ พี่น้องทั้งสองทะเลาะกันในห้องพิจารณาคดีเหมือนเด็ก ๆ ไปได้ นี่มันอะไรกันเนี่ย!ในตอนที่ไม่มีใครสังเกตเห็น จู่ ๆ หลิงอวี๋ก็ลืมตาขึ้นมานางถูกเซียวหลินเทียนอุ้มไว้ในอ้อมแขน นางลืมตาขึ้นมา พอเห็นว่าตนอยู่ในห้องพิจารณาคดีก็หลับตาไปอีกครั้งนางนึกถึงประสบการณ์ในฝันของตนสองวันที่ผ่านมา มันมืดมน กึ่งหลับกึ่งตื่น นางต้องจัดการความรู้ที่นางได้เรียนรู้ในมิติ หาทางช่วยเฮ่ออัน มีเพียงวิธีนี้เท่านั้นที่องค์ชายเว่ยกับภรรยาของเขาจะมั่นใจได้อย่างสมบูรณ์พระชายาเว่ยกับองค์ชายเว่ยยังคงโต้เถียงกับเซียวหลินเทียนอยู่ในเวลานี้ เหยียนฮุ่ยภรรยาของเฮ่อจู้ก็อุ้มเฮ่ออันไว้แล้วเดินโซเซเข้ามาในห้องพิจารณาคดี“สามี... พระชายาเว่ย พวกท่านดูเถิด... อันเอ๋อร์มิไหวแล้ว!”หัวใจของเฮ่อจู้เต้นรัวแล้วรีบวิ่งเข้าไป แล้วก็เห็นเลือดไหลออกมาจากมุมปากของเฮ่ออันที่อยู่ในอ้อมแขนของเหยียนฮุ่ยใบหน้าเล็ก ๆ ของเขาซีดราวกับกระดาษ มีเพียงหายใจแต่หายใจมิเข้าเลย!เฮ่อจู้สิ้นหวังแล้ว เขาคว้าเฮ่ออันพลางตะคอกใส่เซียวหลินเทียนกับท่านอ๋องเฉิง“เซียวหลินเทียน ท่านอ๋องเฉิง พวกท่านดูลูกชายของกระหม่อมเถิด… เขากำลั
“ซานเอ๋อร์!”หลงอวิ๋นก็เห็นภาพนี้เช่นกัน ทันใดนั้นในสมองก็ว่างเปล่า…ในฐานะมารดา นางจะมิรู้ได้อย่างไรว่าตนลำเอียงต่อบุตรชายทั้งสองคนหยวนซือและหยวนซานป่วยไข้พร้อมกัน นางกลับเฝ้าหยวนซือทั้งวันทั้งคืนส่วนหยวนซานกลับเป็นหยวนซิ่งสามีของนางที่คอยดูแลด้วยตนเองของประทานที่ได้รับจากมหาเทพและเจ้าแห่งทะเลผู้เป็นบิดาในช่วงเทศกาลปีใหม่และวันสำคัญต่าง ๆ นางก็จะให้หยวนซือเลือกก่อน ที่เหลือถึงจะให้หยวนซานเรื่องเช่นนี้นับมิถ้วน แต่หยวนซานกลับถูกหยวนซิ่งบิดาของเขาสั่งสอนมาอย่างดี มิเคยบ่นว่าเรื่องความลำเอียงของนางเลย!บัดนี้มองดูหยวนซานกำลังจะตกหน้าผา หลงอวิ๋นในฐานะมารดาจะสามารถมองดูเฉย ๆ ให้บุตรชายตายตกไปเช่นนี้ได้หรือ?ฝ่ามือหลังมือก็เนื้อเดียวกัน นางทำให้หยวนซานมาสู่ใต้หล้าผืนนี้ หยวนซานมีความผิดอะไร นางมีสิทธิ์อะไรจะทำกับหยวนซานเช่นนี้“ซานเอ๋อร์!”เรื่องนี้เกี่ยวพันถึงชีวิต เมื่อคิดว่าจะต้องสูญเสียบุตรชายคนนี้ไปตลอดกาล หลงอวิ๋นก็พลันเสียใจแต่ก็สายเกินไปนางมิสนใจอีกต่อไปว่าจะทำให้หยวนซือบาดเจ็บหรือไม่ นางใช้แรงดึงหยวนซือออกอย่างแรงแล้วพุ่งเข้าไปที่หน้าผา“ซานเอ๋อร์ แม่มาช่วยเจ้าแล้ว
หลงเพ่ยเพ่ยเห็นท่านหญิงชิงเฉิงและท่านหญิงอวิ๋น ในสมองพลันเกิดความคิดแวบขึ้นมา ถึงได้คิดข้ออ้างนี้ออกเมื่อเห็นเย่หรงตามแนวคิดของตนทัน หลงเพ่ยเพ่ยก็แอบชื่นชมในไหวพริบของเย่หรงในใจ แล้วกล่าวต่อไป“เสด็จย่า ท่านคงมิประสงค์ให้ท่านอาเจ้าแห่งทะเลต้องเสียหน้าใช่หรือไม่เพคะ!”“หากเย่หรงไปหาท่านปู่ของเขาให้ออกหน้า การกระทำอันเผด็จการเช่นนี้ของท่านอาเจ้าแห่งทะเลจะถูกผู้คนรังเกียจ ถึงเวลานั้นก็จะส่งผลกระทบต่อเกียรติของราชวงศ์พวกเรา!”“ในใต้หล้านี้มีสตรีมากมาย ท่านอาเจ้าแห่งทะเลก็มิได้ขาดสตรีที่มาเสนอตัวให้ เหตุใดต้องทำเรื่องทำลายวาสนาคู่ครองของผู้อื่นเช่นนี้ด้วย!”ครั้นฮองเฮานึกถึงความเหลวไหลของเจ้าแห่งทะเลก็รู้สึกเสียหน้ายิ่งนัก กล่าวเสียงเข้ม “เอาเถอะ ย่ารู้แล้ว จะออกพระราชโองการให้พวกเจ้าไปรับคนที่จวนเจ้าแห่งทะเล...”หลงเพ่ยเพ่ยและเย่หรงถอนหายใจโล่งอก เพียงแต่ทั้งสองยังมิทันลุกขึ้นยืน ก็มีเสียงกรีดร้องดังแว่วมาจากที่ไกล ๆได้ยินเสียงคนกำลังตะโกนแว่วมา “ช่วยด้วย เร็วเข้า ใครก็ได้ คุณชายน้อยตกลงไปใต้หน้าผาแล้ว...”ฮองเฮาพลันลุกขึ้นยืน ร้องเรียกอย่างร้อนรน “เร็ว ไปดูซิ ใครตกลงไป?”วันนี้
หลงอวิ๋นได้สติกลับคืนมา ตามปกติแล้วคนทั่วไปหากมิได้ยินคำพูดของท่านหญิงชิงเฉิงก็จะถามว่า “เมื่อครู่เจ้าว่ากระไรนะ?”แต่หลงอวิ๋นกลับมิทำตามปกติ ลุกขึ้นยืนแล้วกล่าวว่า “เสด็จย่า เด็ก ๆ เดินไปไกลแล้ว หม่อมฉันไปตามพวกเขากลับมาดีกว่า ควรลงจากเขาได้แล้วเพคะ!”พูดจบ หลงอวิ๋นก็เดินออกจากศาลาพักร้อนไป ร้องเรียกสาวใช้ของตนว่า “พวกคุณชายใหญ่ไปทางไหนกันหรือ?”เนี่ยนจูนางรับใช้ของหลงอวิ๋นกล่าวพลางยิ้มประจบ “แม่นมจี้และเนี่ยนชิงพาพวกเขาไปทางนั้นเจ้าค่ะ มิน่าจะเดินไปไกล!”“ไป ไปดูกัน!”หลงอวิ๋นเดินตามทิศทางที่เนี่ยนจูชี้ไปโดยมิหันกลับมามองท่านหญิงชิงเฉิงมองแผ่นหลังของนางที่เดินจากไปเช่นนั้นก็โกรธจนแทบจะด่าทอเสียงดังลั่นออกมา“พี่หญิงชิงเฉิง พี่หญิงอวิ๋นไปตามหาเด็ก ๆ แล้ว ท่านมิไปตามหาแก้วตาดวงใจทั้งสองของท่านบ้างหรือ?”หลงเพ่ยเพ่ยเห็นดังนั้นก็จงใจกล่าว “ผานกกระเรียนแห่งนี้แม้จะไม่มีสัตว์ร้าย แต่เด็ก ๆ ยังเล็กนัก เล่นอยู่ริมผา หากพลาดตกลงไป เช่นนั้นก็…”“เจ้าแช่งลูกข้ารึ?”ท่านหญิงชิงเฉิงมองหลงเพ่ยเพ่ยอย่างโกรธเคือง ด่าว่า “หลงเพ่ยเพ่ย เจ้าอายุยังน้อย เหตุใดจึงทำตัวเหลวไหลเช่นนี้ คบหากับเย่ห
“เรื่องคู่ครองของข้ารึ?”หลงเพ่ยเพ่ยชะงักไปครู่หนึ่ง นางยังมิได้พูดคุยเรื่องแต่งงานเลย เหตุใดจึงเกี่ยวข้องกับเรื่องคู่ครองของตนได้เล่า“นี่เป็นเพียงข้ออ้าง หลอกพวกนางไปก่อน แล้วค่อยพูดเรื่องสำคัญกับเสด็จย่าของท่าน!”เย่หรงยิ้มกล่าว “อย่างไรเสีย เรื่องนี้ค่อยอธิบายให้เสด็จย่าของท่านเข้าใจทีหลังก็ได้!”ขณะพูดคุยกัน ทั้งสองก็มาถึงศาลาพักร้อนแล้วท่านหญิงชิงเฉิงที่อยู่ในศาลาเห็นหลงเพ่ยเพ่ยกับเย่หรงตามมาถึงที่นี่ ก็พลันนึกถึงคำกำชับของชายาเจ้าแห่งทะเลนางรีบชิงพูดก่อน “ท่านหญิงฉางเล่อก็มาด้วยรึ อ้าว นี่พาคุณชายมาด้วย!”“คุณชายผู้นี้หน้ามิคุ้นเลย เมื่อก่อนมิเคยเห็น เป็นคุณชายจากตระกูลใดกัน?”เย่หรงเห็นใบหน้างดงามของท่านหญิงชิงเฉิงแสดงท่าทีดูแคลนก็รู้ว่าอันที่จริงนางรู้ว่าตนเป็นใครเพียงแต่เหมือนกับพวกคนหัวสูงในเมืองหลวงแดนเทพ นางก็ดูถูกตนที่เป็นบุตรชายที่มิได้เรื่องของตระกูลเย่เช่นกันเสด็จย่าของหลงเพ่ยเพ่ยยังคงดูสดใสร่าเริง อายุหกสิบกว่าปีแล้วแต่ใบหน้ายังคงเปล่งปลั่งมีน้ำมีนวล แทบจะไม่มีริ้วรอยเลยฮองเฮาได้ยินคำพูดของท่านหญิงชิงเฉิงก็มองมาอย่างสงสัย พินิจพิจารณาเย่หรง แล้วกล่าวพล
สิ่งที่เย่หรงคิด หลงเพ่ยเพ่ยก็คิดถึงเช่นกัน นางกล่าวกับเย่หรงอย่างขัดแย้งในใจ“เจ้าคิดจะบอกเรื่องที่เฉาฮุยยังมีชีวิตอยู่ให้พี่หญิงอวิ๋นฟังรึ?”“แต่เช่นนี้ก็มิยุติธรรมกับพี่เขยหยวน เขาและพี่หญิงอวิ๋นก็มีลูกชายด้วยกันอีกคนแล้ว หากบอกพี่หญิงอวิ๋นว่าเฉาฮุยยังมีชีวิตอยู่ จะเป็นการทำลายครอบครัวของพวกเขาเสียเปล่า!”“ข้ามิชอบที่ชายาเจ้าแห่งทะเลทำกับเฉาฮุยเช่นนี้ แต่พี่เขยหยวนและหลานชายตัวน้อยของข้าเป็นผู้บริสุทธิ์!”“อีกอย่าง พี่เขยหยวนก็ดีต่อพี่หญิงอวิ๋นมาก ก่อนหน้านี้ข้ายังอิจฉาพี่หญิงอวิ๋นที่ได้ลงเอยกับคนที่ดี!”เย่หรงยิ้มเย็นชา “เช่นนั้นยุติธรรมกับเฉาฮุยแล้วหรือ? เขายังมีบิดามารดาที่ต้องกตัญญูเลี้ยงดู ท่านหญิงอวิ๋นมิช่วยเขาออกมา แล้วจะมีใครช่วยเขาได้อีก?”“ชั่วชีวิตของเขาจะต้องอยู่ในคุกน้ำไปตลอดหรือ? นี่มันโหดร้ายยิ่งกว่าการฆ่าเขาทิ้งเสียอีก!”หลงเพ่ยเพ่ยพูดมิออกเดิมทีเฉาฮุยมีอนาคตที่สดใส เพียงเพราะรักใคร่กับท่านหญิงอวิ๋น ถึงต้องตกอยู่ในชะตากรรมอันน่าเศร้าเช่นนี้มิอาจกตัญญูเลี้ยงดูบิดามารดาได้ บุตรชายก็มากลายเป็นของผู้อื่น การที่เขาสามารถทนอยู่ต่อไปในคุกน้ำได้ คาดว่าคงเพราะยังมี
ชีวิตนี้หาสหายรู้ใจได้ยากนัก!หลงเพ่ยเพ่ยยิ้ม นางก็รู้สึกว่าตนกับเย่หรงพูดคุยสื่อสารกันง่ายเช่นกันเย่หรงฉลาด ที่สำคัญที่สุดคือมิใช่บุรุษประเภทหัวโบราณคร่ำครึ มิเหมือนพวกพี่สามที่เอะอะก็วางตนเป็นผู้ใหญ่สั่งสอนนางเฮ้อ หากสามีในอนาคตของนางสามารถพูดคุยกันได้เหมือนเย่หรง เช่นนั้นสามีภรรยาจะมิรักใคร่กลมเกลียวกันมากหรอกหรือ?หลงเพ่ยเพ่ยคิดแล้วพลันหน้าแดงเรื่อ นี่นางกำลังคิดฟุ้งซ่านอะไรอยู่!“พวกเรามาคิดกันก่อนดีกว่าว่าอีกประเดี๋ยวหากพบเสด็จย่าแล้วจะทำอย่างไรดี!”หลงเพ่ยเพ่ยมิกล้าคิดฟุ้งซ่านต่อไป รีบเปลี่ยนเรื่องคุย“ท่านกังวลว่าท่านหญิงชิงเฉิงและท่านหญิงอวิ๋นจะก่อกวนหรือ?”เย่หรงก็ดึงความคิดกลับมา พวกเขาใกล้จะถึงภูเขาศักดิ์สิทธิ์แล้ว ต้องคิดหาข้ออ้างให้ดี“อืม ท่านหญิงชิงเฉิงมิใช่คนประเภทที่จะเจรจาด้วยง่าย ๆ ท่านหญิงอวิ๋นยังพอคุยง่ายอยู่บ้าง แต่ในเมื่อพวกนางรับคำสั่งจากชายาเจ้าแห่งทะเลมาเพื่อถ่วงเวลาเสด็จย่า ย่อมมิยอมให้ข้าบรรลุเป้าหมายแน่!”หลงเพ่ยเพ่ยเผยสีหน้าอมทุกข์เย่หรงพลันนึกถึงข่าวลือเกี่ยวกับท่านหญิงอวิ๋นขึ้นมา แม้ท่านหญิงอวิ๋นจะเป็นธิดาแท้ ๆ ของชายาเจ้าแห่งทะเล แต่ช่วงห
“โอ้ ใต้หล้านั้นแตกต่างจากใต้หล้าของพวกเราหรือ?”หลงเพ่ยเพ่ยถูกเย่หรงกระตุ้นความอยากรู้ จึงจ้องมองพลางถาม“อืม บ้านเรือนที่นั่นสูงเท่าภูเขา สูงที่สุดอาจถึงร้อยชั้นได้ ทั้งยังมีรถมากมายที่มิต้องใช้ม้าลาก วิ่งได้เร็วมาก!”เย่หรงเล่าให้หลงเพ่ยเพ่ยฟังไปเรื่อย ๆเมื่อพูดถึงเครื่องบินก็ทำให้หลงเพ่ยเพ่ยเบิกตากว้าง นางมองเย่หรงอย่างงง ๆ “เจ้าโกหกกระมัง จะมีเครื่องมือที่สามารถบรรทุกคนขึ้นไปบนฟ้าได้อย่างไร!”“มีจริง ๆ ข้ามิได้โกหกท่าน พี่หญิงหลิงหลิงจำได้มากกว่าข้าเสียอีก รอมีโอกาสให้นางเล่าให้ท่านฟัง ท่านก็จะเชื่อว่าข้ามิได้โกหกท่าน!”เย่หรงเริ่มตื่นเต้น “ท่านหญิง ท่านปู่มิได้บอกหรือว่าคันฉ่องคุนหลุนของตงกู่อวี้สามารถพลิกฟ้าคว่ำปฐพีได้?”“หากพวกเราได้คันฉ่องคุนหลุนมา มิต้องรอเวียนว่ายตายเกิด ข้าจะพาท่านไปดูใต้หล้านั้น! ท่านจะต้องชอบใต้หล้านั้นอย่างแน่นอน!”เย่หรงพูดจนหลงเพ่ยเพ่ยใจเต้นระรัว นางกล่าวออกไปโดยมิต้องคิด “ได้ เช่นนั้นรอพวกเราช่วยแดนเทพผ่านพ้นภัยพิบัติครั้งนี้ไปได้ พวกเราหาคันฉ่องคุนหลุนเจอแล้วก็ไปด้วยกัน ไปดูใต้หล้าที่เจ้าพูดถึงกัน!”“ตกลงตามนี้!”เย่หรงยกมือขึ้น หลงเพ่ยเพ่
คนหนึ่งคือคนที่ตนรัก อีกคนคือสหายที่ดีที่สุดของตน!แต่พวกเขากลับร่วมมือกันหลอกลวงตน!หยางหงหนิงหันหลังเดินออกไปด้วยใบหน้าบึ้งตึง นางจะมิปล่อยชายชั่วหญิงโฉดคู่นี้ไปแน่!สิ่งที่นางมิได้มาครอบครอง ยอมทำลายทิ้งเสียดีกว่ายอมให้คนอื่นได้ไป!หยางหงหนิงกลับไปที่รถม้าของตน เค้นเสียงลอดไรฟันออกมาคำหนึ่ง “ไปภูเขาศักดิ์สิทธิ์!”ด้านหน้า เย่หรงและหลงเพ่ยเพ่ยต่างก็ร้อนใจดั่งไฟเผา ฮองเฮาเสด็จไปสองชั่วยามแล้ว พวกเขาจะตามทันพระนางหรือ?อีกทั้งต่อให้ตามทัน มีท่านหญิงชิงเฉิงและท่านหญิงอวิ๋นอยู่ พวกนางต้องช่วยชายาเจ้าแห่งทะเลขัดขวางมิให้ฮองเฮาเรียกตัวหลิงอวี๋เข้าเฝ้าแน่“ท่านหญิง พวกเราจะไปทันหรือไม่? ชายาเจ้าแห่งทะเลจะลงมือกับพี่หญิงหลิงหลิงแล้วหรือไม่?”เย่หรงถามอย่างร้อนรนหลงเพ่ยเพ่ยก็ร้อนใจเช่นกัน หลิงอวี๋ยังรอให้นางช่วยชีวิตอยู่ แต่นางก็มิรู้ว่าจะสามารถทูลขอพระราชโองการจากฮองเฮาได้สำเร็จหรือไม่“พวกเราพยายามเต็มที่เถอะ! ขอเพียงตามเสด็จย่าทัน ต่อให้ข้าต้องคุกเข่าอ้อนวอนก็ต้องให้นางพาพี่หญิงหลิงหลิงออกมาให้ได้!”หลงเพ่ยเพ่ยกล่าวปลอบใจเย่หรงเห็นหลงเพ่ยเพ่ยวิ่งวุ่นไปทั่วกับตนก็นับว่าพยายามเ
รองแม่ทัพจางยังคงกล่าวพลางยิ้มแย้ม “ท่านหญิงฉางเล่อมามิถูกจังหวะ วันนี้ฮองเฮาพร้อมด้วยท่านหญิงชิงเฉิงและท่านหญิงอวิ๋นพาคุณชายน้อยทั้งหลายเสด็จไปชมดอกไม้ที่ภูเขาศักดิ์สิทธิ์พ่ะย่ะค่ะ!”ว่ากระไรนะ?หลงเพ่ยเพ่ยนิ่งอึ้งไป ท่านหญิงชิงเฉิงและท่านหญิงอวิ๋นล้วนเป็นธิดาของเจ้าแห่งทะเล และเป็นลูกพี่ลูกน้องของหลงเพ่ยเพ่ยด้วยเหตุใดพวกนางถึงมิไปชมดอกไม้ตั้งแต่ก่อนหน้านี้เล่า แต่กลับเลือกไปชมดอกไม้ในตอนที่ตนต้องการความช่วยเหลือจากเสด็จย่าพอดีนี่น่ะหรือ?“ไปนานเท่าใดแล้ว?”หลงเพ่ยเพ่ยสงสัยว่านี่เป็นการจัดฉากโดยเจตนาของชายาเจ้าแห่งทะเล“สองชั่วยามแล้วพ่ะย่ะค่ะ ตอนนี้น่าจะอยู่ในภูเขาศักดิ์สิทธิ์แล้วขอรับ!”รองแม่ทัพจางกล่าวพลางยิ้มหลงเพ่ยเพ่ยอยากจะชกหน้ายิ้ม ๆ ของรองแม่ทัพจางเสียสักหมัด เหตุใดนางมองรอยยิ้มของรองแม่ทัพจางแล้วเหมือนกำลังสมน้ำหน้าตนอยู่เลยเล่า“เจ้ามิได้หลอกข้าใช่หรือไม่?”หลงเพ่ยเพ่ยถามเสียงเย็นรองแม่ทัพจางกล่าวพลางยิ้ม “ท่านหญิงฉางเล่อพูดเล่นแล้ว ไหนเลยข้าน้อยจะกล้าหลอกท่านหญิง! หากมิเชื่อท่านลองถามใครดูก็ได้ว่าที่ข้าน้อยพูดเป็นเรื่องจริงหรือไม่!”“หากท่านหญิงมีธุระด่วนจร