ผ่านไปอีกวัน...
เเสงเเดดยามเช้าอ่อนส่องผ่านมาจากหน้าต่างกระจกเเก้วใสจนกระทบกับตาของคนร่างใหญ่ที่นอนกอดผู้หญิงตัวเล็กๆไว้ในอ้อมกอดอย่างหวงเเหน ''อืม..เช้าเเล้วเหรอ'' ผมลืมตาขึ้น โดยกอดน่ารักอยู่ หึ กว่าจากเสร็จบทรักก็ปาไปเกือบรุ่ง เธอคงเพลียร่างกายมาก ใครใช้ให้เอามันส์ล่ะ ช่วยไม่ได้...ส่วนผมเเค่นี้สบายๆ ตั้งเเต่น่ารักไม่เข้ามา ผมก็ผ่านผู้หญิงมาเยอะเเยะ เเต่ผู้หญิงพวกนั้นมาเสนอให้ผมเองนะ ผมก็เเค่สนองกลับไป เสร็จเเล้วต่างคนต่างเเยกไม่ผูกมัดกัน เเละผมไม่เคยเอาสดๆนอกจากน่ารักเเค่คนเดียว อย่าหวังว่าผู้หญิงคนอื่นๆได้จับผมไม่มีทางพลาดเเน่บางคนหน้าตาใสๆเเต่ข้างในกรวง บางคนชอบอ่อยใสซื่อทำเป็นไม่รู้จักเรื่องอย่างว่า เเต่โทษทีผมรู้ทัน!! ไม่เหมือนน่ารักของผม ก็ดีเหมือนกันที่เธอไม่เป็นเเบบนั้น... ''น่ารัก...ตื่น'' ผมปลุกเธอเเต่เธอก็นอนนิ่งเหมือนเดิม รอยดูดจากริมฝีปากของผมเมื่อคืนเต็มตัวเธอไปหมดเเละที่สำคัญผมตั้งใจดูดที่ต้นคอของเธอหนึ่งรอย ก็เเค่อยากให้รู้ว่ายัยนี้มีเจ้าของเเล้ว ผมเอามือออกจากร่างของเธอลุกขึ้นจากเตียง เอื้อมมือไปจับผ้าห่ม มาห่มให้เธอจนถึงลำคอ จากนั้นก็เดินไปเอาผ้าขนหนูพันเอวสอบเเล้วเข้าห้องน้ำไป ผมเดินไปที่กระจกบานใหญ่ที่มองดูได้ทั้งตัว รอยเเผลรอยเเดงจากเล็บของน่ารักข่วนหน้าอกเเละข้างหลังเต็มไปหมดเเถมมีรอยฟันที่น่ารักกัดตรงหัวไหล่รอยดูดเม้มที่ต้นคอยัยตัวเเสบทำรอยไว้เหมือนกัน เเต่ผมก็ทำเธอไม่น้อยถือว่าจ๊าวกันไป...กว่าผมจะอาบน้ำเสร็จน้ำไหลลงทั่วร่างรอยเเผลมันเเสบจากที่น่ารักฝากไว้ ผมเดินออกจากห้องน้ำไปใส่เสื้อผ้าที่อยู่อีกฝั่งของห้องนอนเป็นห้องเเต่งตัว พอใส่เสื้อผ้าอะไรเสร็จเเล้วก็ไปหยิบโทรศัพท์ที่วางอยู่บนโต๊ะข้างเตียงเเล้วกดโทรสั่งอาหารกับพนักงานคอนโดที่ผมจ้าง ''อืมกูสั่งอาหารหน่อย ที่อร่อยในคอนโดเออ!!เอาที่กูเเดกได้มึงเข้าใจนะ อ๋อเอาผลไม้ด้วย เอามาให้กูที่ห้อง ช้ากูไล่ออก!!'' ผมกดวางสาย ก็เห็นน่ารักนอนอยู่เหมือนเดิม ผมเอามือไปเตะที่หน้าผากของเธอ แม่ง!!ตัวร้อนจี๋เลย ไม่รอช้าผมเดินไปที่ห้องครัวเเล้วหยิบ ภาชนะพร้อมเติมน้ำครึ่งนึง ตามด้วยผ้าขนหนูผืนเล็กๆ เเละเดินไปหาน่ารักที่นอนอยู่ อย่างรวดเร็ว ผมวางภาชนะที่ถือมาไว้บนโต๊ะข้างเตียงนอนเเล้วนั่งลงข้างๆเธอ ''น่ารัก...น่ารัก...ตื่นดิ'' ผมปลุกเธอ มือเอื้อมไปวางไว้ที่เเก้มเเล้วตบเบาๆเเต่เธอก็ไม่มีถ้าจะตื่นขึ้นมา ''หรือว่าฉันเอาเธอหนักไปรึเปล่า'' [มึงพึ่งรู้ตัวเหรอ:ไรท์] ผมจัดการดึงผ้าห่มออก ตอนนี้เธอนอนร่างกายเปลื่อยเปล่า เผยให้เห็นดอกบัวคู่งามเเละเต็มไปด้วยรอยรักที่ผมทำกับเธอไว้เมื่อคืน ผมบิดผ้าขนหนูที่อยู่ในภาชนะ ให้พอหมาดๆ เเล้วค่อยๆเช็ดตัวของเธออย่างเบามือสุดๆ ''อื้อ...พะพี่เเวมไพร์ จะทำอะไรอ่ะ'' เช็ดตัวได้ไม่นานเธอก็ตื่นขึ้มมาเเล้วปัดมือผมออกจากตัวของเธอ พร้อมถดออกห่างจากตัวผมอย่างกลัวๆ ''ฉันจะเช็ดตัวให้ เห็นตัวเธอร้อน...ขยับมายังไม่ได้เช็ดด้านหลังเเละก็หว่างขาของเธอเลย เร็วๆ'' หึ ระหว่างขาผมค่อยเช็ดตอนท้ายกะจะเเกล้งเธอสักหน่อย น่ารักค่อยๆขยับมาเเล้วหันหลังให้ ผมก็เช็ดจนความร้อนมันลดลงกว่านี้สักหน่อยเเล้วค่อยให้เธอทานยา ''ทีนี้...ก็อ้าขากว้างๆ'' ผมสั่งเธอเเต่เธอก็ยังหุบขาไว้เเน่นกว่าเดิม ''จะเอาอย่างนี้ว่างั้น หรือต้องใช้ความรุนเเรง?'' ผมพูดเสียงเรียบๆมองหน้าเธอนิ่งๆ ''พี่จะไม่ทำอะไรหนูเหมือนเมื่อคืนใช่ไหมค่ะ'' ''ถ้าเธอพูดไม่ฟัง ฉันก็จะทำเหมือนเมื่อคืนนี้ไง'' ไม่ได้พูดเล่นนะไม่สบายผมก็ทำได้ ไม่มีปัญหา ''เเต่อย่ามองนะ'' ''ไม่มองเเล้วฉันจะเช็ดถูกหรือไง อย่าไห้พูดมากไม่ชอบ!!'' ''อึก! อึก! กะ...ก็ได้ค่ะ'' น้ำตาเธอไหลอาบเเก้มร้องไห้งอเเงอย่างกับเด็กสามขวบ ผมนี้ก็เเปลกนะ ชอบทำให้น่ารักร้องไห้อยู่บ่อยๆ มันสนุกดีมั่ง ส่วนยัยนี่ก็ซื่อซะไม่มี น่ารักเริ่มถ่างขาออกเเล้วก็หันหน้าไปด้านอื่นเพื่อเเก้อาการเขิน เเต่ก็ยังร้องไห้อยู่เหมือนเดิม ผมเริ่มเช็ดตรงน้องสาวอย่างเบามือ ผมสังเกตว่าน้องสาวของเธอเเดงนิดๆ จากการกระทำของผมเมื่อคืน ''หยุดร้องซะ รำคาญ'' ผมก็เเกล้งขู่เธออีกครั้งอยากรู้ว่าเธอจะทำยังไง ''ฮื่อๆ....ไอ้คนใจร้ายTT'' ด่าเเบบนี้อย่างนี้ต้องโดน ผมวางผ้าขนหนูใส่ภาชนะ เเล้วก็เอามือเเหย่เข้าไปในรูรักของเธอเพื่อสั่งสอนคนปากดี ''อ๊าาา อะ อย่าทำนะสะเสียวอื้ออ...'' น่ารักสะดุ้งครางเบาๆเเล้วเอามือของเธอจับมือของผมพร้อมดึงมือผมให้ออกจากน้องสาวของเธอ ''เมื่อกี้พูดว่าอะไรหื้ม'' ผมชักนิ้วขึ้นลง เเรงของเธอต้านผมไม่อยู่หรอก ''ขอโทษ ไม่พูดอีกเเล้วอ๊าง...หยุดน่า~'' ''อย่าให้ฉันได้ยินอีก นี้ยังน้อยไป...ไปล้างหน้าเเปลงฟันซะเเล้วก็ทานข้าวทานยา'' ผมชักนิ้วออก มองหน้าเธอนิ่ง ทำไมเธอไม่ลุกขึ้นไปอีกวะ ดื้ออีกเเล้วนะเหรอ ''ฉันสั่งให้ลุกขึ้น ไม่ได้ยินรึไง อยากลองดีอีกรึไง'' ''หนูเจ็บอ่ะ อุ้มหนูหน่อยสิ'' ขี้อ้อนวะ รู้ตัวไหมอ้อนเเบบนี้โคตน่าฟัดเลย น่ารักกางมือออกมองด้วยสายตาอ้อนๆมองตาปริบๆ ''เออ'' ผมช้อนร่างของเธอเเนบกับอกมือของ น่ารักกอดคอผมเเน่นเพราะกลัวตก ผมอุ้มท่าเจ้าหญิง ตัวเบาอย่างกับปุ๋ยนุ่นเเล้วเดินเข้าห้องน้ำวางเธอบน ฝาชักโครกอย่างเบาๆ ผมเดินไป บีบยาสีฟันลงบนเเปลงของเธอ พร้อมเอาเเก้วใส่น้ำ ไปให้เธอด้วย ''อะเดี๋ยวล้างหน้าให้ก่อน ถือนี่ด้วย'' ผมหยิบฝักบัวเปิดน้ำนิดหน่อยปรับอุหภูมิอุ่นๆ เเล้วก็ค่อยๆลูบหน้าเธอเบาๆ ก๊อกๆๆ ''เดี๋ยวฉันมาเเปลงฟันไปก่อนละกัน'' ผมปิดฝักบัววางไว้ที่เดิมเเล้วเดินไปที่ประตูสงสัยอาหารที่ผมสั่งคงได้เเล้ว ''นี่ครับอาหารที่เฮียสั่งเเละก็ผลไม้หลายชนิดครับเฮีย'' ''เออเอาไปวางไว้ที่โต๊ะไป'' ''คร๊าบ~เฮียย'' มันลากเสียง โคตรกวนสนตีนไอ้ห่า เเล้วก็เดินผ่านผมไปไว้ของที่โต๊ะ ''กลับก่อนะครับเฮียขาดอะไรก็โทรหาผมนะครับ'' ''เออ กูรู้ มึงชื่อไร'' ''ชื่อ วายครับ'' ''เออๆ ไสหัวไปได้เเล้ว'' ''ครับ เดี๋ยวผมปิดประตู้ให้ครับ'' ผมไม่พูดอะไรต่อ เเล้วเดินมาที่ห้องน้ำ ''เสร็จยัง'' ''เสร็จแล้วค่ะ'' เเล้วผมเข้าไปอุ้มเธอเดินออกจากห้องน้ำวางเธอไว้ปลายเตียง ''เดี๋ยวไปเอาเสื้อผ้าให้'' ผมเดินไปที่ตู้เสื้อผ้า หยิบเสื้อเชิ้ตสีขาวเเละบ๊อกเซอร์สั้นให้เธอ ''รีบใส่ซะ จะได้กินข้าวต่อเเล้วก็กินยาเเก้ไข้ พร้อมยาคุมฉุกเฉินสองเม็ดอยากท้องก็ไม่ต้องกินฉันยินดีเลี้ยงลูกของฉัน'' ผมเหลือยตามองเห็นเธอหน้าเเดงพร้อมเม้มปากอย่างคนเขิลอาย เวลาผ่านไปใกล้จะค่ำ ผมกับน่ารักนั่งอยู่ที่โซฟา ดูบอลอยู่คู่เเข่งคืนนี้คือ ลิเวอร์พูลvsเเมนยู ''ไปเลยๆ เร็วๆหน่อย ยิงเลยสิๆ โห้ย... อะไรอะ พลาดอีกเเล้ว'' พักโฆษษา น่ารักเชียร์ลิลิเวอร์พูลสึดใจ ส่วนผมนะเหรอ ''สมน้ำหน้า ยัยเด็กเป็ด'' เเน่นอนผมเชียร์เเมนยูครับ ''มันยังเสมอกันนิ ไอ้ผีเเดง'' ''ด่าฉันหรอห้ะ!!'' ''ป่าวสักหน่อย หนูด่าเเมนยู'' เธอทำหน้าไม่รู้ไม่ชี้ ''เเต่ฉันชอบเเมนยู อย่าให้ฉันได้ยินเธอด่าเเมนยูอีกนะยัยเด็กเป็ด'' ''ไม่!! หนูไม่ชอบเเมนยู ทีพี่อะยังด่าได้เลย ไม่เกี่ยวกัน หนูไม่ยอม'' ''งั้นก็ไม่ต้องดู เอารีโมทมา'' ผมยืนมือไปขอเธอดีๆนะเเต่เธอก็เอารีโมทไปไว้ด้านหลังมองตาเเข็งกร้าว ''ไม่ให้! หนูจะดูอ่ะยังไงก็ไม่ให้'' น่ารักถอยห่างจากผมนั่งชิดริมโซฟาส่วนตาของเธอก็ยังจ้องเขม็งใส่ผมเหมือนเดิม ''พูดไม่รู้เรื่อง?'' ''ก็ได้ หนูจะกลับห้องไปเปิดประตูให้เลย'' ''เรื่องไร ดื้อว่ะ ตอนเป็นไข้เนี้ย'' เธอโยนรีโมทส่งมาให้ผม ผมรับเสร็จก็กดปิดทันที อีกอย่างผมอยากให้เธอพักผ่อนดีกว่ามานั่งดูบอลอีก บอลดูย้อนหลังก็ได้ เเต่เธอเริ่มเป็นไข้มานี้ ผมสังเกตมาสักพักนึงล่ะ เธอทั้งดื้อ ไม่เชื่อฟัง งอเเง ขี้อ้อน นี่เเหละอาการของเธอในตอนนี้ซึ่งต่างจากเมื่อวันอื่นอย่างลิบลับ ''อึกฮื่อ...พี่ชอบดุหนูนี่...ขอดูอีกหน่อยนะคะพี่เเวมไพร์อึก!!'' น่ารักยืนขึ้นปาดน้ำตาอย่างลวกๆ เธอหยุดตรงอยู่หน้าผม เเล้วก็นั่งตรงตักของผม พูดเสียงอ้อนๆ ตากลมโตเต็มไปด้วยน้ำตา ''อ้อนว่าไง ถ้าฉันไม่ให้ล่ะ เธอจะทำอะอุ๊บ..'' ผมพูดไม่ทันขาดคำน่ารักก็คว้าคอของผมก้มลงไปจูบกับเธอ เธอจูบอย่างเงอะงะ ไร้ประสบการณ์ ผมไม่ได้จูบตอบเธอหรอก ผมอยากรู้ว่าเธอจะทำอย่างไรต่อ เธอค่อยๆส่งเรียวลิ้นเข้ามายังโพรงปากของผม เเต่ผมไม่เปิดปากให้เธอไงเธอทั้งดันลิ้น กัดปากเเต่ก็ไม่สามารถเปิดปากดันลิ้นเข้ามาได้ ''เปิดปากหน่อยสิพี่เเวมไพร์'' น่ารักถอนจูบเเล้วพูดขึ้นไม่กล้าสบตาผมเท่าไร ''รู้เหรอว่าเเลกลิ้นเขาทำกันยังไง'' เธอไม่ตอบเเต่สะบัดหัวไปมาเเทนคำพูด ''ฉันค่อยสอนให้ จูบอีกสิ ฉันเปิดปากให้ อีกไม่กี่นาทีเวลาก็จะหมดเเล้วไม่อยากรู้เหรอว่าใครเเพ้ใครชนะ'' พูดจบน่ารักรีบจูบผมอีกครั้ง เธอส่งลิ้นเข้ามาอีกรอบคราวนี้ผมเปิดปากให้ น่ารักตวัดลิ้นอย่างกล้าๆกลัวเเต่เธอก็เริ่มดูดลิ้นผม ปากเธอโคตรหวานเเละน่าจูบมากกว่าผู้หญิงที่ผมเคยผ่านมา ''ได้ยังอ่ะ เปิดให้หน่อยนะคะ นะๆ'' เธอถอนปากออกมาเเล้วก็อ้อนให้ผมเปิด ผมไม่พูดอะไร เเล้วก็เปิดทีวีให้เธอดู ตอนนี้ยังไม่มีใครได้คะเเนนทั้งสองฝ่าย ''ขอนั่งตักพี่เเวมไพร์อีกนะคะ'' เธอหันหน้ามาพูดกับผมเเล้วยิ้มหน้าบาน ''เออ เเต่ฉันจะเล่นนมเธอไปด้วย ไม่ตกลงฉันปิด'' ''ตกลงค่ะ'' หึ อย่างนี้ค่อยน่ารักขึ้นมาหน่อยสิ ผมเลิกเสื้อขึ้นเเล้วสอดมือไปหาเต้าสองข้างของเธอพร้อมบีบเบาๆ ขยี้ยอดเม็ดไปบ้าง ตอนนี้เธอไม่ได้ใส่บราเพราะไม่ได้กลับห้องเลยตั้งเเต่เมื่อคืนหนึ่งเดือนผ่านไป….ในที่สุดวันที่รอคอยก็มาถึงสักที เป็นงานแต่งงานของฉันกับพี่แวมไพร์ที่จัดขึ้นในโรงแรมหรูซึ่งเป็นโรงแรมของพี่แวมไพร์นั้นเอง แขกที่ได้รับเชิญก็มาร่วมแสดงความยินดีให้กับคู่บ่าวสาวกันเยอะมาก แต่ส่วนมากจะเป็นแขกทางฝั่งพี่แวมไพร์เสียมากกว่า ฉันไม่มีใครนอกจากยัยเพทายกับยัยเอวาที่มาเป็นเพื่อนเจ้าสาวให้กับฉัน แค่นี้ฉันก็สุขใจมากๆแล้ว ขณะนี้ฉันสวมชุดเจ้าเป็นชุดราตรีสีขาวงามสะอาดตา ออกแบบจากดีไซเนอร์ชื่อดังราคาแพงจนแทบจะไม่กล้าใส่เลยอะ พี่แวมไพร์เป็นคนจ้างให้เขามาตัดชุดแต่งงานให้ฉันเลยนะ เป็นชุดที่ตัดเย็บจากผ้าไหมและผ้าซาตินประดับด้วยไข่มุกพันกว่าเม็ด เพรชห้ากะรัต และเพรชสีเขียวอีกห้ากะรัต เป็นชุดที่สวยงามมากเลยจริงๆ พี่แวมไพร์บอกว่างานแต่งงานครั้งนี้เป็นงานที่ฉันและเขาจัดขึ้นมาและอยากให้มีความสุขมากที่สุดไม่ว่าอะไรจะแพงมากมายขนาดไหนเขายินดีจะพร้อมจ่ายทุกอย่าง พี่แวมไพร์บอกฉันว่า ‘แค่นี้ขนหน้าแค่งพี่ไม่ร่วงหรอกนะ เพื่อคนที่พี่รักพี่ยอมหมดทุกอย่างครับ ขอแค่ให้น่ารักมีความสุขมากๆก็พอแล้ว’ ประโยคของพี่แวมไพร์มันทำให้ฉันยิ้มออกมาทุกครั้งที่ฉันนึกถึง “แขกผู้มีเกียรติทุกท่านครับ ถึ
สองปีผ่านไปไวเหมือนโกหก…กรี๊ด!!!!อร๊าย!!!!เสียงเหล่านักศึกษาส่งเสียงกรี๊ดร้องกันดังลั่นตอนนี้ฉันได้เรียนจบเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ดีใจมากเลย!!!ขณะนี้ฉันที่ใส่ชุดครุย กำลังถ่ายรูปกับเพื่อนๆเก็บไว้เป็นที่ละลึกอยู่นั้น ก็มีนักศึกษาผู้หญิงร้องเสียงกรี๊ดออกมาพร้อมมองไปยังด้านหลังของฉันที่ยืนอยู่ฉันก็เลยเอะใจว่าพวกเธอกรี๊ดอะไรกัน เลยตัดสินใจหันกลับไปมองตามนักศึกษาเหล่านั้น เมื่อฉันหันไปมองก็เห็นพี่แวมไพร์เดินเข้ามาหาฉันโดยไม่รู้เลยว่าพี่แวมไพร์เดินเข้ามาหาฉันตั้งแต่เมื่อไร"เเต่งงานกับพี่นะครับน่ารัก"ก็พบว่าพี่แวมไพร์นั่งคุกเข่าในมือถือกล่องกำมะหยี่สีขาวมีเเหวนเพรชประมาณสี่กะรัตยื่นส่งมาให้ฉันม่านตาฉันเบิกกว้างอย่างตกใจค่อยๆเม้มปากแน่นเเต่งเลยๆๆๆๆ!!!!เสียงเชียร์จากเหล่านักศึกษาก็ดังขึ้นฉันที่ยืนตัวเเข็งทื่อ ไม่คิดว่าเขาจะขอแต่งงานกับฉันจริงๆ น้ำตาของฉันเอ่อล้นออกมาด้วยความดีใจสุดชีวิต จากนั้นฉันค่อยๆยื่นมือด้านซ้ายเข้าไปตรงหน้าพี่แวมไพร์"หนูเเต่งค่ะอึก !"เปะๆๆๆๆอร๊ายยยยย หู้ยยยย วู้ๆๆๆๆเสียงตบมือแสดงความยินดีให้แก่เราทั้งสองคน อย่างปลื้มปริ่มฉันยกมืออีกข้างหนึ่งขึ้นมาปิดปากไว้เพ
ณ มหาลัยKกว่าฉันจะผ่านเรื่องราวเลวร้ายนี้มาได้พี่แวมไพร์ต้องพาฉันไปทำบุญเข้าวัดถวายสังฆทาน เพราะดวงฉันมีเเต่คนคิดจะจ้องรุมทำร้ายฉันไงหรืออาจเป็นเพราะดวงอาเพศกันนะเห้อ!ชั่งมันเถอะ ขอเเค่อย่าให้เกิดกับชีวิตของฉันอีกเลยนี่ก็ผ่านมาหลายวันด้วยฉันไม่คิดว่าพี่เคที่กับพี่ฟ้าจะคิดทำเรื่องแบบนั้นกับฉันจริงๆดูคนแค่ภายนอกไม่ได้หรอกนะสมัยนี้ ถ้าฉันไม่ได้พวกพี่แวมไพร์มาช่วยฉันไว้ ไม่อยากจะคิดว่าชีวิตนี้จะเป็นอย่างไรต่อไป… "น่ารัก~""ยัยน่ารัก!!!""โอ๊ย~ยัยเอวาตะโกนใส่หูฉันอีกแล้วนะ หึ้ย!!"ฉันต้องหัวใจวายเข้าสักวันถ้ายัยเอวายังตะโกนใส่ฉันอยู่แบบนี้ "แล้วทำไมแกไม่ตอบฉันห้ะ!""มีอะไรว่ามา"ฉันถามมันอย่างหน้าบึ่งนี่ยังไม่หายตกใจเลยนะคิดดูสิ"พี่วายุบอกฉันว่าพี่นิโครจะถอนหมั้นกับยัยเพทายอ่ะ""ห้ะ!!!ถอนหมั้นเหรอ!!!"เพี๊ยะ!"ยัยบ้าจะเเหกปากทำไม เงียบหน่อยสิ!!!"ยัยเอวายกมือฟาดตรงต้นเเขนฉันเบาๆแต่มันก็เจ็บจี๊ดๆเหมือนกันนะยัยเอวาเห็นว่ายัยเพทายเดินไปเข้าห้องน้ำ จึงรีบกระซิบบอกฉันแต่ฉันตกใจไงก็เห็นตอนที่ยัยเพทายเกิดเรื่องพี่นิโครยังไปเฝ้าอาการที่โรงพยาบาลเลยนะถ้าคนมันไม่รักกันจริงๆจะยอมดูแลให้เห
ผมเดินไปแกะมัดน่ารักและน้องเพทายออกจากการมัดกุม ด้วยเชือกเส้นหนาใหญ่ โดยที่พวกมันยืนชิดติดกับกำแพงอย่างไม่กล้ากระดิกแม้แต่เสี้ยวเดียว เพราะมีไอ้วายุและไอ้นิโครเล็งปืนใส่พวกมันอยู่ด้านหลังของผม“ถ้าพวกมึงขยับแม้แต่นิดเดียวกูยิงสวนแน่”น้ำเสียงนิ่งเรียบของไอ้นิโครพูดออกมาอย่างสะกัดอารมณ์ ทำให้พวกมันแทบหายใจติดขัด“ไอ้วายุมึงพาน่ารักและก็น้องเพทายไปรอที่รถก่อน แล้วก็โทรหาลูกน้องมึงให้มาสมทบด้วย”ผมพูดแล้วช่วยพยุงร่างทั้งสองคนส่งให้ไอ้วายุที่ยืนอยู่ มันรีบพยักหน้ารับแล้วก็พาเธอสองคนออกไปในทันที เพราะผมไม่อยากให้น่ารักเห็นมุมของผมในด้านนี้“พวกมึงกล้ามากที่ทำร้ายเมียกู”ผมพูดเสียงเยือกเย็น พลางจ้องมองไปที่พวกมันอย่างไม่วางตา“เรื่องนี้เป็นแผนของยัยฟ้าทั้งหมด! ฉันบอกไปแล้วไงว่าฉันไม่เกี่ยว ได้โปรดปล่อยฉันไปเถอะนะแวมไพร์”“นี่พี่เคที่พูดแบบนี้ไม่ได้นะ!!! พี่ก็ร่วมกันวางแผนกับฉันเหมือนกันนิ!!!”ผมที่ฟังอีพวกสองคนนี้เถียงกันไปมาอย่างรำคาญลูกกะตา ผมบอกแล้วไงผู้หญิงกูก็ไม่เว้น!“พวกมึงอยากรอดกลับไปไหม?”ผมพูดปลายตามองไปยังพวกผู้ชายทั้งสี่คนที่พวกเธอจ้างมา หน้าตามีรอยแผลเป็นเต็มใบหน้าเนื้อตัวสกปร
ฉันดีใจมากที่มีคนมาช่วยพวกเรา ทั้งที่ฝนตกลงมาอย่างโหมกระหน่ำใจฉันอยากโทรหาพี่แวมไพร์แทบขาดใจพลึบ!!!เสียงประตูเปิดออกจากด้านนอกออกอย่างสำเร็จ“ขอบคุณนะคะที่ช่วยพวกหนู”ฉันพูดน้ำเสียงอิดโรยอย่างน้อยก็มีคนที่ช่วยเราไว้ ทันทีที่เจอหน้าคนที่มาช่วยนั้นเป็นผู้ชายใส่ชุดดำสามคน ที่ช่วยฉันและยัยเพทายให้ออกมาจากตัวรถอย่างแรง ทำไมต้องดึงตัวฉันออกจากรถแรงๆด้วยนะคนยิ่งเจ็บอยู่ ตาก็พล่ามั่วไปหมดอาการปวดศีรษะเริ่มเกิดขึ้น อ่า…โคตรเจ็บชะมัด ฉันพยามมองไปยังพี่คนขับเหมือนเขาจะรู้สึกตัวแล้วนะ “รีบลากตัวพวกมันเขารถเร็วๆสิวะ!!! รอพ่อมึงมารึไง!!!” เสียงคนที่ขับรถตู้คันสีดำจอดอยู่เปิดกระจกรถลงพร้อมสาดคำรุนแรงใส่คนที่ช่วยฉันและยัยเพทายออกจากรถ จับตัวอะไรกัน?หูฉันฟาดไปหรือเปล่านะ“เห้ย!รีบเอาอีสองตัวนี่ขึ้นเร็วๆสิวะ!!!”ผู้ชายคนนั้นเรียกผู้ชายสองคนที่อยู่ข้างฉันและยัยเพทายให้รีบจับตัวฉันขึ้นรถตู้คันนั้น นี่ฉันไม่หูฟาดไปจริงๆใช่ไหม“นี่พวกนายจะทำไร ปล่อยพวกฉันนะ!!!!”ฉันแหกปากร้องลั่นทันที ที่มีมือหยาบคายผู้ชายมาจับตัวฉันยัดใส่รถตู้เป็นคนแรก“ปล่อยพวกฉันนะกรี๊ด!!!!”“อีนี่ฤทธิ์เยอะนักนะมึง!!”ตั๊บ!!!“อึก!
ณ คอนโด“น่ารักมาทานข้าวกัน พี่ทำอาหารใกล้จะเสร็จแล้ว”ฉันที่เดินออกจากห้องนอน อาบน้ำใส่ชุดนอนตั้งแต่ฟ้าไม่ทันมืด ก็ได้กลิ่นหอมโชยติดจมูกจากในห้องครัวมาเเต่ไกล ทำให้ฉันเดินออกไปพร้อมสวมกอดร่างสูงจากด้านหลังที่ยืนทำอาหารอยู่ ฉันก็ทำอาหารเป็นนะแต่พี่แวมไพร์ทำอาหารอร่อยกว่าฉันเยอะเลยอ่ะ พี่แวมไพร์ที่เห็นฉันชอบก็เลยเป็นเชฟส่วนตัวให้กับฉันตลอดจนกว่าจะเบื่อ ไม่มีทางเบื่อฝีมือในการทำอาหารพี่แวมไพร์หรอกนะจะบอกให้ ไม่ใช่ว่าฉันขี้เกียจทำอาหารนะแต่ฝีมือการทำอาหารพี่แวมไพร์อร่อยมากจริงๆไม่ได้โม้“ไปนั่งที่โต๊ะเถอะพี่ตักอาหารให้”และแล้วฉันก็เดินไปตักข้าวสองจานเพื่อเขาด้วย ส่วนพี่แวมไพร์ก็ตักอาหารที่เขาปรุงเสร็จเมื่อครู่นี้ฉันและเขาก็ลงมือทานข้าว พลางพูดถามในสิ่งที่อยากถามกัน ชีวิตคู่ในตอนนี้มันเรียบง่ายมาก เราทั้งสองคนแทบจะไม่ทะเลาะอะไรกันเลย เราต่างคนต่างปรับเข้าหากันจนมีรักในครั้งนี้ ตลอดที่ผ่านมาพี่แวมไพร์เป็นคนจ่ายค่าเลี้ยงดูฉันทุกอย่างในบัญชีของฉันมีเงินเป็นล้านอ่ะ ฉันขอหนึ่งพันให้สองหมื่นอะคิดดู แล้วก็จะโอนให้ฉันเรื่อยๆ แต่ฉันไม่ค่อยจะใช่จ่ายอะไรพี่แวมไพร์ก็โอนให้ฉันทุกเดือนทั้งๆ ที่ฉันไม