สามเดือนผ่านไปเจียงชูหานยังตามหาเหวินหนิงอย่างกระวนกระวายใจผู้คนรอบตัวเขาสั่นด้วยความกลัวทุกวี่ทุกวัน ที่สุดเช้าวันหนึ่ง สิงยวี่เห็นรูปถ่ายในสื่อต่างประเทศมันเป็นเพียงแค่ภาพด้านข้าง แต่เขาก็จำได้ทันทีว่านั่นคือเหวินหนิงเขาเข้าไปยังห้องทำงานของเจียงชูหานทันที เขาอึกๆ อักๆ และยื่นโทรศัพท์ของเขาให้เจียงชูหาน "นี่เป็นข่าวของคุณนายเล็ก"มือที่กำลังเซ็นเอกสารของชายผู้นั้นหยุดชะงัก ก่อนจะวางปากกาลงแล้วหยิบโทรศัพท์อย่างรวดเร็วเป็นเวลาสามเดือน...!สามเดือนที่เขาตามหาเหวินหนิงมา ไม่คาดคิดเลยว่าผู้หญิงคนนี้จะซ่อนตัวเก่งขนาดนี้ อย่างไรก็ตามเพียงมองข่าวแค่แวบเดียว แววตาของชายคนนั้นก็กลายเป็นสีแดงก่ำอีกครั้งขณะเดียวกัน โทรศัพท์ของเขาก็ดังขึ้นปัง! โทรศัพท์มือถือของสิงยวี่ถูกปาเข้าที่มุมห้องสิงยวี่เสียใจกับโทรศัพท์ที่เขาเพิ่งซื้อมา แต่ไม่กล้าจะพูดอะไรเจียงชูหานรับโทรศัพท์โดยไม่ดูเบอร์โทรเข้า พูดด้วยน้ำเสียงเย็นชา "มีอะไร?""ลูกกลับมาได้ไหมเดี๋ยวนี้" เสียงของเฉินหรานดังมาทางโทรศัพท์ น้ำเสียงไม่ค่อยดี ชัดเจนว่าเธอได้เห็นรายงานข่าวของสื่อต่างประเทศนี้แล้วเจียงชูหานหลับตา"ไม่มีเวล
เธอจริงจังเหมือนกับแม่ของเธอเลยเหวินหนิงเองก็ไม่ได้คิดว่าหลังออกจากชิงเฉิงมาแล้วจะได้เข้าทำงานเร็วขนาดนี้คลิก! เสียงไฟแช็กดังขึ้น เหวินหนิงขมวดคิ้วโดยไม่รู้ตัวเนื่องจากความคุ้นเคยกับเสียงแถมยังมีกลิ่นน้ำมันที่เธอไม่ชอบด้วยเธอมองไปยังชายที่กำลังจุดบุหรี่ "ลุงคะ หมอบอกแล้วให้ลุงสูบบุหรี่ให้น้อยลง""โอเค โอเค ฉันจะฟังเธอ" ชายคนนั้นยิ้มให้เธออย่างเอ็นดู และเขี่ยบุหรี่ที่ยังไม่ได้สูบลงในที่เขี่ยเหวินหนิงคลายคิ้วที่ขมวดลงและจัดการเอกสารต่อในสามเดือนที่ต่างประเทศนั้นราวกับเธอฝันอยู่ ชีวิตของเธอเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่....!เธอไม่คาดคิดว่าเธอจะยังมีลุง พี่ชายของแม่เธอ อยู่บนโลกใบนี้ ในปีที่พ่อแม่ของเธอจากไป ยายที่ได้เห็นลูกสาวตายด้วยตาตัวเองก็จากไปอย่างหมดอาลัยตายอยาก ทิ้งเธอไว้ตามลำพังโดยที่ไม่ได้บอกอะไรไว้เลย"คงจะดีไม่น้อยถ้าเหวยเหวยจะขยันขันแข็งเท่ากับเธอสักครึ่งหนึ่ง" ชายคนนั้นพูดพลางถอนหายใจจิ่งเหวยคือลูกสาวของจิ่งเซียวหรานและเป็นลูกพี่ลูกน้องเธอเช่นเดียวกัน เธอคนนี้นั้นทุ่มเทหมดใจให้กับการเรียนแพทย์โดยไม่สนใจจะทำธุรกิจทางบ้านต่อจิ่วเซียวหรานปวดหัวกับเรื่องนี้ ทว่าเห็นเหวิ
บนเครื่องบินส่วนตัวเหวินหนิงที่เจ็บปวดนอนอบู่บนโซฟารายล้อมไปด้วยแพทย์และพยาบาลสองชั่วโมงที่แล้ว เจียงชูหานที่เตรียมตัวมาอย่างดีไปปรากฎที่บริษัทของจิ่งเซียวหรานแถมยังจะต่อยจิ่งเซียวหรานอีกด้วยแต่หมัดนั้นกลับถูกเหวินหนิงรับเอาไว้ เจียงชูหานไม่ทันได้ยั้งมือ!จิ่งเซียวหรานโกรธมากจนราวกับอยากจะฆ่าเจียงชูหาน ทันใดนั้นคนของเจียงชูหานก็รีบเข้ามาจัดการทั้งหมด ก่อนจะบังคับพาเหวินหนิงตรงไปยังสนามบินหลังจากที่ขึ้นเครื่องจนกระทั่งตอนนี้ ไม่มีบทสนทนาระหว่างพวกเขาทั้งสองสักคำ เจียงชูหานนั่งบนโซฟาติดกับหน้าต่างพลางดื่มเหล้าแรงแก้วต่อแก้วบรรยากาศช่างเย็นยะเยือก"ตอนนี้คุณรู้สึกอย่างไรบ้าง" แพทย์ถามเหวินหนิงด้วยความระมัดระวัง เพราะเธอมีอาการกระดูกเคลื่อนจากหมัดของเจียงชูหาน ตอนนี้มันกลับเข้าที่แล้วแต่เหวินหนิงยังคงเจ็บปวดสาหัส ตอนนี้เธอยังไม่กล้าแม้จะขยับมือขวาเลยสิงยวี่เข้ามาหา!สีหน้าของเขาลำบากใจ เขาแอบกระซิบว่า "คุณนายเล็ก พวกเราตามหาคุณอยู่ตลอดเลยนะ!!"เหวินหนิงไม่ได้โต้ตอบและนั่งบนโซฟาอย่างเงียบๆเธอกับเจียงชูหานไม่มีอะไรที่จะพูดกันนัก หลังจากทนที่เจียงชูหานไม่ลงนามในใบหย่ามาหลา
เมื่อมาถึงคฤหาสน์หงเย่ป้าจางและหัวหน้าแม่บ้านต่างรออยู่ข้างนอก"คุณนายเล็ก คุณกลับมาสักที" ป้าจางก้าวเข้ามาหาและมองเหวินหนิงด้วยท่าทีกังวลหลังจากไม่ได้กลับมาหลายเดือน ที่นี่ช่างรู้สึกคุ้นเคยเหลือเกินเหวินหนิงอยู่ที่นี่มาหลายปีแล้วและป้าจางก็ใจดีกับเธอมาก แม้ตอนนี้เธอจะมีท่าทีเย็นชากับทุกคนรอบข้างเจียงชูหาน โดยเฉพาะอย่างยิ่งที่นี่ที่เต็มไปด้วยความน่ารังเกียจ!แต่เธอยิ้มจางๆ ให้ป้าจางเพียงเท่านั้นเจียงชูหานหันไปมองเห็นรอยยิ้มของเธอที่เขาไม่ได้เห็นมานาน ขณะนั้นแววตาของเขาก็เย็นยะเยือกมากขึ้น"เข้ามา!"เหวินหนิงเหลือบมองเขาแวบหนึ่งแล้วเดินเข้าไปโดยไม่ได้พูดอะไรความเงียบเช่นนี้ของเธอนั้นเพียงพอที่จะทำให้คนเป็นบ้าได้อย่างไม่ต้องสงสัยเจียงชูหานนั่งบนโซฟาและจุดบุหรี่ขึ้นมา กลิ่นควันและน้ำมันที่คุ้นเคยนั้นทำให้เหวินหนิงขมวดคิ้ว"ตอนนี้ไม่มีอะไรอยากจะพูดกับฉันสักคำเลยใช่ไหม?" เจียงชูหานเสียงกร้าวปกปิดความโกรธไม่อยู่ตั้งแต่พบเธอที่ไซมู่ เธอก็ยังไม่พูดอะไรกับเขาสักคำขณะนี้เหวินหนิงมองดูเขาเธอหายใจเข้าลึกๆ แล้วพูดว่า "ถ้าหากนายจะคุยเรื่องอะไร นายก็ไปคุยกับทนายของฉัน""เหวินห
เฉินหรานนั่งบนโซฟาตัวใหญ่ ขณะที่เหวินหนิงนั่งบนโซฟาเล็กข้างๆ เมื่อเทียบกันแล้วเฉินหรานยังคงดูเหมือนไทเฮาเหมือนเช่นเดิมเธอคิดว่าเธอยังสั่งเหวินหนิงได้เหมือนแต่ก่อน ทว่าตอนนี้เหวินหนิงกลับนั่งอยู่บนโซฟาออุ้มลูกหมูเช่นนี้ มันดูน่าหงุดหงิดมาก!"ป้าจาง เทน้ำชาให้หน่อย""ค่ะ คุณนายเล็ก" ป้าจางลังเลอยู่ครู่หนึ่ง เนื่องจากเรื่องพวกนี้มักจะเป็นสิ่งที่เหวินหนิงทำเมื่อก่อนมากไปกว่านั้น หากมีคนช่วยเหวินหนิงทำเช่นนี้ เฉินหรานจะอารมณ์เสียอย่างแน่นอนเวลาผ่านไป ทุกคนต่างเชื่อว่านี่คืองานของเหวินหนิง และไม่มีใครเริ่มที่จะทำงานพวกนี้อีกต่อไปทว่าตอนนี้มันต่างออกไปเหวินหนิงนั่งบนโซฟาและอุ้มหมูน้อยของเธออย่างสบายๆ ราวกับสุภาพสตรีผู้มั่งคั่งเฉินหรานเมื่อเห็นว่าเหวินหนิงทำท่าทีไม่ได้สนใจเธอต่อหน้าต่อตาเช่นนี้ เธอจึงโทรหาเจียงชูหานต่อหน้าหญิงสาว "ลูกกลับมาเดี๋ยวนี้เลย""แม่อยู่ที่หงเย่ใช่ไหม?""ใช่" ถ้าหากเขาไม่กลับมา เธอคงจะโกรธจนตายกันไปข้างปลายสายชะงักสักพัก ก่อนที่จะพูด "เดี๋ยวผมจะให้คนขับพาแม่กลับไปที่บ้านใหญ่!""เจียง ชูฮั่น!", "ดูดูดูดู!" เฉินหรานต้องการตะโกนอย่างอื่น แต่ผู้โทรวางสาย
"เรามาหย่ากันเถอะ..."ผ่านไปไม่นานหลังจากผ่านกิจกรรมบนเตียงที่หนักหน่วง น้ำเสียงพร่าเต็มไปด้วยสเน่ห์ของเธอกล่าวประโยคนี้ขึ้นมาขณะเดียวกันกับที่เธอกำลังขดตัวอยู่บนเตียงหรูหราที่ไร้ระเบียบเส้นผมเปียกชื้นยังคงเกาะติดอยู่บนใบหน้าเรียวเล็กอันงดงามของเธอ ทว่าตาทั้งสองของเธอกลับเต็มไปด้วยความว่างเปล่า ร่างกายของเธอแผ่มวลที่เต็มไปด้วยความเศร้าหมองเพียงได้ยินเสียงเขารูดซิปเสื้อผ้า ก็ทำให้เธอมวนท้องทุกครั้งเมื่อนึกถึงกลิ่นแอลกอฮอล์ทั่วร่างของเจียงชูหานและการกระทำเช่นนี้ทุกครั้งเมื่อเขากลับมาเธอรักผู้ชายคนนี้มาเป็นสิบปี ทว่าตอนนี้ทุกอย่างที่มีต่อเขาเต็มไปด้วยความว่างเปล่าไม่เหลืออะไรเลยมือของเจียง ชูหานที่สวมเสื้อผ้าหยุดลง เขามองไปยังแผ่นหลังของเธอด้วยสายตาที่เย็นชาราวขั้วโลก แววตาของเขาแฝงไปด้วยความมืดมิด"หย่างั้นเหรอ?""ใช่!" เหวินหนิงยืนยันอย่างหนักแน่นหลังจากพูดจบ เธอพยายามลุกขึ้นจากเตียงเพื่อที่จะคลำทางไปยังห้องน้ำจากความทรงจำของเธอเจียง ชูหานจ้องมองเธอด้วยสายตาเย็นชาครู่หนึ่ง ทว่าในที่สุดก็ทนไม่ไหวจนต้องปรี่เข้าไปหาเธอ"มา เดี๋ยวฉันช่วย" เขาพยายามเอื้อมมือไปเพื่อที่จะช่วยพย
ตึก ตึก ตึกเสียงรองเท้าส้นสูงที่คุ้นเคยดังขึ้นมาพร้อมกับกลิ่นน้ำหอมฉุนกึ้กนั่นแหล่ะคือมู่อินชู้รักของเจียงชูหาน ผู้หญิงคนเดียวกันกับที่นำกระจกตาของเธอไปเหวินหนิงขมวดคิ้วด้วยความรังเกียจ ทว่ายังไม่ทันได้ตะโกนตามคนอื่นมา ชู้รักของสามีพูดขึ้นมาก่อน"ไม่ต้องร้องตะโกนตามคนอื่นมาหรอก ฉันเอาพวกเขาออกไปหมดแล้ว" น้ำเสียงของเธอเต็มไปด้วยความภาคภูมิใจในชัยชนะอย่างมาก"เธอมาทำอะไรที่นี่อีก" น้ำเสียงของเหวินหนิงหยาบกระด้างเธอไม่เหลืออะไรสักอย่าง จะมีอะไรที่ผู้หญิงคนนี้ต้องการอีก?มู่อินดูไม่ยี่หระกับท่าทีของเธอเลยสักนิด เธอเพียงเม้มริมฝีปากแล้วแค่นยิ้ม ก่อนจะพูดอย่างรวดเร็ว "แน่นอนล่ะ ฉันมาที่นี่เพื่อจะบอกข่าวบางอย่างกับเธอ โอ้ แล้วก็ยังมีข่าวร้ายอีกด้วยสิ"เหวินหนิงนิ่งเงียบและครุ่นคิด "......""เธอท้องอยู่"ท้อง!?ได้ยินดังนั้น เหวินหนิงถึงกับหน้าซีดทันที!เห็นสีหน้าของเหวินหนิงแล้ว มู่อินยิ้มด้วยความพึงพอใจ "และแน่นอนว่าหานเองก็ไม่ได้ตั้งใจจะมีเด็กคนนั้น เพราะฉันก็กำลังท้องอยู่เหมือนกันไงล่ะ"มู่อินก็ท้องงั้นเหรอ?ม่านตาของเหวินหนิงแคบลงด้วยความขุ่นมัว คำพูดดังกล่าวพังทลายจิต
"กรี๊ด……"เหวินหนิงเบิกตาโพล่งและสะดุ้งออกจากเตียงด้วยความหวาดหวั่น เหงื่อเย็นไหลท่วมทั้งตัวของเธอราวกับร่างกายของเธอยังเจ็บปวดจากการถูกไฟร้อนแผดเผา!แขนแข็งแรงเหยียดพาดเอวเรียวยาวของเธอ กลิ่นกายที่คุ้นเคยเตะเข้าที่จมูกเธอขณะที่ชายคนนั้นค่อยๆ เกลี้ยกล่อมเธอ "เงียบหน่อย นอนต่อเถอะนะ"มือของเหวินหนิงสั่นเทาและหดกลับด้วยสัญชาติญาณเมื่อหันตัวไปอีกข้าง ภาพที่ปรากฏตรงหน้าก็คือกรอบหน้าหล่อเหลาคมคายของเจียงชูหาน เหวินหนิงสูดลมหายใจเข้าลึกด้วยความตกใจสมองของเธอเต็มไปด้วยความว่างเปล่าและงุนงงเธอมองเห็นงั้นเหรอ? เป็นไปได้อย่างไรกัน?เธอหลับตาลงสักพักและลืมตาขึ้นมาอีกครั้งทันทีแสงสว่างเจิดจ้าสาดส่องเข้ามา แสงอาทิตย์ส่องผ่านเข้ามายังดวงตาของเธอ ความอบอุ่นทำให้หัวใจของเธอฟูฟ่องโคมไฟเพดาน ผ้าม่าน ผ้าปูที่นอน.... ทุกอย่างช่างดูคุ้นเคยเหลือเกิน หรือว่า หรือว่าจะจริง? หรือจะเป็นอย่างนั้น?เธอปัดแขนชายคนนั้นออกจากตัวเธอแล้วรีบแตะโทรศัพท์ราวกับมันจะหายวับไปเหมือนผี เวลาบนหน้าจอแสดงให้เห็นว่านี่เป็นอีกไม่กี่เดือนก่อนที่เธอจะถูกเผาทั้งเป็นหรือว่า เธอเกิดใหม่งั้นเหรอ?หลังจากถูกรบกวนด้วยก