บนเครื่องบินส่วนตัวเหวินหนิงที่เจ็บปวดนอนอบู่บนโซฟารายล้อมไปด้วยแพทย์และพยาบาลสองชั่วโมงที่แล้ว เจียงชูหานที่เตรียมตัวมาอย่างดีไปปรากฎที่บริษัทของจิ่งเซียวหรานแถมยังจะต่อยจิ่งเซียวหรานอีกด้วยแต่หมัดนั้นกลับถูกเหวินหนิงรับเอาไว้ เจียงชูหานไม่ทันได้ยั้งมือ!จิ่งเซียวหรานโกรธมากจนราวกับอยากจะฆ่าเจียงชูหาน ทันใดนั้นคนของเจียงชูหานก็รีบเข้ามาจัดการทั้งหมด ก่อนจะบังคับพาเหวินหนิงตรงไปยังสนามบินหลังจากที่ขึ้นเครื่องจนกระทั่งตอนนี้ ไม่มีบทสนทนาระหว่างพวกเขาทั้งสองสักคำ เจียงชูหานนั่งบนโซฟาติดกับหน้าต่างพลางดื่มเหล้าแรงแก้วต่อแก้วบรรยากาศช่างเย็นยะเยือก"ตอนนี้คุณรู้สึกอย่างไรบ้าง" แพทย์ถามเหวินหนิงด้วยความระมัดระวัง เพราะเธอมีอาการกระดูกเคลื่อนจากหมัดของเจียงชูหาน ตอนนี้มันกลับเข้าที่แล้วแต่เหวินหนิงยังคงเจ็บปวดสาหัส ตอนนี้เธอยังไม่กล้าแม้จะขยับมือขวาเลยสิงยวี่เข้ามาหา!สีหน้าของเขาลำบากใจ เขาแอบกระซิบว่า "คุณนายเล็ก พวกเราตามหาคุณอยู่ตลอดเลยนะ!!"เหวินหนิงไม่ได้โต้ตอบและนั่งบนโซฟาอย่างเงียบๆเธอกับเจียงชูหานไม่มีอะไรที่จะพูดกันนัก หลังจากทนที่เจียงชูหานไม่ลงนามในใบหย่ามาหลา
เมื่อมาถึงคฤหาสน์หงเย่ป้าจางและหัวหน้าแม่บ้านต่างรออยู่ข้างนอก"คุณนายเล็ก คุณกลับมาสักที" ป้าจางก้าวเข้ามาหาและมองเหวินหนิงด้วยท่าทีกังวลหลังจากไม่ได้กลับมาหลายเดือน ที่นี่ช่างรู้สึกคุ้นเคยเหลือเกินเหวินหนิงอยู่ที่นี่มาหลายปีแล้วและป้าจางก็ใจดีกับเธอมาก แม้ตอนนี้เธอจะมีท่าทีเย็นชากับทุกคนรอบข้างเจียงชูหาน โดยเฉพาะอย่างยิ่งที่นี่ที่เต็มไปด้วยความน่ารังเกียจ!แต่เธอยิ้มจางๆ ให้ป้าจางเพียงเท่านั้นเจียงชูหานหันไปมองเห็นรอยยิ้มของเธอที่เขาไม่ได้เห็นมานาน ขณะนั้นแววตาของเขาก็เย็นยะเยือกมากขึ้น"เข้ามา!"เหวินหนิงเหลือบมองเขาแวบหนึ่งแล้วเดินเข้าไปโดยไม่ได้พูดอะไรความเงียบเช่นนี้ของเธอนั้นเพียงพอที่จะทำให้คนเป็นบ้าได้อย่างไม่ต้องสงสัยเจียงชูหานนั่งบนโซฟาและจุดบุหรี่ขึ้นมา กลิ่นควันและน้ำมันที่คุ้นเคยนั้นทำให้เหวินหนิงขมวดคิ้ว"ตอนนี้ไม่มีอะไรอยากจะพูดกับฉันสักคำเลยใช่ไหม?" เจียงชูหานเสียงกร้าวปกปิดความโกรธไม่อยู่ตั้งแต่พบเธอที่ไซมู่ เธอก็ยังไม่พูดอะไรกับเขาสักคำขณะนี้เหวินหนิงมองดูเขาเธอหายใจเข้าลึกๆ แล้วพูดว่า "ถ้าหากนายจะคุยเรื่องอะไร นายก็ไปคุยกับทนายของฉัน""เหวินห
เฉินหรานนั่งบนโซฟาตัวใหญ่ ขณะที่เหวินหนิงนั่งบนโซฟาเล็กข้างๆ เมื่อเทียบกันแล้วเฉินหรานยังคงดูเหมือนไทเฮาเหมือนเช่นเดิมเธอคิดว่าเธอยังสั่งเหวินหนิงได้เหมือนแต่ก่อน ทว่าตอนนี้เหวินหนิงกลับนั่งอยู่บนโซฟาออุ้มลูกหมูเช่นนี้ มันดูน่าหงุดหงิดมาก!"ป้าจาง เทน้ำชาให้หน่อย""ค่ะ คุณนายเล็ก" ป้าจางลังเลอยู่ครู่หนึ่ง เนื่องจากเรื่องพวกนี้มักจะเป็นสิ่งที่เหวินหนิงทำเมื่อก่อนมากไปกว่านั้น หากมีคนช่วยเหวินหนิงทำเช่นนี้ เฉินหรานจะอารมณ์เสียอย่างแน่นอนเวลาผ่านไป ทุกคนต่างเชื่อว่านี่คืองานของเหวินหนิง และไม่มีใครเริ่มที่จะทำงานพวกนี้อีกต่อไปทว่าตอนนี้มันต่างออกไปเหวินหนิงนั่งบนโซฟาและอุ้มหมูน้อยของเธออย่างสบายๆ ราวกับสุภาพสตรีผู้มั่งคั่งเฉินหรานเมื่อเห็นว่าเหวินหนิงทำท่าทีไม่ได้สนใจเธอต่อหน้าต่อตาเช่นนี้ เธอจึงโทรหาเจียงชูหานต่อหน้าหญิงสาว "ลูกกลับมาเดี๋ยวนี้เลย""แม่อยู่ที่หงเย่ใช่ไหม?""ใช่" ถ้าหากเขาไม่กลับมา เธอคงจะโกรธจนตายกันไปข้างปลายสายชะงักสักพัก ก่อนที่จะพูด "เดี๋ยวผมจะให้คนขับพาแม่กลับไปที่บ้านใหญ่!""เจียง ชูฮั่น!", "ดูดูดูดู!" เฉินหรานต้องการตะโกนอย่างอื่น แต่ผู้โทรวางสาย
"เรามาหย่ากันเถอะ..."ผ่านไปไม่นานหลังจากผ่านกิจกรรมบนเตียงที่หนักหน่วง น้ำเสียงพร่าเต็มไปด้วยสเน่ห์ของเธอกล่าวประโยคนี้ขึ้นมาขณะเดียวกันกับที่เธอกำลังขดตัวอยู่บนเตียงหรูหราที่ไร้ระเบียบเส้นผมเปียกชื้นยังคงเกาะติดอยู่บนใบหน้าเรียวเล็กอันงดงามของเธอ ทว่าตาทั้งสองของเธอกลับเต็มไปด้วยความว่างเปล่า ร่างกายของเธอแผ่มวลที่เต็มไปด้วยความเศร้าหมองเพียงได้ยินเสียงเขารูดซิปเสื้อผ้า ก็ทำให้เธอมวนท้องทุกครั้งเมื่อนึกถึงกลิ่นแอลกอฮอล์ทั่วร่างของเจียงชูหานและการกระทำเช่นนี้ทุกครั้งเมื่อเขากลับมาเธอรักผู้ชายคนนี้มาเป็นสิบปี ทว่าตอนนี้ทุกอย่างที่มีต่อเขาเต็มไปด้วยความว่างเปล่าไม่เหลืออะไรเลยมือของเจียง ชูหานที่สวมเสื้อผ้าหยุดลง เขามองไปยังแผ่นหลังของเธอด้วยสายตาที่เย็นชาราวขั้วโลก แววตาของเขาแฝงไปด้วยความมืดมิด"หย่างั้นเหรอ?""ใช่!" เหวินหนิงยืนยันอย่างหนักแน่นหลังจากพูดจบ เธอพยายามลุกขึ้นจากเตียงเพื่อที่จะคลำทางไปยังห้องน้ำจากความทรงจำของเธอเจียง ชูหานจ้องมองเธอด้วยสายตาเย็นชาครู่หนึ่ง ทว่าในที่สุดก็ทนไม่ไหวจนต้องปรี่เข้าไปหาเธอ"มา เดี๋ยวฉันช่วย" เขาพยายามเอื้อมมือไปเพื่อที่จะช่วยพย
ตึก ตึก ตึกเสียงรองเท้าส้นสูงที่คุ้นเคยดังขึ้นมาพร้อมกับกลิ่นน้ำหอมฉุนกึ้กนั่นแหล่ะคือมู่อินชู้รักของเจียงชูหาน ผู้หญิงคนเดียวกันกับที่นำกระจกตาของเธอไปเหวินหนิงขมวดคิ้วด้วยความรังเกียจ ทว่ายังไม่ทันได้ตะโกนตามคนอื่นมา ชู้รักของสามีพูดขึ้นมาก่อน"ไม่ต้องร้องตะโกนตามคนอื่นมาหรอก ฉันเอาพวกเขาออกไปหมดแล้ว" น้ำเสียงของเธอเต็มไปด้วยความภาคภูมิใจในชัยชนะอย่างมาก"เธอมาทำอะไรที่นี่อีก" น้ำเสียงของเหวินหนิงหยาบกระด้างเธอไม่เหลืออะไรสักอย่าง จะมีอะไรที่ผู้หญิงคนนี้ต้องการอีก?มู่อินดูไม่ยี่หระกับท่าทีของเธอเลยสักนิด เธอเพียงเม้มริมฝีปากแล้วแค่นยิ้ม ก่อนจะพูดอย่างรวดเร็ว "แน่นอนล่ะ ฉันมาที่นี่เพื่อจะบอกข่าวบางอย่างกับเธอ โอ้ แล้วก็ยังมีข่าวร้ายอีกด้วยสิ"เหวินหนิงนิ่งเงียบและครุ่นคิด "......""เธอท้องอยู่"ท้อง!?ได้ยินดังนั้น เหวินหนิงถึงกับหน้าซีดทันที!เห็นสีหน้าของเหวินหนิงแล้ว มู่อินยิ้มด้วยความพึงพอใจ "และแน่นอนว่าหานเองก็ไม่ได้ตั้งใจจะมีเด็กคนนั้น เพราะฉันก็กำลังท้องอยู่เหมือนกันไงล่ะ"มู่อินก็ท้องงั้นเหรอ?ม่านตาของเหวินหนิงแคบลงด้วยความขุ่นมัว คำพูดดังกล่าวพังทลายจิต
"กรี๊ด……"เหวินหนิงเบิกตาโพล่งและสะดุ้งออกจากเตียงด้วยความหวาดหวั่น เหงื่อเย็นไหลท่วมทั้งตัวของเธอราวกับร่างกายของเธอยังเจ็บปวดจากการถูกไฟร้อนแผดเผา!แขนแข็งแรงเหยียดพาดเอวเรียวยาวของเธอ กลิ่นกายที่คุ้นเคยเตะเข้าที่จมูกเธอขณะที่ชายคนนั้นค่อยๆ เกลี้ยกล่อมเธอ "เงียบหน่อย นอนต่อเถอะนะ"มือของเหวินหนิงสั่นเทาและหดกลับด้วยสัญชาติญาณเมื่อหันตัวไปอีกข้าง ภาพที่ปรากฏตรงหน้าก็คือกรอบหน้าหล่อเหลาคมคายของเจียงชูหาน เหวินหนิงสูดลมหายใจเข้าลึกด้วยความตกใจสมองของเธอเต็มไปด้วยความว่างเปล่าและงุนงงเธอมองเห็นงั้นเหรอ? เป็นไปได้อย่างไรกัน?เธอหลับตาลงสักพักและลืมตาขึ้นมาอีกครั้งทันทีแสงสว่างเจิดจ้าสาดส่องเข้ามา แสงอาทิตย์ส่องผ่านเข้ามายังดวงตาของเธอ ความอบอุ่นทำให้หัวใจของเธอฟูฟ่องโคมไฟเพดาน ผ้าม่าน ผ้าปูที่นอน.... ทุกอย่างช่างดูคุ้นเคยเหลือเกิน หรือว่า หรือว่าจะจริง? หรือจะเป็นอย่างนั้น?เธอปัดแขนชายคนนั้นออกจากตัวเธอแล้วรีบแตะโทรศัพท์ราวกับมันจะหายวับไปเหมือนผี เวลาบนหน้าจอแสดงให้เห็นว่านี่เป็นอีกไม่กี่เดือนก่อนที่เธอจะถูกเผาทั้งเป็นหรือว่า เธอเกิดใหม่งั้นเหรอ?หลังจากถูกรบกวนด้วยก
ข้อตกลงการหย่าร้างส่งมาอย่างรวดเร็วหลังจากได้รับแฟกซ์แล้ว เหวินหนิงก็ลงชื่อเธออย่างไม่ลังเล ก่อนที่จะลงไปหาเจียงชูหานข้างล่างพร้อมกับเอกสารในมือเธอทว่าข้างล่างกลับไม่มีใครสักคน คนรับใช้บอกกับเธอว่าเจียงชูหานเพิ่งเดินออกไปทางหลังบ้านเหวินหนิงใจเสีย วันนี้เธอต้องหย่ากับเจียงชูหานให้ได้ เธอไม่อยากจะรอนานมากไปกว่านี้อีกแล้วเธอแฟกซ์ข้อตกลงดังกล่าวไปยังบริษัท เมื่อเลขานุการปลายทางได้เห็นเอกสาร "ข้อตกลงหย่าร้าง" เธอก็ตะกุกตะกัก "คุณนายเล็ก นายน้อยยังไม่เข้าบริษัทเลยค่ะ"“ถ้าเขาไปถึงเมื่อไหร่ให้เขาเซ็นชื่อทันทีแล้วนำเอกสารข้อตกลงมาเจอฉันที่สำนักงานเขต”"ได้ค่ะ"แม้จะเป็นเพียงสัญญาณโทรศัพท์ เหวินหนิงก็รู้สึกได้ถึงเหงื่อเย็นไหลซึมทั่วร่างของเลขา หลังจากวางสายแล้วเธอก็กลับขึ้นไปบนบ้านเพื่อเปลี่ยนชุดเธอมองตัวเองในกระจก จริงๆ เธอก็สวยนะ แต่อย่างว่าผู้หญิง... มันไม่ใช่เพราะความสวยหรอก มันเพราะผู้ชายไม่ซื่อสัตย์ต่างหากไม่ว่าดอกไม้ที่บ้านจะสวยขนาดไหน ผู้ชายก็ยังสนดอกไม้ริมทางที่เต็มไปด้วยพิษได้อยู่ดี!....เธอกะเวลาขับรถไปที่สำนักงานเขตอย่างดี ทว่าเธอรออยู่ที่นั่นถึงสองชั่วโมงเต็มจนสำ
เหวินหนิงเจ็บปวดรุนแรง เธอยกมือขึ้นและตบหน้าชายผู้ทำร้ายเธอ พื้นที่บนรถที่มันก็คับแคบอยู่แล้วก็ดูจะทำให้สถานการณ์ทุกอย่างแย่ลงมือของเขาที่บีบกรามของเธออยู่ค่อยๆ ลดมาบีบคอเรียวเล็กของเธอ ลมหายใจของเขา...ทำให้เธอรู้สึกได้ถึงความอันตรายที่จะเกิดขึ้น "เธอทำตัวแปลกๆ มาทั้งวัน พูดให้ชัดทีว่ามันมีปัญหาอะไรกันแน่"ในที่สุดเจียงชูหานก็ตระหนักได้ว่าเหวินหนิงไม่ได้ล้อเล่นเธอเป็นคนสำรวมและมีเหตุผลมาตลอด หากเธอแค่โกรธ เธอคงไม่เอะอะโวยวายทำให้เรื่องใหญ่โตหลังจากที่เขาเมินที่เธอพูดตอนเช้าเหวินหนิงมองและจับข้อมือของชายหนุ่มก่อนจะพูดว่า "สำนักงานเขตกำลังจะปิดภายในยี่สิบนาทีนี้ เข้าไปจัดการเอกสารหย่าให้เรียบร้อยกันเถอะ""เหวินหนิง!" ชายคนนั้นหายใจติดขัดด้วยความโกรธอย่างรุนแรงเหวินหนิงดึงมือของเขาออกและผลักเขาออกไป ทว่าชายคนนั้นกลับยืนแข็งราวกับก้อนหิน เธอจ้องเขาด้วยความโมโหสุดท้ายแล้ว เจียงชูหานก็หมดความอดทนจนหมดสิ้นและตัดสินใจพาเธอกลับบ้านมีเรื่องวุ่นวายขนาดนี้ เขาคงจะกลับไปทำงานไม่ได้แล้วในวันนี้ระหว่างทางกลับบ้านนั้น คนขับรถดูจะขับรถด้วยความเร็วที่ไม่ค่อยมั่นคงนักด้วยรังสีอำมหิตที่แผ่