งานเลี้ยงวันเกิดของเซี่ยโฮ่วตานรั่วสิ้นสุดลงไปเช่นนี้แต่เรื่องการพ่ายแพ้ในการแข่งขันเตะลูกกลมทำให้เกิดผลสืบเนื่องตามมา...คืนนั้น หลิงอวี๋เหน็ดเหนื่อยมาทั้งวัน หลังจากอาบน้ำเสร็จก็หลับไปที่เรือนบุหงาในขณะที่กำลังเคลิ้มหลับอยู่นั้นจู่ ๆ ก็ได้ยินเสียงเคาะประตู“พระชายา เกิดเรื่องแล้ว ตื่นเร็วเจ้าค่ะ!”หลิงอวี๋สะดุ้งตื่นขึ้นมาทันที จำได้ว่าเป็นเสียงของเถาจื่อ จึงตะโกน “เข้ามาคุยในนี้!”เถาจื่อเปิดประตูแล้วเอ่ยอย่างเร่งรีบ “พระชายา คุณหนูอันกับคุณชายอันอยู่ข้างนอกเจ้าค่ะ พวกเขาบอกว่าสวี่เหยียนกินยาพิษฆ่าตัวตาย แม่ของนางไปขอร้องคุณหนูอัน คุณหนูอันสงสารสวี่เหยียนจึงมาขอให้ท่านไปช่วยนางเจ้าค่ะ!”หา...หลิงอวี๋ตกใจ รีบแต่งตัวทันทีนางมิคาดคิดว่าสวี่เหยียนจะเปราะบางถึงขนาดที่จะกินยาพิษฆ่าตัวตายแต่เมื่อนึกถึงสถานการณ์ในตอนนั้น สวี่เหยียนต่างถูกทุกคนว่าอย่างนั้นอย่างนี้ สตรีผู้มิแยแสเรื่องของใคร จะมีกี่คนที่รับการโจมตีเช่นนี้ได้หลิงอวี๋รู้สึกผิดเล็กน้อย นางมิเห็นสวี่เหยียนตอนงานเลี้ยง นางยังคิดเลยว่าสวี่เหยียนคงจะมิกล้าสู้หน้าใครจึงไปก่อนไหนเลยจะคิดสวี่เหยียนจะกลับไปกินยาพิษฆ่าตั
กลิ่นอาเจียน!หากอาเจียนออกมาก็ดีหน่อย หลิงอวี๋รีบไปตรวจดูทันทีฮูหยินสวี่อยู่ข้าง ๆ จึงเอ่ยขึ้นมา “พระชายาอ๋องอี้ สวี่เหยียนกินยาพิษที่ใช้ฆ่าหนูเข้าไป ข้าใช้ตะเกียบบังคับให้นางอาเจียนออกมาสองครั้ง นาง… นางจะยังรอดได้หรือไม่?”หลิงอวี๋เห็นว่าสวี่เหยียนหมดสติไป นางก็มิรู้ว่ายาเบื่อหนูนั้นรุนแรงแค่ไหน จึงเอ่ย “ฮูหยินสวี่ โปรดออกไปรอก่อนเถิด ข้าจะพยายามช่วยสวี่เหยียนอย่างเต็มที่!”“ให้ใครก็ได้เอาน้ำกับเกลือมาที!”หลิงอวี๋อธิบายขณะหยิบท่อล้างกระเพาะอาหารออกมาด้วยอันซินกลัวว่าฮูหยินสวี่จะกลัว จึงรีบประคองฮูหยินสวี่ออกไปอันซินได้ยินว่าสวี่เหยียนกินยาฆ่าตัวตายก็ตกใจเช่นกัน เมื่อเป็นเรื่องของชีวิตแล้ว การชนะหรือแพ้ก็ไม่มีความสำคัญแล้วอันซินคิดอย่างรู้สึกผิด หากรู้ว่าสวี่เหยียนจะฆ่าตัวตาย ตอนนั้นนางมิน่าเป็นผู้นำในการกล่าวโทษสวี่เหยียน ตอนนี้นางทำได้เพียงอธิษฐานขอให้สวี่เหยียนมิเป็นไรหลิงอวี๋กำลังยุ่งอยู่ข้างใน อันเจ๋อกับเซียวหลินเทียนเป็นบุรุษ จึงเดินออกไปรอนอกเรือนเพื่อหลีกเลี่ยงความสงสัย“คิดมิถึงเลยว่าสวี่เหยียนจะมีจิตใจที่ค่อนข้างหยิ่งในศักดิ์ศรีถึงขั้นฆ่าตัวตาย!”อันเจ๋อเอ่
ฮูหยินสวี่มิได้เอ่ยอะไรหลังจากนั้น แต่รอยยิ้มเยาะครั้งสุดท้ายของนางนั้นหลิงอวี๋จดจำอย่างฝังลึกทำให้หลิงอวี๋เปลี่ยนความเข้าใจที่มีต่อฮูหยินสวี่ รู้สึกว่าอาจมีพลังที่น่าแปลกใจซ่อนอยู่ภายใต้รูปลักษณ์ที่อ่อนโยนของนางบางทีใต้เท้าสวี่กับทุกคนในเมืองหลวงอาจมองฮูหยินสวี่ผิดไปหลิงอวี๋ตรวจดูอาการของสวี่เหยียน ยืนยันว่านางพ้นอันตรายแล้วจากนั้นจึงบอกฮูหยินสวี่ว่าควรดูแลนางอย่างไร เพื่อหลีกเลี่ยงความลำบากใจ กลุ่มคนจึงออกจากหมู่บ้านตระกูลสวี่ก่อนที่สวี่เหยียนจะฟื้น หลิงอวี๋กับเซียวหลินเทียนกลับไปที่ตำหนักอ๋องอี้แล้วถึงได้มีเวลาตรวจสอบจดหมายลาตายของสวี่เหยียนสวี่เหยียนอาจจะสิ้นหวังกับชีวิตภายหน้าของตนแล้ว ทั้งยังโกรธที่สหายสนิทก็ทิ้งตนไปด้วยในจดหมายลาตาย นางบอกทุกเรื่องที่องค์หญิงหกบอกให้พวกนางทำ รวมถึงเรื่องที่องค์หญิงหกทำให้หลิงหว่านลำบากใจ และตั้งใจให้พวกนางร่วมมือกับตน ทำให้ทั้งกลุ่มพ่ายแพ้สวี่เหยียนระบุชื่อคนในกลุ่มองค์หญิงหกทีละคนไว้ด้วยสวี่เหยียนพูดถึงการกระทำสุดท้ายของตนในจดหมายลาตายด้วยเช่นกัน หลิงอวี๋อ่านแล้วก็รู้สึกผิดนางกับทุกคนเข้าใจสวี่เหยียน!ผิดโชคดีที่ตนช่วยชีวิตสว
เมื่อได้ยินเช่นนี้เผยอวี้ก็รีบพยักหน้า พลางเอ่ยอย่างภาคภูมิใจ “ท่านย่ามิต้องกังวลขอรับ หว่านเอ๋อร์ใจดีมาก นางไม่มีทางโกรธเคืองเหลียนเอ๋อร์เป็นแน่!”ฮูหยินผู้เฒ่าเผยเอ่ยอย่างตำหนิ “มิโกรธเคืองก็ต้องไปขอโทษ อย่าให้คนอื่นคิดว่าตระกูลเผยของเราเป็นพวกคนที่มิรู้จักมารยาท!”“อวี้เอ๋อร์เอ๋ย แม้ว่าหลิงหว่านผู้นี้จะเป็นบุตรีขุนนางต้องโทษ แต่นอกเหนือจากจุดนี้แล้ว นางดีเหลือเกินและคู่ควรกับเจ้า!”ตอนที่ไปสู่ขอในวันนั้นฮูหยินผู้เฒ่าเผยสังเกตหลิงหว่านอย่างละเอียด นางมีการศึกษาดีและมีเหตุผล มีความประพฤติดี ที่สำคัญกว่านั้นคือ เมื่อต้องเผชิญหน้ากับตนก็มิได้ดูแข็งกร้าวจนเย่อหยิ่งและมิได้ถ่อมตัวจนต้อยต่ำได้คนเช่นนี้มาอยู่ในฐานะภรรยาของตระกูลเผยได้ก็สามารถดูแลจัดการทุกอย่างได้!ทางด้านไทเฮา เมื่อเห็นจดหมายลาตายที่เซียวหลินเทียนมามอบให้เองหลังการเข้าเฝ้า ไทเฮาก็ตกใจเช่นกันมันเป็นเพียงกาารแข่งขันเล็ก ๆ แต่เสียหายถึงชีวิตคนในขณะที่ไทเฮาเห็นใจจสวี่เหยียน นางก็ยิ่งโกรธเซียวทงมากในการแข่งขันก็ใจคับแคบจนทำให้หลิงหว่านได้รับบาดเจ็บ ทั้งยังกล้ายุยงกลุ่มของตนให้จงใจแพ้เยวี่ยใต้อีก!เกียรติยศกับสมบัติล
เจียงอวี้มิรู้ตัวเลยว่านั่งอยู่ในบ้านเฉย ๆ แล้วจะมีภัยหล่นมาจากฟากฟ้าพ่อกับพี่ชายของนางอยู่ที่ชายแดนกันหมด มีเพียงแม่ ย่า กับครอบครัวของลุงรองอยู่ที่บ้าน ทันใดนั้นนางก็ได้ยินว่าให้รับพระราชโองการ จึงเปลี่ยนอาภรณ์ออกมาอย่างงุนงงเมื่อได้ยินว่าให้ตนติดตามองค์หญิงหกเข้าวัง เจียงอวี้มิโต้ตอบสิ่งใด นางรู้สึกมิเต็มใจ แต่ก็ยอมรับพระราชโองการแต่โดยดีกระทั่งส่งขันทีฉางที่มาส่งพระราชโองการกลับไปแล้ว แม่กับย่าของเจียงอวี้ก็รีบดึงเจียงอวี้เข้าไปในบ้านทันที“พวกเจ้าไปเฝ้าประตูไว้ อย่าให้ใครเข้ามาใกล้!” ฮูหยินเจียงสั่งนางรับใช้เสียงแข็ง“ท่านแม่ เป็นอะไรไปหรือเจ้าคะ? ก็แค่ติดตามองค์หญิงหกเข้าไปในวังมิใช่หรือ? เหตุใดทำเหมือนกำลังเผชิญหน้ากับศัตรูที่แข็งแกร่งไปได้เล่า?”เจียงอวี้ยังคงมิเข้าใจสิ่งที่เกิดขึ้น จึงเอ่ยถามอย่างแปลกใจ“ลูกสาวผู้โง่เขลาของข้า เหตุใดเจ้าจึงโง่เขลาถึงเพียงนี้!”เมื่อฮูหยินเจียงเห็นว่าลูกสาวของตนยังมิเข้าใจว่าการเข้าวังหมายความว่าอย่างไร ก็กังวลมากจนแทบจะน้ำตาไหลออกมานิสัยที่เรียบง่ายเช่นนี้ หากเข้าวังไป กลัวว่ามิถึงสองเดือนก็จะถูกพวกของฮองเฮาเว่ยและพระชายาเส้าจัดกา
เจียงอวี้ตกใจจนมิกล้าร้องไห้เสียงดัง จึงปิดปากตนไว้แล้วกระซิบด้วยเสียงแผ่วเบา“ท่านแม่ ช่วยข้าด้วย… ข้าควรทำอย่างไรดี? ข้ายอมตายดีกว่าเข้าวัง!”“อวี้เอ๋อร์ ตอนนี้เจ้าจะตายมิได้! หากเจ้าตายไป เขาก็จะไม่มีทางปล่อยพวกเราไป!”ฮูหยินเจียงกับฮูหยินผู้เฒ่าเจียงเป็นคนที่มีประสบการณ์มามากมาย สิ่งที่พวกนางเอ่ยก็เป็นจริงเช่นกันหากเจียงอวี้ได้ยินพระราชโองการให้เข้าวังก็ฆ่าตัวตายทันที นั่นจะมิใช่การตบหน้าองค์จักรพรรดิหรือ?องค์จักรพรรดิจะปล่อยตระกูลเจียงไปได้เยี่ยงไร!เมื่อเจียงอวี้ได้ยินว่า แม้แต่จะตายก็ทำมิได้ก็ยิ่งสิ้นหวังแล้วทรุดลงไปที่พื้นอย่างอ่อนแรงหรือนี่คือชะตากรรมของตน?“มิต้องกังวล มิต้องกังวล ตั้งวันพรุ่งถึงจะเข้าวังมิใช่หรือ? พวกเราลองคิดหาทางหลีกเลี่ยงสิ่งนี้กันก่อน!”ฮูหยินผู้เฒ่าเจียงใจสลายเมื่อเห็นท่าทางสิ้นหวังของเจียงอวี้ จึงรีบปลอบใจฮูหยินเจียงก็คุกเข่าลงกับพื้นแล้วกอดเจียงอวี้อย่างทุกข์ใจเช่นกัน “อวี้เอ๋อร์ หากท่านพ่อกับพี่ชายของเจ้าอยู่ที่นี่ บางทีพวกเขาอาจคิดหาทางได้!”“แต่ตอนนี้มีเพียงพวกเราสตรีเพียงมิกี่คนเท่านั้น ใครจะตัดสินใจแทนเราได้เล่า!”เจียงอวี้ร้องไห้
เจียงอวี้ร้องไห้แล้วเล่าเรื่องพระราชโองการให้เข้าวังหลิงอวี๋กับหลิงหว่านฟังแล้วต่างตกตะลึง แรกเริ่มหลิงหว่านก็มีความคิดเดียวกันกับเจียงอวี้ จึงเอ่ยอย่างมิอยากจะเชื่อ“เจียงอวี้ เจ้าเข้าใจผิดไปหรือไม่? แค่ให้เจ้าตามองค์หญิงหกไป มิแน่ว่าจะต้องเป็นอย่างที่เจ้าคิดนี่!”แต่หลิงอวี๋มิได้มองในแง่ดีเท่าหลิงหว่านเช่นนั้น เพราะว่านางเป็นคนยุคใหม่ ในประวัติศาสตร์มีเรื่องเกิดขึ้นอยู่มิน้อย เรื่องที่เจียงอวี้เข้าวังมิใช่เรื่องในแง่ดีแน่นอน“หว่านหว่าน ข้าก็หวังว่าจะมิเป็นเช่นนั้น แต่ท่านแม่กับท่านย่าของข้าต่างก็พูดเช่นนั้น ข้ามิเชื่อคงมิได้แล้ว!”เจียงอวี้เช็ดน้ำตาแล้วเอ่ยอย่างหมดหวัง “ท่านพี่หลิงหลิง โปรดให้คำแนะนำแก่ข้าทีเถิดเจ้าค่ะ ข้าจะหลีกเลี่ยงการเข้าวังได้เยี่ยงไรหรือ?”หลิงอวี๋ขมวดคิ้ว เรื่องจักรพรรดิอู่อันทำเรื่องที่มิเข้าท่าจริง ๆ แต่เขาเป็นจักรพรรดิ ดังนั้นจึงเป็นเรื่องปกติสำหรับเขาที่จะรับสตรีเข้าวังจำนวนเท่าใดก็ได้“เจียงอวี้ พระราชโองการออกมาแล้ว เจ้าหนีมิพ้นที่จะต้องเข้าวังหรอก!” หลิงอวี๋เอ่ยด้วยรอยยิ้มขมขื่นสีหน้าของเจียงอวี้ซีดลงทันที “ท่านพี่หลิงหลิง ท่านก็ไม่มีวิธีหรือ?
มินานหลิงอวี๋ก็นำยามาให้เจียงอวี้ แล้วนางก็สั่ง “เจ้าควรเริ่มกินยานี้ก่อนเข้าวัง เพื่อหลีกเลี่ยงมิให้ใครเจอแล้วสงสัยเข้า!”“ข้าเข้าใจแล้ว!” เจียงอวี้พยักหน้าอย่างซาบซึ้งใจ “พระชายาอ๋องอี้ ขอบคุณนะเจ้าคะ ข้าจะไม่มีวันลืมบุญคุณของท่านเลย!”“จริงสิ ท่านให้ยานี้กับข้ามากหน่อยได้หรือไม่? ได้ยินมาว่าเถาลี่ก็จะเข้าวังด้วยกัน! ข้าจะแบ่งให้นางกิน!”เมื่อหลิงอวี๋ได้ยินสิ่งนี้ก็รีบส่ายหัว “เจียงอวี้ มิใช่ว่าข้ามิอยากช่วยเถาลี่ แต่เจ้าลองคิดดูสิ หากเจ้าเป็นคนเดียวที่มีกลิ่นประหลาดที่อธิบายมิถูกมันจะเป็นเรื่องปกติมาก!”“ทว่าหากคนสองคนเข้าวังต่างมีกลิ่นแปลกติดตัวเช่นนี้ทั้งคู่ มันจะสมเหตุสมผลหรือ?”“ยิ่งไปกว่านั้น เจ้ามิอยากปรนนิบัติองค์จักรพรรดิแล้วเจ้ารู้ได้อย่างไรว่าเถาลี่มิอยากทำ?”หลิงอวี๋ชอบเจียงอวี้มาก จึงเอ่ยอย่างอดทน “เจียงอวี้ คนจะเปลี่ยนไปได้ภายใต้การล่อลวงของอำนาจ! แม้ว่าองค์จักรพรรดิจะเป็นพ่อของพวกเจ้าได้ ทว่าหากเจ้ากลายเป็นสนมคนโปรดขององค์จักรพรรดิ เจ้าก็จะได้ดีทุกอย่างเลยนะ!”“เจ้าเอ่ยสิ่งเหล่านี้กับข้ากับหลิงหว่านได้ แต่เมื่อเจ้าเข้าวัง แม้แต่พี่น้องที่ดีที่สุดก็อาจแทงข้างหลัง
“หึหึ!”ชายาเจ้าแห่งทะเลหัวเราะออกมา “หลิงอวี๋ เจ้าคิดว่าข้าโง่รึ? หยกหล้าสุขาวดีหลอมรวมเป็นหนึ่งเดียวกับเจ้าแล้ว ค้นตัวเจ้าจะหาเจอได้อย่างไร?”“หลิงอวี๋ หยกหล้าสุขาวดีมิใช่ของของเจ้าตั้งแต่แรก มารดาเจ้าเป็นนางโจร ขโมยมหาวัตถุศักดิ์สิทธิ์ของจวนเจ้าแห่งทะเลไป การให้เจ้าคืนมาก็แค่เป็นการคืนของสู่เจ้าของเดิม!”“ข้าสืบรู้มาหมดแล้ว เจ้าและเซียวหลินเทียนสามีของเจ้าต่างก็อยู่ในเมืองหลวงแดนเทพ เจ้ายังมีบุตรชายอีกคนที่ฉินตะวันตก!”“หลิงอวี๋ ที่เจ้าปฏิเสธมิยอมรับฐานะของตนเองมาตลอด คงเป็นเพราะล่วงรู้ถึงวิธีที่จะนำหยกหล้าสุขาวดีออกมาแล้วสินะ”“เจ้าคิดว่าอย่างไรก็ต้องตายอยู่ดี ดังนั้นเจ้าจึงคิดว่า ขอเพียงมิยอมรับก็เป็นไปมิได้ที่พวกเราจะมัดตัวเจ้าไปสลายเลือดละลายกระดูกที่ภูเขาศักดิ์สิทธิ์เพื่อนำหยกหล้าสุขาวดีออกมา!”ชายาเจ้าแห่งทะเลพูดถึงตรงนี้ก็แค่นเสียงหัวเราะ “เจ้าเชื่อหรือไม่ ข้ามิจำเป็นต้องพิสูจน์ยืนยัน ก็สามารถมัดตัวเจ้าไปภูเขาศักดิ์สิทธิ์ได้แล้ว!”“ที่ข้าให้คนนำตัวเจ้ามาที่จวนเจ้าแห่งทะเล ก็เพื่อจะให้โอกาสเจ้า!”หลิงอวี๋หรือจะยอมรับฐานะของตนเพียงเพราะชายาเจ้าแห่งทะเลพูดเช่นนี้ได้อย่าง
“เข้าไป อย่าให้พ่อบ้านผู้นี้ต้องพูดเป็นครั้งที่สอง!”รอยยิ้มบนใบหน้าของพ่อบ้านเว่ยหายไปสิ้น กล่าวอย่างมิอดทน “เมื่อให้โอกาสดี ๆ มิชอบ ก็ต้องเจอดีเสียบ้าง!”เถาจื่อกำแขนหลิงอวี๋ไว้แน่น และถามผ่านสายตา“ตอนนี้ควรทำอย่างไรดีเจ้าคะ?”หลิงอวี๋ก็คาดมิถึงว่าจวนเจ้าแห่งทะเลจะเปลี่ยนท่าทีเร็วถึงเพียงนี้ ก่อนหน้านี้นางยังคิดว่า เมื่อเข้ามาในจวนเจ้าแห่งทะเลแล้วจะสามารถยื้อเวลาสักพักได้ชายาเจ้าแห่งทะเลมิปรากฏตัว แต่กลับให้พ่อบ้านเว่ยพาตนมาที่นี่เช่นนี้เลย?นี่หมายความว่าอย่างไรกัน?คิดจะขังนางไว้ หรือว่ามีแผนอื่นกระไร?หลิงอวี๋มองไปยังท่าทีมีเจตนาร้ายของพวกพลธนูและชายร่างใหญ่หลายคนที่ยืนอยู่ข้าง ๆ เหล่านั้น นางและเถาจื่อไม่มีทางหนีรอดจากเงื้อมมือของพวกเขาไปได้เลย“เข้าไปก่อนเถอะ!”หลิงอวี๋นำหน้าเดินเข้าไป เถาจื่อตามติดอยู่ข้างหลังหลิงอวี๋เพิ่งจะก้าวเท้าเข้าประตูเรือน เมื่อเห็นสภาพข้างในก็รู้สึกว่ามิดีแน่ เพิ่งจะคิดถอยหลังเถาจื่อกลับถูกคนผลักจากด้านหลังอย่างแรง ชนเข้ากับร่างหลิงอวี๋จนดันหลิงอวี๋เข้าไปข้างในทั้งสองคนล้มลงไปกองรวมกัน ยังมิทันได้ลุกขึ้นยืนก็ได้ยินเสียงดังโครมสนั่นกล
หลงเพ่ยเพ่ยห้อยอยู่บนชะง่อนผานั้น นางเองก็ทนต่อไปมิไหวแล้ว ภายใต้การเกลี้ยกล่อมของทุกคน นางจึงปีนป่ายเชือกขึ้นไปนางนึกถึงจุดประสงค์ที่ตนมาที่นี่ หากเย่หรงตายไปแล้วจริง ๆ เขาย่อมหวังให้นางช่วยหลิงอวี๋ออกมาได้อย่างแน่นอนนางมิอาจทำให้เย่หรงตายตามิหลับได้!เมื่อหลงเพ่ยเพ่ยปีนขึ้นมาได้ก็มิสนใจตรวจสอบบาดแผลของตน นางคุกเข่าลงต่อหน้าฮองเฮาทันทีนางกล่าวเสียงเครือ “เสด็จย่า เรื่องที่ทรงรับปากหม่อมฉันเมื่อครู่ สามารถประทานพระราชโองการให้หม่อมฉันตอนนี้ได้หรือไม่เพคะ?”“เมื่อครู่เย่หรงช่วยชีวิตหม่อมฉันและหยวนซานไว้ เพียงเห็นแก่บุญคุณทั้งสองครั้งนี้ เสด็จย่าทรงควรจะช่วยให้เขาสมหวังนะเพคะ!”ฮองเฮานึกถึงเรื่องที่เย่หรงและหลงเพ่ยเพ่ยอ้อนวอนตนเมื่อครู่ เย่หรงเป็นถึงเพียงนี้แล้ว นางจะยังทำให้คนที่เขาชอบพอลำบากใจได้อีกหรือ?ฮองเฮาถอดปิ่นปักผมอันหนึ่งของตนออกมาโดยมิทันคิด แล้วยื่นให้กับหลงเพ่ยเพ่ย“ถือปิ่นปักผมนี้ไปพาตัวสิงอวี๋ออกมาเถอะ!”หลงเพ่ยเพ่ยรับปิ่นปักผมหงส์คู่ปักทองคำของฮองเฮามาทั้งน้ำตา นี่คือปิ่นปักผมที่ฮองเฮาเท่านั้นจึงจะสวมใส่ได้ เห็นปิ่นดังเห็นองค์ เทียบเท่ากับพระราชโองการของฮองเฮ
“ท่านหญิง...”“เพ่ยเพ่ย...”ฮองเฮาเห็นหลงเพ่ยเพ่ยตกลงไปก็ตกใจจนหัวใจแทบหยุดเต้นไปชั่วขณะ ผานกกระเรียนแห่งนี้เป็นปรปักษ์กับราชวงศ์หรืออย่างไร?เหตุใดถึงได้ตกลงไปทีละคนเช่นนี้?“เร็วเข้า ช่วยคน!”ฮองเฮาตะโกนลั่น นางกำนัลที่มีไหวพริบรีบไปตามองครักษ์มาช่วยทางด้านเย่หรงทรงตัวได้มั่นคงบนชะง่อนผาแล้ว เขาเพิ่งจะถอนหายใจโล่งอกก็ได้ยินเสียงกรีดร้องจากด้านบนเมื่อเงยหน้าขึ้น เขาก็เห็นหลงเพ่ยเพ่ยกำลังร่วงหล่นลงมาหัวใจของเย่หรงหดเกร็งวูบ มิทันได้คิด คว้าเถาวัลย์ข้าง ๆ แล้วโหนตัวไปหาหลงเพ่ยเพ่ยหลงเพ่ยเพ่ยตกใจจนหลับตาลงแล้ว เตรียมพร้อมยอมรับความตายแต่ทันใดนั้นก็รู้สึกเหมือนตนชนเข้ากับคนผู้หนึ่ง จากนั้นร่างก็ถูกกอดไว้“ไปทางนั้น เร็วเข้า คว้าชะง่อนผานั่นไว้!”เย่หรงพลิกตัวกลางอากาศ เหวี่ยงหลงเพ่ยเพ่ยไปทางนั้น หลงเพ่ยเพ่ยพุ่งเข้าใส่ผนังผา แต่ใช้แรงมากเกินไปจนใบหน้าชนกับผนังผาจนถลอก นางเจ็บเสียจนหน้ามืดตาลายแต่นางมิสนใจความเจ็บปวดแทบขาดใจ เช่นเดียวกันกับเย่หรง เขาพยายามสุดชีวิตที่จะคว้าเถาวัลย์เหล่านั้นไว้โชคดีที่เถาวัลย์ฝั่งนี้ยังพันเกี่ยวกับกิ่งไม้มากมาย เถาวัลย์ที่พันกิ่งไม้ไว้นั้
“ซานเอ๋อร์!”หลงอวิ๋นก็เห็นภาพนี้เช่นกัน ทันใดนั้นในสมองก็ว่างเปล่า…ในฐานะมารดา นางจะมิรู้ได้อย่างไรว่าตนลำเอียงต่อบุตรชายทั้งสองคนหยวนซือและหยวนซานป่วยไข้พร้อมกัน นางกลับเฝ้าหยวนซือทั้งวันทั้งคืนส่วนหยวนซานกลับเป็นหยวนซิ่งสามีของนางที่คอยดูแลด้วยตนเองของประทานที่ได้รับจากมหาเทพและเจ้าแห่งทะเลผู้เป็นบิดาในช่วงเทศกาลปีใหม่และวันสำคัญต่าง ๆ นางก็จะให้หยวนซือเลือกก่อน ที่เหลือถึงจะให้หยวนซานเรื่องเช่นนี้นับมิถ้วน แต่หยวนซานกลับถูกหยวนซิ่งบิดาของเขาสั่งสอนมาอย่างดี มิเคยบ่นว่าเรื่องความลำเอียงของนางเลย!บัดนี้มองดูหยวนซานกำลังจะตกหน้าผา หลงอวิ๋นในฐานะมารดาจะสามารถมองดูเฉย ๆ ให้บุตรชายตายตกไปเช่นนี้ได้หรือ?ฝ่ามือหลังมือก็เนื้อเดียวกัน นางทำให้หยวนซานมาสู่ใต้หล้าผืนนี้ หยวนซานมีความผิดอะไร นางมีสิทธิ์อะไรจะทำกับหยวนซานเช่นนี้“ซานเอ๋อร์!”เรื่องนี้เกี่ยวพันถึงชีวิต เมื่อคิดว่าจะต้องสูญเสียบุตรชายคนนี้ไปตลอดกาล หลงอวิ๋นก็พลันเสียใจแต่ก็สายเกินไปนางมิสนใจอีกต่อไปว่าจะทำให้หยวนซือบาดเจ็บหรือไม่ นางใช้แรงดึงหยวนซือออกอย่างแรงแล้วพุ่งเข้าไปที่หน้าผา“ซานเอ๋อร์ แม่มาช่วยเจ้าแล้ว
หลงเพ่ยเพ่ยเห็นท่านหญิงชิงเฉิงและท่านหญิงอวิ๋น ในสมองพลันเกิดความคิดแวบขึ้นมา ถึงได้คิดข้ออ้างนี้ออกเมื่อเห็นเย่หรงตามแนวคิดของตนทัน หลงเพ่ยเพ่ยก็แอบชื่นชมในไหวพริบของเย่หรงในใจ แล้วกล่าวต่อไป“เสด็จย่า ท่านคงมิประสงค์ให้ท่านอาเจ้าแห่งทะเลต้องเสียหน้าใช่หรือไม่เพคะ!”“หากเย่หรงไปหาท่านปู่ของเขาให้ออกหน้า การกระทำอันเผด็จการเช่นนี้ของท่านอาเจ้าแห่งทะเลจะถูกผู้คนรังเกียจ ถึงเวลานั้นก็จะส่งผลกระทบต่อเกียรติของราชวงศ์พวกเรา!”“ในใต้หล้านี้มีสตรีมากมาย ท่านอาเจ้าแห่งทะเลก็มิได้ขาดสตรีที่มาเสนอตัวให้ เหตุใดต้องทำเรื่องทำลายวาสนาคู่ครองของผู้อื่นเช่นนี้ด้วย!”ครั้นฮองเฮานึกถึงความเหลวไหลของเจ้าแห่งทะเลก็รู้สึกเสียหน้ายิ่งนัก กล่าวเสียงเข้ม “เอาเถอะ ย่ารู้แล้ว จะออกพระราชโองการให้พวกเจ้าไปรับคนที่จวนเจ้าแห่งทะเล...”หลงเพ่ยเพ่ยและเย่หรงถอนหายใจโล่งอก เพียงแต่ทั้งสองยังมิทันลุกขึ้นยืน ก็มีเสียงกรีดร้องดังแว่วมาจากที่ไกล ๆได้ยินเสียงคนกำลังตะโกนแว่วมา “ช่วยด้วย เร็วเข้า ใครก็ได้ คุณชายน้อยตกลงไปใต้หน้าผาแล้ว...”ฮองเฮาพลันลุกขึ้นยืน ร้องเรียกอย่างร้อนรน “เร็ว ไปดูซิ ใครตกลงไป?”วันนี้
หลงอวิ๋นได้สติกลับคืนมา ตามปกติแล้วคนทั่วไปหากมิได้ยินคำพูดของท่านหญิงชิงเฉิงก็จะถามว่า “เมื่อครู่เจ้าว่ากระไรนะ?”แต่หลงอวิ๋นกลับมิทำตามปกติ ลุกขึ้นยืนแล้วกล่าวว่า “เสด็จย่า เด็ก ๆ เดินไปไกลแล้ว หม่อมฉันไปตามพวกเขากลับมาดีกว่า ควรลงจากเขาได้แล้วเพคะ!”พูดจบ หลงอวิ๋นก็เดินออกจากศาลาพักร้อนไป ร้องเรียกสาวใช้ของตนว่า “พวกคุณชายใหญ่ไปทางไหนกันหรือ?”เนี่ยนจูนางรับใช้ของหลงอวิ๋นกล่าวพลางยิ้มประจบ “แม่นมจี้และเนี่ยนชิงพาพวกเขาไปทางนั้นเจ้าค่ะ มิน่าจะเดินไปไกล!”“ไป ไปดูกัน!”หลงอวิ๋นเดินตามทิศทางที่เนี่ยนจูชี้ไปโดยมิหันกลับมามองท่านหญิงชิงเฉิงมองแผ่นหลังของนางที่เดินจากไปเช่นนั้นก็โกรธจนแทบจะด่าทอเสียงดังลั่นออกมา“พี่หญิงชิงเฉิง พี่หญิงอวิ๋นไปตามหาเด็ก ๆ แล้ว ท่านมิไปตามหาแก้วตาดวงใจทั้งสองของท่านบ้างหรือ?”หลงเพ่ยเพ่ยเห็นดังนั้นก็จงใจกล่าว “ผานกกระเรียนแห่งนี้แม้จะไม่มีสัตว์ร้าย แต่เด็ก ๆ ยังเล็กนัก เล่นอยู่ริมผา หากพลาดตกลงไป เช่นนั้นก็…”“เจ้าแช่งลูกข้ารึ?”ท่านหญิงชิงเฉิงมองหลงเพ่ยเพ่ยอย่างโกรธเคือง ด่าว่า “หลงเพ่ยเพ่ย เจ้าอายุยังน้อย เหตุใดจึงทำตัวเหลวไหลเช่นนี้ คบหากับเย่ห
“เรื่องคู่ครองของข้ารึ?”หลงเพ่ยเพ่ยชะงักไปครู่หนึ่ง นางยังมิได้พูดคุยเรื่องแต่งงานเลย เหตุใดจึงเกี่ยวข้องกับเรื่องคู่ครองของตนได้เล่า“นี่เป็นเพียงข้ออ้าง หลอกพวกนางไปก่อน แล้วค่อยพูดเรื่องสำคัญกับเสด็จย่าของท่าน!”เย่หรงยิ้มกล่าว “อย่างไรเสีย เรื่องนี้ค่อยอธิบายให้เสด็จย่าของท่านเข้าใจทีหลังก็ได้!”ขณะพูดคุยกัน ทั้งสองก็มาถึงศาลาพักร้อนแล้วท่านหญิงชิงเฉิงที่อยู่ในศาลาเห็นหลงเพ่ยเพ่ยกับเย่หรงตามมาถึงที่นี่ ก็พลันนึกถึงคำกำชับของชายาเจ้าแห่งทะเลนางรีบชิงพูดก่อน “ท่านหญิงฉางเล่อก็มาด้วยรึ อ้าว นี่พาคุณชายมาด้วย!”“คุณชายผู้นี้หน้ามิคุ้นเลย เมื่อก่อนมิเคยเห็น เป็นคุณชายจากตระกูลใดกัน?”เย่หรงเห็นใบหน้างดงามของท่านหญิงชิงเฉิงแสดงท่าทีดูแคลนก็รู้ว่าอันที่จริงนางรู้ว่าตนเป็นใครเพียงแต่เหมือนกับพวกคนหัวสูงในเมืองหลวงแดนเทพ นางก็ดูถูกตนที่เป็นบุตรชายที่มิได้เรื่องของตระกูลเย่เช่นกันเสด็จย่าของหลงเพ่ยเพ่ยยังคงดูสดใสร่าเริง อายุหกสิบกว่าปีแล้วแต่ใบหน้ายังคงเปล่งปลั่งมีน้ำมีนวล แทบจะไม่มีริ้วรอยเลยฮองเฮาได้ยินคำพูดของท่านหญิงชิงเฉิงก็มองมาอย่างสงสัย พินิจพิจารณาเย่หรง แล้วกล่าวพล
สิ่งที่เย่หรงคิด หลงเพ่ยเพ่ยก็คิดถึงเช่นกัน นางกล่าวกับเย่หรงอย่างขัดแย้งในใจ“เจ้าคิดจะบอกเรื่องที่เฉาฮุยยังมีชีวิตอยู่ให้พี่หญิงอวิ๋นฟังรึ?”“แต่เช่นนี้ก็มิยุติธรรมกับพี่เขยหยวน เขาและพี่หญิงอวิ๋นก็มีลูกชายด้วยกันอีกคนแล้ว หากบอกพี่หญิงอวิ๋นว่าเฉาฮุยยังมีชีวิตอยู่ จะเป็นการทำลายครอบครัวของพวกเขาเสียเปล่า!”“ข้ามิชอบที่ชายาเจ้าแห่งทะเลทำกับเฉาฮุยเช่นนี้ แต่พี่เขยหยวนและหลานชายตัวน้อยของข้าเป็นผู้บริสุทธิ์!”“อีกอย่าง พี่เขยหยวนก็ดีต่อพี่หญิงอวิ๋นมาก ก่อนหน้านี้ข้ายังอิจฉาพี่หญิงอวิ๋นที่ได้ลงเอยกับคนที่ดี!”เย่หรงยิ้มเย็นชา “เช่นนั้นยุติธรรมกับเฉาฮุยแล้วหรือ? เขายังมีบิดามารดาที่ต้องกตัญญูเลี้ยงดู ท่านหญิงอวิ๋นมิช่วยเขาออกมา แล้วจะมีใครช่วยเขาได้อีก?”“ชั่วชีวิตของเขาจะต้องอยู่ในคุกน้ำไปตลอดหรือ? นี่มันโหดร้ายยิ่งกว่าการฆ่าเขาทิ้งเสียอีก!”หลงเพ่ยเพ่ยพูดมิออกเดิมทีเฉาฮุยมีอนาคตที่สดใส เพียงเพราะรักใคร่กับท่านหญิงอวิ๋น ถึงต้องตกอยู่ในชะตากรรมอันน่าเศร้าเช่นนี้มิอาจกตัญญูเลี้ยงดูบิดามารดาได้ บุตรชายก็มากลายเป็นของผู้อื่น การที่เขาสามารถทนอยู่ต่อไปในคุกน้ำได้ คาดว่าคงเพราะยังมี