“เอาเถอะอย่าไปเกรงกลัวอะไร ข้ามีแผนการดี ๆ อยู่แล้ว ประการแรกพวกเราต้องทำลายขวัญกำลังใจของทหารฉู่เสียก่อน” แม่ทัพรั่วพูดขึ้น
“อย่างไรหรือขอรับ” หวังหว่านถาม
อยู่ ๆ ก็มีเสียงสตรีดังขึ้นมาจากหน้าห้อง
“ข้ามีวิธี” ฟู่หลินหลินก้าวเข้ามาในห้อง
“ไม่ใช่เรื่องของเจ้านะหลินหลิน” แม่ทัพรั่วปราม
ฟู่หลินหลินในชาติภพที่แล้ว นางเป็นคนที่ชอบอ่านและศึกษาวิชาความรู้เกี่ยวกับประวัติศาสตร์ อย่างเช่นตำราพิชัยสงครามของซุนวู นางก็อ่านมาแล้ว
อีกทั้งนางยังเป็นคนที่ฉลาด มีไหวพริบ ดังนั้นเรื่องที่จะเอาความรู้จากตำราพิชัยสงครามมาใช้นั้น หาได้ยากสำหรับนางไม่
“ฟังข้าก่อนสิท่านพี่” สีหน้าของฟู่หลินหลิน
“เจ้ามีวิธีอะไร เจ้าจงว่ามา” แม่ทัพรั่วไม่อยากจะหักหน้านาง และวันนี้นางก็ได้แสดงความสามารถที่เขาไม่เคยรู้มาก่อน จัดการกับทหารของแคว้นฉู่ลงได้ ทั้งที่ทหารคนนั้นตัวใหญ่กว่านางหลายเท่า โดยที่ร่างกายของนางไม่มีบาดแผล
ฟู่หลินหลินยืดตั
ไม่ทันตั้งตัวทหารแคว้นฉู่หนีตายกันชุลมุนวุ่นวาย และอลหม่าน เสียทั้งขวัญและกำลังใจ แล้วยังธนูไฟที่ถูกยิงมาจากกำแพงเมืองอีกแม่ทัพรั่วที่อยู่บนหลังม้า เขาตะเบ็งห้อขับขี่ม้าตัวใหญ่มุ่งตรงไปยังตำแหน่งที่แม่ทัพหวงอยู่ ทั้งสองพุ่งเข้าโรมรันกัน แม่ทัพรั่วมีฝีมือของเขามากกว่าแม่ทัพหวง ฝีมือฉกาจกว่าแม่ทัพรั่วต่อสู้ด้วยทวน ด้านหนึ่งเป็นมีดดาบ อีกด้านเป็นปลายทวน ในจังหวะที่แสงตะวันสาดเข้าตาของแม่ทัพหวง เพราะแม่ทัพรั่วต้อนม้าของแม่ทัพหวงให้หันหน้าไป พอแม่ทัพหวงลืมตาหมายจะกวัดแกว่งดาบของตัวเองจัดการกับแม่ทัพรั่วรั่วเฉินก็ได้ตวัดปลายทวน โดยหันด้านปลายมีดที่คมตัดฉับศีรษะแม่ทัพหวงลงมาได้ภาพศีรษะของแม่ทัพหวงที่ขาดสะบั้นจากร่างกายของเขา แล้วหล่นร่วงลงไปยังพื้นดินเบื้องล่าง“ไชโย ไชโย”“แม่ทัพรั่วเฉินได้ตัดหัวของแม่ทัพหวงจือเฟยได้แล้ว กองทัพฉินของเราได้รับชัยชนะ”ฝ่ายทหารแคว้นฉู่ถึงกับวางอาวุธลง แล้วทรุดนั่งลงไปกับพื้นดินเพื่อศิโรราบเสียงโห่ร้องของทหารในกองทัพของรั่วเฉิน กองทหารของเมืองหยูตง และประชาชนที่ออกมาช่วยสู้รบ
“พร้อม อื้อ ท่านพี่รั่วอย่าทรมานข้าอีกเลยเจ้าค่ะ”ท่านแม่ทัพจับร่างฟู่หลินหลินให้หันหลังให้ แล้วกดให้นางโก้งโค้ง จากนั้นเขาก็เอาท่อนบุรุษเข้าประชิดกดลงไปในร่องสาวที่มีน้ำหวานเชื่อมหยาดเยิ้มฟู่หลินหลินทำได้แต่เพียงหยัดสะโพก และผ่อนลมหายใจ “อึก อ้า... ท่านพี่... ซี้ด...” ฟู่หลินหลินขยับอ้าปากเปล่งเสียงทรมานแบบสุข ๆ ออกมาเขากระแทกท่อนทวนอันใหญ่เข้าไปในร่องสาวให้ร่องน้อย ๆ นั้นกลืนทวนเนื้อเข้าไปใหม่ ต่อมารั่วเฉินก็เริ่มชักลำแกร่งเข้าออก ๆ เขาเองก็สูดปากด้วยความเสียวสยิวลำแข็งใหญ่ครูดไปกับร่องคับแคบที่แอมอิ่มกินท่อนรักของเขา ทั้งบีบ ทั้งอัด และตอดขมิบ“โอ้... ซี้ด... ดูดแรง” ท่านแม่ทัพแทบแตกพ่าย สวรรค์เกือบล่มปากอ่าวเสียแล้ว“กระแทกเถอะท่านพี่ ข้า อ้า...”จากนั้นแม่ทัพรั่วก็จัดให้ตามคำร้องขอ ฟู่หลินหลินได้แต่เพียงส่งเสียงครางครวญ และแอ่นสะโพกเข้าหาแท่งแกร่งของสามี“อื้อ อ๊า... ซี้ด... อะ อะ อะ...” นางส่ายหัวสะบัดศีรษะไปมา รับรู้ได้ถึงการกระแทกชนผนังภายในที่อ่อนนุ่ม
ฟู่หลินหลินมีใบหน้าออกสีแดง และรีบเดินเร็วนำหน้าเจียงอ่าวไป“เขินอะไรเล่าเจ้าคะ ข้าพูดเรื่องจริง ข้าอยากเลี้ยงท่านแม่ทัพตัวน้อย ๆ แล้ว”“หยุดล้อข้าได้แล้วน่า” เดินขาแทบขวิด“เจียงอ่าวถึงห้องแล้ว ข้าจะอาบน้ำนะ”“ได้เจ้าค่ะ ข้าจะระดมคนมาทำให้นายหญิงอย่างรวดเร็ว”การเดินทางกลับเป็นระยะเวลาสิบวันนั้น นางไม่ได้ทำความสะอาดร่างกายเลย นอกจากล้างหน้าล้างตาเท่านั้นเมื่อก่อนอยู่เซี่ยงไฮ้อาบน้ำกันค่อนข้างบ่อย ไม่เหมือนกับคนในสมัยนี้ ตอนแรกนางก็ไม่เข้าใจว่า พวกเขาอยู่กันได้อย่างไร ไม่อึดอัด หรือว่ารู้สึกเหม็นกลิ่นกายของตนเองบ้างเลยหรือ แต่เมื่อนางต้องทำเช่นนั้นบ้างก็เลยเข้าใจ ต่อให้อึดอัดเพียงใด เหม็นเพียงใดก็ต้องทนวันต่อมา มีรถม้ามาจอดที่หน้าประตูจวน ฟู่หลินหลินประหลาดใจเล็กน้อย แต่นางก็เพียงแค่คิดว่า น่าจะเป็นคนของทางการที่มาพบสามี หรือไม่ก็เป็นแขกของท่านแม่ก็เป็นได้อีกทั้งเพราะว่าแม่ทัพรั่วเองได้เดินทางไปรบที่เมืองหลูตงตั้งเดือนกว่า ก็น่าจะมีงานให้ต
“อะแฮ่ม... ท่านแม่” รั่วเฉินกระแอมกระไอ“อะไรหรือ”“เรื่องแต่งงานใหม่เพิ่ม... อ่า...”“ทำไม” ท่านแม่ถามเสียงดัง“ภรรยาของข้า ฮ่องเต้เป็นผู้ประทานให้ หากจะแต่งงานหาภรรยาอีกหลายคน ต้องได้รับราชโองการจากฮ่องเต้อีกขอรับ” ที่แม่ทัพรั่วตอบออกไปอย่างนั้น เพราะเขาอ่านใจท่านแม่ออก“เรื่องขออนุญาตจากฮ่องเต้หรือ แม่จะให้พ่อเจ้าจัดการเอง ไม่ต้องเป็นห่วงหรอก”“ท่านแม่ขอรับ ลูกไม่ได้อยากให้มีปัญหา”“ปัญหาอะไรอีกเล่า”“มีภรรยาหลายคนปวดหัวนี่ขอรับ อีกอย่างดูอย่างท่านแม่ ท่านยังไม่ยอมให้ท่านพ่อมีบ้านเล็กบ้านน้อย ใครก็พูดกันว่าท่านพ่อรักท่านแม่มากน่ะขอรับ จนไม่คิดจะมีหญิงอื่นอีก”ท่านแม่เผลอยิ้ม แต่ประเดี๋ยวเดียวก็ทำหน้าบูดบึ้งจ้าวอวี้เจินกลับตีความหมายทุกอย่าง เหมือนว่าเขาจะไม่อยากแต่งงานกับตนเอง เพราะที่รั่วฮูหยินเอ่ยเรื่องนี้ ก็เพราะอยากได้จ้าวอวี้เจินมาเป็นสะใภ้อีกคน“ข้าอยากจะเป็นหญิงหนึ่งเ
“แก้ตัวไป ก็ไม่มีประโยชน์ หากเรารักเขา เราก็บอกว่ารักออกไป และก็ไม่เห็นจะยากลำบากเลย ถ้าจะพูดมันออกไป เวลาที่นอนอยู่บนเตียงเดียวกันกับท่านแม่ทัพ นายหญิงก็เอื้อนเอ่ยคำนี้ออกมาได้นะเจ้าคะ”“เจ้าสอนข้า ทั้ง ๆ ที่เจ้าไม่มีสามี”“แต่ก็เกิดก่อน แก่กว่า ก็เห็นมาเยอะแล้ว”ฟู่หลินหลินยังคงทำหน้ามุ่ยอยู่ดี“เขายังไล่ข้ามานอนพักผ่อนอีกด้วย” ปากก็พูดบ่น“ดื่มน้ำชาก่อนนะเจ้าคะ นายหญิงจะได้เย็นใจ” เจียงอ่าวรีบมารินน้ำชาให้“แต่อย่างไรก็ตาม นายหญิงจะปล่อยให้เป็นอย่างนี้ต่อไปไม่ได้นะเจ้าคะ ถ้าหากแม่นางจ้าวผู้นั้นมาหาและพบกับท่านแม่ทัพบ่อย ๆ เข้า ก็อาจจะเป็นเรื่องเอาได้ ดีไม่ดีจะเป็นแผนการของท่านรั่วฮูหยินก็ได้ที่ท่านอยากจะได้สะใภ้เป็นคนบ้านเดียวกัน”“ถ้าเขาไม่ได้รักข้า ก็ปล่อยให้เขาแต่งงานไปเถอะ” ฟู่หลินหลินมองหน้าเจียงอ่าว แต่ทว่าเจียงอ่าวก็ได้เห็นว่านายหญิงของตนมีน้ำตาคลอหน่วยฟู่หลินหลินยังพูดอีก “เขาก็เห็นข้าเป็นเพียงหญิงบนเตียงที่คอย
“แล้วท่านแม่ทัพเป็นอย่างไรหรือ”“ข้าบังเอิญไปส่งด้วย ดูเหมือนท่านแม่ทัพจะมีสีหน้าที่เศร้าสร้อยมาก ๆ ก็คนคบหากันมาตั้งแต่เล็กแต่น้อย ต้องจากกันไปไกลก็ต้องออกอาการบ้างแหละ”“ขอบใจเจ้ามากนะ”“อ้าว จะถามกันแค่นี้เองหรือ”“ข้าต้องรีบไปหานายหญิง” เจียงอ่าวเดินออกมาในทันที นางตรงกลับไปที่ห้องพักของนายหญิง ฟู่หลินหลินเมื่อเห็นเจียงอ่าวนางก็ปรี่เข้ามาในทันที“ได้ความไหม”“ได้เจ้าค่ะ” แล้วเจียงอ่าวก็เล่าเรื่องราวที่ได้ยินได้ฟังมาให้กับนายหญิงของตัวเอง ฟู่หลินหลินทำหน้าทำตาอยากรู้เอามาก ๆ ถึงกับจ้องเจียงอ่าวแบบตาไม่กะพริบ“พวกเขาสองคน อาจจะเป็นการรักกัน แต่ยังไม่รู้ใจตัวเองเป็นได้ แล้ววันนี้นางจะกลับมาทำไมอีก ไปจากชีวิตของท่านพี่ตั้งหลายปีแล้ว เฮ้อ… อยู่ ๆ นางก็โผล่เข้ามาในชีวิต และในตอนนี้” ฟู่หลินหลินพูดเหมือนกับคนสิ้นหวัง“ก็บิดาของแม่นางจ้าวถูกฮ่อง
“เจ้าต้องการข้าในคืนนี้”“ข้าต้องการท่านพี่ในทุกคืน ไหนว่าเราสองคนจะทำลูกกันอย่างไรเจ้าคะ”“เจ้าพร้อมแล้วเหรอฮึ... หลินหลิน”“ยิ่งกว่าพร้อมมากมายเจ้าค่ะ” แล้วนางได้กระชากใบหน้าของเขาลงมา ให้บดกลีบปากลงบนกลีบปากของตัวเองฟู่หลินหลินส่งปลายลิ้นของตัวเองเข้าไปยั่วเย้าหยอกเกินกับปลายลิ้นของแม่ทัพรั่วท่านแม่ทัพผละจากริมฝีปากของนาง“หลินหลินถ้าเจ้าทำตัวอ่อนหวานอย่างนี้กับข้าตลอดไป ข้าจะถนอม และเอ็นดูเจ้า”“ข้าจะจำคำของท่านเอาไว้”“คืนนี้เจ้าต้องการจะให้ข้าทำเหมือนกับที่เราสองคนอยู่ในรถม้าใช่ไหม” ถามพร้อมกับจ้องหน้านาง ฟู่หลินหลินพยักหน้าน้อย ๆ เขาจึงชิดใบหน้าและอ้าปากเพื่อครอบครองยอดอิ่มก่อนจะอมและดูดเม้ม“อื้อ ท่านพี่ ข้าเสียว เสียวมาก เสียวมาก”“ขอแค่ให้เจ้ารู้สึกดี”“อะ... อ้า... อืม… ข้ารู้สึกดี” พลางกลั้นเสียงเสียวซ่านเอาไว้โดยการงับปากจนสนิทแม่ทัพรั่ว
แม่ทัพหนุ่มสูดปากเสียงสุขสม และเอ่ยชม “เจ้าเก่งจริง ๆ ทำให้ข้าแพ้เจ้าในเวลาอันรวดเร็ว”“ท่านพี่มีความสุข ข้าก็ดีใจ” หายใจหอบระรวยรั่วเฉินจึงกอดรัดและลูบไล้ร่างกายของนางด้วยความเอ็นดู“ว่าแต่คืนนี้ ท่านพี่จะโอ้โลมข้าครั้งเดียวหรือ”“หรือว่าเจ้ายังไม่พอ”“ถ้าไม่อยากให้ท่านพี่เหนื่อย”“ใครกันแน่ที่เหนื่อย ดูสิเจ้ายังหายใจไม่ทันเลย” เขาเอ่ยยั่วเย้า“ทำไมท่านพี่ต้องรอข้าด้วย” ฟู่หลินหลินซบหน้าลงไปที่หัวไหล่ของเขา“ถ้าอยากจะนอนซุกตัวอยู่ในอ้อมกอดของท่านพี่ทุกคืน ช่วงนี้มันจะเข้าฤดูหนาวแล้วนะเจ้าคะ” ฟู่หลินหลินออดอ้อนเขาราวกับว่าเป็นแมวน้อยขี้หนาวก็ไม่ปาน“นับตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป เจ้าก็มานอนในห้องข้า”“จริงนะเจ้าคะ และตลอดไป”“อื้อ… ตลอดไป” ณ เวลานี้ นางคุ้นชินกับการบรรเลงเพลงรักร่วมกับแม่ทัพรั่วแล้ว จึงมิได้ตื่นขึ้นมาโวยวายเหมือนเมื่อก่อน แถมยังเริ่มก่อนได้อีก
แต่ว่ามันไม่ได้ง่ายขนาดนั้น แม่ทัพรั่วมีความทรหดอดทนมากกว่าที่เขาคาดคิดไว้ แทนที่เขาจะถูกพิษแล้วล้มลงไปกลับกลายเป็นว่าเขาไม่ได้แสดงท่าทีว่าเจ็บปวดอะไรเลยแม้แต่น้อย อีกทั้งยังควบม้าพุ่งใส่เขาได้อีก หรือว่าธนูอาบยาพิษของเขาจะเกิดการผิดพลาดเสียงทวนกระทบกับดาบดังสะท้อนไปทั่วป่า ทั้งแม่ทัพรั่วและซื่อเล่อต่างก็โจมตีโรมรันกันไม่หยุดซื่อเล่อถึงแม้จะฝีมือด้อยกว่า ประสบการณ์น้อยกว่า แต่ทว่าเจอกับแม่ทัพรั่วที่มีลูกธนูปักอยู่ที่ไหล่ ก็เรียกได้ว่าไม่ทิ้งห่างกันมาก พวกทหารของซื่อเล่อพยายามยิงธนูเข้าใส่แม่ทัพรั่ว แต่ก็ทำไม่ได้ เนื่องจากกลัวว่าจะพลาดไปโดนแม่ทัพของตัวเอง อย่างไรแล้วพญาอินทรีก็ยังคงเป็นพญาอินทรี ซื่อเล่อถึงแม้จะเป็นยอดฝีมือของชนเผ่าเร่ร่อน แต่เมื่อเจอกับแม่ทัพรั่ว ก็ยังคงเป็นเพียงนกอินทรีตัวผู้ที่บังอาจผยองอยากเป็นพญาอินทรีเท่านั้นซื่อเล่อถูกทวนของแม่ทัพรั่วแทงเข้าที่ท้องจนได้รับบาดเจ็บ แต่ว่าด้วยความว่องไวของเขา ทำให้หลบหนีไปได้ หลังจากนั้นเขาก็สั่งให้ถอยทัพกลับไป
เสียงเคาะดาบกับโล่ดังเป็นจังหวะ และเสียงกระทุ้งทวนกับพื้นก็ดังตามมา รองแม่ทัพฝ่ายตรงข้ามสั่งให้เข้าบุกโจมตี พวกมันวิ่งเข้ามาในวงล้อมของค่ายกลแปดทิศ ราวกับว่าไม่เกรงกลัวอะไรทั้งสิ้น และใช้ดาบฟันทุกอย่างที่ขวางหน้า ทหารทั้งสองฝ่ายโรมรันพันตูกันเสียงกระทบกันของดาบและทวนดังไปทั่วทั้งเนินหวงหยางแม่ทัพรั่วกำลังใช้สายตามองหาซื่อเล่อ แต่ว่าหาอย่างไรก็หาไม่พบ ตามกฎของสงครามแล้วสงครามจะจบลงก็ต่อเมื่อ ประการที่หนึ่งแม่ทัพของฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งตาย หรือไม่สามารถสู้ต่อไปได้แล้วประการที่สอง ฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งยอมแพ้ แล้วถอนทัพไป ดังนั้นแม่ทัพรั่วจึงต้องหาแม่ทัพของฝ่ายศัตรูให้พบ แล้วกำจัดเขาเสียฝีมือการสู้รบของชนเผ่าเร่ร่อน ถึงแม้ว่าจะไม่มีแบบแผนก็จริง แต่ว่าพวกเขาสู้รบได้ดุเดือด ยิ่งจนตอนนี้สามารถทำลายค่ายกลแปดทิศจนแตกแล้ว ทหารของแม่ทัพรั่วจึงได้เปลี่ยนไปใช้รูปแบบการตั้งรับแบบอื่นแทนแม่ทัพรั่วตัดสินใจขี่ม้าออกไปกลางความชุลมุนวุ่นวายนั่นแล้วตามหาตัวซื่อเล่อ ยิ่งหาตัวเขายากเท่าไร ก็ยิ่งมีโทสะมากขึ้นเท่านั้นที่จวนในวันนี้
รั่วฮูหยินยังเช็ดน้ำตาให้กับฟู่หลินหลินอีกด้วย“ห้ามร้องไห้เด็ดขาดเลยนะ เดี๋ยวลูกของเจ้าออกมาจะนั่งหงิกหน้างอ”“เจ้าค่ะ” บรรยากาศในจวนแห่งนี้เปลี่ยนไปในทันที ความสุขอบอวลไปทั่ว สีหน้าของทุกคนแช่มชื่น ที่ได้ข่าวการมาเยือนของหลานตัวน้อยที่อยู่ในท้องของภรรยาท่านแม่ทัพ“ท่านแม่อย่าบอกเรื่องนี้กับท่านพี่นะเจ้าคะ”“ทำไมรึ”“ถ้ากลัวว่าท่านพี่จะเป็นห่วงเป็นใย”“ถูกของเจ้า จะให้มาพะวงเรื่องนี้ไม่ได้เด็ดขาด แต่แม่จะต้องไปบอกท่านพ่อก่อน เขาจะต้องดีใจมาก”“แล้วแต่ท่านแม่”“ได้หรือยังน่ะของกินร้อน ๆ” รั่วฮูหยินหันไปถาม เพราะดูเหมือนจะนานไปแล้ว“มาแล้วเจ้าค่ะ ซุปไก่ร้อน ๆ ใส่สมุนไพรบำรุงด้วยเจ้าค่ะ”“เจ้าเอายาไปต้มให้กับฮูหยินน้อยด้วยหรือยัง” ท่านหันไปถามเจียงอ่าว“เรียบร้อยแล้วเจ้าค่ะ ประเดี๋ยวเสร็จแล้วคนในครัวจะยกมาให้”“ถ้าอย่างนั้นเจ้ากินน้ำ
“อร่อย! เจียงอ่าวเจ้าว่าอร่อยหรือไม่” ฟู่หลินหลินหันไปถามเจียงอ่าว ที่กำลังเคี้ยวขนมอยู่ยังไม่ทันได้กลืน ก็ตอบด้วยเสียงอู้อี้กลับมาว่า“อร่อยเจ้าค่ะ”ฟู่หลินหลินจึงได้ซื้อขนมถั่วตัดนี้มาห้าถุง หนึ่งถุงสำหรับส่งให้แม่ทัพรั่ว หนึ่งถุงสำหรับนางกับเจียงอ่าว อีกหนึ่งถุงให้ท่านแม่ และอีกสองถุงไว้ให้บ่าวไพร่ในเรือนแบ่งกันกิน พอกลับถึงจวน ฟู่หลินหลินก็ให้ทุกคนมาช่วยกันจัดสิ่งของที่ซื้อมาใส่จวน จวนแม่ทัพรั่วตอนนี้ได้สลัดกลิ่นอายของความเก่าทึมทึบออกไปแล้ว เมื่อมีเครื่องเรือนใหม่เข้ามาทำให้ดูสดใสขึ้นอักโขแต่ว่าฟู่หลินหลินก็ไม่ได้สั่งให้คนยกเครื่องเรือนเก่าออกไปเนื่องจากไม่อยากมีเรื่องกับแม่สามี จึงทำเพียงแต่เติมของใหม่เข้าไปเท่านั้นเมื่อกลับมาถึงที่ห้องนอนของนางแล้ว รั่วฮูหยินก็สั่งให้คนมาตามนางไปหา ฟู่หลินหลินจึงขัดไม่ได้ แม้จะแสนเพลีย แต่ก็ต้องไปหารั่วฮูหยินที่จวนของท่านทว่าเมื่อไปถึงแล้ว ไม่ได้มีแต่รั่วฮูหยินเพียงคนเดียว ยังมีแม่นางจ้าวนั่งอยู่ข้างกา
กองทัพออกเดินทางกันมาได้หลายวันแล้ว ตลอดระยะเวลาสองวันนี้ ทุกคนแทบจะไม่ได้พักเลย เนื่องจากจะต้องไปให้ถึงเมืองซุยโจว ก่อนที่ทัพของข้าศึกจะมาประชิดเมือง จะหยุดพักกันก็แค่ในตอนรับประทานอาหารเช้ากับเย็นเท่านั้นการนอนพักผ่อนก็จะพักให้หายเหนื่อยเพียงแค่สองถึงสามชั่วยาม นอกจากกายจะไม่ได้พักแล้ว ใจก็ไม่ได้พักเช่นกันตั้งแต่แม่ทัพรั่วออกมาจากจวน เขาก็เฝ้าคิดถึงแต่ฟู่หลินหลินภรรยาของตนพอ ๆ กับคิดถึงเรื่องสงครามที่อยู่ข้างหน้า การศึกครั้งนี้เขาตั้งใจไว้ว่าจะทำให้รวบรัดและทำการศึกให้ใช้เวลาน้อยที่สุด เพื่อจะได้กลับไปหาภรรยาสุดที่รักของเขาพวกเขาพักค้างแรมกันที่ชายป่าก่อนถึงเมืองซุยโจว จากตรงนี้ไปใช้เวลาเดินเท้าอีกแค่ไม่เกินสองวัน ก็จะถึงเขตเมืองซุยโจวดังนั้นแม่ทัพรั่วจึงสั่งให้ทหารตั้งกระโจมพักผ่อนกันแบบยาว ๆ สักหน่อย เพื่อที่จะได้เก็บแรงเอาไว้ต้านศึก“พวกเราตั้งค่ายพักแรมกันตรงนี้เถิด” แม่ทัพรั่วสั่ง“เหลือระยะทางอีกไม่ไกลแล้ว พักผ่อนกันให้เต็มที่ พวกเจ้าจะต้องนอนเอาแรง” เขาหันหน้าไปทางหวังหว่าน
เขากลับบ้านมาด้วยความเร่งรีบเพื่อที่เตรียมเอาเฉพาะของที่จำเป็นไปด้วยฟู่หลินหลินรอเขาอยู่ที่ห้อง เมื่อเห็นเขากลับมาในช่วงกลางวันก็รู้สึกแปลกใจ เพราะว่าปกติแล้วเวลาที่เขาเข้าวังไปประชุมข้อราชการ กว่าจะกลับมาก็ค่ำมืดทุกครั้ง“ท่านพี่มีเรื่องเร่งด่วนอันใดหรือ” ฟู่หลินหลินถาม“ข้าต้องไปออกรบ และต้องไปเดี๋ยวนี้” แม่ทัพรั่วตอบ“เหตุใดจึงได้กะทันหันเช่นนี้เล่า” ฟู่หลินหลินเอียงคอเล็กน้อย สีหน้าของนางมีแต่ความกังวลใจ ใครอยากให้สามีของตนไปผจญกับคมดาบและศึกสงคราม แต่นี่คือหน้าที่“ตอนนี้ยังไม่มีเวลาที่จะอธิบาย เจ้าช่วยไปเก็บเสื้อผ้าของข้าให้หน่อย แล้วก็สิ่งของต่าง ๆ ที่จำเป็นด้วย ข้าต้องรีบเปลี่ยนชุด” แม่ทัพรั่วกล่าวในขณะที่แม่ทัพรั่วกำลังถอดชุดเข้าเฝ้าออก แล้วเปลี่ยนเป็นเครื่องแบบทหารนั้น ฟู่หลินหลินก็เรียกเจียงอ่าว และคนรับใช้อื่น ๆ ให้ทยอยเก็บข้าวของให้เขาเมื่อเก็บของเสร็จแล้ว ฟู่หลินหลินก็เรียกให้บ่าวไพร่มาขนหีบไปขึ้นรถม้า แม่ทัพรั่วแต่งตัวเสร็จ เขากำลังจะเดินออกไป เขาหันไปพ
“ทำไมท่านพูดอย่างนี้ ท่านไม่ไว้ใจข้าเหรอ ข้ามิได้…” ฟู่หลินหลินพูดไม่ทันจบ เขาก็กระโจนเข้าใส่แล้ว กิริยาอาการที่เถื่อนดิบท่านแม่ทัพจัดการถอดเสื้อผ้าของหญิงสาวออกมาจนหมด จนฟู่หลินหลินเปลือยกายล่อนจ้อน แม้นางจะขัดขืนเพราะไม่ชอบความกักขฬะของสามีในตอนนี้แต่ด้วยไฟอารมณ์ที่ฉุนเฉียวโกรธเกรี้ยว ไม่พอใจที่เห็นภรรยาของตนอยู่กับชายอื่น ใบหน้าน้อย ๆ ของนางถูกท่านแม่ทัพจับเอาไว้ให้อยู่นิ่ง ๆ เขาก็ประทับจูบลงมาอย่างบดขยี้ จนฟู่หลินหลินเจ็บริมฝีปากไปหมด“อื้อ… ไม่นะเจ้าคะท่านพี่ ท่านอย่ารุนแรงกับข้า”แต่เพราะว่าสุราที่ร่ำในงานนั้นมีสมุนไพรบางอย่างที่คลับเคลื่อนอารมณ์กายกำหนัดของชายชาตรีให้ปะทุขึ้นท่อนบุรุษของท่านแม่ทัพแข็งขืนขึ้นมาจนตึง เขาเจ็บแกนกายของตัวเองอย่างมาก สิ่งเดียวที่ปรารถนาในตอนนี้ ก็คือการผนึกแน่นเป็นร่างเดียวกับฟู่หลินหลินเขาจับขาของภรรยาพร้อมกับดึงมาให้สะโพกมนอยู่ที่ขอบเตียง จากนั้นก็จับจรดแกนแกร่งเข้าไปในช่องทางอ่อนนุ่มของฟู่หลินหลิน เขากดแรงจนท่อนลำกระทุ้งฝังเข้าไปในร่องสาวอย่างรวดเร็วนางไ
“ที่นี่ไม่เหมาะที่อิสตรีจะมาเดินเที่ยวคนเดียว” เขาเอ่ยเหมือนตำหนิ“ขอประทานอภัยเจ้าค่ะ คือข้าน้อยไม่รู้ว่าที่นี่เป็นเขตหวงห้าม”“เจ้ามิได้อยู่ในวังนี้ดอกหรือ”“เปล่าเจ้าค่ะ ข้าน้อยมากับสามีของข้า”“หื้อ สามีของเจ้าหรือ คือผู้ใด”“ท่านแม่ทัพรั่ว”“อ้อ ท่านรั่วเฉิน”“ท่านรู้จักสามีของข้าด้วยหรือเจ้าคะ”“ไม่เพียงแต่รู้จักเขา เจ้าก็คือเชลย”คำว่าเชลยสะกิดใจนัก แต่ฟู่หลินหลินก็ยังฝืนยิ้ม“ตอนนี้ข้าถือว่าเป็นคนในครอบครัวของแม่ทัพรั่วแล้ว คำว่าเชลย มักใช้กับผู้ที่เป็นศัตรูกันเท่านั้น”“จริงดังเจ้าว่า อ่า… ขอโทษนะ ถ้าหากข้าพูดอะไรทำให้เจ้ารู้สึกไม่พอใจ”“หามิได้เจ้าค่ะ” ฟู่หลินหลินรู้แล้วว่าไม่ควรจะอยู่ที่แห่งนี้นานมากไป จึงได้เอ่ย“ข้าขอตัวก่อน” นางกำลังจะหันหลัง ไม่อยากจะคุยกับบัณฑิตท่านนี้ต่อแล้ว ไม่พอใจนิด ๆ ที่เขาดูถูกตนเอง&ldqu
ประโยคนี้ทำให้จ้าวอวี้เจินผงะ ตั้งแต่เกิดมาก็เพิ่งจะมีฟู่หลินหลินนี่แหละที่กล้าต่อปากต่อคำกับนาง จนตอนนี้ถึงกับทำตัวไม่ถูก ไม่รู้จะคิดคำพูดใดมาตอบโต้ดี“ถ้าแม่นางจ้าวไม่ได้มีอะไรมากกว่านี้ ข้าก็ขอตัว แต่อยากจะเตือนอย่างหนึ่ง แม้ข้าจะอายุน้อยกว่าท่าน แต่อะไรที่ทำแล้วเสื่อมเกียรติ หรือด้อยคุณค่าในตัวเองข้าจะไม่ทำอย่างเด็ดขาด“อีกอย่างถ้าสิ่งที่คิดทำไม่ได้สมดั่งมุ่งหวัง ความผิดหวังจักมากตามมา” เหมือนทิ้งความไม่พอใจเอาไว้ให้กับจ้าวอวี้เจิน“ข้าก็ขอตัว” ฟู่หลินหลินไม่จำเป็นต้องเสแสร้ง นางก้มโน้มศีรษะ พร้อมกับเดินจากมาฟู่หลินหลินพูดไปทั้งที่ก็หวั่น ๆ แต่ถ้าเป็นตัวของนางเอง หากว่ามีคนมาตอกย้ำและเตือนแบบนี้ จะล่าถอยทันที แม้จะรู้สึกเสียหน้าบ้างก็ตามเถอะสำหรับฟู่หลินหลินแล้ว หากไม่ได้เป็นที่หนึ่งในใจของสามีของตน ก็ไม่ต้องมีสามีจะดีกว่า แม่นางจ้าวที่เพียบพร้อมทุกอย่าง นางจะหาคนที่คู่ควรกับนางได้เอง หากเปิดใจยอมรับเขาผู้นั้น และเวลาอย่างนี้ แม่นางจ้าวก็สมควรจะล่าถอยไปได้แล้วผู้ที่ถูกตอกหน้าถึงกับเจ็บแค้น กำหมัดในมือแน่น