“คุณเจนช่วยด้วยค่ะ ฉันยังไม่ได้เริ่มงาน แต่กำลังจะเป็นหนี้ก้อนโตซะแล้ว” นิราหันมาเกาะแขนเจนจิราที่เดินรั้งท้าย
“ทุกอย่างวันนี้ฟรีค่ะ” เจนจิรายิ้มขำกับคนที่อายุน่าจะเท่ากันกับเธอ ผู้หญิงคนนี้คิดว่าเธอจะต้องทำงานชดใช้ค่าของพวกนี้เหรอ เปล่าหรอกเจ้านายตั้งใจซื้อทั้งหมดนี้ให้ยังไงละ
“แต่มันแพงนะคะ ฉันไม่กล้าใช้ค่ะ”
นิรายังคงบอกเจนจิราที่กำลังเลือกครีมบำรุงผิวให้เธอ แต่เจนจิราไม่สนใจ ทั้งยังเดินไปหยิบเครื่องสำอาง ที่เหมาะกับสภาพผิวของนิรามาให้อีกหลายอย่าง
“แต่ต้องใช้ค่ะ คุณเสือไม่ชอบให้เลขาตัวเองหน้าจืด” เจนจิราไม่ได้ตามใจคุณสิงค์ แต่เธอกำลังทำเพื่อคุณเสือ ท่านประธานต่างหาก
“เสร็จหรือยังคุณเจน” นรสิงค์ที่เดินไปนั่งรอ เดินกลับมาอีกครั้ง เมื่อมองเห็นตระกร้าขนาดใหญ่ในมือเจนจิรา
“เรียบร้อยค่ะ” เธอบอกก่อนจะวางทั้งครีมทั้งเครื่องสำอางราคาแพงไว้บนเคาน์เตอร์คิดเงิน
“ทั้งหมดหนึ่งแสนสองหมื่นบาทค่ะ” พนักงานบอกยอดสินค้าทั้งหมด
“คะ? … เดี๋ยวค่ะ” นิรารีบไปหยิบของที่พนักงานอีกคนกำลังแพคใส่ถุงกระดาษอย่างดีไว้แน่น ตบมือป้าบกับหน้าผากตัวเอง อย่างคนตกใจทำอะไรไม่ถูกกับยอดเงินมหาศาล
“ไม่เอาแล้วได้ไหมคะ ครีมอะไรราคาตั้งหลายพัน” นิราหันไปถามคนทั้งคู่ ที่ส่ายหน้าให้เธอพร้อมกันอย่างสามัคคี
“เอ่อ ยังรับอยู่ไหมคะ” พนักงานถามย้ำอีกครั้ง ก่อนจะรับบัตรเครดิตสีทองจากนรสิงค์
“เรียบร้อยค่ะ ขอบคุณมากค่ะท่าน” พนักงานคืนบัตรให้นรสิงค์ก่อนยกมือไหว้อย่างนอบน้อม
“คุณเจนไปส่งคุณนิราด้วยนะ ผมมีธุระ จะไม่เข้าบริษัท” นรสิงค์พูดจบก็ก้าวเท้าออกเดินทิ้งสองสาวไปทันที
“ไปกันเถอะค่ะ”
เจนจิราพูดจบก็เดินนำออกไป ทั้งยังถือของไว้ในมือเสร็จสรรพ เธอเป็นเบ้ให้เจ้านายมานาน ถือของเป็นเรื่องจิบๆสำหรับเธอ
หน้าคอนโดที่นิราพักอาศัย
“เจอกันพรุ่งนี้ค่ะ เข้างาน 08.00 นะ มาถึงให้ขึ้นมาหาเจนที่ห้องท่านรองก่อน ไม่ต้องไปหาคนอื่น แล้วก็ของที่ซื้อวันนี้ใช้ด้วยนะคะ”
เจนจิราพูดบอกด้วยรอยยิ้ม เธอมั่นใจว่าตัวเองต้องเป็นคนช่วยสอนงานผู้หญิงสวยตรงหน้านี้แน่ๆ
“ขอบคุณมากนะคะคุณเจน”
นิรายกมือไหว้ขอบคุณเจนจิราอย่างนอบน้อม ที่คนสวยตรงหน้าไม่แสดงท่าทีรังเกียจเด็กต่างจังหวัดแบบเธอให้เห็นเลยสักครั้ง
ทันทีที่รถคันหรูขับออกไป นิราก็หิ้วของพะรุงพะรังทั้งหมดเข้าไปในคอนโดของคนรู้จัก ที่ปล่อยเช่าให้เธอในราคาถูก
“อ๊าก เหนื่อยชะมัดเลย”
นิราทิ้งตัวลงนอนก่อนจะมองนาฬิกาบนหัวเตียง ที่บอกเวลาเที่ยงนิดๆ เพราะความหิวที่เล่นงานท้องของเธอมานาน นิราเดินไปหยิบแซนวิชที่ซื้อมาจากเซเว่น ทิ้งตัวลงนั่งกัดกินแซนวิชทันที อย่างไม่คิดจะสนใจข้าวของราคาแพงที่หิ้วเข้ามาสักนิด
เมื่ออิ่มก็เริ่มง่วง เลยตัดสินใจนอนพักเอาแรงสักหน่อย เพราะไม่ค่อยมีอะไรให้ทำอยู่แล้ว
Tru Tru Tru
นิราที่แอบหลับไป สะดุ้งตื่นทันที ก่อนจะรีบคว้านหาโทรศัพท์ของตัวเอง แล้วกดรับสาย
[หนู มาช่วยเจ้หน่อยสิ วันนี้คนขาดอะ] ปลายสายพูดแทบจะทันทีที่นิรากดรับสาย
“วันนี้เหรอคะเจ้ แต่พรุ่งนี้หนูทำงานวันแรก กลัวจะตื่นไปทำงานไม่ไหวนะสิคะ” นิราตอบเสียงเบาอย่างเกรงใจ ตอนแรกก็เคยคิดไว้ว่าจะไปทำร้านเจ้เพื่อรองาน แต่ตอนนี้เธอได้งานแล้วนี่สิคือปัญหา
[อ่า แต่เจ้ไม่มีใครเลยอะหนู คนอื่นก็ลงโซนไปหมดแล้ว ตอนนี้โซนวีไอพีขาดคนนึง พ่วงห้องพิเศษด้วย เจ้าของห้องวันนี้จ่ายหนักมากเลยนะ] ปลายสายหาทางล่อล่วงนิราด้วยเรื่องเงิน
“เดี๋ยวหนูไปตอนนี้เลยค่ะ”
นิรารีบไปอาบน้ำแต่งตัวอย่างรวดเร็ว เพราะคำว่าจ่ายหนัก กระตุ้นเธอให้ตื่นเต็มตาเลยนะสิ พลาดโอกาสแบบนี้ได้ไง เธอต้องกินต้องใช้ด้วย
นิราใช้เวลาอาบน้ำไม่นานนัก เพราะตอนนี้เริ่มมืดแล้ว กว่าจะไปถึงร้านของเจ้ ก็ใช้เวลาพอสมควร
นิราหยิบเพียงกระเป๋าตังใบเล็กที่ใส่คีการ์ด กับเงินค่าวินมอเตอร์ไซค์ ที่เหลือไม่ต้องใช้ ข้าวไปหากินเอาข้างหน้า เพราะเจ้พิมเจ้าของร้านเลี้ยงพนักงานอย่างดี
“พี่วิน ไปซอยเก้า เร็วเลยนะคะ”
นิราเดินออกมาเรียกวินมอเตอร์ไซค์หน้าคอนโด ก่อนจะบอกจุดหมายปลายทาง วินมอเตอร์ไซค์ทำงานอย่างเร่งรีบ ไม่ต่างกับนิรา ที่ดูร้อนรนกลัวตัวเองจะไปถึงร้านสาย
เมื่อมาถึงร้าน นิรารีบจ่ายเงิน วิ่งเข้าไปในร้านทันทีที่เห็นเจ้พิมเดินออกมายืนรอ
“สวรรค์มาโปรดเจ้แล้ว” ผู้หญิงที่ติดลุคห้าวๆ ร้องทักอย่างดีใจ
“เจ้ ร้านเจ้ดังขนาดนี้ ทีหลังก็จ้างพริตตี้มาเลยไม่ดีกว่าเหรอคะ” นิราบ่นให้รุ่นพี่ที่เป็นเจ้าของร้าน ทั้งยังเป็นเจ้าของห้องพักคอนโดที่เธออาศัยอยู่
“ค่าตัวแพงอะ เจ้สู้ไม่ไหว”
เธอบอกไปตามตรง จะจ้างพริตตี้ที่ค่าตัวแพงทำไม ในเมื่อยัยคนสวยตรงหน้า ค่าตัวถูกกว่าเยอะ เงินจ้างพริตตี้เอามาจ้างนิรา ก็ไม่ต่างกัน แถมนิราของเธอยังได้เงินใช้อีก มีแต่ได้กับได้ว่าปะละ
“ถ้าหนูทำงานประจำแล้ว ตอนขาดคนใครจะมาช่วยล่ะ” นิราพูดอย่างเป็นห่วง ก่อนจะเดินเข้าไปเปลี่ยนชุดอย่างเป็นงาน
นิราเคยมาทำงานที่นี่ช่วงมหาลัยปิดเทอม เธอมาทำทุกๆ ปีเพื่อเก็บเงินเรียน จนเจ้าของร้านรักใคร่เอ็นดูเหมือนน้องสาว
“โซนวีไอพีใช่ไหมคะ งานเริ่มเวลาเดิมไหมคะ”
นิราออกโดยสวมชุดเดรสแขนสั้นรัดรูปสีดำ ด้านหน้าเป็นแบบคอวีผ่าถึงร่องอก และสั้นมากจนเห็นกางเกงซับที่เธอใส่
ร้านเหล้าก็แต่งแนวนี้ เธอชินแล้ว ไม่ได้รู้สึกอายสักนิด เพราะในร้านมันมืดพอ ไม่เห็นหรอกว่าผิวเธอสีไม่เท่ากัน แต่นิราก็เลือกใส่ถุงน่องสีดำทับเรียวขาขาวเนียนไว้อยู่ดี
“มาๆ มาแต่งหน้า”
เจ้พิมมองรูปร่างนิราอย่างถูกใจ ปกติยัยคนนี้ไม่ได้ใส่เสื้อผ้าแนวนี้ แต่เวลาทำงานทีไร เด็กนี่ไม่เคยอิดออด เธอให้ทำอะไรก็ทำ จึงรู้สึกเอ็นดูนิราเป็นอย่างมาก
“ไม่ต้องเข้มนะคะ เดี๋ยวโดนด่าแรด”
นิราพูดติดตลก เธอแต่งเป็นแต่แนวหวานๆ แต่งานกลางคืนมันต้องแต่งแซ่บๆ ซึ่งเธอไม่ถนัด จึงให้เจ้พิมช่วยแต่งให้ และเจ้พิมแต่งออกมาทีไร เธอจะโดนรุ่นพี่ในร้านแซวว่าแรดทุกที เธอไม่โกรธหรอกเพราะพวกพี่เขาแค่หยอกเล่น แต่ละคนใจดีกับเธอจะตาย
หมับ! “ว๊าย! พี่คินเดี๋ยวตก!” ทิพย์วารีร้องเสียงหลง มองหน้าสามีที่อุ้มขึ้นจากโซฟาตาเขียวปัด เธอไม่ได้ตัวเล็กๆเลยนะ ถ้าทำเธอตกลงไป เธอจะหยิกให้เนื้อเขียวเลย “กอดคอไว้สิ นอนตรงนี้ไม่ได้หรอก เดี๋ยวคนนั้นคนนี้เดินเข้ามา มันวุ่นวาย” พูดจบก็ก้าวเดิน มือเล็กยกโอบรอบลำคอหนาไว้แน่นอย่างช่วยไม่ได้ ดื้อดึงไปคงไม่ได้อะไร หลับตาแน่น ปล่อยให้คนตัวโตพาไปในที่ๆเขาอยากจะไป อคินวางคนหลับลงบนเตียงแผ่วเบา แล้วบอกไม่เหนื่อยนะ แต่หลับทันทีที่เขาอุ้มขึ้นมาถึงด้านบน ไม่รู้เป็นแผนการหรือเปล่า แต่ก็ไม่อยากเอาแต่ใจตัวเองมาก จึงปล่อยให้เธอนอนพักผ่อนไปก่อน ยังไงคืนนี้ก็ต้องได้ทำอยู่แล้ว จะอดทนรอต่อไปอีกหน่อยแล้วกัน 16:45 น. @โรงแรมที่จัดงานเลี้ยง รถยนต์คันหรูจอดลงบริเวณหน้าโรงแรมที่จัดงานเลี้ยงฉลองมงคลสมรส ทิพย์วารีปิดริมฝีปากหาวไปฟอดใหญ่ ทั้งที่เพิ่งตื่นนอนเมื่อหนึ่งชั่วโมงก่อน “ค่อยไปนอนต่อช่วงที่ช่างแต่งตัวให้นะ” “พี่คินจะไปไหนต่อเหรอคะ?” ทิพย์วารีถามคนที่ไม่ยอมดับเครื่องยนต์รถ เหมือนว่าเขาจะไปที่ไหนต่อ ไม่เข้าไปข้างในพร้อมกับเธอ “ไปรับแอล” “ค่ะ ให้วาวขึ้
21:45 น. ร่างสูงค่อยๆย่องออกมาจากห้องนอนของตัวเอง ได้ยินเสียงประตูห้องข้างๆดังขึ้นเมื่อหนึ่งชั่วโมงก่อน รอจนมั่นใจว่าคนที่อยู่ในห้องนั้นทำอะไรเสร็จหมดแล้ว จึงได้ย่องออกจากห้องของตัวเอง ประตูห้องที่ทิพย์วารีใช้หลับนอน ถูกเปิดออกแผ่วเบา ร่างสูงก้าวผ่านประตูไปอย่างเงียบเชียบ ปิดลงอย่างเบามือ เดินฝ่าความมืดไปที่เตียงนอน มองร่างที่คดคู้กายอยู่ในผ้าห่ม แสงไฟจากหัวเตียง ส่องให้เห็นใบหน้ายามหลับใหลของว่าที่ภรรยา พรึ่บ! ร่างสูงขึ้นคร่อมทับร่างเย้ายวนไว้อย่างรวดเร็ว สัมผัสเมื่อคืนทำให้ร่างกายเกิดความต้องการอยู่ตลอด ให้รอไปจนถึงคืนพรุ่งนี้ เขารอไม่ไหวหรอก ต้องทำอะไรสักอย่างกับความต้องการของตัวเอง จุ๊บ! สัมผัสมาก่อนเสียง ทิพย์วารีที่เพิ่งเข้าสู่ห้วงนิทรา สะดุ้งตื่นเต็มตา ดวงตาทั้งคู่เบิกโพลงเมื่อเห็นใบหน้าคนที่คร่อมทับตัวเองอยู่ “ตื่นแล้วเหรอ” “พี่คินจะทำอะไรคะ?” “นอนอยู่เงียบๆเถอะน่า!” “ไม่เอานะ วาวเหนื่อย พรุ่งนี้ต้องตื่นแต่เช้า” “นิดเดียวน่า!” อคินไม่สนใจเสียงห้ามปรามสักนิด ปิดริมฝีปากเล็กไว้แน่น ไม่ให้เธอโต้แย้งอะไรได้อีก เลื่อนมือดึงชายชุ
“วาวขอออกไปข้างนอกนะคะ” “อยู่นี่แหละ ไม่ทำอะไรแบบเมื่อคืนหรอกน่า” พูดอย่างหงุดหงิด เพราะทำอะไรอย่างที่อยากทำไม่ได้ มองอาหารในจานที่วางอยู่อีกโต๊ะ สลับกับอาหารในมือคนที่นั่งทับอยู่บนตัก จานนั้นของโปรดเขาจริงๆ แต่แปลกที่เขาเลือกกินอาหารของทิพย์วารี แทนที่จะเป็นอาหารที่ตัวเองโปรดปราน กว่าทิพย์วารีจะถูกปล่อยให้เดินออกมาจากห้องทำงานของผู้บริหาร ก็เป็นตอนที่เขาถูกแพรวิภาโทรตามให้เข้าประชุม แน่นอนว่ามันเลยเวลาประชุมไปหลายนาที เพราะเขามัวแต่ลวนลามเธอ มากกว่าจะเสียเวลาในการกินอาหาร ร่างเพียวระหงเดินไปนั่งลงบนเก้าอี้ของตัวเอง ไม่สนใจผู้หญิงอีกคนที่นั่งทำหน้าเหม็นเบื่อส่งมาให้ ทิพย์วารีเองก็เห็นใจมะนาวนะ ที่พยายามอย่างหนักเพื่อครอบครองหัวใจเขา รู้สึกเห็นใจและสมเพช เพราะเหมือนเห็นตัวเองในอดีตซ้อนทับกับภาพเธอ “ถ้าแต่งงานแล้ว ฉันจะคุยเรื่องการทำงานของคุณกับพี่อคินนะคะ” ทิพย์วารีบอกสิ่งที่ตัวเองจะทำ มองใบหน้าสวยนิ่งๆ ไม่ได้รู้สึกผิดอะไรต่อเธอเลย เพราะคิดว่าทำในสิ่งที่ถูกต้องแล้ว มะนาวทำงานไม่คุ้มเงิน ถ้าเพียงแค่ฝึกงานเฉยๆ และเธอมีใจที่จะเรียนรู้งานจริงๆมันคงไม่มีเหตุผ
“เที่ยงแล้วนะคะ คุณอคินน่าจะทานเลย เพราะบ่ายมีประชุม” “ไม่หิว” “ทานหน่อยนะคะ นี่ของโปรดพี่คินเลยนะ” ใบหน้าที่แต่งแต้มอย่างสวยงามแย้มยิ้ม เดินเข้ามาใกล้ทอดสายตามองอย่างคะยั้นคะยอ หวังให้คนตัวโตลุกจากเก้าอี้มาทานอาหารที่ตัวเองยกเข้ามาให้ หวังทำคะแนนเต็มที่ เพราะมั่นใจว่าเขาจะหลงเสน่ห์ตัวเอง เพราะหน้าตาที่เหมือนกันกับคนที่เขารักมากที่สุด “แพรอยู่ข้างนอกไหม?” “อยู่ค่ะ แต่น้องวาวไม่อยู่” แอบยิ้มนิดๆ เมื่อคำตอบของตัวเอง ทำให้ใบหน้าหล่อเหลาตึงขึ้น มุมปากหนาคว่ำลงบ่งบอกว่าไม่พอใจ แต่ก็ไม่ได้พูดอะไรอีก “พี่คินให้นาวป้อนไหมคะ” “ไม่เป็นไร ออกไปเถอะ” “แต่…” “ออกไปครับ ผมจะทำงาน” น้ำเสียงห่างเหินมาพร้อมกับแววตาเฉยชา มะนาวรีบหมุนตัวเดินหนีออกไป เธอจะทำให้เขาอารมณ์เสียตอนนี้ไม่ได้ ช่วงนี้พยายามอย่างมากที่จะไม่ทำอะไร แม้จะร้อนใจมากเหลือเกิน เพราะใกล้จะถึงวันงานของเขาแล้ว แต่เธอมีแผนการสำรองไว้อยู่ คิดว่าไม่สามารถพังงานแต่งของเขาได้แน่ แต่คิดว่าตัวเองสามารถทำให้เขาหย่าได้ โดยใช้เวลาเพียงไม่นาน ทิพย์วารีมองกล่องข้าวในมือ เธอเห็นตอนที่มะนาวถืออาหารเข้าไ
วันรุ่งขึ้น 11:25 น. ทิพย์วารีขยับกายหนีจากอ้อมกอดคนเอาแต่ใจ เพียงแค่แรงขยับน้อยนิดของเธอ คนตัวโตก็ลืมตาขึ้นมองดุๆ แล้วรัดเธอไว้แน่นเหมือนเดิม “พี่คิน วาวเมื่อยค่ะ” เธอกับเขานอนอยู่ท่านี้มานานหลายชั่วโมงแล้ว ไม่รู้ว่าบทเรียนเมื่อคืนจบลงตอนไหน แม้จะมึนเมาเพราะฤทธิ์แอลกอฮอล์ แต่ก็ไม่ได้เมามากขนาดจำอะไรไม่ได้ เธอจำได้ทุกอย่างว่าเขาทำอะไรกับร่างกายเธอบ้าง ส่วนเขาไม่รู้จำได้หรือเปล่า เพราะตั้งแต่เขาปล่อยให้เธอนอน เขาก็ยังไม่ตื่นอีกเลย มีเพียงแค่เมื่อกี้ที่ลืมตามอง และตอนนี้ก็หลับลงไปอีกแล้ว “พี่คิน… วาวจะไปห้องน้ำ” ใบหน้าสวยบิดเบี้ยว เธอตื่นมาสักพักแล้วเพราะรู้สึกปวดปัสสาวะ พยายามหนีจากอ้อมกอดนี้แล้ว แต่ขยับทีไร ก็ถูกรัดแน่นขึ้นกว่าเดิม และตอนนี้มันเริ่มจะอั้นไม่ไหวแล้ว “พี่คินค่ะ วาวขอไปห้องน้ำหน่อยค่ะ” คำออดอ้อนอ่อนหวานดังชิดแผ่นอก กดริมฝีปากลงเบาๆ ลากไล้ลิ้นผ่านผิวเนื้อสีเข้มกว่า หวังให้การกระตุ้นทางร่างกายปลุกคนตัวโตจากห้วงนิทรา ตื่นเถอะนะได้โปรด ไม่งั้นมันจะอั้นต่อไปไม่ไหวจริงๆ! “อืม…ไม่พอเหรอ?” “พอแล้ว วาวจะไปห้องน้ำ วาวปวดฉี่” เงยหน้าม
“อ๊ะ อ๊า พี่คิน ตรงนั้น ไม่ อ๊ะ อื้อ” เสียงหวานครางลั่น จุดหวงแหนกำลังโดนมือใหญ่รุกรานอย่างหนัก สะโพกถอยหนีจากสัมผัสเพราะความเจ็บ แต่โดนมืออีกข้างกดสะโพกไว้แน่น ใบหน้าส่ายไปมา ก่อนจะรีบยกใบหน้าขึ้น ก้มลงมองบริเวณนั้นของตัวเอง เมื่อรู้สึกว่ามีอะไรชื้นๆแตะลงไปเบาๆ “กรี๊ด!” ทิพย์วารียกมือปิดหน้าด้วยความอาย หุบขาเข้าหากันแน่น เพื่อไม่ให้คนตัวโตทำเรื่องน่าอายกับร่างกายของตัวเอง เขาลงไปอยู่ตรงนั้นตั้งแต่เมื่อไหร่ แล้ว….แล้ว เขากำลังก้มหน้าทำอะไรอยู่ตรงนั้น น่าอายที่สุดเลย! “อืม” อคินครางแผ่ว เขาไม่เคยทำแบบนี้ให้ผู้หญิงคนไหนเลยสักครั้ง ไม่เคยคิดอยากจะซุกไซร้ใบหน้า อยู่ตรงนี้ของผู้หญิงคนไหนเลย แต่ตอนนี้เขารู้สึกว่าไม่อยากหนีไปไหน กลีบเนื้อสีชมพูสวยกำลังล่อลวงสายตา กลิ่นกายสาว หอมหวานคล้ายขนม สัมผัสเปียกชื้นของน้ำหวานกลางกาย ทุกอย่างมันน่าสนใจไปหมด จนเขาไม่สนแรงบีบของท่อนขาเรียวยาว ยังคงปัดป่ายลิ้นไปทั่วจุดซ่อนเร้นแสนหวาน นิ้วมือแหวกกลีบเนื้อออกจากกัน ให้ลิ้นได้สัมผัสอย่างถนัดถนี่ “อ๊ะ อ๊า! พี่คิน” “อือ” นิ้วมือเรียวยาวหายเข้าไปในร่องรักคับแน่น ขยับ