Share

บทที่ 10

มือนุ่มกดเข้ากับหลังมือของเขา จากนั้นก็ดึงฝ่ามือของเขามาประคองนวลแก้มของตน

ซูชิงอู่เลิกคิ้วนิด ๆ พลางกล่าวว่า "หากท่านอยากจะสัมผัสก็เชิญเถิด ตอนนี้ข้าเป็นของท่านแล้วนี่เจ้าคะ"

เย่เสวียนถิงพลันหูแดงก่ำ

คล้ายว่าเขาจะได้ยินเสียงหัวใจของตนเต้นไม่ได้หยุดเลย

อารมณ์ความรู้สึกนับไม่ถ้วนปริ่มล้นที่สะกดกลั้นเอาไว้ในใจดูเหมือนจะไม่อาจหาทางออกได้ เย่เสวียนถิงจึงได้แต่ยืนทื่ออยู่ตรงนั้น

ถึงแม้ซูชิงอู่หาได้ล่วงรู้ถึงสิ่งที่เย่เสวียนถิงกำลังครุ่นคิดอยู่ ทว่ายามนี้นางกลับมีความสุขยิ่งนัก

ขอเพียงนางได้เห็นบุรุษผู้นี้อยู่ตรงหน้า นางก็รู้สึกสบายใจเป็นที่สุดแล้ว อารมณ์ร้อนรนกระวนกระวายใจทั้งมวลของนางที่สุดก็มลายสิ้น

ราวกับว่าบรรยากาศระหว่างคนทั้งคู่ยากที่คนนอกจะเข้ามาแทรกกลางได้

ทว่าในยามนี้เอง ก็มีเสียงฝีเท้าดังรบกวนบรรยากาศในห้องโถง

จากนั้นเสียงขององค์ชายสาม เย่อวิ๋นถูก็ดังขึ้นมาจากนอกประตู "ชิงอู่!"

ท่าทียามเขาร้องเรียกซูชิงอู่ช่างแลดูคลุมเครือนัก

ซูชิงอู่ที่อยู่ในโถงหลักหันหน้าไปมองโดยไม่รู้ตัว

นางเห็นซูเชียนหลิงตามรั้งท้ายกลับมาพร้อมองค์ชายสามเย่อวิ๋นถู ก่อนที่เขาจะเดินมาหานาง

เมื่อเห็นศัตรูตั้งแต่ชาติปางก่อนทั้งสองคน ซูชิงอู่ก็เครียดเกร็งไปทั้งตัวและอดไม่ได้ที่จะกระชับข้อนิ้วมือของเย่เสวียนถิงเอาไว้แน่น

แต่ไม่นาน อารมณ์ของนางก็สงบนิ่ง

นางใช้ปลายนิ้วเกาฝ่ามือของเย่เสวียนถิงเบา ๆ พลางกระซิบบอกเขาว่า "มาไล่แขกไม่ได้รับเชิญออกไปกันก่อนเถิด หลังจากพวกเรากลับถึงจวนจะได้แสดงความรักต่อกันให้เต็มที่ ดีหรือไม่เจ้าคะ?"

สิ่งที่นางกล่าวช่างชวนให้คนหน้าแดงใจเต้นแรงทีเดียว ส่วนใหญ่แล้ว หากไม่ได้นับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเมื่อคืนนี้ เย่เสวียนถิงก็แทบจะไม่ได้ใกล้ชิดกับสตรีนางใดเลย จึงทำให้เขาควบคุมตัวเองไม่ได้ไปชั่วขณะ

นางหันกลับมามองเย่อวิ๋นถูที่อยู่ตรงประตูด้วยท่าทีสงบนิ่ง

เขาสวมชุดธรรมดาสามัญสีน้ำเงินพร้อมใบหน้าราวกับหยกสลัก ที่กอปรด้วยโครงหน้าอันเด่นชัด โดยเฉพาะดวงตายามที่มองผู้คนซึ่งมักจะทำให้ความรู้สึกรักใคร่ลึกซึ้ง

ดวงตาดอกท้อคู่นั้น

เมื่อชาติก่อนนางก็ถูกดวงตาคู่นี้หลอกลวงและต้องจบลงด้วยการโดนทารุณกรรม นางนึกไม่ถึงเลยว่าความสัมพันธ์ยาวนานหลายปีถึงเพียงนั้น เมื่ออยู่ในสายตาโหดเหี้ยมของเขาแล้วกลับไม่ควรค่าที่จะเอ่ยถึง...

เย่เสวียนถิงสีหน้าหม่นคล้ำอยู่บ้าง

เนตรหงส์คู่หนึ่งมองแขกผู้มาเยือนด้วยสายตาไม่เป็นมิตร จากนั้นเขาก็ออกแรงกุมนิ้วมือของซูชิงอู่เอาไว้แน่น

อารมณ์เบิกบานใจที่มีมาแต่เดิม พลันดิ่งลงทันทีที่เย่อวิ๋นถูปรากฎตัว

เนื่องจากเย่เสวียนถิงรู้ว่าผู้ที่ซูชิงอู่ชอบพอคือเย่อวิ๋นถูผู้นี้...

เมื่อนางเห็นอีกฝ่าย นางย่อมต้องรู้สึก… อารมณ์อิจฉาและไม่ยินยอมจำพวกหนึ่งผุดขึ้นในจิตใจของเขา จากนั้นดวงตาของเย่เสวียนถิงก็เปลี่ยนเป็นแดงก่ำอยู่บ้าง

เย่อวิ๋นถูเดินเข้ามาหาแล้วขมวดคิ้วนิด ๆ

เขาไม่ได้ชายตามองเย่เสวียนถิงเสียด้วยซ้ำไปก็เอ่ยถามขึ้นมาทันทีว่า "ชิงอู่ เมื่อสักครู่นี้เชียนหลิงมาหาข้าแล้วเล่าเรื่องที่เจ้าทำกับเสวี่ยอิ๋งให้ฟังแล้ว เรื่อองนี้ร้ายแรงนัก ถือว่าเห็นแก่ข้าเจ้าช่วยละเว้นนาง อย่าได้ถือโทษยายเด็กเสวี่ยอิ๋งได้หรือไม่? "

น้ำเสียงของเย่อวิ๋นถูฟังดูสุภาพอ่อนโยน ทั้งยังแฝงแววเกลี้ยกล่อมอยู่ในนั้น

มิหนำซ้ำเมื่ออยู่ต่อหน้านาง ท่าทางยามที่มองมาก็ดูเหมือนกับใส่ความจริงใจเข้ามาด้วย

เมื่อเห็นหน้ากากลวงของบุรุษตรงหน้า ซูชิงอู่ก็พลันหัวเราะขึ้นมาทันที

เพราะเสียงหัวเราะของนาง ทำให้เย่อวิ๋นถูสะดุ้งตกใจไม่น้อย

ซูชิงอู่ค่อย ๆ เอ่ยปากพูด ทว่าวาจากลับเต็มเปี่ยมไปด้วยแรงอารมณ์

"องค์ชายสามเพคะ ยามนี้หม่อมฉันออกเรือนแล้ว โปรดอย่าเรียกชื่อหม่อมฉันตามใจชอบอีก เช่นนี้จะเป็นการไม่เคารพสามีของหม่อมฉันได้ ยิ่งไปกว่านั้น... ตามจรรยามารยาทของราชวงศ์นี้แล้ว ยามที่ท่านพบข้ากับท่านอ๋อง ท่านควรจะเรียกว่าพวกเราว่าเสด็จพี่กับพี่สะใภ้นะเพคะ"

"พี่สะใภ้?"

สีหน้าของเย่อวิ๋นถูฉายแววไม่อยากจะเชื่ออย่างเห็นได้ชัด

ซูชิงอู่หาได้ใส่ใจเรื่องนั้นไม่ พลางเผยรอยยิ้มสุภาพตามมารยาทที่พึงมี "เพคะ พระองค์ควรจะเรียกหม่อมฉันเช่นนั้น"

Related chapters

Latest chapter

DMCA.com Protection Status