หวงอวิ๋นหัวเราะออกมาเบา ๆ พลางลูบจมูกตนเอง ดวงตาของเขาเปล่งประกายด้วยความสนใจในตัวเด็กหญิงตัวน้อย กงฉางที่เห็นการต่อสู้พยักหน้าพลางกอดอก
“เจ้าผ่านแล้ว ตั้งแต่วันพรุ่งนี้เป็นต้นไปเจ้าจะเริ่มฝึกอย่างเป็นทางการ”
หลิวหยุนจิงยิ้มกว้าง “ขอบคุณท่านอาจารย์เจ้าค่ะ!”
เสียงฮือฮาของเหล่าทหารดังขึ้น ทหารบางคนอดไม่ได้ที่จะพยักหน้าชื่นชมเด็กหญิงตัวเล็กที่สามารถยืนหยัดทนการฝึกหนักและยังต่อสู้กับทหารที่ได้รับการฝึกมาแล้วได้อย่างน่าทึ่ง
ฮัวชวี่ปิ้งกับฮัวหยุนที่ยืนอยู่ไม่ไกลได้แต่ส่ายหน้าอย่างอ่อนใจแฝงความชื่นชม
“นางเก่งมาก” ฮัวหยุนเอ่ยชม เขาเอ่ยยังไม่ทันจบสองตาของเจ้าตัวก็เห็นว่าร่างกายเล็ก ๆ ของหลิวหยุนจิงเริ่มโงนเงน เขาจึงรีบพุ่งตัวไปทางนางก่อนจะรับร่างเล็กจ้อยเอาไว้ได้ทันก่อนที่นางจะล้มลงไปกับพื้นดิน
“เยว่ฮวา!” เขาเรียกนางด้วยความตกใจ
“ไม่เป็นไรนางแค่เหนื่อยเกินไป” กงฉางเข้ามาดูอาการของนางพูดขึ้นเสียงเรียบทว่าดวงตาของเขาไม่อาจปิดบังว่าค่อนข้างเป็นห่วงเด็กหญิงไม่น้อย
ในห้วงฝันของหลิวหยุนจิง นางเห็นภาพของตนเองในอดีตยุค
“ฮัดเช้ย!!” หลิวหยุนจิงจามออกมาเสียงดังพลางยกมือขึ้นถูจมูกของตน ใบหน้าของนางขึ้นสีแดงเรื่อเล็กน้อยไม่แน่ใจว่าเพราะอากาศเย็นหรือเพราะร่างกายที่เริ่มอ่อนล้า“คุณหนู ท่านไม่สบายหรือเจ้าคะ?” เถาจูตัวน้อยถามออกมาอย่างกังวล นางขมวดคิ้วแน่นด้วยความเป็นห่วงเพราะตั้งแต่ที่คุณหนูของนางกลับมาจากค่ายทหารเจ้าตัวก็หาได้หยุดพักเลยสักวัน หากนางไม่ไปดูเหล้าที่หมักไว้ก็ต้องเดินไปตรวจโรงเรือนทำเครื่องหอมที่ในบัดนี้ได้เปิดร้านอย่างเป็นทางการแล้ว ร้านเหมยเซียนได้รับความนิยมในหมู่สตรีชั้นสูงอย่างมาก ไม่ว่าจะกลิ่นหอมจากธูป เครื่องหอมกำยาน สบู่หอมหลากหลายกลิ่น และน้ำมันหอมระเหยที่เด็กหญิงเป็นผู้พัฒนาล้วนทำให้เหล่าสตรีในเมืองต่างพากันแวะเวียนมาซื้อไม่ได้ขาดแม้ว่าจะมีสินค้าสำหรับชาวบ้านทั่วไปวางขายด้วย แต่ชาวบ้านกลับยังไม่กล้าเดินเข้าไปเท่าใดนัก บางส่วนเป็นเพราะเกรงกลัวต่อฐานะของคนที่เดินเข้าออก อีกทั้งพวกเขาเหล่านั้นยังคิดว่าราคาสิ่งของที่อยู่ในร้านคงสูงเกินกว่าที่พวกเขาจะจับต้องได้หลิวหยุนจิงรับรู้ปัญหานี้ดี
ข่าวเรื่องการแต่งงานของหลิวอวี้เฟยได้แพร่กระจายไปสู่ทุกชีวิตในจวนหลิวอย่างรวดเร็วซึ่งผู้ที่ดีใจมากที่สุดคงหนีไม่พ้นสองผู้เฒ่าประจำจวนหวังชูหรงได้ออกคำสั่งให้บ่าวไพร่ทุกคนช่วยกันจัดแต่งและทำความสะอาดจวนด้วยตัวเองอย่างลืมวัยจนทำให้หลิวหยุนจิงอมยิ้มให้กับท่าทางของหญิงชรา“ท่านยายเจ้าคะ พักบ้างเถอะเจ้าค่ะ หรือว่าจะให้ข้าดูฤกษ์มงคงใหม่ดี” คำพูดของหลานสาวตัวน้อยได้เรียกค้อนวงใหญ่จากนาง“ไม่ดีหรอก ฤกษ์ที่เจ้าพูดถึงนี่แหละดีที่สุดแล้ว บอกตามตรงนะเยว่ฮวายายกลัวเหลือเกิน..” หวังชูหรงเงียบไปหลายอึดใจยามนึกถึงเรื่องเมื่อหลายปีก่อน“ท่านยายไม่ต้องกังวลนะเจ้าคะ หลานจะไม่ยอมให้เกิดเรื่องกับท่านแม่อย่างแน่นอน อีกอย่างตอนนี้ข้าได้กำชับให้ท่านแม่เย็บชุดแต่งงานอยู่แต่ในจวนแล้วด้วย” หลิวหยุนจิงพูดขึ้นด้วยสีหน้าจริงจังแต่ทว่าเรื่องเช่นนี้จะสู้ลิขิตฟ้าได้เช่นใดแม้ว่าหลิวหยุนจิงหาสารพัดวิธีป้องกันมารดาถึงกระนั้นก็ยังมีข่าวไม่ค่อยดีออกมาจากภายนอกภายในจวนหลิวในขณะที่หลิวหยุนจิงได้ติดต่อกับลูกพี่ลูกน้องของตน“ถังเจี่ย ถังเกอ พี่ได้ยินเสียงของข้าหรือไม่เจ้าค
ภายในห้องตำราของหลิวห่าวเทียน หลังจากหลิวหยุนจิง แจ้งจุดประสงค์ของตนออกไปชายชราก็ไม่ถามให้มากความเจ้าตัวจึงได้ปลดป้ายประจำกายส่งให้นางทันที“ท่านตาเจ้าคะ หลานอยากให้ท่านตาออกไปด้านนอกสักครู่เจ้าค่ะ เพราะอวิ๋นซิงต้องการใช้สมาธิในการถ่ายเทพลังและในระหว่างนี้หลานจะต้องอยู่ด้วย”หลิวห่าวเทียนพยักหน้ารับคำก่อนจะลุกขึ้นจากที่นั่งแล้วก้าวเท้าเดินออกไปจากห้องตำราทันที ทิ้งให้หลิวหยุนจิงกับอวิ๋น ซิงอยู่กันตามลำพังภายในห้องเงียบสงัดมีเพียงเสียงลมหายใจของเด็กหญิงและเสียงกระพือปีกเบา ๆ ของนกเทพ อวิ๋นซิงกระพือปีกขึ้นไปเกาะอยู่บนชั้นหนังสือก่อนจะปิดเปลือกตาลง เพียงไม่นานพลังงานอ่อนโยนแผ่ซ่านออกมาจากร่างของมันคล้ายกับระลอกคลื่นที่กระเพื่อมไปทั่วทั้งห้องหลิวหยุนจิงวางหยกทั้งหมดลงบนโต๊ะ หยกสีเขียวเข้มสำหรับเมืองเตี้ยนหวง หยกสีขาวสำหรับพี่ชายและพี่สาว ส่วนป้ายหยกของท่านตานั้นเป็นศูนย์กลางของการเชื่อมโยงข้าจะเริ่มแล้ว เจ้าเตรียมใจไว้ให้ดี อวิ๋นซิงกล่าวด้วยน้ำเสียงค่อนข้างจริงจังหลิวหยุนจิงพยักห
หลังจากสุราหยาดน้ำค้างหมดกาหลิวหยุนจิงก็ไม่เห็นว่าชายชราจะเมามายอย่างที่คิด ดังนั้นเจ้าตัวจึงได้ค่อนข้างรู้สึกเซ็งเล็กน้อยที่ไม่อาจล้วงถามความลับจากเขาได้“ท่านปู่เจ้าคะ ท่านพักอยู่ที่ไหนต้องการให้ข้าสองคนไปส่งหรือไม่” ในขณะที่ฟ้าเริ่มมืดหลิวหยุนจิงจึงได้เอ่ยถามชายชราออกมาอย่างเป็นห่วง“ไม่ต้อง..เอิ๊ก ข้ายังไม่เมา... ข้ากลับเองได้ ยาโถวตัวน้อยขอบคุณเจ้ามากที่เลี้ยงอาหารข้า มื้ออาหารนี้ในอนาคตข้าย่อมตอบแทน” หลังพูดจบด้วยน้ำเสียงยานคางเล็กน้อยเจ้าตัวก็เดินโซซัดโซเซจากไปหลิวหยุนจิงจึงได้ถือโอกาสนี้ให้เสี่ยวหมิงติดตามอยู่ห่าง ๆ แต่สิ่งที่เด็กหนุ่มได้รับก็คือความล้มเหลว“เยว่ฮวา หากข้าไม่เห็นด้วยตาข้าเองก็ยังไม่อยากเชื่อ ท่านผู้เฒ่าคนนั้นคล้ายกับว่าเดินเหมือนคนไร้เรี่ยวแรงแต่หลังจากข้าติดตามไปติด ๆ ก็ดูเหมือนว่าแผ่นหลังของเขาจะยิ่งห่างออกไป”คิ้วของหลิวหยุนจิงขมวดมุ่นเข้าหากัน “ศิษย์พี่ท่านคิดว่าเขามิใช่คนธรรมดาตามที่พวกเราคิดใช่หรือไม่”“ใช่! แต่ตอนนี้เราก็ไม่ควรประมาทเพราะยังไม่รู้ว่าเขามีจุดประสงค์อันใดถึงได้เข้ามาหาเจ้า” คำพูดขององครัก
หลังอธิบายเรื่องกำมะถันจบ มือของหลิวหยุนจิงจึงได้หยิบผงสีดำอีกถังหนึ่งขึ้นมา“ที่ทุกคนเห็นนี้คือถ่านไม้ เจ้าสิ่งนี้จะช่วยทำให้ไฟลุกไหม้นานขึ้นและยังช่วยให้ดินปืนเผาไหม้ได้ดีขึ้นด้วย” นางหยุดพูดลงชั่วขณะก่อนจะชี้นิ้วไปทางถังไม้ที่มีผงสีขาวบรรจุอยู่“และสิ่งที่อยู่ในถังนั้นคือส่วนที่สำคัญที่สุด มันคือดินประสิวจะเป็นตัวทำให้เกิดการระเบิด เมื่อถูกจุดไฟเจ้าสิ่งนี้จะปล่อยก๊าซออกมาอย่างรวดเร็วและนั่นคือสิ่งที่ทำให้เกิดแรงอัดและการระเบิด”“ท่านอาจารย์ ก๊าซคือสิ่งใดขอรับ” คำถามของไป๋เหวินเฉิงช่างแทนใจทุกคนอย่างยิ่ง“คำถามนี้ดีมาก เอาละข้าจะอธิบายให้พวกเจ้าเข้าใจอย่างง่ายก็แล้วกันซึ่งมันอาจจะฟังดูยากสักหน่อย” คำพูดของหลิวหยุนจิงฟังดูย้อนแย้งพิกล ถึงกระนั้นพวกเขาทั้งหมดที่อยู่ตรงนี้ก็พากันเงียบเสียงลงพร้อมกับตั้งใจฟังสิ่งที่นางจะกล่าวอย่างตั้งใจหลิวหยุนจิงกวาดตามองทหารทั้งสิบคน รวมถึงฮัวชวี่ปิ้งกับฮัวหยุนและอาจารย์คนใหม่กับท่านตา ทุกคนล้วนต่างตั้งใจฟังนางอย่างจริงจังก่อนที่นางจะหยิบเอาหม้อดินเผาที่เตรียมไว้ขึ้นมา พร้อมกับตักน้ำใส่ลงไปเล็กน้อยและนำมัน
หากข้าใช้พลังของตนเองในการเชื่อมต่อโดยตรงก็จะสามารถส่งสารได้ไกลสุดไม่เกินสามร้อยลี้ แต่พลังของข้าจะลดลงเร็วมากหลิวหยุนจิงเลิกคิ้วขึ้นสูง สามร้อยลี้ก็ถือว่าไกลอยู่ แต่ไม่เพียงพอหากข้าต้องการติดต่อกับพวกพี่ชายพี่สาวที่เดินทางห่างออกไปเป็นพันลี้อวิ๋นซิงพยักหน้าลงอย่างเห็นพ้อง ใช่! ดังนั้นจึงจำเป็นต้องมีตัวช่วย นอกจากการใช้หยกเป็นตัวกลางแล้ว ข้าสามารถตั้งจุดส่งสัญญาณโดยใช้นกที่อยู่ตามเส้นทางนั้นเป็นจุดเชื่อมต่อ ซึ่งนกพวกนี้จะสามารถช่วยขยายระยะสื่อสารไปได้เรื่อย ๆดวงตาของหลิวหยุนจิงเป็นประกายหลังได้ยิน คล้ายเสาส่งสัญญาณเช่นนั้นหรือ!?เสาส่งสัญญาณคือสิ่งใด? อวิ๋นซิงเอียงคอถามอย่างสงสัยอ่า… ช่างมันเถิด! กล่าวคือ หากเรามีเครือข่ายเป็นนกเหล่านั้นกระจายตัวอยู่ทั่วทุกพื้นที่พวกมันจะเป็นตัวช่วยถ่ายทอดพลังงานจากหยกของข้าไปยังหยกของพวกพี่ ๆ ได้ใช่หรือไม่? หลิวหยุนจิงไม่ได้อธิบายเรื่องเสาส่งสัญญาณออกมาก่อนเปลี่ยนเรื่องเจ้าเข้าใจได้ถูกต้อง นกพวกนี้จะค