共有

บทที่ 323

作者: กระต่ายน้อยใต้ดวงจันทร์
เจียงเฟิ่งหัวตะลึงงัน สิ่งที่พูดมานี้ก็พูดถูกแล้ว ก็เพราะทุกคนล้วนรู้สึกว่าแต่งเข้าเป็นเชื้อพระวงศ์แล้วไม่เพียงแต่ร่ำรวยอู้ฟู่ ยังฐานะสูงส่งอีกด้วย ยิ่งไม่ต้องกังวลเรื่องกินอยู่ เพราะฉะนั้นทุกคนต่างทำใจสละตำแหน่งไม่ได้

นางกลับมาเกิดใหม่อีกชาติหนึ่ง มุ่งปรารถนาสิ่งใดกันเล่า ก็ไม่พ้นยศถาบรรดาศักดิ์นั้นที่สูงส่งเหนือใคร ๆ

เจียงเฟิ่งหัวกล่าวเรียบ ๆ “แล้วแต่ท่านเถิด แต่หากท่านไม่สามารถปกป้องตัวเองไม่ให้ถูกทำร้ายได้ ได้แต่อดทนยอมให้คนอื่นตลอดเวลาเท่านั้นเพื่อรักษาตำแหน่งพระชายาของท่านไว้ ข้าคิดว่าอย่างไรก็ไม่สมควรทำ ต่อให้แต่งกับท่านอ๋อง สุดท้ายคนที่ถูกทำร้ายได้รับความลำเค็ญก็คือตัวท่านเองอยู่ดี ได้ตำแหน่งพระชายาอ๋องมาแล้วมีความหมายอะไร”

“แต่ข้าทำอะไรได้บ้างเล่า พวกผู้หญิงเราทำอะไรได้ เกิดอะไรนิดเดียวพวกเขาก็เอาเรื่องหย่ามาขู่แล้ว ไหนเลยจะเว้นหนทางรอดไว้ให้ผู้หญิงอย่างเรา” พระชายาอวี้อ๋องทอดถอนใจ “บอกเจ้าตรง ๆ ก็แล้วกัน หลายปีมานี้ที่ข้าได้ยินมาบ่อยที่สุดก็คือให้กำเนิดบุตรไม่ได้ ผู้หญิงคนหนึ่งมีลูกไม่ได้ แต่งกับใครก็ถูกคนชี้หน้าด่าอยู่ดีมิใช่หรือ แต่งกับท่านอ๋องดีกว่า อย่างน้อยมีฐานะสูงส่
この本を無料で読み続ける
コードをスキャンしてアプリをダウンロード
ロックされたチャプター

関連チャプター

  • ย้อนชะตาวิวาห์รัก ชาตินี้ข้าขอเป็นฮองเฮา   บทที่ 324

    นางเล่าเรื่องทั้งหมดให้ถานหว่านชิงฟัง โชคดีที่พวกนางเตรียมการไว้นานแล้ว สำหรับศาลาการกุศลแล้ว เรื่องนี้ดำเนินการไม่ยากเลย ราชสำนักยังจะให้เงินพวกเขาอีกด้วย เพียงไม่นานศาลาการกุศลก็จะได้เงินก้อนใหญ่มา เมื่อทุกคนมีเงิน ฤดูหนาวนี้ก็ไม่ลำบากแล้วหารือธุระเสร็จ เจียงเฟิ่งหัวพาพระชายาอวี้อ๋องออกไปจากห้องโถงใหญ่ เจอเย่ซู่ซู่หอบตะกร้าสมุนไพรทำยาเดินผ่านมาพอดีเย่ซู่ซู่ก็เห็นเจียงเฟิ่งหัว นางถวายคำนับหนึ่งครั้งอย่างเคารพนบนอบ “หม่อมฉันถวายพระพรพระชายาเหิงอ๋องเพคะ”ตอนแรกนางสามารถเข้าไปอยู่ในจวนเหิงอ๋องได้ แต่กลับถูกหลินเฟิงพามาที่นี่ นางก็พูดอะไรไม่ได้ รู้ว่าศาลาการกุศลบริหารจัดการโดยจวนเหิงอ๋อง นางอาศัยอยู่ที่นี่อย่างไรก็ต้องได้พบท่านเหิงอ๋องอีก แต่ว่าเหิงอ๋องจะต้องไปรบอีกแล้ว นางก็คิดอยากไปจากศาลาการกุศลแล้วเจียงเฟิ่งหัวมองปราดเดียวก็ดูออกว่านางมีความคิดอยากมักใหญ่ใฝ่สูงจะเข้าหาผู้สูงศักดิ์ ก็แกล้งทำเป็นไม่รู้อะไรทั้งสิ้น ถามด้วยความเป็นห่วง “แม่นางเย่อยู่ที่ศาลาการกุศลพอปรับตัวได้ไหม?”“ขอบพระทัยพระชายาที่ทรงเป็นห่วงเพคะ หม่อมฉันอยู่ได้สบายดีเพคะ ได้มีที่ซุกหัวนอนก็ถือเป็นความโชคดีของห

  • ย้อนชะตาวิวาห์รัก ชาตินี้ข้าขอเป็นฮองเฮา   บทที่ 325

    เจียงเฟิ่งหัวมอบหมายเรื่องนอกวังให้พระชายาอวี้อ๋อง อีกทั้งให้หงซิ่วไปแจ้งหลินอวี่ให้แอบช่วยพระชายาอวี้อ๋อง แล้วก็เตรียมตัวกลับวังเพิ่งถึงครึ่งทาง รถม้าของเจียงเฟิ่งหัวก็ถูกขวางทาง หลินอวี่ปรากฏตัวตรงหน้านาง กะพริบตาโต ๆ ใส่นาง “พระชายาในเมื่อออกมานอกวังแล้ว ก็ไม่เห็นบอกว่าจะไปเยี่ยมหม่อมฉันสักหน่อยเลยนะเพคะ”เจียงเฟิ่งหัวยิ้มพลางกล่าวว่า “ไม่ได้พบกันนาน ผู้ดูแลหลินขึ้นรถสิ!”หลินอวี่ขึ้นรถม้าอย่างง่ายดาย แทรกตัวเข้าไปนั่งลงข้างเจียงเฟิ่งหัว เหลียนเย่กับอ้าวเสวี่ยก็นั่งอยู่ในรถม้า โชคดีที่รถม้าใหญ่พอ นั่งสี่คนก็ยังไม่รู้สึกว่าเบียดพวกนางไม่ได้เจอหน้ากันหลายเดือนแล้ว เพราะเรื่องกิจการ หลินอวี่ต้องออกเดินทางไกลไปเที่ยวหนึ่งถึงได้กลับมา นางมองไปทางอ้าวเสวี่ย รู้ว่านางน่าจะเป็นองครักษ์หญิงที่เหิงอ๋องส่งมาอารักขาข้างกายพระชายา หน้าตาดูสงบเสงี่ยมงดงามพอตัวที่จริงแล้วอ้าวเสวี่ยอายุมากกว่าหลินอวี่หนึ่งปีอีกด้วย แต่ว่าหลินอวี่เติบโตมาในหอนางโลมตั้งแต่เด็ก และยังประกอบกิจการมาตั้งหลายปี กระทำการใด ๆ จึงชำชาญมากกว่าพอสมควร แต่งตัวก็ยิ่งค่อนข้างดูเป็นผู้ใหญ่นางกล่าวอย่างสนิทชิดเชื้อ “น้อง

  • ย้อนชะตาวิวาห์รัก ชาตินี้ข้าขอเป็นฮองเฮา   บทที่ 326

    เหลียนเย่กล่าวว่า “บ่าวก็คิดถึงอาหารของหอเซียงหย่าแล้วเช่นกันคะ”เจียงเฟิ่งหัวยิ้มน้อยๆ ว่า “อย่างนั้นก็ต้องให้ผู้ดูแลหลินสิ้นเปลืองแล้ว”เมื่อกินข้าวเสร็จและออกมาจากร้านอาหารฟ้าก็มืดแล้ว รถม้าของจวนอ๋องก็มาจอดอยู่หน้าร้านอาหารนานแล้วเช่นกัน อากาศเย็นขึ้นเรื่อยๆ บนท้องถนนก็ไม่มีผู้คนนักหลินอวี่กล่าวว่า “ดึกขนาดนี้แล้ว หม่อมฉันจะส่งพวกพระองค์กลับไป และให้ผู้คุ้มกันของหอตามไปด้วยเพคะ”เจียงเฟิ่งหัวออกจากวังมาก็ตรงไปที่ศาลาการกุศลเลย นอกจากคนขับรถม้าของจวนอ๋อง ก็ไม่ได้พาองครักษ์อื่นมาอีก หลินอวี่จะส่งนาง นางจึงมิได้ปฏิเสธคนทั้งหลายสนทนาไปหัวเราะไปขณะขึ้นรถม้า เพียงแต่พวกเขาไม่รู้ว่า ที่ด้านหลังมีสายตาที่มืดหม่นและเยียบเย็นคู่หนึ่งกำลังจับจ้องอยู่ตลอด มุมปากของมันแสยะเป็นรอยยิ้มน่าเกลียด มั่นใจว่าครั้งนี้จะต้องวางแผนซ้อนแผนต่อเจียงเฟิ่งหัวได้แน่เพราะสายสัมพันธ์กับซูเซวี่ยน หลี่เฉิงกับจีเฉินจึงมารวมตัวกันอีกครั้ง พวกเขาเจ็บแล้วไม่จำ คิดเพียงจะแก้แค้นที่ถูกคนวางกับดักที่สกุลจางในวันนั้น แม้จีเฉินจะไม่มีหลักฐาน แต่สิ่งแรกที่เขาคิดก็คือ นี่เป็นฝีมือของเจียงเฟิ่งหัวจางอวี่มั่วแต่งงาน

  • ย้อนชะตาวิวาห์รัก ชาตินี้ข้าขอเป็นฮองเฮา   บทที่ 327

    นางหันไปถามอ้าวเสวี่ยอีกครั้งว่า “เจ้าสามารถติดต่อองครักษ์คนอื่นของจวนอ๋องได้หรือไม่?” ตอนที่เซี่ยซางจากไป ได้ทิ้งคนไว้ให้นาง เพียงแต่นางอยู่ในวังมาตลอดจึงไม่ได้พบอ้าวเสวี่ยควักพลุสัญญาณชิ้นหนึ่งจากร่างโยนขึ้นไปบนฟ้า “เรียบร้อยแล้วเพคะ เมื่อพวกเขาเห็นสัญญาณก็จะตามมาเพคะ”รถม้าเพิ่งไปถึงหน้าจวนสกุลจาง ที่นี่ถูกชาวบ้านที่มาชมดูความวุ่นวายล้อมไว้จนแน่นขนัดไปหมด เมื่อเจียงเฟิ่งหัวเลิกม่านรถขึ้นมองออกไปด้านนอก สิ่งที่เห็นก็ทำให้รู้สึกตระหนกนัก สกุลจางเกิดเรื่องขึ้นจริงๆ และเพลิงยังรุนแรงยิ่งด้วยนางจะมุดออกมาจากตัวรถแต่ถูกหลินอวี่ขวางไว้ “ครรภ์ของพระองค์ไม่สะดวกโปรดอย่าลงจากรถเลยเพคะ คนเยอะเกินไปหม่อมฉันเกรงว่าพระองค์จะถูกเบียด หม่อมฉันจะไปดูเองว่าที่แท้เกิดสิ่งใด กลับมาทูลแล้วค่อยทรงตัดสินใจก็ได้เพคะ”เจียงเฟิ่งหัวก็กังวลในเรื่องนี้เช่นกัน จึงพยักหน้า “ระวังหน่อย ให้ผู้คุ้มกันตามไปด้วยล่ะ”ผ่านไปครู่หนึ่ง หลินอวี่ก็วิ่งหอบกลับมา “ได้ยินว่าไฟเริ่มไหม้มาจากเรือนของจางกั๋วกงเพคะ คฤหาสน์ของสกุลกว่าครึ่งถูกไหม้หมดแล้ว สกุลจางยังจับคนร้ายได้อีกด้วย เป็นฮูหยินรองของสกุลจางนั่นเองเพคะ”“จาง

  • ย้อนชะตาวิวาห์รัก ชาตินี้ข้าขอเป็นฮองเฮา   บทที่ 328

    เขาคิดไม่ถึงว่าอีกฝ่ายจะมิใช่เจียงเฟิ่งหัว เมื่อเข้ามาใกล้แล้วเห็นหน้านางชัดเขาถึงได้รู้ว่านางเป็นใคร ผู้ดูแลหลินของหอเซียงหย่า สตรีที่ทั้งมากรักและไม่สำรวม นางถึงกับเป็นวรยุทธ์เขาไม่คาดว่า ด้วยความสัมพันธ์ของนางกับสกุลจาง ทั้งที่สกุลจางเกิดเรื่องใหญ่ถึงเพียงนี้และเจียงเฟิ่งหัวก็มาถึงสกุลจางแล้ว นางยังจะหาคนมาปลอมแปลงเป็นนางได้อีกเรื่องราวถูกเปิดโปง จีเฉินอดทนต่อความเจ็บปวดที่มือคิดจะฉวยโอกาสหนีไปในความวุ่นวาย แต่หลินอวี่จะมอบโอกาสให้เขาได้อย่างไร จึงถีบหลังของเขาจนล้มหน้าคะมำจีเฉินสวมหมวกปิดบังใบหน้าไปกว่าครึ่ง ฟ้าก็มืดแล้วหลินอวี่จึงจำหน้าเขาไม่ได้ นางกล่าวว่า “ให้มารดาดูหน่อยเถอะว่าเป็นเศษสวะตัวใดที่คิดทำร้ายคนกัน”จีเฉินที่นอนหมอบอยู่บนพื้นพลิกมือคิดจะจับมือของหลินอวี่ไว้ ทว่าอ้าวเสวี่ยที่เหินกายมาอย่างกะทันหันเหยียบตัวเขาไว้ ประกายดาบในมือตวัดขึ้น ครั้งก่อนนางก็คิดจะจัดการมันแล้ว แต่ปล่อยให้มันหนีไปได้ทว่าเจียงเฟิ่งหัวเอ่ยห้าม “อ้าวเสวี่ย รอก่อน” หากเขาวางเพลิงเผาจวนสกุลจาง จนเป็นเหตุให้จางกั๋วกงและฮูหยินของจางกั๋วกงเสียชีวิตจริงๆ เขายังต้องมอบคำชี้แจงให้สกุลจาง กระทั่งยั

  • ย้อนชะตาวิวาห์รัก ชาตินี้ข้าขอเป็นฮองเฮา   บทที่ 329

    สกุลจางเกิดเรื่อง จางอวี่มั่วกับราชครูเจียงและฮูหยินเจียงล้วนพากันมาแล้วในเวลานี้ สกุลจางโกลาหลไปหมด ฤๅสวรรค์คงได้ยินเสียงร้องไห้ครวญคร่ำของจางอวี่มั่วที่ดังสะเทือนเลือนลั่นไปถึงฟ้า จึงได้ส่งสายพิรุณลงมาดับอัคคีภัยครั้งใหญ่ของจวนสกุลจางสุดท้าย ฮูหยินผู้เฒ่าสกุลจางก็รอเจอหน้าจางอวี่มั่วเป็นครั้งสุดท้ายไม่ไหว เจียงเฟิ่งหัวยังจำได้ว่าฮูหยินผู้เฒ่าฝืนลมหายใจเฮือกสุดท้ายกุมมือนางไว้ “สาวน้อย บอกมั่วเอ๋อร์อย่าได้เสียใจ ปกป้องนางด้วย ขอบคุณ…”จางอวี่มั่วมองศพของสองผู้เฒ่าสกุลจาง นางร้องไห้จนสลบไปแล้ว เจียงฮูหยินรีบตระกองนางไว้ในอ้อมแขนสกุลจางเกิดคดีฆาตกรรม คนของเขตเมืองหลวงและกองกำลังรักษาความปลอดภัยนครบาลล้วนมากันหมด เมื่อจับตัวฮูหยินรองสกุลจางได้นางก็มิได้ตื่นตระหนก แต่สารภาพทันทีว่านางเป็นผู้วางเพลิง และเหตุผลก็เป็นเพราะสกุลจางหย่าขาดนางเมื่อเจียงเฟิ่งหัวเห็นสภาพที่อันน่าอนาถภายใน นางก็โมโหจนแทบเสียสติ แต่นางรู้ว่าตอนนี้ไม่ว่าใครก็สามารถไร้สติได้ มีเพียงนางที่ไม่ได้ เพราะคนร้ายตัวจริงที่ชักนำและบงการให้เกิดโศกนาฏกรรมในครั้งนี้กำลังคุกเข่าอยู่ในลาน นางจะส่งมันไปลงนรกอเวจีขุมที่สิบแ

  • ย้อนชะตาวิวาห์รัก ชาตินี้ข้าขอเป็นฮองเฮา   บทที่ 330

    นางเดินไปที่เบื้องหน้าของหัวหน้ากองหยางและรองผู้ว่าจาง แล้วกล่าวเสียงหนักว่า “ใต้เท้าหยางและใต้เท้าจาง มือสังหารที่มาลอบสังหารข้าล้วนถูกจับหมดแล้ว รบกวนพวกท่านทั้งสองตรวจสอบว่าเป็นผู้ใดบงการให้พวกเขามาลอบสังหารข้า สกุลจางเกิดเพลิงไหม้ ท่านกั๋วกงและฮูหยินล้วนถูกสังหาร ทำให้ผู้คนโศกเศร้ายิ่งนัก ขอใต้เท้าโปรดตรวจสอบอย่างละเอียดเพื่อมอบคำอธิบายให้ท่านกั๋วกงและฮูหยินด้วย”จางอันอวี่ก็เป็นผู้ใต้บังคับบัญชาของเหิงอ๋องเช่นกัน ยามนี้เหิงอ๋องนำทัพไปออกศึก พวกเขาย่อมรักษาเขตเมืองหลวงให้ท่านอ๋องเป็นอย่างดี ใต้เท้าจางกล่าวด้วยความเคารพว่า “พระชายาโปรดวางพระทัย ผู้น้อยจะจัดการอย่างเข้มงวดพ่ะย่ะค่ะ”อ้าวเสวี่ยมาที่เบื้องหน้าของเจียงเฟิ่งหัวอย่างเร่งร้อน “ทูลพระชายา มือสังหารเสียชีวิตหมดแล้วเพคะ เป็นการตายจากพิษกำเริบ หัวหน้าหน่วยเย่อิ่งตรวจสอบแล้วเพคะ พวกมันไม่ใช่มือสังหารแต่เป็นหน่วยกล้าตายเพคะ”“จะพิษกำเริบได้อย่างไร?” จางอันอวี่สงสัยหยางเจิ้งก็กล่าวเสริมอีกประโยค “ฆ่าคนปิดปากน่ะสิ”หัวคิ้วของเจียงเฟิ่งหัวขมวดแน่น นางถามว่า “หน่วยกล้าตายคือสิ่งใด?” เจียงเฟิ่งหัวยังไม่ค่อยเข้าใจว่ามือสังหารกับ

  • ย้อนชะตาวิวาห์รัก ชาตินี้ข้าขอเป็นฮองเฮา   บทที่ 331

    เมื่อรู้ว่าสกุลจางไฟไหม้นางไม่มีทางไม่มา หลินอวี่สามารถสืบได้ในทันทีว่าฮูหยินรองสกุลจางเป็นคนวางเพลิง และไฟยังเริ่มลุกไหม้มาจากเรือนของจางกั๋วกงอีก ในสถานการณ์ที่สับสนวุ่นวายเช่นนี้ และตอนนั้นไฟก็ยังมิได้ถูกดับลงอีก พวกเขาจะจับฮูหยินรองได้ไวถึงเพียงนั้นได้อย่างไร ฮูหยินรองเมื่อถูกหย่าก็ไม่ควรอยู่จวนสกุลจางแล้ว แล้วเหตุใดนางจึงวิ่งกลับมาวางเพลิงที่สกุลจางอีก? นี่มิใช่การรนหาที่ตายหรืออย่างไร?เมื่อครู่นางถามจีเฉินว่าเขาเป็นคนวางเพลิงหรือไม่ แต่ในคำพูดของเขาเห็นได้ชัดว่ากำลังกระตุ้นโทสะนาง และกระทั่งมั่นใจว่าใครเป็นผู้วางเพลิงที่แท้ซูเซวี่ยนคำนวณถึงสิ่งที่นางคิดไว้ก่อนแล้ว และรู้ด้วยว่าการลอบสังหารในครั้งนี้น่าจะไม่สำเร็จ เพราะมีคนของจวนอ๋องคุ้มครองอยู่ นางจึงไม่มีทางตายอย่างง่ายดายเช่นนั้น มีเพียงเจ้าโง่จีเฉินนั่นที่คิดว่าทุกเรื่องจะราบรื่นเพราะซูเซวี่ยนส่งมือสังหารมาให้เขาดังนั้น จีเฉินก็ตกอยู่ในแผนการของซูเซวี่ยนเช่นกันเมื่อตระหนักได้ถึงสิ่งเหล่านี้ เจียงเฟิ่งหัวก็ถอนใจอยู่ในใจว่า ‘ดีเหลือเกิน แม่ทัพซูเซวี่ยนผู้นี้ช่างความคิดลึกซึ้งเจ้าแผนการนัก เซี่ยซางอยู่ไกลออกไปถึงชายแดนเขา

最新チャプター

  • ย้อนชะตาวิวาห์รัก ชาตินี้ข้าขอเป็นฮองเฮา   บทที่ 376  

    เหลียนเย่หยิบมาลองดม รู้สึกเพียงกลิ่นหอมสดชื่นโชยปะทะจมูก หอมยิ่งนัก “หากว่าคุณหนูมีของสิ่งนี้ตั้งแต่เมื่อเยาว์วัยก็คงดี ตอนเด็ก ๆ จะได้ไม่ต้องฝันร้ายบ่อย ๆ อีก” อ้าวเสวี่ยถามเหลียนเย่ “เกิด อะไรขึ้นกับพระชายากันแน่ พวกเจ้ารับใช้พระชายามาตั้งแต่ยังเล็ก เคยเกิดเรื่องน่าสะพรึงกลัวใดขึ้นกับนางมาก่อนหรือไม่?” “ไม่มี คุณหนูมีชีวิตเป็นสุขดีมาตลอด หากว่ายาหอมคืนเรือนสามารถช่วยให้คุณหนูไม่ต้องฝันร้ายอีกเช่นนั้นก็ดีมากแล้วจริง ๆ” ที่เหลียนเย่กล่าวมาเป็นความจริง เช้าตรู่วันต่อมา หลังจากเจียงเฟิ่งหัวตื่นขึ้นมาแล้วนางดูปกติคล้ายว่าไม่เคยมีเรื่องใดเกิดขึ้นมาก่อน เห็นอ้าวเสวี่ยและเหลียนเย่เฝ้าอยู่ในห้องของนาง นางก็เหยียดตัวบิดขี้เกียจพลางกล่าวว่า “เมื่อคืนหลับสบายจริง ๆ ข้ารู้สึกจิตใจปลอดโปร่ง ร่างกายสดชื่นดีมาก พวกเจ้าได้จุดกำยานอะไรเอาไว้หรือไม่?” เหลียนเย่เห็นนางลืมเรื่องเมื่อคืนที่ละเมอร้องไห้ในความฝันไปก็ถามขึ้นว่า “พระชายาจำอะไรไม่ได้เลยหรือเพคะ?” “ข้าต้องจำอะไรได้หรือ?” เจียงเฟิ่งหัวประคองท้องของตนเองเดินลงมาจากเตียงพลางเอ่ยว่า “ข้าจำได้ว่าเมื่อคืนข้ากับเจ้านอนด้วยกัน” “ใช่แล้วเพค

  • ย้อนชะตาวิวาห์รัก ชาตินี้ข้าขอเป็นฮองเฮา   บทที่ 375  

    ครั้นส่งสี่หมัวมัวออกไปแล้ว เจียงเฟิ่งหัวเองก็มิอาจใจเย็นอยู่เฉยได้ ซูถิงหว่านต้องมีความทรงจำจากเมื่ออดีตชาติแล้วแน่ ซูถิงหว่านรู้แล้วว่าหลังจากนี้นางจะได้เป็นฮองเฮา เพราะฉะนั้นนางถึงได้ไม่เกรงกลัวเพราะมีสิ่งยึดเหนี่ยว หากมิใช่เพราะการตายของจีเฉินทำให้การเดินทางของนางล่าช้า นางอาจจะมุ่งหน้าไปเขตชายแดนเพื่อรวมตัวกับคนสกุลซูแล้วก็ได้ นางมิอาจเอาความโปรดปรานของเซี่ยซางมาเดิมพันว่าตำแหน่งของนางจะมั่นคง เมื่อวานฝ่าบาทนอกจากพระราชทานสิ่งล้ำค่าให้กับนางเพื่อเป็นรางวัลแล้ว ยังพระราชทานป้ายอาญาสิทธิ์ทองคำส่วนพระองค์ป้ายหนึ่งให้กับนางด้วย ด้านบนมีอักษรเขียนว่า ‘เสมือนฮ่องเต้เสด็จ’ มีมันแล้ว นางก็สามารถเดินผ่านได้ทุกที่ในวังหลวงแม้กระทั่งทั่วทั้งใต้หล้า ตอนแรกนางงุนงงอยู่เล็กน้อย ต่อมาเฉากงกงถึงได้เร่งให้นางรีบกล่าวขอบพระทัยในพระมหากรุณาธิคุณของฝ่าบาทได้ สัญลักษณ์ของผู้ที่ได้รับป้ายทองอาญาสิทธิ์อันนี้ก็คืออำนาจ คือความไว้เนื้อเชื่อใจที่ฝ่าบาทมีต่อนาง “พระชายา ท่านเป็นอะไรไปเพคะ หน้าซีดเชียวเพคะ” เหลียนเย่เห็นนางเงียบไปนาน เหม่อลอยอยู่ตามลำพัง “เปล่า อาจเพราะเหนื่อยล้าเกินไปหน่อยกระมัง ข

  • ย้อนชะตาวิวาห์รัก ชาตินี้ข้าขอเป็นฮองเฮา   บทที่ 374  

    สี่หมัวมัวตกใจกลัวตัวสั่น รีบยั้งปากทันใด ครั้นมาถึงด้านในตำหนักเฉินซี เจียงเฟิ่งหัวก็สั่งให้เหลียนเย่ปิดประตูทันที ทิ้งให้อยู่ในห้องกับสี่หมัวมัวลำพัง เห็นเพียงนางสีหน้าเยือกเย็น พร้อมเอ่ยขึ้นด้วยเสียงเคร่งขรึมว่า “สี่หมัวมัว เจ้าคงจะทราบดีว่าคำพูดเมื่อครู่ของเจ้ามีโทษหนักถึงขั้นตัดศีรษะ บัดนี้เสด็จพ่อมีพระพลานามัยแข็งแรงดี ตำแหน่งองค์รัชทายาทยังมิได้แต่งตั้ง เจ้ากลับเผยแพร่คำพูดเหล่านี้โดยพลการ มิเพียงเจ้าจะรักษาศีรษะของเจ้าไว้ไม่ได้ แม้แต่เสด็จแม่ ท่านอ๋องและข้าก็จะพลอยได้รับเคราะห์จากคำพูดประโยคนี้ของเข้าไปด้วย” สี่หมัวมัวตกใจกลัวจนเหงื่อเย็นไหลพราก ๆ “บ่าวทราบเพคะ ดังนั้นบ่าวถึงได้เก็บงำไว้ในใจมาตลอด บางคำมิได้พูด บ่าวเองก็ทุกข์ใจเพคะ หนนี้ถึงได้อยากแจ้งพระชายา อยากให้พระชายาช่วยโน้มน้าวฮองเฮาด้วยเพคะ” เจียงเฟิ่งหัวกล่าวอย่างจงใจ “เมื่อครู่เจ้าบอกว่าถ้อยคำเหล่านี้พระชายารองซูเอ่ยกับเสด็จแม่ เจ้ามิได้โป้ปดจริงแน่หรือ” สี่หมัวมัวเล่าอย่างละเอียดไม่มีปิดบัง “ถ้อยคำเหล่านี้บ่าวมิได้เป็นคนพูดเพคะ บ่าวจะกล้าพูดแบบนี้ออกไปได้อย่างไรเพคะ และมิใช่ฮองเฮาเป็นคนตรัสด้วยเพคะ ถ้อยคำเห

  • ย้อนชะตาวิวาห์รัก ชาตินี้ข้าขอเป็นฮองเฮา   บทที่ 373  

    ผ่านไปสองวัน ซูถิงหว่านยังไม่กลับมา สุดท้ายแล้วนางเลือกเดินซ้ำรอยเดิมของชาติก่อนติดตามเซี่ยซางไปที่เขตชายแดน และที่น่าขันคือข่าวนี้เฉิงฮองเฮาเป็นคนมาบอกนางด้วยตนเอง ได้ยินเฉิงฮองเฮากล่าวว่า “พระชายารองซูไปที่เขตชายแดนเพื่อช่วยซางเอ๋อร์ทำศึก ซางเอ๋อร์เองก็จำเป็นต้องมีสตรีสักคนคอยดูแลอยู่เคียงข้างกาย ส่วนเจ้าก็ท้องแก่แล้ว ข้าจึงอนุญาตให้นางไป หรวนหร่วนเจ้าคงไม่กล่าวโทษข้ากระมัง” เจียงเฟิ่งหัวผุดยิ้มน้อย ๆ พลางเอ่ยว่า “เสด็จแม่ทรงคิดรอบคอบ ท่านอ๋องมีคนเอาใจใส่อยู่เคียงข้างกายสักคนก็นับว่าดีเพคะ เพียงแต่เหมันต์ฤดูอากาศข้างนอกหนาวเย็นยิ่งนัก และอีกไม่นานก็จะถึงวันปีใหม่แล้ว พระชายารองซูเป็นสตรีตัวคนเดียวเดินทางไปเช่นนั้นจะปลอดภัยหรือเพคะ” “นางมีวรยุทธ์ติดตัว และมีกองทัพสกุลซูปกป้องคุ้มครอง ปลอดภัยไร้กังวล เราเห็นว่านางก็มิได้มีท่าทีอิดออดอะไร” “เป็นเช่นนี้ก็ดียิ่งนักเพคะ” เจียงเฟิ่งหัวกล่าวด้วยน้ำเสียงอบอุ่น ฮองเฮาเปลี่ยนใจรวดเร็วเสียจริง ตอนแรกยังคัดค้านเซี่ยซางอย่างสุดกำลังไม่ให้พาสตรีไปออกศึก อ้างว่าจะไม่เป็นสิริมงคล ถึงขั้นทำลายความองอาจน่าเกรงขามของหัวหน้าแม่ทัพ ทว่าบัดนี้กลับอ

  • ย้อนชะตาวิวาห์รัก ชาตินี้ข้าขอเป็นฮองเฮา   บทที่ 372  

    เจียงเฟิ่งหัวออกจากตำหนักคุนหนิงก็ตรงไปยังตำหนักเฉินซีทันที ในตอนนั้น เห็นนางกำนัลคนหนึ่งท่าทางลับ ๆ ล่อ ๆ ก็โพล่งเสียงตำหนิออกไป “ใคร” อ้าวเสวี่ยตั้งรับทันที ไม่รอให้นางเดินเข้าไปใกล้ อวิ๋นฟางก็เดินงก ๆ เงิ่น ๆ มาหยุดเบื้องหน้าเจียงเฟิ่งหัว “บ่าวคารวะเพคะพระชายา” เจียงเฟิ่งหัวเห็นนางชัดถนัดตาแล้วก็แอบคิดเงียบ ๆ ในใจ นางมีฝีมือไม่เบาเลยทีเดียว แอบลอบกลับวังมาได้ ทว่าด้วยสถานการณ์ของนางตอนนี้ ซูถิงหว่านไม่มีทางปล่อยนางไปแน่ นางจนตรอกไม่มีทางถอยแล้ว จำต้องวิ่งเข้ามาหลบในวังถึงจะไม่ถูกคนไล่ล่า อ้าวเสวี่ยและเหลียนเย่เองก็ชะงักงันไปแล้วเช่นกัน อวิ๋นฟางช่างกล้าหาญยิ่งนัก กล้ากลับเข้ามาในวังหลวงอีก พวกนางคิดว่าหลังจากอวิ๋นฟางหนีไปทางประตูหลังของเขตเมืองหลวงแล้ว นางจะหนีออกไปจากเมืองเซิ่งจิง อย่างน้อยก็ต้องหนีให้ห่างไกลจากเรื่องวุ่นวาย ปกป้องชีวิตไว้เป็นสำคัญ “เข้ามาเถิด!” เจียงเฟิ่งหัวกล่าว อวิ๋นฟางตามเข้าไปในตำหนักเฉินซี นางกำนัลได้ต้มน้ำร้อนเตรียมไว้ล่วงหน้าแล้ว ภายในห้องอบอุ่นเป็นอย่างยิ่ง ภายใต้แสงตะเกียงสว่างรุบรู่ อวิ๋นฟางก็เริ่มขะมักเขม้นทำงานสารพัดทั้งยกน้ำเทน้ำ นางยังกระตือ

  • ย้อนชะตาวิวาห์รัก ชาตินี้ข้าขอเป็นฮองเฮา   บทที่ 371  

    เฉิงฮองเฮาเปิดเปลือกตา ก่อนจะเอ่ยด้วยเสียงราบเรียบว่า “มาแล้ว จัดการเรื่องข้างนอกวังเรียบร้อยดีแล้วหรือยัง? ออกจากวังไปครึ่งเดือนแล้วมิใช่หรือ!” เจียงเฟิ่งหัวท่าทางมิได้หยิ่งยโสเกินควรแต่ก็มิได้ถ่อมตัวจนเกินเหตุ “ทูลเสด็จแม่ จัดการเหมาะสมเรียบร้อยดีแล้วเพคะ” “ข้าได้ยินว่าเมื่อสิบวันก่อนสินค้าและวัตถุดิบถูกส่งไปหมดแล้ว” แม่สามีของนางก็ดูจะวางมาดขึ้นเช่นกัน ราวกับต้องการให้นางยอมเชื่อฟังคำสั่งสอน เหมือนกับเมื่อชาติก่อนไม่มีผิด “เพคะ เพียงแต่ของที่ส่งออกไปเมื่อสิบวันก่อนเป็นแค่ชุดแรกเพคะ เพราะมีจำนวนมากเกินไป ชุดต่อไปจะต้องทยอยลำเลียงออกไปเพคะ” เจียงเฟิ่งหัวกล่าวอย่างละเอียด มองแล้วอ่อนโยนนอบน้อม สงบเสงี่ยมเรียบร้อยมารยาทเพียบพร้อมไร้ที่ติ แม้แต่เฉิงฮองเฮายังมิอาจหาจุดใส่ไฟได้เลย “ลุกขึ้นมานั่งเถิด” น้ำเสียงของเฉิงฮองเฮาฟังดูดีขึ้นเล็กน้อย “ซางเอ๋อร์มีสกุลซูคอยจุนเจือ บัดนี้เด็กในครรภ์ของเจ้าสำคัญเหนือสิ่งใด อย่ามัวเพ่นพ่านด้านนอกมากนัก อย่าไปข้องเกี่ยวกับสตรีในหมู่ขุนนางราชสำนักมากเกินไป ที่สำคัญจงอย่าได้มัวละโมบใฝ่หาความดีความชอบจนลำดับความสำคัญผิดไป” เจียงเฟิ่งหัวคิดในใจ ตอนอ

  • ย้อนชะตาวิวาห์รัก ชาตินี้ข้าขอเป็นฮองเฮา   บทที่ 370

    “เพคะ สะใภ้รับบัญชา”จากนั้น เจียงเฟิ่งหัวก็วางหมากลงไปตัวหนึ่ง “เสด็จพ่อ ทรงแพ้แล้วเพคะ”ฮ่องเต้เหลือบมองกระดานหมากคราหนึ่ง เริ่มจากความตกตะลึง ตามด้วยสีหน้ามืดครึ้มที่มองไม่ออก จากนั้นก็ทรงหัวเราะออกมาว่า “ดูเหมือนเราไม่อาจไม่ตกรางวัลนี้แล้ว มาเล่นอีกตา หากเจ้าชนะเราอีก เราก็จะมอบรางวัลให้อีกครั้ง”เจียงเฟิ่งหัวเก็บหมากบนกระดานขึ้นมาอย่างเยือกเย็น ไร้ความลนลาน “ลูกก็ชนะมาได้อย่างหวุดหวิดเพคะ ต้องเป็นเพราะเมื่อครู่เสด็จพ่อทรงฟังลูกพูดเพลิน จึงได้ออมมือให้ลูกแน่เลยเพคะ”“เจ้าคงไม่รู้สินะ หลายวันมานี้เรามีราชโองการเรียกตัวบิดาของเจ้าเข้าวังมาเดินหมากเป็นเพื่อนเราทุกวัน เขากลับไม่เคยชนะเราเลยสักตา ช่างน่าเบื่อนัก แต่เขาบอกว่าบุตรสาวของเขาเป็นยอดฝีมือในการเดินหมาก เรายังคิดว่าเขาพูดเกินจริงเสียอีก แต่วันนี้ หลังได้เดินหมากไปกระดานหนึ่งเราก็เชื่อแล้ว”“ท่านพ่อก็เหมือนยายหวังขายแตง ที่ชอบขายเองชมเองเพคะ ต่อให้บุตรสาวของท่านจะทำสิ่งใดไม่เป็นเลย ท่านก็รู้สึกว่าดีอยู่ดีเพคะ”“ยังถ่อมตัวเข้าเสียแล้ว เมื่อมาเป็นลูกสะใภ้ของราชวงศ์เรา แค่การถ่อมตนอย่างเดียวไม่พอหรอกนะ ในอนาคตยังต้องช่วยซางเอ

  • ย้อนชะตาวิวาห์รัก ชาตินี้ข้าขอเป็นฮองเฮา   บทที่ 369

    เมื่อเจียงเฟิ่งหัวกลับวังก็ถูกฮ่องเต้เรียนตัวไปที่ห้องทรงอักษร หลังนางรายงานเรื่องภารกิจที่ฮ่องเต้มอบหมายให้นาง ก็วางแผนจะกลับตำหนักคุนหนิงไปคารวะฮองเฮาแต่จู่ๆ ฮ่องเต้ก็ตรัสขึ้นมาว่า “ได้ยินว่าพระชายาของเหิงอ๋องชำนาญการวางหมาก เราอยากหาคนมาเล่นด้วยสักตาพอดี ว่าอย่างไร จะอยู่เล่นเป็นเพื่อนเราสักตาหรือไม่”เจียงเฟิ่งหัวคารวะลงรอบหนึ่งด้วยมารยาที่พอเหมาะ ไม่ถ่อมตัวไม่เย่อหยิ่ง แล้วกล่าวอย่างเคารพว่า “เคารพมิสู้เชื่อฟัง สะใภ้ย่อมทำตามพระบัญชาของเสด็จพ่อเพคะ แต่หากเสด็จพ่อทรงเป็นฝ่ายปราชัย ลูกจะขอรางวัลจากเสด็จพ่อสักอย่างได้ไหมเพคะ”ฮ่องเต้ตรัสว่า “อยากได้อะไรก็พูดมาได้เลย หากเจ้าเอาชนะข้าได้ ก็ถือเป็นรางวัลที่เจ้ามีผลงานใดการทำคดี แต่หากพ่ายแพ้ รางวัลก็จะไม่มีแล้วนะ”เจียงเฟิ่งหัวแอบคิดว่า “ฮ่องเต้ยังคงเป็นพวกที่ไม่ยอมเสียเปรียบ ถึงกับเอารางวัลของนางมาใช้เดิมพันหมาก หากนางชนะหมากควรนับเป็นรางวัลพิเศษไม่ใช่หรือ!”“เพคะ” นางตอบอย่างว่าง่ายเพราะในท้องของเจียงเฟิ่งหัวมีเด็กอยู่ เพื่อดูแลเด็กในท้องของนาง จึงให้หัวหน้าขันทีเฉายกโต๊ะที่สูงขึ้นเล็กน้อยเข้ามาตัวหนึ่งมาใช้แก้ขัด และยังเตรียม

  • ย้อนชะตาวิวาห์รัก ชาตินี้ข้าขอเป็นฮองเฮา   บทที่ 368

    คนทั้งสองเท้าสะเอวหัวเราะขึ้นมา “คนที่คิดจะช่วยคุณหนูหลินของเราไถ่ตัวมีเต็มไปหมด ท่านต่อแถวไม่ทันหรอก อีกอย่าง ท่านก็ไม่มีคุณสมบัตินั้นด้วย อย่าได้เพ้อฝันอีกเลย” คุณหนูหลินไม่ขาดแคลนเงินทอง ทั่วทั้งหออี๋ชุนล้วนอยู่ใต้การตัดสินใจของนาง ไม่จำเป็นต้องไถ่ตัวเพราะนางไม่มีสัญญาขายตัว“ข้าจะต้องแต่งนางเป็นภรรยาให้ได้ พวกเจ้ารอก่อนเถอะ” กัวเซี่ยวตัดสินใจเด็ดขาดแล้วว่าจะแต่งกับหลินอวี่ให้ได้ในบรรดาเหล่าคุณชายตระกูลใหญ่ กัวเซี่ยวก็พอมีชื่อเสียงอยู่บ้าง เขาหน้าตาไม่เลว ชาติตระกูลก็ไม่เลว เขาจึงคิดว่าหลินอวี่ไม่มีทางปฏิเสธแน่ได้ยินเขาพูดเช่นนั้น จื่อฮุ่ยจึงเอ่ยบ้างว่า “หากคิดจะแต่งกับคุณหนูของข้า นอกเสียจากว่าท่านจะเป็นจอหงวน นั่นอาจพอมีโอกาสบ้าง ไม่เช่นนั้นก็อย่าได้เสียเวลาอีกเลย”กัวเซี่ยวตะลึงงันไปแล้ว ที่เขาไม่ชอบที่สุดก็คือการอ่านตำรานี่แหละเห็นเขายังคงไม่ยอมจากไปอีก พวกนางก็ไม่อยากเปลืองน้ำลายกับเขาแล้ว จึงตีกัวเซี่ยวจนสลบแล้วโยนเขาออกไปนอกหออี๋ชุนเสียเลย “ช่างน่ารำคาญเหลือเกิน คนที่อยากแต่งงานกับคุณหนูของข้าตอนนี้ต่อแถวไปถึงนอกประตูเมืองนู่นแล้ว ค่อยๆ ไปต่อแถวเถอะ” พวกนางย่อมไม่เห็น

無料で面白い小説を探して読んでみましょう
GoodNovel アプリで人気小説に無料で!お好きな本をダウンロードして、いつでもどこでも読みましょう!
アプリで無料で本を読む
コードをスキャンしてアプリで読む
DMCA.com Protection Status