Share

บทที่ 9

Author: จูน
ภายในใจของจื่ออันไม่สงบสุขและไม่สามารถช่วยเหลือตัวเองได้ นางทำได้เพียงคำนับและพูดว่า “เพคะ หม่อมฉันรับทราบ”

ฮองเฮาเงยหน้าขึ้น ดวงตาไม่อ่อนโยนเหมือนเมื่อครู่นี้ กลับกลายเป็นสีหน้าแสนดุดัน “ครั้งนี้เจ้าใช้ืท่านอ๋องเหลียงเป็นเครื่องมือ มิหนำซ้ำยังทำลายชื่อเสียงของพระองค์ ทางราชสำนักควรลงโทษเจ้าอย่างสาสม แต่พอมาคิดดูว่าที่เจ้าวางแผนทำลงไปก็เพื่อแม่ของเจ้า ข้าคิดว่าการลงโทษสถานเบานั้นก็เพียงพอ เข้ามา เตรียมสมุนไพรดอกคำฝอยหนึ่งชามให้นางดื่มเสีย”

อารมณ์โกรธของจื่ออันทะยานสูงขึ้นทันที ร่างกายของเธออ่อนแรงมากแล้ว อีกทั้งชีพจรยังเต้นผิดจังหวะ การตั้งครรภ์จึงถือว่าเป็นเรื่องยากมาก เมื่อกินสมุนไพรดอกคำฝอยลงไป เธอก็ต้องล้มเลิกความหวังไป

พระสนมของผู้สำเร็จราชการแทนองค์จักรพรรดิมู่หรงเจี๋ย คือคนที่ไม่อาจตั้งครรภ์ได้

เป็นหญิงอำมหิตอะไรเช่นนี้

แม้จื่ออันจะไม่ใส่ใจว่าเธอจะตั้งครรภ์ได้หรือไม่ เธอเพียงต้องการมีชีวิตรอด ทว่าก็ยังโกรธฮองเฮาแมนจูผู้นี้อยู่ดี

ทว่า ณ ตอนนี้เธอไม่สามารถทำอะไรได้ แต่ด้วยนิสัยของเธอ เธอจะฆ่าฮองเฮาโดยมิลังเลใจเป็นแน่

ทว่าตอนนี้เธอยังไม่สามารถดูแลตัวเองได้ มิหนำซ้ำยังต้องมาดูแลแม่อีก ไม่ได้ตัวคนเดียวอีกต่อไป

ความรู้สึกนี้ไม่ว่าจะกลั้นเอาไว้ยากแค่ไหน ก็ต้องกลั้นเอาไว้ให้ได้

กล้ำกลืนไปพร้อมกับสมุนไพรดอกคำฝอยให้หมดสิ้น

สายตาที่ดุร้ายของฮองเฮาเมื่อผ่านไปชั่วครู่ ก็มาปรากฏอยู่ข้างหน้าจื่ออัน ทำให้นางเหมือนลูกไก่ในกำมือ และรู้สึกไม่ปลอดภัยเป็นอย่างยิ่ง

ณ เวลานี้เธอรู้ดีว่าในยุคสมัยนี้ต้องใช้ชีวิตให้รอบคอบถึงจะไม่ถูกรังแก ซึ่งต้องทำให้ตนเองนั้นมีทั้งอำนาจ และรวบรวมพละกำลัง เส้นทางที่กำลังเดินไปทั้งยากลำบากและยาวไกล ทว่าหากออกไปจากวังแห่งนี้เมื่อใด เธอจะหาวิธีเอาคืนให้สาสม แม้จะต้องแลกด้วยการนองเลือดก็ตาม

กลิ่นอันหอมหวานของดอกคำฝอย ค่อย ๆ ไหลเข้าสู่ลำคอไปยังกระเพาะ

เธอเวียนหัวเป็นอย่างมาก จึงคุกเข่า และพูดว่า “ทูลฮองเฮา หม่อมฉันขอทูลลา เพคะ”

เสียงของฮองเฮาดังขึ้นอย่างช้า ๆ และไร้อารมณ์ “เจ้ามาทางไหน ก็กลับไปทางนั้นเสีย”

จื่ออันกัดฟันพูด “เพคะ”

เธอออกจากตำหนักไป ไปยืนอยู่ตรงระเบียงหิน เห็นราชบริพารหญิงกำลังตัดแต่งหญ้าที่ลานกว้าง ดอกไม้บานสะพรั่ง ตะกายขึ้นไปบนกำแพงวังอย่างเงียบ ๆ เผยสีสันของดอกโบตั้นที่ยังบานไม่เต็มที่

นางข้าหลวงนางหนึ่งปรากฏตัวข้าง ๆ หล่อน พูดอย่างใจเย็น “คุณหนูใหญ่ ปฏิบัติตามพระราชประสงค์ของฮองเฮาเถิด”

จื่ออันกราบสามครั้ง คำนับเก้าครั้งจากในตำหนักไปจนถึงประตูทางออกทิศตะวันตก ก็ค่ำแล้ว

ยามนี้ถนนหนทางไม่มีผู้ใดเดินไปมาแม้แต่คนเดียว ไม่มีใครเห็นความจนตรอกที่เธอกำลังเผชิญ เธอประคองตัวเองกับกำแพงที่อยู่ฝั่งซ้าย ค่อย ๆ ก้าวไป ราวกับกำลังเดินอยู่บนผ้าฝ้าย เธอใช้กำลังทั้งหมดในการทรงตัว

สุดทางโค้ง เธอเห็นผ้าม่านรถม้าค่อย ๆ เปิดออก เธอเพียงแค่จ้องมอง และจึงจำได้ว่าคือ เซี่ยฉวน คนที่มาจากจวน

ใบหน้าของจื่ออันเผยรอยยิ้มเล็กน้อย เขามาเพื่อฟังข่าวและดูว่าเธอจะรอดชีวิตกลับไปหรือไม่

รถม้าแล่นผ่านไปอย่างรวดเร็ว หายวับไปกับตาของเธอ รถม้าของจวน ทั้ง ๆ ที่รู้ว่าเธอปีนป่ายออกมาจากกำแพง ร่างกายก็บาดเจ็บ แต่กลับไม่ยอมให้เธอขึ้นรถไปด้วย

เธอคิดภายในใจ ข้าจะจำไว้!

ณ ตำหนักนายท่าน

“นายท่าน ฮูหยิน คุณหนูออกมาจากวังแล้ว” เซี่ยฉวนกล่าว

จากการที่จื่ออันถูกเรียกให้เข้าวัง มหาเสนาบดีเซี่ยจึงให้คนมาสืบข่าว หากจื่ออันไม่รอดกลับมา เขาจะเข้าไปรับโทษในวัง

หากจื่ออันรอด เขาจะได้จัดการพิธีแต่งงานใหม่ต่อไป

“ฮองเฮาเมตตาเพียงนั้นเชียวรึ” มหาเสนาบดีเซี่ยแสดงความไม่เชื่ออย่างเย็นชา การปฏิเสธการแต่งงานต่อหน้าสาธารณะชนเป็นเรื่องน่าอายเหลือเกิน ขุนนาง และฮองเฮาผู้สูงส่งสามารถทนการถูกตบหน้าเช่นนี้ได้อย่างไรกัน นี่ทำให้พวกเขาประหลาดใจกันยกใหญ่

มหาเสนาบดีเซี่ยยังคงสับสนงงงวย “เจ้าเห็นถูกคนแน่นะ นางออกจากวังมาแล้วจริง ๆ ใช่หรือไม่”

“ข้าแต่นายท่าน จริงอยู่ที่ทางราชสำนักไม่มีรถม้าออกมาส่งนาง แต่ข้าได้ยินผู้รักษาการหน้าประตูวังได้เล่าว่า ตอนเข้าไปในวังหล่อนได้กราบสามครั้ง คำนับเก้าครั้ง ตอนออกมาก็ทำเช่นนั้น ข้าราชบริพารเห็นนางออกจากวังด้วยตาของตัวเอง หน้าผากของนางบวม มือมีเลือดไหล ดเหมือนว่านางจะถูกทรมานอย่างหนัก”

เขาคิดว่านางไม่สามารถทำให้ฮองเฮาโกรธเป็นแน่ ด้วยความฉลาดเป็นกรดของนางเอง ด้วยตระกูลของฮองเฮามีบารมีราวกับพระอาทิตย์ที่สถิตกลาง​ท้องฟ้า ไม่อาจจะล่วงเกินได้

“ได้ยินมาว่าผู้สำเร็จราชการแทนองค์จักรพรรดิมู่หรงเจี๋ยก็เข้าวังในวันนี้เช่นกันขอรับ แต่มิอาจทราบว่าเข้ามาพบคุณหนูหรือไม่” เซี่ยฉวนพูด

มหาเสนาบดีเซี่ยตกใจ “ผู้สำเร็จราชการแทนองค์จักรพรรดิ อย่างนั้นรึ”

ท่านผู้นี้รับมือด้วยยากทีเดียว เขาดูแลอ๋องเหลียงอย่างดี เขายังใช้คำพูดเกลี่ยกล่อมฮองเฮาได้อีกด้วย แถมเอาจื่ออันไประงับความโกรธของฮองเฮาได้อีก ผู้สำเร็จราชการแทนองค์จักรพรรดิผู้นี้ ไม่ง่ายเลยที่จะรับมือ

การปฏิเสธการแต่งงานวันนี้ คือ ความอับอายของราชสำนัก ผู้สำเร็จราชการแทนองค์จักรพรรดิ จะไม่แก้แค้นได้อย่างไรกัน

มิหนำซ้ำ นับตั้งแต่องค์จักรพรรดิประชวร หลังจากนั้นก็ได้ผู้สำเร็จราชการแทนองค์จักรพรรดิมาดูแลราชกิจบ้านเมืองแทน เขามุ่งเป้าเข้าหาตนเอง หากคิดว่าตัวเองไม่เป็นที่ถูกตาต้องใจ จะเป็นไปได้ไหมที่จะใช้โอกาสนี้ลงมือ

ในใจมหาเสนาบดีเซี่ยอยู่สภาวะคับขัน

“ท่านพี่ ผู้สำเร็จราชการแทนองค์จักรพรรดิ และอ๋องเหลียงมีความสัมพันธ์อันดีต่อกัน เขาจะแก้แค้นตระกูลของพวกเราหรือไม่ก็ตาม อย่างไรเสียคนผู้นี้ก็ไม่อาจรับมือได้ง่าย ๆ” ฮูหยินหลิงหลงพูด

มหาเสนาบดีเซี่ยครุ่นคิด “เพียงเฝ้าคอยว่าการตายของจื่ออัน จะสามารถทำให้ภายในใจของนางจะสงบลงหรือไม่ แต่ถ้าต้องการพาลใส่ผู้อื่น หรือต้องการความจริง ความจริงจะค่อย ๆ เปิดเผยออกมา จริงสิ เจ้าแน่ใจนะว่าองค์รัชทายาทจะอภิเษกกับหว่านเอ๋อ”

ฮูหยินหลิงหลงพูด “หว่านเอ๋อบอกข้าว่า องค์รัชทายาทได้ทรงให้คำสัญญาไว้”

ในใจมหาเสนาบดีรำพึงรำพัน “ดี ดี”

ฮูหยินหลิงหลงมองไปที่เขา แล้วถามอย่างไม่แน่ใจว่า “ถ้าอย่างนั้น หากเซี่ยจื่ออันกลับมาแล้ว ท่านพี่จะทำตามความต้องการของท่านแม่หรือไม่ จะลงมือเมื่อไหร่?”

มหาเสนาบดีเซี่ยครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่ง “ข้าจะไปถามท่านแม่ จะจัดการกับเรื่องนี้เช่นไร”

ฮูหยินหลิงหลงหัวเราะ “จริง ๆ แล้ว ท่านพี่ไม่จำเป็นต้องไปรบกวนท่านแม่หรอก ช่วงนี้ท่านแม่ไม่ค่อยสบาย เรื่องนี้เราจัดการเองเถอะ”

นางไม่ชอบที่มหาเสนาบดีเซี่ยต้องไปถามฮูหยินผู้เฒ่าแบบนั้น ยิ่งเขาพึ่งพาฮูหยินผู้เฒ่ามากเท่าไหร่ ตำแหน่งของนางในจวนแห่งนี้ก็ยิ่งไม่อาจสั่นคลอน นางทนกับความเจ้าเล่ห์ของฮูหยินผู้เฒ่ามามากพอแล้ว

มหาเสนาบดีเซี่ยไม่เข้าใจความหมายที่นางจะสื่อ รู้แค่ว่านางคงห่วงใยนาง จึงกล่าวว่า “อย่าไปถามท่านแม่เรื่องอื่น ๆ ทว่าเรื่องนี้เกี่ยวข้องกับนาง ดังนั้นควรถามอย่างรอบคอบ”

พูดจบก็หันหลังจากไป

ฮูหยินผู้เฒ่าไม่แปลกใจที่ได้ยินว่าทรงอนุญาตให้จื่ออันออกจากวังแล้ว หล่อนสูบยาและพูดอย่างแผ่ว ๆ “ข้าคาดการณ์ไว้แล้ว หากฮองเฮาประหารนางในวัง ก็จะดูเหมือนเป็นคนจิตใจคับแคบ ฮองเฮาคงไม่อยากให้ผู้ใดเอ่ยถึงเรื่องนี้เป็นแน่ สิ่งเลวร้ายเหล่านี้ นางจะให้พวกเราลงมือเอง”

“ถ้าเป็นเช่นนั้น ท่านแม่คิดว่าจะลงมือตอนไหนถึงจะดีที่สุด” มหาเสนาบดีเซี่ยถามต่อ ดูเหมือนว่าเขากำลังปรึกษาหารือเรื่องสำคัญ มากกว่าการพูดถึงเรื่องกำจัดลูกสาวของตนเองที่เลวร้ายนี้

“รอสักสองวันเถอะ หากนางตายทันที่เมื่อถึงบ้าน คนอื่นจะเดาว่าฮองเฮาวางยาหล่อน กลับบ้านแล้วยาถึงจะออกฤทธิ์ สิ่งนี้ไม่เป็นผลดีต่อฮองเฮาและหว่านเอ๋อในภายภาคหน้า ไม่ต้องรีบ เพียงแค่รอ” ฮูหยินผู้เฒ่าวางยาสูบไว้บนโต๊ะ จากนั้นก็เข้ามาล้างปากด้วยน้ำชา นางค่อย ๆ จิบชา แล้วเงยศีรษะบ่วนน้ำใส่โถ

“ลูกรับทราบแล้ว” มหาเสนาบดีเซี่ยพูดอย่างเคารพ

จากนั้นเขาถามอย่างกังวลใจว่า “ฮองเฮาจะพระราชทานอภัยโทษให้แก่นางไหม หากพวกเราฆ่านาง เกรงว่าฮองเฮา…”

ฮูหยินผู้เฒ่าเงยหน้าจ้องมองเขา “เจ้ามีสมองบ้างไหม หากฮองเฮาอภัยโทษให้แก่นาง จะให้นางกราบสามครั้ง คำนับเก้าครั้ง ก่อนออกมาจากวังทำไม”

ความชัดเจนนี้ทำให้กลายเป็นเครื่องเตือนใจพวกเรา

มหาเสนาบดีเซี่ยครุ่นคิด และยิ้มอย่างเจ้าเล่ห์ “ใช่แล้ว เพราะความรอบคอบของท่านแม่แท้ ๆ เชียว”
Continue to read this book for free
Scan code to download App

Latest chapter

  • ยอดหมอหญิงมหัศจรรย์   บทที่ 1168

    ร่างกายของแม่ทัพเฒ่าฉินสั่นสะท้านด้วยความโกรธ “เจ้าสาปแช่งปู่รึ เจ้าเคยคำนึงถึงญาติพี่น้องหรือไม่?”เมื่อหมอหลวงมาถึง กลับไม่มีคนในตระกูลฉินคอยเฝ้าเขาอยู่ในห้อง ดังนั้นจึงมีเพียงแต่บ่าวรับใช้หลังจากตรวจสอบอาการเสร็จ หมอหลวงก็กล่าวด้วยสีหน้าตกตะลึง “ท่านแม่ทัพเฒ่า เมื่อไม่กี่วันมานี้ท่านได้ไปที่ใดมา? แล้วท่านเคยเข้าไปในพื้นที่โรคระบาดหรือไม่?” “ไม่เคย ข้าไม่เคยไปที่นั่น” สีหน้าของแม่ทัพเฒ่าเปลี่ยนไปเล็กน้อย เมื่อได้ยินคำพูดของหมอหลวง “ท่านกำลังสงสัยว่าข้าติดเชื้อโรคระบาดใช่หรือไม่?”“อาการช่างคล้ายคลึงกันยิ่งนัก” หมอกลวงกล่าวด้วยน้ำเสียงเคร่งเครียด“เป็นไปไม่ได้!” แม่ทัพเฒ่าฉินรู้สึกตื่นตระหนกอย่างมาก “ท่านวินิจฉัยผิดหรือไม่?”“ข้าจะจัดยาให้ท่านสองชนิดก่อน หากดื่มยาเหล่านี้แล้วไม่ได้ผล เช่นนั้นไม่ใช่ก็ใกล้เคียงแล้วขอรับ” หมอหลวงกล่าวแม่ทัพเฒ่าฉินกล่าวด้วยความลนลาน “ฉินโจวบังคับให้ท่านพูดเช่นนี้ใช่หรือไม่?”หมอหลวงรู้สึกประหลาดใจ “แม่ทัพเฒ่า ท่านหมายความว่าอย่างไร? เหตุใดแม่ทัพฉินถึงต้องบังคับให้ข้าพูดเช่นนี้?”หมอหลวงชะงักไปชั่วครู่หนึ่งแล้วโพล่งถาม “ท่านเคยพูดคุยกับองค์ชายเ

  • ยอดหมอหญิงมหัศจรรย์   บทที่ 1167

    นางสามารถเสียสละได้ แต่จะไม่มีทางทรยศต่อประชาชนเป่ยโม่เด็ดขาดสำหรับความจงรักภักดีต่อองค์จักรพรรดิและประเทศชาติ นางจะต้องรักประชาชนก่อน จึงจะสามารถภักดีต่อองค์จักรพรรดิได้ฉินโจวกล่าวคำเบา “ข้าเข้าไปในพระราชวังเพื่อเชิญหมอหลวงแล้ว ท่านปู่พักผ่อนก่อนเถิด ข้าจะออกไปเดินเล่นรับลมสักหน่อย”ดวงตาของแม่ทัพเฒ่าฉินอัดแน่นด้วยความโกรธ แต่ก็พยายามอย่างหนักเพื่อระงับมันฉินโจวเดินออกจากห้อง และเห็นว่าฉินเป้าน้องชายของตนนั่งอยู่ที่สวน เมื่อเห็นนางเดินออกมา เขาก็ถามว่า “ท่านปู่เป็นอย่างไรบ้าง?”ฉินโจวจำคำพูดของท่านปู่ได้อย่างแม่นยำ จึงเมินเฉยต่อเขาและตอบอย่างใจเย็น “เข้าไปดูด้วยตนเองสิ”ฉินเป้าคลี่ยิ้ม แต่มันกลับดูอ้างว้างอย่างยิ่ง “ข้าได้ยินสิ่งที่ท่านปู่พูดกับท่านแล้ว ข้าไม่อยากเข้าไป”ฉินโจวตกตะลึง “เพราะเหตุใด เขาทุ่มเทความพยายามทั้งหมดไปกับหารวางแผนเพื่อเจ้า เจ้าควรขอบคุณท่านปู่สิ”ฉินเป้าหัวเราะเยาะ “จริงรึ? หากเขาทอดทิ้งท่านเพื่อตระกูลได้ ในอนาคตเขาจะไม่ทอดทิ้งข้าหรือ? ข้าไม่ต้องการชื่อเสียงหรือความดีงามใด ๆ พวกมันไม่ใช่สิ่งที่ข้าต้องการเลย”ฉินโจวดูถูกน้องชายมาโดยตลอด เพราะเขาไม่ได

  • ยอดหมอหญิงมหัศจรรย์   บทที่ 1166

    ทั้งสองคนเดินออกไปและหยุดอยู่บนทางเดิน หมอมองฉินโจวพร้อมกล่าวด้วยน้ำเสียงเคร่งเครียด “ท่านแม่ทัพ ข้ากำลังสงสัยว่าท่านแม่ทัพเฒ่าจะป่วยด้วยโรคระบาดขอรับ”ฉินโจวตกตะลึง “โรคระบาด? เป็นไปได้อย่างไร? ปู่ของข้าไม่เคยออกไปข้างนอก และไม่เคยติดต่อกับผู้ป่วยโรคนี้เลย แล้วเขาจะติดเชื้อโรคระบาดได้อย่างไร?”“ข้าเคยรักษาผู้ป่วยโรคระบาดมาก่อน ซึ่งอาการคล้ายคลึงกันอย่างมาก ผู้ป่วยจะมีไข้สูง ไอ ตาแดง หายใจเร็วขึ้น เมื่อเกิดอาการเหล่านี้พร้อมกันจะอันตรายอย่างมาก ยิ่งไปกว่านั้นโรคนี้ยังไม่มีวิธีรักษาให้หายขาดขอรับ” หมอกล่าว“เป็นไปไม่ได้ หากจะติดเชื้อโรคระบาดก็ต้องสัมผัสกับผู้ป่วยที่มีเชื้ออยู่แล้ว แต่ท่านปู่ของข้าไม่เคยใกล้ชิดคนเหล่านั้นเลย แล้วเขาจะติดเชื้อได้อย่างไร?” ฉินโจวยังคงไม่เชื่อหมอประสานหมัด “ทั้งหมดนี้คือคำวินิจฉัยของข้า หากท่านแม่ทัพไม่เชื่อ ก็สามารถขอให้หมอคนอื่นมาตรวจดูได้ หรือท่านจะพาเขาไปที่พระราชวัง และขอให้หมอหลวงช่วยตรวจอาการ ข้าไร้ความสามารถ จึงอาจวินิจฉัยผิดพลาดได้ ลาก่อนขอรับ ๆ!”สิ้นคำ หมอก็หยิบกล่องยาแล้วออกไปโดยไม่เขียนใบสั่งยาด้วยซ้ำฉินโจวสับสนไม่น้อย ท่านปู่ติดเชื้อโร

  • ยอดหมอหญิงมหัศจรรย์   บทที่ 1165

    หัวใจของฉินโจวเย็นเยียบราวกับน้ำ “ใช่ ตราบใดที่ข้าตายในสนามรบ ตระกูลฉินก็ยังจะเป็นผู้กล้า และเป็นขุนนางผู้มีเกียรติ”แม่ทัพเฒ่าฉินเงียบไปครู่ใหญ่ จากนั้นกล่าวคำเบา “ในฐานะหลานสาวตระกูลฉิน มันเป็นหน้าที่ของเจ้าที่ต้องเสียสละเพื่อชื่อเสียง และรากฐานของตระกูล”ฉินโจวกำหมัดแน่นด้วยความไม่พอใจ “หลายปีที่ผ่านมานี้ ข้ายังทำไม่พออีกหรือ? ตอนนี้มีใครในตระกูลฉินบ้างที่ไม่เกาะกินเลือดนี้ของข้า?”แม่ทัพเฒ่าฉินลุกยืนขึ้นพลางกล่าวอย่างเย็นชา “ข้าเคยเตือนเจ้าแล้ว คราวนี้ไม่ว่าอย่างไรก็ตาม เจ้าจะต้องเข้าไปในพระราชวัง ข้าให้คำมั่นกับฮองเฮาเฉาแล้ว ว่าวันนี้เจ้าจะไปที่นั่นเพื่อทูลขอรับคำสั่ง หากเจ้าไม่ไป ข้าก็จะรับคำสั่งและออกรบด้วยตนเอง”“ท่าน...” ฉินโจวมองเขาด้วยสายตาโศกเศร้า “ท่านปู่ ข้าก็เป็นหลานสาวของท่านเหมือนกัน ท่านไม่สงสารข้าบ้างหรือ?”“ปู่สงสารเจ้าสิ แต่ภารกิจหน้าที่ของตระกูลฉินจะต้องถูกส่งต่อ ตอนนี้น้องชายของเจ้าโตพอแล้ว เจ้าจะต้องพาเขาไปสร้างความสำเร็จทางการทหารด้วย และเจ้าจะได้รับส่วนแบ่งของน้องเจ้า เมื่อถึงเวลานั้น ตระกูลฉินก็จะได้ผู้สืบทอดคนใหม่”ฉินโจวผงะไปชั่วครู่ ก่อนระเบิดหัวเราะ

  • ยอดหมอหญิงมหัศจรรย์   บทที่ 1164

    เมื่อได้ยินคำพูดของฉินโจว แม่ทัพเฒ่าฉินก็โมโหมากจนเคราสั่นสะท้าน “อาโจว อะไรจะสำคัญไปกว่าการบรรลุเป้าหมายอันยิ่งใหญ่? องค์จักรพรรดิเพียงต้องการขยายอาณาเขตของแคว้น เจ้าควรรู้เอาไว้ว่าเมื่อเรายึดครองต้าโจวสำเร็จ เป่ยโม่จะมีพื้นที่เพิ่มมากกว่าครึ่งหนึ่ง และมันจะเป็นความดีความชอบของตระกูลฉิน ทำให้ตระกูลของเราถูกจดจำไปหลายชั่วอายุคน! นี่ไม่ใช่สิ่งที่เจ้าต้องการมาตลอดรึ? เจ้าไม่ต้องการบอกคนทั้งโลก ว่าแม้ฉินโจวจะเป็นสตรี แต่นางก็สามารถประสบความสำเร็จได้อย่างผ่าเผยหรือ?”ฉินโจวมองดูใบหน้าที่ฉายแววตื่นเต้นปนโกรธเกรี้ยวของปู่ ทันใดนั้นนางก็สัมผัสได้ว่ามีบางอย่างผิดปกติถูกต้อง มันคือความต้องการของนาง แต่ความสำเร็จของนางจะต้องไม่แลกกับการเหยียบย่ำกระดูกของประชาชนชาวเป่ยโม่นางรักเป่ยโม่และหวังที่จะขยายอาณาเขตของแคว้น นอกจากนี้นางยังต้องการเสาะหาดินแดนอุดมสมบูรณ์เพื่อประชาชน เพราะหวังว่าพวกเขาจะสามารถอยู่อาศัยและทำกินอย่างสงบสุข และพึงพอใจโดยไม่ต้องทนทุกข์จากการพลัดถิ่นอย่างไรก็ตาม ในตอนนี้หากต้องการบรรลุอำนาจ นางจำต้องสละชีวิตประชาชนจำนวนมาก และนำเงินภาษีของทุกคนมาใช้ในการทำสงคราม ทำให้โรคร

  • ยอดหมอหญิงมหัศจรรย์   บทที่ 1163

    มือสังหารเหล่านั้นแต่งกายคล้ายกับชาวต้าโจวและสวมหน้ากากผ้าสีดำ กลุ่มคนนิรนามราวเจ็ดถึงแปดคนกระโดดลงมาจากท้องฟ้ากลางวันแสก ๆ ทันทีที่เท้าของคนเหล่านั้นแตะพื้น พวกมันก็เริ่มโจมตีอย่างดุดันฉินโจวเห็นมือสังหารคนหนึ่งกระโดดขึ้นไปบนท้องฟ้าพร้อมกับกระบี่ยาว จากนั้นร่ายรำอยู่หลายกระบวนท่าราวกับนางฟ้าโปรยดอกไม้ ขณะแสงแดดตกกระทบกระบี่ส่องกระจายไปทั่วเหล่าทหารที่เพิ่งมาถึงกระโจนเข้าไปร่วมวงต่อสู้อย่างรวดเร็วหลังจากประดาบกันไปกว่าร้อยครั้ง มือสังหารก็ถูกบีบบังคับให้ล่าถอย ฉินโจวจ่อกระบี่ไปที่คอของหนึ่งในมือสังหาร พลางถามเสียงเข้ม “ตอบข้า ใครเป็นคนส่งเจ้ามา?”มือสังหารตอบอย่างเย็นชา “ฆ่าไอ้หมารับใช้เป่ยโม่ให้หมด!”“หมารับใช้เป่ยโม่? เห็นได้ชัดว่าพวกเจ้าไม่ได้เป็นคนเป่ยโม่ พวกเจ้ามาจากต้าโจวใช่หรือไม่?” ฉินโจวโมโหอย่างมาก ขณะชี้ดาบไปยังหน้าอกของอีกฝ่าย “ไอ้เลวมู่หรงเจี๋ยส่งพวกเจ้ามาใช่หรือไม่?”“หญิงเลวอย่าเจ้ากล้าเอ่ยชื่อของท่านอ๋อง ทำให้พระองค์มัวหมองได้อย่างไร?” มือสังหารตะโกนฉินโจวชักดาบกลับพร้อมกล่าวอย่างเย็นชา “กลับไปซะ!”มือสังหารตกตะลึง ราวกับไม่คาดคิดว่าฉินโจวจะปล่อยตัวเขาไป”เ

More Chapters
Explore and read good novels for free
Free access to a vast number of good novels on GoodNovel app. Download the books you like and read anywhere & anytime.
Read books for free on the app
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status