หัวหน้าแม่บ้านมองไปที่เหวินหนิงอย่างเป็นกังวล ไม่กี่วันที่ผ่านมานี้เรื่องที่เกิดขึ้นกลายเป็นหัวข้อร้อนแรงที่ทุกคนต่างก็ค้นหา และมันก็เต็มไปด้วยข้อวิพากษ์วิจารณ์การกระทำของเหวินหนิงรวมถึงตระกูลเจียงทั้งหมดด้วยเหตุผลนั้นทุกคนในที่นี่จึงระแวดระวังมากขึ้นแต่พวกเขาไม่ทันคาดคิดว่าความรุนแรงออนไลน์นั้นจะบ้าบิ่นขนาดที่ส่งอะไรแบบนี้มาที่นี่ เห็นได้ชัดว่ามีคนจงใจปล่อยข้อมูลส่วนตัวของเหวินหนิง"คุณนายเล็ก เราจะทำอย่างไรดี?" หัวหน้าแม่บ้านและสาวใช้ต่างเป็นกังวลเมื่อเห็นว่าเหวินหนิงยังนิ่งเงียบเหวินหนิงวางชามเล็กบนมือเธอลง หยิบผ้าเช็ดปากเพื่อเช็ดคราบอาหารจากมุมปากอย่างสง่างามการเคลื่อนไหวของเธอผสมผสานกับรูปร่างของเธออย่างลงตัวแสดงให้เห็นความสง่างามและสวยงามที่สมบูรณ์แบบไม่น่าเชื่อว่าในเวลานี้เธอจะยังคงสงบนิ่ง ดูสง่างามและรู้ว่าต้องทำอะไรเหมือนเดิมทว่าท่าทางเยือกเย็นดังกล่าวนั้นกลับทำให้คนอื่นรู้สึกเย็นยะเยือก"ก็แจ้งตำรวจสิ""แจ้งตำรวจเหรอคะ?""หรือมีทางอื่นหรือไง?"แววตาของเหวินหนิงคมกริบ น้ำเสียงของเธอไร้ซึ่งความอ่อนโยนหัวหน้าแม่บ้านถามด้วยความสงสัย "แต่คนที่ทำเรื่องพวกนี้คือพว
ฝนตกเสียงดังเปาะแปะระดับน้ำในลำห้วยเล็กข้างวิลล่าเพิ่มขึ้น เหวินหนิงนั่งในห้องเปียโน เสียงเปียโนประสานไปกับเสียงน้ำไหลอย่างรืนหูท่าทางที่เธอนั่งหลังเปียโนรวมกับผมซาตินยาวของเธอนั้นขับให้เธอสวยงามยิ่งขึ้น เจียงชูหานยืนนอกประตูจ้องมองไปยังเธอเสียงเปียโนหยุดชะงักงัน!เหวินหนิงเห็นเขาจึงถามด้วยน้ำเสียงอ่อนโยน "นายกลับมาตั้งแต่เมื่อไหร่?""สิบนาทีที่แล้ว" เขาก้าวเข้ามาโดยยังไม่ได้เปลี่ยนรองเท้าและสวมชุดเดิมตั้งแต่หลายวันก่อน!เห็นได้ชัดว่าเขาอยู่ข้างๆ มู่อินมาตลอดหลายวันดวงตาคมลึกดูอ่อนแรงเล็กน้อยขณะนี้แม้เขาจะเข้ามายืนขนาบเหวินหนิง ดวงตาของเหวินหนิงก็ไม่หวั่นไหวและถามอย่างใจเย็น "นายเห็นของที่อยู่ในห้องโถงข้างล่างไหม?""ทำไมไม่ให้ใครมาจัดการล่ะ""ไม่อยากรู้เหรอว่าใครส่งพวกมันมา?" เหวินหนิงไม่ได้ตอบคำถามของเจียงชูหานแต่กลับโต้ด้วยคำถามแทน!ความเย็นยะเยือกฉายวาบในดวงตาของชายผู้นั้นเขาไม่เคยรู้ว่าจะมีคนทำอะไรแบบนี้ในช่วงไม่กี่วันที่ผ่านมาเมื่อเขาไม่อยู่ ไม่ต้องพูดถึงเรื่องบนอินเทอร์เน็ตกล้าดียังไงที่ส่งของมาคุกคามถึงที่นี่โดยตรง!เหวินหนิงช่างขี้ขลาดตอนที่เรื่องมันเริ่ม
ก่อนที่เจียงชูหานจะระเบิดอารมณ์ลง เสียงเคาะประตูดังขึ้น หัวหน้าแม่บ้านออกมาเรียก "นายน้อย คุณลั่วซูมาแล้วค่ะ""ให้เขารอในห้องอ่านหนังสือ"เมื่อเหวินหนิงได้ยินว่าลั่วซูมา สีหน้าของเธอก็เย็นยะเยือกขึ้นลั่วซูเป็นเพื่อนสนิทของเจียงชูหาน เขามีสำนักงานนักสืบลับภายใต้ชื่อของเขา ตราบใดที่จ่ายเงินก็ไม่มีอะไรที่เขาไม่สามารถขุดได้คุณหญิงมีอันจะกินหลายคนไปหาเขาเพื่อหาหลักฐานการนอกใจของสามีตัวเองทว่าเธอ... รู้ดีว่าลั่วซูจะนำอะไรมาให้เจียงชูหานวันนี้และมันเป็นข้อมูลที่จะทำให้เจียงชูหานหมดสิ้นความรู้สึกที่มีต่อเธอเจียงชูหานมองดูเธอแล้วเน้นคำพูดทีละคำ "ถ้ากล้าพูดเรื่องหย่าอีก ฉันจะไม่เอาเธอไว้แน่!"เขาทิ้งคำพูดเหล่านี้ไว้แล้วหันหลังเดินออกไปเหวินหนิงมองไปที่แผ่นหลังของเขาและหลับตาลงในที่สุด แต่ขณะที่เขากำลังจะก้าวขาออกจากประตู เหวินหนิงก็อดไม่ได้ที่จะพูดว่า "เดี๋ยว""มีอะไรจะพูดอีก""ระหว่างเรา นายเชื่อใจฉันมากน้อยแค่ไหน?" ในความเห็นของเหวินหนิงเองแล้ว นี่ช่างเป็นคำถามที่งี่เง่าเสียเหลือเกินแต่ในตอนนี้ เธอก็ยังอยากจะถามมันแม้มันจะต้องเกิดอีกครั้งหนึ่ง เธอ... ก็ยังกลัวอยู่ดี! แม้ว่าจ
ขอบกระดาษเฉือนผิวแก้มของเหวินหนิง บาดแผลบางๆ ปรากฎบนใบหน้าสวยงามของเธอเหวินหนิงหลับตาทนต่อความเจ็บปวด เห็นดังนั้นเจียงชูหานชะงักและเดินออกไปข้างหน้าโดยไม่รู้ตัวเพียงชั่วอึดใจเดียว แววตาของเขาก็กลับมาเย็นชา เขาหยุดเดินไปาเธอเพียงแค่มองด้วยสายตาที่เต็มไปด้วยความผิดหวัง"เธอทำให้ฉันผิดหวังจริงๆ"เหวินหนิงลืมตาเห็นสายตาที่ผิดหวังของเขา เธอยิ้มรอยยิ้มนั้นรวมกับสายฝนนอกหน้าต่างดูหนักแน่นมากกว่าความผิดหวังของเขา เธอเพียงยิ้มอย่างเงียบเฉย รอยยิ้มนั้นเองทำให้หัวใจของเจียงชูหานเจ็บปวดเหลือเกิน"ทำไม?" เขาถามทว่าเขากลับไม่รู้ว่าคำถามนี้ก็ทำให้เหวินหนิงผิดหวังในตัวเขาเป็นอย่างมากเหมือนกันเธอหันออกไปมองนอกหน้าต่างมองดูเสียงฝนที่ตกกระทบลงมาที่ใบตองและเสียงลำธารนอกหน้าต่าง ทุกอย่างนี้เคยเป็นสิ่งที่เธอชื่นชอบเธอเคยคิดมาตลอดว่าที่นี่จะเป็นที่พักสุดท้ายของเธอทว่าเธอกลับคิดผิด เพียงแค่ครู่เดียวที่เธอเชื่อใจในตัวเขา แต่ครึ่งชั่วโมงต่อมาเธอกลับตั้งคำถามกับท่าทีของเขาอีกแล้ว"นายถามฉันว่าทำไม? มันหมายความว่าอะไร?""เหวินหนิง!" ชายคนนั้นกระชากเสียงหลงมองที่แผ่นหลังของเธอ เธอยังเหมือน
เหวินหนิงถูกตบจนหน้าหันไปอีกข้าง!เลือดกบอยู่ที่มุมปากจนเธอดูกระเซอะกระเซิงน่าสงสารทว่าสายตาแข็งกร้าวของเธอที่มองกลับไปที่เฉินหรานนั้นทำให้คนที่ถูกมองรู้สึกเสียวไปจนถึงสันหลังและถอยกลับมาตั้งหลักเฉินหรานตะลึงไปชั่วครู่ก่อนจะทำตัวปกติ"นี่เธอยังกล้ามองฉันแบบนี้อยู่อีกเหรอ ดูซิว่าสารรูปเธอตอนนี้เป็นอย่างไร? เธอสร้างหายนะอะไรบ้างให้กับตระกูลเจียงบ้างรู้ไหม?"เหวินหนิงนิ่งเงียบ "........""แล้วนี่ยังกล้าฟ้องหย่าอีกเหรอ? เธอมีหน้าอะไรที่จะมาฟ้องหย่าได้? ครอบครัวเจียงของเราต่างหากที่ไม่เอาเธอ" เฉินหรานตัวสั่นด้วยความโกรธทั้งวาจาและสายตาของเธอช่างดูถูกเหยียดหยามเหวินหนิงเหลือเกินเจียงชูซีก้าวขึ้นมารวมหัวกับเฉินหราน "แม่ อย่าโมโหมากนะมันไม่ดีต่อร่างกาย""บอกมาว่าอยากได้เท่าไหร่?" เฉินหรานโมโหจนคุมอากัปรกิริยาไม่ไหวเธอจ้องมองเหวินหนิงอย่างดุเดือด"......"เท่าไหร่งั้นเหรอ?ในที่สุดก็มาถึงจุดนี้จนได้ จุดที่เฉินหรานใช้เงินฟาดหัวเพื่อไล่เธอออกไปเหวินหนิงมองไปยังเฉินหราน "คุณคิดว่าเงินเท่าไหร่ถึงจะพอสำหรับการชดเชยทรัพย์สินร่วมระหว่างฉันกับลูกชายคุณตลอดสามปีล่ะ?""เธอพูดบ้าอะไร?
ตอนแรกเหวินหนิงคิดว่าเจียงชูหานจะไม่กลับมาในอีกหลายวันข้างหน้า เธอไม่คาดคิดว่าเขาจะกลับมาตั้งแต่สิบโมงเช้าพร้อมกับกลิ่นแอลกอฮอล์ฟุ้งทั่วร่างหลังจากที่เธอเช็ดผมออกจากห้องน้ำแล้ว เธอยังเห็นว่าเจียงชูหานยังใส่เสื้อตัวเดิมที่ใส่ออกไปข้างนอก คิ้วคมฉายแววเย็นชาเหวินหนิงในชุดนอนที่เธอสวมเผยให้เห็นน่องเรียวแน่น เธอหันหลังเดินออกไปโดยไม่หันกลับมามองเขาเห็นได้ชัดว่าเธอกำลังจะไปอีกห้องหนึ่งเพราะพบว่าการนอนห้องเดียวกันกับเขาตอนนี้ทำให้เธอรู้สึกเหมือนหายใจไม่ออก"หยุดอยู่ตรงนั้นเลยนะ!" เพียงก้าวแค่สองก้าว เธอก็ได้ยินเสียงเข้มของชายคนนั้นดังมาจากข้างหลังลมหายใจของเขาราวกับอยากจะฉีกร่างเธอเป็นชิ้นๆในชีวิตก่อนเมื่อเธอได้ยินน้ำเสียงเช่นนี้ เธอจะรู้สึกใจสลาย ทว่าตอนนี้เหวินหนิงกลับรู้สึกเรียบเฉย!เธอดูไม่รู้สึกรู้สาแม้กระทั่งเรื่องของเขากับมู่อินจนเขารู้สึกเดือดดาลแน่นอนว่าเธอก็มีอารมณ์เหมือนกันโดยเฉพาะอย่างยิ่งเรื่องการยืนกรานที่จะหย่าร้างอดีตที่ผ่านมา เมื่อไหร่ก็ตามที่เธอสร้างเรื่อง หากเจียงชูหานโกรธขึ้นเมื่อไหร่เธอก็จะหยุดทันที แต่ตอนนี้เธอกลับไม่ทำแบบนั้น!"ยังมีอะไรอีก?" เธอไม่ได
มือของเหวินหนิงที่ถือช้อนอยู่สั่น เธอมองไปที่เจียงชูหานและคิดว่ามันตลกอยู่หน่อยๆก่อนที่เธอจะได้พูดอะไร เจียงชูหานกล่าวต่อ "ถอนการฟ้องหย่าเดี๋ยวนี้ ถ้าเรามีลูกกันเมื่อไหร่ ทุกสิ่งทุกอย่างในตระกูลเจียงจะเป็นมรดกภายใต้ชื่อของเขาทั้งหมด"ปรากฎว่าเป็นเพราะเขารู้สึกแย่มากตั้งแต่เช้าหลังจากที่ได้รับข่าวว่าเธอยังไม่ถอนคำฟ้องการหย่าร้าง!?แถมยังยกเงื่อนไขที่ดึงดูดขนาดนี้มาด้วย? เพื่อที่เธอจะได้ไม่ต้องไปกังวลเรื่องผู้หญิงอื่น?ท้ายที่สุดแล้วพวกเขาก็ลงเอยเหมือนคู่แต่งงานในบ้านตระกูลผู้ดีมีอันจะกินที่ผูกพันกันกับเพียงแค่เรื่องเงิน ครั้งหนึ่งเหวินหนิงเคยมองว่ามันตลกทว่าเธอกับเจียงชูหานก็หนีมันไม่พ้น...เธอหยิบนมตรงหน้ามาจิบแล้วมองชายที่อยู่ตรงข้ามซึ่งตอนนี้มีใบหน้าเหลืองเล็กน้อย ไม่ว่าเขาจะหล่อเหลาขนาดไหนก็ตาม แอลอฮอล์ก็สามารถทำร้ายใบหน้านั้นได้"ข้อตกลงประนีประนอมของคุณตลกดีนะ!"ทั้งสองมองหน้ากันอย่างตึงตั้งแต่เช้าเจียงชูหานมองไปยังแววตาเหยียดหยามของเหวินหนิง พูดด้วยน้ำเสียงไม่เพราะหู "เธอได้ดูหลักฐานทั้งหมดนั่นหรือยัง?"แทนที่จะโต้ตอบคำพูดของเหวินหนิง เขากลับถามถึงเรื่องที่ลั่วซูสืบ
ขณะนี้ กระแสสังคมในชิงเฉิงพุ่งมาทางที่เหวินหนิงเริ่มหนักข้อขึ้นเรื่อยๆเหวินหนิงผู้เคยประสบกับมันมาแล้วครั้งหนึ่งรู้ดีว่าอะไรกำลังรอเธออยู่ในไม่ช้าเพราะมันทับซ้อนกับทุกอย่างในชีวิตที่แล้วตราบใดที่เธอกับเจียงชูหานไม่หย่ากันสักทีผู้คนเหล่านั้นก็จะไม่เลิกรา ทางเดียวที่เธอจะทำได้ในตอนนี้ก็คือหนีไป......เธอตั้งข้อสงสัยว่าขาและตาของมู่อินนั้นไม่มีปัญหา คนพวกนั้นปรารถนาอย่างแรงกล้าที่จะทำให้เธอคลั่งและเพียงคิดว่าเจียงชูหานจะสร้างเรื่องมาหย่ากับเธอพวกเขาคงไม่เคยคาดคิดว่าเธอจะจากไป เพราะเธอต้องพึ่งพาเจียงชูหานดังนั้นการออกจากชิงเฉิงชั่วคราวนั้นก็เป็นการตอบโต้คนพวกนั้นด้วย"งั้นจะให้ฉันไปส่งไหม?""ไม่เป็นไร เธอยุ่งกับเรื่องของเธอเถอะ แล้วก็.... " เหวินหนิงคิดอยู่ครู่หนึ่งแล้วพูดต่อ "หากเจียงชูหานจะข่มขู่คุณเรื่องคดีหย่าร้างนี้ เธอไม่ต้องฝืนตัวเองนะ ฉันมีวิธีอยู่""ฉันไม่กลัวเขาหรอก!"พูดจบ น้ำเสียงของซูไป๋จากปลายสายก็แข็งขึ้นเหวินหนิงนวดหน้าผากแล้วหลับตา "ฉันรู้ว่าเธอไม่กลัว แต่ฉันกลัว"หลังจากที่เจียงชูหานเข้ามารับช่วงต่อตระกูลเจียง เขาไม่ได้ทำตัวมีเหตุผลกับคนนอกมากนัก พูดอีกอย่