Share

พิมพ์ครั้งที่ ๑

Author: 1037
last update Last Updated: 2025-10-22 02:29:04

รศ.๑๑๖

เสียงนกร้องยามเช้าตรู่ให้หนาหู แม้นแผ่นฟ้าทั้งผืนจะยังดับมืดไม่ต่างจากเวลากลางคืน หากแต่เหล่าข้าทาสบริวารกลับลุกขึ้นทำงานกันอย่างขะมักเขม้นให้สมกับข้าวแดงแกงร้อนที่เจ้าของเรือนมีพระคุณแบ่งให้ยาไส้

บ่าวทาสในเรือนทุกคนต่างรู้หน้าที่ของตนเป็นอย่างดี ทุกอย่างก็เพียงเพื่อตอบแทนบุญคุณที่คุ้มกะลาหัวพวกมันอยู่ หากไม่ได้เจ้านายที่ใจดีเยื่องนายเรือนนี้ เห็นทีคงได้ตายอดตายยากอยู่ที่ใดก็หาได้รู้

“ต้มยาบำรุงให้คุณแก้วอยู่รึบัว”

“จ้ะ อีกประเดี๋ยวคุณแก้วก็คงตื่นแล้ว กลัวจะไม่ทันท่าน”

แม่บัวพูดตอบระหว่างที่สายตายังคงจ้องหม้อปรุงยาบนเตาฟืน เป็นตลอดเกือบเดือนที่เธอได้รับหน้าที่ปรุงยาบำรุงครรภ์ให้คุณแก้ว หล่อนมีข่าวดีเมื่อเดือนก่อนว่ากำลังมีบุตรคนแรกให้ท่านขุน และทั้งเรือนต่างดีใจกันยกใหญ่กับข่าวดีที่สุดในรอบหลายปี

แม่แก้วมีศักดิ์เป็นเมียเล็กของขุนเอกก็จริง หากแต่เมื่อใดที่ทารกในครรภ์คลอดออกมา คงจักได้เลื่อนยศฐาเป็นเมียกลางเมือง[1] ของท่านในไม่ช้า แม้จะมีเมียอีกหลายคนที่ตั้งหน้ารออุ้มท้องลูกของท่าน แต่ก็เป็นไปตามกฎที่เจ้าของเรือนได้ให้ไว้เมื่อครั้งอดีต หากเมียใดมีลูกคนแรกให้ท่านได้ก่อน ก็จักถูกแต่งตั้งเป็นใหญ่ในเรือนหลังคลอดทันที

“เสียดายนัก สองปีให้หลังท่านขุนหลงเอ็งอย่างกะอะไร ถ้าเอ็งมีลูกให้ท่านได้ก่อนคุณแก้ว คงจะดีไม่น้อยเลยนะ”

“ข้าไม่หวังเป็นใหญ่ในเรือนของท่านหรอกจ้ะ เพียงแค่สิ่งที่ท่านให้ข้าทุกวันนี้ ก็เป็นบุญหัวมากแล้ว”

บัวไม่ได้ปด เธอพูดออกมาตามสิ่งที่รู้สึก จากทาสไร้ค่าที่ไม่รู้จะถูกนายขายให้ซ่องวันใด กลับได้กินอยู่สบายเหนือบ่าวทาสคนอื่น ๆ ในเรือนด้วยตำแหน่งเมียทาสที่ได้รับจากท่าน นั่นก็ดูมากเกินพอสำหรับชีวิตบัวแล้ว

“ถ้าเหล่าเมียทาสของท่านขุนคิดเยื่องเอ็ง เรือนคงจะสงบสุขมากกว่านี้นะ เอาเถอะข้าจะไปดูคุณหญิงแสเสียหน่อย ป่านนี้ท่านคงตื่นแล้วกระมัง”

“จ้ะป้าศรี” ป้าศรีเป็นบ่าวที่ดูแลคุณหญิงแส ตั้งแต่บัวเกิดก็เห็นจะเป็นอย่างนั้นมาตั้งแต่แรก คุณหญิงท่านเป็นแม่ของขุนเอกอีกทอด คนที่ใหญ่สุดในเรือนก็เห็นจะมีท่านอีกคน

ถามหาสามีคุณหญิงแส ก็ตอบได้เลยว่าท่านจากโลกไปนานเสียจนจำปีไม่ได้ ด้วยพ่อขุนเอกนั้นเป็นถึงขุนน้ำขุนนางยศใหญ่ ได้รับพระราชดำรัสให้ตามเสด็จในวังไปประพาสป่าเพียงคราเดียว หลังจากกลับมาไม่นานท่านก็ป่วยเป็นไข้ป่ารุนแรง ก่อนจะเสียชีวิตลงท่ามกลางความโศกเศร้าของทุกคนในเรือน

หลังจากที่บัวปรุงยาเสร็จ เธอก็ตะเตรียมข้าวของเพื่อขึ้นไปดูแลคุณแก้วต่อทันที แม้จะได้อยู่ในตำแหน่งเมียทาสของท่านขุน หากแต่ก็ยังไม่ได้มีวาสนาได้นอนบนเรือนเหมือนเมียเล็ก ที่เปรียบได้ว่าเป็นเจ้านายอีกคน เพราะเหตุนี้ทำให้บัวต้องเทียวไปเทียวมาระหว่างหอนอนเมียทาส และเรือนใหญ่อยู่ตลอดเวลา

ก๊อก ก๊อก ก๊อก

“คุณแก้ว ตื่นหรือยังเจ้าคะ?”

“แม่บัวรึ?” เพราะบัวเป็นเมียอีกคนของท่านขุนสามีของแม่แก้ว ทำให้การเรียกขานเลยเป็นเช่นนี้ แม้แต่เมียทาสคนอื่น ๆ ก็ด้วย

“เจ้าค่ะ อิฉันปรุงยามาให้เจ้าค่ะ”

“เข้ามาสิ” มือเล็กดันประตูไม้เข้าไปด้านในอย่างเบาแรง ประตูบานนี้ไม่ได้ขัดดาล[2] ไว้ แสดงว่าคุณแก้วคงจะตื่นได้สักพักแล้ว หล่อนไม่มีบ่าวที่ตามมารับใช้จากตระกูลที่ส่งมา หนำซ้ำพอย้ายมาอยู่ในเรือนแล้วก็ยังไม่มีบ่าวรู้ใจเป็นของตนอีก

เจ้าของหอนอนนั่งอยู่กลางเตียงรอให้คนมาเยือนได้เดินเข้าหา พูดตามตรงว่าตั้งแต่ประกาศกร้าวว่าตั้งครรภ์ให้สามีได้ เธอก็ไม่กล้าแม้จะขยับไปไหนมาไหนแรง ๆ เนื่องด้วยกลัวว่าลูกจะหลุดออกไปเสียก่อน

“ยาบำรุงเจ้าค่ะ แล้วอิฉันจะไปเตรียมเครื่องนุ่งไว้ให้คุณแก้วได้ผลัดผ้านะเจ้าคะ” วันนี้เป็นวันพระใหญ่ เห็นว่าเป็นวันพระที่ดีที่สุดหลารอบปี เจ้านายทั้งเรือนเลยจะพากันไปวัดทำบุญ และหนึ่งในทาสที่จะติดสอยห้อยตามไปด้วยก็คงไม่พ้นบัว ที่จะต้องตามไปดูแลคุณแก้วอีกที

“แม่บัวไม่ต้องดูแลฉันก็ได้ แม่ไม่ใช่บ่าวที่จะต้องมาดูแลฉันเสียหน่อย”

“ท่านขุนไว้ใจบัวให้ดูแลคุณแก้ว นับว่าเป็นบุญของบัวมากกว่าเจ้าค่ะ อีกอย่างคุณแก้วกำลังท้องกำลังไส้ มีคนดูแลน่าจะดีกว่า”

“ขอบใจแม่มากนะ หากเป็นเมียของท่านขุนคนอื่น ๆ ฉันก็ไม่ไว้ใจเหมือนกัน หากแต่เป็นแม่ ฉันก็วางใจไปมาก”

ตกเย็นของวันเดียวกัน ถึงเวลาจะผ่านไปจวนตะวันจะลับขอบฟ้า หากแต่บ่าวทาสทุกคนก็ยังทำงานกันไม่หยุดหย่อน บ่าวผู้ชายก็จะหนักไปด้านงานใช้กำลังเป็นหลัก แบกหามน้ำจากท่ามาใส่ในตุ่มบ้าง แบกฟืนเฟืองสำหรับใช้ทำครัวก็มี ส่วนบ่าวผู้หญิงเวลานี้ ทุกคนต่างรวมตัวกันอยู่ในครัวไฟเสียส่วนใหญ่ ด้วยหน้าที่เดียวคือการเตรียมสำรับให้นาย อีกไม่นานท่านขุนเอกคงจะเดินทางกลับจากว่าราชการแล้ว ครั้นบุตรชายเพียงคนเดียวกลับเรือน คุณหญิงแสคงไม่วายสั่งตั้งสำรับโดยพลัน

อีกส่วนสำคัญของบ้านที่จะไม่กล่าวถึงไม่ได้ คือเหล่าเจ้านายที่อยู่บนเรือนกงนู้น ป่านนี้พวกท่านคงจะนั่งพับดอกบัว ร้อยมาลัยสำหรับไหว้พระวันพรุ่ง ให้เห็นชัดว่าวิถีของคนสองชนชั้นนั่นต่างกันอย่างสิ้นเชิงไม่ผิด

“ฝีมือร้อยมาลัยเอ็งงามขึ้นนะบัว อีกไม่นานคงจะงามเกินกว่าฝีมือข้ากระมัง”

“ฝีมือของบ่าวยังอ่อนหัดนัก ดูทีคงจะไม่มีวันเทียบเทียมฝีมือของคุณหญิงได้เจ้าค่ะ” ทั้งเรือนมีนายอยู่สองคน คือคุณหญิงแส และคุณแก้ว พร้อมกับเมียบ่าวของท่านขุนอีกสี่คนเห็นจะได้ เรื่องงานฝีมือสำหรับบัวนับว่าเป็นเรื่องที่ยากถนัด เธอไม่ได้สนใจของพรรค์นี้ด้วยซ้ำไป หากแต่พอได้เลื่อนเป็นเมียทาสของท่านขุน เลยจำต้องให้เปลี่ยนความคิด และคนที่ฝึกฝนให้ก็คือคุณหญิงแสนั้นแล

“อย่าถ่อมตัวนักเลย แม่บัวฝึกไม่นานยังงามเพียงนี้ ดูอย่างฉันสิ ฝึกเท่าใดก็ยังไม่งามเท่า” แม่แก้วพูดพร้อมกับก้มมองมาลัยร้อยในมือของตนที่ยังไม่เสร็จดี เห็นเช่นนี้พอเสร็จแล้วก็คงจักไม่งามอีกตามเคย

“แต่คุณแก้วก็ปักผ้างามนักเจ้าค่ะ” ทุกบทสนทนาคล้ายว่ามีเพียงสามคนอยู่บนเรือนนี้ไม่ผิด เห็นเมียบ่าวคนอื่น ๆ เป็นตอเห็ดหรืออย่างไรกัน!? แต่ก็หาได้สนใจ เพราะสิ่งที่พวกหล่อนต้องการหาใช่ความสนใจจากแม่ผัว ที่ทำ ๆ กันอยู่ก็เพื่อเอาใจแต่ท่านขุนผู้เดียว หากท่านกลับมาเห็นหน้าค่าตาเหล่าเมีย ๆ โชคหล่นทับก็อาจจะถูกเรียกให้ไปรับใช้บนเตียงบ้างเท่านั้นเอง

“ท่านขุน ท่านขุนกลับมาแล้วเจ้าคะคุณหญิง”

เมียบ่าวหนึ่งในนั้นพูดขึ้นเสียงดัง ก่อนทุกคนบนเรือนจะหันไปให้ความสนใจต่อคนที่กำลังเดินขึ้นเรือนมา จากใบหน้าบูดเบี้ยวเบื่อหน่ายเมื่อครู่เปลี่ยนเป็นยิ้มแย้มเร็วเสียน่าตกใจ

“กลับมาแล้วหรือพ่อเอก”

“ลูกไหว้ขอรับ” ทุกคู่สายตามองไปจุดเดียวกันดั่งต้องมนต์ เป็นโชคดีของบัวนัก ที่วันนี้ได้นั่งอยู่ใกล้ท่านมากกว่าคนผู้อื่น บัวค่อย ๆ เงยหน้ามองคนด้านบนก็พาให้ใจหวิว ขุนเอกนั้นรูปงามจนยากอธิบาย ไม่แปลกที่หญิงทั่วเมืองจะหลงรูปลักษณ์ของท่าน ขนาดคนเป็นเมีย ยังรักยังหลงท่านอยู่ร่ำไป

“กลับมาเหนื่อย ๆ นั่งพักเถิด ประเดี๋ยวแม่จะสั่งให้บ่าวตั้งสำรับให้”

“เวลานี้ลูกขอเอนหลังพักที่หอนอนก่อนดีกว่า ขอตัวนะขอรับ”

“คุณพี่เจ้าคะ”

ไม่ทันที่ขุนเอกจะเดินเข้าหอนอนของตนก็ถูกแม่แก้วทัดทานเอาไว้เสียก่อน กลับมาเรือนทั้งทีแต่กลับไม่มีถ้อยคำถามไถ่ถึง แน่นอนว่าไม่มีผู้ใดมองว่าเป็นความผิดของท่าน หากแต่คุณแก้วเองจะเป็นคนที่เสนอให้แก่ผัว

“มีอันใดหรือแม่แก้ว”

“น้องขอเข้าไปปรนนิบัติคุณพี่ได้หรือไม่เจ้าคะ หากได้นวดเสียหน่อยคงจะผ่อนคลายไม่น้อย” เมียคนอื่นที่ก็ต้องการปรนนิบัติท่านต่างพากันมองตาเป็นมัน คุณแก้วนี่ก็ใช่จะใสซื่อ เป็นถึงลูกขุนนางชั้นสูงแต่กลับไม่ละอายใจที่จะเอ่ยปากเสนอตัว เห็นทีจะมีเพียงแค่บัวที่ยังเอาแต่ก้มหน้าก้มตาอยู่ผู้เดียว

“แม่แก้วกำลังตั้งท้องลูกของพี่อยู่ อย่าได้ออกแรงมากเลย เป็นเอ็งแล้วกันบัว เข้าไปปรนนิบัติข้าที”

แน่นอนว่าคุณแก้วเสียหน้า หากแต่ก็แสดงออกอะไรได้ไม่มาก นอกจากรับคำของสามี บัวหันไปมองหน้าเธออยู่หลายที กลัวว่าอีกฝ่ายจะเข้าใจตนผิด หากแต่พอเห็นคุณแก้วผงกหัวให้ก็สบายใจขึ้นมาได้หน่อย

แล้วแม่แก้วทำใจได้จริงงั้นหรือ ยามที่ต้องเห็นเมียคนอื่นได้เดินตามผัวเข้าหอนอนไป ทั้งที่ตนเองก็อยากเป็นคนผู้นั้นเสียจนตัวสั่น

“ท่านขุนอยากผลัดผ้าก่อนหรือไม่เจ้าคะ”

“เปลื้องผ้าของเอ็งออกเสีย”

“......”

“ข้าไม่ได้หมายให้เอ็งเข้ามานวดให้ข้าหรอกหนา”

[1] เมียหลวง

[2] ลงกลอนประตู

Continue to read this book for free
Scan code to download App

Latest chapter

  • ย้อนเวลามาเป็นเมียทาส   พิมพ์ครั้งที่ ๑๕

    ตกค่ำของวันเดียวกัน แม่แก้วถูกคุณพระเกี่ยวพากลับเมืองนนฯ ภายในวันนั้นเลยทันที แม้แต่ผ้าผ่อนของเธอก็ยังไม่มีเวลาเก็บกลับไปด้วย คุณหญิงแสยังไม่อยากจะเชื่อว่าแม่แก้วหล่อนจะมีจิตใจต่ำเพียงนี้ แต่อีกใจก็นึกสงสาร เพราะคุณหญิงรู้อยู่แก่ใจว่าการหลงผัวจนหน้ามืดมันเป็นเยื่องใด“ลูกรู้เรื่องนี้นานแล้ว เหตุใดจึงไม่เล่าสู่แม่ฟัง?”“ขออภัยขอรับคุณแม่ ลูกเพียงกลัวว่าคุณแม่จะเป็นกังวลขอรับ”“แล้วที่ทำถึงเพียงนี้ก็เพราะนังบัวงั้นหรือ?”“.....” พอถูกตั้งคำถามนี้ขุนเอกกลับไม่แม้แต่จะพูดตอบผู้เป็นแม่ เพราะจะมีหน้าอันใดไปพูดยืนยัน ในเมื่อคนที่ออกปากสั่งโบยบัวก็คือตัวเขาเอง ความเจ็บปวดที่แม่บัวได้รับไปก่อนหน้านี้คงยากคลายหาย“พ่อเอกรู้อยู่แก่ใจว่ามันเป็นเพียงเมียทาส เก็บไว้ได้เพียงในเรือน หากแต่หาได้เอาไปอวดผู้ใดได้หนาลูก”“.....” คล้ายว่าขุนเอกจะเป็นใบ้เบี้ยเสียลิ้นไปเสียแล้ว คุณหญิงรู้ใจลูกชายเป็นไหน ๆ ลูกรักผู้ใดทำไมคนเป็นแม่จะไม่รู้ได้ แต่ก็อย่างที่เธอบอก นายเรือนไหนเล่าจะยกเมียทาสขึ้นบนเรือน ไม่มีผู้ใดทำหรอกหนาอีกฝั่งของเรือนเมียทาส เรื่องของคุณแก้วถูกพูดต่อกันเป็นวงกว้างในบ่าวทาส ไม่คิดว่าหล่อนจะคิด

  • ย้อนเวลามาเป็นเมียทาส   พิมพ์ครั้งที่ ๑๔

    ผ่านเวลาล่วงมาถึงวันนัดระหว่างคุณแก้ว และหมอตำแยผู้นั้น ก่อนรุ่งสางของวันเดียวกัน คุณแก้วส่งคนที่เธอใช้เงินปิดปากไปบอกข่าวต่อหมอตำแย ว่าวันนี้ให้เดินทางมาที่เรือนขุนเอกตามที่ได้บอกไว้ พร้อมกับพูดความเท็จเพื่อใส่ร้ายเมียทาสที่เป็นหนามเสี้ยนตำใจหล่อนตลอดหลายปีที่ผ่านมา“แม่แก้วกำลังรอผู้ใดอยู่งั้นรือ?”“หาไม่เจ้าค่ะคุณแม่” ถูกคุณหญิงแสทักขึ้น เมื่อเอาแต่เดินวนอยู่หน้าหัวกระไดตลอดหลายนาทีติด นี่ก็ใกล้ได้เวลาที่นัดไว้แล้ว ดูทีเธอจะตื่นเต้นไป หากไม่ระงับใจเสียหน่อยคงถูกจับได้เป็นแน่แม่หญิงเดินกลับเข้าไปหาคุณหญิงแสที่นั่งอยู่กลางเรือน วันนี้ท่านขุนไม่ได้เดินทางไปทำงานที่อื่น นี่เลยเป็นโอกาสที่ดีที่เธอจะใช้เขี่ยอีบัวให้พ้นทางเสียที ท่านขุนก็กระไรแม้จะรู้ว่ามันทำให้ลูกของท่านตาย แต่ตลอดสัปดาห์ที่ผ่านมากับเข้าหามันอยู่ตลอด ส่วนคนที่พร้อมเสนอตัวให้กลับไม่เคยสนใจ‘ทาสเยื่องมันมีดีกระไรนัก!?’“แม่แก้วเหตุใดจึงออกแรงหนักเพียงนั้นเล่า เห็นหรือไม่ว่าดอกไม้เฉาหมดแล้ว”!!!“ขออภัยเจ้าค่ะ”เป็นอีกครั้งที่โดนคุณหญิงแสเอ็ด ถึงจะพยายามทำตัวให้ดีมากเพียงใด แต่ก็คงจะไม่เป็นที่พึงใจเท่าอีเมียทาสผู้นั้นกระมั

  • ย้อนเวลามาเป็นเมียทาส   พิมพ์ครั้งที่ ๑๓

    เวลาล่วงเลยผ่านไปเกินกว่าสองวัน คุณแก้วยังคงวุ่นใจไม่หายกับท่าทีของผัวที่นับวันก็ยิ่งหมางเมินเธอขึ้นเรื่อย ๆ อดคิดไม่ได้ว่าพอไม่มีเรื่องลูกแล้ว เขาคงจะปฏิบัติต่อเธอไม่ต่างจากเมียทาสคนอื่น ๆ เฉกเช่นทุกครั้งที่ผ่านมาวันนี้เห็นว่าดอกไม้หอมเริ่มผลิบานส่งกลิ่น เธอจึงหวังมาเก็บมันไปเพาะผ้าตามที่เคยได้ลั่นวาจาไว้เสียหน่อย แม้ว่าคราวนั้นเจ้าของผ้าแพรที่หมายเพาะให้จะไม่สนใจในถ้อยคำของหล่อนเลยก็ตามที“วันนี้เก็บดอกประยงค์ก่อนแล้วกัน คุณพี่ท่านชื่นชอบเป็นพิเศษ”“เจ้าค่ะคุณแก้ว”บ่าวสาวที่ติดตามหล่อนมาสักระยะพูดตอบรับคำสั่งผู้เป็นนายใหม่ ก่อนเร่งลงแรงเก็บดอกไม้หอมด้วยกันด้วยความบรรจง คล้ายเกรงว่าหากจับแรงมากเกินไปจะทำเอาดอกไม้ในมือนั้นเฉาได้“เก็บให้ดีล่ะ ข้าจะเอาไปเพาะผ้าแพรให้คุณพี่ หากดอกไม้ช้ำเพียงนิดเอ็งจะต้องโดนหวายทวนหลังจนกว่าข้าจะพึงใจ”“จะ เจ้าค่ะ”ความรัก ความซื่อสัตย์ของหล่อนที่มีต่อขุนเอกนั้นท่วมล้น ในวันที่ผู้เป็นพ่อเอ่ยปากบอกว่าคุณหญิงแสมาสู่ขอแม่แก้วให้ขุนเอกผู้เป็นลูกชาย วันนั้นจึงเป็นครั้งแรกที่หัวใจของเธอแรกแย้มเต้นระส่ำแตกเนื้อสาวแม้จะรู้ว่ายังเป็นได้เพียงเมียเล็ก ๆ แต่วันใด

  • ย้อนเวลามาเป็นเมียทาส   พิมพ์ครั้งที่ ๑๒

    เป็นไปตามที่คิดไม่ผิด คนที่อยู่เบื้องหลังทุกอย่างก็คือคุณแก้ว หลังจากที่ลงทุนเอาเงินซื้อความลับไปเกือบหมดหมอยาคนนั้นก็ยอมเปิดปากพูดความจริง คงจะคิดเพียงว่าอย่างไรเสียบัวก็เป็นเพียงบ่าวทาสจะทำกระไรต่อได้ แน่นอนว่าอีบัวผู้นี้แหละจะเปิดโปรงความจริงทั้งหมดเอง!“โชคดีที่วันนี้คุณหญิงเลือกรับกับข้าวที่ทำง่าย ๆ ไม่อย่างนั้นนะเอ็ง!”“ฉันขอโทษจ้ะ ครั้งหน้าจะไม่ให้เกิดเรื่องแบบนี้ขึ้นอีก”เพราะเอาเวลาไปหาความจริงเสียเยอะ กลับบ้านมาอีกทีแม่จำปาที่รอท่าของจากตลาดก็ทำหน้าบอกบุญไม่รับไปแล้ว ระหว่างช่วยกันลงครัวให้นายอยู่ก็ยังไม่วายโดนบ่นต่อจวนหูชาไปข้าง“ข้าปวดกระบาลกับเอ็งเสียจริง ไป...ไปให้พ้นหน้าข้า”“ใช้แรงงานเสร็จแล้วก็ไล่กันเลยรึจ๊ะ”“เอ๊ะ! นังนี่” บัวรีบวิ่งหนีออกมาก่อนที่จะโดนสากปาใส่หัวเข้าจริง ๆ กว่าจะเสร็จจากครัว ยามนี้ดวงตะวันก็เริ่มเลือนลับเต็มที จะว่าไปวาดจันทร์ก็แอบติดใจกับความเชื่องช้าของยุคสมัยแล้วเหมือนกัน ไม่รีบร้อนที่จะออกไปทำงานแต่เช้า ค่ำมาก็ต้องร้อนรนกลับบ้านเพื่อพักผ่อน ชีวิตในยุคนั้นต่างอะไรจากคำว่าวนลูปกันเรียวขาสวยก้าวเดินพาตัวเองไปอย่างไร้จุดหมาย กลิ่นหอมอ่อนของดอกไม้ยา

  • ย้อนเวลามาเป็นเมียทาส   พิมพ์ครั้งที่ ๑๑

    หลังจากคืนนั้นบัวก็พยายามเลี่ยงหน้าขุนเอกอยู่ตลอด แต่ก็ไม่รู้เหมือนกันว่าจะทำอย่างนี้ได้อีกนานแค่ไหน บ้านก็ยังอาศัยเขาอยู่ ข้าวปลาอาหารก็ไม่มีอะไรเป็นของตนเลยสักอย่าง เห็นทีอีกไม่นานก็คงปะหน้ากันจัง ๆ บ้างแหละ“นี่พี่สาว ลดให้ฉันหน่อยไม่ได้หรือจ๊ะ”“ลดกระไรของเอ็งอี๊กนังบัว! เอ็งต่อราคาข้าคล้ายจะเอาของข้าฟรีอยู่แล้วนะโว๊ย!”วาดจันทร์นับว่าเป็นคนที่ปรับตัวได้เร็ว และเพราะมาจ่ายตลาดบ่อย ทำให้เธอได้วิชาการต่อรองราคาจากแม่จำปามาเต็ม ๆ นอกจากเราจะเป็นทาสของนายแล้ว เรายังต้องช่วยนายประหยัดเงินทองให้ได้มากที่สุดอีกด้วย“โธ่พี่สาวคนสวย ฉันมาซื้อของพี่บ่อยขนาดนี้ไม่เห็นใจกันเลยรึ?”“วะ!!! พี่สาวคนสวยกระนั้นหรือ”เอาแล้วอีบัว! สงสัยจะกวนใจแม่ค้ามากเกินไป คงจะไม่โดนผักฟาดหน้ากลับมาหรอกใช่ไหม คิดแล้วก็แอบหวั่นเอาเรื่องเหมือนกันแฮะ ทว่าสิ่งที่บัวคิดมักไม่เป็นอย่างนั้นเสมอไป“งั้นก็จ่ายข้ามาเท่าที่เอ็งอยากจ่ายก็แล้วกัน ผักสองกำจะไปพอกระไร เอาไปสักสามกำสิแม่บัว” บัวยิ้มจางออกมากราย ๆ คนไทยนี่ชอบบ้ายอกันมาตั้งแต่สมัยนี้เลยเหรอเนี่ย เหลือจะเชื่อเสียจริง...หลังจากที่ได้ต่อรองการค้ากันแล้ว ผักจำนวนสามกำ

  • ย้อนเวลามาเป็นเมียทาส   พิมพ์ครั้งที่ ๑๐

    “เอ็งขัดคำท่านได้กระไรนังบัว เหตุใดท่านขุนเรียกหาจึงไม่ไป!?”“วันพรุ่งต้องตื่นเช้า บัวกลัวจะตื่นสายน่ะจ้ะแม่”“นั่นหาใช่เรื่องที่เอ็งควรเกรง หากท่านขุนโกรธขึ้นมาสั่งโบยเอ็งอีกเล่า นี่ไม่ใช่คืนแรกที่ท่านเรียกหานะ กี่ค่ำกี่คืนเอ็งก็ไม่ยอมไปปะหน้าท่าน”บัวโดนบ่นเสียยาวเหยียด ทั้งยังถูกตั้งคำถามในตัวลูกสาวเพียงคนเดียวที่มี เป็นที่รู้กันดีว่าหากอันใดเป็นคำสั่งของนาย คนเป็นบ่าวเป็นทาสจะต้องเร่งทำตามด้วยความจงรักภักดี และยิ่งบัวที่ยังอยู่ในฐานะเมียทาสของท่านอยู่ ก็ยิ่งไม่ควรขัดคำ“แม่ไม่เป็นห่วงบัวหรือจ๊ะ ใครเขาจะเรียกผู้อื่นไปหายามนี้กัน”“เอ็งเป็นเมียของท่านขุน คนเป็นเมียก็ต้องดูแลปรนนิบัติผัวสิวะ”แม่จำปารู้ถึงเจตนาของท่านขุนที่เรียกหาลูกสาวของเธอ แต่มันก็ไม่ใช่เรื่องแปลกเสียหน่อย หนำซ้ำไม่มีเมียทาสคนไหนกระทำเหมือนลูกตัวดีด้วย หากเป็นผู้อื่นคงจะเร่งไปเสนอตัวให้ถึงหอนอน“แม่จ๊ะ ฉันไม่อยากเป็นเมียของท่านขุนแล้ว ฉันจะต้องทำยังไงบ้างจ๊ะ”“เอ็งยังไม่หายบ้าอีกหรือ?! ไม่มีผู้ใดฝืนได้หรอกนะ คนที่จะตัดสินใจคือท่านขุนโน้น หาใช่เอ็งเสียหน่อย เฮ้อ...แปลกคนเสียจริง ไม่มีผู้ใดไม่อยากเป็นเมียของท่านหรอก

More Chapters
Explore and read good novels for free
Free access to a vast number of good novels on GoodNovel app. Download the books you like and read anywhere & anytime.
Read books for free on the app
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status