แชร์

ตอนที่ 10 ปรับเวลาได้ตามอิสระ

last update ปรับปรุงล่าสุด: 2024-12-12 20:45:02

และการที่เธอเลื่อนระดับในครั้งนี้ ทำให้เธอรู้ความลับ ของผลเวทสีรุ้งนี้ สิ่งนั้นก็คือ ถ้าเธอเพิ่มพลังเวทในร่างกายให้เป็นสามขั้น ของทุกเวท เธอจะสามารถขอพรอะไรก็ได้หนึ่งอย่าง เธอคิดออกแล้วว่าสิ่งที่จะขอนั้นคืออะไร แต่ตอนนี้ สิ่งที่ยากกว่า เธอจะทำอย่างไรให้พลังเวททั้งสี่เวทในร่างของเธอ เลื่อนระดับไปถึงสามระดับได้ทั้งหมดกัน

เธอนึกออกแล้ว เธอมีตัวช่วยนิ มิตินี่ไง คือตัวช่วยที่ดีที่สุดของเธอ ทรัพยากรต่างๆ ที่ใช้ในการเลื่อนพลัง ก็อยู่ในนี้ทั้งหมดแล้ว หลังจากที่ซูเมิ่งเพิ่งเลื่อนพลังไป เธอก็ไม่หยุดอยู่แค่นี้ เธอต้องทำให้เวทอีกสามเวทเป็นขั้นที่หนึ่งครบทุกเวทเสียก่อน เธอปรับเวลาในมิติ ให้เวลาข้างในเร็วกว่าข้างนอก ข้างในมิติผ่านไปหนึ่งเดือนข้างนอกจะผ่านไปหนึ่งวัน

หลังจากที่เธอมุ่งมั่นอยู่กับการเลื่อนระดับพลัง เวลาก็ผ่านไปหลายเดือนในมิติ แต่ด้านนอกผ่านไปแค่สิบกว่าวันเท่านั้น เธอก็สามารถเลื่อนพลังทั้งสี่เป็นขั้นที่หนึ่งได้สำเร็จ

ในที่สุดเราก็ทำสำเร็จแล้ว เราเลื่อนระดับหนึ่งทั้งสี่เวทได้สำเร็จแล้ว เธอดีใจเป็นอย่างมาก ตอนนี้ ทั้งพลังเวทดิน น้ำ พฤกษา และเวทไฟ เธอใช้อย่างชำนาญทั้งหมดแล้ว เธอทั้งฝึกพลังเวทไปด้วยปลูกผักและต้นไม้ผลไม้ในมิติไปด้วย

ตอนนี้ในมิติของเธอเริ่มจะเป็นป่าขึ้นทุกที พื้นที่ด้านข้างเธอใช้เวทอักขระวาดขึ้นมา เพื่อขวางกั้นกลิ่นของมูลสัตว์ที่เธอได้นำเอาเข้ามาเลี้ยงไว้เมื่อห้าวันก่อน โดยการขอเงินพ่อเธอไปซื้อ หมู ไก่ วัว และ แกะ เอาเข้ามาเลี้ยงในมิติ

เธอสร้างคอกให้หมูอย่างเดียว ส่วนสัตว์ชนิดอื่น เธอให้พวกมันหากินอิสระในทุ่งหญ้าด้านนอก เธอได้วาดเวทอักขระกันพื้นที่ระหว่างที่เลี้ยงสัตว์ และปลูกพืชผักต่างๆ แยกออกจากกัน แต่เธอก็ได้เอาอาหารและเศษผักที่เธอไม่ได้ใช้ นำมาให้สัตว์เลี้ยงของเธอได้กิน ตอนนี้พวกสัตว์ต่างๆ ก็เริ่มมีละอองเวทออกมาเกือบทุกตัวแล้ว แสดงว่าถ้าใครได้กิน ผักหรือผลไม้ที่มีพลังเวทเข้าไป ก็จะทำให้สิ่งนั้นมีเวทจางๆ ได้ ถ้าเรากินทุกอย่างที่มีพลังเวทอยู่ในตัว ก็สามารถเพิ่มพลังเวทได้อีกทาง

หลังจากที่เธอมุ่งมั่นกับการเพิ่มพลังเวท มาตลอดระยะเวลาหลายเดือนในมิตินี้ ทำให้เธอไม่ได้ตรวจสอบข่าวสารเลยก็ว่าได้ แต่เธอก็ได้ยินที่ครอบครัวคุยกันบ้างว่าตอนนี้ เริ่มมีคนป่วยที่มากขึ้น เพราะเหตุเกิดจากฝน ที่ตกหนักและ โรคที่มาจากน้ำที่ท่วมขัง ไม่มีเวลาให้น้ำถ่ายเทออกไป จึงเป็นต้นเหตุของการสะสมโรคต่างๆ

เธอเปิดดูข่าวสารทางอินเทอร์เน็ต ก็เป็นอย่างที่เธอได้ฟัง ทุกพื้นที่มีน้ำท่วม และเริ่มเกิดโรคที่มาจากน้ำ หรือยุงลายที่เยอะขึ้นในช่วงนี้ทำให้คนป่วย มีเพิ่มมากขึ้นในทุกที่ เธอเลิกสนใจข่าวสารแต่ตอนนี้เธออยากหาเงินในตอนที่หาได้ เธออยากได้เรือสักลำ มันเป็นสิ่งจำเป็นเลย เธอจะลองเอาหินเวทที่อยู่ในมิติไปลองขายดู

แต่เธอจะไปขายที่ไหนดี เธอลองเปิดค้นหาว่ามีร้านไหนที่รับซื้อหินหยกบ้าง เพราะหินเวทนี้เหมือนกับหินหยก ที่ถูกขัดเกลาออกแล้วให้เหลือแต่สีที่อยู่ภายใน เขาว่าหินหยกนี้ขายได้ราคาดีมาก หวังว่าจะไม่มีคนที่รู้จักหินเวทก็แล้วกันนะ

หลังจากที่เธอได้ร้านที่น่าเชื่อถือแล้ว เพราะเธออ่านรีวิวของร้าน มีความคิดเห็นไปในทางที่ดีมากกว่า เธอจดที่อยู่และที่ตั้งของร้าน ร้านนี้ชื่อร้าน หยกเฟยเจิน เป็นร้านใหญ่ ใจกลางเมืองหลวง ร้านนี้ล่ะ เธอเคยเห็นออกโทรทัศน์บ่อย ถึงว่าชื่อคุ้นๆ

เธอเข้าไปในมิติเพื่อเข้าไปเลือกหินที่สีเขียวที่ขนาดกลาง แต่เนื้อข้างในสวยมากต้องมีความใส่และละเอียด เธอจับหินอันไหน ทุกอันก็ดูไร้ที่ติอยู่แล้ว และเธอก็เอาหินสีแดง ที่เธอได้ดูดซับพลังเวทออกมาหมดแล้ว แต่หินก้อนนั้นก็ยังดูสวยและยังใสอยู่ แค่ไม่มีไอเวทเท่านั้น

เธอเอากระเป๋าเป้ไปด้วย แต่หินที่เตรียมไว้ก็ยังไม่ได้เอาออกมา รอเธอได้เข้าไปขายก่อนค่อยเอาออกมาก็ได้ เธอแต่งตัวใส่เสื้อแขนยาว กางเกงยีนส์ขายาว ใส่หน้ากากอนามัย ซึ่งตอนนี้ใครๆ ก็ใส่กันทั้งนั้น และพกแว่นตาไปด้วย เป็นแว่นตากันแดดใส่เพื่อปกปิดใบหน้า

ก่อนที่เธอจะไปขายหินหยกนั้น เธอได้แวะไปยังร้านที่ขายวิกผม เธอซื้อวิกผมสีม่วงไฮไลต์สีขาวของเส้นผม เป็นผมสั้น แต่ผมจริงๆ ของเธอนั้นเป็นสีดำและเงายาวสวย ยิ่งตอนเธอได้เลื่อนขั้นเป็นเวทขั้นหนึ่งทั้งหมด หน้าตา ผมหรือผิวพรรณของเธอยิ่งสวยมากขึ้นไปอีก สวยเกินไปด้วยซ้ำ ทำให้ตอนนี้ เธอต้องใช้วิธีการแต่งหน้าเพื่ออำพรางหน้าตาของตัวเองจากครอบครัวและคนอื่นๆ ไปแล้ว

เธอตรวจเช็กความเรียบร้อยของตัวเองอีกครั้ง แล้วเรียกรถโดยสาร เพื่อไปส่งตรงจุดหมายปลายทางที่เธอจะไป ถ้าได้ราคาที่ดี เธอก็จะขายแค่ครั้งเดียวเพราะมันเสี่ยงมาก

เธอมาถึงหน้าร้านหยกเฟยเจิน ร้านหยกนี้เป็นร้านที่ใหญ่มาก ด้านหน้าก่อนทางเข้า มีรูปหงส์ตัวใหญ่อยู่สองตัวตั้งอยู่ข้างหน้า พอเปิดประตูกระจกเข้าไป จะเป็นพื้นที่โล่งตรงกลางมีที่นั่งไว้ให้บริการลูกค้า ความรู้สึกแรกที่เธอเดินเข้ามาที่นี่คือ เธอรู้สึกกดดันแปลกๆ เป็นความรู้สึกที่อธิบายไม่ถูกว่ามันแปลกยังไง เป็นความรู้สึกที่คุ้นเคย

“สวัสดีครับไม่ทราบว่ามาติดต่อเรื่องอะไรครับ” เสียงพนักงานหน้าร้านเอ่ยทักเธอ

“ฉันจะเอาของมาขายค่ะ ที่นี่รับซื้อหยกหรือเปล่าคะ”

“ที่นี่รับซื้อหยกและ ของหายากทุกอย่างครับ”

เธอเดินไปทางคนขาย ที่ยืนอยู่หน้าเคาน์เตอร์วางสินค้าต่างๆ ที่เป็นวัตถุหายาก เธอสังเกตการแต่งตัวของพนักงานที่นี่ ไม่แปลกไปจากที่อื่นเท่าไหร่เป็นกางเกงขายาว เสื้อแขนยาวสีกรมตรงด้านหลังของเสื้อจะมีชื่อของร้านติดอยู่ ส่วนด้านหน้าจะมีป้ายชื่อของพนักงาน ดูสะอาดเรียบร้อยเป็นอย่างมาก

“ช่วยดูของสิ่งนี้ให้หน่อยได้ไหมค่ะ ว่าขายได้หรือเปล่า” เธอหยิบเอาหินหยกก้อนขนาดกลางเท่ามือผู้ชายสีแดง ที่ไม่มีพลังเวทเอาออกมาให้พนักงานได้ดู”

หลังจากที่พนักงานได้รับหินหยกที่เธอส่งให้ พนักงานใช้เครื่องตรวจสภาพหยก ส่องดูแล้วพบว่าหินก้อนนี้มีสภาพที่สมบูรณ์แบบมาก แต่เขาเป็นแค่พนักงานเท่านั้นไม่มีสิทธิ์ตัดสินใจกับการซื้อขายหินที่มีคุณภาพที่ดีเช่นนี้

“หินก้อนนี้มีคุณภาพที่ดีมากครับ แต่ผมไม่สามารถซื้อเองได้ ผมขออนุญาตเจ้าของร้านมาตรวจดูของชิ้นนี้อีกครั้งนะครับ เดี๋ยวลูกค้านั่งรอตรงโต๊ะรับแขกสักครู่ ผมจะรีบไปตามเจ้าของร้านมาครับ”

“ได้ค่ะ” หลังจากที่เธอได้มอบหินหยกสีแดงไปแล้ว และได้เดินมานั่งรอตรงโต๊ะรับแขก ที่เธอไม่ได้เอาหินสีเขียวที่มีพลังเวทไปให้พนักงานดูตั้งแต่แรก ก็เพราะว่ามันเสี่ยงเกินไป เพราะหินหยกเวทชิ้นนี้มีพลังเวทที่หนาแน่นมาก หลังจากที่เธอนั่งรออยู่สักพัก ก็มีผู้ชายที่ดูภูมิฐานในวัยกลางคน เดินนำพนักงานขายออกมา

“สวัสดีครับ ผมชื่อจางเฟยเจิน เป็นเจ้าของร้านหยกแห่งนี้ ไม่ทราบว่าคุณชื่ออะไรครับ”

“สวัสดีค่ะ ฉันชื่อหลีหงส์ค่ะ” เธอไม่กล้าบอกชื่อจริงออกไป เธอเลยตั้งชื่อใหม่ของตัวเอง

“หรือเรียกหงส์เฉยๆ ก็ได้นะคะ ไม่ทราบว่าหินหยกขายได้ไหมคะ”

“หยกของคุณหงส์คุณภาพดีมากครับ มันดีเกินกว่าที่ร้านเราเคยซื้อมาเสียอีก ถ้าคุณหงส์ไม่ว่าอะไร ผมขอเชิญคุณหงส์ไปนั่งคุยราคาที่ห้องด้านในได้ไหมคับ”

“ได้ค่ะ” หลังจากนั้นเธอก็เดินตามคุณจาง ไปนั่งคุยที่ห้องส่วนตัวเพื่อตกลงราคาสินค้า

“เชิญนั่งครับคุณหงส์ เข้าเรื่องกันเลยนะครับ ไม่ทราบว่าคุณหงส์มีราคาในใจแล้วหรือเปล่าครับ”

“ไม่มีราคาในใจเลยค่ะ ของชิ้นนี้เป็นของที่ตกทอดมาจากบรรพบุรุษ ได้ทิ้งไว้ให้ครอบครัวค่ะ”

“มีแค่ชิ้นเดียวใช่ไหมครับ”

“มีสองชิ้นค่ะ แต่ฉันไม่รู้ว่าจะขายได้หรือเปล่าเลยเอามาเผื่อไว้”

“ถ้าไม่ว่าอะไร ผมขอดูอีกชิ้นได้ไหมครับ” เขารู้สึกว่าลูกค้าคนนี้ไม่น่าจะมีหินหยกเพียงชิ้นเดียวแน่ และต้องเป็นของที่สำคัญ ถ้าไม่อย่างนั้น เธอคงไม่ต้องปิดบังตัวตนขนาดนี้ เจ้าของร้านดูเธอออกตั้งแต่แรกแล้วว่าเธอปลอมตัวเข้ามาในร้านแห่งนี้

“นี่ค่ะหินหยกอีกก้อน”

หลังจากที่เจ้าของร้านได้เห็นหินหยกอีกก้อน ที่เซียวซูเมิ่งได้นำออกมา เขาถึงกับตกใจเพราะมันคือหินเวทจริงๆ ใช่แล้วเจ้าของร้านก็เป็นผู้ฝึกเวทเหมือนกัน แต่หินเวทต่างๆ มันหายาก จะบอกว่าหายากก็ไม่ถูกสิ เพราะมันน่าจะไม่มีอีกแล้วในโลกใบนี้ เขาต้องดวงดีขนาดไหนถึงได้พบเจอกับที่สิ่งที่เขาเฝ้ารอมานาน เจ้านายที่แท้จริงของเขาต้องดีใจมากแน่ๆ เพราะสิ่งนี้จะช่วยต่อชีวิตให้เจ้านายของเขาได้

ซูเมิ่งเห็นว่าเจ้าของร้านตกใจกับหินที่เธอนำออกมา ก็รู้สึกกลัวขึ้นมา กลัวว่าจะมีคนรู้เกี่ยวกับหินเวทนี้ แต่สิ่งที่เธอกลัวก็เป็นจริง เพราะเจ้าของร้านรู้จักหินเวทจริงๆ

“ไม่ทราบว่าคุณซูเมิ่งมีหินหยกสีเขียวอีกไหมครับ ผมจะรับซื้อทั้งหมด” เขาต้องการหินเวทอีก ถ้าได้หินเวทมาอีกสักก้อน สองก้อนเจ้านายของเขาน่าจะได้เลื่อนระดับต่อไปได้อีก น่าเสียดายจริงๆ ที่มีก้อนเดียว

อ่านหนังสือเล่มนี้ต่อได้ฟรี
สแกนรหัสเพื่อดาวน์โหลดแอป

บทล่าสุด

  • ย้อนเวลากลับมาช่วย วิกฤติวันสิ้นโลกพร้อมมิติ   ตอนที่ 65 ทำตามคำสัญญา(จบ)

    “นายท่าน พวกเราได้ไปตรวจดูบริเวณโดยรอบแล้ว ไม่มีร่องรอยของคนอื่นเลยขอรับ” “เฝ้าระวังต่อไป อย่าเพิ่งวางใจพวกเราเดินทางกันสะดวกเกินไป” เขาสั่งงานกับลูกน้องที่เขาไว้ใจพาเดินทางมาด้วยสามสิบคน เป็นคนที่เขาคิดว่าไว้ใจได้ที่สุดแล้ว“โอ้ย! ปวดท้อง ข้าปวดท้องเหลือเกิน!” ซีห่าวได้ยินเสียงร้องของภรรยา ก็รีบเข้ามาดู“น้องจะคลอดแล้วหรือ เราหยุดพักรถม้ากันตรงนี้ก่อน พวกเจ้าไปเตรียมก่อไฟและต้มน้ำ แม่นมภรรยาข้าเป็นอย่างไรบ้าง” “เด็กกลับหัวพอดีเลยคะนายท่าน ดูท่าจะคลอดง่าย” เขาได้ฟังที่แม่นมรายงานก็รู้สึกสบายใจมากขึ้น และเตรียมสิ่งของที่หมอตำแยได้บอกให้เตรียมไว้ เขาได้ยินเสียงเด็กร้องออกมาจากในรถม้า“เป็นเด็กผู้ชายเจ้าคะ ร่างกายแข็งแรง นายหญิงปลอดภัยดีเจ้าคะ” หลีซีห่าวได้ฟังรายงานจากแม่นม เขารู้สึกดีใจเป็นอย่างมาก เขามองขึ้นไปบนฟ้า เป็นคืนที่พระจันทร์ทรงกลดพอดีกระสุนปืนยิงเข้ามาที่รถม้าของพวกเขา ในช่วงที่พวกเขาลดการระวังตัว“มีคนร้ายทุกคนกันนายหญิงให้ดี” เขารีบสั่งลูกน้องให้เข้าปกป้องลูกและภรรยาที่อยู่ในรถม้าก่อน หน้าของลูกเขาก็ยังไม่ทันได้เห็นเลย“ท่านพี่ เกิดอะไรขึ้นด้านนอก ท่านปลอดภ

  • ย้อนเวลากลับมาช่วย วิกฤติวันสิ้นโลกพร้อมมิติ   ตอนที่ 64 ทำตามคำสัญญา1

    เวลาผ่านไปหลายปี จิ้งจอกน้อยตามหาเจ้านายของเขาไปทั่วทุกหนแห่งแต่ก็ไม่พบ อยู่มาวันหนึ่งพวกเขาบังเอิญได้มาที่สระบัวแห่งหนึ่ง และพบกับดอกบัวที่มีพลังงานหนาแน่นเป็นอย่างมาก พวกเขาจึงเก็บดอกบัวสีขาวที่มีสีแดงตรงปลาย ดอกบัวดอกนี้ให้ความคุ้นเคยกับพวกเขาเป็นอย่างมาก เหมือนว่าเจ้าดอกบัวนี้ จะเป็นสิ่งที่พวกเขาตามหาอยู่ พวกเขาอาจจะคิดมากไปเองก็ได้ตอนที่พวกเขากำลังเข้าไปจับที่ดอกบัวดอกนั้น จิ้งจอกน้อยรู้สึกว่าดอกบัวกำลังดีใจที่ได้พบกับพวกเขา และพวกเขาก็สามารถเก็บดอกบัวไปปลูกได้อย่างง่ายดาย จิ้งจอกสองหัวรู้สึกแปลกใจกับความง่ายดายนี้ ถ้าเป็นพืชที่วิเศษ จะต้องใช้แรงกายในการเอาสิ่งนั้นมาได้ยากมาก แต่ดอกบัวดอกนี้ยินยอมที่จะไปอยู่กับพวกเขาเอง พวกเขานำดอกบัวไปปลูกไว้ที่สระน้ำแห่งชีวิต ตั้งแต่ที่ได้นำดอกบัวเข้ามาปลูก พลังงานบริสุทธิ์ภายในมิติยิ่งเพิ่มมากขึ้น และสระน้ำแห่งชีวิตก็บริสุทธิ์มากขึ้นเช่นกันเวลาผ่านไปหลายปี จนถึงปีหนึ่งที่พวกเขากำลังนั่งจำศีลกันอยู่พวกเขาได้ปล่อยจิตรับรู้เอาไว้ อีกไม่กี่วันข้างหน้า พวกเขาจะต้องไปทำงานที่เจ้านายได้สั่งไว้ก่อนที่จะหายตัวไป“เสี่ยวปิง แล้วพวกเราจะต้องไปช่วยเด

  • ย้อนเวลากลับมาช่วย วิกฤติวันสิ้นโลกพร้อมมิติ   ตอนที่ 63 ความทรงจำของเทพจิ้งจอก1

    มีหญิงสาวคนหนึ่งที่ใช้ชีวิตอย่างเรียบง่าย เธออาศัยอยู่ในป่าลึกพร้อมกับเพื่อนคู่ใจ เป็นจิ้งจอกตัวน้อยสองหัว ที่เธอได้ช่วยเหลือไว้ตอนที่แม่ของพวกมันถูกฆ่าตาย เธอตั้งชื่อให้ทั้งสองหัวว่า เสี่ยวเฟิง และเสี่ยวปิง จิ้งจอกน้อยทั้งสองตัว ติดตามเธอคอยช่วยเหลือและเฝ้าดูแลพื้นที่ในมิติแทนเธอ ผู้เป็นเจ้าของในที่แห่งนี้จิ้งจอกน้อยอยู่กับนายของมัน เธอเป็นหญิงสาวที่เงียบขรึม ไม่ชอบพูดคุยกับใคร ชีวิตในแต่ละวันของเธอ ก็จะอยู่ภายในมิติมากกว่าอยู่ด้านนอกมิติ เธอชอบคิดค้นยาหรือหาสิ่งใหม่ๆ เข้ามาปลูกภายในมิติอยู่เสมอ พวกเขาก็ได้เรียนรู้สิ่งที่เจ้านายได้นำเข้ามาปลูกด้วยเช่นกัน“เจ้าจิ้งจอกน้อย อย่าไปเล่นซนกับต้นสมุนไพรของข้าละ สมุนไพรชนิดนี้สำคัญมาก และก็มีราคาที่แพงด้วย” “พวกข้าจะไม่ไปเล่นซนตรงนั้นอย่างแน่นอน ข้าแค่สงสัยกลิ่นของสมุนไพรแปลกๆ พวกนี้” “ดีแล้วเด็กดีตัวน้อย” หญิงสาวอุ้มจิ้งจอกสองหัวขึ้นมากอด และก็เกาไปที่พุงของพวกมันเบาๆจิ้งจอกน้อยทั้งสองตัวมีความสุขกับเจ้านายของพวกมันมาก และพวกมันก็รักเจ้านายคนนี้มากด้วยเช่นกัน ตอนที่พวกเขาได้พบเจอกับเจ้านายคนนี้ พวกเขาก็เกือบจะตายกันไปแล้ว อยู่มาวัน

  • ย้อนเวลากลับมาช่วย วิกฤติวันสิ้นโลกพร้อมมิติ   ตอนที่ 62 end

    “เด็กน้อยของแม่ ลูกหน้าเหมือนพี่เฟยหรงเลยนะคะ” เธอเอานิ้วถูไปที่แก้มลูกเบาๆ“ตอนนี้ยังดูไม่ค่อยออกหรอกว่าหน้าเหมือนใคร ต้องรอไปสักสองถึงสามเดือนถึงจะดูออก” ซูซ่านพูดบอกลูกสาวของเธอไป" อ่อ แบบนี้นี่เอง " เธอเล่นกับลูกอีกสักพัก ลูกเธอก็ร้องขึ้นมา เธอต้องส่งลูกให้คุณพยาบาลพาไปป้อนนม เพราะน้ำนมเธอยังไม่มากพอให้เด็กทั้งสองคนได้กินทั้งครอบครัวของเธอและคุณปู่เห็นว่าเธอและลูกปลอดภัยหายห่วงแล้ว ก็พากันกลับบ้าน เหลือแค่เธอกับพี่เฟยหรงแค่สองคนเท่านั้น“เหนื่อยไหมครับคนเก่ง” เฟยหรงเอาผ้าชุบน้ำนำมาเช็ดหน้าและเช็ดตามตัวของภรรยา เพื่อให้เธอได้นอนพักผ่อนอย่างสบายตัว“มีคนดูแลดีแบบนี้น้องหายเหนื่อยไปตั้งนานแล้วค่ะ” เธอนอนให้สามีคอยเช็ดตัวให้ เพราะเธอยังรู้สึกเจ็บแผลที่คลอดอยู่มาก“พี่เช็ดตัวให้น้องจะได้นอนหลับอย่างสบายนะครับ คืนนี้พยาบาลบอกว่าให้น้องนอนพักได้เลย พรุ่งนี้ถึงจะพาลูกมาให้เราฝึกดูแล” “ดีเหมือนกัน น้องคงดูแลไม่ไหวแน่วันนี้น้องขอนอนพักก่อนนะคะ” เธอไม่ได้พูดอะไรมาก แล้วก็นอนหลับไปเพราะยาที่ได้กิน และความเหนื่อยล้าจากร่างกาย เฟยหรงนั่งเฝ้าภรรยาและตัวเขาก็หลับไปพร้อมกันเวลาผ่านไปหล

  • ย้อนเวลากลับมาช่วย วิกฤติวันสิ้นโลกพร้อมมิติ   ตอนที่ 61 คลอดลูก

    หลังจากที่เธอได้ไปฝากครรภ์ ตอนนี้ก็ผ่านมาห้าเดือนแล้ว ท้องของเธอใหญ่มาก ใหญ่เกินไปด้วยซ้ำทั้งๆ ที่เธอเพิ่งจะท้องลูกคนแรก หรือเธอจะท้องลูกแฝดหรือเปล่า เพราะเธอท้องใหญ่เกินกว่าจะท้องลูกคนเดียว ช่วงนี้เธอว่างเกินไปจริงๆ ตั้งแต่ที่เธอท้องพี่เฟยหรงก็แทบจะไม่ให้เธอทำอะไรเลยวันๆ เธอมีหน้าที่แค่กินและนอนเท่านั้น เธอบันทึกประจำวันในแต่ละวันว่าทำอะไรบ้างลงในสมุดการตั้งครรภ์ ทุกเดือนเธอต้องแบกท้องกลมโตไปให้หมอตรวจ หมอก็บอกเธอว่าอาจจะได้ลูกแฝด เสียดายที่ไม่มีเครื่องตรวจ เธอก็เลยไม่รู้ว่าลูกเธอเป็นผู้หญิงหรือว่าผู้ชายกันแน่ แต่ไม่ว่าเป็นหญิงหรือชาย เธอก็รักเด็กคนนี้เสมอ“พ่อกลับมาแล้วครับ วันนี้เด็กน้อยดื้อกับแม่หรือเปล่าครับ” พี่เฟยหรงกลับบ้านเร็วทุกวัน เพราะกลัวว่าเธอจะอยู่คนเดียวที่ขาดไม่ได้เลยก็คือ ทุกครั้งตอนกลับถึงบ้านพี่เฟยหรงก็จะเข้ามาจูบที่ท้องของเธอ และเล่นกับลูกในท้อง เด็กน้อยทั้งสองเหมือนว่าจะรู้ว่าพ่อเขามาเล่นด้วย ก็จะดิ้นทักทายตอบกลับพี่เฟยหรงทุกครั้ง ทำให้เธอเจ็บท้องไปหมด แต่เป็นความเจ็บปวดที่เธอมีความสุขตอนนี้เข้าเดือนที่แปดแล้ว เธอมานอนอยู่ที่บ้านพ่อกับแม่เพราะกลัวว่าเธอจะปวดท้

  • ย้อนเวลากลับมาช่วย วิกฤติวันสิ้นโลกพร้อมมิติ   ตอนที่ 60 กำลังจะเป็นแม่

    “ไม่โกรธคะ แต่เป็นห่วงมากกว่ากลัวว่าพี่จะเกิดอันตรายอะไรขึ้นมา พี่ไม่เป็นอะไรก็ดีแล้วคราวหน้าถ้าพี่เฟยหรงจะกลับบ้านช้า หรือทำอะไรที่เป็นอันตรายจะต้องบอกน้องไว้ก่อนนะคะ อย่าหายไปแบบนี้อีก ถ้าไม่อย่างนั้นน้องจะโกรธพี่เฟยหรงจริงๆ ด้วย” “ได้ครับ ครั้งหน้าพี่จะรายงานภรรยาตัวน้อยของพี่ทุกอย่าง จะไม่ลืมเลย” เธอหยอกล้อเล่นกับสามีอยู่ พี่เฟยหรงก็ทำหน้าพะอืดพะอมเหมือนอยากจะอ้วกขึ้นมา“พี่เฟยหรงเป็นอะไร ไม่สบายตรงไหน” “พี่ไม่ได้เป็นอะไร แค่ช่วงนี้พี่รู้สึกไม่ค่อยสบายตัวและอยากจะอ้วกอยู่บ่อยๆ ” หรือพี่เฟยหรงจะแพ้ท้องแทนเธอกัน เขาว่าถ้าคนไหนรักเมียมากก็จะแพ้ท้องแทนเมีย เธอไม่ได้เข้าข้างตัวเอง แต่พี่เฟยหรงก็รักเธอจริง“พี่อยากกินอะไรเปรี้ยวๆ หรือเปล่า” “ใช่แล้วพี่รู้สึกอยากกินของเปรี้ยวมากเลย” “ถ้าแบบนั้น เดี๋ยวน้องต้มน้ำแกงใส่ผักกาดดองให้พี่ดีไหม ที่บ้านเรายังมีลูกท้ออยู่ เดี๋ยวน้องจะไปเตรียมไว้ให้ พี่นอนพักก่อนก็ได้นะคะ ถ้าน้องทำเสร็จแล้วจะเอามาให้ที่เตียง” เธอลุกเดินไปล้างหน้า และเข้าไปที่ห้องครัวเพื่อไปเตรียมอาหารให้คนแพ้ท้องแทนเมียกิน ดีที่แม่ได้เตรียมผักกาดดองมาให้เธอเมื่อวานนี้

บทอื่นๆ
สำรวจและอ่านนวนิยายดีๆ ได้ฟรี
เข้าถึงนวนิยายดีๆ จำนวนมากได้ฟรีบนแอป GoodNovel ดาวน์โหลดหนังสือที่คุณชอบและอ่านได้ทุกที่ทุกเวลา
อ่านหนังสือฟรีบนแอป
สแกนรหัสเพื่ออ่านบนแอป
DMCA.com Protection Status