ผมเเวมไพร์นะครับกว่าจะถึงบทของผมรอตั้งนาน มีเเต่บทน่ารักเหอะ!![เเกจะด่าฉันก็บอกตรงๆดิ]เข้าเรื่องเลยละกัน ก็เหมือนอย่างว่าผมเป็นคนยังไงก็รู้กันอยู่เเล้ว ที่ผมชวนน่ารักมาก็เพราะไม่อยากให้เพื่อนของเธอเดือดร้อนหรอกนะ ดีนะไอ้นิโครให้โอกาสน้องเทพาย ปกติไอ้นิโครมันไม่ใจเย็นขนาดนั้นหรอก ใครทำให้มันโกธล่ะก็หึ!! ไม่ตาย!! ก็พิการ!! ผู้หญิงก็ไม่เว้นเหมือนปากมันพูดจริงๆนั้นเเหละ ผมก็เช่นกันเเต่ยกเว้นคนที่อยู่บนตักผม น่ารักเมียผมเอง ครั้งเเรกที่ผมเห็นเธอเหมือนโลกมันหยุดหมุนผมมองเธอตั้งนานสองนาน เธอเเม่งโคตถูกใจผมมาก เเล้วผมต้องได้เธอมาเป็นของผมให้ได้ตอนเเรกผมคิดว่าเธอคงผ่านมาเยอะเพราะเด็กสมัยนี้15ปีมันก็มีเพศสัมพันธ์กันเเล้ว เเต่ผมคิดผิดไง เธอยังบริสุทธิ์อยู่เเละเธอก็ทิ้งผมไปอย่างไร้เยื่อใยด้วยมันน่าเจ็บใจไหมล่ะ เเต่ตอนนี้ผมเจอเธอเเล้ว ผมไม่ยอมให้เธอจากผมไปเป็นครั้งที่สองเเน่!!มีอะไรกับเธอในคืนนั้นผมจำได้ทุกอย่าง เเม้กระทั่งทุกการสัมผัส กลิ่นตัวอ่อนๆเหมือนกลิ่นเด็ก รสจูบที่หวานดูดดื่มที่ไม่มีประสบการณ์ของเธออ่าพูดเเล้วอยากวะ เเละตอนนั้นผมก็ไม่รู้ว่าเธออายุ18ปี เเต่ถึงยังไงผมก็พร้อมรับผิดชอบเธอนะครับ
''ไม่ได้ยินหรือไงปล่อยหนูนะ''
เสียงน่ารักดังขึ้นมือก็รั่วใส่อกของผมอยู่เเบบนั้น
''ปล่อยใน ปล่อยนอก หรือในปาก''
น่ารักทำหน้าเหมือนจะร้องไห้ตากลมโตผมกระจายทั่วเเผ่นหลัง ตอนนี้เธออยู่ในท่าเจ้าหญิงปากผมปากเธอใกล้เหมือนจะจูบกันเเม่งน่าฟัดชิบหายเลย
''กลับหนูอยากกลับห้อง อึก!!''
ร้องสะงั้น ร้องเเล้วไงผมก็ไม่ยอมปล่อยอยู่ดี
''นอนนี่เเหละ ไปอาบน้ำส่วนเสื้อผ้าฉันเดี๋ยวฉันเปรียมให้''
''ไม่เอาหนูจะนอนกับเพื่อนๆ ตอนนี้พวกมันคงเป็นห่วงเเย่''
หาข้ออ้างเก่งดีนิ เเล้วก็บีบน้ำตาเก่งด้วย
''โทรหาเพื่อนเธอว่านอนกับฉันเพราะพรุ่งนี้เธอไม่มีเรียน ไม่ต้องถามว่าฉันรู้ได้ยังไง ฉันไปอาบน้ำก่อน รีบๆล่ะ อ้อ..อย่าคิดหนี ประตูห้องนี้ฉันเเละไอ้วายุไอ้นิโครเท่านั้นที่เปิดได้''
"TT"
ผมเห็นน่ารักทำหน้าเหมือนจะผิดหวังผมรู้หมดทุกอย่างเเม้กระทั้งเรื่องเรียนของยัยนี่ผมหยิบผ้าขนหนูที่วางอยู่ที่ชั้นเเล้วเดินเข้าห้องนอน ที่มีห้องน้ำอยู่ในนั้นพอเสร็จธุระเเล้วผมก็เดินออกมาโดยมีผ้าขนหนูพันรอบเอวโชว์ซิกเเพ็คมีหยดน้ำเต็มตัวผมเห็นน่ารักนั้งอยู่ที่เดิมก้มหน้าลงไม่กล้าเงยหน้าขึ้นหึเขินจนหน้าเเดงอย่างกับลูกตำลึง
''ว่าไงโทรหาเพื่อนเธอหรือยัง''
ผมที่อาบน้ำชำระร่างกายเสร็จเเล้วเดินมาที่ขอบโซฟาเเล้วถามย้ำอีกครั้งเมื่อเห็นเธอนั้งกุมโทรศัพท์อยู่ในมือ
''ไม่โทร หนูไม่อยากนอนที่นี่''
ดื้อตาใสเลย ยัยเด็กนี่นิได้.....ดื้อมากใช่ไหมคงก็ต้องสั่งสอนบ้างเเล้ว
''นอนที่นี่ โทรหาเพื่อนของเธอฉันพูดเอง นับหนึ่ง สอง อย่าให้ถึงสามนะน่ารัก''
ผมกดเสียงต่ำมองเธออย่างจริงจัง
''โทรเเล้ว จะโทรเเล้ว''
น่ารักหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาอย่างเร็ว โทรศัพท์เธอยุกค์ไหนกันเก่าชิบ...
''น่ารักนอนห้องพี่ พี่เเวมไพย์น่ะไม่ต้องห่วง''
ผมเอื้อมมือไปเเย่งโทรศัพท์น่ารักทันทีที่เธอต่อสายหาเพื่อนเธอ
[คะ..ค่ะ เเล้วเสื้อผ้ามันอ่ะพี่เเวมไพร์ให้หนูเอาไปให้มันไหม]
''พี่ให้น่ารักใส่เสื้อผ้าของพี่ไปก่อน''
[งั้นหนูขอสายน่ารักก่อนได้ไหมคะ]
''เพื่อนเธอจะคุยด้วย''
ผมยื่นโทรศัพท์น่ารัก เเล้วก็เดินไปใส่เสื้อผ้าในห้องนอน
''พี่เเวมไพร์ไม่ให้ฉันกลับห้องอ่ะ''
[ฉันว่าเเหละเเกต้องอยู่กับพี่เเวมไพร์ เอ่อ ฉันกับยัยเทพายเข้าเรียนเช้านะส่วนคีย์การ์ดอยู่ที่เเกเเล้วใช่ป่ะ]
''อืมอยู่ที่ฉัน งั้นเเค่นี้นะฉันอาบน้ำก่อน''
[เครๆๆบายๆๆโชคดีนะมีผัวเเล้วลืมเพื่อนเชอะ5555]
ทำ
ผมเดินออกมาพร้อมเอาเสื้อผ้ามาให้เห็นน่ารักคุยกับเพื่อนเธอเสร็จพอดี
''อ่ะผ้าของเธอ นี้ก็ใกล้สองทุ่มเเล้ว เหม็น''
ใครว่าเหม็นละเเค่พูดให้เธอไปอาบน้ำเองเเหละตัวน่ารักหอมมากด้วยซ้ำไป
''ค่ะ!!''
เเล้วน่ารักก็กระทืบเท้าเเบบไม่พอใจเท่าไรตรงไปยังห้องนอนที่ผมเพิ่งออกมา
หึยัยต๋องเอ้ย
ผมใส่เเค่เสื้อยืดสีขาวเเละกางเกงบ็อกเซอร์ขายาวส่วนน่ารักผมให้เธอใส่เสื้อเชิ้ตสีขาวกับกางเกงบ็อกเซอร์สั้นไปนอนดีกว่าพอถึงเตียงนอนปุ๊ปผมก็ล้มตัวลงนอนทันที
เเอ๊ดดด...
ผมได้ยินเสียงเปิดประตูห้องน้ำ ตอนนี้ผมเเกล้งหลับอยากรู้ว่าเธอจะทำอะไรบ้าง เธอกำลังเดินมาทางนี้ เเล้วก็หยุดตรงที่ขอบเตียงที่ผมนอนอยู่
จึกๆๆ
''พี่เเวมไพร์ค่ะ พี่เเวมไพร์''
น่ารักก้มหน้าลงมาลมหายใจของเธอเป่ารดหน้าของผม เธอเอานิ้วชี้มาจิ้มที่เเก้มสองสามครั้งเธอคิดจะทำอะไร
''ตอนนอนเหมือนลูกเเมวเเต่ตอนตื่นเนี้ยสิเหมือนสิงโตทั้งโหดทั้งดุ''
เหอะยัยนี่เเอบด่าผมเหรอ
''อยากให้สิงโตเข้าไปอยู่ในตัวเธอมั้ยล่ะน่ารัก''
''พี่ยังไม่นอนนี่!!! หนูไม่ได้ทำอะไรเลยนะ''
ผมคว้ามือเธอไว้เเน่นเพราะเธอกำลังถอยหนี น่ารักพยามจะเกะมือออกจากผม
''มานี้ยัยเจ้าเล่ห์''
ตุบ!!
น่ารักลอยลงมาข้างกายผมด้วยเเรงกระชากของผมเเล้วก็กระโดดขึ้นค่อมเธออย่างรวดเร็วผมรวบมือทั้งสองของเธอด้วยมือข้างเดียวของผมไว้เหนือศีรษะอย่างให้เธอดิ้น
''ทะ...ทำอะไรอ่ะ อย่านะ''
ตอนนี้นิ้วมือของผมอยู่ไม่เป็นสุข เริ่มไปปลดกระดุมเสื้อที่เธอติด
''ฉันเเค่อยากรู้ว่าเธอพรุนหรือยัง จำไม่ได้เหรอวันนั้นเธอพูดกับฉันว่ายังไง ''
ผมจำวันนั้นได้ขึ้นใจเลยล่ะ
''ไม่น่ะอย่า...''
ไม่ทันเเล้ว ตอนนี้เสื้อของเธอถูกผมฉีกขาดอย่างไม่เสียดายไม่ปลดมันเเล้ว โนบรา!!! เธอไว้ใจผมขนาดนี้เลยเหรอ
''ไม่ใส่บราสะด้วย ไว้ใจหรือยั่วกันเเน่ เอากับใครกี่คนเเล้วล่ะน่ารัก''
เธอไม่ตอบผมเเล้วหันเห็นไปทางอื่น
เเม่งเสียอารมย์สุด เเค่เธอบอกว่าไม่มีใครนอกจากผมคนเดียวที่ผ่านมา เเต่เธอเฉยไม่พูดอะไรเลย
''เค ฉันรู้เเหละ ตอนเเรกกะว่าจะทะนุถนอมเล้าโลมให้ เเต่เปลี่ยนใจเเทงเลยเเล้วกัน!!''
พูดจบผมก็ใช้เวลาเล็กน้อยถอดกางเกงพร้อมชั้นใน ของผมก็เช่นกัน ตอนนี้ต่างคนต่างไม่มีอ่ะไรปิดสักชิ้น ผม จับขาเธอตั้งฉากเป็นรูปตัวเอ็มอ้าขาของเธอออกกว้างๆ เธอทั้งจิกทั้งกัด พยามขัดขืน เเต่เปล่าประโยชน์ ตัวเเค่เนี้ยทำไรได้
''อ๊ะ!อย่างทำเเบบนี้นะ พี่เเวมไพร์''
''พูดมากรำคาญ เก็บเสียงไว้ครางดีกว่า ว่าลีลาของฉันจะสู้ผู้ชายของเธอบ้างไหมฉันไม่ป้องกันนะ เธอคงรู้ว่าต้องทำยังไง''
พูดจบผมก็จับเก่นกายขนาดใหญ่พอดี ยัดใส่ในช่องของเธอเต็มลำ
''กรี้ด!! เจ็บหนูเจ็บปล่อยนะฮื่อๆๆๆ''
อื้อเเน่นมาก น่ารักเด้งตัวขึ้นพร้อมคว้าคอผมไปกอดเเน่น
คงเจ็บน่าดูก็ผมไม่ได้เล้าโลมก่อนไง ช่องทางรักของเธอเลยไม่มีน้ำมาหล่อลื่น ก็ภูมิใจนะที่เธอมีผมคนเดียวเเละเธอก็สมควรโดนเหมือนกันปากเเข็งดีหนักต้องเจอเเบบนี้เเหละ
''อะ..อ๊าร์ ฉันเอาเธอครั้งที่สอง...อะ เเต่ยังฟิตเหมือนเดิม''
ผมค่อยๆขยับสะโพกที่ละนิด มันทั้งคับทั้งเเน่น
''อ๊ะๆๆ พะพี่เเวมไพร์ อย่าขยับนะอ่าา~''
ยัยนี่คิดอะไรอยู่ ถ้าไม่ขยับผมคงอกเเตกตายหนะสิ
''ไม่ขยับเเล้วมันจะเสร็จหรือไง!!''
''อึก! ฮื่อก็หนูเจ็บนิ พี่รุนเเรงกับหนูอ่ะฮื่อๆ''
''ถ้าเธอพูดตั้งเเต่เเรกว่าเธอมีเเค่ฉันคนเดียว เธอก็ไม่ต้องโดนเเบบนี้หรอก หยุดร้องได้เเล้ว''
ปากเเข็งไง ดื้อก็ดื้อต้องดัดนิสัยสะบ้าง
ผมขยับตัวเเทรกเข้าตัวเธออีกครั้ง เเล้วก็ขยับสะโพกอย่างหนักหน่วย รู้ว่าทำเเรงไปก็เถอะเเต่ผมห้ามตัวเองไม่ได้เเล้ว
''อื้อ..อะอ๊ะ เจ็บอื้อ...''
''ซี๊ด!อ๊าา เจ็บเเต่ครางสู้''
ผมเอามือไปบีบหน้าอกเเล้วจับให้ตัวเธอเอนลงนอนพร้อมอ้างปากหัวนมที่เข็งเป็นไตดูดดึงอย่างหิวกระหาย ส่วนด้านล่างยังทำหน้าที่ต่อเหมือนเดิม
พับ!!พับ!!พับ!!
''อะ อะ ซี้ด!! นะน่ารักฉันจะเเตกเเล้วพร้อมกันนะอ้าา''
ผมไม่รอช้าเพิ่มเเรงกระเเทกเข้าไปอีก มันส์โคตร เกิดมาไม่เคยเจอผู้หญิงที่บริสุทธิ์เเละสวยน่ารักมากขนาดนี้ ส่วนผู้หญิงที่ผมผ่านมา หึพรุน หลวม กรวง!!
''อ๊าาา!!/โอ้ววอาร์''
พรั่บ!!
ผมล้มตัวลงไปนอนลงข้างน่ารัก
เสร็จไปหนึ่งยก ผมมองไปยังใบหน้าของเธอที่เต็มไปด้วยเม็ดเหงื่อมากมายเเต่ผมไม่เหนื่อยเลยสักนิดมันส์มากกว่า
''หมดเเรงเเล้วเหรอ ต่อไปนี้เธอเป็นผู้หญิงของฉันคนเดียว ห้ามไปมั่วกับผู้ชายคนอื่น ฉันเห็นเธอตายคาเตียงเเน่ เข้าใจไหม''
''ขะเข้าใจค่ะเเฮ่กๆ...''
เธอหอบหายใจอย่างเหนื่อยๆ
''ดี มาต่อกันเถอะฉันเริ่มอยากอีกเเล้วน่ารัก''
''ไม่...หนูเหนื่อย อยากนอนเเล้ว''
''เธอเหนื่อย เเต่ฉันสนุก!!''
เเล้วผมก็จับเธออ้าเรียวขาขึ้นอีกรอบพร้อมเริ่มขยับสะโพกอีกครั้งอ่าาร์ยังฟิตเหมือนเดิม.......
หนึ่งเดือนผ่านไป….ในที่สุดวันที่รอคอยก็มาถึงสักที เป็นงานแต่งงานของฉันกับพี่แวมไพร์ที่จัดขึ้นในโรงแรมหรูซึ่งเป็นโรงแรมของพี่แวมไพร์นั้นเอง แขกที่ได้รับเชิญก็มาร่วมแสดงความยินดีให้กับคู่บ่าวสาวกันเยอะมาก แต่ส่วนมากจะเป็นแขกทางฝั่งพี่แวมไพร์เสียมากกว่า ฉันไม่มีใครนอกจากยัยเพทายกับยัยเอวาที่มาเป็นเพื่อนเจ้าสาวให้กับฉัน แค่นี้ฉันก็สุขใจมากๆแล้ว ขณะนี้ฉันสวมชุดเจ้าเป็นชุดราตรีสีขาวงามสะอาดตา ออกแบบจากดีไซเนอร์ชื่อดังราคาแพงจนแทบจะไม่กล้าใส่เลยอะ พี่แวมไพร์เป็นคนจ้างให้เขามาตัดชุดแต่งงานให้ฉันเลยนะ เป็นชุดที่ตัดเย็บจากผ้าไหมและผ้าซาตินประดับด้วยไข่มุกพันกว่าเม็ด เพรชห้ากะรัต และเพรชสีเขียวอีกห้ากะรัต เป็นชุดที่สวยงามมากเลยจริงๆ พี่แวมไพร์บอกว่างานแต่งงานครั้งนี้เป็นงานที่ฉันและเขาจัดขึ้นมาและอยากให้มีความสุขมากที่สุดไม่ว่าอะไรจะแพงมากมายขนาดไหนเขายินดีจะพร้อมจ่ายทุกอย่าง พี่แวมไพร์บอกฉันว่า ‘แค่นี้ขนหน้าแค่งพี่ไม่ร่วงหรอกนะ เพื่อคนที่พี่รักพี่ยอมหมดทุกอย่างครับ ขอแค่ให้น่ารักมีความสุขมากๆก็พอแล้ว’ ประโยคของพี่แวมไพร์มันทำให้ฉันยิ้มออกมาทุกครั้งที่ฉันนึกถึง “แขกผู้มีเกียรติทุกท่านครับ ถึ
สองปีผ่านไปไวเหมือนโกหก…กรี๊ด!!!!อร๊าย!!!!เสียงเหล่านักศึกษาส่งเสียงกรี๊ดร้องกันดังลั่นตอนนี้ฉันได้เรียนจบเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ดีใจมากเลย!!!ขณะนี้ฉันที่ใส่ชุดครุย กำลังถ่ายรูปกับเพื่อนๆเก็บไว้เป็นที่ละลึกอยู่นั้น ก็มีนักศึกษาผู้หญิงร้องเสียงกรี๊ดออกมาพร้อมมองไปยังด้านหลังของฉันที่ยืนอยู่ฉันก็เลยเอะใจว่าพวกเธอกรี๊ดอะไรกัน เลยตัดสินใจหันกลับไปมองตามนักศึกษาเหล่านั้น เมื่อฉันหันไปมองก็เห็นพี่แวมไพร์เดินเข้ามาหาฉันโดยไม่รู้เลยว่าพี่แวมไพร์เดินเข้ามาหาฉันตั้งแต่เมื่อไร"เเต่งงานกับพี่นะครับน่ารัก"ก็พบว่าพี่แวมไพร์นั่งคุกเข่าในมือถือกล่องกำมะหยี่สีขาวมีเเหวนเพรชประมาณสี่กะรัตยื่นส่งมาให้ฉันม่านตาฉันเบิกกว้างอย่างตกใจค่อยๆเม้มปากแน่นเเต่งเลยๆๆๆๆ!!!!เสียงเชียร์จากเหล่านักศึกษาก็ดังขึ้นฉันที่ยืนตัวเเข็งทื่อ ไม่คิดว่าเขาจะขอแต่งงานกับฉันจริงๆ น้ำตาของฉันเอ่อล้นออกมาด้วยความดีใจสุดชีวิต จากนั้นฉันค่อยๆยื่นมือด้านซ้ายเข้าไปตรงหน้าพี่แวมไพร์"หนูเเต่งค่ะอึก !"เปะๆๆๆๆอร๊ายยยยย หู้ยยยย วู้ๆๆๆๆเสียงตบมือแสดงความยินดีให้แก่เราทั้งสองคน อย่างปลื้มปริ่มฉันยกมืออีกข้างหนึ่งขึ้นมาปิดปากไว้เพ
ณ มหาลัยKกว่าฉันจะผ่านเรื่องราวเลวร้ายนี้มาได้พี่แวมไพร์ต้องพาฉันไปทำบุญเข้าวัดถวายสังฆทาน เพราะดวงฉันมีเเต่คนคิดจะจ้องรุมทำร้ายฉันไงหรืออาจเป็นเพราะดวงอาเพศกันนะเห้อ!ชั่งมันเถอะ ขอเเค่อย่าให้เกิดกับชีวิตของฉันอีกเลยนี่ก็ผ่านมาหลายวันด้วยฉันไม่คิดว่าพี่เคที่กับพี่ฟ้าจะคิดทำเรื่องแบบนั้นกับฉันจริงๆดูคนแค่ภายนอกไม่ได้หรอกนะสมัยนี้ ถ้าฉันไม่ได้พวกพี่แวมไพร์มาช่วยฉันไว้ ไม่อยากจะคิดว่าชีวิตนี้จะเป็นอย่างไรต่อไป… "น่ารัก~""ยัยน่ารัก!!!""โอ๊ย~ยัยเอวาตะโกนใส่หูฉันอีกแล้วนะ หึ้ย!!"ฉันต้องหัวใจวายเข้าสักวันถ้ายัยเอวายังตะโกนใส่ฉันอยู่แบบนี้ "แล้วทำไมแกไม่ตอบฉันห้ะ!""มีอะไรว่ามา"ฉันถามมันอย่างหน้าบึ่งนี่ยังไม่หายตกใจเลยนะคิดดูสิ"พี่วายุบอกฉันว่าพี่นิโครจะถอนหมั้นกับยัยเพทายอ่ะ""ห้ะ!!!ถอนหมั้นเหรอ!!!"เพี๊ยะ!"ยัยบ้าจะเเหกปากทำไม เงียบหน่อยสิ!!!"ยัยเอวายกมือฟาดตรงต้นเเขนฉันเบาๆแต่มันก็เจ็บจี๊ดๆเหมือนกันนะยัยเอวาเห็นว่ายัยเพทายเดินไปเข้าห้องน้ำ จึงรีบกระซิบบอกฉันแต่ฉันตกใจไงก็เห็นตอนที่ยัยเพทายเกิดเรื่องพี่นิโครยังไปเฝ้าอาการที่โรงพยาบาลเลยนะถ้าคนมันไม่รักกันจริงๆจะยอมดูแลให้เห
ผมเดินไปแกะมัดน่ารักและน้องเพทายออกจากการมัดกุม ด้วยเชือกเส้นหนาใหญ่ โดยที่พวกมันยืนชิดติดกับกำแพงอย่างไม่กล้ากระดิกแม้แต่เสี้ยวเดียว เพราะมีไอ้วายุและไอ้นิโครเล็งปืนใส่พวกมันอยู่ด้านหลังของผม“ถ้าพวกมึงขยับแม้แต่นิดเดียวกูยิงสวนแน่”น้ำเสียงนิ่งเรียบของไอ้นิโครพูดออกมาอย่างสะกัดอารมณ์ ทำให้พวกมันแทบหายใจติดขัด“ไอ้วายุมึงพาน่ารักและก็น้องเพทายไปรอที่รถก่อน แล้วก็โทรหาลูกน้องมึงให้มาสมทบด้วย”ผมพูดแล้วช่วยพยุงร่างทั้งสองคนส่งให้ไอ้วายุที่ยืนอยู่ มันรีบพยักหน้ารับแล้วก็พาเธอสองคนออกไปในทันที เพราะผมไม่อยากให้น่ารักเห็นมุมของผมในด้านนี้“พวกมึงกล้ามากที่ทำร้ายเมียกู”ผมพูดเสียงเยือกเย็น พลางจ้องมองไปที่พวกมันอย่างไม่วางตา“เรื่องนี้เป็นแผนของยัยฟ้าทั้งหมด! ฉันบอกไปแล้วไงว่าฉันไม่เกี่ยว ได้โปรดปล่อยฉันไปเถอะนะแวมไพร์”“นี่พี่เคที่พูดแบบนี้ไม่ได้นะ!!! พี่ก็ร่วมกันวางแผนกับฉันเหมือนกันนิ!!!”ผมที่ฟังอีพวกสองคนนี้เถียงกันไปมาอย่างรำคาญลูกกะตา ผมบอกแล้วไงผู้หญิงกูก็ไม่เว้น!“พวกมึงอยากรอดกลับไปไหม?”ผมพูดปลายตามองไปยังพวกผู้ชายทั้งสี่คนที่พวกเธอจ้างมา หน้าตามีรอยแผลเป็นเต็มใบหน้าเนื้อตัวสกปร
ฉันดีใจมากที่มีคนมาช่วยพวกเรา ทั้งที่ฝนตกลงมาอย่างโหมกระหน่ำใจฉันอยากโทรหาพี่แวมไพร์แทบขาดใจพลึบ!!!เสียงประตูเปิดออกจากด้านนอกออกอย่างสำเร็จ“ขอบคุณนะคะที่ช่วยพวกหนู”ฉันพูดน้ำเสียงอิดโรยอย่างน้อยก็มีคนที่ช่วยเราไว้ ทันทีที่เจอหน้าคนที่มาช่วยนั้นเป็นผู้ชายใส่ชุดดำสามคน ที่ช่วยฉันและยัยเพทายให้ออกมาจากตัวรถอย่างแรง ทำไมต้องดึงตัวฉันออกจากรถแรงๆด้วยนะคนยิ่งเจ็บอยู่ ตาก็พล่ามั่วไปหมดอาการปวดศีรษะเริ่มเกิดขึ้น อ่า…โคตรเจ็บชะมัด ฉันพยามมองไปยังพี่คนขับเหมือนเขาจะรู้สึกตัวแล้วนะ “รีบลากตัวพวกมันเขารถเร็วๆสิวะ!!! รอพ่อมึงมารึไง!!!” เสียงคนที่ขับรถตู้คันสีดำจอดอยู่เปิดกระจกรถลงพร้อมสาดคำรุนแรงใส่คนที่ช่วยฉันและยัยเพทายออกจากรถ จับตัวอะไรกัน?หูฉันฟาดไปหรือเปล่านะ“เห้ย!รีบเอาอีสองตัวนี่ขึ้นเร็วๆสิวะ!!!”ผู้ชายคนนั้นเรียกผู้ชายสองคนที่อยู่ข้างฉันและยัยเพทายให้รีบจับตัวฉันขึ้นรถตู้คันนั้น นี่ฉันไม่หูฟาดไปจริงๆใช่ไหม“นี่พวกนายจะทำไร ปล่อยพวกฉันนะ!!!!”ฉันแหกปากร้องลั่นทันที ที่มีมือหยาบคายผู้ชายมาจับตัวฉันยัดใส่รถตู้เป็นคนแรก“ปล่อยพวกฉันนะกรี๊ด!!!!”“อีนี่ฤทธิ์เยอะนักนะมึง!!”ตั๊บ!!!“อึก!
ณ คอนโด“น่ารักมาทานข้าวกัน พี่ทำอาหารใกล้จะเสร็จแล้ว”ฉันที่เดินออกจากห้องนอน อาบน้ำใส่ชุดนอนตั้งแต่ฟ้าไม่ทันมืด ก็ได้กลิ่นหอมโชยติดจมูกจากในห้องครัวมาเเต่ไกล ทำให้ฉันเดินออกไปพร้อมสวมกอดร่างสูงจากด้านหลังที่ยืนทำอาหารอยู่ ฉันก็ทำอาหารเป็นนะแต่พี่แวมไพร์ทำอาหารอร่อยกว่าฉันเยอะเลยอ่ะ พี่แวมไพร์ที่เห็นฉันชอบก็เลยเป็นเชฟส่วนตัวให้กับฉันตลอดจนกว่าจะเบื่อ ไม่มีทางเบื่อฝีมือในการทำอาหารพี่แวมไพร์หรอกนะจะบอกให้ ไม่ใช่ว่าฉันขี้เกียจทำอาหารนะแต่ฝีมือการทำอาหารพี่แวมไพร์อร่อยมากจริงๆไม่ได้โม้“ไปนั่งที่โต๊ะเถอะพี่ตักอาหารให้”และแล้วฉันก็เดินไปตักข้าวสองจานเพื่อเขาด้วย ส่วนพี่แวมไพร์ก็ตักอาหารที่เขาปรุงเสร็จเมื่อครู่นี้ฉันและเขาก็ลงมือทานข้าว พลางพูดถามในสิ่งที่อยากถามกัน ชีวิตคู่ในตอนนี้มันเรียบง่ายมาก เราทั้งสองคนแทบจะไม่ทะเลาะอะไรกันเลย เราต่างคนต่างปรับเข้าหากันจนมีรักในครั้งนี้ ตลอดที่ผ่านมาพี่แวมไพร์เป็นคนจ่ายค่าเลี้ยงดูฉันทุกอย่างในบัญชีของฉันมีเงินเป็นล้านอ่ะ ฉันขอหนึ่งพันให้สองหมื่นอะคิดดู แล้วก็จะโอนให้ฉันเรื่อยๆ แต่ฉันไม่ค่อยจะใช่จ่ายอะไรพี่แวมไพร์ก็โอนให้ฉันทุกเดือนทั้งๆ ที่ฉันไม